คาริเนร่า เทพแห่งสายฟ้า

10.0

เขียนโดย เอบาย

วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 00.21 น.

  5 ตอน
  17 วิจารณ์
  13.76K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) คู่อริ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
            “พี่สาวฮะ พี่สาว” เด็กน้อยที่เดินตามเรียกเธอที่เดินนำหน้าให้หยุดเดินแล้วหันมามองส่งแววตามองแทนคำถามว่า ‘มีอะไร’
            “พี่สาวจะให้ผมเอาเงินไปคืนจริงๆเหรอฮะ”             “อืม...หรือเธอจะเก็บไว้ล่ะ”             “เปล่านะฮะ ผมแค่...ผม...ไม่กล้า”แล้วเด็กน้อยก็ก้มหน้าตัวเองมองตรงไปยังพื้นที่ยืน             “เป็นลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับสิถึงจะถูก” เนร่าพูด  แล้วเธอก็คว้ามือเด็กน้อยมาก่อนจะเอากระเป๋าเงินของหญิงชรายัดใส่มือเด็กน้อย" ไม่เป็นไรหรอกเวลาเอาไปคืนเดี๋ยวฉันช่วยอธิบาย" เมื่อเด็กน้อยพยักหน้ารับเนร่าก็ทำท่าจะเดินนำทางเด็กน้อย             “พี่สาวฮะ”เด็กน้อยเรียกให้เธอต้องหันกลับมาสนใจอีกครั้ง   “แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี”             “กลัว...กลัวอะไร”           “พี่พวกนั้นคงจะหาทางรังแกผมหนักกว่าเดิมแน่”แล้วเด็กน้อยก็เริ่มออกอาการซึมไปอีก             “เธอจะไปกลัวอะไรกับพวกนั้น ทำไมไม่สู้ล่ะ”             “ผมสู้ไม่ได้หรอกฮะ”             “ลองแล้วเหรอ”              “เอ่อ...ยังฮะ”
 
 “เห็นไหมล่ะ  ไม่ลองแล้วจะรู้หรอ”             “แต่ผมก็รู้ว่าถึงผมสู้ ผมก็สู้พวกเขาไม่ได้”             “ก็เธอมันอ่อนแอไม่รู้จักความเข้มแข็ง  ถ้าเธอไม่อ่อนแอให้ใครเห็นเธอก็คงไม่ถูกรังแกหรอก” เนร่าเดินไปจับไหล่ทั้งสองข้างของเด็กน้อยให้เงยหน้ามามองเธอ  “เชื่อสิถ้าเธอเข้มแข็งเธอจะไม่ถูกใครรังแก   ลองยืนหยัดสู้ด้วยตัวเองดูสิแล้วเธอจะรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด”  มือข้างหนึ่งของเนร่าแบออกก่อนที่เธอจะร่ายเวทเรียกอะไรบางอย่างให้โผล่ขึ้นมา “อะนี่  ฉันให้”เด็กน้อยมองไปในมือของเนร่าที่มีโซ่ตรวนยาวเท่าแขนส่งมาให้เขา
             “นี่เป็นโซ่เวทที่ฉันได้มาระหว่างเดินทางฉันไม่ค่อยได้ใช้หรอก โซ่เส้นนี้สามารถทำตามคำสั่งที่ผู้ครอบครองต้องการ เธอคงใช้เวทไม่เป็นเดี๋ยวฉันจะสอนเวทง่ายๆให้ก็แล้วกันแต่คงต้องเดินไปสอนไปนะ  เพราะฉันคงไม่มีเวลามากพอ”           “ฮะ ขอบคุณพี่สาวมากเลยนะฮะ” เด็กน้อยพูดขอบคุณ   เนร่าก็พยักหน้ารับก่อนจะพากันเดินเอาเงินไปคืนหญิงชราพร้อมกับสอนเวทง่ายๆให้เด็กน้อยไปด้วย
 
          เมื่อเนร่าจัดการเรื่องวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้นเสร็จ  ก็รีบมุ่งหน้าตรงไปยังโรงเรียนเวทมนตร์ทันที     หลังจากเสียเวลามามาก จนตอนนี้เวลาเที่ยงพอดี ซึ่งคงจะเป็นเวลาพักทานอาหารของคนรับสมัครเข้าเรียน และในที่สุดเนร่าก็มาถึงหน้าประตูโรงเรียนซักที
            เธอเดินเข้ามาด้านในโรงเรียนบริเวณลานกว้างแห่งหนึ่ง  ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนรุ่นราวคราวเดียวกันที่เข้ามาสมัครเรียนที่นี่ เธอสังเกตเห็นว่ามีนักเรียนที่ยังไม่ได้สมัครเป็นจำนวนมากยืนต่อแถวกันรอคนรับสมัครมา  และเธอเองก็กำลังจะไปต่อแถวเช่นกัน แต่อยู่ๆ
 
            “โอ๊ย....!!” ไม่รู้วันนี้เป็นวันอะไรถึงได้มีแต่เรื่อง  เพราะตอนนี้เธอเดินไปชนกับใครเข้าก็ไม่รู้ “อืมขอโทษ”เนร่ากล่าวขอโทษก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เธอชนก็ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว “นะ...นาย”เนร่าพูดติดๆขัดๆ
 
            “ซุ่มซ่าม”คำเดียวที่ชายหนุ่มในวัยเดียวกันตรงหน้าเอ่ยออกมา ดวงตาของเขาสีดำสนิทกับทรงผมสีทองที่ซอยเป็นทรงเข้ากันอย่างดี บวกกับใบหน้าขาวเนียนดูดี เข้ากับร่างที่ดูสูงโปร่งเป็นสง่าเวลามอง
 
“นายมาที่นี่ได้ไง”เนร่าถามด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
 
            “แล้วเธอคิดว่าฉันจะมายังไงล่ะ”  นั่นเป็นคำตอบที่เนร่านึกแล้วอยากจะบีบคอคนบางคนให้ตายเสียให้ได้ ขณะที่ชายหนุ่มตรงหน้าเดินตรงไปต่อแถวอย่างไม่สนใจใคร แล้วเนร่าเองก็เดินไปต่อข้างหลังเขาเช่นกันด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่   ในใจก็คิดไปว่า ไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าจะได้เจอคนๆนี้อีก  คนนิสัยไม่ดีพอนึกไปถึงเรื่องเมื่อต้นปีที่แล้ว ที่เธอเห็นหมอนี่กำลังสู้อยู่กับโจรป่าอยู่   เธอก็เลยหวังดีเห็นว่าโจรป่ามีหลายคนก็เลยเข้าไปช่วย   แต่พอจัดการพวกโจรนั้นเสร็จแล้วแทนที่จะขอบคุณ   ดันมาบอกว่าคราวหลัง ‘ไม่ต้องยุ่ง’ ‘เออใช่สิ  ฉันมันผิดเองที่ไปจุ้นยุ่งเรื่องของชาวบ้านเพราะหวังดี   ในตอนนั้นฉันคิดว่าจะจำหน้านายคนนี้ไม่ลืมเลย   ถ้าเจอที่ไหนก็อย่ามาพูดดีกัน แต่แล้วฉันก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอหมอนี่ที่นี่’
 
            และในที่สุดเนร่าก็ได้สมัครเข้าเรียนจนตอนนี้เวลาก็ประมาณบ่ายสองโมง หลังจากกรอกใบสมัครเสร็จเธอได้รับใบกำหนดการมาอ่าน ในกำหนดการมีการสอบสองรอบ รอบแรกเป็นการสอบการวัดฝีมือตอนสองทุ่มคืนนี้   ที่โรงเรียนถ้าสอบผ่านรอบแรกก็จะมีสิทธิ์สอบรอบที่สองซึ่งเป็นการสอบข้อเขียนวัดความรู้
            ตอนนี้สามโมงแล้วตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย เหอะ...นึกแล้วก็ต้องเปลืองเงินอีก กว่าที่เธอจะได้เงินแต่ละครั้งต้องเหนื่อยเสียพลังเวทไปมากในการทำงานแลกค่าจ้างต่างๆ เวลานี้เธอเดินกลับเข้ามาในเมืองอีกครั้งเพื่อหาอะไรใส่ท้อง  แต่ขณะเดินไปนั้นสายตาเธอมองไปเห็นซอกซอยเดิมที่เธอเคยเจอกับพวกอันธพาลที่นั่น   แต่แล้วก็พบกับชายอันธพาลสามคนกลุ่มเดิมที่กำลังรุมร่างของใครคนหนึ่งอยู่ในซอยนั้น    เนร่าเห็นจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย
 
            “นั่นพวกแกกำลังทำอะไร”เนร่าตระโกนขึ้น ทำให้สามคนนั้นหยุดการกระทำดังกล่าว เผยให้เห็นร่างของเด็กน้อยคนเมื่อเช้าที่นอนเจ็บหนักเพราะถูกชายหนุ่มอันธพาลพวกนี้รุมซ้อม
 
            “นี่เธออีกแล้วเหรอ จะมาขัดขวางอีกละสิ”ชายที่ชื่อนิกคนเดิมพูด
 
            “นี่พวกแกยังไม่เลิกทำชั่วอีกงั้นเหรอ” เนร่ามองชายตรงหน้าก่อนจะมองไปเห็นโซ่ตรวนเส้นหนึ่งอยู่ในมือของนิก เธอจำได้ดีว่านั่นเป็นโซ่เวทที่เธอเพิ่งให้เด็กน้อยคนนั้นไป แล้วเลือดในกายอยู่ๆมันก็เดือดปุดๆขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ
 
            “นั่นโซ่ของฉัน” น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณจนดูจะสะกดสิ่งมีชีวิตให้หยุดนิ่งได้ ในขณะที่สีหน้าของเนร่ายังนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น
 
            “หรอ... นี่ของน้องเหรอไม่เห็นมีชื่อติดไว้เลย” เพื่อนอีกคนของนิกพูดบ้างยังไม่รู้สึกอะไร (เดี๋ยวไม่มีบทบาทโดนนิกแย่งหมด)
 
            “ก็ได้ งั้นมาเล่นเกมกัน”เนร่ายิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย
 
            “เกมอะไร”คนที่เคยห้ามนิกตอนแรกถาม
 
            “ถ้าชนะฉันได้ ฉันจะทำตามคำสั่งพวกแก แต่ถ้าพวกแกแพ้ฉัน แกจะต้องไม่ยุ่งกับเด็กคนนี้หรือเด็กคนไหนๆอีกและก็เลิกทำตัวแบบนี้ให้ฉันเห็น   แล้วข้อสุดท้ายคืนโซ่นั่นมาให้ฉัน  เดี๋ยว...นี้”  เนร่าเริ่มประกาศสงครามท้าทายชายหนุ่มก่อน ชายทั้งสามหันมองหันกัน
 
            “มันไม่มากไปหน่อยเหรอ”นิกพูด
 
            “มันไม่มากเลยด้วยซ้ำกับการที่ฉันจะต้องเสี่ยงเป็นทาสของพวกแก หรือพวกแกไม่กล้า ฮะ”ในความคิดของเนร่าถ้าพูดคำแบบนี้ออกไปรับรองต้องตอบตกลงแน่นอน
 
            “ใครว่าฉันไม่กล้ามาสิมาลองกันซักตั้ง แต่ต้องมีกติกานะ”นิกพูดเสนอ
 
            “ตั้งมาได้เลย”เนร่าตอบรับอย่างไม่รีรอ
 
            “กติกาห้ามใช้พลังเวท ใช้อาวุธได้สู้กันหนึ่งต่อหนึ่ง”
 
            “หนึ่งต่อหนึ่งเสียเวลา สู้เข้ามาทีเดียวเลยไม่ได้เหรอ”
 
            “หน๊อย!! มันจะไม่ดูถูกกันไปหน่อยเหรอ”
 
        “ฉันไม่ได้ดูผิดซักหน่อย”(ยังเป็นฝ่ายไปพูดยั่วอีก เหอะๆเนร่าของเรา)
 
            “ก็ได้กติกามีข้อเดียวให้ใช้อาวุธเพียงอย่างเดียว”ชายที่เคยห้ามนิกไว้พูด
        “แล้วจะเริ่มเลยรึยัง”ชายอีกคนถาม
 
            “แล้วแต่พวกแก คิดว่าสมควรจะเริ่มตอนไหน”เนร่าบอกพลางกลอกลูกตากลิ้งไปมาอย่างน่าเบื่อว่าเริ่มตอนนี้เลยไม่ได้หรือไงชักช้าคนกำลังหิว
 
            “ก็ได้งั้นฉันเริ่มเอง ไม่สนแล้วว่าเธอจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แค่ชนะได้เป็นพอ”ชายที่เคยห้ามนิกพูด
 
            นิกใช้โซ่ที่อยู่ในมือนั้นเป็นอาวุธแทน เขาสะบัดปลายโซ่ให้ฟาดไปที่กำแพงก่อนเป็นการข่มขวัญ  แต่มันไม่มีผลอะไรกับเนร่าที่เอาแต่ส่งยิ้มเลยแม้แต่น้อย
 
            ฟืบ!! ปัง!!
        โซ่นั้นถูกฟาดไปหาเนร่า ในชั่ววินาทีนั้นเนร่าก็ตีรังกากลับถอยไปสองตลบ แล้วกลับมายืนทรงตัวได้อย่างสง่างาม ทำให้โซ่ตรวนที่ฟาดมาถูกเหวี่ยงไปโดนเข้ากับกำแพงจนชิ้นส่วนบางชิ้นหลุดออกมา  ความแรงของโซ่นั้นวัดได้จากรอยลึกประมาณสองเซ็นที่ปะทะเข้ากับกำแพงซึ่งมันก็มากอยู่กับพละกำลังของชายตรงหน้าเนร่านี้
 
            ฟืบ!! หมับ...
            โซ่เส้นเดิมในมือนิกฟาดใส่เนร่าอีกครั้ง คราวนี้เนร่าไม่ถอยหนีแต่กลับคว้าปลายโซ่นั้นได้อย่างง่ายดายโดยไม่สะทกสะท้านผิวหนังสักนิด
 
            “คราวนี้ตาฉันบ้างนะ”เนร่ายกมุมปากให้ยิ้มกว้างขึ้น เหมือนเธอจะสนุกมากกว่าเกมที่เธอตั้งกฎไว้ซะอีก หลังจากจบคำพูดเนร่าก็ใช้มือที่จับปลายโซ่นั้นสะบัดขึ้นลงสองครั้ง
            ^_^  !!////*!! O/O
“โอ๊ย!!...”ปลายโซ่ที่ถูกเนร่าสะบัดนั้นเคลื่อนไหวไปมาเหมือนงูจนมาถึงมือของนิกโซ่นั้นถูกกระชากหลุดและกลับมาฟาดมือเขาอย่างแรง ก่อนที่สายโซ่จะถูกสะบัดกลับไปคล้องที่แขนของเนร่า
 
        “ผู้ที่จะเป็นเจ้าของเท่านั้นที่ใช้เป็น แต่ฉันก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอกนะ อาจจะใช้กันจริงๆจังๆก็วันนี้แหละ”เนร่าก้มไปมองสายโซ่ที่คล้องแขนตนอยู่แล้วหันมามองชายหนุ่มอันธพาลอีกครั้ง “เอาล่ะไม่มีอาวุธแล้วทีนี้จะใช้อะไรแทนล่ะ”
 
            “พวกเราไม่ได้มีแค่โซ่กระจอกกระจอกนั่นอย่างเดียวซักหน่อย”เพื่อนนิกอีกคนพูด
 
            “อ๊ะ  อ๊ะ อย่าพูดแบบนั้นบางทีโซ่กระจอกเส้นนี้อาจจะล้มพวกแกได้ก็ได้นะ”
 
            “นังเด็กอวดดี แกอย่าอยู่เลย”เพื่อนของนิกที่พูดเมื่อกี้ร่ายเวทเรียกดาบขึ้นมา
 
            “เอ๊ะ...ตอนแรกเห็นเรียกน้องสาวอยู่แล้วไหงเปลี่ยนสรรพนามซะงั้น”เนร่ากวนประสาทชายหนุ่มที่เดินมาหาเธอช้าๆ มือที่ถือดาบนั้นกางออกห่างจากตัว
 
            ฟิ้ว !! ฉึก!!
        เพียงไม่กี่วินาทีที่ชายหนุ่มบิดข้อมือที่ถือดาบเล็กน้อยให้หงายขึ้น   บางสิ่งบางอย่างที่เนร่ามองไม่เห็นก็พุ่งแหวกอากาศมาหาเธอ ส่วนประสาทสัมผัสของเธอทำให้เธอกระโดดหลบสิ่งนั้น แต่ก็ยังถูกสิ่งนั้นเฉี่ยวเข้าที่แขนด้านซ้ายจนเกิดลอยแผลเล็กๆ จนเรียกให้เลือดสดไหลออกมาอย่างช้าๆ
 
            “เป็นไงยังจะปากดีอยู่อีกไหม”ชายคนนั้นพูดหลังจากเนร่ามองแผลที่แขนตนแล้วหันไปมองเขาแทน สีหน้าของเธอไม่มีแม้แต่ความเจ็บปวดมีแต่ดวงตาที่ดูแล้วเหมือนกำลังจะเปลี่ยนสีให้อ่อนลงจนเกือบจะขาวเต็มที
 
            “ทำได้แค่นี้น่ะเหรอ”คำพูดเย็นชากลับมาอีกครั้งพร้อมกับร่างของเธอที่เดินตรงเข้าไปหายชายหนุ่ม  ที่เผลอถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างประหม่าเมื่อสมองนึกกลัวขึ้นมาเฉยๆ แต่เขาก็ตั้งสติใหม่แล้วไล่ความคิดต่างๆนาๆออกไปเขากางดาบออกอีกครั้ง
 
            ฟิ้ว!! เป้ง!!
          ชายหนุ่มบีดข้อมืออีกครั้งสิ่งมีคมที่มองไม่เห็นก็พุ่งหาเนร่าทันทีเธอรับรู้ถึงบางสิ่งที่เคลื่อนไหวนั้นก่อนจะยกสายโซ่ให้สูงขึ้นตั้งฉากกับพื้นทางด้านหน้าของเธอ แล้วสิ่งนั้นก็ปะทะกับสายโซ่พอดีจนเกิดเป็นประกายไฟเล็กๆ
 
            “มะ ...มองเห็นด้วยเหรอ”ชายหนุ่มรู้สึกงง
 
            “อย่าอยู่เลย...”เนร่าพูดขึ้นมือเธอตวัดโซ่ไปข้างหลังก่อนจะตวัดกลับมาใส่ร่างของชายที่ถือดาบตรงหน้าอย่างจัง
 
            “อ๊ากกกก!!”ร่างทั้งร่างของชายหนุ่มกระเด็นไปกองกับพื้นตรงหน้านิกและเพื่อนอีกคนหนึ่ง ชายหนุ่มคนนั้นสลบคาที่ทันทีที่สัมผัสกับพื้น
 
            “โจ!!”นิกและเพื่อนอีกคนตระโกนเรียกชื่อชายคนนั้นพร้อมกัน
 
            “สม  ฮึ”เนร่าพูดด้วยความสะใจ  รอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากถูกส่งไปให้ร่างของคนที่ไร้สติไปแล้ว  
 
        “แก...”นิกยกดาบเล่มหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับเพื่อนอีกคน  เนร่าเองไม่รอช้าฟาดโซ่ในมือใส่ชายทั้งสองคนที่กระโดดหลบทัน
 
            วาบ....
            ในเวลาใกล้กัน  ที่เนร่าดึงโซ่กลับมา ชายอีกคนที่เธอยังไม่รู้ชื่อที่เคยอยู่ห่างจากเธอมากแต่อยู่ๆก็มาโผล่ตรงหลังเธอก่อนที่เขาจะล็อคคอเธอไว้ไว้ด้วยดาบในมือเขา
 
            “ฤทธิ์มากนักนะ ถ้าเป็นแบบนี้แล้วจะทำอะไรได้”ชายคนนี้ก้มหน้าเข้ามาพูดใกล้หูเธอที่รับรู้ได้ถึงลมหายใจเบาๆ เนร่าได้แต่ยืนนิ่งไม่ขยับตัวหรือทำสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย ขณะที่นิกเดินถือดาบมาอยู่ข้างหน้าเธอ
 
            “ไงล่ะทำอะไรไม่ได้ล่ะสิ ย้อมแพ้ซะแล้วมาเป็นทาสของฉันดีๆ หรืออาจจะเป็นมากกว่านั้นก็ได้”นิกพูดแล้วยิ้มแสยะมาให้เธอ
 
            “ไม่มีวัน ที่จะมีวันนั้น”เสียงน้อยๆเล็ดลอดออกมาตามไรฟันของเนร่าผู้มีสีหน้าไร้อารมณ์
 
            “ยังอวดดีอยู่อีกนะ งั้นฉันจะสอนความเจ็บปวดที่แท้จริงให้เธอรู้เอง” นิกเงื้อดาบขึ้นพร้อมที่จะทะลุทะลวงร่างของเด็กสาว
 
            เปี้ยง!!
            ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าที่มาจากไหนไม่รู้ผ่าลงมาใส่ร่างของนิก จนร่างทั้งร่างของเขาดูไม่ได้เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก็ขาดและมีรอยไหม้เกิดขึ้น  เพื่อนชายอีกคนที่ล็อคคอเนร่าอยู่ในอาการนิ่งตกใจว่าสายฟ้านั้นมาจากไหน ขณะนั้นเองที่เนร่าจับข้อมือชายหนุ่มที่ล็อคเธอด้วยดาบไว้  ก่อนจะพลิกตัวไปหาชายหนุ่มแล้วบิดข้อมือเขาอย่างง่ายดาย  ชายหนุ่มที่ไม่ทันระวังตัวทำให้ดาบที่อยู่ในมือนั้นหลุดออกไป พอตั้งสติได้ก็ไม่ทันแล้วเนร่าสะบัดโซ่ในมืออีกข้างมาปะทะร่างเขาอย่างแรงจนเขากระเด็นออกไปแล้วก็สลบไปในที่สุด
 
            “กระจอกอะไรขนาดนี้”เนร่าแสยะยิ้มอีกครั้งก่อนที่สายตาจะมองไปที่เด็กน้อยที่นอนสลบอยู่ข้างกำแพงข้างใน ฉับพลันสายตาของเธอก็เปลี่ยนกลับกลายมาสดใสเช่นเคย เธอเดินไปหาร่างของเด็กน้อย
 
            “นี่...”เนร่าเขย่าร่างเด็กน้อยเบาๆแต่ก็ไม่มีวี่แววที่เด็กคนนี้จะตื่นเธอจึงตัดสินใจแบกเด็กคนนี้ออกไปจากที่นี่
 
            เนร่าพาเด็กน้อยมุ่งตรงไปหาที่พักก่อน พร้อมกับสั่งอาหารให้มาส่งที่ห้องด้วย
            เมื่อเข้ามาถึงห้องเธอก็จัดการทำแผลและเช็ดตัวให้เด็กน้อยด้วยยาที่มีอยู่ในห้องพักทั่วไป หลังจากเสร็จแล้วเธอก็จัดการทำความสะอาดตัวเองบ้าง   ที่มีเพียงแผลเล็กๆแผลเดียว ขณะนั้นเองที่เด็กน้อยนั้นเริ่มรู้สึกตัวแล้วก็ขยับตัว เนร่ามองไปยังร่างเด็กน้อยที่ลืมตามาแล้ว
 
            “พี่สาว”เด็กน้อยพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาแต่ก็พอทำให้เนร่าได้ยินได้
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา