สามเกลอ...รอรัก Fic เปลวกนก,หญิงยอ,โสมภา

7.0

เขียนโดย ณัฐพล

วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 22.14 น.

  13 ตอน
  2 วิจารณ์
  16.72K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561 15.30 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) หลับให้สบายนะฟองแข

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เมื่อธนาขับรถมาจอดถึงวังที่หญิงยออยู่ ก็ถามทันที

“ที่นี่หรือ วังของหญิงยอ” ธนาถาม

“ใช่ นี่คือวังศุภคุณ พ่อของหญิงเป็นถึงหม่อมเจ้า คุณธนา หญิงว่าคุณกลับไปได้แล้วนะคะ กลัวว่าท่านพ่อจะมาเห็น” หญิงยอบอก

ธนารีบเคลื่อนรถออกจากหน้าวังโดยทันที เจ้าหล่อนรีบเดินเข้าวัง หม่อมเจ้าเกียรติก้องมองหญิงยอด้วยความรักและเอ็นดู

“ท่านพ่อเพคะ หญิงกลับมาแล้วเพคะ”

“หญิงไปเล่นกีฬามาหรือ” ท่านชายเกียรติก้องถาม

หญิงยอพยักหน้ารับ ในขณะเดียวกัน มีหญิงสาวอีกคน แต่งกายในชุด กระโปรง ดูทันสมัยในยุคนั้น ซึ่งเป็นยุคของ อันธพาลครองเมือง

“หญิงยอ” เปลวกนกเรียกอีกฝ่าย

“หา นี่เปลวจริงๆหรือ แต่งตัวแบบนี้ดูไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย” หญิงยอตกใจกับอีกฝ่ายที่แต่งตัวดูดี

“คนเรานะมันก็มีการเปลี่ยนแปลงไป ในทางที่ดีแบบนี้สิ ถึงโอเค”

“ท่านพ่อเพคะ เป็นคนรับเปลวให้มาอยู่ในวังของเราหรอเพคะ” หญิงยอถามบิดา

“ใช่แล้วละลูก พ่อเห็นหญิงยอ คอยเพ้อหานี่ พ่อก็เลยบอกนังปลื้มให้เปลวนะมาอยู่ในวังของเรา”

“เปลว เราดีใจมากๆเลย ที่เปลวนะมาอยู่ที่วังของเรานะ”

“เราก็ดีใจอยู่เหมือนกัน ท่านพ่อเพคะ เปลวว่าจะไปเยื่อมคุณนายฟองแขอยู่นะคะ ไม่รู้ว่าคุณนายฟองแขจะเป็นยังไงบ้าง พักนี้ดูโทรมเชียว” เปลวบอก

“พ่ออนุญาตให้เปลวไปก็ได้นะ พ่อเองก็สงสารคุณนายฟองแข เห็นว่าคุณนายป่วยเป็นวัณโรคหรอ”

“ใช่ค่ะท่านพ่อ เปลวสงสารโสมภา ไม่รู้เลยว่าถ้าคุณนายฟองแขจากไป แล้วโสมจะอยู่ยังไง” เปลวบอกพร้อมอดห่วงไม่ไหว

“จริงสิ พรุ่งนี้วันอะไรหรอ” เปลวถามอีกฝ่าย

“อาทิตย์หน้าวันลอยกระทงนะสิ” อีกฝ่ายตอบ

“ตายแล้วละ เราว่าเราจะไปเอาต้นกล้วยมาตัดทำเป็นกระทงแล้วมั๊ง”

“มันก็จริงนะ เปลว หญิงเองก็ยังไม่ได้เตรียมกระทงเลย” เจ้าหล่อนบอกให้แก่อีกฝ่าย

“งั้นเรามาเริ่มทำกันนะ แต่คงจะเป็นอาทิตย์หน้ากันดีกว่าไหม”

“ดีเลย”

พอสิ้นเสียง ทั้งสองคนก็นั่งคิดเรื่อง พักนี้ ภากับภูมาบ้าง ไม่มาบ้าง แต่ทั้งคู่กลับเดินเล่นพร้อมหาวิธีที่จะไปหาใครสักคน ในระหว่างนั้น ศักดิ์ชายกับโสมภาก็พากันเดินเล่น โสมเองก็คิดว่าอยากจะไปเล่นหรือพูดคุยกับหญิงยอและเปลวกนก จนเจอหน้ากัน

“อ้าว คุณโสม มาเดินเล่นหรอวันนี้” หญิงยอถามอีกฝ่าย

“ใช่นะ พอดีพักนี้ แม่ของเราก็อาการเริ่มทรุดไปมากแล้ว เราเองก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย” ศักดิ์ชายบอกพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่

“อ้าวแล้ว คุณนายเป็นยังไงบ้างหรอ” หญิงเปลวถาม

“วันนี้ก็ดูเหนื่อยๆ กันมามากเลย ข้าวก็กินได้นิดเดียว”

“แย่จังเลย เปลวเองก็รู้สึกเป็นห่วงคุณนายมากๆ โสมต้องดูแลแม่ให้ดีนะ” เปลวบอกกับโสมภา

“ได้ๆ โสมจะดูแลแม่ให้ดี และสัญญาว่าแม่เราจะต้องหาย” โสมบอกพร้อมเข้มแข็ง

“หญิงยอเองก็รู้สึกเป็นห่วง คุณนายฟองแขเหมือนกัน แล้วว่าแต่ไปหาหมอหรือยังละ” หญิงยอถามอีกฝ่ายแต่โสมภา ได้แต่สั่นหัวไปมา

“อ้าว ว่างๆก็พาคุณนายไปหาหมอสิ เผื่ออาการอาจจะกลับมาหาย” หญิงยอบอก

“แต่เห็นว่า เจ้าคำฟ้าจะพาหมอมาดูอาการว่าจะเป็นยังไงบ้าง” โสมภาใจเสีย

“ว่าไงนะ หนูโสม” เสียงของหญิงสาววัยกลางคนขึ้นเสียง

“สวัสดีค่ะ น้าปลื้ม” ศักดิ์ชายและโสมภา พนมมือไหว้คนที่กำลังเดินมา

“สวัสดี คุณนายฟองแข อาการเป็นยังไงบ้าง”

“อาการของแม่ ยังทรงตัว แต่ยังไม่ค่อยดีขึ้นเลย” โสมภาบอก

“พาน้าไปหาแม่หน่อยได้ไหม น้าจะเอาผักไปฝากและถือโอกาสเยี่ยม” ปลื้มบอก

“ได้ค่ะน้า” โสมบอก

โสมภาพากันเดินกลับไปที่บ้านเช่าของแม่ของเจ้าหล่อน ในตอนนี้ ฟองแข กำลังนอนอยู่ ปลื้มมาเห็นก็เข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกันอย่างคุ้นเคย

“คุณนาย สบายดีไหม คือว่าฉันมาเยี่ยมได้ข่าวว่าคุณนายป่วย”

“อ้าว แม่ปลื้มนี่เอง ข้านะสบายดี แต่ก็มีบางครั้งนั้นแหล่ะที่ข้านะเจ็บป่วย”

ฟองแขบอกพร้อมยิ้มอย่างเป็นกันเอง

“แล้วแม่ปลื้มนี่ดีจังเลย รู้ข่าวว่าข้าป่วยยังมีน้ำใจอุส่าห์มาเยี่ยมถึงที่ว่าแต่ทานข้าวมาหรือยังละ” ฟองแขถามอีกฝ่ายที่ยังนั่งอยู่บนพื้น

“ทานแล้ว ข้ารู้ข่าวก็เลยรีบมาหาเลย”

“ยัยโสม ไปเอาน้ำมาให้แม่ปลื้มดื่มหน่อยสิ” ฟองแขวานใช้โสมภา

โสมภาก็เดินไปหยิบน้ำดื่มออกมาจากตู้เย็นและนำมาให้ผู้มาเยือนได้ดื่ม

“หนูโสมแกเป็นเด็กดีจังเลย คนอบรมสั่งสอนนี่คงจะเป็นคุณนายสินะคะ” ปลื้มชื่นชมหนูโสม

“ใช่ค่ะ แต่ก่อนแกดื้อมากๆ แต่ตอนนี้แกก็เชื่อฟังเราแล้ว”

“โธ่แม่ ก็แม่เล่นซะเอาเราไม่กล้าเจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนตอนเด็กๆ นี่คะ” โสมบอก

“ตาศักดิ์”

“ครับแม่” ศักดิ์ชายขานรับ

“ลูกจะพาน้องไปเล่นที่ไหนก็ได้นะ แม่จะคุยกับแม่ปลื้มก่อน”

ศักดิ์ชายกับโสมภาก็ออกไปจากที่นั่นทันที ตอนนี้เหลือแต่ แม่ปลื้มกับฟองแข แม่ปลื้มมีเรื่องที่จะคุยเรื่องสัพเพเหระ

“จริงสิ คุณนาย ได้ข่าวเรื่องคุณชายยิ่งศักดิ์หรือเปล่าละ”

“ได้ยินสิ ตอนนี้เขาอยู่กับภรรยาคนใหม่ เราเองก็รู้สึกคับแค้นใจ ไม่รู้เลยว่า คุณชายจะเลือกใครกันแน่”

ฟองแข รู้สึกระเหี่ยใจ

“ว่าแต่ เขาชื่ออะไรหรอ”แม่ปลื้มถาม

“เขาชื่อว่า คุณหญิงโฉมสำอาง สุภคุณ” ฟองแขบอก

“งั้นก็แสดงว่า คุณนายฟองแขก็ตกระกำลำบากอยู่นะสิ น่าสงสารจัง”

“จริงสิ แล้ววันนี้เปลวไม่มาหรอกหรือ” ฟองแขถามเมื่อไม่เห็นเปลวมาหาหลายอาทิตย์แล้ว

“เปลวอยู่ในวังศุภคุณ เปลวเป็นหม่อมราชวงศ์หญิง เปลวกนก ศุภคุณแล้วนะคุณนาย”

“อะไรกัน ไม่อยากจะเชื่อเลย เปลวเนี่ยนะ จะเป็นคุณหญิง” ฟองแขตกใจกับคำพูดของปลื้ม

“จริงสิ คุณนาย จริงๆ แล้ว เปลวเป็นลูกของฉันกับท่านชายเกียรติก้องแต่เราไม่บอกความจริงให้เปลวฟัง”

“แม่ปลื้ม บอกความจริงให้เปลวรู้หรือยังละ”

“บอกแล้วคุณนาย นังลูกคนนี้มีท่าทีเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ก็เหมือนอย่างว่านั่นแหล่ะ ถ้าไม่บอกความจริงกับแก แกคงจะไม่รู้เสียด้วยซ้ำก็ได้นะ”

ปลื้มบอก และในระหว่างนั้น เสียงรถคันดังกล่าวแล่นมาจอดหน้าบ้านของฟองแข ชายร่างสูงสวมเสื้อกั๊ก สีน้ำตาลเดินเข้ามาหาฟองแข

“ฟองแข เป็นยังไงบ้าง”

“สวัสดี แม่ปลื้ม มาคุยกับฟองแขหรอ” อีกฝ่ายถาม

“คือว่าฉันนะ มาเยี่ยมคุณนายฟองแข คุณชายมากับใครหรอ”

พอเวลาผ่านไป คนที่รอในรถทนไม่ไหวก็เปิดประตูรถออกมา เขาไม่ใช่ใคร เขาคือ หม่อมราชวงศ์ โฉมสำอาง ศุภคุณ

“นี่เหรอ บ้านยัยฟองแข เชอะ ก็แค่เรือนเช่า ชั่งไม่มีหัวนอนปลายเท้าเอาเสียเลย” หญิงโฉมบ่น

และในขณะนั้น ศักดิ์ชายก็เดินเข้ามาพอดี พนมมือไหว้

“สวัสดีครับคุณอา”

“สวัสดีตาศักดิ์ มาอยู่บ้านหลังนี้หรือ”

“ใช่ครับ พอดีแม่ไม่สบาย แล้วคุณพ่อละครับ”

“เดินเข้าไปหาแม่เธอแล้วมั๊ง อาเองก็ไม่อยากจะเข้าไปหรอก กลัวเขาจะตายไม่ดี”

ศักดิ์ชาย ได้ยินดังนั้น ก็ทำสีหน้ามุ่ย โสมภา ก็เดินมาพอดี

“พี่ศักดิ์”

โสมภา เบิกตากว้าง เมื่อเห็นภรรยาคนใหม่ของพ่อของเจ้าหล่อน มา พร้อมจะตบเป็นการสั่งสอน

“ยัยโสมอย่า” ศักดิ์ชายร้องห้าม

“แกมาทำไม มาหัวเราะใส่แม่ฉันนะหรือ”

“เปล่า ยัยเด็กเมื่อวานซืน เธอนี่ก็ร้ายไม่เบาเลยนี่”

“ใช่ ฉันมันไม่ดี เธอก็ไม่ดีเหมือนกัน คนอะไร กล้าแย่งคนรักของคนอื่นไป รู้ไหมว่า แม่เขารักพ่อมากแค่ไหน”

“หยุดเดี๋ยวนี้ ยัยเด็กเมื่อวานซืน” หญิงโฉมสบถพร้อมมองอีกฝ่าย

“ไม่หยุด คุณคอยทำลายความสุขของฉัน และครอบครัวนี่เหรอ คือคนที่มีความสุข ครอบครัวที่มีความสุข มันไม่ใช่เลยสักนิด คุณต่างหาก กล้าร่าน แย่งพ่อไปจากแม่”

เสียงเพี๊ยะ ของอีกฝ่ายลงมือ ตบไปที่ใบหน้าของโสมภา โสมภา เป็นเดือดเป็นแค้น สู้ทุกวิธีทางและสู้เพื่อคนที่เธอรักมาก คุณชายยิ่งศักดิ์ได้ยินเสียง โวกเวก ดังมาจากนอกบ้าน พร้อมกับสั่งห้ามทั้งคู่

“หยุด นี่มันอะไรกันหา หญิงโฉม ยัยโสม”คุณชายยิ่งศักดิ์ร้องห้าม

“คุณพี่” โฉมสำอางโผเข้ากอดอีกฝ่าย

“ยัยโสม เล่ามามันเกิดอะไรขึ้น” คุณชายยิ่งศักดิ์เค้นถาม

“ใช่หนูหมั่นไส้ หนูก็เลยอยากตบ มันทำโสมก่อนนะคุณพ่อ”

“ใคร ใครทำ ฉันเนี่ยนะไปตบเธอ”

“ก็มันจริงไหมละ ไม่เชื่อถามพี่ศักดิ์ก็ได้”

“ศักดิ์ เล่าให้พ่อฟังหน่อยสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

ศักดิ์ชายเริ่มเล่าความจริงให้บิดาฟัง คุณชายยิ่งศักดิ์ ต่อว่าโฉมสำอาง และพร้อมสั่งกลับวังวรากร ส่วนโสมภาก็แลบลิ้นปลิ้นตาให้อีกฝ่าย โฉมสำอาง โกรธจัด แต่ใจเองก็อยากแค้นที่โสมภานั้นคงเป็นคนที่ดูแค้นอาฆาตอยู่เหมือนกัน

“นี่ยัยโสม ทำไมถึงไปดึงผมเขาแบบนี้”

“พี่ศักดิ์ ยัยแม่ใหม่นี่ มันมีมารยาเยอะ แต่ที่แน่ๆ โสมไม่ค่อยถูกชะตากันเลย วันๆ คอยแต่หมั่นไส้ หาเรื่องตบตี ชิสู้กับใครไม่สู้ สู้กับโสมภา”

“อ้าว หนูโสม ไปมีเรื่องกับใครหรอ ดูสิผมยุ่งเชียว” แม่ปลื้มถามอีกฝ่าย

“สวัสดีค่ะ แม่ปลื้ม โสมเองหมั่นไส้ยัยโฉมสำอาง คนอะไรไร้มารยาท”

“หรอจ๊ะ พอดีแม่ของหนูโสมเรียก ส่วนน้า จะกลับบ้านแล้วนะ”

“ค่ะน้า สวัสดีค่ะ” โสมภากล่าวลา อีกฝ่ายพร้อมยกมือให้

“พี่ศักดิ์ปะเราเข้าบ้านกัน”

ทั้งสองเข้าบ้านพร้อมไปดูอาการของแม่ตน

“แม่จ๋า เป็นยังไงบ้าง” โสมภาถามด้วยความเป็นห่วง

“ก็ดีนิดหน่อยลูก โสมอย่าไปพาลใส่ผู้ใหญ่สิลูก”

“ใครกันแม่ที่พาล หนูเปล่าหนูทำเพื่อแม่ต่างหาก”

“โสม แม่เคยอบรมเรื่องมารยาทงามสมกับเป็นกุลสตรีแล้วนะ ลูกไปหาตบตีคนอื่นมันไม่น่ารักเลยนะ”

“แม่จ๋า ก็หญิงโฉมมันตบหนูก่อนนี่”

“ลูกว่าอะไรนะ” ฟองแขถาม

“วันนี้นะแม่ หญิงโฉมสำอางมายืนอยู่หน้าบ้านเรา มันก็เลยมาตบหน้าเราก่อนนะแม่”

โสมภาเล่าไปตามความจริง

“แม่รู้ไหมจ๊ะว่า ตั้งแต่พ่อมีมันมา ครอบครัวเราอยู่กันอย่างลำบาก”

“โสมเรื่องนี้มันเป็นเรื่องระหว่างครอบครัวเรานะลูก”

“ศัตรูหนูคือ หญิงโฉมสำอาง คนเดียว พอแล้วนะคะแม่ งั้นหนูเข้าไปนอนก่อนนะคะ”

“ตาศักดิ์”

“ครับแม่”

“ถ้าแม่เป็นอะไรไป ฝากดูแลน้องด้วยนะ”

“ครับแม่”

คืนนั้นก็อยู่ท่ามกลางความเงียบงัน

 

สัปดาห์ต่อมา วังศุภคุณ เหล่าบ่าวทั้งหลายก็กำลังทำกระทงอยู่ เปลวกนกยืนงง

“ป้าจ๊ะ วันนี้เป็นวันอะไรหรอทำไมถึงตัดต้นกล้วย ใบตองมาละ” เปลวถาม

“วันนี้วันลอยกระทงไง”

“โอ๊ย ลืมไปเลย เราต้องไปปลุกหญิงยอซะก่อนนะป้า”

เปลวกนกเดินเข้ามายังวังศุภคุณ เห็นท่านชายเกียรติก้องกำลังจิบกาแฟยามเช้าๆ

“ท่านพ่อคะ น้องตื่นหรือยัง”

“ยังเลยนะลูก สงสัยน้องนอนดึกมั๊งถึงได้ตื่นสาย”

เปลวกนกรีบขึ้นไปยังชั้นสอง เคาะประตูห้องนอนของหญิงยอ

“หญิงยอ ตื่นได้แล้ว”

“หญิงยอ”

และในขณะนั้นอีกสักพัก หญิงยอก็บิดลูกบิดเพื่อที่จะดูว่าใครมาทำอะไรที่หน้าห้องของตน และเขาก็พบกับอีกฝ่ายที่ยืนอยู่หน้าห้องนอน

“มีอะไรหรอเปลว”

“รู้ไหมว่าวันนี้ วันอะไร”

อีกฝ่ายได้แต่ง่วงๆ เหมือนจะอ่อนเพลียเหมือนพึ่งตื่นใหม่ๆ

“ไม่รู้เลยนะ วันนี้วันอะไรหรอ”

“วันลอยกระทงไง”

“ตายๆ ตาเถร หญิงต้องรีบทำกระทงแล้ว”

ณ บ้านของฟองแข โสมภาตื่นนานแต่เช้าๆ ศักดิ์ชายนั้นคอยดูแลแม่ไม่ห่าง เจ้าคำฟ้า จอดรถคันโปรดมาเทียบหน้าบ้าน

“พี่ศักดิ์ เจ้าคำฟ้ามา” โสมภาบอก

“สวัสดีครับ เจ้า” ศักดิ์ชายกระพุ่มมือไหว้

“ฟองแขเป็นยังไงบ้าง”

“ก็ทรุดลงเรื่อยๆ นะครับ ผมไปเรียกหมอมาดูอาการแล้ว”

“แล้วหมอว่าไงบ้าง”

“หมอบอกว่า รอให้แม่ไปดี”

“แม่จ๋า แม่อย่าทิ้งโสมไปนะ แล้วโสมจะอยู่กับใคร”เจ้าหล่อนตอนนี้ดูสั่นเครือ

“ยัยโสม ถ้าแม่ของเราตาย พี่สัญญาว่าจะดูแลเธอ”

“พี่ศักดิ์” โสมภาบอกพร้อมโผเข้ากอด ตอนนี้น้ำตาของโสมภาไหลอาบแก้ม

“ฟองแข” คุณชายยิ่งศักดิ์ร้องบอก พร้อมด้วยความเป็นห่วง

“คุณชาย ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้พบกันและได้อยู่ด้วยกัน โสม ต่อไปนี้ลูกเป็นเด็กดี คอยเชื่อฟังพ่อและดูแลย่านะ ศักดิ์ชาย ฝากดูแลน้องด้วยนะ เจ้าคำฟ้า ฝากดูแลยัยโสมและรับยัยโสมมาเป็นบุตรบุญธรรมนะ ส่วนต่อจากนี้ไป แม่จะไปแล้ว”

“คุณแม่” โสมภาเสียใจอย่างหนัก จนน้ำตาอาบแก้ม พร้อมสะอื้น

“ฟองแข” คุณชายยิ่งศักดิ์บอกพร้อมเสียใจ

เจ้าคำฟ้า ถอนหายใจเฮือกใหญ่ และแล้วข่าวก็มาบอกว่า

“อะไรนะ คุณนายฟองแขเสียแล้วหรอ”

“ใช่แล้วแม่ปลื้ม”

“ไม่น่าเลย”

“อะไรนะ ฟองแขเสียแล้วหรอ” เยาวลักษณ์บอกพร้อมได้รับข่าวร้าย

และแล้วงานศพก็ถูกจัดขึ้น โสมภาได้แต่สะอึกสะอื้นร่ำไห้ด้วยความเสียใจ ที่แม่ของตนเสีย เปลวกนก มองดูโสมภาพร้อมน้ำตากลบหน้าและไหลตามแก้ม

“ไม่น่าเลยเนอะ คุณนายฟองแข ดูสิโสมภาคงจะตรอมใจตายตามไป” เปลวบ่นพึมพำ

“เปลว หญิงว่าน่าสงสารคุณโสมมากๆเลยเนอะ”

“ใช่ๆ หญิงยอ เปลวสงสารโสมภาจัง”

ทุกคนเข้ามาในงานศพ บางคนแต่งกายด้วยชุดดำบ้าง ชุดขาวบ้าง งานศพของฟองแขจัดแค่ สองคืน แล้ววันที่สามวันเผาศพ โสมภาไม่คุยกับใครเลย เอาแต่พร่ำเพ้อหามารดา เพราะคิดถึง

“โสมอย่าร้องไห้สิ” ศักดิ์ชายปลอบใจอีกฝ่าย

“พี่ภา”

โสมมองดูร่างมารดาที่ถูกเผา โสมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เหมือนขาดใจตาย ศักดิ์ชายคอยอยู่ข้างๆน้องสาว

 

หลับให้สบายนะ ฟองแข R.I.P’

x (x)
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา