ซาตานดีไซน์รัก

8.2

เขียนโดย น้องกิ๊ง

วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16.16 น.

  6 ตอน
  41 วิจารณ์
  13.05K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“กิ๊ฟนัดลูกค้าไว้ที่ไหนครับ”  วุฒิภัทรถามขึ้นเมื่อขับรถออกจากร้านอาหารมาได้สักพัก

 

“ร้านคาซา  เดลค่ะ”

 

“คุณชอบร้านนั้นเหรอ”

 

“ค่ะ  พอดีฉันรู้จักเจ้าของร้านน่ะค่ะ”

 

“คงไปบ่อยล่ะซิ”

 

“อะไรนะคะ”  วริญาถามเมื่อได้ยินที่เขาพูดไม่ชัด

 

“เปล่าไม่มีอะไรหรอก ”

 

‘อะไรของเขา’  วริญาได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเซ้าซี้เมื่อเห็นว่า

คนข้างๆตั้งหน้าตั้งตาขับรถโดยไม่สนใจจะชวนเธอคุยเหมือนตอน

แรก  แม้ว่าจะอดรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเจ้าของรถ

ก็ตาม   เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาจดหน้าร้านอาหารที่เธอได้นัดกับลูกค้าคน

สำคัญ  วริญาก็หันมากล่าวขอบคุณกับคนที่อยู่ดีๆก็นั่งเงียบไม่ยอมคุย

กับเธอเสียดื้อๆทั้งๆที่ในตอนแรกนั้นพยายามที่จะชวนเธอคุยแท้ๆ

 

“ขอบคุณนะคะที่กรุณามาส่งดิฉัน”  วริญากล่าวขอบคุณชายหนุ่มด้วย

น้ำเสียงประชดประชันเพราะอดที่จะหมั่นใส่คนตรงหน้าขึ้นมาเหมือน

กันที่อยู่ดีๆก็มีท่าทางที่เปลี่ยนไปจนเธอเองก็ตามไม่ทัน

        เมื่อเห็นหญิงสาวลงจากรถเรียบร้อยแล้ววุฒิภัทรก็ขับรถออก

จากร้านด้วยความเร็วโดยไม่ยอมหันกลับไปมองหญิงสาวที่ยืนแสดง

อาการงงว่าได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจตอนไหนหรือเปล่าถึงแสดงท่า

ทางไม่พอใจขึ้นมาแบบนี้

 

 

        “คุณครีมเข้ามาพบผมหน่อย”

 

เสียงของท่านประธานบริษัทที่ดังมาจากเครื่องมือสื่อสารบนโต๊ะทำให้

เลขาสาวต้องรีบลุกจากเก้าอี้ที่เธอกำลังนั่งทำงานอยู่อย่างรีบร้อน 

ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าท่านประธานอารมณ์ไม่ค่อยจะดีหากทำอะไรให้ไม่ถูก

ใจล่ะก็ได้เป็นเรื่องแน่  ขนาดกวีนคนสนิทของท่านยังโดนเล่นงานแต่

เช้าแล้วนับประสาอะไรกับเลขาหน้าห้องอย่างเธอเล่า  เมื่อเธอเดินมา

หยุดอยู่หน้าห้องทำงานที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทแห่งนี้แล้ว  จึงยื่นมือ

ออกไปเพื่อเคาะประตูขออนุญาตเจ้าของห้องตามมารยาทที่ดี

 

“เชิญ”

 

      เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่บอกก็รู้โดยอัตโนมัติว่าคงอารมณ์เสียอยู่แน่

นอนเพราะน้ำเสียงฟังดูห้วนทีเดียวจึงทำให้เลขาสาวเกิดอาการวิตก

ขึ้นมา  ถึงแม้ว่าจะเตรียมใจมาบ้างแล้วก็ตาม  แล้วจึงรีบยื่นมือออกไป

เปิดประตูเพราะหากเธอชักช้าอาจจะทำให้ท่านประธานอารมณ์เสีย

มากไปกว่านี้   เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องเลขาสาวก็รีบเดินตรง

ไปยังโต๊ะท่านประธานหนุ่มทันที

 

“วันนี้ผมมีนัดที่ไหนบ้าง”  วุฒิภัทรถามเลขาสาวเมื่อเธอเดินเข้ามาถึง

หน้าโต๊ะทำงานของเขา

 

“ตอนบ่ายนี้ท่านประทานมีนัดทานข้าวกับคุณเกษมค่ะ  แล้วก็สองทุ่มมี

งานเลี้ยงเปิดตัวร้านจิวเวอร์รี่ของคุณเทพค่ะ”

 

“อืม  ผมจะออกไปข้างนอกคงไม่กลับเข้ามาอีก”พูดจบวุฒิภัทรก็หยิบ

กระเป๋าเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินออกจากห้องไปทันที

 

 

 

 

“กิ๊ฟเสร็จหรือยังจ๊ะคุณภูมารอแล้วนะ”

 

“เสร็จแล้วค่า....”

 

      วริญาตอบพี่สาวขณะที่เดินมาเปิดประตูห้อง   วันนี้เธอต้องไป

งานเลี้ยงเปิดร้านจิวเวอร์รี่ที่ภูธนิตย์รับออกแบบร้านให้  อีกทั้งเจ้าของ

ร้านยังรู้จักกับครอบครัวของเธอเป็นอย่างดีอีกด้วยเพราะเป็นเพื่อนกับ

พี่สาวของเธอตั้งแต่สมัยเรียน  ในตอนแรกนั้นวริญาคิดว่าจะเปิด

โอกาสให้พี่สาวไปกับภูธนิตย์ เพราะเธอก็ไม่ชอบไปงานแบบนี้อยู่แล้ว

ด้วย  แต่พี่สาวของเธอนะซิไม่ยอมไปกับภูธนิตย์เพราะเกิดงอนพี่ภู

ของเธอซะงั้น 

 

'กิ๊ฟไปงานกับพี่นะ'

 

'พี่กิ่งไปกับพี่ภูเถอะค่ะ  กิ๊ฟอยากอยู่บ้านมากกว่าพี่กิ่งก็รู้ว่ากิ๊ฟไม่ชอบ

ไปงานแบบนี้'

 

'แต่พี่ไม่อยากไปกับคุณภูสองคนนี่นา'

 

'มีอะไรหรือเปล่าค่ะ  ปกติก็ไปด้วยกันนี่นา'

 

‘เอาเป็นว่าถ้ากิ๊ฟไม่ไปด้วยพี่ก็ไม่ไปเหมือนกัน’  ท่าทางและคำพูด

ของพี่สาวที่พูดกับเธอเมื่อตอนบ่ายนั้นไม่บอกก็รู้ว่าต้องงอนพี่ภูของ

เธออย่างแน่นอน  ถึงแม้จะไม่ยอมบอกเธอว่างอนพี่ภูของเธอเพราะ

เรื่องอะไรก็ตาม  ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอต้องไปงานเลี้ยงทั้งๆที่เธอไม่

ค่อยอยากจะไปสักเท่าไหร่  แต่ก็ไม่สามารถปฎิเสธได้

 

“ว้าว...นางฟ้าที่ไหนมายืนอยู่ตรงนี้เนี่ย”

      วริญาแซวพี่สาวทันทีที่เปิดประตูออกมาจากห้องของตัวเอง 

วันนี้พี่สาวของเธออยู่ในชุดเดรสสีชมพูสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย  ดู

แล้วเข้ากับใบหน้าที่สวยหวานยิ่งนัก

 

“ขอบใจจ๊ะ  แต่พี่ว่าถ้าเอาแต่ยืนชมกันแบบนี้เดี๋ยวก็ไปงานไม่ทันพอ

ดี”

 

“อย่าทำหน้าดุสิคะ  เดี๋ยวไม่สวยพี่ภูไม่รักน้า....”

 

“ไม่รักก็ไม่ต้องรักซิ  พี่ไม่ได้ง้อให้มารักซักหน่อย”

 

“ยังไม่หายงอนพี่ภูอีกเหรอคะ”

 

“พี่ไม่ได้งอนสักหน่อย แล้วจะยืนตรงนี้อีกนานมั้ย”

“ก็ไปซิคะ”

      วริญาเดินมาเกาะแขนพี่สาวเพื่อเอาใจ เธอคิดว่าคืนนี้พี่สาวของ

เธอต้องทำให้ภูธนิตย์ต้องตะลึงตาค้างอย่างแน่นอน  และก็เป็นอย่าง

ที่คิดจริงๆเมื่อเธอและพี่สาวเดินมาหยุดอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้าย  เธอก็

เห็นภูธนิตย์ที่ตอนแรกนั่งรออยู่ยืนขึ้นแล้วหันมามองพี่สาวของเธอตา

ค้าง  ขนาดเดียวกันก็สังเกตุเห็นใบหน้าของคนที่ยืนข้างๆเธอที่ตอนนี้

คงอายมากเพราะใบหน้าหวานนั้นตอนนี้แดงเหมือนลูกตำลึงสุกเลยที

เดียว 

 

“จะมองให้ละลายเลยหรือไงคะพี่ภู”

 

      เสียงของวริญาทำให้ภูธนิตย์รู้สึกตัวว่าเผลอมองคนรักที่วันนี้ดู

สวยหวานเป็นพิเศษจนเขาไม่อยากให้เธอไปงานเลี้ยงเสียแล้ว  เมื่อ

คิดว่าผู้ชายในงานจะต้องมองคนรักของเขาอย่างแน่นอนก็ทำให้เกิด

ความหวงขึ้นมา  ยิ่งตอนนี้เธอกำลังงอนเขาอยู่ด้วย  เมื่อคิดมาถึงเรื่อง

นี้ภูนิตย์ก็ยังไม่รู้จะง้อขอคืนดียังไงดีเห็นทีคงต้องขอตัวช่วยซะแล้วซิ

  

       เมื่อเข้ามาภายในงานก็เป็นอย่างที่ภูธนิตย์คิดไว้ไม่มีผิด  ก็

ตอนนี้หนุ่มๆในงานหันมาสนใจสาวสวยที่เดินเข้ามาในงานพร้อมกับ

เขาทั้งสองคน  เขารู้สึกว่าไม่ชอบสายตาเหล่านั้นเอาเสียเลยโดย

เฉพาะสายตาหนุ่มๆทั้งหลายที่มองมาทางหญิงสาวที่สวมชุดสีชมพู

หวาน  ภูธนิตย์ขยับเข้าไปใกล้คนรักแล้วยื่นมือไปเพื่อโอบเอวเธอไว้

เพื่อต้องการแสดงให้สายตาเหล่านั้นได้เห็นว่าสาวสวยคนนี้มีเจ้าของ

แล้ว

 

      วนิญารู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของภูธนิตย์จึงพยายามที่จะออก

จากวงแขนของเขาแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเพราะยิ่งเธอพยายามจะ

เบี่ยงตัวออกวงแขนของเขาก็ยิ่งกระชับมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าภู

ธนิตย์ไม่ยอมปล่อยเธอจึงหยิกเขาที่เอวของคนรักแต่เขากับทำเป็น

เฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย

 

      วริญาเห็นท่าทางที่ภูธนิตย์แสดงออกมานั้นก็ทำให้อดยิ้มไม่ได้ 

 

‘คงจะหึงพี่กิ่งอีกตามเคย  ก็พี่กิ่งทั้งสวยทั้งหวานออกแบบนี้นี่น่าหนุ่มๆ

 

ในงานก็ต้องมองเป็นธรรมดา’ 

 

“สวัสดีครับคุณภู”

 

“สวัสดีครับ”  ภูธนิตย์กล่าวทักทายกลับไปบ้างก่อนที่เจ้าของงานจะ

 

หันไปหยอดคำหวานกับสาวน้อยที่ยืนข้างๆเขา

 

“ สวัสดีครับน้องกิ๊ฟวันนี้น้องกิ๊ฟดูน่ารักมากเลยนะครับ”

 

“ขอบคุณค่ะ”  วริญาตอบออกไปด้วยความรู้สึกอายที่ถูกชม

 

“สบายดีไหมกิ่งไม่เจอกันนานเลยนะ  ”

 

      เสียงของเจ้าของงานที่เดินออกมาตอนรับกล่าวทักทายภูธนิตย์

และวริญาด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจก่อนจะหันไปคุยกับวนิญาเพื่อนสาว

คนสนิท

 

“สบายดีจ๊ะ  รวยใหญ่แล้วนะเดี๋ยวนี้”

 

“รวยอะไรกันล่ะ  อ้อ...แล้วเมื่อไหร่เทพจะได้อ่านหนังสือเล่มใหม่ของ

กิ่งสักทีล่ะ”

 

“ก็เร็วๆนี้ล่ะ  ตอนนี้กิ่งกำลังเร่งอยู่ต้นเดือนหน้าก็คงจะเรียบร้อยน่ะ”

 

“แล้วเทพจะรออ่านนะ   ผมว่าไปนั่งกันก่อนดีกว่าไหมครับเชิญทางนี้

เลยผมเตรียมโต๊ะที่ใกล้เวทีไว้ให้เลยนะครับ  จะได้เห็นนางแบบชัดๆ

ไงครับ  งานนี้ผมเชิญคุณอัยลินนางแบบคิวทองมาเลยนะครับเนี่ย”

 

       พูดจบเจ้าของงานก็เดินนำไปที่โต๊ะด้านหน้าที่ใกล้เวทีอย่างที่

ได้บอกไว้จริงๆเมื่อมาถึงโต๊ะเจ้าของงานก็เชิญแขกนั่ง  แล้วก็ขอตัวไป

ตอนรับแขกที่เริ่มทยอยกันเข้ามาภายในงาน

 

“นึกว่าจะไม่ชวนนั่งซะแล้ว”

 

      เสียงของภูธนิตย์พูดขึ้นเมื่อเจ้าของงานเดินออกไปจากโต๊ะเรียก

สายตาดุจากหญิงสาวที่มีใบหน้าหวานที่นั่งข้างๆได้เป็นอย่างดี  อีกทั้ง

ยังโดนหยิกที่เอวเป็นของแถมอีกหนึ่งที

 

“พูดแบบนี้หมายความว่าไงค่ะคุณภูธนิตย์”

 

“เปล่า  ผมก็พูดอย่างที่เห็น”

 

“เห็นอะไรไม่ทราบคะ”

 

“ก็เห็นว่าเจ้าของงานเอาแต่คุยกับแฟนชาวบ้านจนลืมว่าจะต้องเชิญแขกนั่งนะซิ”

 

“เทพเป็นเพื่อนกิ่งนะคะคุณภูธนิตย์”

 

“ก็นายนั้นคิดว่าคุณเป็นเพื่อนหรือเปล่าล่ะ  ดูสายตาที่มันมองคุณซิ”

 

“คุณภูธนิตย์”

 

“ไม่มีใครหิวกันเลยเหรอคะ  กิ๊ฟหิวแล้วเราไปหาอะไรรองท้องกันดีกว่าไหมคะ”

 

      เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มตรึงเครียดวริญาจึงได้เอ่ยชวนทั้งสอง

คนที่ตอนนี้ตั้งหน้าตั้งตาว่าจะทะเลาะกันจนเธอคิดว่าทั้งสองคนคงลืม

ไปแล้วว่าเธอนั่งอยู่ด้วย  และก็ได้ผลเมื่อทั้งสองหันมาที่เธอและสุภาพ

บุรุษคนเดียวของโต๊ะเสนอตัวว่าจะไปตักอาหารเอง

 

 

“เดี๋ยวพี่ไปตักเองจ๊ะ  กิ๊ฟนั่งอยู่เป็นเพื่อนคุณกิ่งที่นี่ล่ะ”

 

       ภูธนิตย์พูดก่อนที่จะเดินไปยังมุมอาหารในงานวริญาจึงหันมา

สนใจพี่สาวของเธอที่ตอนนี้เอาแต่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่เก้าอี้ฝั่งตรง

ข้ามกับเธอ

 

“งอนเรื่องอะไรค่ะพี่กิ่ง  กิ๊ฟเห็นพี่กิ่งไม่ยอมคุยกับพี่ภูตั้งแต่อยู่ในรถ

แล้วยังท่าทางของพี่ภูเมื่อตะกี๋นี้อีก”

 

“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ  ก็แค่คนไม่มีเหตุผลน่ะอย่าไปสนใจเลย”

 

วนิญาตอบน้องสาวที่มองมาทางเธอก่อนที่เธอจะหันหน้าหลบสายตา

 

ที่มองมาอย่างต้องการคำตอบ 

 

“นั้นไงพูดแบบนี้ต้องทะเลาะกันชัว”

 

“พี่บอกไม่มีก็ไม่มีซิจ๊ะ”

 

“โอเคค่ะ  ไม่มีก็ไม่มีทำไมต้องดุด้วยล่ะ”

 

“ขอโทษทีจ๊ะกิ๊ฟพี่ไม่ได้ตั้งใจ  พี่ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ”

 

“ค่ะ”

 

      พูดจบคนเป็นพี่สาวก็ลุกจากโต๊ะไปปล่อยให้วริญานั่งมองตาม

หลังไปอย่างอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวและพี่ภูของเธอ  โดย

เฉพาะท่าทางและคำพูดของคนที่กำลังยืนเลือกอาหารอยู่นั้นยิ่งทำให้

หญิงสาวอยากทราบถึงสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันซึ่งเธอไม่เคย

เห็นมาก่อน เพราะปกติพี่ภูของเธอจะเป็นคนที่ใจเย็นมีเหตุผลกับทุก

เรื่อง  สุภาพ  และยังเป็นผู้ชายที่แสนจะอ่อนโยนในสายตาของเธอ 

ไม่เคยมีท่าทางแบบนี้มาก่อนเลย  ทางพี่สาวของเธอก็เช่นกันไม่มีครั้ง

ไหนที่จะแสดงออกว่าโกรธพี่ภูของเธอได้เท่าครั้งนี้มาก่อน  ที่ผ่านมาก็

แค่งอนโดนง้อนิดเดียวก็ใจอ่อนแล้ว  แต่ครั้งนี้ดูต่างจากทุกที

 

“กิ๊ฟ......กิ๊ฟครับเป็นอะไรหรือเปล่า”

 

 

“คะ....อ้อเปล่าค่ะไม่ได้เป็นอะไรพอดีดูบรรยายกาศในงานเพลินไป

หน่อยนะคะ’

 

เสียงของคนที่เพิ่งจะวางจานอาหารทำให้เธอหลุดจากความคิดมายิ้ม

ให้  ก่อนจะช่วยรับอาหารในมืออีกหนึ่งอย่างแล้วว่างลงบนโต๊ะ

“แล้วพี่สาวกิ๊ฟไปไหนแล้วครับเนี่ย  ปล่อยให้สาวน้อยของพี่นั้งอยู่คนเดียว”

 

“พี่กิ่งไปเข้าห้องน้ำนะคะ”

 

“เดี๋ยวพี่ไปหยิบน้ำมาให้นะครับ”

 

“เดี๋ยวกิ๊ฟไปหยิบให้ดีกว่าค่ะ  พี่ภูมานั่งดีกว่านะคะ”  วริญาเสนอขึ้น

เมื่อเธอหันไปเห็นหน้าสาวๆของพี่สาวที่กำลังเดินกลับมาทางโต๊ะ

 

“พี่ไปเองดีกว่าจะให้สาวน้อยที่น่ารักไปหยิบมาได้ยังไงกัน”

 

“กิ๊ฟว่าพี่ภูอยู่เคลียกับสาวสวยที่กำลังเดินมาดีกว่าไหมค่ะ”  วริญาพูด

ขึ้นพร้อมทั้งแอบชี้มือไปทางหญิงสาวที่กำลังเดินมายังโต๊ะที่เธอและภู

ธนิตย์นั่งอยู่

 

“แต่พี่ว่า....” 

 

“เอาแบบนี้แหละคะดีที่สุดแล้ว”

 

      วริญาพูดตัดบทและส่งยิ้มหวานให้กำลังใจพี่ภูของเธอก่อนจะรีบ

เดินออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกัน  และ

ขณะเธอที่กำลังเดินไปทางโต๊ะเครื่องดื่มนั้นก็สังเกตเห็นว่าทุกสายตา

มองไปในทิศทางของประตูอย่างสนใจพร้อมทั้งมีเสียงซุบซิบตามมา 

ทำให้เธอหันไปมองในจุดที่ทุกคนในงานกำลังมองจึงได้เห็นภาพชาย

หนุ่มที่เธอเพิ่งได้พบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เองวันนี้เขาดูสง่าและ

ภูมิฐานในชุดสูตรสีขาวเดินเคียงคู่มากับสาวสวยถ้าเธอจำไม่ผิดน่าจะ

เป็นนางแบบดังที่ชื่ออัยลิน  ที่เจ้าของงานบอกว่าเชิญมาเดินแบบใน

คืนนี้เธออยู่ในชุดราตรีสีแดงเพลิงเปิดไหล่ขาวเนียนแถมยังคว้านลึก

 

ลงไปตรงหน้าอกหน้าใจ  จนจะเห็นอะไรๆอยู่แล้วแต่คนในงานคงมอง

ว่าเซ็กซี่และเธอก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน  วริญาคิดว่าทั้งสองคนดู

เหมาะสมกันแต่ความรู้สึกของเธอในตอนนี้มันรู้สึกว่าเจ็บแปลบๆตรง

หัวใจซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เช่นกัน

 

‘ไม่เห็นตัองสนใจเลยก็แค่คนขี้เก๊กชอบว่างมาดตลอดเวลา  เชอะ’  วริ

ญาเพียงแค่คิดอยู่ในใจด้วยความหมั่นไส้ชายหนุ่มคนที่อยู่ในชุดสูตรสี

ขาวที่เป็นเป้าสายตาของทุกคนภายในงาน  โดยเฉพาะนักข่าวที่ตอน

นี้กำลังตั้งหน้าตั้งตากดถ่ายภาพของทั้งคู่ด้วยความตั้งใจ  และเธอคิด

ว่าในวันพรุ่งนี้คงจะมีข่าวของนางแบบสาวและนักธุรกิจหนุ่มสุดหล่อ

ขึ้นหน้าปกหนังสือพิมพ์อย่างแน่นอน

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา