Bad Boy & Girl ... ภารรักภารกิจร้าย
7.1
29) ชมรมการป้องกันตัวและการต่อสู้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันกับน้องจีจี้ก็ได้ทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการตามประสาสาวๆ น้องจีจี้เป็นคนที่เรียบร้อยดูเป็นคุณนู๊คุณหนู เวลาพูดจาก็จะมีคะมีขาเสมอ ไม่ว่าเวลาจะพูดกับเพื่อนหรือรุ่นพี่และก็มีรอยยิ้มที่น่ารักทีเดียวเพราะเวลายิ้มทีไรลักยิ้มพิมใจก็โผล่ออกมาให้ชื่นชมทุกที่
"แล้วน้องจีจี้นึกยังไงมาเข้าชมรมนี้ล่ะ พี่ว่ามันไม่เหมาะกับน้องเลยนะ" ฉันถามขึ้นขณะที่กำลังเปลี่ยนชุดเพื่อออกไปฝึกซ้อมในวันแรก
"พี่ตาลเชื่อในความรักมั้ยคะ" แทนที่จะตอบน้องจีจี้กลับถามกลับด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยประกายบางอย่างพร้อมหน้าแดงๆ
"ฮื้อ? ไม่รู้สิ...แต่อย่าบอกนะว่านั้นคือสาเหตุ" และสิ่งที่ได้เป็นคำตอบก็คือใบหน้าแดงๆ พร้อมกับอาการเอียงอายอย่างไม่ปกปิดของน้องจีจี้
"เอ...ว่าแต่ใครกันนะคือคนที่โชคดีคนนั้น"
"พี่ตาลก็โชคดงโชคดีอะไรล่ะคะ"
จากนั้นอาการสุดยอดอายก็บังเกิดขึ้น โดยมีฉันส่งยิ้มล้อเลียนอยู่ไม่ห่าง และที่สำคัญดูเหมือนคนที่น้องจีจี้ชอบจะเป็นนายไม้ ใช่! ไอ้หุ่นยนต์ขี้เก๊กนั่นเอง!
หลังจากนั้นฉันกับน้องจีจี้รวมถึงสมาชิกใหม่ของชมรมอีกสี่ห้าคนก็ออกจากห้องเปลี่ยนชุดเดินไปจุดรับน้องใหม่ พอไปถึงจึงสังเกตเห็นว่ามีชายหญิงห้าหกคนยืนรออยู่ก่อนแล้ว
"สวัสดีสมาชิกใหม่ทุกคน" เสียงใสของหญิงสาวหนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น
"ที่นี่ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ใครลงอะไรไว้ก็ให้ไปฝึกซ้อมอันนั้นอย่างเป็นประจำ แต่สำหรับคนที่ลงทุกประเภท" ถึงตรงก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นเล็กน้อยตามจำนวนคน "เอ่อ...ใครกันจ้ะที่ชื่อลูกตาล"
ฉันลอบมองซ้ายขวาก่อนจะยกมือขึ้น ก็ได้เห็นสีหน้าแปลกใจของคนทั้งหก คงจะคิดว่าฉันคงเพี้ยนล่ะมั้ง
"มีอะไรหรือเปล่า?"
"เธอแน่ใจนะว่าจะลงทุกประเภท"
"ฉันเขียนหมายเหตุแล้วนี่ว่าขอซ้อมเทควันโดเป็นหลัก" ฉันสวนกลับอย่างงงๆ
"อ่อ..." ผู้หญิงคนนั้นร้องขึ้นเมื่อสังเกตใบสมัครของฉันอีกรอบ ก่อนปล่อยผ่าน
"ถ้างั้นก็คงไม่มีอะไรแล้วแหละ ส่วนเรื่องอื่นๆ เดี๋ยวจะให้พี่ผู้ชายคนนั้นอธิบายต่อแล้วกันนะ"
เธอคนนั้นพูดพร้อมชี้ไปให้ร่างสูงที่ยืนด้านหลัง พวกเด็กใหม่อย่างฉันจึงต้องย้ายก้นหันไปทางคนที่จะพูดต่อ ยุ่งยากจริงๆ เลยวุ้ย!
"น้องๆ (ใครน้องแก) คงจะรู้แล้วว่าทางชมรมของเรามีหัวหน้าชมรมสองคน แต่ตอนนี้เหลือแค่หัวหน้าชมรมฝ่ายชายเท่านั้น..."
พอถึงตรงนี้ก็เว้นระยะให้คนฟังตามได้ทัน
"แต่ใช่ว่าผู้ชายอย่างเราจะเอาเปรียบสุภาพสตรี" คนพูดหลิ่วตาไปทางสาวๆ อีกด้านที่เริ่มไหวตัวอย่างไม่พอใจ "อ่า ...เราจึงได้ตั้งหัวหน้าฝ่ายหญิงขึ้นมาชั่วคราวเพื่อรอหัวหน้าตัวจริงที่คงจะมีในเร็วๆนี้"
ฉันแอบหันไปมองพวกผู้หญิงทางด้านหลังที่มองคนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ก็นึกสงสัยว่าทำไมไม่ตั้งหัวหน้าฝ่ายหญิงให้มันเสร็จๆ ไปเลย จะมีรักษาการณ์ชั่วคราวไว้ทำไมก็ไม่รู้ ยุ่งยากจริงๆ...
"พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำอะไรให้มันวุ่นวายด้วยนะ" พอได้โอกาสฉันก็หันไปบ่นให้น้องจีจี้ฟัง ในระหว่างมองคนเก่าแก่ในชมรมฝึกซ้อมกัน เพราะเด็กใหม่จะเริ่มซ้อมได้ก็อาทิตย์หน้า
"ยุ่งยาก? พี่ตาลหมายถึงการตั้งหัวหน้าฝ่ายหญิงหรือค่ะ"
"ก็ใช่น่ะสิ"
"นี่พี่ตาลอย่าบอกนะคะว่าไม่รู้อะไรเลย" ถ้ารู้พี่ไม่ถามหรอกจ้ะ น้องจ๋า~
"แล้วอะไรล่ะที่ไม่รู้เลยน่ะ" ฉันถามอย่างสงสัย
"ก็เรื่องหัวหน้าชมรมไงคะ?" จีจี้ตอบแทบจะทันที เออ...แล้วฉันจะไปตรัสรู้ได้ไงล่ะเนี่ย!
"ไม่จ๊ะ! น้องจีจี้ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิพอดีพี่เพิ่งเข้ามาเรียนปีนี้น่ะ"
"อ๋อค่ะ งั้นเริ่มจากชมรมก่อนนะคะ" จีจี้ถามกลับเพราะเริ่มรู้หน้าที่ตัวเอง "พี่ตาลเห็นรูปทางประตูมั้ยคะ" ฉันมองตามนิ้วที่ชี้ไปทางประตู คงหมายถึงรูปมังกรกับหงส์มั้ง?
"เห็นสิ ทำไมหรอ"
"แล้วพี่ตาลรู้หรือยังคะว่าโรงเรียนเรามีแก๊งอยู่สองแก๊ง" พอถึงตอนนี้ฉันก็เริ่มรู้สึกตะหงิดๆยังไงชอบกล แต่ก็ยังไม่กล้าคิดได้แต่พยักหน้าตอบกลับ "ถ้างั้นพี่ตาลก็รู้น่ะสิคะว่าพี่ไม้คือใคร"
"ก็ประธานเทวะไง แล้วก็เป็นที่..."
"พี่ตาลก็หยุดเลยค่ะ /// ต่อนะคะ แล้วเขาก็เป็นหัวหน้าชมรมนี้ด้วยค่ะ"
...!? เพียงแค่นี้แหละก็ทำให้ฉันอยากล้มตึงเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด โอ้! สวรรค์~ ทำไมถึงได้กลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ ทุกวันก็ต้องเจอหน้ากัน แล้วนี้อุตส่าห์เข้าชมรมก็ยังต้องเจออีกหรือนี่~ T^T
ชมรมการป้องกันตัวและการต่อสู้ เป็นชมรมที่ร่วมมือกันเป็นงานแรกและดูจะเป็นงานสุดท้ายที่ของทั้งสองแก๊งแบดบอยและแบดเกิล์ลที่จะทำร่วมกัน ทางชมรมจึงต้องมีหัวหน้าสองคนเวลาจะอนุมัติอะไรก็ต้องมีลายเซ็นของสองหัวหน้าทุกครั้งถ้ามีลายเดียวถือว่าไม่ผ่าน เพราะทางชมรมมีกิจกรรมส่งสมาชิกในสังกัดออกแข่งขันตามวาระโอกาสด้วย...
................................................................
ในห้องห้องหนึ่งที่ถูกจัดแต่งออกโทนสีแดงและดำ กลางห้องมีโต๊ะตัวใหญ่ตั้งอยู่ บนโต๊ะมีกองเอกสารมากมายถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ประตูไม้ที่มีรูปนางพญาหงส์สลักอยู่ถูกเปิดออกก่อนที่ร่างบางในชุดนักเรียนแห่ง ‘เซนต์ดอร์เบิร์ก’ จะก้าวเข้ามาหยุดลงตรงด้านหน้าโต๊ะใหญ่
"เอ่อ...รุ่นพี่คะ" เสียงใสแต่เข้มแข็งเอ่ยขึ้น ทำให้เก้านวมที่หันไปทางด้านหลังหมุนกลับมามองคนต้นเสียง
"เป็นยังไงได้เรื่องมั้ย"
"ใช้ได้ทีเดียวค่ะ ทั้งสง่าและเก่ง" คนตอบตอบด้วยน้ำเสียงที่แสดงความชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง
"งั้นหรือ สงสัยฉันคงต้องหาเวลาไปพิสูจน์ด้วยตัวเองซักหน่อยดีกว่ามั้ง" รอยยิ้มบางของคนพูดกระตุกขึ้นอย่างนึกสนุก
"ค่ะรุ่นพี่ แต่ยังไงก็ต้องระวังด้วยนะคะเพราะเธอคนนั้นอยู่ใกล้ชิดกับพวกพยัคฆ์มากทีเดียว"
"หึ ถ้างั้นก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่" คนถูกเตือนกลับนึกเห็นเป็นเรื่องสนุกจนคนเตือนส่ายหน้าน้อยๆ แต่ก็อดที่จะยิ้มเห็นชอบด้วยไม่ได้
................................................................
"ตกลงนายชอบสีอะไรกันแน่เนี่ย ระหว่างสีดำกับสีทองเมื่อกี้ฉันถามนายก็บอกสีดำแต่พอถามอีกรอบก็บอกสีทอง ตกลงนายจะเอาสีอะไรกันแน่เนี่ยห๊ะ!"
ฉันเริ่มหงุดหงิดขึ้นตามลำดับไหล่เพราะไอ้คนตอบมันก็นั่งหน้าตายถามคำตอบคำมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ
"ก็ทั้งสองสีนั่นแหละ" ไม้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ออกจะเซ็งๆ
"เออ! ทั้งสองสีก็ทั้งสองสีสิ ชิ!"
ฉันจดปากกาลงบนสมุดเล่มเล็กในมือพลางส่ายหน้านึกรำคาญไอ้คนนั่งข้างๆ นึกในใจไม่หน้าเลือกมันเลยจริงๆ ให้ตายสิ!
พอจดเสร็จก็ลองเดินไปดูด้านนอกผ่านทางหน้าต่างเห็นพวกเพื่อนๆ กำลังคิดงานอย่างขะมักเขม้น ก็อดที่จะมองดูร่างสูงที่นั่งจดอะไรบ้างอย่างลงบนกระดาษก่อนจะยกขึ้นส่งให้แอร์พลางดันแว่นที่ตกลงมาเข้าที่ ฉันดูภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม
"เวลามองอะไรก็หัดมองให้มันกว้างๆ แล้วเธอจะรู้ว่ามันมีอะไรมากกว่าที่เธอเห็น"
เสียงนายไม้ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้ฉันที่กำลังเพ้อสะดุ้งกลับหลังหันอย่างตกใจจนไม่ทันระวังหน้าเลยชนกับแผ่นอกของนายนั่นเข้าอย่างจัง
"โอ๊ะ! ไอ้บ้าเอ้ย! ยืนไกลๆก็ได้"
ฉันดันอกอีกฝ่ายออกห่าง ก่อนจะเอามือลูบจมูกตัวเองปอยๆ
"ช่วยไม่ได้อยากเซ่อซ่าเอง" ไม้พูดพลางยักไหล่ก่อนกลับไปนั่งที่เดิม ทิ้งให้ฉันบ่นอวยชัยตามเสียยกใหญ่
พอฉันเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ก็หันกลับไปมองทางด้านล่างต่อ แต่คำพูดของนายนั่นก็ตามมาหลอกหลอน ชิ! มองให้กว้างแล้วไอ้ที่ว่ากว้างมันกว้างเท่าไหร่ล่ะยะ! เซนต์สองเซนต์หรือเป็นเมตร เหอะ! ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะมองตามมือกวีนที่ส่งกระดาษให้แอร์อีกรอบ แต่ที่ดูจะผิดสังเกตเพราะสายตาของกวีนไม่ได้มองแอร์แต่มอง...!?
"ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมนายไม่ส่งให้ฟางเองเนี่ย" แอร์บ่นกระปอดกระแปดพลางส่งกระดาษให้ฟางที่ก้มหน้าก้มตารับ
"พอๆกันเลยสองคนนี้ เฮ้อ~" หวายบ่นเสริมขึ้นอีกคน พลางมองดูร่างสูงที่เอาแต่มองเพื่อนเธอมาพักใหญ่แล้ว ไหนจะเพื่อนเธออีกรู้ว่าเขามองก็ไม่ว่ากลับนั่งเขินซะงั้น
"อะไรเล่าหวาย! >///<"
ฟางตีแขนหวายเบาๆ แก้เขินก่อนจะส่งค้อนให้ร่างสูงที่เอาแต่มองเธออยู่ได้ ส่งผลให้แอร์กับหวายหัวเราะกันคิกคักนึกเอ็นดูคนทั้งคู่
"กวีนเป็นไงบ้างเหนื่อยมั้ย...แล้วพวกเธอล่ะเหนื่อยเปล่าเนี่ย" ฉันส่งสายตาแบบว่าหวานซึ้งถามกวีน ก่อนจะหันไปถามเพื่อนๆ บ้าง
"ไม่หรอกน่า ว่าแต่เธอล่ะสอบสวนนายไม้เค้าไปถึงไหนแล้ว" หวายเป็นคนตอบเพราะดูสองสาวฟางกับแอร์จะดูอึ้งๆ กับอะไรซักอย่างอยู่
"โปรดอย่าถาม! เพราะนายนั่นกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า" ฉันพยายามใส่แอ๊คติงหวายถึงกับหัวเราะเสียงใส ส่วนฟางกับแอร์เพียงแค่ส่งยิ้มกลับมาเฉยๆ
"ว่าไงกวีน...เหนื่อยมั้ยยังไม่ได้ตอบเราเลยนะ"
ฉันหันกลับไปถามนายแว่นกวีนอีกครั้ง จึงเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มองฉันอยู่ แต่มองใครอีกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแทน ฉันเหล่ตามองตามจึงรู้ว่าเป็นใคร... มันรู้สึกเจ็บแปลกๆที่ใจขึ้นมาทันที
"เอ๋! เหงื่อนี่เราเช็ดให้นะ"
ฉันตัดสินใจหยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้อีกฝ่าย พอเช็ดเสร็จกวีนก็หันมาส่งยิ้มขอบคุณให้ ฉันจึงยิ้มกลับให้เช่นกัน
"เอ่อ...เราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" อยู่ๆฟางก็ลุกพรวดพราดออกจากโต๊ะไป ตามด้วยแอร์ที่วิ่งตามไปในลักษณะแปลกๆ เหลือแต่หวายที่ยิ้มฝืดๆ กลบเกลื่อนส่งมาให้เท่านั้น
ฉันมองรอยยิ้มของหวายก่อนจะเบนสายตาไปทางฟางกับแอร์ที่หายไปทางมุมตึก ก่อนจะหันกลับมองกวีนที่มองตามสองคนนั้นอยู่ก่อนแล้วด้วยสีหน้ากังวล นี่ฉันมานั่งทำอะไรตรงนี้กันนะ ฉัน...กำลังทำอะไร...อยู่กันแน่!
ทุกการกระทำของลูกตาลที่มีต่อกวีนและเพื่อนๆ ของเธออยู่ในสายตาของไม้ตลอดเวลา เขารู้สึกเหมือนกำลังดูละครฉากหนึ่ง ที่มีผู้กำกับร่วมเล่นเองด้วย กำกับเอง เล่นเอง และคงจะเจ็บเองด้วยเช่นกัน และเขาก็คงเป็นได้แค่คนดูเท่านั้น...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ