สามเกลอ...รอรัก Fic เปลวกนก,หญิงยอ,โสมภา
7.0
เขียนโดย ณัฐพล
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 22.14 น.
13 ตอน
2 วิจารณ์
16.55K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561 15.30 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) คนแปลกหน้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ6ปีต่อมา หญิงยอกำลังยืนพร้อมเอาชุดตัวโปรดมาลองใส่ ในตอนนี้เจ้าหล่อนไม่ใช่เด็กอายุ ๑๗ อีกแล้ว แต่เจ้าหล่อน อายุ ๒๓ ปี เจ้าหล่อนโตเป็นสาวเสียแล้ว หญิงยอนั้นก็ลองใส่ชุดโน้น ใส่ชุดนี้ ใบหน้าของเจ้าหล่อนในตอนนี้ ดูมีความสุขมากๆ ราวกับว่า ชุดนี้คือชุดโปรด แล้วลองมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ ในขณะเดียวกัน เสียงรถยนต์ก็เคลื่อนเข้ามาจอดภายในวังศุภคุณ ก่อนที่รถคันนั้นจะดับเครื่อง คนรับใช้ก็กำลังเดินเข้ามาเพื่อต้อนรับผู้มาใหม่ เขาเปิดประตูรถฝั่งคนขับแล้วก้าวลงมาจากรถ นั่นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ หม่อมเจ้าเกียร์ติก้องนั่นเอง คนรับใช้ก็นำกระเป๋าไปเก็บ หญิงยอ ชะเง้อดูผู้ที่เดินลงมา จากหน้าต่างห้องนอน เจ้าหล่อนยิ้มแป้น ก่อนจะเอ่ย
“คุณพ่อ” หญิงยออุทาน
“คุณพ่อ กลับมาแล้วหรอคะ”
“ใช่ พ่อพึ่งกลับมาจาก งานเลี้ยงสังสรรค์นะ แต่ดื่มเหล้าแค่นิดหน่อยเอง พ่อไม่ดื่มเยอะหรอก”
ท่านชายเกียร์ติก้องเดินพร้อมมีหญิงยอคอยประคองไว้ เพื่อให้เข้าไปในวัง
“คุณพ่อคะ หญิงว่า คุณพ่อกลับไปนอนดีกว่านะคะ เดี๋ยวหญิงจะพาไปเอง”
หญิงยอ ประคองบิดาของเขาให้ขึ้นไปถึงห้องนอน พอมาถึงห้องนอนแล้วก็พาร่างของบิดามาไว้บนเตียงนอน พร้อมกับห่มผ้าห่มให้
“ฝันดีนะคะคุณพ่อ”
เสียงของอีกฝ่าย คางแบบไม่ได้สติ
“พ่อเมามาอีกเหรอลูกหญิง”
หม่อมเยาวลักษณ์ถามอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายได้แต่พยักหน้ารับแทนคำตอบ
“ลูกหญิง จะนอนหรือยังละลูก”
“ค่ะ หญิงจะไปนอนแล้วนะคะคุณแม่ งั้นฝันดีนะคะ”
หญิงยอกล่าวลาผู้เป็นมารดา พร้อมเข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่บ้านของ เปลวกนก วันนี้เจ้าหล่อนสวมชุด ผ้าลูกไม้ สีขาว นุ่งผ้าถุง กำลังเดินไปหาผักตำลึงอยู่บริเวณหนองน้ำ
“นั่นใครวะ ทำไมทำลับๆล่อๆ”
เปลวกนกเห็นท่าทีอีกคนดูแปลกๆ
“เอ็งจะไปไหนหา นังเปลว” เสียงเรียกของผู้เป็นมารดา
“แม่ ดูสินั่นใครก็ไม่รู้ มาทำลับๆ ล่อๆ มีพิรุธอันใดมิทราบอะแม่”
“เออ จริงของเอ็ง นั่นใครวะ”
แม่ปลื้มเดินเข้าไปดูว่าอีกฝ่ายคือใครแต่ก็บอกไปว่า
“เอ็งอย่าไปสนใจเขาหรอก ไปเก็บผักมาให้ข้าดีกว่า”
“แต่แม่อะ”
“หยุด นี่ข้าสั่งให้เอ็งไปเก็บผักมาต้องไปเก็บมาสิ ไป” ปลื้มร้องห้ามอีกฝ่าย
“จ๊ะแม่”
เปลวกนก เดินไปตามหนองน้ำ มีผักตำลึง โดยที่ไม่สนใจอีกฝ่าย
ณ บ้านของคุณนายฟองแข โสมภา กำลังทาลิปสติกสี แดง ฟองแขมองหน้าลูกสาวและคอยชื่นชมว่า
“วันนี้สวยจังเลยลูก”
“จริงหรอแม่ โสมว่า แม่ก็ดูไม่แพ้โสม แต่ตอนนี้แม่ดูโทรม”
โสมภาบอก ตอนนี้ฟองแขสุขภาพยิ่งแย่
“โสม ถ้าสมมติว่า แม่ตายไป โสมจะอยู่กับใคร ระหว่าง ศักดิ์ชายกับ พ่อ”
“แม่ ทำไมถึงถามแบบนี้”
โสมรั้งกับคำถาม
“โสมตอบแม่มาสิว่าจะเลือกอยู่กับใคร”
โสมอึ้งกับคำถามของฟองแข
“คงจะอยู่กับพี่ศักดิ์และพ่อละมั๊งแม่”
“โสม หายโกรธพ่อหรือยังละลูก” ฟองแขถาม
“ไอ้เรื่องนะมันก็หายแล้วนะแม่ แต่เคืองที่ ยัยเมียใหม่ของพ่อ คนอะไรมาแย่งของแม่ไป” โสมภาตอบ
“โสม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเด็ก แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่นะลูก”
ฟองแขบอก
สักพักต่อมา ศักดิ์ชายก็เดินเข้ามา
“แม่ โสม สองคนนี้คุยเรื่องอะไรอยู่หรอครับ” ศักดิ์ชายถามอีกฝ่าย
“อ๋อ คือ แม่ถามยัยโสมนะลูกว่า ถ้าแม่ตายไปโสมจะอยู่กับใคร”
“หรอครับแม่ ผมว่า โสมคงต้องเลือกอยู่กับผมและพ่อมั๊งครับแม่” ศักดิ์ชายบอก
“ว่าไงละลูก”
“ค่ะ โสมจะอยู่กับพ่อและพี่ศักดิ์” โสมภาตอบ
ศักดิ์ชายนั้นก็หยิบแก้วโอวัลตินมาดื่ม
“แล้วศักดิ์ละลูกวันนี้ไม่ไปเล่นกับ ตาภากับตาภูหรอลูก” ฟองแขถามอีกฝ่าย
“ไม่นะครับแม่ วันนี้ภาบอกว่าไปเรียนเสริมภาษาอังกฤษละมั๊งครับแม่”
โสมภาได้ยินดังนั้นก็คอยแอบยิ้มนิดๆ
“พี่ศักดิ์ งั้นโสมไปหาพี่ภาก่อนนะคะ”
โสมภาเดินออกจากบ้านไป ศักดิ์ชายก็ดื่มโอวัลตินจนหมดแก้ว ฟองแขก็ลองถามอีกฝ่าย
“ตาศักดิ์ ตอนนี้มีสาวๆ คนไหนมาพูดมาคุยหรือเปล่าละลูก”
“ก็ไม่นี่ครับแม่ คนโสดอย่างผมนะดีอยู่แล้วนี่ครับ” ศักดิ์ชายตอบ
“มันก็ดีอยู่หรอกนะ แม่ว่า แต่ยัยโสมนี่ ดูสิอยากได้สามีจนตัวสั่นเชียว”
“โธ่ แม่ครับ ผมเองก็ไม่รู้เลยนะว่า ยัยโสมมันได้เลือดอีกครึ่งมาจากใคร”
ศักดิ์ชายทีเล่นทีจริง เขามองไปที่รอบๆ บ้าน
“แม่ครับ แม่ไม่ไปหาหม่อมย่าหรอครับ”
ฟองแขนึกถึงเรื่องอดีต ที่หม่อมย่าเกลียดฟองแขอย่างมาก แต่หม่อมย่ารักโสมภาดังแก้วตาหวานใจของบ้าน
“ไม่นะลูก แม่ว่าอย่าดีกว่า”
“งั้นผมจะไปหาหม่อมย่านะครับแม่”
พอสิ้นเสียง ทุกอย่างก็เงียบลง รถแล่นพึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มสวมเสื้อกั๊ก ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณชายยิ่งศักดิ์ มาเดินเข้ามาถึงบ้านของฟองแข
“ศักดิ์ พ่อมารับแล้ว พ่อจะพาลูกไปหาหม่อมย่า”
“ครับพ่อ พ่ออย่าถามว่า ยัยโสมไปไหน เขาไม่อยู่หรอกครับพ่อ” ศักดิ์ชายบอก
“ไม่ไหวจริงๆ เลย ลูกคนนี้ เอะอะก็จะไปหาแต่พี่ภา”
ศักดิ์ชายหัวเราะอย่างชอบใจ
“ว่าแต่ ฟองแขไม่ไปหรอ”
“ไม่ไปหรอกคุณชาย ถ้าฉันไป คงจะดูไม่มีความสุขเลยเปล่าๆ” ฟองแขบอก
“เอาอย่างนั้นก็ได้ งั้นผมไปก่อนนะ ปะศักดิ์ชาย เราไปกัน”
“ครับพ่อ”
พอสิ้นเสียง รถที่มาหยุดอยู่หน้าบ้านก็สตาร์ทขึ้น แล้วรถคันนั้นก็แล่นไปตามทางถนนไป เปลวกนกพึ่งจะมาถึง
“อ้าวเปลว พึ่งมาถึงหรอ”
“ค่ะ คุณนาย เปลวพึ่งมาถึง เมื่อกี้นี้ คุณชายยิ่งศักดิ์มาใช่ไหมคะคุณนาย” เปลวถามอีกฝ่าย
“ใช่นะ คุณชายมารับตาศักดิ์ให้ไปหาหม่อมย่า แต่ฉันนะไม่ไปหรอกเพราะว่าหม่อมย่าเกลียดฉัน”
ฟองแขเล่าสาเหตุที่หม่อมย่าเกลียดตน
“แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว แต่นี่มันผ่านมานานหลายปีแล้วนี่คะ หม่อมย่าทำไมถึงเกลียดคุณนายมากขนาดนี้ละคะ”
“ก็ไม่รู้สินะ แต่คิดว่า ถึงแม้ว่าหม่อมย่าจะเกลียดฉันแต่ชาตินี้ฉันเองก็ยอม”
“ค่ะ คุณนาย ฉันเข้าใจดี”
“เปลว ถ้าหากฉันตาย อย่าลืมดูแลยัยโสมแทนฉันด้วยนะ” ฟองแขบอก
“ค่ะ คุณนาย”
เปลวยอมรับปากว่าจะดูแลโสมภา
ณ บ้านวรากร รถมินิคูเปอร์ สีเลือดหมู เคลื่อนเข้ามาจอดถึงหน้าบ้านเรือนทรงไทย ยิ่งศักดิ์เปิดประตูรถ ก้าวออกมานอกรถ หม่อมย่า ซึ่งในตอนนี้อายุก็ ประมาณเจ็ดสิบแปดสิบแล้ว ศักดิ์ชายเห็นก็พนมมือไหว้
“สวัสดีครับ หม่อมย่า”
“ตาศักดิ์หลานย่า สบายดีไหม ย่าคิดถึง”
“สบายดีครับย่า แล้วย่าละครับสบายดีไหม”
“ย่าสบายดี แล้วยัยโสมไม่มาหรอ” หม่อมย่าถามอีกฝ่าย
“ไม่นะครับหม่อมย่า หลานรักของย่า ไปหาผู้ชาย”
“?ตายจริง หลานรักของย่าทำไมไม่หัดเจียมตัวเลย เป็นสาวเป็นนาง ไปหาควงผู้ชาย”
หม่อมย่าสบถ
“หม่อมย่า วันนี้ผมจะมาดูแลและอยู่กับหม่อมย่านะครับ”
“ก็ดีนะตาศักดิ์ เห็นตาศักดิ์ที่ไรนึกถึง ท่านปู่เนอะ”
วันนี้เป็นวันครบรอบที่ท่านปู่ของศักดิ์ชายกับโสมภาจากไป สิบกว่าปี
“หม่อมย่าครับ วันนี้ผมว่าเราไปทำบุญให้ท่านปู่ดีกว่าไหมครับ”
หม่อมย่าก็นึกและลองคิดดู
“ก็ดีนะ ย่าว่า”
รถก็เคลื่อนออกจาก บ้านวรากร พร้อมเดินทางไป วัด
“เห็นไหมครับย่า เราเข้ามาในวัดรู้สึกสบายใจขึ้นไหมครับ”
“สบายใจขึ้นนะ คิดถึงท่านปู่เนอะ”
“ครับ” ศักดิ์ชายตอบ
“คุณย่าครับ ว่าแต่เราว่าเรากลับกันได้แล้วละมั๊งครับ”
“นั่นนะสินะ”
“คุณแม่ครับผมว่า ได้เวลากลับบ้านกันได้แล้วนะครับ” ยิ่งศักดิ์ชวนอีกฝ่าย
“ก็ได้ตายิ่งศักดิ์ ปะหลานกลับบ้านกัน”
“ครับคุณย่า”
ยิ่งศักดิ์เปิดประตูรถ ให้สองย่าหลานได้เข้าไปนั่งในรถ แล้วรีบขึ้นรถฝั่งคนขับแล้วเคลื่อนรถออกไปตามทางถนน ศักดิ์ชายมองบิดา แล้วก็ถามบิดา
“พ่อ คิดถึงแม่หรือเปล่าครับ”
“พ่อคิดถึงอยู่นะ แต่พ่อเสียใจที่แม่ทิ้งพ่อไป” ยิ่งศักดิ์บอก
“นี่ตายิ่ง จะไปรักมันทำไม ตอนนี้ลูกมีหญิงโฉมแล้วนะ ควรตัดใจได้แล้ว” หม่อมหยดบอก
“คุณแม่ครับ คนเรารักกัน ไม่มีอะไรมากีดกันได้ครับ”
“นี่ลูก มันมีดีอะไร มันก็แค่ ไพร่ สถุน หญิงโฉมมีเพียบพร้อมดีกว่ามันอีก” หม่อมหยดสบถ
คุณชายยิ่งศักดิ์ ทำสีหน้าดูไม่พอใจ ที่มารดาของตน จงเกลียดจงชังกับฟองแข
“นี่คุณแม่ครับ แม่จะไปเกลียดฟองแขทำไม เขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ส่วนเรานะครับแม่”
“นี่ตายิ่งศักดิ์ จำไว้ให้ดีๆ นะ มันกับเราอยู่คนละชั้นกัน”
หม่อมหยดขึ้นเสียง
และแล้วรถก็เคลื่อนเข้ามาถึงเรือนทรงไทย ของตระกูลวรากร หม่อมหยดชักสีหน้าที่ไม่ค่อยพึงพอใจแล้วมองมาที่ศักดิ์ชาย หลานชายของเขา
“นี่ตาศักดิ์ หลานย่า ย่าว่านี่มันมืดค่ำแล้ว ย่าว่าเรากลับบ้านก่อนก็ได้นะ”
หม่อมหยดสั่งหลานชายให้กลับบ้าน
ยิ่งศักดิ์ เคลื่อนรถออกจากบ้านหลังนั้นแล้วมุ่งหน้าสู่ บ้านเช่าของฟองแข
ในขณะเดียวกันฟองแข เองยังจดจำวันที่ หม่อมหยด เกลียดตนและไม่เคยใส่ใจเลย โสมภาเห็นฟองแขกำลังนั่งร้องไห้ จึงเอ่ยขึ้น
“แม่ เป็นอะไร ใครทำอะไรแม่หรอ”
“เปล่านะลูก แม่ไม่ได้เป็นอะไร” ฟองแขปฏิเสธ
“แม่ร้องไห้ แม่ยังมาโกหกหนูอีกเหรอคะ”
“หรือว่าเรื่องคุณย่าหรอคะ” โสมภาถาม
แต่อีกฝ่ายพยักหน้ารับ
“แล้วคุณย่าทำไมถึงต้องเกลียดคุณแม่หรอคะ หรือว่าความจน” โสมภาบ่น
“เปล่าหรอกลูกคุณย่า เขาไม่ยอมรับในสิ่งที่แม่เป็นต่างหากละลูก” ฟองแขบอก
ในขณะที่สองแม่ลูกคุยกัน เสียงรถก็มาจอดอยู่หน้าบ้าน โสมภาเห็นจนชินตา
“แม่คะ พ่อมาแล้ว” โสมภาดีใจมากๆ พร้อมทำสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
อีกฝ่ายลงจากรถมาด้วยความเร่งรีบ
“ฟองแข ทำไมร้องไห้ละ” คุณชายยิ่งศักดิ์ถามอีกฝ่าย
“คุณพ่อ พี่ศักดิ์ แม่ร้องไห้เพราะคุณย่าเกลียดแม่ แม่ไม่ดีตรงไหนหรอคะ” โสมภาย้อน
“พ่อก็ไม่รู้สิ ฟองแข อย่าร้องไห้เลยนะ พี่นะยังรักฟองแขอยู่นะ”
“คำก็รัก สองคำก็รัก คุณชายไม่ถามฉันเลยว่ารักหรือเปล่า” ฟองแขบอก พร้อมน้ำตาอาบแก้ม
“แล้วฟองแขรักพี่ไหม”
“ฟองแขตัดใจในเมื่อ ที่คุณชายยังรักกับหญิงโฉมสำอาง”
ฟองแขบอกพร้อมลูบหัวโสมภา
“ฟองแข คือว่าไม่ใช่แบบนั้นนะ หญิงโฉมสำอางเขาก็แค่ทำตามที่แม่สั่ง แม่เราคือต้นเหตุของเรื่องนี้เลยนะ เรายังรักเธออยู่นะ” คุณชายยิ่งศักดิ์ตอบ
“คุณชาย ฉันว่าคุณชายกลับบ้านไปก่อนเถอะ เราสามแม่ลูกเราอยู่ด้วยกันได้”
ฟองแขไล่อีกฝ่ายให้กลับไป ตอนนี้เหลือแต่ โสมภา ศักดิ์ชายและ ฟองแข อยู่กันเพียงลำพัง ส่วนคุณชายยิ่งศักดิ์ก็เคลื่อนรถออกจากที่นั่นโดยทันที ค่ำวันนี้ โสมภาจัดแจงอาหารไว้ให้มารดาได้ทาน
“แม่คะ มาทานอาหารเย็นกันได้แล้วนะคะ”
“แม่ไม่หิวหรอกลูก” ฟองแขบอก
“ถ้าแม่ไม่กิน ร่างกายก็จะทรุดหนักกว่าเดิมนะคะแม่” โสมภาถามด้วยความเป็นห่วง
“แม่คะ งั้นโสมจะ จัดแจงอาหารตั้งไว้แบบนี้นะคะ”
“แม่ครับ แม่ต้องกินข้าวนะครับ ผมเป็นห่วงแม่” ศักดิ์ชายบอก
“ก็ได้จ๊ะลูก ตาศักดิ์ ยัยโสม ถ้าสักวันหนึ่งแม่ไม่อยู่แล้ว ลูกต้องเป็นเด็กดีนะลูก”
“ครับ/ค่ะแม่” ทั้งสองพูดพร้อมกัน
แล้วทั้งสามคนก็ทานข้าวด้วยกัน และพร้อมเข้านอน คืนนั้นเป็นคืนที่เงียบสงัดของวันหนึ่งที่กำลังจะผ่านไป
เช้าวันรุ่งขึ้น เปลวกนก ในชุด กระโปรงที่ดูสวยงาม เจ้าหล่อนอยากลองเปลี่ยน ตัวเองให้ดูใหม่ ทาลิปสติกสีแดง
“นังเปลว เอ็งทำไร” เสียงดุของปลื้ม
“แม่ นี่แม่ไม่รู้หรอจ๊ะว่า ฉันกำลังแต่งตัวไปในทางที่ดี”
“หรือว่าเอ็งไปหาผู้ชายละหือ ว่าไงละ”
“เปล่านี่จ๊ะแม่ แค่อยากแต่งตัวให้ดูดีหน่อยนะแม่” เปลวกนกบอก
“จริงหรือ”
“จริงสิจ๊ะแม่ งั้นเปลวไปก่อนนะแม่”
เปลวสั่งลาอีกฝ่าย
โสมภา กับศักดิ์ชาย ชวนหญิงยอ ไปที่ สปอร์ตคลับ พร้อมด้วย ภูบดี ภาคินัย เพื่อที่จะมาเล่นแบดมินตันด้วยกัน
“สนุกจังเลยเนอะพี่ศักดิ์” โสมภาถามอีกฝ่าย
“ใช่นะยัยโสม สนุกจริงๆ ว่าไงครับคุณภา”
“ก็สนุกนะ ผมว่า” ภาคินัยเสริม
“พี่ศักดิ์ คนนั้นใครหรอ ที่ยืนอยู่นั่นนะ” โสมภาถาม
“อ๋อ เพื่อนพี่เอง เขาชื่อธนา นะ” ศักดิ์ชายตอบ
“แล้วเขาเป็นใครหรอคะ” หญิงยอถามด้วยความสงสัย
“เขาเป็นลูกเจ้าของร้าน ยุทธนา พานิชย์ไง”
“ว้าว ร้านนี้จำไม่ผิดว่า เจ๊งไปแล้วนี่” หญิงยอบอก
“ใครว่าละครับ ร้านนี้แค่ปิดตัวลง เพราะไม่ค่อยประสบความสำเร็จไง งั้นพี่ไปทักทายกับมันก่อนนะ”
ศักดิ์ชายสาวเท้าเดินไปยัง ที่ชายหนุ่มกำลังยืนอยู่
“สวัสดีครับ ธนา”
“อ้าว ไอ้ศักดิ์ เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม ไม่ได้เจอกันนานเลย” ธนาถาม
“ก็สบายดี แล้วนายมาเล่นกีฬาหรอ”
แต่อีกฝ่ายได้แต่พยักหน้ารับ
“แล้วว่าแต่แกมากับใครหรอ” ธนาถามอีกฝ่าย
“อ๋อ มากับ น้องสาวของเราและเพื่อนๆที่รู้จักกันนะเดี๋ยวฉันจะแนะนำทีละคนนะ นี่คือ หญิงยอ นี่โสมภาน้องสาวเราเอง นี่คุณภา หรือ ภาคินัย ส่วนนี่คือ”
“ผมชื่อภู หรือ ภูบดีครับคุณชื่ออะไรนะ” ภูเสริม
“ผมชื่อธนาครับ ยินดีที่ได้รู้จักกัน”
สายตาของภูดูหึงหวง และกลัวว่า ธนาจะมาจีบหญิงยอ
“ศักดิ์ งั้นเราขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”
“เออได้ เดี๋ยวเจอกันนะ”
ศักดิ์ชายบอกพร้อมยกมือขึ้น
“งั้น หญิงขอตัวไปหาอะไรมาทานก่อนนะคะ” หญิงยอขอตัว
“ผมไปด้วย” ภูบดีเสริม
“นี่คุณภู ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ”
“จะไปเข้าห้องน้ำหรือจะไปเอาน้ำมาให้คุณธนาอะไรนั่น” ภูบดีย้อน
หญิงยอชักสีหน้าโกรธจัด จนไม่พูดกับภูบดี
“ไอ้ภู แกนี่มันไม่รู้ใจผู้หญิงเลย เห็นไหมละ ไปทำอะไรให้ หญิงยอโกรธละ” ภาคินัยบอก
“พี่ภา ผมไม่รู้เลยนะพี่ว่า หญิงยอเขาไปห้องน้ำหรือไปหาไอ้ธนานั่น”
“นี่ หญิงยอเขาคงเข้าไปห้องน้ำนั่นแหล่ะมั๊ง พี่ว่า” ภาคินัยบอก
“งั้นผมขอตัวนะพี่”
ศักดิ์ชาย มองดูน้องสาวของตน ตอนนี้โสมภา ดูออกจะไม่รู้หัวใจของตนเองเสียแล้ว
“นี่ยัยโสม ทำไมเงียบไปละ” ศักดิ์ชายถามน้องสาวของตน
“คือว่า ไม่รู้หัวใจเลยนะพี่ศักดิ์ ว่าตอนนี้เรายังรักพี่ภาหรือเปล่า”
“หรือว่า จะเลือกทั้งสองคนหรอน้องสาวเรา”
“บ้านะ พี่ศักดิ์เอาอะไรมาพูด”
ศักดิ์ชายแซวน้องสาวของตน พร้อมเดินจากไป ภาคินัย ก็เดินตรงมาหา โสมภา
“โสม เห็นศักดิ์ชายบ้างไหม” ภาคินัยถามถึงอีกฝ่าย
“เห็นนะพี่ภา พี่ศักดิ์เขาเดินไปทางโน้น มีอะไรหรอคะพี่ภา”
“คือว่า พี่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับมันหน่อยนะ ว่าแต่โสมยังไม่กลับหรอ” ภาคินัยถาม
“โสมจะกลับกับพี่ภา คุณภาและ พี่ศักดิ์ค่ะ” โสมตอบ
“หรอ งั้นก็ดีนะ แล้ว อีกสักพักพี่กะว่าจะกลับบ้านนะ” ภาคินัยบอก
ในขณะที่กำลังคุย ศักดิ์ชายเดินมาเห็นภาคินัยกำลังคุยกับน้องสาวของตน
“อ้าว คุณภา มาตามหาผมอยู่หรอครับ เห็นคุยกันเมื่อกี้นี้”
“ใช่นะ ว่าแต่เราไปไหนมาหรอ” ภาคินัยถามอีกฝ่าย
“อ๋อ พอดีไปเอาน้ำมาให้คุณภาและทุกๆคนนะ ว่าแต่ได้ยินแว่วๆ ว่าใครจะกลับนะ” ศักดิ์ชายถาม
“ก็จะใครซะอีกละ พวกเรานี่แหล่ะ จะพากันกลับบ้าน เพราะเล่นกันมาเหนื่อยๆ แล้วละ”
“แล้วจะกลับกันยังไงครับ คุณภา”
“จริงสิ พวกเรามีรถจักรยานหรือไม่ก็ยืมรถพ่อของเราละมั๊ง ผมว่า เรากลับกันทั้งห้าคนนี่แหล่ะครับ” ภูบดีเสนอความคิดเห็น
“ถ้างั้นก็ดีสินะครับ ปะเรากลับกันได้”
ทั้งห้าคนเดินพร้อมจับจักรยานเพื่อที่จะปั่น ภูซ้อนท้ายหญิงยอ ส่วนภาคินัยซ้อนท้ายโสมภาส่วนศักดิ์ชายนั้น ยืมจักรยานมาจากของเพื่อนที่รู้จักกันอีกที แล้วก็มุ่งหน้าสู่บ้านของตน
“คุณพ่อ” หญิงยออุทาน
“คุณพ่อ กลับมาแล้วหรอคะ”
“ใช่ พ่อพึ่งกลับมาจาก งานเลี้ยงสังสรรค์นะ แต่ดื่มเหล้าแค่นิดหน่อยเอง พ่อไม่ดื่มเยอะหรอก”
ท่านชายเกียร์ติก้องเดินพร้อมมีหญิงยอคอยประคองไว้ เพื่อให้เข้าไปในวัง
“คุณพ่อคะ หญิงว่า คุณพ่อกลับไปนอนดีกว่านะคะ เดี๋ยวหญิงจะพาไปเอง”
หญิงยอ ประคองบิดาของเขาให้ขึ้นไปถึงห้องนอน พอมาถึงห้องนอนแล้วก็พาร่างของบิดามาไว้บนเตียงนอน พร้อมกับห่มผ้าห่มให้
“ฝันดีนะคะคุณพ่อ”
เสียงของอีกฝ่าย คางแบบไม่ได้สติ
“พ่อเมามาอีกเหรอลูกหญิง”
หม่อมเยาวลักษณ์ถามอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายได้แต่พยักหน้ารับแทนคำตอบ
“ลูกหญิง จะนอนหรือยังละลูก”
“ค่ะ หญิงจะไปนอนแล้วนะคะคุณแม่ งั้นฝันดีนะคะ”
หญิงยอกล่าวลาผู้เป็นมารดา พร้อมเข้านอน
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่บ้านของ เปลวกนก วันนี้เจ้าหล่อนสวมชุด ผ้าลูกไม้ สีขาว นุ่งผ้าถุง กำลังเดินไปหาผักตำลึงอยู่บริเวณหนองน้ำ
“นั่นใครวะ ทำไมทำลับๆล่อๆ”
เปลวกนกเห็นท่าทีอีกคนดูแปลกๆ
“เอ็งจะไปไหนหา นังเปลว” เสียงเรียกของผู้เป็นมารดา
“แม่ ดูสินั่นใครก็ไม่รู้ มาทำลับๆ ล่อๆ มีพิรุธอันใดมิทราบอะแม่”
“เออ จริงของเอ็ง นั่นใครวะ”
แม่ปลื้มเดินเข้าไปดูว่าอีกฝ่ายคือใครแต่ก็บอกไปว่า
“เอ็งอย่าไปสนใจเขาหรอก ไปเก็บผักมาให้ข้าดีกว่า”
“แต่แม่อะ”
“หยุด นี่ข้าสั่งให้เอ็งไปเก็บผักมาต้องไปเก็บมาสิ ไป” ปลื้มร้องห้ามอีกฝ่าย
“จ๊ะแม่”
เปลวกนก เดินไปตามหนองน้ำ มีผักตำลึง โดยที่ไม่สนใจอีกฝ่าย
ณ บ้านของคุณนายฟองแข โสมภา กำลังทาลิปสติกสี แดง ฟองแขมองหน้าลูกสาวและคอยชื่นชมว่า
“วันนี้สวยจังเลยลูก”
“จริงหรอแม่ โสมว่า แม่ก็ดูไม่แพ้โสม แต่ตอนนี้แม่ดูโทรม”
โสมภาบอก ตอนนี้ฟองแขสุขภาพยิ่งแย่
“โสม ถ้าสมมติว่า แม่ตายไป โสมจะอยู่กับใคร ระหว่าง ศักดิ์ชายกับ พ่อ”
“แม่ ทำไมถึงถามแบบนี้”
โสมรั้งกับคำถาม
“โสมตอบแม่มาสิว่าจะเลือกอยู่กับใคร”
โสมอึ้งกับคำถามของฟองแข
“คงจะอยู่กับพี่ศักดิ์และพ่อละมั๊งแม่”
“โสม หายโกรธพ่อหรือยังละลูก” ฟองแขถาม
“ไอ้เรื่องนะมันก็หายแล้วนะแม่ แต่เคืองที่ ยัยเมียใหม่ของพ่อ คนอะไรมาแย่งของแม่ไป” โสมภาตอบ
“โสม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเด็ก แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่นะลูก”
ฟองแขบอก
สักพักต่อมา ศักดิ์ชายก็เดินเข้ามา
“แม่ โสม สองคนนี้คุยเรื่องอะไรอยู่หรอครับ” ศักดิ์ชายถามอีกฝ่าย
“อ๋อ คือ แม่ถามยัยโสมนะลูกว่า ถ้าแม่ตายไปโสมจะอยู่กับใคร”
“หรอครับแม่ ผมว่า โสมคงต้องเลือกอยู่กับผมและพ่อมั๊งครับแม่” ศักดิ์ชายบอก
“ว่าไงละลูก”
“ค่ะ โสมจะอยู่กับพ่อและพี่ศักดิ์” โสมภาตอบ
ศักดิ์ชายนั้นก็หยิบแก้วโอวัลตินมาดื่ม
“แล้วศักดิ์ละลูกวันนี้ไม่ไปเล่นกับ ตาภากับตาภูหรอลูก” ฟองแขถามอีกฝ่าย
“ไม่นะครับแม่ วันนี้ภาบอกว่าไปเรียนเสริมภาษาอังกฤษละมั๊งครับแม่”
โสมภาได้ยินดังนั้นก็คอยแอบยิ้มนิดๆ
“พี่ศักดิ์ งั้นโสมไปหาพี่ภาก่อนนะคะ”
โสมภาเดินออกจากบ้านไป ศักดิ์ชายก็ดื่มโอวัลตินจนหมดแก้ว ฟองแขก็ลองถามอีกฝ่าย
“ตาศักดิ์ ตอนนี้มีสาวๆ คนไหนมาพูดมาคุยหรือเปล่าละลูก”
“ก็ไม่นี่ครับแม่ คนโสดอย่างผมนะดีอยู่แล้วนี่ครับ” ศักดิ์ชายตอบ
“มันก็ดีอยู่หรอกนะ แม่ว่า แต่ยัยโสมนี่ ดูสิอยากได้สามีจนตัวสั่นเชียว”
“โธ่ แม่ครับ ผมเองก็ไม่รู้เลยนะว่า ยัยโสมมันได้เลือดอีกครึ่งมาจากใคร”
ศักดิ์ชายทีเล่นทีจริง เขามองไปที่รอบๆ บ้าน
“แม่ครับ แม่ไม่ไปหาหม่อมย่าหรอครับ”
ฟองแขนึกถึงเรื่องอดีต ที่หม่อมย่าเกลียดฟองแขอย่างมาก แต่หม่อมย่ารักโสมภาดังแก้วตาหวานใจของบ้าน
“ไม่นะลูก แม่ว่าอย่าดีกว่า”
“งั้นผมจะไปหาหม่อมย่านะครับแม่”
พอสิ้นเสียง ทุกอย่างก็เงียบลง รถแล่นพึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มสวมเสื้อกั๊ก ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณชายยิ่งศักดิ์ มาเดินเข้ามาถึงบ้านของฟองแข
“ศักดิ์ พ่อมารับแล้ว พ่อจะพาลูกไปหาหม่อมย่า”
“ครับพ่อ พ่ออย่าถามว่า ยัยโสมไปไหน เขาไม่อยู่หรอกครับพ่อ” ศักดิ์ชายบอก
“ไม่ไหวจริงๆ เลย ลูกคนนี้ เอะอะก็จะไปหาแต่พี่ภา”
ศักดิ์ชายหัวเราะอย่างชอบใจ
“ว่าแต่ ฟองแขไม่ไปหรอ”
“ไม่ไปหรอกคุณชาย ถ้าฉันไป คงจะดูไม่มีความสุขเลยเปล่าๆ” ฟองแขบอก
“เอาอย่างนั้นก็ได้ งั้นผมไปก่อนนะ ปะศักดิ์ชาย เราไปกัน”
“ครับพ่อ”
พอสิ้นเสียง รถที่มาหยุดอยู่หน้าบ้านก็สตาร์ทขึ้น แล้วรถคันนั้นก็แล่นไปตามทางถนนไป เปลวกนกพึ่งจะมาถึง
“อ้าวเปลว พึ่งมาถึงหรอ”
“ค่ะ คุณนาย เปลวพึ่งมาถึง เมื่อกี้นี้ คุณชายยิ่งศักดิ์มาใช่ไหมคะคุณนาย” เปลวถามอีกฝ่าย
“ใช่นะ คุณชายมารับตาศักดิ์ให้ไปหาหม่อมย่า แต่ฉันนะไม่ไปหรอกเพราะว่าหม่อมย่าเกลียดฉัน”
ฟองแขเล่าสาเหตุที่หม่อมย่าเกลียดตน
“แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว แต่นี่มันผ่านมานานหลายปีแล้วนี่คะ หม่อมย่าทำไมถึงเกลียดคุณนายมากขนาดนี้ละคะ”
“ก็ไม่รู้สินะ แต่คิดว่า ถึงแม้ว่าหม่อมย่าจะเกลียดฉันแต่ชาตินี้ฉันเองก็ยอม”
“ค่ะ คุณนาย ฉันเข้าใจดี”
“เปลว ถ้าหากฉันตาย อย่าลืมดูแลยัยโสมแทนฉันด้วยนะ” ฟองแขบอก
“ค่ะ คุณนาย”
เปลวยอมรับปากว่าจะดูแลโสมภา
ณ บ้านวรากร รถมินิคูเปอร์ สีเลือดหมู เคลื่อนเข้ามาจอดถึงหน้าบ้านเรือนทรงไทย ยิ่งศักดิ์เปิดประตูรถ ก้าวออกมานอกรถ หม่อมย่า ซึ่งในตอนนี้อายุก็ ประมาณเจ็ดสิบแปดสิบแล้ว ศักดิ์ชายเห็นก็พนมมือไหว้
“สวัสดีครับ หม่อมย่า”
“ตาศักดิ์หลานย่า สบายดีไหม ย่าคิดถึง”
“สบายดีครับย่า แล้วย่าละครับสบายดีไหม”
“ย่าสบายดี แล้วยัยโสมไม่มาหรอ” หม่อมย่าถามอีกฝ่าย
“ไม่นะครับหม่อมย่า หลานรักของย่า ไปหาผู้ชาย”
“?ตายจริง หลานรักของย่าทำไมไม่หัดเจียมตัวเลย เป็นสาวเป็นนาง ไปหาควงผู้ชาย”
หม่อมย่าสบถ
“หม่อมย่า วันนี้ผมจะมาดูแลและอยู่กับหม่อมย่านะครับ”
“ก็ดีนะตาศักดิ์ เห็นตาศักดิ์ที่ไรนึกถึง ท่านปู่เนอะ”
วันนี้เป็นวันครบรอบที่ท่านปู่ของศักดิ์ชายกับโสมภาจากไป สิบกว่าปี
“หม่อมย่าครับ วันนี้ผมว่าเราไปทำบุญให้ท่านปู่ดีกว่าไหมครับ”
หม่อมย่าก็นึกและลองคิดดู
“ก็ดีนะ ย่าว่า”
รถก็เคลื่อนออกจาก บ้านวรากร พร้อมเดินทางไป วัด
“เห็นไหมครับย่า เราเข้ามาในวัดรู้สึกสบายใจขึ้นไหมครับ”
“สบายใจขึ้นนะ คิดถึงท่านปู่เนอะ”
“ครับ” ศักดิ์ชายตอบ
“คุณย่าครับ ว่าแต่เราว่าเรากลับกันได้แล้วละมั๊งครับ”
“นั่นนะสินะ”
“คุณแม่ครับผมว่า ได้เวลากลับบ้านกันได้แล้วนะครับ” ยิ่งศักดิ์ชวนอีกฝ่าย
“ก็ได้ตายิ่งศักดิ์ ปะหลานกลับบ้านกัน”
“ครับคุณย่า”
ยิ่งศักดิ์เปิดประตูรถ ให้สองย่าหลานได้เข้าไปนั่งในรถ แล้วรีบขึ้นรถฝั่งคนขับแล้วเคลื่อนรถออกไปตามทางถนน ศักดิ์ชายมองบิดา แล้วก็ถามบิดา
“พ่อ คิดถึงแม่หรือเปล่าครับ”
“พ่อคิดถึงอยู่นะ แต่พ่อเสียใจที่แม่ทิ้งพ่อไป” ยิ่งศักดิ์บอก
“นี่ตายิ่ง จะไปรักมันทำไม ตอนนี้ลูกมีหญิงโฉมแล้วนะ ควรตัดใจได้แล้ว” หม่อมหยดบอก
“คุณแม่ครับ คนเรารักกัน ไม่มีอะไรมากีดกันได้ครับ”
“นี่ลูก มันมีดีอะไร มันก็แค่ ไพร่ สถุน หญิงโฉมมีเพียบพร้อมดีกว่ามันอีก” หม่อมหยดสบถ
คุณชายยิ่งศักดิ์ ทำสีหน้าดูไม่พอใจ ที่มารดาของตน จงเกลียดจงชังกับฟองแข
“นี่คุณแม่ครับ แม่จะไปเกลียดฟองแขทำไม เขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ส่วนเรานะครับแม่”
“นี่ตายิ่งศักดิ์ จำไว้ให้ดีๆ นะ มันกับเราอยู่คนละชั้นกัน”
หม่อมหยดขึ้นเสียง
และแล้วรถก็เคลื่อนเข้ามาถึงเรือนทรงไทย ของตระกูลวรากร หม่อมหยดชักสีหน้าที่ไม่ค่อยพึงพอใจแล้วมองมาที่ศักดิ์ชาย หลานชายของเขา
“นี่ตาศักดิ์ หลานย่า ย่าว่านี่มันมืดค่ำแล้ว ย่าว่าเรากลับบ้านก่อนก็ได้นะ”
หม่อมหยดสั่งหลานชายให้กลับบ้าน
ยิ่งศักดิ์ เคลื่อนรถออกจากบ้านหลังนั้นแล้วมุ่งหน้าสู่ บ้านเช่าของฟองแข
ในขณะเดียวกันฟองแข เองยังจดจำวันที่ หม่อมหยด เกลียดตนและไม่เคยใส่ใจเลย โสมภาเห็นฟองแขกำลังนั่งร้องไห้ จึงเอ่ยขึ้น
“แม่ เป็นอะไร ใครทำอะไรแม่หรอ”
“เปล่านะลูก แม่ไม่ได้เป็นอะไร” ฟองแขปฏิเสธ
“แม่ร้องไห้ แม่ยังมาโกหกหนูอีกเหรอคะ”
“หรือว่าเรื่องคุณย่าหรอคะ” โสมภาถาม
แต่อีกฝ่ายพยักหน้ารับ
“แล้วคุณย่าทำไมถึงต้องเกลียดคุณแม่หรอคะ หรือว่าความจน” โสมภาบ่น
“เปล่าหรอกลูกคุณย่า เขาไม่ยอมรับในสิ่งที่แม่เป็นต่างหากละลูก” ฟองแขบอก
ในขณะที่สองแม่ลูกคุยกัน เสียงรถก็มาจอดอยู่หน้าบ้าน โสมภาเห็นจนชินตา
“แม่คะ พ่อมาแล้ว” โสมภาดีใจมากๆ พร้อมทำสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
อีกฝ่ายลงจากรถมาด้วยความเร่งรีบ
“ฟองแข ทำไมร้องไห้ละ” คุณชายยิ่งศักดิ์ถามอีกฝ่าย
“คุณพ่อ พี่ศักดิ์ แม่ร้องไห้เพราะคุณย่าเกลียดแม่ แม่ไม่ดีตรงไหนหรอคะ” โสมภาย้อน
“พ่อก็ไม่รู้สิ ฟองแข อย่าร้องไห้เลยนะ พี่นะยังรักฟองแขอยู่นะ”
“คำก็รัก สองคำก็รัก คุณชายไม่ถามฉันเลยว่ารักหรือเปล่า” ฟองแขบอก พร้อมน้ำตาอาบแก้ม
“แล้วฟองแขรักพี่ไหม”
“ฟองแขตัดใจในเมื่อ ที่คุณชายยังรักกับหญิงโฉมสำอาง”
ฟองแขบอกพร้อมลูบหัวโสมภา
“ฟองแข คือว่าไม่ใช่แบบนั้นนะ หญิงโฉมสำอางเขาก็แค่ทำตามที่แม่สั่ง แม่เราคือต้นเหตุของเรื่องนี้เลยนะ เรายังรักเธออยู่นะ” คุณชายยิ่งศักดิ์ตอบ
“คุณชาย ฉันว่าคุณชายกลับบ้านไปก่อนเถอะ เราสามแม่ลูกเราอยู่ด้วยกันได้”
ฟองแขไล่อีกฝ่ายให้กลับไป ตอนนี้เหลือแต่ โสมภา ศักดิ์ชายและ ฟองแข อยู่กันเพียงลำพัง ส่วนคุณชายยิ่งศักดิ์ก็เคลื่อนรถออกจากที่นั่นโดยทันที ค่ำวันนี้ โสมภาจัดแจงอาหารไว้ให้มารดาได้ทาน
“แม่คะ มาทานอาหารเย็นกันได้แล้วนะคะ”
“แม่ไม่หิวหรอกลูก” ฟองแขบอก
“ถ้าแม่ไม่กิน ร่างกายก็จะทรุดหนักกว่าเดิมนะคะแม่” โสมภาถามด้วยความเป็นห่วง
“แม่คะ งั้นโสมจะ จัดแจงอาหารตั้งไว้แบบนี้นะคะ”
“แม่ครับ แม่ต้องกินข้าวนะครับ ผมเป็นห่วงแม่” ศักดิ์ชายบอก
“ก็ได้จ๊ะลูก ตาศักดิ์ ยัยโสม ถ้าสักวันหนึ่งแม่ไม่อยู่แล้ว ลูกต้องเป็นเด็กดีนะลูก”
“ครับ/ค่ะแม่” ทั้งสองพูดพร้อมกัน
แล้วทั้งสามคนก็ทานข้าวด้วยกัน และพร้อมเข้านอน คืนนั้นเป็นคืนที่เงียบสงัดของวันหนึ่งที่กำลังจะผ่านไป
เช้าวันรุ่งขึ้น เปลวกนก ในชุด กระโปรงที่ดูสวยงาม เจ้าหล่อนอยากลองเปลี่ยน ตัวเองให้ดูใหม่ ทาลิปสติกสีแดง
“นังเปลว เอ็งทำไร” เสียงดุของปลื้ม
“แม่ นี่แม่ไม่รู้หรอจ๊ะว่า ฉันกำลังแต่งตัวไปในทางที่ดี”
“หรือว่าเอ็งไปหาผู้ชายละหือ ว่าไงละ”
“เปล่านี่จ๊ะแม่ แค่อยากแต่งตัวให้ดูดีหน่อยนะแม่” เปลวกนกบอก
“จริงหรือ”
“จริงสิจ๊ะแม่ งั้นเปลวไปก่อนนะแม่”
เปลวสั่งลาอีกฝ่าย
โสมภา กับศักดิ์ชาย ชวนหญิงยอ ไปที่ สปอร์ตคลับ พร้อมด้วย ภูบดี ภาคินัย เพื่อที่จะมาเล่นแบดมินตันด้วยกัน
“สนุกจังเลยเนอะพี่ศักดิ์” โสมภาถามอีกฝ่าย
“ใช่นะยัยโสม สนุกจริงๆ ว่าไงครับคุณภา”
“ก็สนุกนะ ผมว่า” ภาคินัยเสริม
“พี่ศักดิ์ คนนั้นใครหรอ ที่ยืนอยู่นั่นนะ” โสมภาถาม
“อ๋อ เพื่อนพี่เอง เขาชื่อธนา นะ” ศักดิ์ชายตอบ
“แล้วเขาเป็นใครหรอคะ” หญิงยอถามด้วยความสงสัย
“เขาเป็นลูกเจ้าของร้าน ยุทธนา พานิชย์ไง”
“ว้าว ร้านนี้จำไม่ผิดว่า เจ๊งไปแล้วนี่” หญิงยอบอก
“ใครว่าละครับ ร้านนี้แค่ปิดตัวลง เพราะไม่ค่อยประสบความสำเร็จไง งั้นพี่ไปทักทายกับมันก่อนนะ”
ศักดิ์ชายสาวเท้าเดินไปยัง ที่ชายหนุ่มกำลังยืนอยู่
“สวัสดีครับ ธนา”
“อ้าว ไอ้ศักดิ์ เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม ไม่ได้เจอกันนานเลย” ธนาถาม
“ก็สบายดี แล้วนายมาเล่นกีฬาหรอ”
แต่อีกฝ่ายได้แต่พยักหน้ารับ
“แล้วว่าแต่แกมากับใครหรอ” ธนาถามอีกฝ่าย
“อ๋อ มากับ น้องสาวของเราและเพื่อนๆที่รู้จักกันนะเดี๋ยวฉันจะแนะนำทีละคนนะ นี่คือ หญิงยอ นี่โสมภาน้องสาวเราเอง นี่คุณภา หรือ ภาคินัย ส่วนนี่คือ”
“ผมชื่อภู หรือ ภูบดีครับคุณชื่ออะไรนะ” ภูเสริม
“ผมชื่อธนาครับ ยินดีที่ได้รู้จักกัน”
สายตาของภูดูหึงหวง และกลัวว่า ธนาจะมาจีบหญิงยอ
“ศักดิ์ งั้นเราขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”
“เออได้ เดี๋ยวเจอกันนะ”
ศักดิ์ชายบอกพร้อมยกมือขึ้น
“งั้น หญิงขอตัวไปหาอะไรมาทานก่อนนะคะ” หญิงยอขอตัว
“ผมไปด้วย” ภูบดีเสริม
“นี่คุณภู ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ”
“จะไปเข้าห้องน้ำหรือจะไปเอาน้ำมาให้คุณธนาอะไรนั่น” ภูบดีย้อน
หญิงยอชักสีหน้าโกรธจัด จนไม่พูดกับภูบดี
“ไอ้ภู แกนี่มันไม่รู้ใจผู้หญิงเลย เห็นไหมละ ไปทำอะไรให้ หญิงยอโกรธละ” ภาคินัยบอก
“พี่ภา ผมไม่รู้เลยนะพี่ว่า หญิงยอเขาไปห้องน้ำหรือไปหาไอ้ธนานั่น”
“นี่ หญิงยอเขาคงเข้าไปห้องน้ำนั่นแหล่ะมั๊ง พี่ว่า” ภาคินัยบอก
“งั้นผมขอตัวนะพี่”
ศักดิ์ชาย มองดูน้องสาวของตน ตอนนี้โสมภา ดูออกจะไม่รู้หัวใจของตนเองเสียแล้ว
“นี่ยัยโสม ทำไมเงียบไปละ” ศักดิ์ชายถามน้องสาวของตน
“คือว่า ไม่รู้หัวใจเลยนะพี่ศักดิ์ ว่าตอนนี้เรายังรักพี่ภาหรือเปล่า”
“หรือว่า จะเลือกทั้งสองคนหรอน้องสาวเรา”
“บ้านะ พี่ศักดิ์เอาอะไรมาพูด”
ศักดิ์ชายแซวน้องสาวของตน พร้อมเดินจากไป ภาคินัย ก็เดินตรงมาหา โสมภา
“โสม เห็นศักดิ์ชายบ้างไหม” ภาคินัยถามถึงอีกฝ่าย
“เห็นนะพี่ภา พี่ศักดิ์เขาเดินไปทางโน้น มีอะไรหรอคะพี่ภา”
“คือว่า พี่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับมันหน่อยนะ ว่าแต่โสมยังไม่กลับหรอ” ภาคินัยถาม
“โสมจะกลับกับพี่ภา คุณภาและ พี่ศักดิ์ค่ะ” โสมตอบ
“หรอ งั้นก็ดีนะ แล้ว อีกสักพักพี่กะว่าจะกลับบ้านนะ” ภาคินัยบอก
ในขณะที่กำลังคุย ศักดิ์ชายเดินมาเห็นภาคินัยกำลังคุยกับน้องสาวของตน
“อ้าว คุณภา มาตามหาผมอยู่หรอครับ เห็นคุยกันเมื่อกี้นี้”
“ใช่นะ ว่าแต่เราไปไหนมาหรอ” ภาคินัยถามอีกฝ่าย
“อ๋อ พอดีไปเอาน้ำมาให้คุณภาและทุกๆคนนะ ว่าแต่ได้ยินแว่วๆ ว่าใครจะกลับนะ” ศักดิ์ชายถาม
“ก็จะใครซะอีกละ พวกเรานี่แหล่ะ จะพากันกลับบ้าน เพราะเล่นกันมาเหนื่อยๆ แล้วละ”
“แล้วจะกลับกันยังไงครับ คุณภา”
“จริงสิ พวกเรามีรถจักรยานหรือไม่ก็ยืมรถพ่อของเราละมั๊ง ผมว่า เรากลับกันทั้งห้าคนนี่แหล่ะครับ” ภูบดีเสนอความคิดเห็น
“ถ้างั้นก็ดีสินะครับ ปะเรากลับกันได้”
ทั้งห้าคนเดินพร้อมจับจักรยานเพื่อที่จะปั่น ภูซ้อนท้ายหญิงยอ ส่วนภาคินัยซ้อนท้ายโสมภาส่วนศักดิ์ชายนั้น ยืมจักรยานมาจากของเพื่อนที่รู้จักกันอีกที แล้วก็มุ่งหน้าสู่บ้านของตน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ