สามเกลอ...รอรัก Fic เปลวกนก,หญิงยอ,โสมภา
เขียนโดย ณัฐพล
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 22.14 น.
แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561 15.30 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) โสมภาเอาคืน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่ฟองแขเสียชีวิตไปแล้ว บ้านหลังดังกล่าวถูกให้คนอื่นเช่าต่อ ส่วนโสมภานั้นย้ายไปอยู่กับเจ้าคำฟ้า ส่วนคุณชายยิ่งศักดิ์ก็มักจะมาเยี่ยมและแวะหาโสมภา เจ้าคำฟ้า ก็เลยส่งเสียค่าเล่าเรียนให้ไปเรียนต่อที่ปีนัง โสมภามองดูรูปมารดาที่เสียชีวิตไป เจ้าหล่อนนึกกับตัวเองว่า
แม่คะ โสมสัญญาว่าจะ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน โสมจะเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะได้เรียนรู้คำศัพท์นะคะแม่ แม่คะ โสมรักแม่อยู่นะคะ แม่คงลำบากมามากพอ พวกเราไม่มีความสุขเลยนะคะแม่
เจ้าคำฟ้า แอบชำเลืองดูโสมภา อย่างน่าสงสาร ในระหว่างนั้น หม่อมเยาวลักษณ์ก็ได้เข้ามาอยู่ร่วมกับเจ้าคำฟ้า เขาอดสงสารสาวน้อยวัย ยี่สิบสามปีไม่ได้
“ฉันสงสารแกจังเลยนะคะเจ้าคำฟ้า”
“ใช่ หนูโสมเองก็เป็นลูกของฟองแข ถือซะว่า เขาก็เป็นลูกอีกคนของเราเหมือนกัน เยาวลักษณ์แล้วหญิงยอไปไหนหรอ” เจ้าคำฟ้าถามอีกฝ่าย
เสียงหวานอีกเสียงดังลอดเข้ามา
“อยู่นี่ค่ะ คุณแม่ เจ้าคำฟ้า”
“น่าสงสารหนูโสมจังเลยเนอะ ที่แม่ของเขาต้องมาจากไปเสียก่อน”
“ค่ะ คุณแม่ หญิงเองก็น่าสงสารเขาอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่คุณนายฟองแขเสีย โสมเขาแทบจะไม่อยากกินข้าวเลยนะคะ”
“เห้อ สงสัยโสมคงคิดถึงแม่แน่ๆ เลย”
เจ้าคำฟ้า เปิดประตูเข้าไปพลางปลอบใจอีกฝ่ายที่กำลังร้องไห้ต่อหน้ารูปของฟองแขซึ่งเป็นมารดาของเจ้าหล่อน
“หนูโสม อย่าเสียใจไปเลย ถ้าหนูเสียใจ แม่ของเธอคงเป็นห่วงแทบแย่”
“เจ้าคำฟ้า ตอนนี้โสมไม่มีแม่แล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่พี่ศักดิ์ คุณพ่อ” โสมภาบอก
“หนูโสม เรารู้นะว่าหนูยังรักแม่ เอางี้นะ เข้มแข็งไว้ เดี๋ยวแม่ที่เฝ้ามองอยู่บนฟ้าจะเห็นหนูลุกขึ้นและเข้มแข็งไว้นะ”
“ค่ะเจ้าคำฟ้า”
เยาวลักษณ์เดินเข้ามา พร้อมที่จะบอกข่าวดี
“โสมจ๊ะ อามีเรื่องที่จะมาบอก ต่อไปนี้อาจะส่งหนูไปเรียนที่ปีนัง หนูต้องฝึกเรียนภาษาอังกฤษนะจ๊ะ”
“แล้วมีใครไปบ้างหรอคะ”
“มีเปลวกนก หญิงยอ และหนู”
โสมภาได้ยินดังนั้น ก็ยกมือไหว้อีกฝ่าย ที่มองเห็นคุณค่าของเจ้าหล่อนและต่อไปนี้เจ้าหล่อนกำลังจะไปศึกษาต่อจนจบ
โสมภานั้นก็หยิบหนังสือภาษาอังกฤษเล่มใหญ่ พร้อมเดินตามหญิงยอไป และพากันไปนั่งที่ม้านั่ง โสมเริ่มอ่านหนังสือ เริ่มจากหน้าแรก พร้อมช่วยกันติว
“หญิงยอ ทำไมเราต้องเรียนภาษาอังกฤษละ”
“เพราะว่า สมัยตั้งแต่ รัชกาลที่สามนะ มักจะมีฝรั่งชาวต่างชาติเข้ามานะ แล้วรู้ไหมว่า ภาษาอังกฤษเนี่ยชาวอังกฤษเนี่ยแหล่ะที่เริ่มเผยแพร่ และหลักการเขียนและการพิมพ์ไงละในยุคสมัยของเรานะ มันต้องมีโทรเลขเอาไว้ส่งหากัน ถ้าทำคดีก็ต้องพิมพ์ดีดไง”
“โสมพูดจริงๆ นะ ถ้าโสมไป คงคิดถึงพ่อเนอะ ไม่สิคิดถึงพี่ภาดีกว่า”
“เว่อร์ไปไหม แต่หญิงว่า คุณโสมควรจะคิดถึงพ่อและคุณศักดิ์ พี่ชายของคุณโสมสิ”
โสมเงียบไปสักครู่พร้อมนึกถึงสมัยยังเด็ก ในตลอดที่ผ่านมา พ่อของเธอคอยอบรมสั่งสอนและเป็นห่วงเธอทุกเมื่อ แต่เธอมักจะดื้อรั้นเอง
“คุณโสม คุณโสม” หญิงยอเอ่ย พร้อมเขย่าต้นแขน
“มีอะไรหรอหญิงยอ”
“คือว่า หญิงเห็นคุณโสมเหม่อลอย หรือว่าเหม่อลอยหาพี่ภาหรอ”
“เปล่านะ หญิง โสมแค่นึกถึงเรื่องเมื่อตอนยังเด็กๆ พ่อของเราเองก็ดูเป็นห่วงเรา เราเองก็เริ่มเข้าใจพ่อ ที่พ่อเราเป็นห่วง” โสมภาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“คุณโสม ไม่มีพ่อคนไหนที่ไม่ห่วงลูก พ่อทุกคนเขาก็ยังเป็นห่วงลูก กลัวลูกทำไม่ได้บ้าง กลัวหนักใจหรือไม่สบายใจบ้าง เหมือนพ่อของหญิงเองก็ดูเป็นห่วงเราอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่เรามักจะบอกว่า คอยดูแลและปรึกษาในเรื่องที่ไม่สบายใจ ก็มีอะไรก็มักจะปรึกษากัน เรื่องเรียนภาษาอังกฤษคุณโสมอย่ากังวลไปเลยนะคะ”
หญิงยอปลอบใจ
โสมเริ่มอ่านตั้งแต่ Grammar และ Greeting and Introduction หรือจะเรียกว่า ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษและ การทักทายและการแนะนำ แต่โสมเองก็อ่านจนพอเข้าใจ เยาวลักษณ์เห็นทั้งสองคนตั้งใจเรียนก็ฉีกยิ้ม เจ้าคำฟ้าก็อมยิ้มอยู่ไม่น้อย
“ไม่คิดเลยเนอะว่า โสมกับหญิงยอจะเข้ากันได้ดี”
“มันก็ใช่นะเยาวลักษณ์ แต่เราเองก็พอเข้าใจนะว่าหนูโสมเป็นเด็กดีจริงๆ”
ณ วังวรากร
คุณชายยิ่งศักดิ์ นั่งอยู่ศาลาท่าน้ำ คลองแห่งนี้ดูจะกว้างใหญ่ บริเวณแห่งนี้ดูมีจำกัด ศักดิ์ชายนั้นก็ก้าวเข้ามาศาลาท่าน้ำ ในตอนนี้พวกบ่าวกำลังพากันเล่นน้ำ ศักดิ์ชาย จึงเอ่ย
“พ่อครับ พ่อคิดถึงยัยโสมหรอครับ เห็นไม่กินข้าว”
“ใช่ พ่อคิดถึงโสม ศักดิ์ ได้ข่าวยัยโสมบ้างไหมลูก” คุณชายยิ่งศักดิ์ถามอีกฝ่าย
“ไม่นี่ครับพ่อ จริงสิพ่อ ถ้าพ่อคิดถึงทำไมไม่โทรศัพท์ไปหาครับ”
“ว่าแต่ลูกจะโทรไปเบอร์ใครหรอ” คุณชายยิ่งศักดิ์ถาม
“ผมก็จะโทรไปหา น้อง ผมจะโทรเข้าบ้านเจ้าคำฟ้าสิครับ”
ศักดิ์ชายรีบเดินจ้ำอ้าวไปยัง โทรศัพท์บ้านและหมุนไปที่เบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกับโสมภา คือบ้านของเจ้าคำฟ้า
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้าคำฟ้า ไม่เห็นมีใครรับก็เลยมารับเอง
“ฮัลโหล สวัสดีครับ”
“ฮัลโหล ขอสายโสมภาหน่อย”
“ตอนนี้โสมภากำลังติวภาษาอังกฤษครับ ว่าแต่นั่นใครพูดครับ”
“ผมศักดิ์ชายครับ เจ้าคำฟ้า”
เสียงเข้มบอก
“อ๋อหรอ งั้นเดี๋ยวรอสักครู่นะครับ”
เจ้าคำฟ้า บอกกับคนรับใช้ให้ไปตาม โสมภามาเพื่อที่จะคุยกับคนในสาย
“คุณโสม คือว่ามีคนอยากจะคุยด้วย” คนรับใช้รายงานให้อีกฝ่ายทราบ
“หญิงยอ รอแป๊บเดียวนะ เดี๋ยวมาอ่านต่อ”
โสมภาบอกพร้อมเดินออกไปจากตรงนั้นมุ่งไปยังห้องรับแขก ของบ้านที่มีโทรศัพท์ตั้งอยู่
“ใครโทรมาคะ เจ้า”
“พี่ชายเธอ”
“ฮัลโหล พี่ศักดิ์”
“ยัยโสม ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่หรอ”
“กำลังอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ มีอะไรหรอพี่ศักดิ์” โสมภาถาม
“คือว่า พ่อเขาคิดถึง”
“ฮัลโหล โสมสบายดีไหมลูก”
“สบายดีค่ะแล้วพ่อละคะสบายดีไหม”
“สบายดี ตอนไหนลูกจะมาหาพ่อละ”
“คงอีกสักพักละมั๊งคะ หนูคิดถึงพ่อนะคะ”
พอจบการสนทนาทั้งคู่ก็วางสาย
โสมเดินกลับมาที่เดิม ตอนนี้เจ้าหล่อนน้ำตาอาบแก้ม หญิงยอเห็นเลยถามอีกฝ่าย
“คุณโสม ทำไมถึงร้องไห้ละ”
“หญิงยอ เราคิดถึงพ่อ ถ้าเราไปปีนัง เราว่าคงได้ส่งจดหมายมาหาพ่อทุกสัปดาห์แน่ๆเลย”
“คุณโสม เราเข้าใจคุณโสมนะว่าคุณโสมคิดถึงพ่อและพี่ชาย หญิงว่าเรามาอ่านหนังสือต่อกันเถอะ”
หญิงยอกับโสมภาก็อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ โสมภาทำได้ดีมากๆ พอเวลาผ่านไปสัก สองสามชั่วโมง โสมภาก็เริ่มที่อยากจะไปหาพ่อของตน เลยอ้อนวอนเจ้าคำฟ้าพาไปส่งถึงวังวรากร
เจ้าหล่อนกำลังก้าวลงจากรถ พร้อมโผลกอดพ่อ
“พ่อ”
ศักดิ์ชายเองก็ชายตามองมายัง พ่อกับโสมโอบกอดกัน
“เป็นไงบ้างยัยโสม เห็นได้ข่าวว่าไปอ่านหนังสือภาษาอังกฤษหรือ” ศักดิ์ชายถาม
“ใช่แล้วพี่ศักดิ์ พ่อรู้ไหมคะว่าโสมจะได้ไปเรียนต่อที่ปีนังแล้วนะคะ”
“ก็ดีแล้วนี่ลูก แล้วจะไปเมื่อไหรหรอ”
โสมภายิ้มแก้เก้อ
“ยังไม่รู้เลยค่ะพ่อ พอดีอาเยาวลักษณ์เป็นคนบอกสงสัยจะเร็วๆ นี้ละมั๊งค่ะ”
คุณชายยิ่งศักดิ์มองหน้าโสมภาซึ่งเป็นบุตรสาว และเสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้น
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ โสมภา” หญิงโฉมสำอางบอก
“ค่ะ ถ้าโสมกลับมาจากปีนังเมื่อไหร่ โสมจะเฉดหัวคุณไปเลยนะคะ ศรัตรูหัวใจ” โสมภาบอกพร้อมกัดฟันเมื่อมาเจออีกฝ่าย
โสมภาพร้อมเดินชนร่างของหญิงโฉมแทบจะเซไปอีกทางหนึ่ง
“โสมภา โสมภา”
คุณชายยิ่งศักดิ์ร้องตามหลังคนที่เดินหนีกันหวุดหวิด
“นี่ยัยโสม จะมากไปแล้วนะลูก”
“พ่อคะ จะไปปกป้องมันทำไมละคะ”
“พ่อเปล่านะ แค่ลูกใช้นิสัยแบบนี้ไม่ดีนะลูก แม่เขาก็อโหสิทุกอย่างไปแล้วนะ”
“พ่อเข้าข้างมัน หนูเกลียดพ่อ”
คุณชายยิ่งศักดิ์ อธิบายให้บุตรสาวฟัง
“โสม พ่อรักลูกนะ แต่ลูกไปแสดงกิริยาใส่หญิงโฉมแบบนั้นไม่ดีเลยนะ เรานะยังเด็กอยู่นะลูก”
“ส่วนหนูโตพอแล้วค่ะพ่อ พ่อรู้ไหม นางเพศยานั่น คอยแย่งความสุขจากแม่ไป เนี่ยเหรอภรรใหม่ของพ่อ หนูไม่ต้องการหนูต้องการแม่แล้วตอนนี้ แม่ของโสมก็ตายไปแล้ว โสมจะตบมัน และแก้แค้นแทนแม่” โสมภาบอก
“โสมอย่านะลูก” คุณชายยิ่งศักดิ์ร้องห้าม
โสมภาเดินตรงไปยังหญิงโฉมสำอาง เจ้าหล่อนเป็นเดือดเป็นแค้น
“นางมารร้าย แกเคยทำอะไรให้แม่ของฉัน” โสมภาบอก
“นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ นังเด็กเมื่อวานซืน” หญิงโฉมตอบ
“มากเกินไปหรอคะ ศึกนี้ อยากรู้อยู่เหมือนกันว่าใครจะชนะ” โสมภาตอบพร้อมมองเป็นเดือดเป็นแค้น
ฝ่ามือของโสมไปปะทะกับเบ้าหน้าของหญิงโฉม ดัง เพี๊ยะ
“นี่มันมากเกินไปแล้วนะ ยัยโสมภา” หญิงโฉมบอก พร้อมมองเหมือนแค้นกันมาก่อน
ฝ่ามือของทั้งสองฝ่ายพลัดกันตบ โสมภาสู้ โดยไม่ยอมแพ้ จนศักดิ์ชายได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย
“พอแล้วยัยโสม พี่ว่าเรากลับกันเถอะ” ศักดิ์ชายร้องห้ามอีกฝ่าย
“วันหลังเราได้เห็นดีกัน หญิงโฉม ฝากไว้ก่อนเถอะ” โสมภาบอก
คุณชายยิ่งศักดิ์ตามหลังมา
“นี่โฉม เกิดอะไรขึ้น”
“ก็ลูกสาวของคุณนะสิ มาตบฉันก่อน”
หญิงโฉมสำอางบอก พร้อมเดินสะบัดหน้าหนี
“โสมภา คิดอะไรอยู่นะ นังลูกคนนี้” คุณชายยิ่งศักดิ์บ่น
ศักดิ์ชายนั้นคอยห้ามปรามน้องสาว สุดรัก
“นี่ยัยโสม ไปตบหญิงโฉมทำไม” เสียงเข้มเค้นถาม
“ก็อยากหมั่นไส้นี่ เห็นหน้ามันทีไรอยากคันมือคันไม้ขึ้นมาทันที”
ศักดิ์ชายทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ ภาคิไนยเดินเข้ามา
“พี่ภา”
“คุณภา สวัสดีครับ มาหาใครหรอครับ” ศักดิ์ชายถามอีกฝ่าย
“พี่มาหาโสมภา เป็นไงหวานใจสบายดีไหม” ภาคิไนยถามโสมภา
“ค่ะ สบายดี พี่ภาละคะ”
“พี่สบายดี แล้วนั่นไปโดนอะไรมาหรอ”
“คือว่า โสมภานะสิครับคุณภา เขาไปมีเรื่องกับหญิงโฉมสำอาง” ศักดิ์ชายเล่าให้อีกฝ่ายฟัง
“หรอ จริงสิ วันนี้พี่ซื้อขนมไทยๆ มาให้กินด้วย พี่ไม่รู้เลยว่าน้องจะชอบหรือไม่”
“ชอบค่ะ” เจ้าหล่อนเอ่ย
ตอนนี้สีหน้าของโสมภาฉีกยิ้ม ไม่เหมือนกับตอนก่อนหน้านี้เลย
“จริงสิ หญิงยอไม่มาหาโสมหรอ”
“ไม่นี่คะ สงสัยไม่สบาย”
“หรอ พี่ถามดูเฉยๆ แล้วเปลวกนกละไม่มาหาหรอ”
“รายนั้น ก็มาบ้างไม่มาบ้าง โสมเข้าใจเขาแล้วละค่ะพี่ภา”
โสมบอก พร้อมยืนยิ้มให้ชายหนุ่มคนดังกล่าว
“แล้วโสมภา เออ คือว่า...... เออ คือ” ภาคิไนยอ้ำอึ้ง
“คือว่าอะไรหรอคะ” โสมภาถามอีกฝ่าย
“คือว่า ใจน้องโสม คิดอะไรกับพี่อยู่หรอ”
ภาคิไนยอยากได้ยินคำตอบของโสมภา แต่เจ้าหล่อนเก็บเงียบโดยที่ไม่ค่อยมั่นใจเลยว่า อีกฝ่ายต้องการถามถึงอะไร โสมภาเลยเปลี่ยนเรื่อง
“พี่ภาคะ วันนี้ภูธเนศ เห้ย ภูบดีไม่มาหรอคะ”
“ถ้าเห็นมันก็คงมาแล้วละ แต่นี่มันคงจะยังไม่มาหรอก”
ภาคิไนยตอบพร้อมยิ้มส่งไปให้หญิงสาวที่กำลังอยู่ข้างๆ กันตอนนี้หัวใจของโสมภาคงจะรักและชอบภาคิไนยไปเสียแล้ว
“พี่ภาคะ จะเอาน้ำส้มสักแก้วไหมคะ”
“ถ้าเป็นน้ำใจของโสมพี่จะรับนะครับ”
พอจบบทสนทนาก็พากันเงียบ จนในระยะอีกไม่กี่นาที เสียงอุทานของคนๆหนึ่งดังลอดมาข้างหลัง
“แหวะ น้ำเน่าสิ้นดี พี่ภาคะ พี่ภาขา ตาภาคิไนยนี่ก็เปรียบเหมือนพระเอก พอยัยโสมนะเปรียบเหมือนนางเอก แหวะ ผีเน่ากับโลงผุ” เปลวกนกประชดประชัน
ภาคิไนยได้แต่อมยิ้ม ก่อนที่มือเรียวสวยจะจับมือสากของชายหนุ่ม
“พี่ภาคะ อย่าไปสนใจเขาเลย ปล่อยให้เขาอิจฉากันไปงั้นๆ ไปเลยสิคะ โสมทนได้”
โสมภาบอก พร้อมพาภาคิไนยไปคุยกันที่อื่น ส่วนเปลวกนก นั้นมองตามสองคนนี้โดยไม่ละสายตา พออีกสักพักใหญ่ หญิงยอก็เดินเข้ามา
“เปลวไปว่าอะไรให้ คุณโสม”
“ก็มันดูหมั่นไส้นี่ คำก็พี่ภา สองคำก็พี่ภา”
“เปลว อย่าไปประชดเขาเลย โสมเองก็น่าสงสารจะตาย แม่เขาก็พึ่งจะเสียไปนะ”
หญิงยอย้ำ และห้ามไม่ให้อีกฝ่ายประชด
“มันก็จริงไม่ใช่หรอ แล้วว่าแต่คุณภูของหญิงยอไปไหนแล้วละ”
หญิงยอทำสีหน้าดูไม่ค่อยสบาย และปฏิเสธไป
“คนนั้นนะ ไม่รู้สิ เขาจะไปไหนก็เรื่องของเขาแล้วนี่ไม่เกี่ยวอะไรกับหญิงยอเลย”
พอหญิงยอพูดจบก็เดินจากไปทันที ปล่อยให้เปลวกนก มองตาม ก่อนที่จะบ่นพึมพำ
“พักนี้เขาเป็นอะไรกันนะ แปลก”
เปลวกนกก็เดินจากไปที่ตรงนั้น ในระหว่างที่ธนาเดินตรงเข้ามาถามหาหญิงยอ
“เปลวเห็นหญิงยอหรือเปล่าครับ”
เปลวกนกพร้อมชี้ไปอีกทางที่หญิงยอเดินไป ธนาเดินตรงไปทางที่หญิงยอเดิน เปลวกนกมองดูแล้วส่ายหน้าก่อนที่จะยิ้มที่มุมปากอีกนิด
“หญิงยอ” ธนาร้องเรียกหาหญิงยอ
“หญิงยอ อยู่ที่ไหนตอบผมด้วย”
และแล้วหญิงยอก็ได้ยินเสียงของธนา แล้วยิ้มอย่างเป็นมิตรพร้อมดีใจ
“คุณธนาคะ หญิงอยู่ทางนี้”
หญิงยอโบกมือเรียก เพื่อให้ชายหนุ่มได้เข้ามา
“หญิงยอ มาอยู่ตรงนี้นี่เองผมตามหาแทบแย่”
“คุณธนา มาหาหญิงทำไมหรอคะ” เจ้าหล่อนเอ่ยถามให้กับชายหนุ่ม
“ที่ผมมานี่ก็เพราะว่า ผมอยากเอา ตุ๊กตาหมี เท็ดดี้แบร์ไงครับ ก่อนที่คุณจะไปเรียนต่อที่ปีนังไง”
ธนาบอก พร้อมมองไปที่หน้าสวยของอีกฝ่าย
“คุณธนาคะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่อุส่าห์ซื้อพี่หมีตัวใหญ่ ถ้าหญิงคิดถึงก็จะกอดพี่หมีทุกคืนเลย”
“แล้วตอนไหนหญิงจะไปปีนังละครับ”
ธนาถามอีกฝ่าย
“คงจะเร็วๆ นี้นี่แหล่ะค่ะ หญิงจะต้องไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเพราะว่า จะมีชาวต่างชาติ ฝรั่งมังคร่ามาอยู่ประเทศเราไงคะ”
“หรอครับ ก็ดีนะครับ แล้วจะไปอยู่ที่นั่นกี่ปีละครับ”
“คงจะสักประมาณสองปีนะคะ ถึงค่อยกลับมาเมืองไทย ถ้าหากว่า คุณธนาคิดถึงหญิงก็ เอาล็อกเก๊ตนี่สิคะ เผื่อเอาไว้ดูต่างหน้าให้หายคิดถึงไงคะ”
ธนายื่นมือเพื่อไปรับล็อกเก๊ต แล้วเอามาดู ในล็อกเก๊ตนี้มีลักษณะเป็นล็อกเก๊ตเงิน รูปหัวใจ เขาเปิดออกดู เห็นไออุ่นขึ้นมา ก่อนที่ธนาจะรับมันและเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงและ ในตอนนี้ ทั้งคู่ยิ้มให้กันและเดินจากกันไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ