สามเกลอ...รอรัก Fic เปลวกนก,หญิงยอ,โสมภา
เขียนโดย ณัฐพล
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 22.14 น.
แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561 15.30 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) เปิดฉากด้วยความรักปิดฉากด้วยน้ำตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่ ภูมาส่งหญิงยอถึงหน้าบ้าน หญิงยอกำลังจะก้าวเข้ามาในบ้าน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเข้ามาในบ้าน เสียงของปลื้ม เอะอะต่อล้อต่อเถียงกับ หม่อมเจ้าเกียรติก้อง เรื่อง เปลวกนกเป็นบุตรสาวอีกคนของตน หญิงยอแอบฟังและแล้ว ความจริงก็ย่อมคือความจริงอยู่ คนรับใช้ก็เดินเข้ามาในระยะใกล้กับที่หญิงยอยืนอยู่
“หญิงยอ มานานแล้วหรือคะ” สาวใช้ถาม
“ค่ะพึ่งมาเมื่อกี้นี้เองค่ะ ท่านพ่อคุยกับใครหรอ”
“จะใครซะอีกละ ปลื้มแม่ของเปลวกนกนะสิ มาอ้างว่าเปลวเป็นลูกของนังปลื้มกับท่านพ่อของหญิงยอไง” คนรับใช้บอก
“อะไรกัน ในที่สุดเราจะได้เป็นพี่น้องกันซะทีนะ เปลว” หญิงยอเอ่ยขึ้นในใจ
“อ้าวลูกหญิง มานานแล้วหรอลูก” หม่อมเยาวลักษณ์ถามอีกฝ่าย
“ค่ะแม่” เจ้าหล่อนตอบ พร้อมโผกอดเข้าหามารดาของตน
“เอ๊ นั่นเสียงใคร” หม่อมเยาวลักษณ์เอ่ยขึ้น
จึงรีบวิ่งเข้าไปข้างใน เห็นนังปลื้มกำลังเถียงกับหม่อมเจ้าเกียรติก้องอยู่
“นี่แม่ปลื้มนี่ มันเรื่องอะไร ถึงไปทะเลาะกับท่านชายเกียรติก้องละ” หม่อมเยาวลักษณ์เอ่ยถามอีกฝ่าย
“นี่มันเรื่องของฉัน ไม่ใช่เรื่องของแก ท่านชายเพคะ หม่อมฉันจะบอกความจริง ว่า นังเปลวคือลูกของใคร จริงๆ แล้วนังเปลวไม่ใช่ลูกของฉันกับฟู่ แต่เป็นลูกของหม่อมฉันกับ ท่านชายเกียรติก้อง เพคะ”
หม่อมเยาวลักษณ์ได้ยินดังนั้นถึงกับไม่แคร์ในสายตา
“เยาวลักษณ์ เยาวลักษณ์ หญิงยอ พาแม่ไปที่ห้องนอนที” ท่านชายเกียรติก้องบอก
หญิงยอรีบพยุงเยาวลักษณ์ไปที่ห้องนอนโดยทันที
“นี่ นังปลื้ม เธอเอาเรื่องอะไรมาพูด มั่ว ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด” ท่านชายปฏิเสธ
“นี่คือความจริง สายเลือดของนังเปลว อีกครึ่งหนึ่งคือเลือดของหม่อมฉัน ส่วนอีกครึ่งคือเลือดผู้ดี”
“เธออย่าคิดนะว่า จะทำอะไรเปลวได้”
“อ๋อ นี่ต่อหน้า นังเยาวลักษณ์ กล้าปฏิเสธเชียวเหรอ พอลับหลังนะทำเป็นปกป้องนังเปลว งั้นหม่อมฉันทูลลาเพคะ”
ปลื้มเดินออกจากที่ตรงนั้น ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบกลับมาเป็นปกติ เปลวก็กำลังรอแม่ของตนเพื่อที่จะได้มาดูแลนายฟู่ซึ่งเป็นพ่อของตน
“แม่ ไปไหนมารู้ไหมพ่อ ไม่สบาย” เปลวถาม
“นังเปลว แม่มีอะไรจะบอกเอ็ง” ปลื้มบอก
“มีอะไรหรอจ๊ะแม่”
ปลื้มสูดลมหายใจแล้วตัดสินใจที่จะบอกความจริง
“คือ เอ็งไม่ใช่ลูกของนายฟู่ แต่เอ็งเป็นลูกข้า กับ ท่านชายเกียรติก้อง”
“อะไรนะแม่ ฉันเป็นลูกของ ท่านชายเกียรติก้องงั้นหรือ”
ปลื้มพยักหน้ารับ
“แสดงว่า ข้าเป็นพี่น้องกับหญิงยอนะสิ”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับ
“ดีใจจังเลย หญิงยอ เราเป็นพี่น้องกันจริงๆ ด้วย”
รุ่งเช้าของวันใหม่หม่อมเยาวลักษณ์เดินมาหน้าบ้าน ในขณะเดียวกันมีรถที่คุ้นตา มาจอดอยู่หน้าบ้านของท่านชายเกียร์ติก้อง ผู้ที่มาเยือนกำลังลงจากรถ หม่อมเยาวลักษณ์ ชายตามองไปที่บุคคลสำคัญ เขาไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือ เจ้าคำฟ้า มาหา
“เจ้าคำฟ้า มาหาฉันทำไม”
ผู้มาเยือนน้อมตัวลง
“ข้าก็มาหาเยาวลักษณ์ไง เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”
“สบายดีค่ะ แล้วว่าแต่เจ้าพึ่งกลับมาจากเชียงใหม่หรอ”
“ใช่ ข้าพึ่งกลับมาจากเชียงใหม่ ว่าแต่ทานข้าวหรือยังละ”
เจ้าคำฟ้าถามด้วยความเป็นห่วง
“ทานแล้วค่ะ เจ้าคำฟ้า คงจะเหนื่อยมากๆ แล้วมาหาหม่อมฉันทำไมหรอ”
เจ้าคำฟ้า เดินไปที่สนามหญ้าที่มีศาลาแล้วล้มตัวนั่งที่ม้านั่ง
“ข้าก็มาหาเพราะคิดถึงเยาวลักษณ์ไง เรารู้ว่า เยาวลักษณ์ไม่แคร์ใช่ไหม”
เยาวลักษณ์เสียใจกับเรื่องในอดีตที่เจ้าคำฟ้าว่าที่คู่หมั้นบอกเลิกตน ตนเลยอยู่ห่างๆ เจ้าคำฟ้า แต่ในใจจริงเจ้าคำฟ้ายังรักตน
“เจ้าคำฟ้า ไม่เคยใส่ใจเราเลย นี่เหรอคนเคยรักกัน อยู่ๆ มาบอกเลิกเรา”
เยาวลักษณ์ค้อนใส่เจ้าคำฟ้า
“เปล่านะเยาวลักษณ์ คือตอนนั้น พี่คิดว่าแอบรักฟองแข แต่พอมารู้ว่า ฟองแขไม่ได้รักพี่ เพราะฟองแข รักคุณชายยิ่งศักดิ์ เลยทำให้พี่เข้าใจว่า พี่ยังกลับมารักเยาวลักษณ์ไง”
เจ้าคำฟ้าอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง
“เจ้าคำฟ้า กลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวท่านชายเกียรติก้องมาตามดิฉัน”
เยาวลักษณ์ตวาดพร้อมกวักมือไล่ให้อีกฝ่ายไป
“ก็ได้ พี่ไปก่อนนะ”
เจ้าคำฟ้าหันหลังกลับขึ้นรถทันที ท่านชายเกียรติก้องก็เดินออกมา
“เยาวลักษณ์ คุยกับใครอยู่หรอ”
“เปล่านี่คะท่านชาย”
“จริงหรือ จริงสิ ว่าแต่ลูกหญิงละไปไหน”
ท่านชายเกียรติก้องถามหาบุตรสาวของตน
“หญิงยอ กำลังกินโอวัลติน ท่านชายมีอะไรกับลูกหรอ เดี๋ยวหม่อมฉันไปบอกให้”
“ไม่มีอะไร แค่อยากรู้นะว่า หญิงยอ นอนหรือยัง”
ท่านชายเกียรติก้องบอก แต่ใจลึกๆ เองเขาก็เป็นห่วงบุตรสาวคนนี้มากๆ
วันนี้หญิงยออยู่คนเดียวภายในห้องรับประทานอาหาร เจ้าหล่อนกำลังมองดูแก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ภายในแก้วใบนั้นมีโอวัลตินร้อนๆ อยู่ คนรับใช้เดินเข้ามา
“หญิงยอ ทำไมไม่ดื่มละ หรือว่ามีเรื่องไม่สบายใจหรอ”
คนรับใช้อายุ สี่สิบกว่าถามอีกฝ่าย
“เปล่านะป้า หญิงแค่คิดถึงเรื่อง คุณภู”
คนรับใช้ทำสีหน้าที่ยิ้มๆ
“หรือว่าหญิงยอ หึงคุณภูละ เห็นสนิทสนมกันมาแต่เด็ก”
“เปล่านี่คะ ป้าคะ เคยได้ยินเรื่องรักสามเศร้าไหมคะ”
หญิงยอถามสาวใช้
“เคยนะ แต่ป้าเองก็ไม่เคยเจอ แบบว่าคงเป็นเหมือนนางวันทองที่ไปเลือกสามีไม่ค่อยถูกเลยมั๊งว่าจะเลือกใครดี อันนี้ป้าเปรียบเทียบนะคุณหญิง”
หญิงยอ หยิบแก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะยกขึ้นมาดื่ม
“ป้า เป็นคนชงโอวัลตินหรอคะ”
“ป้าเห็นคุณหญิงชอบดื่มนี่เลย ชงมาให้คุณหญิงดื่ม”
คนรับใช้บอก พร้อมเอ่ยขอถอนตัว ก่อนที่จะเข้าไปในครัว
สักพักใหญ่ๆ เยาวลักษณ์ก็เดินเข้ามา เห็นหญิงยอทำสีหน้าเหมือนถอดสี
“หญิงยอ เป็นอะไรหรอลูก”
“คุณแม่ ยังไม่ง่วงหรอคะ” เจ้าหล่อนเอ่ยถาม
“ยังเลย พอดีท่านพ่อ เขาถามหา”
“ท่านพ่อถามหาหรอคุณแม่”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับ
หญิงยอยิ้มที่ท่านพ่อถามหา
หญิงยอดื่มโอวัลตินจนหมดแก้ว แล้วรีบวางแก้วบนโต๊ะ พร้อมกับรีบมาหาท่านพ่อ
“ท่านพ่อ มีอะไรจะคุยกับหญิงหรอเพคะ”
“เปล่านะลูก จริงสิ พ่อคิดว่า ต่อไปนี้ พ่อจะพาเปลวกนกย้ายมาอยู่บ้านเราด้วย ลูกจะว่ายังไงบ้างละ” ท่านชายเกียรติก้องถามอีกฝ่าย พร้อมแสดงความคิดเห็น
“ก็ดีนะคะท่านพ่อ เราสามคนจะได้มีอะไรก็จะปรึกษากัน”
“แต่พ่อไม่รู้นะว่า แม่ปลื้มจะตอบตกลงหรือไม่”
“ก็คงต้องตอบตกลงสิเพคะท่านพ่อ เปลวกนกก็เป็นพี่สาวของเรา ส่วนหญิงเป็นแค่น้องสาวเขานี่เพคะ”
หญิงยอดีใจ ส่วนหม่อมเยาวลักษณ์เห็นหญิงยอยิ้มได้ก็พลอยสบายใจ
วันรุ่งขึ้น ภูบดีก็ปั่นจักรยานมาดักรอ หญิงยอ แต่เช้าๆวันนี้เจ้าหล่อนยังไม่ออกมาเลย ภูบดีพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่พร้อมบ่น
“วันนี้หญิงยอทำไมยังไม่ออกมาอีกนะหรือว่า จะไปอยู่กับนายขี้เก๊กคนนั้น”
และแล้วหญิงยอก็เดินออกมา
“หญิงยอมาแล้ว” ภูบดีบอก
หญิงยอเดินมาถึงหน้าบ้าน ก่อนที่จะรู้ว่ามีใครอีกคนที่ดักรอเจ้าหล่อนอยู่
“อ้าว! คุณภู มารอหญิงยออยู่หรอคะ”
หญิงยอเอ่ย
“หญิงยอ ไปไหนมานึกว่าไปกับไอ้...”
“อ๋อ คุณภูนึกว่าหญิงยอไปกับคุณธนาใช่ไหมคะ”
หญิงยอเอ่ย
“ใช่ เราเองรู้สึกหมั่นไส้มัน ที่หญิงยอไปมองหามันในวันนั้น”
ภูบดี ทำสีหน้าเหมือนไม่พอใจ
“คุณภู วันนี้จะพาหญิงไปไหนหรอคะ”
หญิงยอถามอีกฝ่าย
“คิดว่า ไปสปอร์ต คลับนะไปเล่น กีฬา”
“ว่าแต่คุณภู ไปกับใครหรอคะ” หญิงยอถามอีกฝ่าย
“ไปถึงเดี๋ยวก็รู้”
ภูบดีปั่นจักรยานไปตามทาง จนมาถึง สปอร์ตคลับ จนไปพบกับ ภาคิไนย โสมภา
“อ้าว พี่ภา คุณโสม มานานหรือยังคะ” หญิงยอถามอีกฝ่าย
“มานานแล้วค่ะ เหลือแต่หญิงยอนี่แหล่ะที่ยังไม่มาถึง”
ชายหนุ่มอีกคนกำลังเดินมายังสองคนกำลังยืนอยู่ หญิงยอเอ่ยขึ้น
“อ้าว คุณธนา”
“สวัสดีครับ คุณหญิงยอ คุณโสม คุณภา และคุณ..”
ยังไม่ทันได้เอ่ย ภูบดี ถลึงตา ให้ธนา แต่ธนาเองก็พลันสบตาหญิงยอโดยทันที
“โสม แล้วพี่ชายเราวันนี้ไม่มาหรอ” ธนาถามอีกฝ่าย
“ไม่นี่คะ พี่ศักดิ์บอกว่า วันนี้ต้องดูแลแม่เพราะแม่ป่วยหนัก กลัวแม่ลุกขึ้นไม่ไหวเลยให้โสมมากับคุณภาแทน” โสมภาบอก
“หรอ หญิงยอครับ ผมว่าเราไปเล่นแบดมินตันกันนะครับ” ธนาชวน
“ค่ะ”
ภูบดีหึง ที่หญิงยอไปกับอีกฝ่าย
“นี่ ไอ้ภู ดูสิหญิงยอนี่คงจะถูกใจนายธนาละมั๊ง”
“ไม่มีทาง สักวันหญิงยอต้องเป็นของผม”
“เรื่องแบบนี้ก็ต้องให้เขาตัดสินใจสิ อย่าตัดสินใจแค่เราฝ่ายเดียว”
ภาคิไนย บอกให้แก่น้องชายของตน
“พี่ภาคะ โสมว่าเราไปดูหญิงยอเล่นกีฬากันไหมคะ” โสมภาชวนอีกฝ่าย
“ก็ดีสิจ๊ะ โสมที่รัก”
โสมภายิ้มแป้น ก่อนควงแขนภาคิไนยไป
ภูบดี ใจแข็งพร้อมเดินเข้าไปดู เห็นหญิงยอ เล่นกีฬากับธนา ตอนนี้เขาไม่ค่อยถูกชะตากับธนาเอาเสียเลย
“เหนื่อยมากไหมครับ หญิงยอ” ธนาถาม
“ค่ะ เหนื่อยมากแต่สนุก” อีกฝ่ายตอบ
“ไอ้ธนา” ภูบดีใช้กำปั้น ชกไปที่ใบหน้าของธนา
จนทั้งคู่กำลังจะมีเรื่องชกต่อยกัน เสียงร้องห้ามปรามของสองสาว ดัง แต่คนที่ทำให้ทั้งคู่หยุด คือ เสียงร้องห้ามของหญิงยอ
“คุณธนา เจ็บตรงไหนไหมคะ”
“ไม่เป็นอะไรมากครับ เจ็บนิดหน่อย”
“นี่หญิงยอ แทนที่จะห่วงเรา แต่ยังไปห่วงมัน มันมีดีอะไร” ภูบดีขึ้นเสียง
“คุณภู นั่นแหล่ะไม่เข้าใจ คุณธนาเขาเป็นคนดี ไม่เหมือนคุณภู เอะอะก็โวยวาย ขี้หึง ต่อไปนี้เราสองคนต่างคนต่างอยู่” หญิงยอปฏิเสธพร้อมพาธนาไปทำแผล
“เห็นไหม ไอ้ภู หญิงยอเขา..”
ภูบดีชักสีหน้าอารมณ์เสีย แล้วเดินหนีไปจากตรงนั้น พร้อมจับจักรยานปั่นออกไปจากตรงนั้น
“พี่ภาคะ ไอ้ภูมันคงอกหักแล้วละมั๊งคะ”
“เปล่าหรอ มันหึงและหวงหญิงยอต่างหากละ” ภาคิไนยบอก
เสียงสะอื้นของหญิงยอดังขึ้น โดยมีธนาคอยปลอบใจ
“หญิงยอ อย่าไปเสียใจเลยครับ ผู้ชายพันนั้น ขี้หึงไม่มีใครเอาหรอก”
“คุณธนา เคยผิดหวังด้วยหรอคะ”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ในชีวิตเขาไม่เคยมีผู้หญิงย่างก้าวเข้ามาเลย มีแต่ความล้มเหลว
“คุณธนา เจ็บตรงไหนไหมคะ มาเดี๋ยวหญิงยอทำแผลให้”
หญิงยอเสียใจ ตอนนี้ใบหน้าของเจ้าหล่อนน้ำตาอาบแก้ม
“คุณธนาคะ ขอโทษนะคะที่ คุณภูไปมีเรื่องชกต่อยกับคุณ” เจ้าหล่อนออกมาขอโทษ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เขาคงเข้าใจผิดว่าเรามีอะไรกัน”
“ชั่งมันเถอะค่ะ เขานะเป็นคนขี้หึง”
เจ้าหล่อนร่ำไห้ ธนาได้แต่เอาผ้าเช็ดหน้ามาคอยซับน้ำตา
“หยุดร้องสิ เข้มแข็งเข้าไว้นะหญิงยอ” ธนาบอก
“ค่ะ คุณธนา ว่าแต่คุณพ่อของคุณธนาไปไหนแล้วหรอคะ”
เจ้าหล่อนถามอีกฝ่าย
“พ่อของผมเสียแล้ว เสียไปตั้งแต่ผมยังเด็กได้แล้วมั๊ง เขาเลยทิ้งกิจการให้ผมคอยดูแล แต่ผมเองก็ทำอะไรไม่ค่อยประสบความสำเร็จเอาเสียเลย” ธนาบ่น
“หรอคะ น่าสงสารคุณธนาจังเลย ในชีวิตของหญิงยอนะ สบายมากๆ เงินทองก็พอมี พ่อก็อยู่ในวัง”
หญิงยอเล่าให้อีกฝ่ายฟัง
“อยู่ในวัง” ธนาเอ่ย
“ใช่ค่ะ หญิงยอเองก็ได้รู้จัก คุณภู มาตอนสมัยยังเด็กค่ะ คุณภูเป็นเพื่อนบ้านของหญิงยอ แล้วก็มีเปลวกนกด้วยนะคะ เป็นลูกของไพร่กับคุณพ่อ”
เจ้าหล่อนเล่าให้อีกฝ่ายฟัง ก่อนที่ธนาจะแทรกขึ้น
“แล้วแม่ของหญิงยอเป็นใครหรอ”
“แม่ของหญิงเป็นหม่อม แต่ก่อนเป็นคนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แม่เคยมีคู่หมั้นคือ เจ้าคำฟ้า มาจากเชียงใหม่ด้วยนะคะ” หญิงยอเล่าให้ฟัง
“จริงสิ คุณธนา หญิงยออยากกลับบ้านแล้ว ช่วยไปส่งหญิงยอนะคะ”
“ได้สิครับ หญิงยอ”
ตอนนี้เจ้าหล่อนวานให้ธนาไปส่งถึงวัง รถเมอร์ซิเดส เบ๊นซ์ สีบรอนด์เงิน ของธนาค่อยเคลื่อนออกจากที่สปอร์ตคลับไป ในระหว่างทาง รถจักรยานของภาที่ตอนนี้มีคนซ้อนท้ายคือโสมภา มองเป็นตาเดียว ด้วย
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ