ผู้พิทักษ์

9.8

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.40 น.

  11 ตอน
  63 วิจารณ์
  20.68K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) เพื่อนที่มองไม่เห็น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
อารดา เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยในตอนเช้า
 
วันนี้เป็นวันประกาศผล 20 บทความที่ผ่านเข้ารอบไปชิงรางวัลบทความดีเด่นประจำสัปดาห์จากทางมหาวิทยาลัยของนักศึกษาทุกคณะที่ส่งเข้าร่วม
 
หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ เธอจึงรีบเดินทางมาแต่เช้าเพื่อรอดูผลบทความที่จะผ่านเข้ารอบโดยจะนำมาติดยังบอร์ดขนาดใหญ่หน้าคณะมนุษยศาสตร์
 
อารดาเดินทางมาถึงเป็นคนแรก พร้อมๆ กับที่พี่เจ้าหน้าที่กำลังนำกระดาษรายชื่อขนาด A4 มาติดพอดี
 
เธอแอบลุ้นในใจว่า
 
“ยัยดาเอ๊ย! ขอให้เธอมีชื่อเข้ารอบชิงรางวัล 20 บทความสุดท้ายกับเค้าด้วยทีเถิด สาธุๆๆ”
 
ในขณะที่อีกมุมหนึ่งใกล้ๆ กันนั้น ก็มีชายหนุ่มสวมแจ็กเก็ตและแว่นตาสีดำเข้มกำลังเฝ้ามองดูอากัปกิริยาต่างๆ ของหญิงสาวพร้อมทั้งแอบลุ้นไปพร้อมๆ กับเธอด้วย
 
และแล้วในที่สุดการติดประกาศจากพี่เจ้าหน้าที่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
 
หลังจากที่หญิงสาวเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อด้วยความตื่นเต้นอยู่ใกล้ๆ กัน
 
พี่เจ้าหน้าที่ที่มาติดประกาศพูดกับหญิงสาวว่า
 
“หนู มารอดูประกาศผลรางวัลเหรอจ๊ะ มาแต่เช้าเชียวนะ พี่ขอให้หนูโชคดีแล้วกันนะ ขอให้ผ่านเข้ารอบและได้รับรางวัลใหญ่ด้วยนะจ๊ะ”
 
หญิงสาวยิ้มให้พี่เจ้าหน้าที่ก่อนพูดว่า
 
“ขอบคุณมากค่ะพี่ ขอให้สมพรปากนะคะ พี่คงเป็นผู้นำโชคสำหรับหนู ในเช้านี้แน่เลยค่ะ”
 
หญิงสาวพูดจบก็หัวเราะเบาๆ พี่เจ้าหน้าที่ก็พลอยหัวเราะไปกับเธอด้วย
 
หลังจากนั้นพี่เจ้าหน้าที่ก็เดินจากไปปล่อยให้หญิงสาวลุ้นต่อกับผลการประกาศบทความที่ผ่านเข้ารอบตามลำพัง
 
อารดาค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้แผ่นกระดาษที่ถูกนำมาติดเมื่อสักครู่ เธอเริ่มต้นอ่านตั้งแต่บรรทัดแรก
 
“ประกาศรายชื่อบทความที่ผ่านเข้ารอบชิงบทความดีเด่นประจำสัปดาห์ 20 บทความสุดท้าย ได้แก่ …”
 
หญิงสาวเริ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมากระทันหันด้วยความตื่นเต้น
 
เธอค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วชี้ไล่เรียงรายชื่อบทความลงมาเรื่อยๆ จากชื่อบทความแรก จนกระทั่งลงมาถึงชื่อบทความลำดับที่ 15
 
“ความมืดและแสงสว่าง เอ๋ ไม่ใช่ชื่อบทความของเรานี่นา ชื่อคล้ายๆ กัน นึกว่าจะใช่ โถ่เอ๊ย! ยัยดา เหลืออีกแค่ 5 ชื่อเท่านั้นนะ จะมีมั๊ยน๊า!!”
 
จากนั้นเธอก็ไล่ดูชื่อบทความต่อไปจนกระทั่งถึงบทความสุดท้าย สีหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นเศร้าสลดเข้ามาแทนที่
 
เธอตัดสินใจเริ่มต้นดูใหม่ตั้งแต่ชื่อบทความแรกจนถึงบทความสุดท้ายอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจ
 
และแล้ว เธอก็ถอนหายใจออกมายาวๆ พร้อมกับทำหน้าผิดหวังอย่างเต็มที่
 
“โถ่! ไม่มี บทความ ยิ่งมืดก็ยิ่งใกล้สว่าง ของชั้นเลยหรือนี่ ไม่อยากจะเชื่อเลย ยัยดา!! บทความของเธอตกรอบไปซะแล้ว โถ่เอ๊ย! อุตส่าห์ลุ้นมาตั้งนานแน่ะ แย่จัง”
 
หลังจากดูประกาศผลเสร็จอารดาก็เดินคอตกด้วยความผิดหวังไปที่หอสมุดของมหาวิทยาลัย เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียน
 
เธอเลือกไปนั่งที่โต๊ะห่างไกลผู้คนและฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยความอ่อนล้าทั้งกายและใจกับการทุ่มเทสร้างสรรค์บทความของเธอแทบจะทั้งวันทั้งคืน
 
แต่ผลตอบรับกับทำให้เธอผิดหวังซะอย่างนั้น
 
ขณะที่เธอฟุบหน้าลงกับโต๊ะในมุมสงบภายในหอสมุดของมหาวิทยาลัยอยู่นั้น
 
จู่ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างหล่นลงที่พื้นบริเวณชั้นหนังสือใกล้ๆ กับโต๊ะของเธอ
 
อารดาสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่ามีหนังสือเล่มใหญ่หนาเล่มหนึ่งหล่นจากชั้นหนังสือลงมานอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น
 
และไม่มีใครอยู่แถวนั้นแม้แต่คนเดียว
 
หญิงสาวตัดสินใจเดินไปยังชั้นหนังสือนั้น แล้วก้มลงเก็บหนังสือเล่มใหญ่หนาขึ้นมา
 
ขณะที่กำลังจะเก็บมันเข้าไปในชั้น ก็บังเอิญมีกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งหล่นออกมาและตกลงไปที่พื้น
 
อารดาเก็บหนังสือเข้าชั้นเรียบร้อยแล้ว จึงตัดสินใจหยิบกระดาษสีขาวบนพื้นที่หล่นออกมาจากหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาคลี่ออกดู
 
เธอต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่ออ่านบรรทัดแรก ก็พบหัวข้อชื่อว่า “ยิ่งมืดก็ยิ่งใกล้สว่าง”
 
ซึ่งมันเป็นบทความที่เธอเป็นคนเขียนขึ้น และนำไปส่งเข้าประกวดบทความดีเด่นกับทางมหาวิทยาลัย
 
“เอ๊ะ! บทความของเรามาอยู่ที่นี่ได้งัยอ่ะ แปลกจริง! เราไม่เคยเอาบทความที่ถ่ายสำเนามาอ่านในห้องสมุดเลยนี่ แล้วมันมาอยู่ในหนังสือเล่มนี้ได้ยังงัยกันนะ”
 
ว่าแล้วเธอก็หยิบหนังสือเล่มที่เพิ่งเก็บเข้าที่ไปเมื่อสักครู่ออกมา เพื่อดูว่าเธอเคยยืมมันออกไปอ่านบ้างหรือไม่
 
พออารดาพลิกไปดูชื่อ มันเขียนไว้ด้วยตัวนูนหนา ชัดเจน บนหน้าปก ว่า “เพื่อนที่มองไม่เห็น”
 
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆว่า
 
“เพื่อนที่มองไม่เห็น เราไม่เคยอ่านเล่มนี้เลยนี่นา แปลกจังเลย ช่างเถอะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวยืมเล่มนี้ไปอ่านซะเลย ดูชื่อเรื่องลึกลับดีซะด้วยสิ น่าสนใจแฮะ”
 
พูดจบเธอก็เดินถือหนังสือออกไปและไม่ลืมหยิบกระดาษสีขาวที่เป็นบทความของเธอติดตัวออกไปด้วย
 
หลังจากนั้นเธอก็ได้เดินไปทำการยืมหนังสือที่เครื่องยืมหนังสืออัตโนมัติหน้าเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ให้บริการยืม-คืน
 
ที่ชั้นหนังสืออีกมุมหนึ่ง ใกล้กันกับชั้นหนังสือที่อารดาเพิ่งเดินออกมา ปรากฏร่างชายหนุ่ม ผู้หนึ่ง เขาคือ สนธยา นั่นเอง
 
เขาตามเธอออกมาตั้งแต่เช้าแล้ว และติดตามเธอมาเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นเธอฟุบอยู่กับโต๊ะเพียงลำพัง
 
จึงแกล้งทำหนังสือหล่น เพื่อให้เธอเข้ามาเก็บและเห็นหนังสือเล่มดังกล่าว
 
สนธยาแอบยิ้มที่ใบหน้า เขารู้สึกสุขใจที่ได้เห็นหญิงสาวมีใบหน้าสดชื่นขึ้นกว่าเก่า หลังจากที่เธอไปนั่งอ่านหนังสือเล่มใหญ่หนาที่ยืมไปเมื่อสักครู่
 
ถึงแม้หนังสือเล่มนั้นเขาจงใจที่จะสื่อความหมายบางอย่างเป็นนัยๆ กับอารดา
 
แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยได้เห็นเธอยิ้ม มีความสุข หน้าตาสดชื่นขึ้น ไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่เธอผิดหวัง หลังจากที่เธอได้อ่านมัน เท่านี้เขาก็พอใจมากแล้ว
 
อารดาไม่รู้ตัวเลยสักนิดถึงที่มาที่ไปของหนังสือเล่มที่เธอกำลังถืออยู่ในมือขณะนี้ เธอกำลังใช้เวลาในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียนไปกับการอ่านมันอย่างเพลิดเพลิน
 
จนเกือบลืมไปเลยว่าเมื่อเช้าเธอเพิ่งพบกับความผิดหวังเรื่องบทความของเธอมาหยกๆ
 
ทางด้านสนธยา หลังจากเขาทำหน้าที่คอยช่วยเหลืออารดาอยู่ใกล้ๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
เขาก็ได้เก็บบทความที่เธอเป็นคนแต่งเอาไว้และรีบมุ่งหน้าไปยังสำนักพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ที่เขารู้จักดีในทันที
 
โดยเป้าหมายต่อไปในใจของเขาคืออะไร ? มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดี
 
ขณะนี้เขาคิดแต่เพียงว่า ไม่ว่าอารดาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ตาม จะมีเขาคนนี้ คอยดูแลและปกป้องเธออยู่ใกล้ๆ เสมอ
 
แม้เธอจะไม่รู้ตัวและไม่รู้จักเขาเลยก็ตามที
 
( โปรดติดตามตอนต่อไป )

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา