Fanfic สองรัก (บาส&บอล)
-
เขียนโดย ณัฐพล
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.41 น.
14 ตอน
2 วิจารณ์
13.67K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2564 20.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8) สิ่งที่อัดอั้นใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ บาสในตอนนี้ยิ่งแสดงอารมณ์ที่ไม่เคยใช้มาก่อนใส่จุติมาได้เห็น เขาไม่พอใจที่ฮาน่าไม่ว่างที่จะเล่นกับเขา ในตอนนี้เขาก็เปิดประตูห้อง
ก่อนก้าวออกมาจากห้องนอนก่อนลงบันไดพร้อมถือจานข้าวมุ่งตรงไปยังห้องครัว จุติมาอยากจับผิดว่าอีกฝ่ายเขาจะไปไหน
ก่อนที่บาสจะเดินไปยังหน้าบ้านตรงม้านั่งหินอ่อนเยื้องๆ บ้าน สักพักเขาก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งจอดรถจักรยานยนต์ก่อนที่จะลงมาคุย
“ไงบาส นายทำไมถึงเล่นละครแบบนี้วะ”อาร์มถามอีกฝ่าย
บาสก้มหน้างุดๆ ก่อนพ่นลมหายใจตอบกลับไป
“เราอยากรู้นะ ว่าพ่อของเราทำไมถึงทิ้งแม่ไป ตอนนี้ฉันรู้แล้ว พ่อฉันเจ้าชู้ แม่ฉันเลยไล่พ่อไป”บาสตอบด้วยเสียงกร้าว
“ตอนนี้เราเจอแม่ของเราแล้วเดี๋ยวอีกหน่อยเราจะบอกความจริงว่า เราคือบาส ไม่ใช่บอล เราสลับตัวกันเพื่ออยากให้พ่อกับแม่ได้มาคืนดีกัน”บาสเอ่ยขึ้น
“แล้วบอลรู้เรื่องนี้หรือยังละ”อาร์มถาม
“ยังเลย ป่านนี้บอลคงไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่”บาสตอบ
ก่อนที่บาสจะโทรไปหาบอลที่จังหวัดปัตตานี เสียงปลายสายเหมือนไม่มีคนรับสาย ก่อนที่จะมีเสียงดังของโทรศัพท์อีกฝ่ายดังอยู่ในโรงงาน
ก่อนที่จะมีหัวหน้าแผนกเอ่ยขึ้น
“คุณหนูบาส โทรศัพท์”
บอลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนที่จะเดินเลี่ยงไปยังข้างๆ อาคารของโรงงานก่อนกดรับสาย
“ฮัลโหลบาส”
“ฮัลโหลบอล ตอนนี้นายทำอะไรอยู่หรอ”
“คือ ตอนนี้เรากำลังทดลองงานที่โรงงานของพ่ออยู่ มีอะไรหรอบาส”
“คือว่าแบบนี้นะบอล นายเป็นโรคสมาธิสั้นหรอ”บาสถามอีกฝ่าย
บอลตกใจจึงถาม
“นายไปรู้มาจากไหน”
“แม่บอก แม่บอกต่อหน้าฉันว่านายเป็นโรคสมาธิสั้น ฉันตกใจมากๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่านายเป็นโรคสมาธิสั้น”
บอลถอนหายใจก่อนตอบ
“ใช่ ฉันเป็น ตอนนี้ฉันก็ทานยาอยู่ แล้วนายก็คงไม่ต่างเนอะ”บอลย้อน
บาสไม่มั่นใจก่อนตอบไป
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเลยนะ คงไม่ต่างเหมือนนายละมั๊ง แล้วว่าแต่บอลไปเที่ยวสุราษฎร์ฯยัง”
“ยังเลยนะ คือว่าฉันต้องทำงานที่โรงงานว่างๆ ฉันจะไป”
“แล้วฉันรบกวนนายหรือเปล่าละ”บาสถามอีกฝ่าย
“ก็รบกวนนะ แต่ก็ว่างคุยอยู่นะ แล้วถ้าฉันไม่ว่างนายก็ค่อยโทรมาทีหลังนะ เดี๋ยวฉันต้องไปทำงานแล้วละบาย”บอลกดวางสายคู่สนทนาไป
“เดี๋ยวสิบอล”
บาสบอกก่อนมองดูหน้าจอโทรศัพท์ในตอนนี้มืดสนิทก่อนบาสหันมองมาทางเพื่อนของเขาอีกครั้ง
“อาร์ม บอลเขาทำงานอยู่โรงงาน”
อาร์มกำลังเรียบเรียงถ้อยคำของปลายสาย
“ถ้างั้นตอนนี้บอลอยู่ปัตตานีแล้วสินะ”อาร์มถามห้วนๆ
บาสพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่จะเอามือกุมศรีษะ
“บาสเอ๊ย แย่แน่ๆ เลยวะ”
บาสบ่นก่อนที่จะเข้าใจทุกอย่าง
โดยมีอาร์มคอยปลอบใจอยู่ไม่ห่าง
จุติมากำลังแอบดูบุตรชาย ก่อนที่จะคิดไปต่างๆ นาๆ
ก่อนที่จะมีเสียงของสาวใช้เสริมขึ้น
“คุณนายคะ เท่าที่เราจะจับตาดูนี่ คุณบอลไม่มีอะไรผิดปกตินี่คะ”
จุติมากำลังมองไปยังภาพถ่ายของตนเองกับเด็กทารกชายวัยหนึ่งเดือนกับทารกชายวัยหนึ่งเดือนที่อยู่ข้างๆ กันก่อนที่จะบอกขึ้น
“เป็นไปได้ไหมว่า บอลที่อยู่ในตอนนี้มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป”
“ถ้าบอลเปลี่ยนไป แล้ว...ใครมาสวมรอยเป็นบอลละ”
จุติมาอมยิ้มก่อนตอบไป
“ก็บาสไง ลูกชายของฉันอีกคน ดูในรูปนี้สิ มีบอลก็ต้องมีบาส”
สาวใช้เสริมขึ้น
“แล้วเราจะจับผิดยังไงละคะ”
จุติมาทวนความจำ
“ตามปกติห้องนอนของบอล จะเป็นยังไง”เธอเอ่ยขึ้นแบบเรียบๆ
“ก็ ดูรกนี่คะ แต่พอวันที่คุณนายใช้ให้เราไปเคาะห้อง ก็ดูสะอาดมากๆ เหมือนพึ่งถูกเก็บกวาดมายังไงยังงั้นเลยนะคะ”สาวใช้ตอบ
“ถ้าหากว่าเขามา ฉันจะเป็นคนสังเกตพฤติกรรมของเขาเอง ว่าเขาคือใคร ถ้าใช่บอลตัวจริงก็แล้วไปคงอาจจะงอนที่ฮาน่าไม่มาเล่นกับเขา
ถ้าไม่ใช่ละก็ ฉันจะส่งเขากลับไปหาพ่อของเขาเอง”
พอระยะเวลาสักพักหนึ่ง บาสก็ชักชวนเพื่อนของเขาให้เข้ามาเล่นที่บ้าน
“แม่ครับ คือว่าบอลพาเพื่อนมาเล่นที่บ้านสักวันสองวันจะได้ไหมครับ”บาสต่อรองอีกฝ่าย
ก่อนที่จุติมาจะเสแสร้งไปว่า
“ได้สิ จะพาเพื่อนพักค้างคืนที่นี่ก็ได้นะ”
“สวัสดีครับคุณป้า”อาร์มยกมือไหว้อีกฝ่าย
“สวัสดีจ๊ะ ชื่ออะไรนะเรา”
“ผมชื่ออาร์มเป็นเพื่อนของบอลครับ”อาร์มตอบ
“ก็ดีนะที่มีเพื่อนมาเล่นที่บ้าน อากาศข้างนอกดูเย็นๆ หนาวๆ ป้าว่าชวนเพื่อนมากินข้าว กินขนมปังสักสองคืนดีไหม”
บาสตอบแทนเพื่อนของเขา
“ก็ดีนี่ครับแม่ เออ อาร์มเราขึ้นไปห้องนอนของเราก่อนดีไหม ได้เล่นเกมสนุกๆ ด้วยนะ”บาสชักชวนให้อีกฝ่ายได้ขึ้นไปเล่นกัน
“ดีๆ เราไปกันนะเพื่อน”
พอสิ้นเสียงบาสกับอาร์มก็รีบวิ่งขึ้นบันใดบ้านไปยังชั้นสองของบ้าน
“เหนื่อยจังเลย เด็กๆ ก็แบบนี้แหล่ะ”
ก่อนที่จะพากันเล่นอย่างสนุกสนาน
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน บอลในตอนนี้ยังสวมรอยเป็นบาส เขาอยากรู้ว่าพ่อของเขาเป็นคนแบบไหนบอลเลยตั้งใจทำงานที่โรงงานแห่งนี้
จนเพื่อนๆ ให้การยอมรับเป็นอย่างดีก่อนจะมีเพื่อนที่รู้ใจคือ ‘เบลล่า’
ก่อนบอลจะมองไปยังพ่อของเขา พ่อของเขาเดินมาที่โรงงานก่อนถามอย่างเป็นกันเอง
“ไงลูก เหนื่อยไหมวันนี้”
“พ่อ วันนี้เหนื่อยอยู่ครับแต่ไม่ค่อยมากพอทำไหวอยู่ครับ”บอลตอบพร้อมอมยิ้มให้บิดาของเขา
“ดีแล้ว ดูเพื่อนร่วมงานสิ เขาก็เหนื่อยไม่ต่างจากเรา เราทำได้อยู่แล้ว”
ประวิทย์บอกอย่างอารมณ์ดี
“พ่อครับ แม่ไปไหนหรอครับ”บอลเอ่ยถามเขารู้อยู่ว่าพ่อควรจะบอกว่ายังไง
“แม่เขา ตายไปแล้ว”ประวิทย์โกหก
“พ่อโกหก แม่ยังมีชีวิตอยู่ พ่อไม่สงสารแม่เลยหรอครับ แม่เขาก็ต้องทนทำงานเพื่อพ่อ”บอลบอกเสียงกร้าว
ก่อนที่ประวิทย์จะเอ่ยอย่างเสียอารมณ์
“ลูกไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหน”
“พ่อครับ เราไปคุยกันในห้องทำงานของพ่อจะดีกว่า ว่าผมไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหน”บอลสวนกลับ
ก่อนเดินนำหน้าประวิทย์ไป พอไปถึงห้องทำงานของประวิทย์
“ลูกไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหน”ประวิทย์ถามอีกฝ่าย
บอลฮึดใจก่อนที่จะเริ่มบอกความจริงว่าเขาคือใคร
“พ่อ คือว่าผมเห็นแม่ทำงานหนักมากๆ จนไม่ได้พักผ่อน ผมจะบอกความจริงไว้เลยก็ได้นะครับ จริงๆ แล้วผมก็ไม่ใช่บาส แต่ผมคือบอล
คือว่า เราสลับตัวกันครับ”
ประวิทย์มองหน้าอีกฝ่าย
“ลูกว่าอะไรนะ”
“ผม คือ บอล”
ประวิทย์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่จะมองบุตรชายใช่เขามีบุตรชายอยู่สองคน เขาเป็นฝาแฝดกัน
“แล้วบาสไปไหนละลูก”
“บาสเขาอยู่นครพนมครับพ่อ เขาอยากกอดแม่”
ประวิทย์นั่งบนโซฟาก่อนที่จะผ่อนลมหายใจก่อนถามจุดประสงค์ในการสวมรอย
“แล้วลูกทำไมต้องสลับกับบาส”
บอลมองหน้าก่อนตอบไป
“ก็เพราะว่า ผมกับบาสอยากให้พ่อแม่คืนดีกันอีกครั้งครับพ่อ”
“ฟังนะบอล พ่อจะไม่คืนดีกับแม่เด็ดขาด เพราะว่าพ่อจะแต่งงานใหม่กับน้าทราย”ประวิทย์บอกเรื่องที่ตนจะแต่งงานกับหัวหน้าฝ่ายการขาย
ของโรงงานแห่งนี้
“ไม่ได้ครับพ่อ จะแต่งงานใหม่ไม่ได้ ถ้าพ่อแต่งผมจะขวางพ่อทุกอย่าง”บอลตอบแบบเซ็งๆ
“เรื่องแบบนี้ก็แล้วแต่แก”
บอลเปิดประตูก่อนก้าวเท้าออกไปยังนอกห้องก่อนปิดประตูดัง ‘ปัง’
ทุกคนในโรงงานมองเป็นตาเดียวกันหมดว่าเกิดอะไรขึ้น
ชั้นบนของบ้าน เสียงเกมในจอโทรทัศน์ดังไปทั่วบ้าน ก่อนที่จุติมาจะส่งเสียงตะโกนขึ้นไป
“บอลเล่นกันเงียบๆ ก็ได้ลูก”
พอสิ้นเสียงก็ยังดังเหมือนเดิม ก่อนที่จุติมานั้นเดินขึ้นไปบันใดชั้นสองของบ้าน
“บอล แม่บอกว่าให้ลดเสียงลง อย่าเสียงดังสิลูก”
บาสตอบกลับไป
“ครับแม่ ผมจะลดเสียงให้ครับ”
จุติมาส่ายหน้าเบาๆ ก่อนบ่น
“ไม่ไหวเลยเด็กคนนี้ มันดูแปลกไปไหมนะ”
สาวใช้ของบ้านเอ่ยขึ้น
“แต่เราว่า บอลไม่ได้มีนิสัยแบบนี้ละมั๊ง”
“คงจะใช่งั้นฉันจะลองเรียกอีกชื่อหนึ่งเลยละกัน”
จุติมาขึ้นบันใดไปก่อนเรียกชื่อตรงกันข้าม
“บาส ลดเสียงลงหน่อยสิลูก”
บาสได้ยินเสียงเรียกของตัวเองเลยขานไป
“ครับแม่ ลดจนสุดแล้ว”
ก่อนที่บาสจะสะดุ้งว่า
“เดี๋ยวนะ แม่เราไม่ได้เรียกชื่อบอลนี่”
ก่อนที่จะเปิดประตูออกไป เห็นจุติมาคิ้วขมวดเป็นปมก่อนเอ่ยเสียงแข็ง
“บาส นี่ใช่บาสหรอลูก”
บาสก้มหน้างุดๆก่อนที่จะไม่พูดใดๆ
บาสถอนหายใจก่อนตอบ
“แม่ผมขอโทษ คือสาเหตุที่ผมสลับตัวกับบอลเพราะเราอยากให้พ่อกับแม่มาคืนดีกันนี่ครับ”
“แล้วได้ถามแม่หรือยังละว่า แม่อยากจะคืนดีกับพ่อไหม”
“ยังเลยครับแม่ คือว่าผมอยากกอดแม่ผมเลยสลับตัวกับบอล”
“บอลอยู่ไหน หา น้องอยู่ไหน”จุติมาถามด้วยเสียงกร้าว
“บอลกลับปัตตานีครับแม่”
“ขอโทษนะลูก แม่อยากให้ลูกอยู่กับพ่อ พรุ่งนี้เช้าแม่จะส่งลูกที่สถานีรถไฟ แม่ขอโทษนะที่ไม่อยากคืนดีกับพ่อของลูก”
จุติมาน้ำตาอาบแก้มก่อนที่จะเดินลงไป
บาสเองเสียใจอย่างมากที่มีเรื่องที่น่าอึดอัดใจมานาน เขาเองก็เข้าใจอยู่ว่าเพราะอะไรที่ตนนั้นคิดอยากเล่นสนุกแต่อีกฝ่ายนั้นบอกคำเดียวสั้นๆ
นั่นคือ ‘ขอโทษ’
ก่อนก้าวออกมาจากห้องนอนก่อนลงบันไดพร้อมถือจานข้าวมุ่งตรงไปยังห้องครัว จุติมาอยากจับผิดว่าอีกฝ่ายเขาจะไปไหน
ก่อนที่บาสจะเดินไปยังหน้าบ้านตรงม้านั่งหินอ่อนเยื้องๆ บ้าน สักพักเขาก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งจอดรถจักรยานยนต์ก่อนที่จะลงมาคุย
“ไงบาส นายทำไมถึงเล่นละครแบบนี้วะ”อาร์มถามอีกฝ่าย
บาสก้มหน้างุดๆ ก่อนพ่นลมหายใจตอบกลับไป
“เราอยากรู้นะ ว่าพ่อของเราทำไมถึงทิ้งแม่ไป ตอนนี้ฉันรู้แล้ว พ่อฉันเจ้าชู้ แม่ฉันเลยไล่พ่อไป”บาสตอบด้วยเสียงกร้าว
“ตอนนี้เราเจอแม่ของเราแล้วเดี๋ยวอีกหน่อยเราจะบอกความจริงว่า เราคือบาส ไม่ใช่บอล เราสลับตัวกันเพื่ออยากให้พ่อกับแม่ได้มาคืนดีกัน”บาสเอ่ยขึ้น
“แล้วบอลรู้เรื่องนี้หรือยังละ”อาร์มถาม
“ยังเลย ป่านนี้บอลคงไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่”บาสตอบ
ก่อนที่บาสจะโทรไปหาบอลที่จังหวัดปัตตานี เสียงปลายสายเหมือนไม่มีคนรับสาย ก่อนที่จะมีเสียงดังของโทรศัพท์อีกฝ่ายดังอยู่ในโรงงาน
ก่อนที่จะมีหัวหน้าแผนกเอ่ยขึ้น
“คุณหนูบาส โทรศัพท์”
บอลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนที่จะเดินเลี่ยงไปยังข้างๆ อาคารของโรงงานก่อนกดรับสาย
“ฮัลโหลบาส”
“ฮัลโหลบอล ตอนนี้นายทำอะไรอยู่หรอ”
“คือ ตอนนี้เรากำลังทดลองงานที่โรงงานของพ่ออยู่ มีอะไรหรอบาส”
“คือว่าแบบนี้นะบอล นายเป็นโรคสมาธิสั้นหรอ”บาสถามอีกฝ่าย
บอลตกใจจึงถาม
“นายไปรู้มาจากไหน”
“แม่บอก แม่บอกต่อหน้าฉันว่านายเป็นโรคสมาธิสั้น ฉันตกใจมากๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่านายเป็นโรคสมาธิสั้น”
บอลถอนหายใจก่อนตอบ
“ใช่ ฉันเป็น ตอนนี้ฉันก็ทานยาอยู่ แล้วนายก็คงไม่ต่างเนอะ”บอลย้อน
บาสไม่มั่นใจก่อนตอบไป
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเลยนะ คงไม่ต่างเหมือนนายละมั๊ง แล้วว่าแต่บอลไปเที่ยวสุราษฎร์ฯยัง”
“ยังเลยนะ คือว่าฉันต้องทำงานที่โรงงานว่างๆ ฉันจะไป”
“แล้วฉันรบกวนนายหรือเปล่าละ”บาสถามอีกฝ่าย
“ก็รบกวนนะ แต่ก็ว่างคุยอยู่นะ แล้วถ้าฉันไม่ว่างนายก็ค่อยโทรมาทีหลังนะ เดี๋ยวฉันต้องไปทำงานแล้วละบาย”บอลกดวางสายคู่สนทนาไป
“เดี๋ยวสิบอล”
บาสบอกก่อนมองดูหน้าจอโทรศัพท์ในตอนนี้มืดสนิทก่อนบาสหันมองมาทางเพื่อนของเขาอีกครั้ง
“อาร์ม บอลเขาทำงานอยู่โรงงาน”
อาร์มกำลังเรียบเรียงถ้อยคำของปลายสาย
“ถ้างั้นตอนนี้บอลอยู่ปัตตานีแล้วสินะ”อาร์มถามห้วนๆ
บาสพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่จะเอามือกุมศรีษะ
“บาสเอ๊ย แย่แน่ๆ เลยวะ”
บาสบ่นก่อนที่จะเข้าใจทุกอย่าง
โดยมีอาร์มคอยปลอบใจอยู่ไม่ห่าง
จุติมากำลังแอบดูบุตรชาย ก่อนที่จะคิดไปต่างๆ นาๆ
ก่อนที่จะมีเสียงของสาวใช้เสริมขึ้น
“คุณนายคะ เท่าที่เราจะจับตาดูนี่ คุณบอลไม่มีอะไรผิดปกตินี่คะ”
จุติมากำลังมองไปยังภาพถ่ายของตนเองกับเด็กทารกชายวัยหนึ่งเดือนกับทารกชายวัยหนึ่งเดือนที่อยู่ข้างๆ กันก่อนที่จะบอกขึ้น
“เป็นไปได้ไหมว่า บอลที่อยู่ในตอนนี้มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป”
“ถ้าบอลเปลี่ยนไป แล้ว...ใครมาสวมรอยเป็นบอลละ”
จุติมาอมยิ้มก่อนตอบไป
“ก็บาสไง ลูกชายของฉันอีกคน ดูในรูปนี้สิ มีบอลก็ต้องมีบาส”
สาวใช้เสริมขึ้น
“แล้วเราจะจับผิดยังไงละคะ”
จุติมาทวนความจำ
“ตามปกติห้องนอนของบอล จะเป็นยังไง”เธอเอ่ยขึ้นแบบเรียบๆ
“ก็ ดูรกนี่คะ แต่พอวันที่คุณนายใช้ให้เราไปเคาะห้อง ก็ดูสะอาดมากๆ เหมือนพึ่งถูกเก็บกวาดมายังไงยังงั้นเลยนะคะ”สาวใช้ตอบ
“ถ้าหากว่าเขามา ฉันจะเป็นคนสังเกตพฤติกรรมของเขาเอง ว่าเขาคือใคร ถ้าใช่บอลตัวจริงก็แล้วไปคงอาจจะงอนที่ฮาน่าไม่มาเล่นกับเขา
ถ้าไม่ใช่ละก็ ฉันจะส่งเขากลับไปหาพ่อของเขาเอง”
พอระยะเวลาสักพักหนึ่ง บาสก็ชักชวนเพื่อนของเขาให้เข้ามาเล่นที่บ้าน
“แม่ครับ คือว่าบอลพาเพื่อนมาเล่นที่บ้านสักวันสองวันจะได้ไหมครับ”บาสต่อรองอีกฝ่าย
ก่อนที่จุติมาจะเสแสร้งไปว่า
“ได้สิ จะพาเพื่อนพักค้างคืนที่นี่ก็ได้นะ”
“สวัสดีครับคุณป้า”อาร์มยกมือไหว้อีกฝ่าย
“สวัสดีจ๊ะ ชื่ออะไรนะเรา”
“ผมชื่ออาร์มเป็นเพื่อนของบอลครับ”อาร์มตอบ
“ก็ดีนะที่มีเพื่อนมาเล่นที่บ้าน อากาศข้างนอกดูเย็นๆ หนาวๆ ป้าว่าชวนเพื่อนมากินข้าว กินขนมปังสักสองคืนดีไหม”
บาสตอบแทนเพื่อนของเขา
“ก็ดีนี่ครับแม่ เออ อาร์มเราขึ้นไปห้องนอนของเราก่อนดีไหม ได้เล่นเกมสนุกๆ ด้วยนะ”บาสชักชวนให้อีกฝ่ายได้ขึ้นไปเล่นกัน
“ดีๆ เราไปกันนะเพื่อน”
พอสิ้นเสียงบาสกับอาร์มก็รีบวิ่งขึ้นบันใดบ้านไปยังชั้นสองของบ้าน
“เหนื่อยจังเลย เด็กๆ ก็แบบนี้แหล่ะ”
ก่อนที่จะพากันเล่นอย่างสนุกสนาน
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน บอลในตอนนี้ยังสวมรอยเป็นบาส เขาอยากรู้ว่าพ่อของเขาเป็นคนแบบไหนบอลเลยตั้งใจทำงานที่โรงงานแห่งนี้
จนเพื่อนๆ ให้การยอมรับเป็นอย่างดีก่อนจะมีเพื่อนที่รู้ใจคือ ‘เบลล่า’
ก่อนบอลจะมองไปยังพ่อของเขา พ่อของเขาเดินมาที่โรงงานก่อนถามอย่างเป็นกันเอง
“ไงลูก เหนื่อยไหมวันนี้”
“พ่อ วันนี้เหนื่อยอยู่ครับแต่ไม่ค่อยมากพอทำไหวอยู่ครับ”บอลตอบพร้อมอมยิ้มให้บิดาของเขา
“ดีแล้ว ดูเพื่อนร่วมงานสิ เขาก็เหนื่อยไม่ต่างจากเรา เราทำได้อยู่แล้ว”
ประวิทย์บอกอย่างอารมณ์ดี
“พ่อครับ แม่ไปไหนหรอครับ”บอลเอ่ยถามเขารู้อยู่ว่าพ่อควรจะบอกว่ายังไง
“แม่เขา ตายไปแล้ว”ประวิทย์โกหก
“พ่อโกหก แม่ยังมีชีวิตอยู่ พ่อไม่สงสารแม่เลยหรอครับ แม่เขาก็ต้องทนทำงานเพื่อพ่อ”บอลบอกเสียงกร้าว
ก่อนที่ประวิทย์จะเอ่ยอย่างเสียอารมณ์
“ลูกไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหน”
“พ่อครับ เราไปคุยกันในห้องทำงานของพ่อจะดีกว่า ว่าผมไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหน”บอลสวนกลับ
ก่อนเดินนำหน้าประวิทย์ไป พอไปถึงห้องทำงานของประวิทย์
“ลูกไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหน”ประวิทย์ถามอีกฝ่าย
บอลฮึดใจก่อนที่จะเริ่มบอกความจริงว่าเขาคือใคร
“พ่อ คือว่าผมเห็นแม่ทำงานหนักมากๆ จนไม่ได้พักผ่อน ผมจะบอกความจริงไว้เลยก็ได้นะครับ จริงๆ แล้วผมก็ไม่ใช่บาส แต่ผมคือบอล
คือว่า เราสลับตัวกันครับ”
ประวิทย์มองหน้าอีกฝ่าย
“ลูกว่าอะไรนะ”
“ผม คือ บอล”
ประวิทย์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่จะมองบุตรชายใช่เขามีบุตรชายอยู่สองคน เขาเป็นฝาแฝดกัน
“แล้วบาสไปไหนละลูก”
“บาสเขาอยู่นครพนมครับพ่อ เขาอยากกอดแม่”
ประวิทย์นั่งบนโซฟาก่อนที่จะผ่อนลมหายใจก่อนถามจุดประสงค์ในการสวมรอย
“แล้วลูกทำไมต้องสลับกับบาส”
บอลมองหน้าก่อนตอบไป
“ก็เพราะว่า ผมกับบาสอยากให้พ่อแม่คืนดีกันอีกครั้งครับพ่อ”
“ฟังนะบอล พ่อจะไม่คืนดีกับแม่เด็ดขาด เพราะว่าพ่อจะแต่งงานใหม่กับน้าทราย”ประวิทย์บอกเรื่องที่ตนจะแต่งงานกับหัวหน้าฝ่ายการขาย
ของโรงงานแห่งนี้
“ไม่ได้ครับพ่อ จะแต่งงานใหม่ไม่ได้ ถ้าพ่อแต่งผมจะขวางพ่อทุกอย่าง”บอลตอบแบบเซ็งๆ
“เรื่องแบบนี้ก็แล้วแต่แก”
บอลเปิดประตูก่อนก้าวเท้าออกไปยังนอกห้องก่อนปิดประตูดัง ‘ปัง’
ทุกคนในโรงงานมองเป็นตาเดียวกันหมดว่าเกิดอะไรขึ้น
ชั้นบนของบ้าน เสียงเกมในจอโทรทัศน์ดังไปทั่วบ้าน ก่อนที่จุติมาจะส่งเสียงตะโกนขึ้นไป
“บอลเล่นกันเงียบๆ ก็ได้ลูก”
พอสิ้นเสียงก็ยังดังเหมือนเดิม ก่อนที่จุติมานั้นเดินขึ้นไปบันใดชั้นสองของบ้าน
“บอล แม่บอกว่าให้ลดเสียงลง อย่าเสียงดังสิลูก”
บาสตอบกลับไป
“ครับแม่ ผมจะลดเสียงให้ครับ”
จุติมาส่ายหน้าเบาๆ ก่อนบ่น
“ไม่ไหวเลยเด็กคนนี้ มันดูแปลกไปไหมนะ”
สาวใช้ของบ้านเอ่ยขึ้น
“แต่เราว่า บอลไม่ได้มีนิสัยแบบนี้ละมั๊ง”
“คงจะใช่งั้นฉันจะลองเรียกอีกชื่อหนึ่งเลยละกัน”
จุติมาขึ้นบันใดไปก่อนเรียกชื่อตรงกันข้าม
“บาส ลดเสียงลงหน่อยสิลูก”
บาสได้ยินเสียงเรียกของตัวเองเลยขานไป
“ครับแม่ ลดจนสุดแล้ว”
ก่อนที่บาสจะสะดุ้งว่า
“เดี๋ยวนะ แม่เราไม่ได้เรียกชื่อบอลนี่”
ก่อนที่จะเปิดประตูออกไป เห็นจุติมาคิ้วขมวดเป็นปมก่อนเอ่ยเสียงแข็ง
“บาส นี่ใช่บาสหรอลูก”
บาสก้มหน้างุดๆก่อนที่จะไม่พูดใดๆ
บาสถอนหายใจก่อนตอบ
“แม่ผมขอโทษ คือสาเหตุที่ผมสลับตัวกับบอลเพราะเราอยากให้พ่อกับแม่มาคืนดีกันนี่ครับ”
“แล้วได้ถามแม่หรือยังละว่า แม่อยากจะคืนดีกับพ่อไหม”
“ยังเลยครับแม่ คือว่าผมอยากกอดแม่ผมเลยสลับตัวกับบอล”
“บอลอยู่ไหน หา น้องอยู่ไหน”จุติมาถามด้วยเสียงกร้าว
“บอลกลับปัตตานีครับแม่”
“ขอโทษนะลูก แม่อยากให้ลูกอยู่กับพ่อ พรุ่งนี้เช้าแม่จะส่งลูกที่สถานีรถไฟ แม่ขอโทษนะที่ไม่อยากคืนดีกับพ่อของลูก”
จุติมาน้ำตาอาบแก้มก่อนที่จะเดินลงไป
บาสเองเสียใจอย่างมากที่มีเรื่องที่น่าอึดอัดใจมานาน เขาเองก็เข้าใจอยู่ว่าเพราะอะไรที่ตนนั้นคิดอยากเล่นสนุกแต่อีกฝ่ายนั้นบอกคำเดียวสั้นๆ
นั่นคือ ‘ขอโทษ’
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ