ผู้พิทักษ์
9.8
เขียนโดย Mawmeaw
วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.40 น.
11 ตอน
63 วิจารณ์
20.67K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบนท้องถนน ในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรคับคั่งแห่งหนึ่ง
ในเวลาพลบค่ำ ปรากฏร่างผอมสูงของชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาชื่อสนหรือสนธยา หน้าตาท่าทางของเขาดูอิดโรยไร้เรี่ยวแรง
เขาเดินอย่างช้าๆ ไปตามถนนไม่ได้สนใจผู้คนที่เดินขวักไขว่ผ่านไปมาและไม่มีใครสนใจเขาเลยแม้แต่คนเดียวเช่นกัน
ในใจของเขาคิดแต่เพียงว่า วันนี้เขาไม่อยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกห่วยๆ ใบนี้แล้วเท่านั้น เขาเดินคอตกไปเรื่อยๆ
วันนี้ช่างเป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิตของเขาตั้งแต่เขาลืมตาดูโลกใบนี้ ตอนเช้าขณะที่เขาเดินออกมาซื้อของหน้าปากซอย เขาก็โดนจับข้อหามียาเสพติดในกระเป๋ากางเกงของเขา
ทั้งๆ ที่อยู่ๆ ก็มีขี้ยาที่ไหนไม่รู้วิ่งมายัดของกลางใส่กางเกงของเขาแล้ววิ่งหนีไป ทำให้เขาเกือบจะต้องติดคุกฟรี
กว่าจะมีเพื่อนมาช่วยประกันตัวและยืนยันความบริสุทธิ์ให้เขา เขาก็ถูกถ่ายทอดสดออกอากาศข่าวไปตามสื่อต่างๆ แล้ว
พอไปทำงานตอนเช้า เขาก็ถูกเจ้านายไล่ออกจากงาน โดยอ้างว่าเขาทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงอีก
ตกงานยังไม่พอแถมถูกด่าอย่างสาดเสียเทเสียจากเจ้านายที่จ้องจะจับผิดและเตรียมหาเรื่องจะไล่เขาออกอยู่แล้ว
เพียงเพราะเขาไปรู้เรื่องบ้านเล็กบ้านน้อยของเจ้านายเข้าโดยบังเอิญ พอออกมาจากที่ทำงานเฮงซวยนั่นแล้ว เขาก็ยังโดนจี้เอากระเป๋าเงินไปจนหมดตัวอีก
ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งถอนเงินสดก้อนสุดท้ายออกมาเพื่อจะไปจ่ายค่าเช่าบ้านซึ่งผัดผ่อนมาจนถึงเส้นตายที่ถูกยื่นคำขาดว่าหากไม่จ่ายภายในวันนี้เขาจะถูกไล่ตะเพิดให้ไปนอนข้างถนน
ยังไม่พอ พ่อกับแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดเพิ่งจะโทรมาบอกว่าน้องชายตัวแสบที่กำลังเรียนช่างเทคนิคอยู่ ถูกจับข้อหายกพวกตีกันกับนักเรียนต่างโรงเรียนให้เขาส่งเงินไปให้เพื่อประกันตัวน้องชายโดยด่วนอีก
ไม่หมดเท่านั้นเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหนักเข้าไปอีก เพื่อนสนิทที่เป็นเหมือนเพื่อนตายที่มาประกันตัวให้เขาเมื่อเช้า ซึ่งคบกันมาเกือบ 10 ปี ยังมาประกาศตัดเพื่อนกับเขา
เพียงเพราะเข้าใจผิดว่าเขาไปมีสัมพันธ์กับแฟนสาวของเพื่อน โดยไม่ฟังคำอธิบายของเขาเลยแม้แต่น้อย
ความซวยล่าสุดที่เขาเจอคือโดนนักเลงหัวไม้ประจำซอยดักรุมกระทืบเขา เพียงเพราะหมั่นไส้เขาเท่านั้นเอง
ทำให้เขาต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนแทบเอาตัวไม่รอด ชายหนุ่มได้แต่นึกถึงความซวยและปัญหาต่างๆ ที่ประดังประเดรุมเร้าเข้ามาตลอดทั้งวัน
จนแทบไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้เดินขึ้นมาถึงดาดฟ้าของตึกสูงแห่งหนึ่ง เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว
เขาไม่รู้ว่าเดินขึ้นมาถึงที่นี่ได้อย่างไรกัน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่
แต่เพราะปัญหาหลายอย่างและความซวยต่างๆ ตลอดทั้งวันที่เขาพบเจอ
ทำให้เขาตัดสินใจเดินไปที่ขอบตึกและมองลงไปด้านล่างของตัวตึก ข้างล่างเริ่มมืดแล้วมองเห็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดอยู่เพียงไม่กี่คัน
เขาคิดถึงภาพพ่อกับแม่และน้องชายตัวแสบของเขาเป็นครั้งสุดท้าย และได้แต่รำพึงรำพันในใจว่า
“ลาก่อนทุกคน จบสิ้นกันไปเสียที สำหรับชีวิตเฮงซวยของผู้ชายไร้ค่าคนนี้”
ชายหนุ่มค่อยๆ ก้าวขาไปข้างหน้าทีละก้าวทีละก้าว เหลืออีกนิดเดียวขาของเขาก็จะก้าวพ้นขอบดาดฟ้าของตัวตึกนี้แล้ว
แต่จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลัง ทำให้เขาชะงักเท้าเอาไว้ได้ทันก่อนที่อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นตัวของเขาก็จะหล่นลงไปยังพื้นถนนเบื้องล่าง
นาทีนั้นเขาตัดสินใจหันหลังกลับและค่อยๆ เดินไปเพื่อค้นหาเจ้าของเสียงนั้นทันที
( โปรดติดตามตอนต่อไป )
ในเวลาพลบค่ำ ปรากฏร่างผอมสูงของชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาชื่อสนหรือสนธยา หน้าตาท่าทางของเขาดูอิดโรยไร้เรี่ยวแรง
เขาเดินอย่างช้าๆ ไปตามถนนไม่ได้สนใจผู้คนที่เดินขวักไขว่ผ่านไปมาและไม่มีใครสนใจเขาเลยแม้แต่คนเดียวเช่นกัน
ในใจของเขาคิดแต่เพียงว่า วันนี้เขาไม่อยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกห่วยๆ ใบนี้แล้วเท่านั้น เขาเดินคอตกไปเรื่อยๆ
วันนี้ช่างเป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิตของเขาตั้งแต่เขาลืมตาดูโลกใบนี้ ตอนเช้าขณะที่เขาเดินออกมาซื้อของหน้าปากซอย เขาก็โดนจับข้อหามียาเสพติดในกระเป๋ากางเกงของเขา
ทั้งๆ ที่อยู่ๆ ก็มีขี้ยาที่ไหนไม่รู้วิ่งมายัดของกลางใส่กางเกงของเขาแล้ววิ่งหนีไป ทำให้เขาเกือบจะต้องติดคุกฟรี
กว่าจะมีเพื่อนมาช่วยประกันตัวและยืนยันความบริสุทธิ์ให้เขา เขาก็ถูกถ่ายทอดสดออกอากาศข่าวไปตามสื่อต่างๆ แล้ว
พอไปทำงานตอนเช้า เขาก็ถูกเจ้านายไล่ออกจากงาน โดยอ้างว่าเขาทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงอีก
ตกงานยังไม่พอแถมถูกด่าอย่างสาดเสียเทเสียจากเจ้านายที่จ้องจะจับผิดและเตรียมหาเรื่องจะไล่เขาออกอยู่แล้ว
เพียงเพราะเขาไปรู้เรื่องบ้านเล็กบ้านน้อยของเจ้านายเข้าโดยบังเอิญ พอออกมาจากที่ทำงานเฮงซวยนั่นแล้ว เขาก็ยังโดนจี้เอากระเป๋าเงินไปจนหมดตัวอีก
ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งถอนเงินสดก้อนสุดท้ายออกมาเพื่อจะไปจ่ายค่าเช่าบ้านซึ่งผัดผ่อนมาจนถึงเส้นตายที่ถูกยื่นคำขาดว่าหากไม่จ่ายภายในวันนี้เขาจะถูกไล่ตะเพิดให้ไปนอนข้างถนน
ยังไม่พอ พ่อกับแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดเพิ่งจะโทรมาบอกว่าน้องชายตัวแสบที่กำลังเรียนช่างเทคนิคอยู่ ถูกจับข้อหายกพวกตีกันกับนักเรียนต่างโรงเรียนให้เขาส่งเงินไปให้เพื่อประกันตัวน้องชายโดยด่วนอีก
ไม่หมดเท่านั้นเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหนักเข้าไปอีก เพื่อนสนิทที่เป็นเหมือนเพื่อนตายที่มาประกันตัวให้เขาเมื่อเช้า ซึ่งคบกันมาเกือบ 10 ปี ยังมาประกาศตัดเพื่อนกับเขา
เพียงเพราะเข้าใจผิดว่าเขาไปมีสัมพันธ์กับแฟนสาวของเพื่อน โดยไม่ฟังคำอธิบายของเขาเลยแม้แต่น้อย
ความซวยล่าสุดที่เขาเจอคือโดนนักเลงหัวไม้ประจำซอยดักรุมกระทืบเขา เพียงเพราะหมั่นไส้เขาเท่านั้นเอง
ทำให้เขาต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนแทบเอาตัวไม่รอด ชายหนุ่มได้แต่นึกถึงความซวยและปัญหาต่างๆ ที่ประดังประเดรุมเร้าเข้ามาตลอดทั้งวัน
จนแทบไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้เดินขึ้นมาถึงดาดฟ้าของตึกสูงแห่งหนึ่ง เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว
เขาไม่รู้ว่าเดินขึ้นมาถึงที่นี่ได้อย่างไรกัน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่
แต่เพราะปัญหาหลายอย่างและความซวยต่างๆ ตลอดทั้งวันที่เขาพบเจอ
ทำให้เขาตัดสินใจเดินไปที่ขอบตึกและมองลงไปด้านล่างของตัวตึก ข้างล่างเริ่มมืดแล้วมองเห็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดอยู่เพียงไม่กี่คัน
เขาคิดถึงภาพพ่อกับแม่และน้องชายตัวแสบของเขาเป็นครั้งสุดท้าย และได้แต่รำพึงรำพันในใจว่า
“ลาก่อนทุกคน จบสิ้นกันไปเสียที สำหรับชีวิตเฮงซวยของผู้ชายไร้ค่าคนนี้”
ชายหนุ่มค่อยๆ ก้าวขาไปข้างหน้าทีละก้าวทีละก้าว เหลืออีกนิดเดียวขาของเขาก็จะก้าวพ้นขอบดาดฟ้าของตัวตึกนี้แล้ว
แต่จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลัง ทำให้เขาชะงักเท้าเอาไว้ได้ทันก่อนที่อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นตัวของเขาก็จะหล่นลงไปยังพื้นถนนเบื้องล่าง
นาทีนั้นเขาตัดสินใจหันหลังกลับและค่อยๆ เดินไปเพื่อค้นหาเจ้าของเสียงนั้นทันที
( โปรดติดตามตอนต่อไป )
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ