[Fanfic] Phantasy Star Online 2: Another Episode Part 1
-
เขียนโดย LunaRRabbit
วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.10 น.
5 บท
0 วิจารณ์
6,154 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 13.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) หิมะสีขาวชายหนุ่มสีดำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนนี้ผมนอนอยู่ท่ามกลางหิมะ ไม่รู้ว่าตัวเองตกลงมาสูงเท่าไหร่แต่รู้สึกถึงความเจ็บที่หลัง ถ้าหากจะให้ผมเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมผมมานอนอยู่บนกองหิมะแบบนี้คงต้องย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้....
-----------------------
ช่วงเช้า ผมกำลังส่งรายงานของภารกิจครั้งที่แล้วให้กับทางองค์กรแล้วจู่ๆมาโกะก็เข้ามาในห้องแถมลากอาฟินเข้ามาด้วย ผมที่สวมแค่เสื้อวอร์มกับกางเกงขาสั้นก็ทำได้แค่อ้าปากพะงาบๆจะว่าก็คิดคำไม่ออกเพราะสมองผมมันตกใจจนคิดไม่ทัน เเธอเข้ามาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้าเลยด้วยซ้ำ
เอาจริงๆผมก็แอบคิดว่ามันเป็นความผิดของผมเองที่ให้รหัสปลดล็อคให้ไว้กับเธอ....
"ไงคู่หู คือว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้--" "พี่ชาย! มีภารกิจเข้ามาแหละ เราไปสำรวจนาเบริอุสอีกรอบกันเถอะ!"
อาฟินกำลังจะอธิบายอะไรบางอย่างแต่ถูกมาโกะพูดตัดหน้าไปซะงั้น เขาเลยทำได้แค่หัวเราะแหะๆแล้วพยักหน้าหงึกหงักไปตามน้ำ แต่ว่าครั้งที่แล้วมีDarkerปรากฏตัวขึ้นที่นั่นไม่ใช่ว่ามันอันตรายไปหน่อยหรอ? พวกหัวหน้านี่แปลกจริงๆแต่ผมเองก็ไม่สามารถปฏิเสธน้องสาวได้ก็เลย...ตอบตกลงไป
"จะไปด้วยก็ได้ ขอเวลาพี่แต่งตัวก่อนนะ"
"อื้มๆ ⁓ ได้เลยพี่ชายอีก 15 นาทีเจอกันที่ล็อบบี้นะ ไปกันเถอะอาฟิน!"
"กะ ก็ประมาณนั้นแหละไว้เจอกันนะคู่หู! อ๊ะ! มาโกะอยากลากไปแบบนี้สิจะล้มแล้วๆ หวาๆๆ!"
แล้วมาโกะก็ลากอาฟินไปเหมือนเดิม...แถมเจ้าตัวNewmanคนนั้นก็เหมือนจะโวยวายอยู่ไกลๆจนกระทั่งประตูอัตโนมัติของห้องผมปิดไปเหลือแต่ผมและความเงียบกับไฟล์งานที่ส่งเรียบร้อย ที่เหลือคือลงทะเบียนทำภารกิจแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย...
ชีวิตARKSนี่วุ่นวายดีจังเลยนะ.... .
.
.
.
.
.
หลังจากแต่งตัวเสร็จผมก็ไปรวมตัวกับมาโกะและอาฟิน เธอมีเซอร์ไพรซ์ให้ผมอีก...ก็คือ มาโตอิ เธอจะไปกับพวกเราด้วย มาโกะอธิบายให้ฟังได้ใจความคร่าวๆว่าเมื่อตอนเช้าก่อนที่จะมาที่ห้องผมเธอไปเยี่ยมมาโตอิแล้วบอกกับเธอว่าจะไปนาเบริอุส มาโตอิก็เลยขอติดตามมาด้วยเพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยเกี่ยวกับเรื่องความทรงจำของเธอได้
"สรุปคือมาโตอิจะมาด้วยสินะ..."
"แน่นอนพี่ชาย หนูทำเรื่องขอให้ประชาชนติดตามมาด้วยแล้วล่ะ"
มาโกะยิ้มแป้น ส่วนมาโตอิก็ยิ้มให้ผมเช่นกันแล้วเธอก็พูดออกมาทั้งๆที่ยิ้มอยู่แบบนั้นว่า
"ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะทุกคน"
ดูเหมือนว่าภารกิจนี้จะยากกว่าเดิมเพราะมาโตอิต่อสู้ไม่ได้ด้วยเนี่ยสิ...
พวกเราไปยังลานจอดCamp shipหัวหน้าทีมของเราในวันนี้คือคุณเดวิด เขาเป็นARKSผู้มากประสบการณ์คนหนึ่งอีกทั้งยังเป็นสายไฟต์เตอร์ผู้ใช้อาวุธDouble saber(ทวนสั้นสองปลาย) เป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงว่าเป็นARKSที่มีความสามารถในการต่อสู้สูงจนเรียกว่าเป็นหัวกะทิก็น่าจะว่าได้ เพราะแบบนั้นมาโกะที่เป็นฟอร์ซระดับท็อปของร.ร.ฝึกสอนจึงดูไม่ค่อยถูกกับเขานัก ถ้าถามว่ารูปร่างหน้าตาเขาเป็นอย่างไรคงพูดได้ว่าไม่มีอะไรโดดเด่นมากนอกจากเรือนผมสีน้ำเงินและรอยบากที่แก้มขวาของเขากับความรู้สึกแปลกๆเมื่ออยู่รอบๆตัวเขา
"ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม?" คุณเดวิดกล่าวในขณะที่นับจำนวนคนว่าครบหรือไม่
"ครับผม! มากันครบแล้วครับ!" อาฟินตาด้วยน้ำเสียงสดใสเต็มร้อยสมกับเป็นอาฟินจริงๆ ส่วนผมกับมาโกะก็แค่ยกมือขึ้นเล็กน้อยให้รู้ว่ายังมีตัวตนอยู่ในทีมนี้ด้วย
"งั้นคงไม่มีอะไรต้องรอช้า รีบขึ้นCamp shipแล้วรีบทำภารกิจให้จบกัน" คุณเดวิดพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆเขาดูไม่สนใจพวกเราด้วยซ้ำแถมยังสะบัดตัวเดินขึ้นยานไปแบบไม่รอใครเลย มาโกะทำท่าทำทีเหมือนจะว่าอะไรสักอย่างแต่ผมก็ปิดปากเธอเอาไว้ไม่ให้เธอตะโกนไล่หลังหัวหน้าทีมไปจนเป็นเสียงอู้อี้อยู่ในมือผมมาโตอิได้แต่ยิ้มแห้งๆ
"เหมือนว่าจะลำบากแต่เริ่มเลยนะ"
มาโตอิหัวเราะแห้งๆส่วนอาฟินกันกับผมก็ส่ายหน้าเบาๆ มันก็จริงอย่างที่มาโตอิพูดเริ่มมาก็เหมือนจะเจอคนที่เข้าถึงยากซะแล้ว...
ระหว่างที่พวกเรากำลังเดินทางไปยังนาเบริอุสจู่ๆคุรเดวิดก็พูดเรื่องอะไรบางอย่างออกมา
"ช่วงนี้ฉันอยากให้พวกนายระวังตัวกันไว้ ข่าวลือมันเริ่มเป็นจริงเรื่อยๆเกี่ยวกับเรื่อง[มังกรคลั่ง]"
มังกรคลั่ง?
"มันคืออะไรหรอครับ?"
ผมถามออกไปด้วยความสงสัย นัยน์ตาสีดำของคุณเดวิดจ้องมาที่ผมก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"มังกรที่กินARKSยังไงล่ะ"
ทุกคนที่อยู่ในยานเงียบกันไปครู่หนึ่งแถมจ้องมองไปยังทางเดียวกันคือคุณเดวิดที่นั่งอยู่ ใช่ พวกเรากลัว กลัวกันทั้งหมด
"ช่างมันเถอะอย่างไรก็ดีตอนนี้ยังไม่มีใครพบเห็นมันที่นาเบริอุสแหละน่า ข่าวลือยังไงก็คือข่าวลือ"
คุณเดวิดพูดขึ้นก่อนจะกลับไปนั่งพิงพำนักเก้าอี้ ปล่อยให้พวกเราใจโหว่งเรื่องมังกรอยู่ตรงนั้น สรุปแล้ว...มันจะมีจริงหรือไม่มีจริงกันแน่?
ไม่นานนักพวกเราก็ได้สัมผัสพื้นดินอ่อนนุ่มที่คุ้นเคยของนาเบริอุส การสำรวจเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เท้าของพวกเราแตะพื้นขาทั้งสองข้างของพวกเราก็เริ่มเดินสำรวจนาเบริอุสอย่างไม่รีรอ แม้ว่าพื้นที่ที่พบเจอจะไม่ต่างกับตอนแรกที่มาเยือนที่นี่นักแต่ก็ทำให้ผมรู้ว่านาเบริอุสคือดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตหลากหลายจนน่าอัศจรรย์ ทั้งสัตว์ปีก สัตว์สี่ขา แม้แต่ปลาในน้ำก็ยังมีมากมาย มีหลายๆอย่างให้พวกเราและพบเห็นและสำรวจเต็มไปหมด นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติกระมัง?
พวกเราสำรวจโซนป่าไปจนเกือบถึงโซนภูเขาแล้วจึงตัดสินใจนั่งพวกที่ใต้ต้นไม้ใหญ่แถวๆนั้น
"เฮ้อ...ได้พักสักทีนึกว่าจะไม่ได้พักซะแล้ว"
มาโกะบ่นอุบเธอก้มลงนวดท่อนขาเรียวของเธอทั้งสองข้างเป็นการคลายเมื่อย
"นั่นสินะ แต่จะว่าไปก็สงบสุขดีเหมือนกันนะ"
ผมกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง
"แล้วมาโตอิล่ะไหวหรือเปล่า?"
"ยังไหวอยู่จ้ะ ไม่ต้องห่วงนะอาฟิน"
มาโตอิกับอาฟินเองก็สนทานากันอย่างรื่นเริงผมเองก็สบายใจขึ้นมาเล็กน้อยว่าจะไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น
หรือเปล่า...?
"ทุกคนมีบางอย่างผิดปากติ!"
คุณเดวิดลุกขึ้นจับอาวุธพร้อมต่อสู้แต่พวกเราไม่ได้ใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้แต่จับอาวุธขึ้นมาด้วยความสับสน ทันใดนั้นคำตอบก็มาหาพวกเราถึงที่เพราะมันคือฝูงDarkerรูปร่างคล้ายแมงมุม 4 ขาขนาดใหญ่กว่าคนปกติกำลังล้อมพวกเราอยู่ ผมกำหอกในมือไว้แน่นพวกเราARKSฝึกหัดทั้งสามคนล้อมป้องกันมาโตอิเอาไว้เพราะกลัวว่าเจ้าพวกแมลงนี่จะทำร้ายเธอ
"จะบอกอะไรให้นะ มาโกะน่ะนะเรียนรู้Techniquesมาใหม่ด้วยล่ะ"
มาโกะพูดแล้วยิ้มออกมาจากนั้นจึงชูคทาขึ้นเหนือศีรษะเธอกำลังรวบรวมโฟตอน
"อะไรล่ะมาโกะ?"
"มันก็คือ Gi-Grants ยังไงล่ะพี่ชาย!"
เธอปลดปล่อยดาบแสงออกมารอบตัวพร้อมพุ่งเข้าไปฟาดฟันเจ้าพวกแมลงที่เข้ามาใกล้เธอ ผมได้แต่ขมวดคิ้วว่าเธอเรียนมาจากไหนแต่ว่าถ้าให้เดาก็คงมาจากหัวหน้าคลาสฟอร์ซแหละมั้ง...?
"สุดยอดไปเลยคูหูมาโกะ! หวา!"
อาฟินพยายามไล่ยังพวกDarkerที่เข้ามาใกล้แต่ก็เกือบถูกโจมตีเข้าให้ ผมก็เลยใช้หอกของตัวเองปัดการโจมตีให้เขา
"อาฟินนายพามาโตอิไปอยู่ที่ปลอดภัยก่อน ฉันกับมาโกะแล้วก็คุรเดวินจะต้านพวกมันไว้เอง"
ผมพูดขึ้นด้วยความมั่นใจอาฟินเองก็พยักหน้าตอบก่อนจะรีบพามาโตอิไปอยู่ให้ห่างจากพื้นที่การต่อสู้ คุณเดวิดเองก็ใช่ว่าจะด้อยฝีมือ เขาสามารถใช้ทวนสั้นสองปลายจัดการพวกDarkerที่อยู่เป็นฝูงได้ในคราวเดียว แต่ว่า...ในการต่อสู้นั่นก็มีอะไรบางอย่างแปลกๆอยู่...ท่วงทีการโจมตีของเขามันดูไร้รูปแบบจนเหมือนกับว่าเขานั้นไร้สติ
มันน่ากลัว...
--------------------------------------------------------
ในตอนนี้ก็คงเกริ่นได้ว่าพวกผมมาทำอะไรที่นาเบริอุสและมีอะไรบางอย่างผิดปรกติอย่างแน่นอน ต่อจากนี้มันคือเรื่องก่อนที่ผมจะอยู่ในสภาพที่นอนอยู่บนกองหิมะเรื่องของเรื่องคือ...
หลังจากที่ทีมของผมรอดจากการโจมตีพวกเราก็ตัดสินใจสำรวจต่อในพื้นที่ใหม่นั่นก็คือเขตทุนดร้า เป็นเขตภูเขาสูงของนาเบริอุสที่มีหิมะตกเกือบจะตลอดเวลาและที่สำคัญมันคือทุ่งหิมะดีๆนี่เอง...
"หนาวๆ หนาวเป็นบ้าเลย!"
อาฟินบ่นตลอดทางที่พวกเราเดินทางมาในทุ่งน้ำแข็ง ก็ไม่แปลกใจเพราะชุดของเขามันขาสั้นจะไม่ให้หนาวได้อย่างไร....
"อดทนหน่อยนะอาฟินเราสำรวจพื้นที่นี้เสร็จก็คงจบภารกิจแล้วล่ะ"
มาโกะพูดขึ้นก่อนจะจามอย่างแรงเพราะอุณหภูมิที่ลดต่ำลง มาโตอิเหมือนจะแต่งตัวเหมาะสมกับสภาพอากาศสุดก็ได้แต่หัวเราะเบาๆเพราะท่าทางของมาโกะกับอาฟิน ส่วนผมหรอ? เครื่องแบบของผมมันปิดมิดชิดทั้งตัวจนไม่ต้องกลัวว่าจะหนาวเลยด้วยซ้ำ...
พวกเราเดินสำรวจมาสักพักพายุหิมะก็โหมกระหน่ำเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ แต่เดวิดก็ยังไม่สั่งให้พวกเราหยุดพักจนผมกำลังจะท้วงออกไปแต่...
ก็ถูกขัดโดยฝูกDarkerอีกฝูงที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างถูกเวลา
"บ้าเอ้ย"
เดวิดสบถออกมาก่อนจะเริ่มสังหารพวกDarkerรูปร่างแมลงนั่นอย่างรวดเร็วจนพวกเราแทบไม่ได้ทำอะไรนอกจากปัดการโจมตีของพวกมัน ขึ้นส่วนแมลงถูกทิ้งไว้ไปทั่วแล้วสลายหายไปกลายเป็นไอสีดำ ท่าทีของเดวิดก็เริ่มบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆราวกับคนวิกลจริตที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาหัวเราะออกมาในขณะที่ดึงหัวเจ้าพวกนั้นออก เขาหายใจแรงราวกับกระทิงคลั่ง เขาบิดเบี้ยวเป็นอะไรบางอย่างที่พวกผมไม่รู้จักด้วยซ้ำ
พอพวกDarkerตายหมด เขาก็หยุดนิ่งเสียจนเดาไม่ได้ว่าเขาจะทำอะไร อาฟินที่สงสัยอยู่ก็ลังเลเล็กน้อยก่อนจากเดินเข้าไปหาเดวิดด้วยความเป็นหวงแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ...
เดวิดพุ่งเข้าใส่เขาพร้อมกับอาวุธในมือ
"หวา!! อย่านะ! ช่วยด้วย!!!!"
อาฟินตะโกนด้วยความตกใจสุดขีดผมเห็นท่าไม่ดีเลยพุ่งเข้าไปใช้หอกป้องกันการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด ผมว่าหลังจากนี้อาฟินต้องเป็นหนี้ผมแล้วแน่ๆ
"อาฟินหนีไป!"
"อะ อืม!"
อาฟินรีบวิ่งหนีเข้าไปหาทางพวกมาโกะ ผมเองก็เริ่มประหอกของผมเข้ากับทวนของเดวิดที่คลั่งไปเรียบร้อย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ผมไม่อยากทำร้ายARKSด้วยกันแต่ว่าทำไมคุณเดวิดถึงโจมตีผมแบบนี้กัน
มาโกะทำท่าทีเหมือนจะใช้Techniquesแต่สุดท้ายเธอก็ลังเลจนไม่กล้าใช้มัน อาฟินเองก็ไม่กล้าเล็งปืนมาที่ARKSด้วยกัน ผมก็ไม่กล้าทำร้ายเดวิด สถานการณ์กดดันมากขึ้นเรื่อยๆจนผมพบว่าตัวเองอยู่ไม่ไกลจากหน้าผานักแถมDarkerฝูงใหม่ก็พบพวกเราเข้าพอดีอีกผมพยายามใช้แรงทั้งหมดดันเดวิดออกไปสำเร็จแต่ว่า...
พื้นที่อยู่ใต้เท้าผมมันก็ถล่มลงมาจนผมตกลงไปด้านล่าง
"พี่คะ!!!!"
เสียงของมาโกะคือสิ่งเดียวที่ผมจำได้ก่อนที่สติของผมจะมืดดับลง...
---------------------------------------------------------------
และผมก็ตื่นขึ้นมาอยู่ที่นี่บนกองหิมะนุ่มๆอย่างที่ผมกล่าวไปในตอนแรก ผมค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้น ความเจ็บแปล๊บที่บั้นเอวแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็วผมบาดเจ็บที่บั้นเอวซ้ายน่าจะเป็นแผลที่ได้จากการปะทะกับเดวิดที่เสียสติไปแล้ว ผมรวบรวมสติที่มีเปิดเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาแต่ในขณะที่ผมกำลังจะเปิดเครื่องมือนั่นผมก็เห็นอะไรบางอย่างที่ตัดกับหิมะสีขาวสะอาดรอบตัว หญิงสาวไม่ก็ชายหนุ่มที่มีเรือนผมยาวสีดำกำลังยืนอยู่ที่โขดหินไม่ไกลจากผมนัก แต่เมื่อกะพริบตาเขาหรือเธอก็ได้หายไปแล้ว...
"อึก..."
ด้วยความหวังริบหรี่และการมองโลกในแง่ดีของผม ผมก็พยายามพยุงตัวให้เดินไปยังจุดที่คนคนนั้นเคยยืนอยู่เพราะคิดว่าเขาอาจจะเดินไปหลับหลังโขดหินไม่ก็เดินออกไปไม่ไกลจากตรงนั้นนัก ผมเดินโซซัดโซเซไปยังจุดนั้นแต่ความรู้สึกเจ็บปวดมันก็ยิ่งทวีคูณจนผมเดินไปต่อไม่ไหวล้มลงกลางทางทั้งๆแบบนั้น
ทั้งหนาว ทั้งเปล่าเปลี่ยว นี่ผมหลอนไปเองสินะ? ภาพที่ผมเห็นนั่นอาจจะเป็นยมทูตก็ได้
พอคิดแบบนั้นผมก็หัวเราะหึออกมาเบาๆ ด้วยสายตาที่พร่ามัวของผม ผมก็ได้เห็นสีดำอีกครั้งหนึ่ง.....
.
.
.
.
.
.
"ฟื้นแล้วหรอ? ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?"
เสียงละมุนดังขึ้นเป็นเสียงที่ผมไม่คุ้นเคยแต่กลับให้ความรู้สึกปลอดภัย ผมลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองอยู่ในโพรงถ้ำเล็กๆที่มีกองไฟจุดอยู่ตรงกลาง ภาพของเจ้าของเสียงที่ผมเห็นคือใบหน้าหวานของชายหนุ่มผิวสีซีดที่มีเรือนผมยาวถึงกลางหลังสีดำเขาไม่ได้สวมเครื่องแบบของARKSแต่กลัวสวมชุดสีขาวเหมือนชุดของผู้ป่วยอะไรเทือกนั้น เขาคือคนคนเดียวกับที่ผมเห็นหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ
"อืมนิดหน่อย...แต่ว่านายเป็นARKSหรอ?"
ผมรวบรวมสติที่มีถามคนคนนั้นออกไปผมสังเกตว่าบาดแผลของปมได้รับรับการประถมพยาบาลเบื้อต้นแล้วความเจ็บจึงลดน้อยลง เขาหันมายิ้มให้ผมก่อนจะเลื่อนตัวเข้ามาใกล้เสียจนใบหน้าของเราแทบจะใกล้ชิดกันทำเอาผมผงะไปครู่หนึ่ง แต่เขากลับยิ้มอ่อนโยนออกมา
"ใช่ผมเป็นARKS คุณเองก็ด้วยใช่ไหมล่ะ?"
ผมถูกสะกดด้วยนัยน์ตาของเขา ดวงตาคู่นั้นเหมือนกับไม่ใช่ดวงตาของมนุษย์แต่กลับเป็นประกายเหมือนกับนัยน์ตาของสัตว์ป่าราวกับอัญมณีสีม่วงอเมทิสต์กำลังมองมาที่ผม
"ใช่...แล้วนายเป็นใคร?"
ผมตอบกลับไปด้วยสติที่ผมรวบรวมได้เพียงน้อยนิด ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มออกมาจนเห็นเขี้ยวเล็กๆในปากของเขา ถึงอัตลักษณ์ทางร่างกายของเขาจะเหมือนHumanแต่กลับมีความตกต่างจนเห็นได้ชัดทั้งนัยน์ตาที่ดูไม่มีเหมือนHumanปรกติทั้งเขี้ยวในปาก....
บางทีผมอาจจะคิดมากไป
"อ๊ะ ขอโทษนะผมเผลอเข้าใกล้มากเกินไปพอดีว่าผมมองไม่ชัดเท่าไหร่ ชื่อของผมคือ คุโระ เป็นARKSที่เพิ่งเข้ามาได้ไม่นานเท่าไหร่"
เขารีบถอยห่างออกมาจากตัวผมอย่างรวดเร็ว เขาคงไม่อยากเข้าใกล้ผมมากนักแต่เพราะเรื่องที่มองไม่ชัดนั่นมัน...
"ฉัน มิโคโตะ แต่ว่าสายตานาย...?"
"อะ ฮะๆ ผมสายตาสั้นมากเลยตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้ว"
เขาตอบผมพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ ผมขมวดคิ้วมุ่นทำไมถึงไม่ซื้อแว่นมาใส่กันทั้งๆที่สายตาสั้นแท้ๆหรือว่าเขาจะไม่มีเงินพอซื้อ?
"นายควรจะสวมแว่นนะ"
เขามองมาที่ผมแล้วยิ้มแห้งๆออกมาด้วยสีหน้าที่ดูเศร้าลง
"ของแบบนั้นน่ะผมไม่มีเงินจะซื้อหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องซื้อที่ไหน"
ไม่มีเงินซื้อพอเข้าใจ แต่ผมตกใจจนเด้งตัวขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องที่เขาไม่รู้จะซื้อแว่นที่ไหนมากกว่า ผู้ชายคนนี้ไปอยู่ที่ไหนมาทำไมถึงไม่รู้จักร้านขายแว่นหรืออะไรแบบนั้น
"นี่นายไม่รู้จักร้านขายแว่นหรอ!? โอ้ย!"
ผมลืมไปเสียสนิทเลยว่าตัวเองยังเจ็บแผลอยู่ เลยต้องลงไปนอนอยู่บนพื้นต่อ คุโระหัวเราะออกมาเบาๆ
"ไม่รู้จักหรอกเพราะผมน่ะ'เพิ่ง'เคยออกมาด้านนอกนี่นา"
"เพิ่งเคยออกมาด้านนอก...?"
ผมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ว่า...เขากำลังมองไปยังมุมมืดของถ้ำที่พอจะมีแสงไฟสลัวให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นบ้าง มันคือกำแพงเก่าทีสลักด้วยสัญลักษณ์ไม่คุ้นตา... มันคืออะไรกัน?
"ช่างมันเถอะ ผมคงพูดเรื่องที่คุณไม่เข้าใจออกไป ขอโทษด้วยนะ"
เขารีบปัดเรื่องนั้นทิ้งไป คุโระเขาเป็นARKSที่แปลกเหมือนกัน...แถมเรื่องที่เขาพูดยังติดใจผมอยู่แต่ผมก็ทำได้แค่เก็บไว้ในใจเพราะบางทีมันอาจจะไม่ใช่เวลา
"แต่ว่าทำไมนายถึงหาฉันเจอล่ะ?"
"เรื่องนั้นน่ะหรอ? คงจะเป็นเรื่องเสียงของคุณที่หล่นลงมามั้ง?"
เสียงนี่เอง...สายตาไม่ดีเลยเดินตามเสียงมาสินะ...
"แล้วก็ผมคิดว่าคุณคงมีคนที่ตามหาคุณอยู่ ถ้าไม่รีบไปหาจะไม่ดีเอานะ"
เขาส่งยาฟื้นฟูมาให้ผม ผมค่อยๆพยุงตัวขึ้นอย่างระมัดระวังก่อนจะกระดกดื่มมันจนหมดมันทำให้ทุเลาความเจ็บลงไปบ้าง ผมค่อยๆลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับคุโระ เขาเรียบอาวุธออกมาเป้นดาบเล่มใหญ่ที่ดูแล้วเกินร่างระหงส์ของเขาจะสามารถถือไหวเขาเองก็เป็นคลาสฮันเตอร์เหมือนกัน...
"ผมจะไปเป็นเพื่อน ไม่ต้องห่วงหรอกผมน่ะถึงจะสายตาไม่ค่อยดีแต่ก็สามารถต่อสู้ได้อยู่"
"อะ อืมขอบใจนะคุโระ"
ดวงตาประกายม่วงเบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจตามด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากถ้ำนั่นพร้อมๆกับผม พายุหิมะสงบลงแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ผมเห็นคือท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวประดับอยู่บนฟ้า ทัศนวิสัยดีจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นสถานที่เดียวกับตอนที่พายุหิมะกระหน่ำเข้ามา
"คุโระ นายน่ะมีครอบครัวไหม?"
ผมหาเรื่องคุยกับเขาระหว่างที่ตามหาพวกมาโกะ คุโระเหมือนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา
"อืม มีสิเคยมีน้องชายอยู่คนหนึ่งแต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้วล่ะ"
"อ๊ะ ขอโทษนะไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องที่มันทำให้ไม่สบายใจ"
"ไม่เลยๆ เรื่องมันผ่านมานานแล้วผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร"
เขาตอบผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็จริงแต่เสียงของเขากลับดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ผมไม่น่าถามอะไรแบบนั้นออกไปเลยด้วยซ้ำ
"พี่ชาย!!! มิโคโตะ!!! อยู่ที่ไหน!!!!"
เสียงที่คุ้นเคยของหญิงสาวนั่นมันเสียงของมาโกะ ผมเห็นเธออยู่ไกลๆบนโขดหินนั่นเธอกำลังตามหาผมอยู่คนเดียว...
"มาโกะ ยัยบ้าออกมาคนเดียวแบบนี้มัน..."
"คุณควรไปหาเธอนะเธอคงเป็นห่วงคุณน่าดู"
คุโระกล่าวก่อนที่จะก้าวถอยหลังออกไปแล้วโบกมือลาผม
"เดี๋ยวก่อนสินายน่ะมาร่วมสำรวจกับพวกเราก็ได้นะ"
"ผมมีสิ่งอื่นที่ต้องทำ ขอโทษด้วยนะที่มาได้แค่ส่งหวังว่าเราจะพบกันอีก"
เขาเดินจากไปจนลับตา เสียงฝีเท้าของมาโกะก็เริ่มเข้ามาใกล้ๆเรื่อยๆเธอวิ่งเข้ามากระโจนกอดผมแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่ปิดบัง ผมลูบเรือนผมสีส้มของเธออย่างเบามือ
"พี่บ้าคิดว่าจะตายเสียแล้ว ฮึก.."
"อา...พี่กลับมาแล้วมาโกะ..."
-----------------------
ช่วงเช้า ผมกำลังส่งรายงานของภารกิจครั้งที่แล้วให้กับทางองค์กรแล้วจู่ๆมาโกะก็เข้ามาในห้องแถมลากอาฟินเข้ามาด้วย ผมที่สวมแค่เสื้อวอร์มกับกางเกงขาสั้นก็ทำได้แค่อ้าปากพะงาบๆจะว่าก็คิดคำไม่ออกเพราะสมองผมมันตกใจจนคิดไม่ทัน เเธอเข้ามาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้าเลยด้วยซ้ำ
เอาจริงๆผมก็แอบคิดว่ามันเป็นความผิดของผมเองที่ให้รหัสปลดล็อคให้ไว้กับเธอ....
"ไงคู่หู คือว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้--" "พี่ชาย! มีภารกิจเข้ามาแหละ เราไปสำรวจนาเบริอุสอีกรอบกันเถอะ!"
อาฟินกำลังจะอธิบายอะไรบางอย่างแต่ถูกมาโกะพูดตัดหน้าไปซะงั้น เขาเลยทำได้แค่หัวเราะแหะๆแล้วพยักหน้าหงึกหงักไปตามน้ำ แต่ว่าครั้งที่แล้วมีDarkerปรากฏตัวขึ้นที่นั่นไม่ใช่ว่ามันอันตรายไปหน่อยหรอ? พวกหัวหน้านี่แปลกจริงๆแต่ผมเองก็ไม่สามารถปฏิเสธน้องสาวได้ก็เลย...ตอบตกลงไป
"จะไปด้วยก็ได้ ขอเวลาพี่แต่งตัวก่อนนะ"
"อื้มๆ ⁓ ได้เลยพี่ชายอีก 15 นาทีเจอกันที่ล็อบบี้นะ ไปกันเถอะอาฟิน!"
"กะ ก็ประมาณนั้นแหละไว้เจอกันนะคู่หู! อ๊ะ! มาโกะอยากลากไปแบบนี้สิจะล้มแล้วๆ หวาๆๆ!"
แล้วมาโกะก็ลากอาฟินไปเหมือนเดิม...แถมเจ้าตัวNewmanคนนั้นก็เหมือนจะโวยวายอยู่ไกลๆจนกระทั่งประตูอัตโนมัติของห้องผมปิดไปเหลือแต่ผมและความเงียบกับไฟล์งานที่ส่งเรียบร้อย ที่เหลือคือลงทะเบียนทำภารกิจแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย...
ชีวิตARKSนี่วุ่นวายดีจังเลยนะ.... .
.
.
.
.
.
หลังจากแต่งตัวเสร็จผมก็ไปรวมตัวกับมาโกะและอาฟิน เธอมีเซอร์ไพรซ์ให้ผมอีก...ก็คือ มาโตอิ เธอจะไปกับพวกเราด้วย มาโกะอธิบายให้ฟังได้ใจความคร่าวๆว่าเมื่อตอนเช้าก่อนที่จะมาที่ห้องผมเธอไปเยี่ยมมาโตอิแล้วบอกกับเธอว่าจะไปนาเบริอุส มาโตอิก็เลยขอติดตามมาด้วยเพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยเกี่ยวกับเรื่องความทรงจำของเธอได้
"สรุปคือมาโตอิจะมาด้วยสินะ..."
"แน่นอนพี่ชาย หนูทำเรื่องขอให้ประชาชนติดตามมาด้วยแล้วล่ะ"
มาโกะยิ้มแป้น ส่วนมาโตอิก็ยิ้มให้ผมเช่นกันแล้วเธอก็พูดออกมาทั้งๆที่ยิ้มอยู่แบบนั้นว่า
"ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะทุกคน"
ดูเหมือนว่าภารกิจนี้จะยากกว่าเดิมเพราะมาโตอิต่อสู้ไม่ได้ด้วยเนี่ยสิ...
พวกเราไปยังลานจอดCamp shipหัวหน้าทีมของเราในวันนี้คือคุณเดวิด เขาเป็นARKSผู้มากประสบการณ์คนหนึ่งอีกทั้งยังเป็นสายไฟต์เตอร์ผู้ใช้อาวุธDouble saber(ทวนสั้นสองปลาย) เป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงว่าเป็นARKSที่มีความสามารถในการต่อสู้สูงจนเรียกว่าเป็นหัวกะทิก็น่าจะว่าได้ เพราะแบบนั้นมาโกะที่เป็นฟอร์ซระดับท็อปของร.ร.ฝึกสอนจึงดูไม่ค่อยถูกกับเขานัก ถ้าถามว่ารูปร่างหน้าตาเขาเป็นอย่างไรคงพูดได้ว่าไม่มีอะไรโดดเด่นมากนอกจากเรือนผมสีน้ำเงินและรอยบากที่แก้มขวาของเขากับความรู้สึกแปลกๆเมื่ออยู่รอบๆตัวเขา
"ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม?" คุณเดวิดกล่าวในขณะที่นับจำนวนคนว่าครบหรือไม่
"ครับผม! มากันครบแล้วครับ!" อาฟินตาด้วยน้ำเสียงสดใสเต็มร้อยสมกับเป็นอาฟินจริงๆ ส่วนผมกับมาโกะก็แค่ยกมือขึ้นเล็กน้อยให้รู้ว่ายังมีตัวตนอยู่ในทีมนี้ด้วย
"งั้นคงไม่มีอะไรต้องรอช้า รีบขึ้นCamp shipแล้วรีบทำภารกิจให้จบกัน" คุณเดวิดพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆเขาดูไม่สนใจพวกเราด้วยซ้ำแถมยังสะบัดตัวเดินขึ้นยานไปแบบไม่รอใครเลย มาโกะทำท่าทำทีเหมือนจะว่าอะไรสักอย่างแต่ผมก็ปิดปากเธอเอาไว้ไม่ให้เธอตะโกนไล่หลังหัวหน้าทีมไปจนเป็นเสียงอู้อี้อยู่ในมือผมมาโตอิได้แต่ยิ้มแห้งๆ
"เหมือนว่าจะลำบากแต่เริ่มเลยนะ"
มาโตอิหัวเราะแห้งๆส่วนอาฟินกันกับผมก็ส่ายหน้าเบาๆ มันก็จริงอย่างที่มาโตอิพูดเริ่มมาก็เหมือนจะเจอคนที่เข้าถึงยากซะแล้ว...
ระหว่างที่พวกเรากำลังเดินทางไปยังนาเบริอุสจู่ๆคุรเดวิดก็พูดเรื่องอะไรบางอย่างออกมา
"ช่วงนี้ฉันอยากให้พวกนายระวังตัวกันไว้ ข่าวลือมันเริ่มเป็นจริงเรื่อยๆเกี่ยวกับเรื่อง[มังกรคลั่ง]"
มังกรคลั่ง?
"มันคืออะไรหรอครับ?"
ผมถามออกไปด้วยความสงสัย นัยน์ตาสีดำของคุณเดวิดจ้องมาที่ผมก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"มังกรที่กินARKSยังไงล่ะ"
ทุกคนที่อยู่ในยานเงียบกันไปครู่หนึ่งแถมจ้องมองไปยังทางเดียวกันคือคุณเดวิดที่นั่งอยู่ ใช่ พวกเรากลัว กลัวกันทั้งหมด
"ช่างมันเถอะอย่างไรก็ดีตอนนี้ยังไม่มีใครพบเห็นมันที่นาเบริอุสแหละน่า ข่าวลือยังไงก็คือข่าวลือ"
คุณเดวิดพูดขึ้นก่อนจะกลับไปนั่งพิงพำนักเก้าอี้ ปล่อยให้พวกเราใจโหว่งเรื่องมังกรอยู่ตรงนั้น สรุปแล้ว...มันจะมีจริงหรือไม่มีจริงกันแน่?
ไม่นานนักพวกเราก็ได้สัมผัสพื้นดินอ่อนนุ่มที่คุ้นเคยของนาเบริอุส การสำรวจเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เท้าของพวกเราแตะพื้นขาทั้งสองข้างของพวกเราก็เริ่มเดินสำรวจนาเบริอุสอย่างไม่รีรอ แม้ว่าพื้นที่ที่พบเจอจะไม่ต่างกับตอนแรกที่มาเยือนที่นี่นักแต่ก็ทำให้ผมรู้ว่านาเบริอุสคือดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตหลากหลายจนน่าอัศจรรย์ ทั้งสัตว์ปีก สัตว์สี่ขา แม้แต่ปลาในน้ำก็ยังมีมากมาย มีหลายๆอย่างให้พวกเราและพบเห็นและสำรวจเต็มไปหมด นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติกระมัง?
พวกเราสำรวจโซนป่าไปจนเกือบถึงโซนภูเขาแล้วจึงตัดสินใจนั่งพวกที่ใต้ต้นไม้ใหญ่แถวๆนั้น
"เฮ้อ...ได้พักสักทีนึกว่าจะไม่ได้พักซะแล้ว"
มาโกะบ่นอุบเธอก้มลงนวดท่อนขาเรียวของเธอทั้งสองข้างเป็นการคลายเมื่อย
"นั่นสินะ แต่จะว่าไปก็สงบสุขดีเหมือนกันนะ"
ผมกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง
"แล้วมาโตอิล่ะไหวหรือเปล่า?"
"ยังไหวอยู่จ้ะ ไม่ต้องห่วงนะอาฟิน"
มาโตอิกับอาฟินเองก็สนทานากันอย่างรื่นเริงผมเองก็สบายใจขึ้นมาเล็กน้อยว่าจะไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น
หรือเปล่า...?
"ทุกคนมีบางอย่างผิดปากติ!"
คุณเดวิดลุกขึ้นจับอาวุธพร้อมต่อสู้แต่พวกเราไม่ได้ใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้แต่จับอาวุธขึ้นมาด้วยความสับสน ทันใดนั้นคำตอบก็มาหาพวกเราถึงที่เพราะมันคือฝูงDarkerรูปร่างคล้ายแมงมุม 4 ขาขนาดใหญ่กว่าคนปกติกำลังล้อมพวกเราอยู่ ผมกำหอกในมือไว้แน่นพวกเราARKSฝึกหัดทั้งสามคนล้อมป้องกันมาโตอิเอาไว้เพราะกลัวว่าเจ้าพวกแมลงนี่จะทำร้ายเธอ
"จะบอกอะไรให้นะ มาโกะน่ะนะเรียนรู้Techniquesมาใหม่ด้วยล่ะ"
มาโกะพูดแล้วยิ้มออกมาจากนั้นจึงชูคทาขึ้นเหนือศีรษะเธอกำลังรวบรวมโฟตอน
"อะไรล่ะมาโกะ?"
"มันก็คือ Gi-Grants ยังไงล่ะพี่ชาย!"
เธอปลดปล่อยดาบแสงออกมารอบตัวพร้อมพุ่งเข้าไปฟาดฟันเจ้าพวกแมลงที่เข้ามาใกล้เธอ ผมได้แต่ขมวดคิ้วว่าเธอเรียนมาจากไหนแต่ว่าถ้าให้เดาก็คงมาจากหัวหน้าคลาสฟอร์ซแหละมั้ง...?
"สุดยอดไปเลยคูหูมาโกะ! หวา!"
อาฟินพยายามไล่ยังพวกDarkerที่เข้ามาใกล้แต่ก็เกือบถูกโจมตีเข้าให้ ผมก็เลยใช้หอกของตัวเองปัดการโจมตีให้เขา
"อาฟินนายพามาโตอิไปอยู่ที่ปลอดภัยก่อน ฉันกับมาโกะแล้วก็คุรเดวินจะต้านพวกมันไว้เอง"
ผมพูดขึ้นด้วยความมั่นใจอาฟินเองก็พยักหน้าตอบก่อนจะรีบพามาโตอิไปอยู่ให้ห่างจากพื้นที่การต่อสู้ คุณเดวิดเองก็ใช่ว่าจะด้อยฝีมือ เขาสามารถใช้ทวนสั้นสองปลายจัดการพวกDarkerที่อยู่เป็นฝูงได้ในคราวเดียว แต่ว่า...ในการต่อสู้นั่นก็มีอะไรบางอย่างแปลกๆอยู่...ท่วงทีการโจมตีของเขามันดูไร้รูปแบบจนเหมือนกับว่าเขานั้นไร้สติ
มันน่ากลัว...
--------------------------------------------------------
ในตอนนี้ก็คงเกริ่นได้ว่าพวกผมมาทำอะไรที่นาเบริอุสและมีอะไรบางอย่างผิดปรกติอย่างแน่นอน ต่อจากนี้มันคือเรื่องก่อนที่ผมจะอยู่ในสภาพที่นอนอยู่บนกองหิมะเรื่องของเรื่องคือ...
หลังจากที่ทีมของผมรอดจากการโจมตีพวกเราก็ตัดสินใจสำรวจต่อในพื้นที่ใหม่นั่นก็คือเขตทุนดร้า เป็นเขตภูเขาสูงของนาเบริอุสที่มีหิมะตกเกือบจะตลอดเวลาและที่สำคัญมันคือทุ่งหิมะดีๆนี่เอง...
"หนาวๆ หนาวเป็นบ้าเลย!"
อาฟินบ่นตลอดทางที่พวกเราเดินทางมาในทุ่งน้ำแข็ง ก็ไม่แปลกใจเพราะชุดของเขามันขาสั้นจะไม่ให้หนาวได้อย่างไร....
"อดทนหน่อยนะอาฟินเราสำรวจพื้นที่นี้เสร็จก็คงจบภารกิจแล้วล่ะ"
มาโกะพูดขึ้นก่อนจะจามอย่างแรงเพราะอุณหภูมิที่ลดต่ำลง มาโตอิเหมือนจะแต่งตัวเหมาะสมกับสภาพอากาศสุดก็ได้แต่หัวเราะเบาๆเพราะท่าทางของมาโกะกับอาฟิน ส่วนผมหรอ? เครื่องแบบของผมมันปิดมิดชิดทั้งตัวจนไม่ต้องกลัวว่าจะหนาวเลยด้วยซ้ำ...
พวกเราเดินสำรวจมาสักพักพายุหิมะก็โหมกระหน่ำเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ แต่เดวิดก็ยังไม่สั่งให้พวกเราหยุดพักจนผมกำลังจะท้วงออกไปแต่...
ก็ถูกขัดโดยฝูกDarkerอีกฝูงที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างถูกเวลา
"บ้าเอ้ย"
เดวิดสบถออกมาก่อนจะเริ่มสังหารพวกDarkerรูปร่างแมลงนั่นอย่างรวดเร็วจนพวกเราแทบไม่ได้ทำอะไรนอกจากปัดการโจมตีของพวกมัน ขึ้นส่วนแมลงถูกทิ้งไว้ไปทั่วแล้วสลายหายไปกลายเป็นไอสีดำ ท่าทีของเดวิดก็เริ่มบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆราวกับคนวิกลจริตที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาหัวเราะออกมาในขณะที่ดึงหัวเจ้าพวกนั้นออก เขาหายใจแรงราวกับกระทิงคลั่ง เขาบิดเบี้ยวเป็นอะไรบางอย่างที่พวกผมไม่รู้จักด้วยซ้ำ
พอพวกDarkerตายหมด เขาก็หยุดนิ่งเสียจนเดาไม่ได้ว่าเขาจะทำอะไร อาฟินที่สงสัยอยู่ก็ลังเลเล็กน้อยก่อนจากเดินเข้าไปหาเดวิดด้วยความเป็นหวงแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ...
เดวิดพุ่งเข้าใส่เขาพร้อมกับอาวุธในมือ
"หวา!! อย่านะ! ช่วยด้วย!!!!"
อาฟินตะโกนด้วยความตกใจสุดขีดผมเห็นท่าไม่ดีเลยพุ่งเข้าไปใช้หอกป้องกันการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด ผมว่าหลังจากนี้อาฟินต้องเป็นหนี้ผมแล้วแน่ๆ
"อาฟินหนีไป!"
"อะ อืม!"
อาฟินรีบวิ่งหนีเข้าไปหาทางพวกมาโกะ ผมเองก็เริ่มประหอกของผมเข้ากับทวนของเดวิดที่คลั่งไปเรียบร้อย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ผมไม่อยากทำร้ายARKSด้วยกันแต่ว่าทำไมคุณเดวิดถึงโจมตีผมแบบนี้กัน
มาโกะทำท่าทีเหมือนจะใช้Techniquesแต่สุดท้ายเธอก็ลังเลจนไม่กล้าใช้มัน อาฟินเองก็ไม่กล้าเล็งปืนมาที่ARKSด้วยกัน ผมก็ไม่กล้าทำร้ายเดวิด สถานการณ์กดดันมากขึ้นเรื่อยๆจนผมพบว่าตัวเองอยู่ไม่ไกลจากหน้าผานักแถมDarkerฝูงใหม่ก็พบพวกเราเข้าพอดีอีกผมพยายามใช้แรงทั้งหมดดันเดวิดออกไปสำเร็จแต่ว่า...
พื้นที่อยู่ใต้เท้าผมมันก็ถล่มลงมาจนผมตกลงไปด้านล่าง
"พี่คะ!!!!"
เสียงของมาโกะคือสิ่งเดียวที่ผมจำได้ก่อนที่สติของผมจะมืดดับลง...
---------------------------------------------------------------
และผมก็ตื่นขึ้นมาอยู่ที่นี่บนกองหิมะนุ่มๆอย่างที่ผมกล่าวไปในตอนแรก ผมค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้น ความเจ็บแปล๊บที่บั้นเอวแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็วผมบาดเจ็บที่บั้นเอวซ้ายน่าจะเป็นแผลที่ได้จากการปะทะกับเดวิดที่เสียสติไปแล้ว ผมรวบรวมสติที่มีเปิดเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาแต่ในขณะที่ผมกำลังจะเปิดเครื่องมือนั่นผมก็เห็นอะไรบางอย่างที่ตัดกับหิมะสีขาวสะอาดรอบตัว หญิงสาวไม่ก็ชายหนุ่มที่มีเรือนผมยาวสีดำกำลังยืนอยู่ที่โขดหินไม่ไกลจากผมนัก แต่เมื่อกะพริบตาเขาหรือเธอก็ได้หายไปแล้ว...
"อึก..."
ด้วยความหวังริบหรี่และการมองโลกในแง่ดีของผม ผมก็พยายามพยุงตัวให้เดินไปยังจุดที่คนคนนั้นเคยยืนอยู่เพราะคิดว่าเขาอาจจะเดินไปหลับหลังโขดหินไม่ก็เดินออกไปไม่ไกลจากตรงนั้นนัก ผมเดินโซซัดโซเซไปยังจุดนั้นแต่ความรู้สึกเจ็บปวดมันก็ยิ่งทวีคูณจนผมเดินไปต่อไม่ไหวล้มลงกลางทางทั้งๆแบบนั้น
ทั้งหนาว ทั้งเปล่าเปลี่ยว นี่ผมหลอนไปเองสินะ? ภาพที่ผมเห็นนั่นอาจจะเป็นยมทูตก็ได้
พอคิดแบบนั้นผมก็หัวเราะหึออกมาเบาๆ ด้วยสายตาที่พร่ามัวของผม ผมก็ได้เห็นสีดำอีกครั้งหนึ่ง.....
.
.
.
.
.
.
"ฟื้นแล้วหรอ? ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?"
เสียงละมุนดังขึ้นเป็นเสียงที่ผมไม่คุ้นเคยแต่กลับให้ความรู้สึกปลอดภัย ผมลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองอยู่ในโพรงถ้ำเล็กๆที่มีกองไฟจุดอยู่ตรงกลาง ภาพของเจ้าของเสียงที่ผมเห็นคือใบหน้าหวานของชายหนุ่มผิวสีซีดที่มีเรือนผมยาวถึงกลางหลังสีดำเขาไม่ได้สวมเครื่องแบบของARKSแต่กลัวสวมชุดสีขาวเหมือนชุดของผู้ป่วยอะไรเทือกนั้น เขาคือคนคนเดียวกับที่ผมเห็นหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ
"อืมนิดหน่อย...แต่ว่านายเป็นARKSหรอ?"
ผมรวบรวมสติที่มีถามคนคนนั้นออกไปผมสังเกตว่าบาดแผลของปมได้รับรับการประถมพยาบาลเบื้อต้นแล้วความเจ็บจึงลดน้อยลง เขาหันมายิ้มให้ผมก่อนจะเลื่อนตัวเข้ามาใกล้เสียจนใบหน้าของเราแทบจะใกล้ชิดกันทำเอาผมผงะไปครู่หนึ่ง แต่เขากลับยิ้มอ่อนโยนออกมา
"ใช่ผมเป็นARKS คุณเองก็ด้วยใช่ไหมล่ะ?"
ผมถูกสะกดด้วยนัยน์ตาของเขา ดวงตาคู่นั้นเหมือนกับไม่ใช่ดวงตาของมนุษย์แต่กลับเป็นประกายเหมือนกับนัยน์ตาของสัตว์ป่าราวกับอัญมณีสีม่วงอเมทิสต์กำลังมองมาที่ผม
"ใช่...แล้วนายเป็นใคร?"
ผมตอบกลับไปด้วยสติที่ผมรวบรวมได้เพียงน้อยนิด ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มออกมาจนเห็นเขี้ยวเล็กๆในปากของเขา ถึงอัตลักษณ์ทางร่างกายของเขาจะเหมือนHumanแต่กลับมีความตกต่างจนเห็นได้ชัดทั้งนัยน์ตาที่ดูไม่มีเหมือนHumanปรกติทั้งเขี้ยวในปาก....
บางทีผมอาจจะคิดมากไป
"อ๊ะ ขอโทษนะผมเผลอเข้าใกล้มากเกินไปพอดีว่าผมมองไม่ชัดเท่าไหร่ ชื่อของผมคือ คุโระ เป็นARKSที่เพิ่งเข้ามาได้ไม่นานเท่าไหร่"
เขารีบถอยห่างออกมาจากตัวผมอย่างรวดเร็ว เขาคงไม่อยากเข้าใกล้ผมมากนักแต่เพราะเรื่องที่มองไม่ชัดนั่นมัน...
"ฉัน มิโคโตะ แต่ว่าสายตานาย...?"
"อะ ฮะๆ ผมสายตาสั้นมากเลยตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้ว"
เขาตอบผมพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ ผมขมวดคิ้วมุ่นทำไมถึงไม่ซื้อแว่นมาใส่กันทั้งๆที่สายตาสั้นแท้ๆหรือว่าเขาจะไม่มีเงินพอซื้อ?
"นายควรจะสวมแว่นนะ"
เขามองมาที่ผมแล้วยิ้มแห้งๆออกมาด้วยสีหน้าที่ดูเศร้าลง
"ของแบบนั้นน่ะผมไม่มีเงินจะซื้อหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องซื้อที่ไหน"
ไม่มีเงินซื้อพอเข้าใจ แต่ผมตกใจจนเด้งตัวขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องที่เขาไม่รู้จะซื้อแว่นที่ไหนมากกว่า ผู้ชายคนนี้ไปอยู่ที่ไหนมาทำไมถึงไม่รู้จักร้านขายแว่นหรืออะไรแบบนั้น
"นี่นายไม่รู้จักร้านขายแว่นหรอ!? โอ้ย!"
ผมลืมไปเสียสนิทเลยว่าตัวเองยังเจ็บแผลอยู่ เลยต้องลงไปนอนอยู่บนพื้นต่อ คุโระหัวเราะออกมาเบาๆ
"ไม่รู้จักหรอกเพราะผมน่ะ'เพิ่ง'เคยออกมาด้านนอกนี่นา"
"เพิ่งเคยออกมาด้านนอก...?"
ผมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ว่า...เขากำลังมองไปยังมุมมืดของถ้ำที่พอจะมีแสงไฟสลัวให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นบ้าง มันคือกำแพงเก่าทีสลักด้วยสัญลักษณ์ไม่คุ้นตา... มันคืออะไรกัน?
"ช่างมันเถอะ ผมคงพูดเรื่องที่คุณไม่เข้าใจออกไป ขอโทษด้วยนะ"
เขารีบปัดเรื่องนั้นทิ้งไป คุโระเขาเป็นARKSที่แปลกเหมือนกัน...แถมเรื่องที่เขาพูดยังติดใจผมอยู่แต่ผมก็ทำได้แค่เก็บไว้ในใจเพราะบางทีมันอาจจะไม่ใช่เวลา
"แต่ว่าทำไมนายถึงหาฉันเจอล่ะ?"
"เรื่องนั้นน่ะหรอ? คงจะเป็นเรื่องเสียงของคุณที่หล่นลงมามั้ง?"
เสียงนี่เอง...สายตาไม่ดีเลยเดินตามเสียงมาสินะ...
"แล้วก็ผมคิดว่าคุณคงมีคนที่ตามหาคุณอยู่ ถ้าไม่รีบไปหาจะไม่ดีเอานะ"
เขาส่งยาฟื้นฟูมาให้ผม ผมค่อยๆพยุงตัวขึ้นอย่างระมัดระวังก่อนจะกระดกดื่มมันจนหมดมันทำให้ทุเลาความเจ็บลงไปบ้าง ผมค่อยๆลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับคุโระ เขาเรียบอาวุธออกมาเป้นดาบเล่มใหญ่ที่ดูแล้วเกินร่างระหงส์ของเขาจะสามารถถือไหวเขาเองก็เป็นคลาสฮันเตอร์เหมือนกัน...
"ผมจะไปเป็นเพื่อน ไม่ต้องห่วงหรอกผมน่ะถึงจะสายตาไม่ค่อยดีแต่ก็สามารถต่อสู้ได้อยู่"
"อะ อืมขอบใจนะคุโระ"
ดวงตาประกายม่วงเบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจตามด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากถ้ำนั่นพร้อมๆกับผม พายุหิมะสงบลงแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ผมเห็นคือท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวประดับอยู่บนฟ้า ทัศนวิสัยดีจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นสถานที่เดียวกับตอนที่พายุหิมะกระหน่ำเข้ามา
"คุโระ นายน่ะมีครอบครัวไหม?"
ผมหาเรื่องคุยกับเขาระหว่างที่ตามหาพวกมาโกะ คุโระเหมือนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา
"อืม มีสิเคยมีน้องชายอยู่คนหนึ่งแต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้วล่ะ"
"อ๊ะ ขอโทษนะไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องที่มันทำให้ไม่สบายใจ"
"ไม่เลยๆ เรื่องมันผ่านมานานแล้วผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร"
เขาตอบผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็จริงแต่เสียงของเขากลับดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ผมไม่น่าถามอะไรแบบนั้นออกไปเลยด้วยซ้ำ
"พี่ชาย!!! มิโคโตะ!!! อยู่ที่ไหน!!!!"
เสียงที่คุ้นเคยของหญิงสาวนั่นมันเสียงของมาโกะ ผมเห็นเธออยู่ไกลๆบนโขดหินนั่นเธอกำลังตามหาผมอยู่คนเดียว...
"มาโกะ ยัยบ้าออกมาคนเดียวแบบนี้มัน..."
"คุณควรไปหาเธอนะเธอคงเป็นห่วงคุณน่าดู"
คุโระกล่าวก่อนที่จะก้าวถอยหลังออกไปแล้วโบกมือลาผม
"เดี๋ยวก่อนสินายน่ะมาร่วมสำรวจกับพวกเราก็ได้นะ"
"ผมมีสิ่งอื่นที่ต้องทำ ขอโทษด้วยนะที่มาได้แค่ส่งหวังว่าเราจะพบกันอีก"
เขาเดินจากไปจนลับตา เสียงฝีเท้าของมาโกะก็เริ่มเข้ามาใกล้ๆเรื่อยๆเธอวิ่งเข้ามากระโจนกอดผมแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่ปิดบัง ผมลูบเรือนผมสีส้มของเธออย่างเบามือ
"พี่บ้าคิดว่าจะตายเสียแล้ว ฮึก.."
"อา...พี่กลับมาแล้วมาโกะ..."
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ