Gentleman Badboy...รักนะนายสุภาพบุรุษวายร้าย
-
3) คลุมถุงชน?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังจากที่ฉันหันไปก้มหัวให้กับทุกๆท่านที่จ้องมองมาอย่างอนาจ และกล่าวขอโทษอีก3-4รอบ แล้วทุกคนก็หันไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อ ฉันหันไปมองนายเพียวที่ยืนอยู่นิ่งๆ สีหน้าซีดเล็กน้อย เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง จึงอดไม่ได้ที่ฉันจะถามเขา
“เป็นไรของนายน่ะ”
“เอ่อ...เปล่าหรอก ไม่มีไร” ชิ! ‘เปล่าหรอกๆ’ เกลียดคำนี้ชะมัด อาการมันก็ฟ้องอยู่ยังจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นไรอีก เอ๊ะ! หรือว่าที่นายนี่หน้าซีดเพราะปวดขลี้ พอฉันมาถาม จึงไม่กล้าตอบตรงๆกลัวเสียฟอร์มเลยบอกไปว่า ไม่มีไร ....หึหึหึ อย่างนี้เองหรอ
“หนิ ถ้าปวดอ่ะ นู่น..ห้องน้ำ ไปซะสิ มายีนหนีบไว้(?) ระวังนะมันจะแข็ง(?)”
“0 0 เธอพูดแบบนี่ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไงนะ” สงสัยจะแทงใจดำล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ
“เอ้า ก็ฉันไม่ได้เป็นหนิ จะอายเพื่อไรคะ แต่ขอบอกนะอั้นไว้อ่ะ ระวังพุ่งนะจ๊ะ” โฮ่ะๆๆๆ ^0^ ฉลาดจริงๆเลยฉัน ยิ่งกว่าเชอร์ล็อคโฮมซะอีก ว่ะฮ่าๆๆๆ เดาเหตุการณ์ได้แม่นมากๆเลย ฮ่าๆๆ
“= = เอาเข้าไป ยัยบ๊อง ฉันไม่ได้เป็นอะไรอย่างว่าหรอกนะ หยุดคิดอัปมงคลได้ละ” ชิส์..ปวดขลี้แล้วยังฟอร์มต่อจนได้ เฮ้อ~ ช่างเถอะ มันไม่ใช่ก้นฉัน เพราะก้นฉันตอนนี้น่ะมันกำลังจะนั่งบนเก้าอี้ทรงสูงตัวเดิม แต่มันก็ยังสงสัยไม่หาย เอาวะ ถามให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“หนินาย ตกลงนาย....”
“อย่ามาถามมาก ถ้าเธอพูดอะไรอีกล่ะก็ ระวังนะจ๊ะ เดี๋ยวจะเสียความบริสุทธ์..หึหึหึ” =[]=;;;; ง่า...เสียความบริสุทธ์เลยงั้นหรอนายนี่มันเถื่อนที่สุดเลย ทั้งเถื่อนทั้งถ่อย อ๊ายยย!!! อย่าให้ฉันทนไม่ไหวนะ แม่จะวีนให้บ้านระเบิดเล่ย >0<
หลังจากที่ซดน้ำพั้นช์หมดไปหนึ่งแก้ว นาฬิกาก็บอกเวลา 3ทุ่มครึ่ง ซึ่งมันก็ถือว่าสายมากแล้วสำหรับฉัน เพราะอะไรน่ะหรอ จากบ้านมาถึงที่นี่น่ะ มันไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะอยากจะบอก อย่างน้อยๆถ้าไม่เหยียบมิดก็ประมาณ ชั่วโมงนึงกว่าจะถึง อันที่จริงฉันจะเหยียบมิดเลยก็ได้ แต่รถมันจะแรงแบบสุดหูรูดน่ะสิ ไม่อยากเสี่ยงอุบัติเหตุอีกแล้ว เจอครั้งเดียวก็เข็ดไปถึงปีหน้า - -+ แต่ถ้าไปไม่ทันก่อน5ทุ่ม ล่ะก็...อาจจะเสร็จป้าหนิวได้ ไอ้อย่างนี้มันเรียกว่าเข็ดไปถึงปีกว่าเลยทีเดียวเชียว + +
ให้ตายสิแค่น้ำพั้นช์ทำเอาฉันเซซัดเกือบตกเก้าอี้เลยหรอเนี่ย เผอิญฉันเป็นคนคออ่อนคอพับน่ะ + +* กินไวน์จิบนึง ก็แทบล้มทับหนุ่มๆแล้วล่ะฉัน(คออ่อนหรือใจอ่อนกันล่ะคะเนี่ย....ฮิ่ววว:ไรเตอร์)
“อ่าวแก นี่จะกลับแล้วใช่มั้ยเนี่ย ฉันล่ะเบื่อป้าหนาวของแกจริงๆเลยเชียะ” - -?? ป้าหนาว?
“ป้าหนิวเว่ย... ให้ทำไงล่ะ ก็ฉันมันลูกคุณหนูนี่น่า”
“จ่ะๆ ยัยคุณหนู ไปไหนก็ไปเลยปะ - -“ ที่มันพูดงี้ ไม่ใช่คำพูดที่แสดงว่ามันโกรธเลยซักนิด แต่เป็นสำเนียงจากสันดานของมันอยู่แล้ว ฉันจึงตัดสินใจหันหลังเดินตรงไปยังประตูทางออกทันทีโดยไม่สนใจนายเพียวที่มองฉันแบบงงๆ ประมาณว่า ‘อ่าว แล้วตูจะกลับไง’ ฮาชะมัด ก็นายอยากมากวนประสาทฉันเองหนิ ช่วยไม่ได้
และแล้วก็เดินออกมาจากฝูงชนที่วุ่นวายปานควายในคอก และเสียงเพลงที่ดังกึกก้องแต่ไม่ยักกะรู้ว่าความหมายในบทเพลงนั่นมันแปลว่าอะไรทั้งๆที่มีเนื้อร้อง = = หนวกหูชะมัด ดีนะที่รีบชิ้งออกมาก่อนน่ะ ถ้าหูพังล่ะแย่เลย ฉันเดินดุ่มๆ พยายามรีบออกมาจากภายในซอยดำแห่งนี้ให้เร็วที่สุด แล้วไม่รู้ว่าสิ่งแวดล้อมมันเล่นตลกอะไรกับฉันรึเปล่า เพราะตอนนี้ลมหนาวมันพัดมาจากไหนก็ไม่รู้ อีกทั้งในสมองมันก็ผุดเรื่องความคิดของฉันตอนที่กำลังจะแกล้งนายเพียวนั่นอีก เดี๋ยวก่อนนะ ฉันต้องตั้งสติเอาไว้สิ อย่าไปคิดๆๆ...ให้ตายสิ เดินมาถึงอพาร์ทเม้นท์ร้างจนได้ ว่าแต่ทำไมขาฉันมันถึงสั่นระริกๆนะ ทั้งๆที่อยากจะไปจากตรงนี้ให้เร็วๆแท้ๆ กึ๋ย...บรรยากาศแบบนี้มันชวน.......
บรู๋วววว... โบร๋วววว....(หมาหอน)
หมะๆๆ หมาหอม เอ๊ย! หมาหอนแล้ว โบราณเขาบอกว่า ถ้าหมาหอน....อย่าหอนตอบ เย้ย!ไม่ใช่ๆ ถ้าหมาหอน ก็แสดงว่า ผะๆๆ..~
หมับ~...
0 0!!!
คะๆๆใคร จะๆๆจับไหล่หว่า... ไม่ต้องสงสัยเลย ผะๆๆๆผีชัวว์!!!!......
“ว๊ากกกกก!!! ผีๆๆๆๆ~ อ๊าๆๆๆๆๆๆๆ >0< ช่วยด้วยๆช่วยด้วยค่าา...อ๊า~”
“ยัยบ๊องเอ๊ย” ง่ะ ทำไมผีพูดได้ล่ะ เสียงก็หล่อ หล่อแบบคุ้นหู ฉันตัดสินใจหันหลังกลับไปดูปรากฎว่า
“0 0.... = = นายอีกแล้วหรอ ไอ้เถื่อน” มิน่าล่ะทำไมเสียงคุ้นๆ - -++
“ครับโผม ^^ ไปส่งผมหน่อยสิคร้าบ ยัยบ๊อง” ประโยคแรกๆก็ยังดีๆ แต่ไอ้ประโยคหลังนี่มันชักยังไงๆและ - - นายนี่ชักจะกวนขึ้นทุกวินาทีที่เจอกันซะแล้วซิ ก๊อสส! ถ้าหันมาแล้วเจอนายนี่ฉันขอไปเจอผียังดีซะกว่า
บรู๋วววว...
“อึ๋ย ฉันว่ารีบออกไปจากนี่ก่อนดีมะ” ไม่น่าขอเจอผีเลยเรา
“ก็ดีเหมือนกันแหละ บรรยากาศมันชักจะหวิวๆแล้วล่ะ”
เป็นครั้งแรกและจะเป็นครั้งเดียวด้วยที่ฉันกับนายเพียวตกลงพร้อมใจกันวิ่งสุดหูรูด ตะบี้ตะบันวิ่งจนมาถึงหน้าปากซอย เฮ้อ~...ถึงจนได้แต่ก็ไม่วายต้องมารับทุกข์เพิ่มอีก ทุกข์ที่ว่านี่คือ ไอ้นายเถื่อน =.= เอาล่ะ เมื่อกี๊นายบอกว่า ‘ไปส่งผมหน่อยสิคร้าบ’ งั้นหรอ ดะเดี๋ยวนะ ฉันลูกของเจ้าของกิจการเครื่องสำอาง เบรนด์ดังพร้อมได้รับมรดกจากมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ที่ฉันเรียกว่าพ่อ ซึ่งฉันเป็นถึงคุณหนูมหาเศรษฐีอายุ20กว่าๆ ใช่ รวย! แต่ต้องมาเป็นคนขับรถให้ไอ้เถื่อนบ้า นิสัยแย่ๆเยี่ยงนี้เนี่ยนะ มันจะมากไปแล้ว รับไม่ได้! > <
“หึม ฉันไม่มีวันไปส่งนายหรอกย่ะ มือ เท้าและสมองนายน่ะ มีมั้ยห๊ะ!! กลับเองเซ่!!!” ฉันตะโกนลั่นจนคนในบริเวณนั้นหันมามองกันเป็นตาเดียว ประจบเหมาะชะมัด- -
“หึหึหึ อายมั้ยล่ะยัยเสียงประทัดพันดอก” อ๊ายยยย!! แต่ละชื่อฉันมันเพราะๆทั้งน้าน ว่าแต่ เอ๊ะ! ทำไมมือฉันมันอุ่นๆและเปียกๆด้วยล่ะ ไม่รอช้าฉันรีบก้มลงไปดูที่มือทันที...... 0////0 ชัดเลยไง มือหมอนี่จับที่มือของฉันแน่นเลยอ่ะ จับทำไมกันเนี่ย รู้มั้ยฉันเขินน่ะเว่ย หน้าเริ่มร้อนแล้วสิ เหงื่อก็เริ่มผุดออกทีละเม็ดๆ เอ่อหมอนี่มาจับมือฉันได้ไงกัน หรือว่าตอนที่วิ่งหนีผีหว่า ตอนนั้นแน่ๆเลย -////- อยากกลับไปฆ่าหมาจริงๆ โทษฐานที่ทำให้คนเขาวิ่งจนจับมือกันโดยไม่ได้ตั้งใจแบบนี้ >.<
“นี่ ไม่คิดจะให้ฉันปล่อยมือเธอเลยหรอไง” หือ?? พูดใหม่ซิ นี่นายกำลังจะบอกว่านายตั้งใจจับมือฉันงั้นสิ
“นายคนฉวยโอกาส ตายซะเถอะ! อ๊ากกก”
“แว๊กกกก!!”
ตุบๆ ตับๆ โครม...~ พลั่กๆๆ
“ยัยบ้าเอ๊ย เธอมันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” ฉันทั้งต่อย เตะ ถีบ กระทืบ ขย้ำ แล้วจับทำผัว (อันหลังไม่ใช่) หึๆ บอกไว้เลย นอกจากฉันจะเก่งมารยาทแล้ว ฉันก็เคยเป็นแชมป์มวย(ปลุก)ปล้ำมาก่อนนะเว่ยเฮ่ย อย่ามาแหยมข้าถ้าไม่จำเป็นนะ ว่ะฮ่าๆๆๆๆๆ ^0^
“หึ้ม! ตกลงนายจะกลับเองมั้ย!!!” น้ำเสียงดุดันของฉันไม่ทำให้หน้าเขาดูหวาดกลัวเลยซักนิด มีแต่จะยิ่งทำหน้ากวนเพิ่มขึ้น ชักจะหงุดหงิดแล้วสิ -*-
“ดี ถึงมันจะเสียมารยาทไปหน่อย แต่...ฉันไปล่ะ” นายไม่มีวันบังคับฉันทางหน้าตาได้อีกต่อไป ฉันจะใจแข็งไว้ ไม่หันไปสบตาของนาย แล้วตรงไปที่รถจากนั้นก็เปิดประตูรถและนั่งลงทันทีทันที แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะปิดประตู นายเพียวก็มาจับที่ขอบประตูเอาไว้ แล้วอ้ามันออกอย่างรวดเร็ว ถ้ามันหลุดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบกันห๊ะ! ว่าแต่...
“น่ะ..นายจะทำอะไร” ฉันพูดเสียงสั่นๆ เพราะนายนี่กำลังยื่นหน้าเข้ามาภายในรถ และกำลังจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ > <ฉันหลับตาปี๋ รับรู้เพียงลมหายใจอุ่นๆที่ปะทะเข้าเต็มๆแก้ม เรียกไอร้อนจากหน้าของฉันได้ดีเลยทีเดียว ให้ตายสิมันชักจะแดงขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ แต่พอฉันลืมตาขึ้นมาก็ต้องสะดุ้งและความร้อนพุ่งกระฉูดเมื่อหน้าอันหล่อรากของนายเพียวอยู่ใกล้กว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีก >////< อ๊ายยยย...ทนไม่ไหวๆ ฉันเขินจนไส้ติ่งจะแตกอยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างค้างเอาไว้ในท่านี้ ท่าที่ใครได้มองจากภายนอก ช่างเหมือนฉากอีโรติกยิ่งนัก
“ขับรถดีๆนะครับคนสวย ไปล่ะ บ๊ายบาย” และเขาก็เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงความเอ๋อให้กับคนที่นั่งอยู่ภายในรถอย่างฉัน - -* อีกอย่าง ‘คนสวย’ งั้นหรอ ตีกับแทบตาย ปิดท้ายด้วย ‘คนสวย’ เนี่ยนะ เฮ้อ~ ตุ๊มๆต่อมๆเลยเรา มาหลอกให้อยากแล้วก็จากไป นึกว่าจะได้ภรรผัวซะแล้ว
บรื้นๆ~…
รถแลมโบร์กินี แล่นออกช้าๆ ด้วยความเร็วต่ำกว่าร้อย เพราะถ้าเกินร้อย คงเป็น Mร้อยห้าสิบ (เกี่ยวมั้ยเนี่ย) ว่าแต่นี่มันกี่โมงกันแล้วเนี่ย หวังว่าคงยังไม่ถึง 5 ทุ่มนะ ไม่งั้นอดไปเที่ยวแน่ๆ ไม่ใช่เพราะป้าหนิวไม่ให้ออกไปเที่ยวนะ แต่เป็นเพราะบทลงโทษของป้าแกจะทำให้ฉันเดินไม่ได้น่ะสิ นายเพียวนะนายเพียว อย่าให้เจออีกแล้วกัน เดี๋ยวจะยัดเยียดความเป็นเมียให้เลย คอยดู เฮ้ย...ไม่ได้สิ ฉันต้องไม่คิดถึงไอ้เถื่อนคนนั้น เพราะมันทั้งหื่นกาม และนิสัยไม่ดีเป็นที่สุด ขออย่าให้ได้เจอกันอีกเลยเหอะ ถึงนายจะหล่อรากกระชากไส้ติ่งขนาดไหน แต่มันก็แค่หน้าตาแหละน่า...
แลมโบร์กินี เคลื่อนตัวเข้ามาภายในรั่วบ้าน พร้อมๆกับป้าหนิวที่รีบวิ่งออกมาต้อนรับ ให้ตายเถอะไม่รู้จะมาห่วงอะไรนักหนากับคนที่ไม่ใช่สายเลือดของตัวเอง แค่นี้หนูก็รักป้าหนิวเจียนขาดใจแล้วแหละค่า+0+
“กลับมาแล้วหรอค้า...หาวววว =0=”
“ป้าคะ ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะคะ”
“ก็ป้ากลัวคุณหนูกลับดึกน่ะค่ะ เลยมารอก่อน” ง่ะ แสดงว่ารอทำโทษหนูว่างั้นสิ - -
“หนูไม่กลับดึกหรอกค่ะ ป้าไม่หรอกเป็นห่วงนะ แล้วทีหลังอย่าฝืนอีกนะค้า ^ ^” ฉันพูดว่า ‘อย่าฝืนนะคะ’ ไม่รู้กี่รอบ แต่ป้าหนิวไม่เคยคิดที่จะทำตามเลยซักรอบ เดี๋ยวรักให้ตายเลยดีมั้ยเนี่ย
ฉันบอกป้าหนิวให้แกไปนอนพัก ส่วนตัวฉันเองก็เดินเข้ามาในบ้านอย่างอ่อนล้า เซ็งตรงบันไดเนี่ยแหละ ขั้นบันไดไม่รู้จะเยอะไปไหน(บ้านใหญ่) กว่าจะถึงห้องมีหวังฉันคงหลับคาบันไดไปก่อนแล้วล่ะ เพลียชะมัดเลย วันนี้ต้องมาเจอกับอีตาเถื่อนบ้าแต่หน้าหล่อที่ไหนไม่รู้ มาให้ฉันเป็นคนขับรถให้โดยที่ไม่มีค่าจ้างซักกะสลึง แต่ถึงยังไง เรื่องเงินนั่นฉันก็ไม่ต้องสนใจอยู่แล้ว ไอ้ที่ฉันขัดใจนี่ก็คือ นายนั่นมัน...ช่างเถอะ เหนื่อยชะมัด แล้วฉันก็หวังเอาไว้ว่า ขออย่าให้ได้เจอนายเถื่อนคนนั้นอีกเลย
พอถึงห้องปุ๊บ ฉันก็หลับตาลงไปบนเตียงใหญ่ๆนุ่มๆทันที โดยที่ไม่ต้องอาบน้ำ ไม่ใช่ว่าฉันซกมกนะ แต่ฉันสกปรกต่างหาก (แล้วมันเหมือนกันมั้ยเล่า! : ไรเตอร์) ไม่นานนักตัวฉันก็เข้าสู่ห่วงนิทราไป...
กริ๊ง~….ตุบ <<เสียงทุบนาฬิกา
ให้ตาย ใครตั้งนาฬิกาปลุกฟ้ะ ปลุกไม่ดูเวล่ำเวลาคนจะหลับจะนอน... คร่อก~..(หลับต่อ)
กริ๊ง~....ตุบ....ตับ <<เสียงที่สองเป็นเสียงโยนนาฬิกาทิ้ง) โอเค...ฉันตื่นก็ได้ หาวว =0= กี่โมงแล้วเนี่ย ฉันเหงนมองนาฬิกาที่ติดอยู่ตกฝาผนัง นาฬิกาบอกเวลา...07:05 เฮ่ย! พึ่งจะเจ็ดโมงเนี่ยนะ ใครสั่งให้ปลุกเช้าขนาดนี้วะ ไอ่นาฬิกาเฮงซวย! อย่าให้แม่ขึ้นนะยะเดี๋ยวลงไม่ได้จะยุ่งนะเฟ่ยเฮ่ย
ก๊อกๆๆๆ
“คุณหนูตื่นหรือยังค้า” สงสัยจะเป็นป้าหนิวนะ ที่ตั้งนาฬิกาปลุกให้น่ะ
ฉันเปิดประตูห้องออกไป ก่อนจะขยี้ตาเล็กน้อย ให้มันดูไร้เดียงสาและแอ๊บแบ๊วเหมือนเด็กๆที่พึ่งตื่นนอนมา เป็นคำตอบให้ป้าหนิว
“ป้าต้องขอโทษคุณหนูด้วยนะคะ ที่ตั้งนาฬิกาปลุกให้เช้าไปหน่อย คือเมื่อคืนป้าลืมบอกไปว่า วันนี้จะมีแขกพิเศษมาที่บ้านค่ะ” เอ๊ะ แขกคนพิเศษ? ฉันเอียงหัวเป็นเชิงถามว่า ‘ใครกันคะ’
“เขาบอกว่าชื่อไซมารุค่ะ เป็นคนญี่ปุ่น เขาบอกป้าว่าเขามีธุระกับคุณหนู” คนญี่ปุ่น? แปลกจัง แล้วไอ้ธุระส่วนตัวนี่มันคืออะไรกันล่ะ
“แล้วก็ยังบอกอีกว่า เขาเป็นลูกของเพื่อนคุณนายซีค่ะ” คุณนายซีนี่คือแม่ฉันเองแหละ ว่าแต่..ชักจะงงๆซะแล้วสิ ลูกของเพื่อนแม่จะมาหาเราเพื่ออะไร เราไม่ได้ไปทำธุรกิจอะไรกับคุณแม่ซักหน่อย หรือว่าจะเป็นพวก 18 มงกุฎกันนะ
“ไม่ใช่พวกหลอกลวงอะไรหรอกค่ะ เพราะว่าเขาเอาหลักฐานมายืนยัน ทั้งรูปถ่าย ทั้งลายเซ็นต์คุณนายซี ที่ป้าดูแล้วไม่ผิดเลยค่ะต้องเป็นลายมือคุณแม่คุณหนูแน่นอน” ถ้าป้าหนิวมั่นใจขนาดนั้นก็คงไม่ผิดหรอกนะ ก็แม่กับป้าหนิวสนิทกันมากจนบางทีงานบางอย่างที่แม่ฉันต้องเป็นคนเซ็นต์ ยังยอมไว้ใจให้ป้าหนิวแกเซ็นต์แทนเลย เป็นไปไม่ได้ที่ป้าหนิวจะดูไม่ออก
ฉันพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนที่ป้าหนิวจะบอกว่าคุณไซมารุอะไรนั่นรออยู่ข้างล่างแล้ว เร็วชะมัด - -+ แล้วฉันก็ปิดประตูห้อง แล้วเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำภารกิจส่วนตัว หลังจากทาเต่าเรียบร้อยแล้วนั้น ฉันก็ลงไปชั้นล่างที่มีแขกผู้มีเกียรติมาเยื่อมเยือน ไม่รู้ว่าแม่ฉันคบเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมต้องส่งลูกมา ทำไมเขาไม่มาเอง แล้วถ้าไม่ได้เป็น 18 มงกุฎ หรือว่า....แม่จะจับเราคลุมถุงชน! โถ่แม่ ไอ้ประเพณีแบบนี้มันล้าสมัยไปตั้งนานแล้วนะ ฮึ่ย!..หึ หนูไม่มีวันหลงกลแม่แน่ๆ ฮ่าๆๆๆ...บรรเจิดเลยฉัน!!
++++++++++++++++++++++++++++++++++
ฮ๋าๆๆๆ ^^
ในที่สุดก็ตอน3 ซักที
ดีใจมากๆๆๆๆๆๆ ที่มีคนติดตาม
ไปพัทยาตั้ง3วัน มีฝรั่งเยอะแยะเลยอ้ะ!> <
ถอดเสื้อเล่นสงกรานต์อีกต่างหาก
เซ็กซี่มาก -.,- (แอบหื่นเล็กน้อย)
ยังไงก็ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยนะค้า ^^;;
“เป็นไรของนายน่ะ”
“เอ่อ...เปล่าหรอก ไม่มีไร” ชิ! ‘เปล่าหรอกๆ’ เกลียดคำนี้ชะมัด อาการมันก็ฟ้องอยู่ยังจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นไรอีก เอ๊ะ! หรือว่าที่นายนี่หน้าซีดเพราะปวดขลี้ พอฉันมาถาม จึงไม่กล้าตอบตรงๆกลัวเสียฟอร์มเลยบอกไปว่า ไม่มีไร ....หึหึหึ อย่างนี้เองหรอ
“หนิ ถ้าปวดอ่ะ นู่น..ห้องน้ำ ไปซะสิ มายีนหนีบไว้(?) ระวังนะมันจะแข็ง(?)”
“0 0 เธอพูดแบบนี่ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไงนะ” สงสัยจะแทงใจดำล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ
“เอ้า ก็ฉันไม่ได้เป็นหนิ จะอายเพื่อไรคะ แต่ขอบอกนะอั้นไว้อ่ะ ระวังพุ่งนะจ๊ะ” โฮ่ะๆๆๆ ^0^ ฉลาดจริงๆเลยฉัน ยิ่งกว่าเชอร์ล็อคโฮมซะอีก ว่ะฮ่าๆๆๆ เดาเหตุการณ์ได้แม่นมากๆเลย ฮ่าๆๆ
“= = เอาเข้าไป ยัยบ๊อง ฉันไม่ได้เป็นอะไรอย่างว่าหรอกนะ หยุดคิดอัปมงคลได้ละ” ชิส์..ปวดขลี้แล้วยังฟอร์มต่อจนได้ เฮ้อ~ ช่างเถอะ มันไม่ใช่ก้นฉัน เพราะก้นฉันตอนนี้น่ะมันกำลังจะนั่งบนเก้าอี้ทรงสูงตัวเดิม แต่มันก็ยังสงสัยไม่หาย เอาวะ ถามให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“หนินาย ตกลงนาย....”
“อย่ามาถามมาก ถ้าเธอพูดอะไรอีกล่ะก็ ระวังนะจ๊ะ เดี๋ยวจะเสียความบริสุทธ์..หึหึหึ” =[]=;;;; ง่า...เสียความบริสุทธ์เลยงั้นหรอนายนี่มันเถื่อนที่สุดเลย ทั้งเถื่อนทั้งถ่อย อ๊ายยย!!! อย่าให้ฉันทนไม่ไหวนะ แม่จะวีนให้บ้านระเบิดเล่ย >0<
หลังจากที่ซดน้ำพั้นช์หมดไปหนึ่งแก้ว นาฬิกาก็บอกเวลา 3ทุ่มครึ่ง ซึ่งมันก็ถือว่าสายมากแล้วสำหรับฉัน เพราะอะไรน่ะหรอ จากบ้านมาถึงที่นี่น่ะ มันไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะอยากจะบอก อย่างน้อยๆถ้าไม่เหยียบมิดก็ประมาณ ชั่วโมงนึงกว่าจะถึง อันที่จริงฉันจะเหยียบมิดเลยก็ได้ แต่รถมันจะแรงแบบสุดหูรูดน่ะสิ ไม่อยากเสี่ยงอุบัติเหตุอีกแล้ว เจอครั้งเดียวก็เข็ดไปถึงปีหน้า - -+ แต่ถ้าไปไม่ทันก่อน5ทุ่ม ล่ะก็...อาจจะเสร็จป้าหนิวได้ ไอ้อย่างนี้มันเรียกว่าเข็ดไปถึงปีกว่าเลยทีเดียวเชียว + +
ให้ตายสิแค่น้ำพั้นช์ทำเอาฉันเซซัดเกือบตกเก้าอี้เลยหรอเนี่ย เผอิญฉันเป็นคนคออ่อนคอพับน่ะ + +* กินไวน์จิบนึง ก็แทบล้มทับหนุ่มๆแล้วล่ะฉัน(คออ่อนหรือใจอ่อนกันล่ะคะเนี่ย....ฮิ่ววว:ไรเตอร์)
“อ่าวแก นี่จะกลับแล้วใช่มั้ยเนี่ย ฉันล่ะเบื่อป้าหนาวของแกจริงๆเลยเชียะ” - -?? ป้าหนาว?
“ป้าหนิวเว่ย... ให้ทำไงล่ะ ก็ฉันมันลูกคุณหนูนี่น่า”
“จ่ะๆ ยัยคุณหนู ไปไหนก็ไปเลยปะ - -“ ที่มันพูดงี้ ไม่ใช่คำพูดที่แสดงว่ามันโกรธเลยซักนิด แต่เป็นสำเนียงจากสันดานของมันอยู่แล้ว ฉันจึงตัดสินใจหันหลังเดินตรงไปยังประตูทางออกทันทีโดยไม่สนใจนายเพียวที่มองฉันแบบงงๆ ประมาณว่า ‘อ่าว แล้วตูจะกลับไง’ ฮาชะมัด ก็นายอยากมากวนประสาทฉันเองหนิ ช่วยไม่ได้
และแล้วก็เดินออกมาจากฝูงชนที่วุ่นวายปานควายในคอก และเสียงเพลงที่ดังกึกก้องแต่ไม่ยักกะรู้ว่าความหมายในบทเพลงนั่นมันแปลว่าอะไรทั้งๆที่มีเนื้อร้อง = = หนวกหูชะมัด ดีนะที่รีบชิ้งออกมาก่อนน่ะ ถ้าหูพังล่ะแย่เลย ฉันเดินดุ่มๆ พยายามรีบออกมาจากภายในซอยดำแห่งนี้ให้เร็วที่สุด แล้วไม่รู้ว่าสิ่งแวดล้อมมันเล่นตลกอะไรกับฉันรึเปล่า เพราะตอนนี้ลมหนาวมันพัดมาจากไหนก็ไม่รู้ อีกทั้งในสมองมันก็ผุดเรื่องความคิดของฉันตอนที่กำลังจะแกล้งนายเพียวนั่นอีก เดี๋ยวก่อนนะ ฉันต้องตั้งสติเอาไว้สิ อย่าไปคิดๆๆ...ให้ตายสิ เดินมาถึงอพาร์ทเม้นท์ร้างจนได้ ว่าแต่ทำไมขาฉันมันถึงสั่นระริกๆนะ ทั้งๆที่อยากจะไปจากตรงนี้ให้เร็วๆแท้ๆ กึ๋ย...บรรยากาศแบบนี้มันชวน.......
บรู๋วววว... โบร๋วววว....(หมาหอน)
หมะๆๆ หมาหอม เอ๊ย! หมาหอนแล้ว โบราณเขาบอกว่า ถ้าหมาหอน....อย่าหอนตอบ เย้ย!ไม่ใช่ๆ ถ้าหมาหอน ก็แสดงว่า ผะๆๆ..~
หมับ~...
0 0!!!
คะๆๆใคร จะๆๆจับไหล่หว่า... ไม่ต้องสงสัยเลย ผะๆๆๆผีชัวว์!!!!......
“ว๊ากกกกก!!! ผีๆๆๆๆ~ อ๊าๆๆๆๆๆๆๆ >0< ช่วยด้วยๆช่วยด้วยค่าา...อ๊า~”
“ยัยบ๊องเอ๊ย” ง่ะ ทำไมผีพูดได้ล่ะ เสียงก็หล่อ หล่อแบบคุ้นหู ฉันตัดสินใจหันหลังกลับไปดูปรากฎว่า
“0 0.... = = นายอีกแล้วหรอ ไอ้เถื่อน” มิน่าล่ะทำไมเสียงคุ้นๆ - -++
“ครับโผม ^^ ไปส่งผมหน่อยสิคร้าบ ยัยบ๊อง” ประโยคแรกๆก็ยังดีๆ แต่ไอ้ประโยคหลังนี่มันชักยังไงๆและ - - นายนี่ชักจะกวนขึ้นทุกวินาทีที่เจอกันซะแล้วซิ ก๊อสส! ถ้าหันมาแล้วเจอนายนี่ฉันขอไปเจอผียังดีซะกว่า
บรู๋วววว...
“อึ๋ย ฉันว่ารีบออกไปจากนี่ก่อนดีมะ” ไม่น่าขอเจอผีเลยเรา
“ก็ดีเหมือนกันแหละ บรรยากาศมันชักจะหวิวๆแล้วล่ะ”
เป็นครั้งแรกและจะเป็นครั้งเดียวด้วยที่ฉันกับนายเพียวตกลงพร้อมใจกันวิ่งสุดหูรูด ตะบี้ตะบันวิ่งจนมาถึงหน้าปากซอย เฮ้อ~...ถึงจนได้แต่ก็ไม่วายต้องมารับทุกข์เพิ่มอีก ทุกข์ที่ว่านี่คือ ไอ้นายเถื่อน =.= เอาล่ะ เมื่อกี๊นายบอกว่า ‘ไปส่งผมหน่อยสิคร้าบ’ งั้นหรอ ดะเดี๋ยวนะ ฉันลูกของเจ้าของกิจการเครื่องสำอาง เบรนด์ดังพร้อมได้รับมรดกจากมหาเศรษฐีที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ที่ฉันเรียกว่าพ่อ ซึ่งฉันเป็นถึงคุณหนูมหาเศรษฐีอายุ20กว่าๆ ใช่ รวย! แต่ต้องมาเป็นคนขับรถให้ไอ้เถื่อนบ้า นิสัยแย่ๆเยี่ยงนี้เนี่ยนะ มันจะมากไปแล้ว รับไม่ได้! > <
“หึม ฉันไม่มีวันไปส่งนายหรอกย่ะ มือ เท้าและสมองนายน่ะ มีมั้ยห๊ะ!! กลับเองเซ่!!!” ฉันตะโกนลั่นจนคนในบริเวณนั้นหันมามองกันเป็นตาเดียว ประจบเหมาะชะมัด- -
“หึหึหึ อายมั้ยล่ะยัยเสียงประทัดพันดอก” อ๊ายยยย!! แต่ละชื่อฉันมันเพราะๆทั้งน้าน ว่าแต่ เอ๊ะ! ทำไมมือฉันมันอุ่นๆและเปียกๆด้วยล่ะ ไม่รอช้าฉันรีบก้มลงไปดูที่มือทันที...... 0////0 ชัดเลยไง มือหมอนี่จับที่มือของฉันแน่นเลยอ่ะ จับทำไมกันเนี่ย รู้มั้ยฉันเขินน่ะเว่ย หน้าเริ่มร้อนแล้วสิ เหงื่อก็เริ่มผุดออกทีละเม็ดๆ เอ่อหมอนี่มาจับมือฉันได้ไงกัน หรือว่าตอนที่วิ่งหนีผีหว่า ตอนนั้นแน่ๆเลย -////- อยากกลับไปฆ่าหมาจริงๆ โทษฐานที่ทำให้คนเขาวิ่งจนจับมือกันโดยไม่ได้ตั้งใจแบบนี้ >.<
“นี่ ไม่คิดจะให้ฉันปล่อยมือเธอเลยหรอไง” หือ?? พูดใหม่ซิ นี่นายกำลังจะบอกว่านายตั้งใจจับมือฉันงั้นสิ
“นายคนฉวยโอกาส ตายซะเถอะ! อ๊ากกก”
“แว๊กกกก!!”
ตุบๆ ตับๆ โครม...~ พลั่กๆๆ
“ยัยบ้าเอ๊ย เธอมันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” ฉันทั้งต่อย เตะ ถีบ กระทืบ ขย้ำ แล้วจับทำผัว (อันหลังไม่ใช่) หึๆ บอกไว้เลย นอกจากฉันจะเก่งมารยาทแล้ว ฉันก็เคยเป็นแชมป์มวย(ปลุก)ปล้ำมาก่อนนะเว่ยเฮ่ย อย่ามาแหยมข้าถ้าไม่จำเป็นนะ ว่ะฮ่าๆๆๆๆๆ ^0^
“หึ้ม! ตกลงนายจะกลับเองมั้ย!!!” น้ำเสียงดุดันของฉันไม่ทำให้หน้าเขาดูหวาดกลัวเลยซักนิด มีแต่จะยิ่งทำหน้ากวนเพิ่มขึ้น ชักจะหงุดหงิดแล้วสิ -*-
“ดี ถึงมันจะเสียมารยาทไปหน่อย แต่...ฉันไปล่ะ” นายไม่มีวันบังคับฉันทางหน้าตาได้อีกต่อไป ฉันจะใจแข็งไว้ ไม่หันไปสบตาของนาย แล้วตรงไปที่รถจากนั้นก็เปิดประตูรถและนั่งลงทันทีทันที แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะปิดประตู นายเพียวก็มาจับที่ขอบประตูเอาไว้ แล้วอ้ามันออกอย่างรวดเร็ว ถ้ามันหลุดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบกันห๊ะ! ว่าแต่...
“น่ะ..นายจะทำอะไร” ฉันพูดเสียงสั่นๆ เพราะนายนี่กำลังยื่นหน้าเข้ามาภายในรถ และกำลังจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ > <ฉันหลับตาปี๋ รับรู้เพียงลมหายใจอุ่นๆที่ปะทะเข้าเต็มๆแก้ม เรียกไอร้อนจากหน้าของฉันได้ดีเลยทีเดียว ให้ตายสิมันชักจะแดงขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ แต่พอฉันลืมตาขึ้นมาก็ต้องสะดุ้งและความร้อนพุ่งกระฉูดเมื่อหน้าอันหล่อรากของนายเพียวอยู่ใกล้กว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีก >////< อ๊ายยยย...ทนไม่ไหวๆ ฉันเขินจนไส้ติ่งจะแตกอยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างค้างเอาไว้ในท่านี้ ท่าที่ใครได้มองจากภายนอก ช่างเหมือนฉากอีโรติกยิ่งนัก
“ขับรถดีๆนะครับคนสวย ไปล่ะ บ๊ายบาย” และเขาก็เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงความเอ๋อให้กับคนที่นั่งอยู่ภายในรถอย่างฉัน - -* อีกอย่าง ‘คนสวย’ งั้นหรอ ตีกับแทบตาย ปิดท้ายด้วย ‘คนสวย’ เนี่ยนะ เฮ้อ~ ตุ๊มๆต่อมๆเลยเรา มาหลอกให้อยากแล้วก็จากไป นึกว่าจะได้ภรรผัวซะแล้ว
บรื้นๆ~…
รถแลมโบร์กินี แล่นออกช้าๆ ด้วยความเร็วต่ำกว่าร้อย เพราะถ้าเกินร้อย คงเป็น Mร้อยห้าสิบ (เกี่ยวมั้ยเนี่ย) ว่าแต่นี่มันกี่โมงกันแล้วเนี่ย หวังว่าคงยังไม่ถึง 5 ทุ่มนะ ไม่งั้นอดไปเที่ยวแน่ๆ ไม่ใช่เพราะป้าหนิวไม่ให้ออกไปเที่ยวนะ แต่เป็นเพราะบทลงโทษของป้าแกจะทำให้ฉันเดินไม่ได้น่ะสิ นายเพียวนะนายเพียว อย่าให้เจออีกแล้วกัน เดี๋ยวจะยัดเยียดความเป็นเมียให้เลย คอยดู เฮ้ย...ไม่ได้สิ ฉันต้องไม่คิดถึงไอ้เถื่อนคนนั้น เพราะมันทั้งหื่นกาม และนิสัยไม่ดีเป็นที่สุด ขออย่าให้ได้เจอกันอีกเลยเหอะ ถึงนายจะหล่อรากกระชากไส้ติ่งขนาดไหน แต่มันก็แค่หน้าตาแหละน่า...
แลมโบร์กินี เคลื่อนตัวเข้ามาภายในรั่วบ้าน พร้อมๆกับป้าหนิวที่รีบวิ่งออกมาต้อนรับ ให้ตายเถอะไม่รู้จะมาห่วงอะไรนักหนากับคนที่ไม่ใช่สายเลือดของตัวเอง แค่นี้หนูก็รักป้าหนิวเจียนขาดใจแล้วแหละค่า+0+
“กลับมาแล้วหรอค้า...หาวววว =0=”
“ป้าคะ ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะคะ”
“ก็ป้ากลัวคุณหนูกลับดึกน่ะค่ะ เลยมารอก่อน” ง่ะ แสดงว่ารอทำโทษหนูว่างั้นสิ - -
“หนูไม่กลับดึกหรอกค่ะ ป้าไม่หรอกเป็นห่วงนะ แล้วทีหลังอย่าฝืนอีกนะค้า ^ ^” ฉันพูดว่า ‘อย่าฝืนนะคะ’ ไม่รู้กี่รอบ แต่ป้าหนิวไม่เคยคิดที่จะทำตามเลยซักรอบ เดี๋ยวรักให้ตายเลยดีมั้ยเนี่ย
ฉันบอกป้าหนิวให้แกไปนอนพัก ส่วนตัวฉันเองก็เดินเข้ามาในบ้านอย่างอ่อนล้า เซ็งตรงบันไดเนี่ยแหละ ขั้นบันไดไม่รู้จะเยอะไปไหน(บ้านใหญ่) กว่าจะถึงห้องมีหวังฉันคงหลับคาบันไดไปก่อนแล้วล่ะ เพลียชะมัดเลย วันนี้ต้องมาเจอกับอีตาเถื่อนบ้าแต่หน้าหล่อที่ไหนไม่รู้ มาให้ฉันเป็นคนขับรถให้โดยที่ไม่มีค่าจ้างซักกะสลึง แต่ถึงยังไง เรื่องเงินนั่นฉันก็ไม่ต้องสนใจอยู่แล้ว ไอ้ที่ฉันขัดใจนี่ก็คือ นายนั่นมัน...ช่างเถอะ เหนื่อยชะมัด แล้วฉันก็หวังเอาไว้ว่า ขออย่าให้ได้เจอนายเถื่อนคนนั้นอีกเลย
พอถึงห้องปุ๊บ ฉันก็หลับตาลงไปบนเตียงใหญ่ๆนุ่มๆทันที โดยที่ไม่ต้องอาบน้ำ ไม่ใช่ว่าฉันซกมกนะ แต่ฉันสกปรกต่างหาก (แล้วมันเหมือนกันมั้ยเล่า! : ไรเตอร์) ไม่นานนักตัวฉันก็เข้าสู่ห่วงนิทราไป...
กริ๊ง~….ตุบ <<เสียงทุบนาฬิกา
ให้ตาย ใครตั้งนาฬิกาปลุกฟ้ะ ปลุกไม่ดูเวล่ำเวลาคนจะหลับจะนอน... คร่อก~..(หลับต่อ)
กริ๊ง~....ตุบ....ตับ <<เสียงที่สองเป็นเสียงโยนนาฬิกาทิ้ง) โอเค...ฉันตื่นก็ได้ หาวว =0= กี่โมงแล้วเนี่ย ฉันเหงนมองนาฬิกาที่ติดอยู่ตกฝาผนัง นาฬิกาบอกเวลา...07:05 เฮ่ย! พึ่งจะเจ็ดโมงเนี่ยนะ ใครสั่งให้ปลุกเช้าขนาดนี้วะ ไอ่นาฬิกาเฮงซวย! อย่าให้แม่ขึ้นนะยะเดี๋ยวลงไม่ได้จะยุ่งนะเฟ่ยเฮ่ย
ก๊อกๆๆๆ
“คุณหนูตื่นหรือยังค้า” สงสัยจะเป็นป้าหนิวนะ ที่ตั้งนาฬิกาปลุกให้น่ะ
ฉันเปิดประตูห้องออกไป ก่อนจะขยี้ตาเล็กน้อย ให้มันดูไร้เดียงสาและแอ๊บแบ๊วเหมือนเด็กๆที่พึ่งตื่นนอนมา เป็นคำตอบให้ป้าหนิว
“ป้าต้องขอโทษคุณหนูด้วยนะคะ ที่ตั้งนาฬิกาปลุกให้เช้าไปหน่อย คือเมื่อคืนป้าลืมบอกไปว่า วันนี้จะมีแขกพิเศษมาที่บ้านค่ะ” เอ๊ะ แขกคนพิเศษ? ฉันเอียงหัวเป็นเชิงถามว่า ‘ใครกันคะ’
“เขาบอกว่าชื่อไซมารุค่ะ เป็นคนญี่ปุ่น เขาบอกป้าว่าเขามีธุระกับคุณหนู” คนญี่ปุ่น? แปลกจัง แล้วไอ้ธุระส่วนตัวนี่มันคืออะไรกันล่ะ
“แล้วก็ยังบอกอีกว่า เขาเป็นลูกของเพื่อนคุณนายซีค่ะ” คุณนายซีนี่คือแม่ฉันเองแหละ ว่าแต่..ชักจะงงๆซะแล้วสิ ลูกของเพื่อนแม่จะมาหาเราเพื่ออะไร เราไม่ได้ไปทำธุรกิจอะไรกับคุณแม่ซักหน่อย หรือว่าจะเป็นพวก 18 มงกุฎกันนะ
“ไม่ใช่พวกหลอกลวงอะไรหรอกค่ะ เพราะว่าเขาเอาหลักฐานมายืนยัน ทั้งรูปถ่าย ทั้งลายเซ็นต์คุณนายซี ที่ป้าดูแล้วไม่ผิดเลยค่ะต้องเป็นลายมือคุณแม่คุณหนูแน่นอน” ถ้าป้าหนิวมั่นใจขนาดนั้นก็คงไม่ผิดหรอกนะ ก็แม่กับป้าหนิวสนิทกันมากจนบางทีงานบางอย่างที่แม่ฉันต้องเป็นคนเซ็นต์ ยังยอมไว้ใจให้ป้าหนิวแกเซ็นต์แทนเลย เป็นไปไม่ได้ที่ป้าหนิวจะดูไม่ออก
ฉันพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนที่ป้าหนิวจะบอกว่าคุณไซมารุอะไรนั่นรออยู่ข้างล่างแล้ว เร็วชะมัด - -+ แล้วฉันก็ปิดประตูห้อง แล้วเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำภารกิจส่วนตัว หลังจากทาเต่าเรียบร้อยแล้วนั้น ฉันก็ลงไปชั้นล่างที่มีแขกผู้มีเกียรติมาเยื่อมเยือน ไม่รู้ว่าแม่ฉันคบเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมต้องส่งลูกมา ทำไมเขาไม่มาเอง แล้วถ้าไม่ได้เป็น 18 มงกุฎ หรือว่า....แม่จะจับเราคลุมถุงชน! โถ่แม่ ไอ้ประเพณีแบบนี้มันล้าสมัยไปตั้งนานแล้วนะ ฮึ่ย!..หึ หนูไม่มีวันหลงกลแม่แน่ๆ ฮ่าๆๆๆ...บรรเจิดเลยฉัน!!
++++++++++++++++++++++++++++++++++
ฮ๋าๆๆๆ ^^
ในที่สุดก็ตอน3 ซักที
ดีใจมากๆๆๆๆๆๆ ที่มีคนติดตาม
ไปพัทยาตั้ง3วัน มีฝรั่งเยอะแยะเลยอ้ะ!> <
ถอดเสื้อเล่นสงกรานต์อีกต่างหาก
เซ็กซี่มาก -.,- (แอบหื่นเล็กน้อย)
ยังไงก็ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยนะค้า ^^;;
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ