หัวใจนี้เพื่อเธอ ตอนต่อ
2) ตอน 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่สาม
หลังจากที่พายได้รับอีเมลแจ้งวันนัดหมายกับท่านประธาน ในเนื้อความอีเมลนั้นแจ้งรายละเอียดวันเวลา โดยสถานที่ถูกกำหนดเป็นที่บ้านของท่านประธานเอง ซึ่งได้แนบไฟล์แผนที่ทางไปบ้านท่านประธานมาโดยละเอียด เหลืออีกแค่ไม่กี่วันก็จะถึงวันนัด พายจึงเร่งเตรียมเอกสาร ที่จะใช้ในการนำเสนอโครงการนี้กับท่านประธาน ปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายแล้วที่เขาจะได้ร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ พายเป็นเด็กกำพราซึ่งพ่อและแม่ของบีเป็นผู้อุปการะเขามาตั้งแต่เมื่อครั้งที่พ่อและแม่ของพายประสบอุบัติเหตุ เครื่องบินตกตอนไปสัมมนาที่ภูเก็ต เมื่อสิบสี่ปีก่อน ตั้งแต่นั่นมาพายและบีก็ดูแลกันมาเปรียบเสมือนพี่น้อง และเพื่อนสนิทนี่จึงกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทั้งสองสนิทกันมากจนบางที่ความสนิทสนมนี้เป็นสาเหตุให้คนใกล้ตัวของทั้งสองเข้าใจผิด แต่ทั้งสองสนิทกันเกินกว่าที่จะคิดอะไรไปมากกว่าคำว่า”เพื่อน” คืนนี้พายนั่งทำงานจนดึกโดยมีบีนั่งอ่านหนังสืออยู่เป็นเพื่อนทั้งคืน ใกล้สอบมิดเทอมบีจึงต้องขยันมากขึ้น นี้จึงเป็นสาเหตุให้บีมีเวลาอยู่ติดห้องเยอะขึ้น แต่กลับเป็นพายที่ถึงแม้จะอยู่ห้องเดียวกันกลับไม่ค่อยมีเวลาสนใจอีกฝ่ายมากนัก เพราะทั้งงานที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทและงานกิจกรรมในมหาวิทยาลัย ตลอดจนโปเจ๊กงานที่พายจะต้องส่งก่อนสอบ ซึ่งเขาจะเอางานที่ชนะประกวนนักออกแบบมือใหม่มาส่งซึ่งจะมีปรับเปลี่ยนบางจุดเพื่อนให้งานตรงตามโจทย์ที่อาจารย์ให้ไว้
“นอนก่อนนะพาย” บีวางหนังสือบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา ก่อนจะปีนขึ้นเตียงนอนไป
พายหันมามองเพื่อน ที่ค่อยๆย้ายร่างที่เกือบจะหมดแรงขึ้นเตียงนอน ผลจากอาการอดหลับอดนอนอ่านหนังสือเตรียมสอบ “บี แกทำดีดีไม่ได้เหรอวะ ให้มันเป็นผู้หญิงหน่อย” คนโดนบ่นเพียงแค่ชูมือไปมาเป็นเชิงบอกว่า “อย่าพึ่งมาพูดไรตอนนี้ เพราะฉันฟังไม่รู้เรื่องแล้ว ง่วงๆมาก”โดยที่หน้าซุกอยู่ได้ผ้าห่มผืนหนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กว่าที่พายจะเคลียร์งานเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบสว่าง ดีที่วันนี้มีเรียนบ่าย พายรวบม้วนงานใส่ในกระบอกซูมใส่แบบ ดินสอ พิกม่า ไม้สเกล ไม่ฉากอุปกรณ์ต่างๆถูกจัดเข้าที่ตามเดิน เขาปิดไฟที่โครมไฟโต๊ะเขียนแบบก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงอีกฝากของเตียงนอน บียังม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา ด้วยความง่วงขอตัวเองนำพาเอาร่างของตนหลับไหลตามคนที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆไป
โทรศัพท์มือถือส่งเสียงขึ้นในตอนสายแก่ๆของอีกวัน จนทำให้คนที่ยังหลับสนิทค่อยๆพลิกตัว มือที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มค่อยๆโผลออกมา เพื่อควานหาต้นต่อเสียงนั้น ก่อนที่จะกดรับ
“โหลๆ สวัสดีครับ” พายกอกเสียงงัวเงียบลงไปในสาย
“ไอ้ห่าพาย คุณมึงจะมาไหมนี่” ปูนบ่นเพื่อน
“เออๆ กี่โมงแล้ววะปูน” พายยังงัวเงีย
“นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ จะมาส่งงานไหมนี่” ปูนบ่นอีก
“เออไปสิ แปป เมื่อคืนเคลียร์งานดึกไปหน่อยวะ” พายลุกจากที่นอนคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่เตียงโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกดวางหูไปหรือยัง
“เห้ย! พาย พาย ได้ยินไหมนี่ ไอ้ห่านิ” ปูนบ่นอีก
หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวจนเรียบร้อยใช้เวลากว่า20 นาที เขาก็พายวิ่งลงบันไดรถไฟฟ้าอย่างกระหืดกระหอบ ปกติแล้วพายไม่ใช่คนขี้เซาที่จะนอนไม่รู้เวลาแบบนี้แต่ช่วงหลังๆงานที่เข้ามาเยอะเหลือเกิน จนเป็นสาเหตุให้ระบบการใช้ชีวิตของพายผิดสมดุลไปนิด พายวิ่งรัดตัดถนนเข้าไปที่ประตูด้านข้างของมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังเหลือระยะทางที่ไกลพอสมควรกว่าที่จะไปถึงคณะ
เข็มนาฬิกาแสดงให้รู้ว่าอีก 5 นาทีจะบ่ายโมงตรงซึ่งพายมีเรียนตอน บ่ายโมง สิบห้า พายมาถึงหน้าคณะอย่างฉิวเฉียด เขาควานหากุญแจล๊อคเกอร์ ในเป้โดยไม่ได้มองทางจังหวะที่กำลังวิ่งขึ้นบันได ร่างบางๆของใครบางคนก็โผลมาเป็นเหตุให้ พายวิ่งชนร่างนั้นไปเต็มๆ จนอีกฝ่ายเซจนเกือบล้มดีที่เขายังมือไวคว้าเอวของร่างนั้นไว้ได้พอดี
“โอ้ย นี่คุณจะรีบไปไหน” เสียคุ้นๆบ่นออกมาด้วยความโมโหและตกใจ
“โอ้ย คุณอย่าดิ้นสิและก็เลิกโวยวายได้แล้ว ผมขอโทษ” เขากล่าวอย่างรู้ด้วยว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด อีกฝ่ายพยายามจะผลัดเขาออก
“นิคุณ เดี๋ยวก็ตกลงไปหลอก ที่นี้ไม่เกี่ยวกับผมแล้วนะ เพราะคุณทำตัวเอง” พายยังไม่วายกวนประสาทอีกฝ่ายกลับ ดวงตาคมใสจองไปที่เธอตรงหน้า เพื่อให้สะกดให้เธอที่พยายามจะดิ้นให้หยุดนิ่ง ดูๆแล้วก็น่ารักดีนะ แต่ถ้าลดความเอาแต่ใจ ลงอีกนิดก็คงจะดี
“แล้วมือ จะปล่อยได้ยังหล่ะ โอ้ยๆออกไปนะ” สาวน้อยหน้าบึ้งตรงหน้าบ่นก่อนที่จะใช้มือผลักอกชายตรงหน้าได้ออกไป จนเขาสะดุ้งออกจากภวังค์
“ได้ๆ คุณก็หยุดดิ้นสักที เดี๋ยวก็ตกบันได้กันทั้งสองคนนี่แหละ ไม่น่าช่วยไว้เลย” พายบ่นทั้งที่รู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด เพราะเธอตรงหน้าทำให้เอาอยากที่จะเอาชนะเธอตลอดเวลา ไม่รู้เป็นอะไร ใบหน้าบึ้งๆก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
“คุณเป็นฝ่ายมาชนฉันนะ แล้วจะมาทวงบุญคุณอะไรกัน คุณนั่นแหละต้องขอโทษฉัน” ฟ้าตำหนิใหญ่ ระหว่างที่ทั้งสองกำลังประชันกลยุทธ์กันอยู่ในท่าที่มือของพายยังประคองร่างหญิงสาวไว้อยู่
“ไอ้พายมัวทะ ทะ ทำอะไรอยู่......ว้า” น้ำเสียเบรกแทบไม่ทัน วี อุ๊และปูน ทำหน้าเหว๋อเมื่อเห็นทั้งสอง ตอนนี้พายเอามือออกจากฟ้าอย่างรวดเร็ว ส่วนฝ่ายหญิงสาวพยายามนำตัวเองกลับมายืนในท่าที่ปกติที่สุด แต่ถึงอย่างไรใบหน้าของเธอก็ยังหลงเหลือร่องรอยอาการขวยเขิน ก่อนที่จะเดินกึ่งวิ่งลงบันไดไป
“อะไร อะไรกันสองนี้คนนี้ ว่าไง พาย มันเกิดอะไรขึ้น อ่ะอ๊ะ หรือว่า” พายคว้าคอเพื่อนมาปิดปากเพราะรู้ว่า เพื่อนจะพูดอะไร
“ไปเลยรีบไปเรียนกัน ไม่มีอะไรเลย พูดไปน้องเค้าจะเสียหาย อีกอย่างฉันเดินไปชนเค้าก่อน เค้าจะล้มฉันเลยคว้าเอวเขาไว้แบบไม่ได้ตั้งใจ” แม้จะอธบายไปแล้วเพื่อนทั้งสามก็ยังไม่วายหยุดแซวเขา
“อ๋อเหรอ เออๆพวกกูจะเชื่อแล้วกัน” เพื่อนทั้งสามหันมามองหน้ากันอย่างมีนัย ประมาณว่า “มืงชอบน้องเค้าอะดิ ไอ้พาย”
เขาตัดบทโดยการวิ่งขึ้นบันไดไป อีกฝ่ายหลังจากที่พบเจอเหตุการณ์ที่ไม่พึ่งประสงค์มามาทๆ ฟ้าเดินบ่นกับตัวเองตลอดทาง
“ตาขี้เก๊กบ้า เดินชนฉันแล้วยังจะมาหาว่าฉันผิดอีก ตัวเองเป็นฝ่ายผิดแท้ๆ ใช่สิถือว่าตัวเองเป็นรุ่นพี่ เป็นประธานคณะเหรอ ถ้าเจอเมื่อไหร่นะ นายตายแน่นายพาย” ฟ้าพูดขณะที่เผลอแย้มยิ้มนิดๆเมื่อแวบของดวงตาประกายคู่นั้นเกิดขึ้นมาในหัวของเธอ “แต่ถ้าเขาไม่กวนประสาทแบบนี้คงจะ........”
“นี่ยายฟ้า มาเดินละเมอยิ้มอะไรตรงนี้ย่ะ” นุชเพื่อนสนิททักขณะที่ใช้มือตีบ่าเพื่อนเป็นการสะกิดเบาๆ
ฟ้าสะดุ้ง จนภาพที่แวบเข้ามากกระเจิงหายไป “ป่าวนิไม่ได้ละเมอสักหน่อย ยายนุช” ก่อนจะตีหน้ายักษ์ใสเพื่อนสนิท จนอีกฝ่ายต้องฉงน “นี่...ยายฟ้า ฉันเพื่อนแกนะ แกเป็นอะไรทำไมจะไม่รู้ เดี๋ยวนี้มีความลับหรือไง” นุชคะยั่นคะยอ จนอีกฝ่ายต้องหันหน้าหนีเพราะไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไร
ขณะที่ พาย วี อุ๊ และปูนนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียน ไม่วายที่เพื่อนทั้งสามจะสุมหัวเปิดประเด็นเรื่องที่พึ่งจะประสบพบเจอกันมา
“พวกมืงว่า มันต้องมีเงื่อนงำวะ ระหว่าง น้องฟ้าคนงาม กับ ไอ้พาย กูว่าชัวร์” อุ๊เปิดประเด็นแบบฟันธง หมอลักษณ์ เลขานิเทศ
“อือ กูเห็นเห็นด้วย แม่งต้องมีอะไรในใจกันแน่เลย ประมาณว่ามี Something in my heart. อะไรประมาณนั้น “ เมื่อวีกล่าวจบ ทั้งสองหันมาทำหน้าเหยียดใส่กัน เพราะสำเนียงภาอังกฤษที่เพื่อนเพิ่งพูดออกมา
“โถ่ ไอ้ฝรั่งใหญ่ เดี๋ยวกูถีบ ไม่น่าพูดนะ” ปูนบ่นเพื่อน
“เอ้ย อย่าพึ่งเถียงกัน เข้าประเด็นก่อน แต่กูว่า คนของเรามีใจให้เขาวะ ชัวร์ “ อุ๊ย้ำความคิด
“แหม! คิดจะสอยดาวเลยเพื่อนกู ไม่ใช้ดาวธรรมดานะ ดาวคณะ” วีเพิ่มความคิด ทั้งสามหัวเราะ จนทำให้คนที่กำลังเป็นเป้าในการนินทาครั้งนี้หันมามอง แกมสงสัย พายยื้นหน้าเข้ามาใกล้ๆเพื่อนทั้งสาม ก่อนจะพูดว่า
“เออ! คุณพวกมึง กำลังนินทากูอยู่ใช่ไหม กูบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร ก็ไม่มีสิ น้องเค้าจะเสียหายไหม โตๆกันแล้ว เรื่องนี้ใครรู้ไปมันดีซะที่ไหน “ พายบ่นเพื่อนไปหนึ่งกัณฑ์ จนเพื่อนทำหน้าสลด
“กุรู้แต่พวกกูไม่ได้พูดเรื่องนั่นสักหน่อย มึงร้อนตัวนะนี่พาย” วีย้อนจนอีกฝ่ายทำหน้าพิรุธ
“ป่าว “ พายพูดแก้เขินก่อนจะหันไปสนใจกับแบบงานตรงหน้า
“กูว่าชัวร์และ ห่าพายมีใจชัวร์ กูพันธง ใครเห็นด้วยโปรด กด like ” อุ๊ยังไม่วายเล่นมุข ทั้งสามหัวเราะคลิกคัก จนอาจารย์ต้องทำสียง จุ๊ๆ เป็นการเตือนไม่ให้ส่งเสียงรบกวนเพื่อนในห้องที่เหลือ
“งั่นเราค่อยช่วยมันกันดีกว่า เพื่อนเราจะได้มีแฟนสักที่ ไอ้ห่าเรียนมา 5ปี ไม่มีแฟนสักคน มันก็ไม่ได้ขีเหร่อะไร” วีบ่นเสริม
“ขีเหร่เหรอ มึงกล้าใช้คำนี้กับเพื่อน ไอ้พาย นิ เทพบุตรแล้ว ถ้ากูหล่อแบบมันนะ กูมีแฟนไปนานแล้ว ไม่มาทนเหงากับพวกมึงแบบนี้หรอก” อุ๊กล่าว คนที่เหลือเห็นด้วยกับความคิดนี้ เพราะตั้งแต่เรียนด้วยกันมา สาวๆทั้งในคณะต่างคณะ พากันแวะเวียนมาขายขนมจีบให้พายกันไม่ขาด ยิ่งวัน วาเลนไทน์ ทั้งดอกไม้และช็อกโกแลตหอบกลับกันไม่หวัดไม่ไหวเลยที่เดียว กลับเป็นเจ้าตัวที่ไม่เคยสนใจในเรื่องพวกนี้เลย ถึงกลับมีคนสงสัยว่าเขาเป็นเกย์ด้วยซ้ำ
แต่มาวันนี้ พายกลับมีปฎิกิริยาต่อใครบางคน ใครบางคนที่ ทำให้หัวใจที่หนักแน่นของพายสั่นไหว จะเป็นน้ำที่มาละลายใจชายคนนี้ที่เย็นชามานาน “รัก” จะเป็นแบบไหนต่อไปนะ คำถามที่เพื่อนทั้งสามทิ้งท้าย (ต่อตอนหน้า)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ