[Fanfic] Phantasy Star Online 2: Another Episode Part 1

-

เขียนโดย LunaRRabbit

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.10 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  6,304 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 13.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) ช่วงเวลาพักผ่อน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากกลับมาจากนาเบริอุส มาโตอิถูกส่งไปยังโรงพยาบาลอีกครั้งในวันนี้เธอก็ยังไม่ได้สติ ส่วนมาโกะกับอาฟินออกไปทำภารกิจกันสองคนก่อนหน้านั้นมาโกะก็ดุผมเป็นชุดใหญ่เพราะทำให้เป็นห่วงอีกแล้ว และผมเพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาจากโรงพยาบาลได้ไม่นานแต่ก็ยังคงอยู่ในช่วงรักษาตัวจึงไม่ได้ออกไปทำภารกิจกับน้องสาว ที่สำคัญอาวุธประเภทไม้เท้าที่เจอในถ้ำตอนนั้นมันเหมือนว่าจะพังอยู่ผมจึงตัดสินใจจะนำมันไปซ่อมเผื่อจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันและคนที่เหมือนกับคุโระในตอนนั้น

"...เธอ"

ในขณะที่เดินออกจากวอร์ดคนไข้ผมก็เจอกับเธอคนนั้น.... ชิอง

"อาวุธปฐมกาลกุญแจแห่งการแปรผัน สิ่งนั้นที่มีพันธะกับเธอผู้นั้นอนาคตทุกอย่างถูกคำนวณเอาไว้แล้ว...ที่เหลือก็คือเธอเท่านั้น"

เธอหยุดพูดไปครู่หนึ่งใบหน้าของเธอยังคงเรียบเฉยแต่น้ำเสียงของเธอกลับหนักแน่นขึ้น

"จงตามกุญแจสีดำไป"

กุญแจสีดำ...?

"เดี๋ยวก่อนชิอง!"

ก่อนที่จะถามกันให้รู้เรื่องชิองก็หายไปไม่ต่างกับอะไรกับชายหนุ่มไม่วันก่อนไม่มีผิดมันทำให้ผมสงสัยการมีอยู่ของชิองและคนที่เหมือนกับคุโระคนนั้นมากขึ้น

หรือว่า...คนที่เหมือนคุโระคนนั้นอาจจะเป็นน้องชายที่คุโระกล่าวถึงว่าเสียชีวิตไปแล้ว?แต่ว่า...

ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่ผมก็เดินออกมาจากโรงพยาบาลไปยังย่านการค้า เดินไปคิดไปอยู่นานสองนานจนกระทั่ง

ตุบ!

"อ๊ะ! ขอโทษครับคือว่าผมมองไม่เห็น...มิโคโตะ?"

ชายหนุ่มเรือนผมยาวสีดำและดวงตาเป็นประกายที่ผมเคยพบเจอเขาชนกับผมโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เขาเพ่งมามาที่ผมอย่างตั้งใจเหมือนพยายามโฟกัสให้เห็นใบหน้าของผมให้ชัดและใช่เขาคือคุโระแน่นอนแต่ไม่ใช่คนเดียวกับที่เจอที่ถ้ำตอนนั้น...ความรู้สึกหลายๆอย่างมันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย เขาถอยออกมาก่อนจะค้อมศีรษะลงเป็นการขอโทษ

"ไม่เป็นไรหรอกก็นายมองไม่ชัดนี่นาคราวหลังก็ระวังหน่อยแล้วกัน "

ผมกล่าวออกไปเป็นห่วงว่าถ้าคนที่ชนไม่ใช่ผมคุโระคงจะถูกพูดจาไม่ดีใส่ก็ได้ ซึ่งคำตอบที่ได้มาคือรอยยิ้มจากเจ้าตัว

"อื้อ คราวหลังผมจะระวังนะแล้วก็..."

คุโระเอียงคอเล็กน้อย

"มิโคโตะล่ะจะไปไหนหรอ?"

เมื่อได้ยินคำถามผมก็นึกขึ้นได้ว่ผมต้องไปย่านการค้าเพื่อที่จะซ่อมเจ้าอาวุธสีขาวนี่

"จะไปที่ย่านการค้าน่ะ"

คุโระคลี่ยิ้มกว้างมากกว่าเดิมเหมือนว่าเขากำลังดีใจอยู่

"ทางเดียวกันกับผมเลยไปด้วยกันไหม?"

แน่นอนว่าผมคงไม่ปฏิเสธ บางทีการที่มีคนไปด้วยอาจทำให้ผมไม่เบื่อก็ได้และอีกอย่างผมมองเห็นว่าคุโระยังใส่ชุดเดิมกับเมื่อวานชุดที่เหมือนกับเป็นผู้ป่วยนั่นมันดูโทรมแล้วด้วย....

"เอาสิ"

พวกเราสองคนตัดสินใจไปที่ย่านการค้าด้วยกัน พวกเราใช้เวลาไม่นานก็ไปถึงย่านการค้าผมตรงดิ่งไปที่ร้านขายอาวุธหวังว่าพวกเขาจะช่วยอะไรได้บ้าง ผมนำอาวุธนั่นออกมาวางไว้ให้เจ้าของร้านช่วยตรวจสอบส่วนตอนนี้คุโระกำลังเลือกอาวุธอยู่ที่เคาน์เตอร์หนึ่ง

"เหมือนว่าอาวุธนี่จะพังอยู่นะ แถมรุ่นมันเก่ามากด้วยฉันคงช่วยซ่อมอะไรให้ไม่ได้หรอก"

เจ้าของร้านกล่าวน้ำเสียงของเขาเหมือนเสียดายที่ไม่สามารถซ่อมอาวุธนี้ได้

"แต่ว่าฉันพอจะรู้จักคนที่น่าจะมีฝีมือพอซ่อมเจ้านี่ได้อยู่นะ ตาแก่ซีคที่อยู่ในบล็อก 4 ที่ย่านพักอาศัยน่ะ"

"ซีค...หรอครับ?"

ซีค...ชื่อนี้ ผมพอจะนึกอะไรออกบางอย่างมันน่าจะเป็นคำที่เหมือนกับคุโระพูดเมื่อวาน

ไปหาซีค

"ผมขอที่อยู่ของเขาได้ไหมครับ?"

"ได้สิ"

ผมถามเจ้าของร้านซึ่งเขาก็ตอบตกลงก่อนจะโอนข้อมูลมให้กับเครื่องมือสื่อสารของผม

"แกเคยเป็นช่างซ่อมอาวุธอยู่แต่ก็หมดไฟไป หวังว่าตาแก่นั่นจะช่วยคุณนะ"

"ครับขอบคุณมากครับ"

ผมกล่าวขอบคุณเก็บอาวุธสีขาวลงในระบบเก็บของแล้วเดินออกไปจากร้าน

"อาวุธนี้...มิโคโตะน่ะเจอที่ไหนหรอ?"

ในขณะเดียวกันคุโระเข้ามาถามผมพร้อมมองไปที่อาวุธสีขาวไม่วางตา

"ที่นาเบริอุสน่ะ ต่อไปคงต้องเอาไปซ่อมในเมือง"

"ดูเป็นอาวุธที่ดูทรงพลังน่าดูเลยนะ"

คุโระกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าปรกติสายตาที่เขามองมาชวนให้รู้สึกอึดอัด แต่ไม่นานเขาก็กลับมายิ้มให้ผมเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้ผมสับสนและงุนงงแต่อย่างไรก็ตาม

"ผมจะไปด้วยกับมิโคโตะนะ"

ด้วยรอยยิ้มนั่นผมคงได้แต่บอกกับตัวเองว่าสิ่งที่ผมเห็นเมื่อครู่ผมคงคิดไปเอง

----------------------------------------------------------------------------

ไม่นานนักหลังจากที่พวกเราเดินทางออกมาจากย่านการค้าเข้าสู่ตัวเมืองอันแสนวุ่นวายพวกเราก็ได้เข้ามาถึงสถานที่ที่น่าจะเป็นที่อยู่ของบุคคลที่ชื่อว่า ซีค ตึกเก่าดูซอมซ่อเส้นทางที่นำไปสู่ที่อยู่ของซีคคือตรอกแคบแต่ยังดีที่ที่อยู่ของเขาอยู่ติดกับถนนที่แม้จะไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็พอที่รถจะสามารถผ่านได้ ผมเคาะประตูแล้วรอคำตอบจากอีกฝั่งซึ่งไม่มีการตอบรับอะไรเว้นเสียแต่การปลดล็อคประตูซึ่งแปลว่าผมกับคุโระสามารถเข้าไปด้านในได้

"พวกเธอมาที่นี่มีธุระอะไร? เป็นARKSไม่ใช่หรอ? จะให้ฉันซ่อมหรือสร้างอาวุธให้ฉันคงทำให้ไม่ได้หรอกฉันมันแก่แล้วทำอะไรก็ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนหรอกนะ"

คนที่อยู่ด้านในคือCastบอดี้สีดำเสียงของเขาราวกับคุณลุงสูงอายุ เขากำลังใช้คอมพิวเตอร์อยู่และเหมือนจะไม่สนใจพวกผมเสียเท่าไหร่นักเขาคงจะหมดไฟจริงๆจากคำกล่าวของเจ้าของร้านอาวุธ

"คุณซีคผมอยากจะขอให้คุณซ่อมอาวุธให้ผมหน่อยได้ไหมครับ"

คำถามวัดใจ ผลที่ได้คือCastเฒ่าหันกลับมาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รับซ่อมอาวุธน่ะ!"

ผมคิดว่าเราคงหมดหวังแล้วแต่คุโระกลับยิ้มตอบตาเฒ่าแล้วพูดขึ้นมา

"คุณซีคน่ะเป็นช่างซ่อมอาวุธที่เก่งกาจอาวุธธรรมดาๆพวกผมคงไม่เอามาให้คุณซ่อมหรอกจริงไหม? มิโคโตะเองก็ลงเอาออกมาให้เขาดูสิ"

ผมทำตามที่คุโระบอก ผมนำอาวุธออกมาจากช่องเก็บของตาเฒ่ามองอาวุธด้วยความสนใจ

"นี่มัน...สุดยอดไปเลยไม่ใช่หรอ!?"

เหมือนว่าอาวุธนี่จะจุดไฟให้ซีคอีกครั้ง เขาเดินมองไปรอบๆเจ้าอาวุธสีขาวที่มีปลายรูปร่างราวกับดวงดาว ผมส่งอาวุธให้เขาซึ่งรับไว้แล้วพิจารณา

" 3 อาทิตย์"

ซีคพูดขึ้นมาทำให้ผมถามกลับไป

"3อาทิตย์?"

"ฉันขอใช้เวลา 3 อาทิตย์ในการซ่อมเจ้านี่จนกว่าจะถึงตอนนั้นก็ทำอะไรรอไปก่อนแล้วกัน เชื่อมือฉันได้เลย"

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของผมและคุโระพวกเราต่างขอบคุณซีคก่อนพวกเราจะออกมาด้านนอก

"คุโระน่ะรู้ได้ยังไงหรอว่าอาวุธนั่นไม่ปรกติน่ะ?"

ผมถามคุโระในขณะที่เราเดินไปตามถนนที่ติดกับบ้านของซีค แน่นอนว่าคราวนี้เราจะไม่เดินกลับเข้าไปในตรอกแคบๆนั่นอีกแล้วทั้งอึดอัดทั้งเดินยากถ้าเดินมาตามถนนนี่แต่แรกคงไม่ต้องอึกอัดแบบนั้นแม้แถวนี้จะผ่านเขตก่อสร้างด้วยก็เถอะ

"เซนส์ล่ะมั้ง? ก็อาวุธปรกติน่ะคงไม่อยู่ในที่แปลกๆแบบทุนดร้าในนาเบริอุสหรอกจริงไหม? อ๊ะ พูดอะไรแปลกๆออกไปอีกแล้วสิ"

เดี๋ยวสิ...เขารู้ว่าผมเจอไม้เท้านั่นที่ทุนดร้า ไม่สิ อาจจะแค่บังเอิญก็ได้เพราะที่สุดท้ายที่เจอกันก่อนหน้านี้คือทุนดร้า แต่ว่าเหมือนคุโระจะปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ หรือว่า...

"อ๊ะ...!"

"ระวังสิ!"

คนที่เดินมาด้วยกันสะดุดท่อนเล็กที่ยืนออกมาจากกองเหล็กข้างทางที่ถูกวางระเกะระกะไว้ ดีที่ผมรับเขาไว้ทันแม้ร่างกายของเขาจะสูงเกือบเท่าตัวผมแต่ร่างกายของเขากับเบาอย่างน่าประหลาดและผมเผลอสบสายตากับดวงตาคู่งามนั่นอีกแล้ว

"ขอบคุณนะมิโคโตะผมทำให้ลำบากอีกแล้ว"

"ไม่หรอก ระวังๆหน่อยสินายมองไม่ค่อยเห็นอยู่"

ผมกล่าวก่อนจะถอนหายใจออกมาลืมเรื่องทุกอย่างที่คิดไปเสียหมดเพราะความเป็นห่วงที่มากจนน่าประหลาดที่เกิดขึ้นในใจของผม

"อืมๆเข้าใจแล้ว โอ๊ะ?พังซะแล้วสิ"

เขามองลงบนรองเท้าที่เหมือนกับรองเท้าแตะของตนมันขาดเสียแล้ว

"ไปซื้อคู่ใหม่กันก็ได้นะทั้งหมดเลย"

"เอ๊ะ?"

ผมไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่แต่คิดได้แค่ผมอยากจะช่วยเขา อย่างน้อยๆขอชุดใหม่กับรองเท้าก็ยังดี...แต่ว่า...

ทำไมผมต้องแคร์เขาขนาดนั้นด้วย

เพราะสงสาร? หรือเพราะผมหลงเขากันแน่?

"แต่ว่าเงิน..."

"ผมจ่ายให้หลังจากภารกิจที่ผ่านมาพอจะมีเงินซื้ออะไรได้บ้างอยู่ ไปกันเถอะ"

ผมคว้าแขนของเขาแล้วจูงเขาเดินไปตามทางเพื่อไม่ให้เขาต้องสะดุดล้มอีกครั้งหรือไม่ก็เหยียบอะไรที่ทำให้เจ็บเข้ายิ่งสายตาไม่ค่อยดีอยู่ รองเท้าคู่นั้นผมให้คุโระถือเอาไว้ด้วยตอนนี้เขาก็ต้องเดินเท้าเปล่าไปก่อนซึ่งผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นนานก็เลยรีบเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุด

"มิโคโตะน่ะใจดีไปแล้วนะ..."

ถึงคุโระจะพูดออกมาแต่มันก็เบาเสียจนผมไม่ได้ยินประโยคนั้นเลย...

----------------------------------------------------------------------------

ที่ห้างสรรพสินค้า พวกเราหยุดที่ร้านขายเสื้อผ้าส่วนรองเท้าที่พังของคุโระผมโยนทิ้งถังขยะไปเรียบร้อย

"ดูสิว่ามีอะไรลดราคาบ้าง"

ผมเดินเข้าไปตรงโวนลดราคาของร้านคุโระด้วยกระอักกระอ่วนใจแต่ก็ตามผมมา เขามองไปรอบๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยุดลงที่โฮโลแกรมลองเสื้อชุดหนึ่ง

"คุโระ นายลองดูชุดนี้ไหม? คุโระ?"

ผมเห็นเขามองชุดนั้นไม่วางตา

ชุดฮากามะสีดำ...

ชุดนั้นมันคุ้นเคยเสียยิ่งกว่าคุ้น มันคือชุดที่คนคนนั้นใส่คนที่เหมือนคุโระตอนนั้น

อา...ไม่ชุดนั้นมัน...

"มิโคโตะเป็นอะไรไปหรอ?เรียกหลายรอบแล้วเหมือนจะไม่ได้ยินผมเลย"

ผมหลุดออกจากภวังค์ ผมกลับมามองเขาอกครั้งในมือของคนตัวเล็กกว่ามีชุดฮากามะอยู่ในมือ

"ขอโทษนะเหมือนว่าจะเหม่อไปครู่หนึ่ง"

"ไม่เป็นไรหรอก นี่มิโคโตะคิดว่าชุดนี้จะเข้ากับผมไหม?"

"นายลองใส่ที่ห้องลองเสื้อดูสิ"

ผมกล่าวพร้อมพาเข้าไปที่หน้าห้องลองเสื้อ เขาเข้าไปไม่นานเกินรอคุโระก็ออกมาพร้อมกับสวมเสื้อฮากามะตัวนั้น ผมไม่อยากจะยอมรับแต่ว่า สวย เขาใส่ชุดนี้แล้วเขาสวยมาก

"เขาสิ มากด้วย"

ผมพูดไปตามตรงคำตอบคือรอยยิ้มของเขาครั้งนี้ผมกลับรู้สึกหวั่นไหวอย่างน่าประหลาด รอยยิ้มนั่นไม่อยากให้หายไปเลย

"แล้วก็ราคาไม่แพงด้วยลดราคาอีกด้วย ผมพอจะช่วยได้อยู่หารจ่ายกันคนละครึ่งเนอะ!"

คุโระกล่าวส่วนผมก็เห็นด้วยพวกเราเดินกันไปที่เคาน์เตอร์แล้วจ่ายเงินค่าเสื้อหารคนละครึ่งอย่างที่ตกลงไว้พนักงานได้แถมเครื่องประดับผมที่ทำจากขนนกให้กับผมมันเป็นขนนกสีดำ

"น้องสาวของมิโคโตะน่าจะชอบนะ"

คุโระกล่าวหลังจากที่เราออกมาจากร้านแล้วดีที่ว่าชุดนี้เขาขายเป็นเซ็ตซึ่งมีทั้งเสื้อรองเท้าด้วยเลยคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปในราคาที่ถูกด้วย

"มาโกะน่ะหรอ? เธอไม่ชอบสีหม่นๆแต่ว่าถ้ากับนายน่ะคงจะเข้ามากกว่า"

ผมมอบเครื่องประดับนั่นใส่ไว้ในมือของคุโระ

"นี่...มิโคโตะ ช่วยติดเครื่องประดับนี่ให้ผมได้ไหม?"

คำขอร้องที่ไม่คาดคิดออกมาจากปากของชายตรงหน้า ในมือของเขาส่งเครื่องประดับนั่นมาให้ผม

"ได้สิ ขออนุญาตนะ"

ผมติดมันลงบนเส้นผมของอีกฝ่ายอย่างเบามือ มันเป็นเพียวขนนกเล็กๆที่ห้อยลงมาจากผมของเขาเมื่อถอยห่างออกมามองมันดูเข้ากันกับคุโระอย่างน่าประหลาด

"ขอบคุณนะมิโคโตะ นายน่ะใจดีมากเลยขอบคุณที่ใจดีกับผมนะ"

รอยยิ้มของเขาเปล่งประกายกว่าทุกครั้งเขาดูมีความสุขจริงๆ ซึ่งมันก็น่าประหลาด

เพราะผมเองก็มีความสุขไปกับเขาด้วยเหมือนกัน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายฟิคชั่นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา