ผู้พิทักษ์
เขียนโดย Mawmeaw
วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.40 น.
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) เพื่อนที่มองไม่เห็น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอารดา เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยในตอนเช้า
วันนี้เป็นวันประกาศผล 20 บทความที่ผ่านเข้ารอบไปชิงรางวัลบทความดีเด่นประจำสัปดาห์จากทางมหาวิทยาลัยของนักศึกษาทุกคณะที่ส่งเข้าร่วม
หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ เธอจึงรีบเดินทางมาแต่เช้าเพื่อรอดูผลบทความที่จะผ่านเข้ารอบโดยจะนำมาติดยังบอร์ดขนาดใหญ่หน้าคณะมนุษยศาสตร์
อารดาเดินทางมาถึงเป็นคนแรก พร้อมๆ กับที่พี่เจ้าหน้าที่กำลังนำกระดาษรายชื่อขนาด A4 มาติดพอดี
เธอแอบลุ้นในใจว่า
“ยัยดาเอ๊ย! ขอให้เธอมีชื่อเข้ารอบชิงรางวัล 20 บทความสุดท้ายกับเค้าด้วยทีเถิด สาธุๆๆ”
ในขณะที่อีกมุมหนึ่งใกล้ๆ กันนั้น ก็มีชายหนุ่มสวมแจ็กเก็ตและแว่นตาสีดำเข้มกำลังเฝ้ามองดูอากัปกิริยาต่างๆ ของหญิงสาวพร้อมทั้งแอบลุ้นไปพร้อมๆ กับเธอด้วย
และแล้วในที่สุดการติดประกาศจากพี่เจ้าหน้าที่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หลังจากที่หญิงสาวเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อด้วยความตื่นเต้นอยู่ใกล้ๆ กัน
พี่เจ้าหน้าที่ที่มาติดประกาศพูดกับหญิงสาวว่า
“หนู มารอดูประกาศผลรางวัลเหรอจ๊ะ มาแต่เช้าเชียวนะ พี่ขอให้หนูโชคดีแล้วกันนะ ขอให้ผ่านเข้ารอบและได้รับรางวัลใหญ่ด้วยนะจ๊ะ”
หญิงสาวยิ้มให้พี่เจ้าหน้าที่ก่อนพูดว่า
“ขอบคุณมากค่ะพี่ ขอให้สมพรปากนะคะ พี่คงเป็นผู้นำโชคสำหรับหนู ในเช้านี้แน่เลยค่ะ”
หญิงสาวพูดจบก็หัวเราะเบาๆ พี่เจ้าหน้าที่ก็พลอยหัวเราะไปกับเธอด้วย
หลังจากนั้นพี่เจ้าหน้าที่ก็เดินจากไปปล่อยให้หญิงสาวลุ้นต่อกับผลการประกาศบทความที่ผ่านเข้ารอบตามลำพัง
อารดาค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้แผ่นกระดาษที่ถูกนำมาติดเมื่อสักครู่ เธอเริ่มต้นอ่านตั้งแต่บรรทัดแรก
“ประกาศรายชื่อบทความที่ผ่านเข้ารอบชิงบทความดีเด่นประจำสัปดาห์ 20 บทความสุดท้าย ได้แก่ …”
หญิงสาวเริ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมากระทันหันด้วยความตื่นเต้น
เธอค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วชี้ไล่เรียงรายชื่อบทความลงมาเรื่อยๆ จากชื่อบทความแรก จนกระทั่งลงมาถึงชื่อบทความลำดับที่ 15
“ความมืดและแสงสว่าง เอ๋ ไม่ใช่ชื่อบทความของเรานี่นา ชื่อคล้ายๆ กัน นึกว่าจะใช่ โถ่เอ๊ย! ยัยดา เหลืออีกแค่ 5 ชื่อเท่านั้นนะ จะมีมั๊ยน๊า!!”
จากนั้นเธอก็ไล่ดูชื่อบทความต่อไปจนกระทั่งถึงบทความสุดท้าย สีหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นเศร้าสลดเข้ามาแทนที่
เธอตัดสินใจเริ่มต้นดูใหม่ตั้งแต่ชื่อบทความแรกจนถึงบทความสุดท้ายอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจ
และแล้ว เธอก็ถอนหายใจออกมายาวๆ พร้อมกับทำหน้าผิดหวังอย่างเต็มที่
“โถ่! ไม่มี บทความ ยิ่งมืดก็ยิ่งใกล้สว่าง ของชั้นเลยหรือนี่ ไม่อยากจะเชื่อเลย ยัยดา!! บทความของเธอตกรอบไปซะแล้ว โถ่เอ๊ย! อุตส่าห์ลุ้นมาตั้งนานแน่ะ แย่จัง”
หลังจากดูประกาศผลเสร็จอารดาก็เดินคอตกด้วยความผิดหวังไปที่หอสมุดของมหาวิทยาลัย เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียน
เธอเลือกไปนั่งที่โต๊ะห่างไกลผู้คนและฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยความอ่อนล้าทั้งกายและใจกับการทุ่มเทสร้างสรรค์บทความของเธอแทบจะทั้งวันทั้งคืน
แต่ผลตอบรับกับทำให้เธอผิดหวังซะอย่างนั้น
ขณะที่เธอฟุบหน้าลงกับโต๊ะในมุมสงบภายในหอสมุดของมหาวิทยาลัยอยู่นั้น
จู่ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างหล่นลงที่พื้นบริเวณชั้นหนังสือใกล้ๆ กับโต๊ะของเธอ
อารดาสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่ามีหนังสือเล่มใหญ่หนาเล่มหนึ่งหล่นจากชั้นหนังสือลงมานอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น
และไม่มีใครอยู่แถวนั้นแม้แต่คนเดียว
หญิงสาวตัดสินใจเดินไปยังชั้นหนังสือนั้น แล้วก้มลงเก็บหนังสือเล่มใหญ่หนาขึ้นมา
ขณะที่กำลังจะเก็บมันเข้าไปในชั้น ก็บังเอิญมีกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งหล่นออกมาและตกลงไปที่พื้น
อารดาเก็บหนังสือเข้าชั้นเรียบร้อยแล้ว จึงตัดสินใจหยิบกระดาษสีขาวบนพื้นที่หล่นออกมาจากหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาคลี่ออกดู
เธอต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่ออ่านบรรทัดแรก ก็พบหัวข้อชื่อว่า “ยิ่งมืดก็ยิ่งใกล้สว่าง”
ซึ่งมันเป็นบทความที่เธอเป็นคนเขียนขึ้น และนำไปส่งเข้าประกวดบทความดีเด่นกับทางมหาวิทยาลัย
“เอ๊ะ! บทความของเรามาอยู่ที่นี่ได้งัยอ่ะ แปลกจริง! เราไม่เคยเอาบทความที่ถ่ายสำเนามาอ่านในห้องสมุดเลยนี่ แล้วมันมาอยู่ในหนังสือเล่มนี้ได้ยังงัยกันนะ”
ว่าแล้วเธอก็หยิบหนังสือเล่มที่เพิ่งเก็บเข้าที่ไปเมื่อสักครู่ออกมา เพื่อดูว่าเธอเคยยืมมันออกไปอ่านบ้างหรือไม่
พออารดาพลิกไปดูชื่อ มันเขียนไว้ด้วยตัวนูนหนา ชัดเจน บนหน้าปก ว่า “เพื่อนที่มองไม่เห็น”
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆว่า
“เพื่อนที่มองไม่เห็น เราไม่เคยอ่านเล่มนี้เลยนี่นา แปลกจังเลย ช่างเถอะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวยืมเล่มนี้ไปอ่านซะเลย ดูชื่อเรื่องลึกลับดีซะด้วยสิ น่าสนใจแฮะ”
พูดจบเธอก็เดินถือหนังสือออกไปและไม่ลืมหยิบกระดาษสีขาวที่เป็นบทความของเธอติดตัวออกไปด้วย
หลังจากนั้นเธอก็ได้เดินไปทำการยืมหนังสือที่เครื่องยืมหนังสืออัตโนมัติหน้าเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ให้บริการยืม-คืน
ที่ชั้นหนังสืออีกมุมหนึ่ง ใกล้กันกับชั้นหนังสือที่อารดาเพิ่งเดินออกมา ปรากฏร่างชายหนุ่ม ผู้หนึ่ง เขาคือ สนธยา นั่นเอง
เขาตามเธอออกมาตั้งแต่เช้าแล้ว และติดตามเธอมาเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นเธอฟุบอยู่กับโต๊ะเพียงลำพัง
จึงแกล้งทำหนังสือหล่น เพื่อให้เธอเข้ามาเก็บและเห็นหนังสือเล่มดังกล่าว
สนธยาแอบยิ้มที่ใบหน้า เขารู้สึกสุขใจที่ได้เห็นหญิงสาวมีใบหน้าสดชื่นขึ้นกว่าเก่า หลังจากที่เธอไปนั่งอ่านหนังสือเล่มใหญ่หนาที่ยืมไปเมื่อสักครู่
ถึงแม้หนังสือเล่มนั้นเขาจงใจที่จะสื่อความหมายบางอย่างเป็นนัยๆ กับอารดา
แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยได้เห็นเธอยิ้ม มีความสุข หน้าตาสดชื่นขึ้น ไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่เธอผิดหวัง หลังจากที่เธอได้อ่านมัน เท่านี้เขาก็พอใจมากแล้ว
อารดาไม่รู้ตัวเลยสักนิดถึงที่มาที่ไปของหนังสือเล่มที่เธอกำลังถืออยู่ในมือขณะนี้ เธอกำลังใช้เวลาในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียนไปกับการอ่านมันอย่างเพลิดเพลิน
จนเกือบลืมไปเลยว่าเมื่อเช้าเธอเพิ่งพบกับความผิดหวังเรื่องบทความของเธอมาหยกๆ
ทางด้านสนธยา หลังจากเขาทำหน้าที่คอยช่วยเหลืออารดาอยู่ใกล้ๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เขาก็ได้เก็บบทความที่เธอเป็นคนแต่งเอาไว้และรีบมุ่งหน้าไปยังสำนักพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ที่เขารู้จักดีในทันที
โดยเป้าหมายต่อไปในใจของเขาคืออะไร ? มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดี
ขณะนี้เขาคิดแต่เพียงว่า ไม่ว่าอารดาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ตาม จะมีเขาคนนี้ คอยดูแลและปกป้องเธออยู่ใกล้ๆ เสมอ
แม้เธอจะไม่รู้ตัวและไม่รู้จักเขาเลยก็ตามที
( โปรดติดตามตอนต่อไป )
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ