[Fanfic] Phantasy Star Online 2: Another Episode Part 1
-
เขียนโดย LunaRRabbit
วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.10 น.
5 บท
0 วิจารณ์
6,152 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 13.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) ช่วงเวลาพักผ่อน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากกลับมาจากนาเบริอุส มาโตอิถูกส่งไปยังโรงพยาบาลอีกครั้งในวันนี้เธอก็ยังไม่ได้สติ ส่วนมาโกะกับอาฟินออกไปทำภารกิจกันสองคนก่อนหน้านั้นมาโกะก็ดุผมเป็นชุดใหญ่เพราะทำให้เป็นห่วงอีกแล้ว และผมเพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาจากโรงพยาบาลได้ไม่นานแต่ก็ยังคงอยู่ในช่วงรักษาตัวจึงไม่ได้ออกไปทำภารกิจกับน้องสาว ที่สำคัญอาวุธประเภทไม้เท้าที่เจอในถ้ำตอนนั้นมันเหมือนว่าจะพังอยู่ผมจึงตัดสินใจจะนำมันไปซ่อมเผื่อจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันและคนที่เหมือนกับคุโระในตอนนั้น
"...เธอ"
ในขณะที่เดินออกจากวอร์ดคนไข้ผมก็เจอกับเธอคนนั้น.... ชิอง
"อาวุธปฐมกาลกุญแจแห่งการแปรผัน สิ่งนั้นที่มีพันธะกับเธอผู้นั้นอนาคตทุกอย่างถูกคำนวณเอาไว้แล้ว...ที่เหลือก็คือเธอเท่านั้น"
เธอหยุดพูดไปครู่หนึ่งใบหน้าของเธอยังคงเรียบเฉยแต่น้ำเสียงของเธอกลับหนักแน่นขึ้น
"จงตามกุญแจสีดำไป"
กุญแจสีดำ...?
"เดี๋ยวก่อนชิอง!"
ก่อนที่จะถามกันให้รู้เรื่องชิองก็หายไปไม่ต่างกับอะไรกับชายหนุ่มไม่วันก่อนไม่มีผิดมันทำให้ผมสงสัยการมีอยู่ของชิองและคนที่เหมือนกับคุโระคนนั้นมากขึ้น
หรือว่า...คนที่เหมือนคุโระคนนั้นอาจจะเป็นน้องชายที่คุโระกล่าวถึงว่าเสียชีวิตไปแล้ว?แต่ว่า...
ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่ผมก็เดินออกมาจากโรงพยาบาลไปยังย่านการค้า เดินไปคิดไปอยู่นานสองนานจนกระทั่ง
ตุบ!
"อ๊ะ! ขอโทษครับคือว่าผมมองไม่เห็น...มิโคโตะ?"
ชายหนุ่มเรือนผมยาวสีดำและดวงตาเป็นประกายที่ผมเคยพบเจอเขาชนกับผมโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เขาเพ่งมามาที่ผมอย่างตั้งใจเหมือนพยายามโฟกัสให้เห็นใบหน้าของผมให้ชัดและใช่เขาคือคุโระแน่นอนแต่ไม่ใช่คนเดียวกับที่เจอที่ถ้ำตอนนั้น...ความรู้สึกหลายๆอย่างมันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย เขาถอยออกมาก่อนจะค้อมศีรษะลงเป็นการขอโทษ
"ไม่เป็นไรหรอกก็นายมองไม่ชัดนี่นาคราวหลังก็ระวังหน่อยแล้วกัน "
ผมกล่าวออกไปเป็นห่วงว่าถ้าคนที่ชนไม่ใช่ผมคุโระคงจะถูกพูดจาไม่ดีใส่ก็ได้ ซึ่งคำตอบที่ได้มาคือรอยยิ้มจากเจ้าตัว
"อื้อ คราวหลังผมจะระวังนะแล้วก็..."
คุโระเอียงคอเล็กน้อย
"มิโคโตะล่ะจะไปไหนหรอ?"
เมื่อได้ยินคำถามผมก็นึกขึ้นได้ว่ผมต้องไปย่านการค้าเพื่อที่จะซ่อมเจ้าอาวุธสีขาวนี่
"จะไปที่ย่านการค้าน่ะ"
คุโระคลี่ยิ้มกว้างมากกว่าเดิมเหมือนว่าเขากำลังดีใจอยู่
"ทางเดียวกันกับผมเลยไปด้วยกันไหม?"
แน่นอนว่าผมคงไม่ปฏิเสธ บางทีการที่มีคนไปด้วยอาจทำให้ผมไม่เบื่อก็ได้และอีกอย่างผมมองเห็นว่าคุโระยังใส่ชุดเดิมกับเมื่อวานชุดที่เหมือนกับเป็นผู้ป่วยนั่นมันดูโทรมแล้วด้วย....
"เอาสิ"
พวกเราสองคนตัดสินใจไปที่ย่านการค้าด้วยกัน พวกเราใช้เวลาไม่นานก็ไปถึงย่านการค้าผมตรงดิ่งไปที่ร้านขายอาวุธหวังว่าพวกเขาจะช่วยอะไรได้บ้าง ผมนำอาวุธนั่นออกมาวางไว้ให้เจ้าของร้านช่วยตรวจสอบส่วนตอนนี้คุโระกำลังเลือกอาวุธอยู่ที่เคาน์เตอร์หนึ่ง
"เหมือนว่าอาวุธนี่จะพังอยู่นะ แถมรุ่นมันเก่ามากด้วยฉันคงช่วยซ่อมอะไรให้ไม่ได้หรอก"
เจ้าของร้านกล่าวน้ำเสียงของเขาเหมือนเสียดายที่ไม่สามารถซ่อมอาวุธนี้ได้
"แต่ว่าฉันพอจะรู้จักคนที่น่าจะมีฝีมือพอซ่อมเจ้านี่ได้อยู่นะ ตาแก่ซีคที่อยู่ในบล็อก 4 ที่ย่านพักอาศัยน่ะ"
"ซีค...หรอครับ?"
ซีค...ชื่อนี้ ผมพอจะนึกอะไรออกบางอย่างมันน่าจะเป็นคำที่เหมือนกับคุโระพูดเมื่อวาน
ไปหาซีค
"ผมขอที่อยู่ของเขาได้ไหมครับ?"
"ได้สิ"
ผมถามเจ้าของร้านซึ่งเขาก็ตอบตกลงก่อนจะโอนข้อมูลมให้กับเครื่องมือสื่อสารของผม
"แกเคยเป็นช่างซ่อมอาวุธอยู่แต่ก็หมดไฟไป หวังว่าตาแก่นั่นจะช่วยคุณนะ"
"ครับขอบคุณมากครับ"
ผมกล่าวขอบคุณเก็บอาวุธสีขาวลงในระบบเก็บของแล้วเดินออกไปจากร้าน
"อาวุธนี้...มิโคโตะน่ะเจอที่ไหนหรอ?"
ในขณะเดียวกันคุโระเข้ามาถามผมพร้อมมองไปที่อาวุธสีขาวไม่วางตา
"ที่นาเบริอุสน่ะ ต่อไปคงต้องเอาไปซ่อมในเมือง"
"ดูเป็นอาวุธที่ดูทรงพลังน่าดูเลยนะ"
คุโระกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าปรกติสายตาที่เขามองมาชวนให้รู้สึกอึดอัด แต่ไม่นานเขาก็กลับมายิ้มให้ผมเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้ผมสับสนและงุนงงแต่อย่างไรก็ตาม
"ผมจะไปด้วยกับมิโคโตะนะ"
ด้วยรอยยิ้มนั่นผมคงได้แต่บอกกับตัวเองว่าสิ่งที่ผมเห็นเมื่อครู่ผมคงคิดไปเอง
----------------------------------------------------------------------------
ไม่นานนักหลังจากที่พวกเราเดินทางออกมาจากย่านการค้าเข้าสู่ตัวเมืองอันแสนวุ่นวายพวกเราก็ได้เข้ามาถึงสถานที่ที่น่าจะเป็นที่อยู่ของบุคคลที่ชื่อว่า ซีค ตึกเก่าดูซอมซ่อเส้นทางที่นำไปสู่ที่อยู่ของซีคคือตรอกแคบแต่ยังดีที่ที่อยู่ของเขาอยู่ติดกับถนนที่แม้จะไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็พอที่รถจะสามารถผ่านได้ ผมเคาะประตูแล้วรอคำตอบจากอีกฝั่งซึ่งไม่มีการตอบรับอะไรเว้นเสียแต่การปลดล็อคประตูซึ่งแปลว่าผมกับคุโระสามารถเข้าไปด้านในได้
"พวกเธอมาที่นี่มีธุระอะไร? เป็นARKSไม่ใช่หรอ? จะให้ฉันซ่อมหรือสร้างอาวุธให้ฉันคงทำให้ไม่ได้หรอกฉันมันแก่แล้วทำอะไรก็ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนหรอกนะ"
คนที่อยู่ด้านในคือCastบอดี้สีดำเสียงของเขาราวกับคุณลุงสูงอายุ เขากำลังใช้คอมพิวเตอร์อยู่และเหมือนจะไม่สนใจพวกผมเสียเท่าไหร่นักเขาคงจะหมดไฟจริงๆจากคำกล่าวของเจ้าของร้านอาวุธ
"คุณซีคผมอยากจะขอให้คุณซ่อมอาวุธให้ผมหน่อยได้ไหมครับ"
คำถามวัดใจ ผลที่ได้คือCastเฒ่าหันกลับมาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รับซ่อมอาวุธน่ะ!"
ผมคิดว่าเราคงหมดหวังแล้วแต่คุโระกลับยิ้มตอบตาเฒ่าแล้วพูดขึ้นมา
"คุณซีคน่ะเป็นช่างซ่อมอาวุธที่เก่งกาจอาวุธธรรมดาๆพวกผมคงไม่เอามาให้คุณซ่อมหรอกจริงไหม? มิโคโตะเองก็ลงเอาออกมาให้เขาดูสิ"
ผมทำตามที่คุโระบอก ผมนำอาวุธออกมาจากช่องเก็บของตาเฒ่ามองอาวุธด้วยความสนใจ
"นี่มัน...สุดยอดไปเลยไม่ใช่หรอ!?"
เหมือนว่าอาวุธนี่จะจุดไฟให้ซีคอีกครั้ง เขาเดินมองไปรอบๆเจ้าอาวุธสีขาวที่มีปลายรูปร่างราวกับดวงดาว ผมส่งอาวุธให้เขาซึ่งรับไว้แล้วพิจารณา
" 3 อาทิตย์"
ซีคพูดขึ้นมาทำให้ผมถามกลับไป
"3อาทิตย์?"
"ฉันขอใช้เวลา 3 อาทิตย์ในการซ่อมเจ้านี่จนกว่าจะถึงตอนนั้นก็ทำอะไรรอไปก่อนแล้วกัน เชื่อมือฉันได้เลย"
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของผมและคุโระพวกเราต่างขอบคุณซีคก่อนพวกเราจะออกมาด้านนอก
"คุโระน่ะรู้ได้ยังไงหรอว่าอาวุธนั่นไม่ปรกติน่ะ?"
ผมถามคุโระในขณะที่เราเดินไปตามถนนที่ติดกับบ้านของซีค แน่นอนว่าคราวนี้เราจะไม่เดินกลับเข้าไปในตรอกแคบๆนั่นอีกแล้วทั้งอึดอัดทั้งเดินยากถ้าเดินมาตามถนนนี่แต่แรกคงไม่ต้องอึกอัดแบบนั้นแม้แถวนี้จะผ่านเขตก่อสร้างด้วยก็เถอะ
"เซนส์ล่ะมั้ง? ก็อาวุธปรกติน่ะคงไม่อยู่ในที่แปลกๆแบบทุนดร้าในนาเบริอุสหรอกจริงไหม? อ๊ะ พูดอะไรแปลกๆออกไปอีกแล้วสิ"
เดี๋ยวสิ...เขารู้ว่าผมเจอไม้เท้านั่นที่ทุนดร้า ไม่สิ อาจจะแค่บังเอิญก็ได้เพราะที่สุดท้ายที่เจอกันก่อนหน้านี้คือทุนดร้า แต่ว่าเหมือนคุโระจะปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ หรือว่า...
"อ๊ะ...!"
"ระวังสิ!"
คนที่เดินมาด้วยกันสะดุดท่อนเล็กที่ยืนออกมาจากกองเหล็กข้างทางที่ถูกวางระเกะระกะไว้ ดีที่ผมรับเขาไว้ทันแม้ร่างกายของเขาจะสูงเกือบเท่าตัวผมแต่ร่างกายของเขากับเบาอย่างน่าประหลาดและผมเผลอสบสายตากับดวงตาคู่งามนั่นอีกแล้ว
"ขอบคุณนะมิโคโตะผมทำให้ลำบากอีกแล้ว"
"ไม่หรอก ระวังๆหน่อยสินายมองไม่ค่อยเห็นอยู่"
ผมกล่าวก่อนจะถอนหายใจออกมาลืมเรื่องทุกอย่างที่คิดไปเสียหมดเพราะความเป็นห่วงที่มากจนน่าประหลาดที่เกิดขึ้นในใจของผม
"อืมๆเข้าใจแล้ว โอ๊ะ?พังซะแล้วสิ"
เขามองลงบนรองเท้าที่เหมือนกับรองเท้าแตะของตนมันขาดเสียแล้ว
"ไปซื้อคู่ใหม่กันก็ได้นะทั้งหมดเลย"
"เอ๊ะ?"
ผมไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่แต่คิดได้แค่ผมอยากจะช่วยเขา อย่างน้อยๆขอชุดใหม่กับรองเท้าก็ยังดี...แต่ว่า...
ทำไมผมต้องแคร์เขาขนาดนั้นด้วย
เพราะสงสาร? หรือเพราะผมหลงเขากันแน่?
"แต่ว่าเงิน..."
"ผมจ่ายให้หลังจากภารกิจที่ผ่านมาพอจะมีเงินซื้ออะไรได้บ้างอยู่ ไปกันเถอะ"
ผมคว้าแขนของเขาแล้วจูงเขาเดินไปตามทางเพื่อไม่ให้เขาต้องสะดุดล้มอีกครั้งหรือไม่ก็เหยียบอะไรที่ทำให้เจ็บเข้ายิ่งสายตาไม่ค่อยดีอยู่ รองเท้าคู่นั้นผมให้คุโระถือเอาไว้ด้วยตอนนี้เขาก็ต้องเดินเท้าเปล่าไปก่อนซึ่งผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นนานก็เลยรีบเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุด
"มิโคโตะน่ะใจดีไปแล้วนะ..."
ถึงคุโระจะพูดออกมาแต่มันก็เบาเสียจนผมไม่ได้ยินประโยคนั้นเลย...
----------------------------------------------------------------------------
ที่ห้างสรรพสินค้า พวกเราหยุดที่ร้านขายเสื้อผ้าส่วนรองเท้าที่พังของคุโระผมโยนทิ้งถังขยะไปเรียบร้อย
"ดูสิว่ามีอะไรลดราคาบ้าง"
ผมเดินเข้าไปตรงโวนลดราคาของร้านคุโระด้วยกระอักกระอ่วนใจแต่ก็ตามผมมา เขามองไปรอบๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยุดลงที่โฮโลแกรมลองเสื้อชุดหนึ่ง
"คุโระ นายลองดูชุดนี้ไหม? คุโระ?"
ผมเห็นเขามองชุดนั้นไม่วางตา
ชุดฮากามะสีดำ...
ชุดนั้นมันคุ้นเคยเสียยิ่งกว่าคุ้น มันคือชุดที่คนคนนั้นใส่คนที่เหมือนคุโระตอนนั้น
อา...ไม่ชุดนั้นมัน...
"มิโคโตะเป็นอะไรไปหรอ?เรียกหลายรอบแล้วเหมือนจะไม่ได้ยินผมเลย"
ผมหลุดออกจากภวังค์ ผมกลับมามองเขาอกครั้งในมือของคนตัวเล็กกว่ามีชุดฮากามะอยู่ในมือ
"ขอโทษนะเหมือนว่าจะเหม่อไปครู่หนึ่ง"
"ไม่เป็นไรหรอก นี่มิโคโตะคิดว่าชุดนี้จะเข้ากับผมไหม?"
"นายลองใส่ที่ห้องลองเสื้อดูสิ"
ผมกล่าวพร้อมพาเข้าไปที่หน้าห้องลองเสื้อ เขาเข้าไปไม่นานเกินรอคุโระก็ออกมาพร้อมกับสวมเสื้อฮากามะตัวนั้น ผมไม่อยากจะยอมรับแต่ว่า สวย เขาใส่ชุดนี้แล้วเขาสวยมาก
"เขาสิ มากด้วย"
ผมพูดไปตามตรงคำตอบคือรอยยิ้มของเขาครั้งนี้ผมกลับรู้สึกหวั่นไหวอย่างน่าประหลาด รอยยิ้มนั่นไม่อยากให้หายไปเลย
"แล้วก็ราคาไม่แพงด้วยลดราคาอีกด้วย ผมพอจะช่วยได้อยู่หารจ่ายกันคนละครึ่งเนอะ!"
คุโระกล่าวส่วนผมก็เห็นด้วยพวกเราเดินกันไปที่เคาน์เตอร์แล้วจ่ายเงินค่าเสื้อหารคนละครึ่งอย่างที่ตกลงไว้พนักงานได้แถมเครื่องประดับผมที่ทำจากขนนกให้กับผมมันเป็นขนนกสีดำ
"น้องสาวของมิโคโตะน่าจะชอบนะ"
คุโระกล่าวหลังจากที่เราออกมาจากร้านแล้วดีที่ว่าชุดนี้เขาขายเป็นเซ็ตซึ่งมีทั้งเสื้อรองเท้าด้วยเลยคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปในราคาที่ถูกด้วย
"มาโกะน่ะหรอ? เธอไม่ชอบสีหม่นๆแต่ว่าถ้ากับนายน่ะคงจะเข้ามากกว่า"
ผมมอบเครื่องประดับนั่นใส่ไว้ในมือของคุโระ
"นี่...มิโคโตะ ช่วยติดเครื่องประดับนี่ให้ผมได้ไหม?"
คำขอร้องที่ไม่คาดคิดออกมาจากปากของชายตรงหน้า ในมือของเขาส่งเครื่องประดับนั่นมาให้ผม
"ได้สิ ขออนุญาตนะ"
ผมติดมันลงบนเส้นผมของอีกฝ่ายอย่างเบามือ มันเป็นเพียวขนนกเล็กๆที่ห้อยลงมาจากผมของเขาเมื่อถอยห่างออกมามองมันดูเข้ากันกับคุโระอย่างน่าประหลาด
"ขอบคุณนะมิโคโตะ นายน่ะใจดีมากเลยขอบคุณที่ใจดีกับผมนะ"
รอยยิ้มของเขาเปล่งประกายกว่าทุกครั้งเขาดูมีความสุขจริงๆ ซึ่งมันก็น่าประหลาด
เพราะผมเองก็มีความสุขไปกับเขาด้วยเหมือนกัน
"...เธอ"
ในขณะที่เดินออกจากวอร์ดคนไข้ผมก็เจอกับเธอคนนั้น.... ชิอง
"อาวุธปฐมกาลกุญแจแห่งการแปรผัน สิ่งนั้นที่มีพันธะกับเธอผู้นั้นอนาคตทุกอย่างถูกคำนวณเอาไว้แล้ว...ที่เหลือก็คือเธอเท่านั้น"
เธอหยุดพูดไปครู่หนึ่งใบหน้าของเธอยังคงเรียบเฉยแต่น้ำเสียงของเธอกลับหนักแน่นขึ้น
"จงตามกุญแจสีดำไป"
กุญแจสีดำ...?
"เดี๋ยวก่อนชิอง!"
ก่อนที่จะถามกันให้รู้เรื่องชิองก็หายไปไม่ต่างกับอะไรกับชายหนุ่มไม่วันก่อนไม่มีผิดมันทำให้ผมสงสัยการมีอยู่ของชิองและคนที่เหมือนกับคุโระคนนั้นมากขึ้น
หรือว่า...คนที่เหมือนคุโระคนนั้นอาจจะเป็นน้องชายที่คุโระกล่าวถึงว่าเสียชีวิตไปแล้ว?แต่ว่า...
ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่ผมก็เดินออกมาจากโรงพยาบาลไปยังย่านการค้า เดินไปคิดไปอยู่นานสองนานจนกระทั่ง
ตุบ!
"อ๊ะ! ขอโทษครับคือว่าผมมองไม่เห็น...มิโคโตะ?"
ชายหนุ่มเรือนผมยาวสีดำและดวงตาเป็นประกายที่ผมเคยพบเจอเขาชนกับผมโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เขาเพ่งมามาที่ผมอย่างตั้งใจเหมือนพยายามโฟกัสให้เห็นใบหน้าของผมให้ชัดและใช่เขาคือคุโระแน่นอนแต่ไม่ใช่คนเดียวกับที่เจอที่ถ้ำตอนนั้น...ความรู้สึกหลายๆอย่างมันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย เขาถอยออกมาก่อนจะค้อมศีรษะลงเป็นการขอโทษ
"ไม่เป็นไรหรอกก็นายมองไม่ชัดนี่นาคราวหลังก็ระวังหน่อยแล้วกัน "
ผมกล่าวออกไปเป็นห่วงว่าถ้าคนที่ชนไม่ใช่ผมคุโระคงจะถูกพูดจาไม่ดีใส่ก็ได้ ซึ่งคำตอบที่ได้มาคือรอยยิ้มจากเจ้าตัว
"อื้อ คราวหลังผมจะระวังนะแล้วก็..."
คุโระเอียงคอเล็กน้อย
"มิโคโตะล่ะจะไปไหนหรอ?"
เมื่อได้ยินคำถามผมก็นึกขึ้นได้ว่ผมต้องไปย่านการค้าเพื่อที่จะซ่อมเจ้าอาวุธสีขาวนี่
"จะไปที่ย่านการค้าน่ะ"
คุโระคลี่ยิ้มกว้างมากกว่าเดิมเหมือนว่าเขากำลังดีใจอยู่
"ทางเดียวกันกับผมเลยไปด้วยกันไหม?"
แน่นอนว่าผมคงไม่ปฏิเสธ บางทีการที่มีคนไปด้วยอาจทำให้ผมไม่เบื่อก็ได้และอีกอย่างผมมองเห็นว่าคุโระยังใส่ชุดเดิมกับเมื่อวานชุดที่เหมือนกับเป็นผู้ป่วยนั่นมันดูโทรมแล้วด้วย....
"เอาสิ"
พวกเราสองคนตัดสินใจไปที่ย่านการค้าด้วยกัน พวกเราใช้เวลาไม่นานก็ไปถึงย่านการค้าผมตรงดิ่งไปที่ร้านขายอาวุธหวังว่าพวกเขาจะช่วยอะไรได้บ้าง ผมนำอาวุธนั่นออกมาวางไว้ให้เจ้าของร้านช่วยตรวจสอบส่วนตอนนี้คุโระกำลังเลือกอาวุธอยู่ที่เคาน์เตอร์หนึ่ง
"เหมือนว่าอาวุธนี่จะพังอยู่นะ แถมรุ่นมันเก่ามากด้วยฉันคงช่วยซ่อมอะไรให้ไม่ได้หรอก"
เจ้าของร้านกล่าวน้ำเสียงของเขาเหมือนเสียดายที่ไม่สามารถซ่อมอาวุธนี้ได้
"แต่ว่าฉันพอจะรู้จักคนที่น่าจะมีฝีมือพอซ่อมเจ้านี่ได้อยู่นะ ตาแก่ซีคที่อยู่ในบล็อก 4 ที่ย่านพักอาศัยน่ะ"
"ซีค...หรอครับ?"
ซีค...ชื่อนี้ ผมพอจะนึกอะไรออกบางอย่างมันน่าจะเป็นคำที่เหมือนกับคุโระพูดเมื่อวาน
ไปหาซีค
"ผมขอที่อยู่ของเขาได้ไหมครับ?"
"ได้สิ"
ผมถามเจ้าของร้านซึ่งเขาก็ตอบตกลงก่อนจะโอนข้อมูลมให้กับเครื่องมือสื่อสารของผม
"แกเคยเป็นช่างซ่อมอาวุธอยู่แต่ก็หมดไฟไป หวังว่าตาแก่นั่นจะช่วยคุณนะ"
"ครับขอบคุณมากครับ"
ผมกล่าวขอบคุณเก็บอาวุธสีขาวลงในระบบเก็บของแล้วเดินออกไปจากร้าน
"อาวุธนี้...มิโคโตะน่ะเจอที่ไหนหรอ?"
ในขณะเดียวกันคุโระเข้ามาถามผมพร้อมมองไปที่อาวุธสีขาวไม่วางตา
"ที่นาเบริอุสน่ะ ต่อไปคงต้องเอาไปซ่อมในเมือง"
"ดูเป็นอาวุธที่ดูทรงพลังน่าดูเลยนะ"
คุโระกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าปรกติสายตาที่เขามองมาชวนให้รู้สึกอึดอัด แต่ไม่นานเขาก็กลับมายิ้มให้ผมเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้ผมสับสนและงุนงงแต่อย่างไรก็ตาม
"ผมจะไปด้วยกับมิโคโตะนะ"
ด้วยรอยยิ้มนั่นผมคงได้แต่บอกกับตัวเองว่าสิ่งที่ผมเห็นเมื่อครู่ผมคงคิดไปเอง
----------------------------------------------------------------------------
ไม่นานนักหลังจากที่พวกเราเดินทางออกมาจากย่านการค้าเข้าสู่ตัวเมืองอันแสนวุ่นวายพวกเราก็ได้เข้ามาถึงสถานที่ที่น่าจะเป็นที่อยู่ของบุคคลที่ชื่อว่า ซีค ตึกเก่าดูซอมซ่อเส้นทางที่นำไปสู่ที่อยู่ของซีคคือตรอกแคบแต่ยังดีที่ที่อยู่ของเขาอยู่ติดกับถนนที่แม้จะไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็พอที่รถจะสามารถผ่านได้ ผมเคาะประตูแล้วรอคำตอบจากอีกฝั่งซึ่งไม่มีการตอบรับอะไรเว้นเสียแต่การปลดล็อคประตูซึ่งแปลว่าผมกับคุโระสามารถเข้าไปด้านในได้
"พวกเธอมาที่นี่มีธุระอะไร? เป็นARKSไม่ใช่หรอ? จะให้ฉันซ่อมหรือสร้างอาวุธให้ฉันคงทำให้ไม่ได้หรอกฉันมันแก่แล้วทำอะไรก็ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนหรอกนะ"
คนที่อยู่ด้านในคือCastบอดี้สีดำเสียงของเขาราวกับคุณลุงสูงอายุ เขากำลังใช้คอมพิวเตอร์อยู่และเหมือนจะไม่สนใจพวกผมเสียเท่าไหร่นักเขาคงจะหมดไฟจริงๆจากคำกล่าวของเจ้าของร้านอาวุธ
"คุณซีคผมอยากจะขอให้คุณซ่อมอาวุธให้ผมหน่อยได้ไหมครับ"
คำถามวัดใจ ผลที่ได้คือCastเฒ่าหันกลับมาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รับซ่อมอาวุธน่ะ!"
ผมคิดว่าเราคงหมดหวังแล้วแต่คุโระกลับยิ้มตอบตาเฒ่าแล้วพูดขึ้นมา
"คุณซีคน่ะเป็นช่างซ่อมอาวุธที่เก่งกาจอาวุธธรรมดาๆพวกผมคงไม่เอามาให้คุณซ่อมหรอกจริงไหม? มิโคโตะเองก็ลงเอาออกมาให้เขาดูสิ"
ผมทำตามที่คุโระบอก ผมนำอาวุธออกมาจากช่องเก็บของตาเฒ่ามองอาวุธด้วยความสนใจ
"นี่มัน...สุดยอดไปเลยไม่ใช่หรอ!?"
เหมือนว่าอาวุธนี่จะจุดไฟให้ซีคอีกครั้ง เขาเดินมองไปรอบๆเจ้าอาวุธสีขาวที่มีปลายรูปร่างราวกับดวงดาว ผมส่งอาวุธให้เขาซึ่งรับไว้แล้วพิจารณา
" 3 อาทิตย์"
ซีคพูดขึ้นมาทำให้ผมถามกลับไป
"3อาทิตย์?"
"ฉันขอใช้เวลา 3 อาทิตย์ในการซ่อมเจ้านี่จนกว่าจะถึงตอนนั้นก็ทำอะไรรอไปก่อนแล้วกัน เชื่อมือฉันได้เลย"
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของผมและคุโระพวกเราต่างขอบคุณซีคก่อนพวกเราจะออกมาด้านนอก
"คุโระน่ะรู้ได้ยังไงหรอว่าอาวุธนั่นไม่ปรกติน่ะ?"
ผมถามคุโระในขณะที่เราเดินไปตามถนนที่ติดกับบ้านของซีค แน่นอนว่าคราวนี้เราจะไม่เดินกลับเข้าไปในตรอกแคบๆนั่นอีกแล้วทั้งอึดอัดทั้งเดินยากถ้าเดินมาตามถนนนี่แต่แรกคงไม่ต้องอึกอัดแบบนั้นแม้แถวนี้จะผ่านเขตก่อสร้างด้วยก็เถอะ
"เซนส์ล่ะมั้ง? ก็อาวุธปรกติน่ะคงไม่อยู่ในที่แปลกๆแบบทุนดร้าในนาเบริอุสหรอกจริงไหม? อ๊ะ พูดอะไรแปลกๆออกไปอีกแล้วสิ"
เดี๋ยวสิ...เขารู้ว่าผมเจอไม้เท้านั่นที่ทุนดร้า ไม่สิ อาจจะแค่บังเอิญก็ได้เพราะที่สุดท้ายที่เจอกันก่อนหน้านี้คือทุนดร้า แต่ว่าเหมือนคุโระจะปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ หรือว่า...
"อ๊ะ...!"
"ระวังสิ!"
คนที่เดินมาด้วยกันสะดุดท่อนเล็กที่ยืนออกมาจากกองเหล็กข้างทางที่ถูกวางระเกะระกะไว้ ดีที่ผมรับเขาไว้ทันแม้ร่างกายของเขาจะสูงเกือบเท่าตัวผมแต่ร่างกายของเขากับเบาอย่างน่าประหลาดและผมเผลอสบสายตากับดวงตาคู่งามนั่นอีกแล้ว
"ขอบคุณนะมิโคโตะผมทำให้ลำบากอีกแล้ว"
"ไม่หรอก ระวังๆหน่อยสินายมองไม่ค่อยเห็นอยู่"
ผมกล่าวก่อนจะถอนหายใจออกมาลืมเรื่องทุกอย่างที่คิดไปเสียหมดเพราะความเป็นห่วงที่มากจนน่าประหลาดที่เกิดขึ้นในใจของผม
"อืมๆเข้าใจแล้ว โอ๊ะ?พังซะแล้วสิ"
เขามองลงบนรองเท้าที่เหมือนกับรองเท้าแตะของตนมันขาดเสียแล้ว
"ไปซื้อคู่ใหม่กันก็ได้นะทั้งหมดเลย"
"เอ๊ะ?"
ผมไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่แต่คิดได้แค่ผมอยากจะช่วยเขา อย่างน้อยๆขอชุดใหม่กับรองเท้าก็ยังดี...แต่ว่า...
ทำไมผมต้องแคร์เขาขนาดนั้นด้วย
เพราะสงสาร? หรือเพราะผมหลงเขากันแน่?
"แต่ว่าเงิน..."
"ผมจ่ายให้หลังจากภารกิจที่ผ่านมาพอจะมีเงินซื้ออะไรได้บ้างอยู่ ไปกันเถอะ"
ผมคว้าแขนของเขาแล้วจูงเขาเดินไปตามทางเพื่อไม่ให้เขาต้องสะดุดล้มอีกครั้งหรือไม่ก็เหยียบอะไรที่ทำให้เจ็บเข้ายิ่งสายตาไม่ค่อยดีอยู่ รองเท้าคู่นั้นผมให้คุโระถือเอาไว้ด้วยตอนนี้เขาก็ต้องเดินเท้าเปล่าไปก่อนซึ่งผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นนานก็เลยรีบเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุด
"มิโคโตะน่ะใจดีไปแล้วนะ..."
ถึงคุโระจะพูดออกมาแต่มันก็เบาเสียจนผมไม่ได้ยินประโยคนั้นเลย...
----------------------------------------------------------------------------
ที่ห้างสรรพสินค้า พวกเราหยุดที่ร้านขายเสื้อผ้าส่วนรองเท้าที่พังของคุโระผมโยนทิ้งถังขยะไปเรียบร้อย
"ดูสิว่ามีอะไรลดราคาบ้าง"
ผมเดินเข้าไปตรงโวนลดราคาของร้านคุโระด้วยกระอักกระอ่วนใจแต่ก็ตามผมมา เขามองไปรอบๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยุดลงที่โฮโลแกรมลองเสื้อชุดหนึ่ง
"คุโระ นายลองดูชุดนี้ไหม? คุโระ?"
ผมเห็นเขามองชุดนั้นไม่วางตา
ชุดฮากามะสีดำ...
ชุดนั้นมันคุ้นเคยเสียยิ่งกว่าคุ้น มันคือชุดที่คนคนนั้นใส่คนที่เหมือนคุโระตอนนั้น
อา...ไม่ชุดนั้นมัน...
"มิโคโตะเป็นอะไรไปหรอ?เรียกหลายรอบแล้วเหมือนจะไม่ได้ยินผมเลย"
ผมหลุดออกจากภวังค์ ผมกลับมามองเขาอกครั้งในมือของคนตัวเล็กกว่ามีชุดฮากามะอยู่ในมือ
"ขอโทษนะเหมือนว่าจะเหม่อไปครู่หนึ่ง"
"ไม่เป็นไรหรอก นี่มิโคโตะคิดว่าชุดนี้จะเข้ากับผมไหม?"
"นายลองใส่ที่ห้องลองเสื้อดูสิ"
ผมกล่าวพร้อมพาเข้าไปที่หน้าห้องลองเสื้อ เขาเข้าไปไม่นานเกินรอคุโระก็ออกมาพร้อมกับสวมเสื้อฮากามะตัวนั้น ผมไม่อยากจะยอมรับแต่ว่า สวย เขาใส่ชุดนี้แล้วเขาสวยมาก
"เขาสิ มากด้วย"
ผมพูดไปตามตรงคำตอบคือรอยยิ้มของเขาครั้งนี้ผมกลับรู้สึกหวั่นไหวอย่างน่าประหลาด รอยยิ้มนั่นไม่อยากให้หายไปเลย
"แล้วก็ราคาไม่แพงด้วยลดราคาอีกด้วย ผมพอจะช่วยได้อยู่หารจ่ายกันคนละครึ่งเนอะ!"
คุโระกล่าวส่วนผมก็เห็นด้วยพวกเราเดินกันไปที่เคาน์เตอร์แล้วจ่ายเงินค่าเสื้อหารคนละครึ่งอย่างที่ตกลงไว้พนักงานได้แถมเครื่องประดับผมที่ทำจากขนนกให้กับผมมันเป็นขนนกสีดำ
"น้องสาวของมิโคโตะน่าจะชอบนะ"
คุโระกล่าวหลังจากที่เราออกมาจากร้านแล้วดีที่ว่าชุดนี้เขาขายเป็นเซ็ตซึ่งมีทั้งเสื้อรองเท้าด้วยเลยคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปในราคาที่ถูกด้วย
"มาโกะน่ะหรอ? เธอไม่ชอบสีหม่นๆแต่ว่าถ้ากับนายน่ะคงจะเข้ามากกว่า"
ผมมอบเครื่องประดับนั่นใส่ไว้ในมือของคุโระ
"นี่...มิโคโตะ ช่วยติดเครื่องประดับนี่ให้ผมได้ไหม?"
คำขอร้องที่ไม่คาดคิดออกมาจากปากของชายตรงหน้า ในมือของเขาส่งเครื่องประดับนั่นมาให้ผม
"ได้สิ ขออนุญาตนะ"
ผมติดมันลงบนเส้นผมของอีกฝ่ายอย่างเบามือ มันเป็นเพียวขนนกเล็กๆที่ห้อยลงมาจากผมของเขาเมื่อถอยห่างออกมามองมันดูเข้ากันกับคุโระอย่างน่าประหลาด
"ขอบคุณนะมิโคโตะ นายน่ะใจดีมากเลยขอบคุณที่ใจดีกับผมนะ"
รอยยิ้มของเขาเปล่งประกายกว่าทุกครั้งเขาดูมีความสุขจริงๆ ซึ่งมันก็น่าประหลาด
เพราะผมเองก็มีความสุขไปกับเขาด้วยเหมือนกัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ