ผู้พิทักษ์

9.8

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.40 น.

  11 ตอน
  63 วิจารณ์
  20.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ตึกร้าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ในเวลาพักเที่ยง อารดาและเพื่อนๆ ของเธอเดินไปกินข้าวที่โรงอาหารพร้อมๆ กัน
 
ระหว่างทางหญิงสาวรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ จึงบอกให้เพื่อนๆ ของเธอล่วงหน้าไปก่อน
 
ขณะที่ตัวเธอเดินไปเข้าห้องน้ำตามลำพัง เมื่อทำภารกิจเสร็จแล้ว เธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
 
ขณะนั้นมีแก๊งค์นักศึกษาชายกลุ่มหนึ่ง เดินอยู่บริเวณใกล้ๆ กับห้องน้ำหญิงพอดี
 
เมื่อพวกมันเห็นอารดาเดินออกมาจากห้องน้ำ แก๊งค์ของพวกมันก็ตรงดิ่งเข้าไปหาเธอทันที
 
หญิงสาวเริ่มรู้สึกไม่ไว้วางใจกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น แต่เธอก็ทำเป็นใจดีสู้เสือไว้ก่อน
 
หัวหน้าแก๊งค์ของพวกมันมองมาที่เธอแล้วพูดขึ้นว่า
 
“คุณอารดาใช่มั๊ยครับ จำผมได้มั๊ยครับ ผมเป็นเพื่อนของยุวดีเพื่อนของคุณงัยครับ”
 
หญิงสาวทำท่านึก แต่ความจริงเธอพอจะรู้แล้วว่า คนพูดมีเจตนาอื่นแอบแฝงอย่างเห็นได้ชัด เพราะเพื่อนในกลุ่มเธอไม่มีใครชื่อยุวดีเลย
 
ดังนั้นเธอจึงพยายามตั้งสติคิดหาทางเอาตัวรอด หญิงสาวได้ตัดสินใจพูดขึ้นว่า
 
“โทษทีนะคะ บังเอิญว่าฉันจำคุณไม่ได้เลย แต่ไม่เป็นไรค่ะเพื่อนๆ ของฉันกำลังจะมาหาฉันที่นี่พอดีเลย เดี๋ยวฉันคงจะได้รู้จักคุณแน่ๆ ล่ะค่ะ”
 
เมื่อหญิงสาวพูดจบ หัวหน้าแก๊งค์ตัดสินใจไม่อ้อมค้อม มันพูดตัดบทขึ้นมาว่า
 
“ช่างเถอะ ถึงคุณจะไม่รู้จักผม แต่ผมรู้จักคุณดีก็แล้วกัน ดังนั้นไปกับผมเดี๋ยวนี้ถ้าคุณไม่อยากเจ็บตัว”
 
อารดาสังเกตเห็นมีดพกขนาดสั้นในมือของเจ้าหัวหน้าแก๊งค์คนนี้ชัดเจน
 
คมมีดสะท้อนแสงกับดวงอาทิตย์ในเวลาเที่ยงวันเป็นประกายวาววับจนแสบตา
 
หญิงสาวขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัวจับใจ เธอไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากเดินตามหัวหน้าแก๊งค์ของพวกมันไปอย่างช้าๆ
 
มีลูกน้อง 3 คนของมันที่เดินคุมเชิงตามหลังอยู่ห่างๆ
 
ขณะกำลังเดินไปหญิงสาวพยายามคิดหาทางเอาตัวรอดไปด้วย
 
ในที่สุดพวกมันก็พาเธอมายังที่ด้านหน้าตึกร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นตึกเรียนร้างที่ปิดใช้การไปนานแล้ว
 
พวกมันช่วยกันจับตัวเธอมัดมือมัดเท้าเพื่อไม่ให้เธอหนีหรือขัดขืนได้
 
ตอนนี้หญิงสาวอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เลย
 
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามหญิงสาวก็ยังพยายามตั้งสติและคิดหาทางเอาตัวรอดไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่พวกมันยังคงตกลงกันอยู่
 
ขณะที่หัวหน้าแก๊งค์ของพวกมันกำลังสั่งการให้ลูกน้องไปดูต้นทางอยู่นั้น
 
อารดาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะแกะเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเธอออกโดยเร็วที่สุดโดยใช้แรงทั้งหมดที่เธอมีอยู่
 
จนในที่สุดเชือกที่มือของเธอก็ขาดออก อารดาอาศัยจังหวะที่พวกมันเผลอ ดึงเชือกที่มัดเท้าอยู่ออกด้วย
 
จากนั้นเธอก็ตัดสินใจรีบวิ่งฝ่าออกมาจากวงล้อมของพวกมันอย่างรวดเร็ว
 
แต่ทว่า ลูกน้องคนหนึ่งในกลุ่มพวกมันวิ่งเข้ามาคว้าตัวเธอไว้ได้ทันและใช้มีดพกขนาดสั้นจ่อไว้ที่เอว พร้อมกับพูดว่า
 
“อย่าได้คิดหนีอีกนะ ไม่งั้นเธอไม่รอดแน่”
 
อารดาพยายามพูดตะล่อมพวกมันว่า
 
“พวกนายคิดว่าไม่มีใครรู้หรืองัยว่าพวกนายพาฉันมาที่นี่ คิดเหรอว่าจะหนีรอดไปจากที่นี่ได้ ที่นี่ปลอดภัยดีแล้วสำหรับพวกนายงั้นเหรอ”
 
ได้ผล หัวหน้าแก๊งค์และลูกน้องทั้ง 3 คนต่างก็มองหน้ากันเหมือนจะปรึกษาว่าจะเอายังงัยกันต่อดี
 
พวกมันตกลงกันอีกรอบหนึ่ง ขณะที่ลูกน้องมัน 2 คนก็จับยึดแขนอารดาไว้คนละข้างไปด้วยเพื่อป้องกันหญิงสาวหนีไปอีก
 
หลังจากที่พวกมันปรึกษากันเสร็จสรรพ ลูกน้องสองคนในแก๊งค์ก็จับแขนและดันตัวหญิงสาวให้เดินเข้าไปภายในตัวตึกร้างแห่งนั้นทันที
 
ส่วนหัวหน้าแก๊งค์และลูกน้องอีกหนึ่งคนก็ได้เดินตามหลังมาติดๆ
 
ขณะที่ทุกคนกำลังจะเข้าไปภายในตัวตึก จู่ๆก็ปรากฏเงาวูบวาบผ่านไปมาคล้ายกับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในตึกร้างแห่งนี้
 
แก๊งค์นักศึกษาชายและอารดาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลภายในตึกร้างแห่งนี้เข้าซะแล้ว
 
พวกมันทั้ง 4 คนเริ่มลังเลไม่กล้าเข้าไป หัวหน้าแก๊งค์ของพวกมันสั่งการให้ลูกน้องสองคนเข้าไปตรวจดูภายในตึกก่อน
 
ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งคนให้ควบคุมตัวอารดารออยู่ด้านหน้าตัวตึกพร้อมกับหัวหน้าแก๊งค์
 
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่มีวี่แววว่าลูกน้องสองคนที่ส่งเข้าไปจะออกมาเสียที
 
หัวหน้าแก๊งค์ที่ยืนรออยู่หน้าตึกร้างเริ่มหงุดหงิด ในที่สุดมันก็ได้สั่งการให้ลูกน้องที่เหลืออีกหนึ่งคนเข้าไปดูด้านในตึกร้างเป็นรายต่อไป
 
เจ้าลูกน้องที่เหลือรับคำสั่งอย่างกล้าๆ กลัวๆ จากนั้นมันก็ค่อยๆ เดินเข้าไปอย่างระแวดระวัง
 
และลูกน้องคนนี้ก็ได้เงียบหายไปอีกคน ในที่สุดหัวหน้าแก๊งค์ของพวกมันตัดสินใจเข้าไปสำรวจข้างในด้วยตัวเองพร้อมกับควบคุมตัวอารดาเข้าไปด้วย
 
หญิงสาวรู้สึกกลัวจับใจ บรรยากาศภายในตัวตึกร้างวังเวง ตามทางเดินมืดและเงียบมาก ประกอบกับมีกลิ่นสาบแปลกๆ ลอยตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ
 
หญิงสาวยกมืออุดจมูกเอาไว้ เธอรู้สึกคลื่นไส้เหมือนอยากจะอาเจียนขึ้นมาอย่างกระทันหัน
 
ทั้งสองเดินผ่านห้องใหญ่ห้องหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นห้องเรียนร้าง หัวหน้าแก๊งค่อยๆ แง้มประตูเข้าไป
 
ฉับพลันทันใดนั้นเอง มีวัตถุบางอย่างพุ่งออกมาจากภายในห้องด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าใส่เจ้าหัวหน้าแก๊งอย่างแรงโดยไม่ทันตั้งตัว
 
เจ้าหัวหน้าแก๊งค์ล้มตึงลงไปกองอยู่กับพื้นและสลบเหมือดด้วยฝีมือของวัตถุปริศนานั้นในทันที
 
อารดาตกใจแทบสิ้นสติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า  
 
หญิงสาวสังเกตเห็นเงาสีดำลอยวูบวาบผ่านไปมา และเงานั้นค่อยๆ โผล่พ้นออกมาจากหลังประตูทีละน้อยทีละน้อย
 
เงานั้นค่อยๆปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ จนประจักษ์แก่สายตาของอารดา มันปรากฏเป็นร่างคล้ายกับพ่อมดหมอผีในเทพนิยายตนหนึ่ง
 
มันกำลังจะพุ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็วแทบจะทันที
 
ก่อนที่สติของหญิงสาวจะดับวูบลง ร่างของพ่อมดหมอผีตนนั้นก็เข้ามาประชิดถึงตัวเธอพอดี.....
 
( โปรดติดตามตอนต่อไป )

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา