Fanfic สองรัก (บาส&บอล)
-
เขียนโดย ณัฐพล
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.41 น.
14 ตอน
2 วิจารณ์
13.68K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2564 20.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) ทดลองงาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่บอลมาถึงจังหวัดปัตตานีแล้ว เขาก็สูดลมหายใจก่อนที่จะมีพนักงานซึ่งเป็นมุสลิมเอ่ยทักทาย
“สวัสดีค่ะคุณหนู”
บอลยิ้มก่อนทักทายด้วยอารมณ์ดี
“สวัสดีครับน้า”
สุธีเดินมาก่อนที่จะถามถึงสาระทุกข์สุขดิบประจำวัน ก่อนออกสำเนียงทองแดง
“คุณหนูไปเรียนที่นั่นสนุกบ้างหม้าย”
บอลยิ้มแก้มปริก่อนตอบไปแบบเรียบๆ
“สนุกสิครับน้า ว่าแต่น้าชื่ออะไรหรอครับ”บอลถามอย่างเป็นกันเอง
“น้ามีชื่อว่า สุธีจะเรียกว่า น้าธีได้นะ”สุธีตอบก่อนพูดไทยปนทองแดง
“น้าธี คือว่า น้าธีทำงานในตำแหน่งอะไรหรอครับแล้ว ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวหรือเปล่าครับ”บอลถาม
“คุณหนูบาสก็รู้อยู่นี่ครับว่าปัตตานีมีที่เที่ยวเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือจะไปชมทะเลใต้ก็ได้นี่ครับ”
บอลมองไปยังต้นมะพร้าวใหญ่
“ที่นี่มีต้นมะพร้าวด้วยหรอครับน้า”
สุธีบอก
“มีครับ รอคุณวิโรจน์มาอธิบายให้เลยนะว่า เพราะว่าคุณวิโรจน์นั้นเขาเป็นคนท้องถิ่นของที่นี่”
สักพักมีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา เขาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าการผลิตของโรงงานแห่งนี้เขาเดินเข้ามาเอ่ยทักทายบอลอย่างเรียบๆ
“สวัสดีครับ คุณหนูบาส”
“พี่คงจะเป็นคนที่ชื่อวิโรจน์สินะ”บอลบอก
ก่อนที่อีกฝ่ายจะโคลงศรีษะให้อีกฝ่าย
“ครับผมชื่อวิโรจน์ทำงานตำแหน่งหัวหน้าการผลิตของโรงงานแห่งนี้ ผมได้รับคำสั่งจากเจ้าของโรงงานว่าให้รับตัวคุณหนูไปทดลองงานที่นี่ในตำแหน่ง คนงาน”
เขาตอบก่อนที่บอลจะตั้งนาฬิกาว่า เวลาเก้านาฬิกาของทุกวันเป็นเวลาเริ่มงาน
“คุณหนูทำอะไรหรอละ นั่น”
“อ๋อ คือผมกำลังตั้งเวลาไปทำงานฮะ”
อีกคนเอ่ยขึ้น
“รอบคอบนี่”หัวหน้างานเอ่ยขึ้นเบาๆ
ก่อนที่บอลจะเลิกคิ้วให้อีกฝ่าย เขาเองก็เข้าใจอยู่นะว่าเพราะอะไรทำไมต้องทำแบบนี้ เขาเคยใช้กับเวลาในการไปเล่นเกมบ้าง
การไปตลาดกับแม่ของเขาบ้าง หรือแม้กระทั่งการไปเล่นกับฮาน่าจังบ้าง แต่ตอนนี้เขาเองก็คงจะคิดถึงฮาน่าเพื่อนเล่นของเขาอยู่ไม่น้อย
ก่อนที่จะเห็นคนงานสวมชุดยูนิฟอร์มของทางโรงงานนั้นจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนที่เขาจะหันไปเห็นเด็กสาววัยไล่เลี่ยกัน ใบหน้าของเธอดูสวยงาม
ก่อนที่บอลจะถาม
“นั่นใครนะ เด็กสาวคนนั้น”เขาเอามือชี้ไปที่เด็กหญิงอีกคน
“อ๋อ นั่นคือเบลล่า เพื่อนเล่นของคุณหนูสมัยเด็กไงครับจำไม่ได้หรอ”หัวหน้าตำแหน่งการผลิตเอ่ยถามแบบเรียบๆ
“เบลล่า เธอสนิทกับผมหรอพี่”
“ครับก็สนิทนะ แต่แบบแฟนมั๊ง”วิโรจน์แขวะอีกฝ่าย
บอลอั้มอึ้งก่อนที่จะเออออไปตามเพลงเขานั้นกำลังมองอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา ใจหนึ่งเขาเองก็อยากเป็นมิตรกับเธอแบบไม่ได้คิดอะไรเลย เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาแปดนาฬิกาสามสิบนาที ในตอนนี้บริเวณโรงงานผู้คนกำลังเดินเข้ามาไซต์งาน ก่อนที่จะมีคนงานประมาณห้าสิบกว่าคน หัวหน้าคนงานเป็นผู้หญิงอายุประมาณสี่สิบห้า อย่าว่าแต่หัวหน้าคนงานเลยที่มอง คนงานคนอื่นก็มองมาที่บอลเป็นตาเดียวอย่างกับจ้องเป็นตัวประหลาด บอลเอ่ยขึ้นทักทาย
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่ๆ ทุกคน”บอลทักทายอย่างเป็นมิตร
ก่อนที่จะมีหญิงสาวอีกคนเอ่ยขึ้น
“น้อง อายุเท่าไหร่หรอเนี่ยถึงได้หาประสบการณ์ไวจัง”
“ผมอายุสิบสามปีครับ ปีหน้าก็สิบสี่ครับพี่ๆ”
คนงานชายวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“น้องนี่ชื่ออะไรหรอ”
บอลเองก็กะว่าจะบอกชื่อตัวเองเลยตอบไปว่า
“ผมชื่อบาสฮะพี่ๆ ผมเป็นลูกเจ้าของโรงงานวันนี้ผมอยากหาประสบการณ์ด้วยตัวของผมเองฮะ”
บอลตอบเรียบๆ ก่อนตั้งใจทำงานในสิ่งที่เขามอบหมายงาน ก่อนที่ประวิทย์กำลังยืนมองดูบุตรชายสุดรักของเขาอย่างไม่กระพริบตา ก่อนมีเลขาสาวเอ่ยขึ้น
“เจ้านายคะ แน่ใจแล้วหรอคะที่ให้ลูกชายของเจ้านายมาเรียนรู้งานตั้งแต่เนิ่นๆ”
ประวิทย์อมยิ้มก่อนจะหันขวับกลับมาทางเลขาสาวก่อนตอบแบบเรียบๆ
“แน่ใจสิ ว่าบาสเขาต้องทำได้ดี เขาไปเรียนอยู่ที่จังหวัดนครพนมนี่ เพราะว่าผมเองนี่แหล่ะเป็นคนทำเรื่องให้เขาไปเรียนอยู่ที่นั่น แต่พอมาดูเขาก็ทำได้ดีแล้วนี่”
เลขาสาวเองยังไม่ค่อยมั่นใจฝีมือของบอลเลย ก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานของเจ้าของโรงงานไปเพื่อที่จะหยิบเอกสารในแฟ้มขึ้นมา
บาสในตอนนี้เก็บตัวอยู่ในห้องนอนของบอล เขารู้ดีว่าแต่ละวันนั้นไม่ได้ไปไหนเลย เขาจึงหยิบหนังสือจากชั้นหนังสือที่ตั้งตระหง่านอยู่มุมห้อง เขาหยิบหนังสือนิยายแนวแฟนตาซีขึ้นมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา ก่อนที่จะมีเสียงดังออกมาจากนอกห้อง “ก๊อก ก๊อก” เขาไม่สนใจกับบรรยากาศภายในห้องที่เงียบสงัด เขากำลังใช้สมาธิในการอ่านหนังสือให้เยอะ นิยายก็กำลังสนุก ก่อนที่จะหัวเสียเลยบอกไป
“รู้แล้ว เข้ามาสิครับ”
จบคำพูด คนที่อยู่นอกห้องก็เปิดประตูเข้ามา
“คุณบอล คุณผู้หญิงบอกว่า ให้ลงไปทานข้าวเดี๋ยวนี้”
บาสปิดหนังสือก่อนมองหน้าสาวใช้ พร้อมเดินลงไปโดยไม่ส่งเสียง ใดๆ เลย สาวใช้งุนงงกับอากาศกิริยาท่าทางของอีกฝ่ายก่อนที่จะบ่น
“แปลกวะ มาพักนี้ดูแปลกๆ”
สาวใช้เก็บกวาดห้อง เก็บหนังสือนิยายที่บาสอ่านยังไม่จบเก็บเข้าที่ เสียงกระทึบเท้าของบาสเดินอย่างรุนแรงมาตามก่อนมองหน้า
จุติมาก่อนที่จะเอ่ยแบบเซ็งๆ
“แม่ครับ ผมกำลังอ่านนิยายเพลินๆ เลย แม่เรียกผมทำไม”
จุติมาหยุดกินอาหารก่อนบอกอย่างมีเหตุผล
“นี่บอล ฟังแม่นะ ลูกต้องแบ่งเวลาบ้างสิ เวลานี้คือเราทานข้าว ก็ต้องทานข้าว เราจะอ่านหนังสือตอนไหนก็ได้”
บาสสูดลมหายใจก่อนที่จะตอบ
“ผมรู้อยู่ครับแม่ ว่าเราต้องแบ่งเวลา งั้นผมเอาอาหารไปกินในห้องนอนก่อนก็ได้นี่ครับ”บาสเถียง
“ไม่ได้ลูก ไม่เคยดูหนังเรื่องๆ หนึ่งหรอที่ลูกของเขามัวแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหน”
“แม่ครับ ผมขอเหอะ แค่คาบเดียวคือคาบเช้านะแม่ ผมขอเหอะ”บาสอ้อนวอน
จุติมาก็เลยปล่อยให้อีกฝ่ายตักข้าวใส่จานก่อนที่จะตักอาหารใส่จานที่มีข้าวก่อนวิ่งขึ้นไปบนห้อง จุติมาบ่นพึมพำ
“ปวดหัวกับลูกฉันจัง วันนี้คงจะไม่สบอารมณ์แกจริงๆ นั่นแหล่ะ”
สาวใช้เสริม
“ทุกๆ ครั้งบอลไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ คุณนาย”
จุติมานึกภาพที่ผ่านมาตอนแรกๆ เขาเองไม่เคยเอะใจเลยว่าเพราะอะไร
“สงสัยเราไม่มีเวลาให้เขาก็เป็นได้นะ”
บาสปิดประตูห้องก่อนล็อกประตู เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อโทรไปหาเพื่อนในกลุ่มของเขา นั่นคือ อาร์ม
“ฮัลโหลว่าไงบาส”เสียงปลายสายเอ่ยขึ้น
“อาร์มตอนนี้เรากำลังอยู่ที่นครพนม”
อาร์มตกใจก็เลยถามออกไป
“แล้วนายไปทำอะไรที่นครพนม นายทำไมถึงยังไม่กลับปัตตานีละ”
“คือว่าฉันนะสลับตัวกับบอลไง บอลไปแทนฉัน ส่วนฉันสวมรอยเป็นบอล เพราะว่าเราหน้าตาเหมือนกันมากๆ เรากำลังสืบว่า
แม่ของฉันทำไมถึงทิ้งพ่อของฉันไป ตอนนี้ฉันรู้แล้ว พ่อของฉันนะเจ้าชู้พาสาวที่ไหนไม่รู้มาด้วย”
“หา!”อาร์มอุทานขึ้น
“เดี๋ยวฉันจะลงไปนายค่อยมาคุยกับฉันที่หน้าม้าหินอ่อนตรงเยื้องๆ หน้าบ้านละกันนะเพื่อนรัก”
“เออๆ ก็ได้เพื่อนแค่นี้นะบาย”
บาสกดวางสายก่อนที่จะกินข้าวตามเคย ตอนนี้เขาเริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาอีกนิด
บอลในตอนนี้สวมรอยเป็นบาสกำลังเดินตรงไปยังห้องทำงานของพ่อของเขา ก่อนที่จะลังเลว่าจะเคาะประตูหรือไม่สุดท้าย
เขาก็ตัดสินใจไม่เคาะดีกว่า ก่อนที่จะเดินไปอีกทาง คนแล้วคนเล่านั้นกำลังมองมาทางบอลเป็นตาเดียว
บอลจัดแจงชุดยูนิฟอร์มให้เข้ารูปก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เขามองอะไรเรา มีตรงไหนผิดไปหรือเปล่านะ”
เขาบ่นไปสักพักก่อนที่จะถามคนงาน
“พี่ๆ มองผมมีตรงไหนผิดหรือเปล่าครับ”
สักพักคนงานเริ่มที่จะก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเอง ซึ่งเป็นปริศนาสำหรับบอลอยู่ให้คิดในใจไม่น้อย
เขาครุ่นคิดก่อนที่จะบอกไปแบบเรียบๆ
“สงสัยพี่ๆ คิดว่าเราเป็นเหมือนพวกเขาละมั๊ง”
เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันก็เดินมาบอก
“นี่นาย” เธอเอ่ยขึ้น
บอลชี้ไปที่ตัวเองก่อนที่จะตอบ
“นี่เธอเรียกเราหรอ”
เด็กสาวเลิกคิ้วก่อนตอบ
“ใช่ก็นายนั่นแหล่ะ นายใช่บาสปะ”
บอลเสแสร้งก่อนตอบ
“ถ้าไม่ใช่ ก็จะเป็นใคร”คำตอบยียวนกวนบาทา ก่อนที่เด็กสาวจะอ้อมมาทางด้านข้างก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ
“เป็นไง ไปเรียนที่นั่นสนุกไหม”
“ก็สนุกนะ แล้วเบลล่าละ”บอลถามคืน
“ฉันก็สบายดี คือว่า ตลอดระยะเวลาที่นายไปเรียนที่นั่นฉันนะก็ คิดถึงนายตลอด นายมาที่นี่อีกครั้งฉันก็ดีใจแล้ว”
คำตอบกับสีหน้าของอีกฝ่ายเรียบเฉย บอลก็มองคนงานกำลังบรรจุปลาจำนวนมากคัดแยก
“แล้วพี่ๆ เขาทำไมต้องมองเราด้วยละ”บอลเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อ๋อ พี่ๆ เขาตกใจที่นายเป็นลูกเจ้าของโรงงานมาทำงานที่นี่ยังไงเล่า เขาก็แค่ตกใจเท่านั้นเอง”
น้ำเสียงใสๆ กับใบหน้าหวานๆ ของเจ้าของเสียงเด็กสาวกำลังคุยกับบอลอย่างเป็นมิตร
“แล้วเธอวันนี้ไม่ทำงานหรอ”
เธออมยิ้มก่อนตอบไป
“ในชีวิตประจำวันฉันนะหรอ ก็ฉันช่วยแม่ขายกล้วยทอด บางวันก็นำขนมกล้วยมาขายให้พี่ๆ ที่นี่นะสิ”
เธอตอบแบบเรียบๆ ก่อนมองไปยังคนงานคนหนึ่งเขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ชั่งพูดจา
วิโรจน์เดินตรงมายังเด็กสาวที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ บอล
“อ้าว น้องเบล วันนี้มาขายขนมกล้วยหรอ วันนี้พี่หิว ขอซื้อได้ไหมละ”
เด็กสาวหันมาทางต้นเสียงก่อนยิ้มให้
“พี่วิโรจน์ วันนี้แม่เขาไม่ว่าง ขอเป็นวันพรุ่งนี้ได้ปะ ถึงเอามาขาย”
วิโรจน์พยักหน้าเพราะรู้ดีว่าแม่ค้าอีกคนอาจจะมีธุระที่อื่นก่อนที่เด็กสาวจะมองไปยังเบื้องหน้า
“บาส ถ้าคุยกับเพื่อนเสร็จแล้วก็มาทำงานเลยนะ งานเยอะเดี๋ยวไม่เสร็จ”วิโรจน์บอก
ก่อนบอลที่จะพยักเพยิดก่อนตอบไป
“ครับพี่วิโรจน์เดี๋ยวผมตามไปทีหลังครับ”
บอลส่งยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
“งั้นพรุ่งนี้ค่อยคุยกันอีกนะ พอดีพี่วิโรจน์เรียกเราไปทำงานแล้วบายเพื่อน”บอลโบกไม้โบกมือให้เด็กสาว
เด็กสาวก็โบกมือให้เช่นกัน
บอลเดินมาที่แผนกผลิตคัดแยกปลาบรรจุกระป๋อง
“มีอะไรหรอพี่วิโรจน์”
วิโรจน์เอ่ยกึ่งแซว
“ไง คุยกับเบลล่ารู้สึกยังไงบ้าง”
“ก็สนุกนะพี่วิโรจน์ ว่าแต่เขาเป็นลูกแม่ค้าหรอ”
วิโรจน์เอ่ยตามความจริง
“จริงๆ แล้ว เบลล่า เป็นน้องสาวพี่เอง พ่อพี่ชื่อไพโรจน์ พ่อพี่ทำงานอยู่ในโรงงานแห่งนี้แหล่ะ”
บอลเบิกตาโตเมื่อได้ยินที่วิโรจน์บอก
“ถ้าพี่ไม่บอก ผมไม่รู้นะว่าพี่มีน้องสาว”
วิโรจน์อมยิ้มก่อนตอบ
“พี่เห็นว่าเขาสนิทกันน้อง แค่เพื่อนเล่นกันนะ เขาเป็นคนคุยเก่งมากๆ ตอนยังเด็กคุยเก่งเหมือนอย่างว่าเนอะเขาพูดมาก เพื่อนเยอะ ทำตัวน่าคบหา”
วิโรจน์มองมาอีกฝ่ายก่อนที่จะตบไปที่บ่า เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นแค่เพื่อน บอลตั้งใจทำงาน พ่อของเขาก็คอยแอบดูพฤติกรรมของเขาอย่าง
ไม่ขาดสายก่อนที่จะประเมินผล
“ลูกของเราทำได้ดี ถ้าเราให้เขาเข้าทำงาน ในตอนอายุยี่สิบปีนี่ยิ่งจะมีประสบการณ์ให้มากกว่านี้ แค่นี้ถือว่าดีแล้วนี่ ให้ผ่านละกัน”
เขาพูดอย่างภูมิใจที่ตัวเขานั้นไม่เสียแรงที่จะทดลองงานบุตรชายให้เรียนรู้ แต่วันแรกของการทำงานบอลก็ทำได้ดี เรียนรู้งานเร็ว
“สวัสดีค่ะคุณหนู”
บอลยิ้มก่อนทักทายด้วยอารมณ์ดี
“สวัสดีครับน้า”
สุธีเดินมาก่อนที่จะถามถึงสาระทุกข์สุขดิบประจำวัน ก่อนออกสำเนียงทองแดง
“คุณหนูไปเรียนที่นั่นสนุกบ้างหม้าย”
บอลยิ้มแก้มปริก่อนตอบไปแบบเรียบๆ
“สนุกสิครับน้า ว่าแต่น้าชื่ออะไรหรอครับ”บอลถามอย่างเป็นกันเอง
“น้ามีชื่อว่า สุธีจะเรียกว่า น้าธีได้นะ”สุธีตอบก่อนพูดไทยปนทองแดง
“น้าธี คือว่า น้าธีทำงานในตำแหน่งอะไรหรอครับแล้ว ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวหรือเปล่าครับ”บอลถาม
“คุณหนูบาสก็รู้อยู่นี่ครับว่าปัตตานีมีที่เที่ยวเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือจะไปชมทะเลใต้ก็ได้นี่ครับ”
บอลมองไปยังต้นมะพร้าวใหญ่
“ที่นี่มีต้นมะพร้าวด้วยหรอครับน้า”
สุธีบอก
“มีครับ รอคุณวิโรจน์มาอธิบายให้เลยนะว่า เพราะว่าคุณวิโรจน์นั้นเขาเป็นคนท้องถิ่นของที่นี่”
สักพักมีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา เขาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าการผลิตของโรงงานแห่งนี้เขาเดินเข้ามาเอ่ยทักทายบอลอย่างเรียบๆ
“สวัสดีครับ คุณหนูบาส”
“พี่คงจะเป็นคนที่ชื่อวิโรจน์สินะ”บอลบอก
ก่อนที่อีกฝ่ายจะโคลงศรีษะให้อีกฝ่าย
“ครับผมชื่อวิโรจน์ทำงานตำแหน่งหัวหน้าการผลิตของโรงงานแห่งนี้ ผมได้รับคำสั่งจากเจ้าของโรงงานว่าให้รับตัวคุณหนูไปทดลองงานที่นี่ในตำแหน่ง คนงาน”
เขาตอบก่อนที่บอลจะตั้งนาฬิกาว่า เวลาเก้านาฬิกาของทุกวันเป็นเวลาเริ่มงาน
“คุณหนูทำอะไรหรอละ นั่น”
“อ๋อ คือผมกำลังตั้งเวลาไปทำงานฮะ”
อีกคนเอ่ยขึ้น
“รอบคอบนี่”หัวหน้างานเอ่ยขึ้นเบาๆ
ก่อนที่บอลจะเลิกคิ้วให้อีกฝ่าย เขาเองก็เข้าใจอยู่นะว่าเพราะอะไรทำไมต้องทำแบบนี้ เขาเคยใช้กับเวลาในการไปเล่นเกมบ้าง
การไปตลาดกับแม่ของเขาบ้าง หรือแม้กระทั่งการไปเล่นกับฮาน่าจังบ้าง แต่ตอนนี้เขาเองก็คงจะคิดถึงฮาน่าเพื่อนเล่นของเขาอยู่ไม่น้อย
ก่อนที่จะเห็นคนงานสวมชุดยูนิฟอร์มของทางโรงงานนั้นจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนที่เขาจะหันไปเห็นเด็กสาววัยไล่เลี่ยกัน ใบหน้าของเธอดูสวยงาม
ก่อนที่บอลจะถาม
“นั่นใครนะ เด็กสาวคนนั้น”เขาเอามือชี้ไปที่เด็กหญิงอีกคน
“อ๋อ นั่นคือเบลล่า เพื่อนเล่นของคุณหนูสมัยเด็กไงครับจำไม่ได้หรอ”หัวหน้าตำแหน่งการผลิตเอ่ยถามแบบเรียบๆ
“เบลล่า เธอสนิทกับผมหรอพี่”
“ครับก็สนิทนะ แต่แบบแฟนมั๊ง”วิโรจน์แขวะอีกฝ่าย
บอลอั้มอึ้งก่อนที่จะเออออไปตามเพลงเขานั้นกำลังมองอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา ใจหนึ่งเขาเองก็อยากเป็นมิตรกับเธอแบบไม่ได้คิดอะไรเลย เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาแปดนาฬิกาสามสิบนาที ในตอนนี้บริเวณโรงงานผู้คนกำลังเดินเข้ามาไซต์งาน ก่อนที่จะมีคนงานประมาณห้าสิบกว่าคน หัวหน้าคนงานเป็นผู้หญิงอายุประมาณสี่สิบห้า อย่าว่าแต่หัวหน้าคนงานเลยที่มอง คนงานคนอื่นก็มองมาที่บอลเป็นตาเดียวอย่างกับจ้องเป็นตัวประหลาด บอลเอ่ยขึ้นทักทาย
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่ๆ ทุกคน”บอลทักทายอย่างเป็นมิตร
ก่อนที่จะมีหญิงสาวอีกคนเอ่ยขึ้น
“น้อง อายุเท่าไหร่หรอเนี่ยถึงได้หาประสบการณ์ไวจัง”
“ผมอายุสิบสามปีครับ ปีหน้าก็สิบสี่ครับพี่ๆ”
คนงานชายวัยกลางคนเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“น้องนี่ชื่ออะไรหรอ”
บอลเองก็กะว่าจะบอกชื่อตัวเองเลยตอบไปว่า
“ผมชื่อบาสฮะพี่ๆ ผมเป็นลูกเจ้าของโรงงานวันนี้ผมอยากหาประสบการณ์ด้วยตัวของผมเองฮะ”
บอลตอบเรียบๆ ก่อนตั้งใจทำงานในสิ่งที่เขามอบหมายงาน ก่อนที่ประวิทย์กำลังยืนมองดูบุตรชายสุดรักของเขาอย่างไม่กระพริบตา ก่อนมีเลขาสาวเอ่ยขึ้น
“เจ้านายคะ แน่ใจแล้วหรอคะที่ให้ลูกชายของเจ้านายมาเรียนรู้งานตั้งแต่เนิ่นๆ”
ประวิทย์อมยิ้มก่อนจะหันขวับกลับมาทางเลขาสาวก่อนตอบแบบเรียบๆ
“แน่ใจสิ ว่าบาสเขาต้องทำได้ดี เขาไปเรียนอยู่ที่จังหวัดนครพนมนี่ เพราะว่าผมเองนี่แหล่ะเป็นคนทำเรื่องให้เขาไปเรียนอยู่ที่นั่น แต่พอมาดูเขาก็ทำได้ดีแล้วนี่”
เลขาสาวเองยังไม่ค่อยมั่นใจฝีมือของบอลเลย ก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานของเจ้าของโรงงานไปเพื่อที่จะหยิบเอกสารในแฟ้มขึ้นมา
บาสในตอนนี้เก็บตัวอยู่ในห้องนอนของบอล เขารู้ดีว่าแต่ละวันนั้นไม่ได้ไปไหนเลย เขาจึงหยิบหนังสือจากชั้นหนังสือที่ตั้งตระหง่านอยู่มุมห้อง เขาหยิบหนังสือนิยายแนวแฟนตาซีขึ้นมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา ก่อนที่จะมีเสียงดังออกมาจากนอกห้อง “ก๊อก ก๊อก” เขาไม่สนใจกับบรรยากาศภายในห้องที่เงียบสงัด เขากำลังใช้สมาธิในการอ่านหนังสือให้เยอะ นิยายก็กำลังสนุก ก่อนที่จะหัวเสียเลยบอกไป
“รู้แล้ว เข้ามาสิครับ”
จบคำพูด คนที่อยู่นอกห้องก็เปิดประตูเข้ามา
“คุณบอล คุณผู้หญิงบอกว่า ให้ลงไปทานข้าวเดี๋ยวนี้”
บาสปิดหนังสือก่อนมองหน้าสาวใช้ พร้อมเดินลงไปโดยไม่ส่งเสียง ใดๆ เลย สาวใช้งุนงงกับอากาศกิริยาท่าทางของอีกฝ่ายก่อนที่จะบ่น
“แปลกวะ มาพักนี้ดูแปลกๆ”
สาวใช้เก็บกวาดห้อง เก็บหนังสือนิยายที่บาสอ่านยังไม่จบเก็บเข้าที่ เสียงกระทึบเท้าของบาสเดินอย่างรุนแรงมาตามก่อนมองหน้า
จุติมาก่อนที่จะเอ่ยแบบเซ็งๆ
“แม่ครับ ผมกำลังอ่านนิยายเพลินๆ เลย แม่เรียกผมทำไม”
จุติมาหยุดกินอาหารก่อนบอกอย่างมีเหตุผล
“นี่บอล ฟังแม่นะ ลูกต้องแบ่งเวลาบ้างสิ เวลานี้คือเราทานข้าว ก็ต้องทานข้าว เราจะอ่านหนังสือตอนไหนก็ได้”
บาสสูดลมหายใจก่อนที่จะตอบ
“ผมรู้อยู่ครับแม่ ว่าเราต้องแบ่งเวลา งั้นผมเอาอาหารไปกินในห้องนอนก่อนก็ได้นี่ครับ”บาสเถียง
“ไม่ได้ลูก ไม่เคยดูหนังเรื่องๆ หนึ่งหรอที่ลูกของเขามัวแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหน”
“แม่ครับ ผมขอเหอะ แค่คาบเดียวคือคาบเช้านะแม่ ผมขอเหอะ”บาสอ้อนวอน
จุติมาก็เลยปล่อยให้อีกฝ่ายตักข้าวใส่จานก่อนที่จะตักอาหารใส่จานที่มีข้าวก่อนวิ่งขึ้นไปบนห้อง จุติมาบ่นพึมพำ
“ปวดหัวกับลูกฉันจัง วันนี้คงจะไม่สบอารมณ์แกจริงๆ นั่นแหล่ะ”
สาวใช้เสริม
“ทุกๆ ครั้งบอลไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ คุณนาย”
จุติมานึกภาพที่ผ่านมาตอนแรกๆ เขาเองไม่เคยเอะใจเลยว่าเพราะอะไร
“สงสัยเราไม่มีเวลาให้เขาก็เป็นได้นะ”
บาสปิดประตูห้องก่อนล็อกประตู เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อโทรไปหาเพื่อนในกลุ่มของเขา นั่นคือ อาร์ม
“ฮัลโหลว่าไงบาส”เสียงปลายสายเอ่ยขึ้น
“อาร์มตอนนี้เรากำลังอยู่ที่นครพนม”
อาร์มตกใจก็เลยถามออกไป
“แล้วนายไปทำอะไรที่นครพนม นายทำไมถึงยังไม่กลับปัตตานีละ”
“คือว่าฉันนะสลับตัวกับบอลไง บอลไปแทนฉัน ส่วนฉันสวมรอยเป็นบอล เพราะว่าเราหน้าตาเหมือนกันมากๆ เรากำลังสืบว่า
แม่ของฉันทำไมถึงทิ้งพ่อของฉันไป ตอนนี้ฉันรู้แล้ว พ่อของฉันนะเจ้าชู้พาสาวที่ไหนไม่รู้มาด้วย”
“หา!”อาร์มอุทานขึ้น
“เดี๋ยวฉันจะลงไปนายค่อยมาคุยกับฉันที่หน้าม้าหินอ่อนตรงเยื้องๆ หน้าบ้านละกันนะเพื่อนรัก”
“เออๆ ก็ได้เพื่อนแค่นี้นะบาย”
บาสกดวางสายก่อนที่จะกินข้าวตามเคย ตอนนี้เขาเริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาอีกนิด
บอลในตอนนี้สวมรอยเป็นบาสกำลังเดินตรงไปยังห้องทำงานของพ่อของเขา ก่อนที่จะลังเลว่าจะเคาะประตูหรือไม่สุดท้าย
เขาก็ตัดสินใจไม่เคาะดีกว่า ก่อนที่จะเดินไปอีกทาง คนแล้วคนเล่านั้นกำลังมองมาทางบอลเป็นตาเดียว
บอลจัดแจงชุดยูนิฟอร์มให้เข้ารูปก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เขามองอะไรเรา มีตรงไหนผิดไปหรือเปล่านะ”
เขาบ่นไปสักพักก่อนที่จะถามคนงาน
“พี่ๆ มองผมมีตรงไหนผิดหรือเปล่าครับ”
สักพักคนงานเริ่มที่จะก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเอง ซึ่งเป็นปริศนาสำหรับบอลอยู่ให้คิดในใจไม่น้อย
เขาครุ่นคิดก่อนที่จะบอกไปแบบเรียบๆ
“สงสัยพี่ๆ คิดว่าเราเป็นเหมือนพวกเขาละมั๊ง”
เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันก็เดินมาบอก
“นี่นาย” เธอเอ่ยขึ้น
บอลชี้ไปที่ตัวเองก่อนที่จะตอบ
“นี่เธอเรียกเราหรอ”
เด็กสาวเลิกคิ้วก่อนตอบ
“ใช่ก็นายนั่นแหล่ะ นายใช่บาสปะ”
บอลเสแสร้งก่อนตอบ
“ถ้าไม่ใช่ ก็จะเป็นใคร”คำตอบยียวนกวนบาทา ก่อนที่เด็กสาวจะอ้อมมาทางด้านข้างก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ
“เป็นไง ไปเรียนที่นั่นสนุกไหม”
“ก็สนุกนะ แล้วเบลล่าละ”บอลถามคืน
“ฉันก็สบายดี คือว่า ตลอดระยะเวลาที่นายไปเรียนที่นั่นฉันนะก็ คิดถึงนายตลอด นายมาที่นี่อีกครั้งฉันก็ดีใจแล้ว”
คำตอบกับสีหน้าของอีกฝ่ายเรียบเฉย บอลก็มองคนงานกำลังบรรจุปลาจำนวนมากคัดแยก
“แล้วพี่ๆ เขาทำไมต้องมองเราด้วยละ”บอลเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อ๋อ พี่ๆ เขาตกใจที่นายเป็นลูกเจ้าของโรงงานมาทำงานที่นี่ยังไงเล่า เขาก็แค่ตกใจเท่านั้นเอง”
น้ำเสียงใสๆ กับใบหน้าหวานๆ ของเจ้าของเสียงเด็กสาวกำลังคุยกับบอลอย่างเป็นมิตร
“แล้วเธอวันนี้ไม่ทำงานหรอ”
เธออมยิ้มก่อนตอบไป
“ในชีวิตประจำวันฉันนะหรอ ก็ฉันช่วยแม่ขายกล้วยทอด บางวันก็นำขนมกล้วยมาขายให้พี่ๆ ที่นี่นะสิ”
เธอตอบแบบเรียบๆ ก่อนมองไปยังคนงานคนหนึ่งเขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ชั่งพูดจา
วิโรจน์เดินตรงมายังเด็กสาวที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ บอล
“อ้าว น้องเบล วันนี้มาขายขนมกล้วยหรอ วันนี้พี่หิว ขอซื้อได้ไหมละ”
เด็กสาวหันมาทางต้นเสียงก่อนยิ้มให้
“พี่วิโรจน์ วันนี้แม่เขาไม่ว่าง ขอเป็นวันพรุ่งนี้ได้ปะ ถึงเอามาขาย”
วิโรจน์พยักหน้าเพราะรู้ดีว่าแม่ค้าอีกคนอาจจะมีธุระที่อื่นก่อนที่เด็กสาวจะมองไปยังเบื้องหน้า
“บาส ถ้าคุยกับเพื่อนเสร็จแล้วก็มาทำงานเลยนะ งานเยอะเดี๋ยวไม่เสร็จ”วิโรจน์บอก
ก่อนบอลที่จะพยักเพยิดก่อนตอบไป
“ครับพี่วิโรจน์เดี๋ยวผมตามไปทีหลังครับ”
บอลส่งยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
“งั้นพรุ่งนี้ค่อยคุยกันอีกนะ พอดีพี่วิโรจน์เรียกเราไปทำงานแล้วบายเพื่อน”บอลโบกไม้โบกมือให้เด็กสาว
เด็กสาวก็โบกมือให้เช่นกัน
บอลเดินมาที่แผนกผลิตคัดแยกปลาบรรจุกระป๋อง
“มีอะไรหรอพี่วิโรจน์”
วิโรจน์เอ่ยกึ่งแซว
“ไง คุยกับเบลล่ารู้สึกยังไงบ้าง”
“ก็สนุกนะพี่วิโรจน์ ว่าแต่เขาเป็นลูกแม่ค้าหรอ”
วิโรจน์เอ่ยตามความจริง
“จริงๆ แล้ว เบลล่า เป็นน้องสาวพี่เอง พ่อพี่ชื่อไพโรจน์ พ่อพี่ทำงานอยู่ในโรงงานแห่งนี้แหล่ะ”
บอลเบิกตาโตเมื่อได้ยินที่วิโรจน์บอก
“ถ้าพี่ไม่บอก ผมไม่รู้นะว่าพี่มีน้องสาว”
วิโรจน์อมยิ้มก่อนตอบ
“พี่เห็นว่าเขาสนิทกันน้อง แค่เพื่อนเล่นกันนะ เขาเป็นคนคุยเก่งมากๆ ตอนยังเด็กคุยเก่งเหมือนอย่างว่าเนอะเขาพูดมาก เพื่อนเยอะ ทำตัวน่าคบหา”
วิโรจน์มองมาอีกฝ่ายก่อนที่จะตบไปที่บ่า เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นแค่เพื่อน บอลตั้งใจทำงาน พ่อของเขาก็คอยแอบดูพฤติกรรมของเขาอย่าง
ไม่ขาดสายก่อนที่จะประเมินผล
“ลูกของเราทำได้ดี ถ้าเราให้เขาเข้าทำงาน ในตอนอายุยี่สิบปีนี่ยิ่งจะมีประสบการณ์ให้มากกว่านี้ แค่นี้ถือว่าดีแล้วนี่ ให้ผ่านละกัน”
เขาพูดอย่างภูมิใจที่ตัวเขานั้นไม่เสียแรงที่จะทดลองงานบุตรชายให้เรียนรู้ แต่วันแรกของการทำงานบอลก็ทำได้ดี เรียนรู้งานเร็ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ