(Inuyasha Fanfiction) Forever Love Sesshomaru&Rin
8.5
เขียนโดย MomijiNI
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.38 น.
16 ตอน
6 วิจารณ์
36.43K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2560 00.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) ความรู้สึกของริน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เวลาช่วงหัวค่ำ เป็นเวลาที่ถือว่าเหมาะเจาะที่มาถึงงาน ทางเดินที่ประดับโคมไฟไว้ นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังช่วยให้งานดูสว่างไสวน่าเที่ยวชม เส็ตโชมารูได้แต่เดินตามรินที่ดูจะตื่นเต้นที่ได้มา ร้านค้ามากมายหลายร้าน ซุ้มการละเล่นเล็กๆ ที่ตั้งวางเรียงทอดยาวเข้าไปในงาน เป็นเสมือนสิ่งแปลกใหม่สำหรับริน เพราะสาวน้อยแทบจะเดินเข้ามันทุกร้าน ทุกซุ้ม จนอสูรหนุ่มที่ว่าเร็วแล้ว ก็ยังเร็วไม่ทันเธอ เพราะจำนวนผู้คนมากมายที่เบียดเสียดกันในงาน แต่เขาเองก็ไม่ได้มีทีท่าหงุดหงิดอะไร เพราะพอรินได้มาที่นี่ แววตา รอยยิ้ม ความสดใส ทุกอย่าง..ที่ดูเป็นตัวของตัวเอง แบบที่เขาเองก็เพิ่งเคยได้สัมผัสจากเธอเป็นครั้งแรก เสน่ห์ของสาวน้อยทำให้แม้แต่ความเหน็ดเหนื่อยก็หายไปทันที
ช่วงเวลาที่ยาวนานผ่านล่วงเลยไป ทั้งคู่เดินออกจากงานมาพร้อมกับของเล็กน้อยๆ ที่รินซื้อออกมาจากงาน เส็ตโชมารูเองก็เดินออกมาที่ดูท่าจะเหนื่อยเล็กน้อย จนสาวน้อยเห็นสีหน้าแล้วก็อดถามไม่ได้
“รินทำให้ท่านเส็ตโชมารูเหนื่อยรึเปล่าคะ?” รินก้มหน้าพลางพูดเสียงเบา
“ข้าไม่ได้เหนื่อยอะไร” เสียงตอบที่อ่อนโยนนั้นหวังแต่ไม่ให้คนข้างๆ ต้องกังวล แต่ก็คงจะไม่เป็นเช่นนั้น
“ทั้งๆ ที่รินก็รู้ว่าท่านไม่ชอบงานเช่นนี้ แต่รินก็ยังชวนท่านมา รินขอโทษนะคะ”
“ข้าอยากมากับเจ้าเอง เจ้าไม่ผิดหรอก วันนี้ข้าเองก็ดีใจ...ที่ได้ไปงานกับเจ้า” คำตอบที่แสนอ่อนโยนนั้นทำให้สาวน้อยยิ้มไม่หุบ ก่อนจะกลับไปสนใจของที่ตนซื้อมาดังเดิม เส็ตโชมารูเห็นเช่นนั้นก็เบาใจ ที่สาวน้อยไม่ต้องมากังวลเรื่องของเขา
ถึงความจริงแล้วมันจะเหนื่อยก็จริง ไม่ใช่เพราะริน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มมากหน้าหลายตาภายในงานนั้น พยายามจะเกี้ยวรินอยู่ตลอดเวลา เขาเลยต้องกลายเป็นองครักษ์จำเป็นให้รินไปโดยปริยาย พอขวางคนนั้นที อีกคนก็เข้ามา จนเขาไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากขวางคนพวกนี้ตลอดทั้งงาน แต่ดีที่สาวน้อยไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัว นอกจากร้านค้ากับการละเล่นเล็กๆ ภายในงาน ไม่เช่นนั้นงานคงหมดสนุกเลยทีเดียว
เมื่อเดินมาได้ซักพักก็มาถึงป่าที่อะอุนนอนหลับอยู่ เมื่อมันได้กลิ่นของทั้งสองมันก็ลุกขึ้นทันที รินเองเมื่อเห็นอะอุนลุกแล้วก็รีบนั่งบนหลังอะอุน ราวกับกลัวว่าใครจะมาแย่งเธอนั่ง เส็ตโชมารูเองก็จะขึ้นนั่งอะอุนเช่นกัน แต่แล้วสาวน้อยก็รีบเอ่ยคำออกมาก่อน
“ท่า..ท่านเส็ตโชมารูจะทำอะไรคะ?”
“จะพาเจ้ากลับหมู่บ้าน” เมื่อรินได้ยินคำนั้นก็รู้สึกใจแป้วขึ้นมาทันที เพราะไม่รู้ว่านับจากวันนี้ไปเธอจะได้เจอกับอสูรหนุ่มตรงหน้านี้อีกทีเมื่อไหร่ หรืออาจจะไม่ได้เจอกันอีกเหมือนที่ผ่านมา ยิ่งคิดยิ่งทำให้เธอร้อนรน จนต้องหาอะไรยื้อเวลาออกไป อีกซักหน่อยก็ยังดี
“เอ่อ...รินว่า...เราเดินไปดีไหมคะ?”
“มันไกล ข้าว่าเหาะไป…”
“นะคะ…” รินพยายามออดอ้อนสุดชีวิต จนสุดท้ายอสูรหนุ่มก็ใจอ่อน เพราะไม่อยากปฏิเสธสายตาที่เว้าวอนของเธอ ก่อนจะเดินนำหน้าไปจูงอะอุน ในขณะที่รินนั่งอยู่บนตัวของมัน แล้วเดินออกจากตรงนั้นไปเพื่อกลับหมู่บ้าน
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างอสูรหนุ่มและสาวน้อย ถึงแม้ตัวเส็ตโชมารูเองจะชอบความเงียบ แต่พออยู่กับรินแล้ว เขาเองก็ไม่ชอบที่จะให้มันเงียบเกินไป เพราะมันไม่ต่างอะไรกับเขาอยู่คนเดียว เขาเองก็ไม่ค่อยจะชอบพูดซะด้วย เลยลองพยายามหาคำพูดชักชวนรินดู เผื่อเธอจะมีเรื่องอะไรอยากพูดกับเขาบ้าง
“เจ้า...ไม่มีอะไรจะเล่าให้ข้าฟังบ้างรึ?” อสูรหนุ่มพูดโดยไม่ได้หันมาหาสาวน้อยแต่อย่างใด
“เอ่อ...คือรินกลัวท่านจะรำคาญน่ะค่ะ”
“เล่ามาเถอะ ข้าอยากฟัง” เขาหันมาหารินเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
เสียงเจื้อยแจ้วที่ไม่ได้น่ารำคาญ แต่ทว่าชวนน่าฟัง เรื่องราวต่างๆ ของสาวน้อย ถูกเล่าออกมาจากปากของเธอเอง บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เส็ตโชมารูเองก็พอจะจำได้ เพราะมันถูกบันทึกอยู่ในจดหมายที่เขาได้รับ แต่บางเรื่องก็เหมือนจะเป็นเรื่องใหม่ ที่รินเองก็อาจจะไม่ได้เขียนเล่าให้เขาฟังทั้งหมด แต่ซักพักเสียงเจื้อยแจ้วนั้นก็ค่อยๆ เบาลง จนสุดท้ายก็กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง จนอสูรหนุ่มต้องหันกลับไปมองทันที ภาพที่เห็นคือ...รินฟุบหลับอยู่บนหลังอะอุน ทำให้เขาต้องลดความเร็วในการเดิน เพื่อไม่ให้สาวน้อยตกลงจากหลังอะอุนไปเสียก่อน เส็ตโชมารูเปลี่ยนเส้นทางทันทีที่เห็นเช่นนั้น คืนนี้คงต้องหาที่พักในป่าเสียก่อนแล้ว แต่ขณะที่เดินหาที่พักอยู่นั้น
แปะ! แปะ!! แปะ!!!
“ฝน…” รินเอ่ยขึ้นด้วยเสียงงัวเงีย
“ริน เจ้าตื่นแล้วรึ?”
“รินยังหลับไม่ค่อยสนิทน่ะค่ะ” รินพูดพลางขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาคลุมอยู่บนหัวของเธอ เมื่อภาพข้างหน้าเริ่มชัดเจน ก็พบว่าเส็ตโชมารูเอากิโมโนชั้นนอกสีดำที่เขาสวมอยู่ มาคลุมกันฝนให้เธอ ก่อนจะเดินกลับไปจูงอะอุนดังเดิม เธอเองก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะดูอีกฝ่ายจะรีบร้อนหาที่หลบฝน ซึ่งมันก็เริ่มจะตกแรงขึ้นเรื่อยๆ
ซักพักเขาก็เดินมาเจอถ้ำกลางป่า ที่พอจะเป็นที่กำบังสายฝนในคืนนี้ให้เขาและสาวน้อยได้บ้าง เขารีบตรงเข้าไปในถ้ำที่อยู่ไม่ไกลนั้นทันที เมื่อมาถึงเส็ตโชมารูก็นั่งทรุดลงด้านในใกล้กับปากถ้ำ พิษไข้เริ่มมีอาการหนักขึ้นกว่าตอนแรก อาการหายใจหอบ รวมทั้งร่างกายที่ตอนนี้ร้อนผ่าวนั้น ทำให้เขารู้สึกหนาวขึ้นมาเล็กน้อย อาจจะเพราะตอนนี้ตัวเขาเองเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนก็เป็นได้
รินเองที่ดูท่าทีว่าอสูรหนุ่มหน้าตาซีดเซียวกว่าตอนแรกมาก ก็พยายามเดินลึกเข้าไปในถ้ำ เพื่อจะหาอะไรมาก่อไฟให้อสูรหนุ่ม แต่ทว่านี่ก็ไม่ใช่ถ้ำที่ลึกอะไรมาก มีแต่เพียงก้อนกรวดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เธอจึงเดินกลับมานั่งพิงผนังถ้ำ ฝั่งเดียวกับที่อสูรหนุ่มนั่งอยู่ โดยเว้นระยะห่างระหว่างกันเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มถามอย่างเป็นห่วง
“ท่านเส็ตโชมารูหน้าซีดมากเลย ท่านเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ?”
“ไม่เป็นไร เจ้าน่ะ ไปนอนพักได้แล้ว”
รินย้ายที่นั่งจากข้างๆ มาเป็นข้างหน้าของอสูรหนุ่ม และเว้นระยะห่างตามเดิม
“รินจะเฝ้าท่านแบบนี้แหละค่ะ!” รินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“หึ! จะฝืนก็ตามใจเจ้า” เขาพูดเสียงเบา แต่ซักพักเขาก็หันไปมองสาวน้อยตรงหน้า
“จริงๆ ที่ข้ามาหาเจ้า ไม่ใช่แค่จะไปงานกับเจ้าหรอกนะริน แต่ข้าน่ะมีเรื่องที่จะต้องบอกเจ้า”
“เอ๊ะ?!”
“ข้าน่ะ..กำลังจะ...แต่งงาน…” เขายิ้มออกมาบางๆ อย่างมีความสุขที่ได้พูด แต่สำหรับรินแล้ว เป็นคำพูดที่ไม่ได้ทำให้เธอยิ้มออกเลยซักนิด
“...” เหมือนมีลูกธนูเข้าไปปักทะลุอยู่กลางหัวใจของริน เมื่อได้ยินคำที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา
“เรื่องน่ายินดีแบบนี้ แต่ทำไม?! นี่มันอะไรกัน? ความรู้สึกแบบนี้ ไม่เคยรู้สึก ไม่เคยเลย… เจ็บจัง เจ็บมาก เหมือนหัวใจ...กำลังจะ...สลาย อย่างนั้นแหละ นี่รึเปล่าที่เรียกว่า..รัก เพราะรักรึเปล่า ข้าจึงได้เป็นเช่นนี้…”
เธอเงียบไปซักครู่ แล้วครุ่นคิดบางอย่าง รินก้มหน้าเล็กน้อย ราวกับไม่อยากให้อสูรหนุ่มตรงหน้าล่วงรู้ความในใจของเธอ พลางคิดไปอีกว่าไม่น่าเปลี่ยนที่นั่งมาตรงนี้เสียเลย แต่จะให้กลับไปนั่งที่เดิมก็จะดูแปลกไปอีก รินรู้สึกอึดอัดและสับสนไปหมด จนบัดนี้ความรู้สึกเหล่านั้นก็ถูกกลั่นเป็นน้ำตา แต่เธอก็พยายามกลั้นไม่ให้มันไหลลงมาให้อสูรหนุ่มตรงหน้ารู้สึกแปลกใจ
“ริน เป็นอะไรรึ ริน?” เส็ตโชมารูเอื้อมมือมาจับไหล่รินแล้วเขย่าเบาๆ เพื่อให้สาวน้อยรู้สึกตัว เพราะเห็นเธอเงียบไป
“ป..เปล่าค่าา..รินแค่คิดว่าเจ้าสาวของท่านจะต้องเป็นสตรีที่งดงามมากเป็นแน่ เพราะท่านเองก็เป็นบุรุษที่รูปงามถึงเพียงนี้น่ะค่ะ...” รินพยายามเผชิญหน้ากับอสูรหนุ่มอีกครั้ง พร้อมส่งยิ้มหลังพูดจบเหมือนอย่างเคย
“งั้นรึ?” อสูรหนุ่มพูดด้วยเสียงที่แหบแห้ง
“รินดีใจด้วยจริงๆ นะคะ ที่ท่านจะได้มีครอบครัว มีคนรักที่ท่านรัก แล้วก็รักท่าน...ไว้..รินจะทำของขวัญวันแต่งงานของท่านฝากอะอุนไป เหมือนทุกทีนะคะ” รินพูดแล้วยิ้มแต่ดูฝืนกว่าตอนแรกเล็กน้อย
“เจ้าจะไม่ไป..งานแต่งงาน...ของ..ข้างั้นรึ?” น้ำเสียงที่เริ่มหอบเล็กน้อย ทำให้รินเริ่มรู้สึกไม่ดี
“ท่านเส็ตโชมารูคะ รินว่า…” รินที่คิดว่าจะถามอาการ แต่ก็ถูกขัดขึ้นด้วยคำพูดของอสูรหนุ่ม
“ข้าอยาก..ให้...เจ้าไปนะ...ไป..เป็น…” ยังไม่จบคำพูด ใบหน้าของอสูรหนุ่มก็ล้มฟุบลงไปบนไหล่ของรินเสียก่อน
รินเบิกตากว้างเพราะตกใจที่อสูรหนุ่มสลบไป เธอเรียกชื่อและเขย่าตัวอยู่นานแต่ก็ไม่เป็นผล ร่างกายของอสูรหนุ่มนั้นร้อนขึ้นเรื่อยๆ เธอถอดกิโมโนของเขาที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนออกอย่างเบามือ เพราะเป็นห่วงว่าเขาจะปอดบวม เมื่อถอดออก ก็พบบาดแผลมากมายตามร่างกาย ซึ่งบางรอยมันยังไม่สมานดีเสียด้วยซ้ำ ทำให้รู้ทันทีถึงสาเหตุที่เขาหน้าซีดอยู่ตลอดเวลาที่อยู่กับเธอ รินจับร่างของอสูรหนุ่มพิงไว้กับพนังถ้ำ แล้วเดินไปหาอะอุนที่อยู่ใกล้ๆ กัน
เพราะนึกได้ว่าบนคอของมันน่าจะมีบางอย่างที่เธอต้องการอยู่
ห่อผ้าถูกแกะออกมาจากคอของอะอุน เธอเปิดออกดูก็พบสิ่งที่เธอต้องการนั่นคือ กิโมโนชั้นนอกของอสูรหนุ่มที่มีสีและลวดลายที่เธอคุ้นเคย ผ้าคาดเอวสีเหลืองที่มีลวดลายสีน้ำเงิน พร้อมกับเกราะที่เขาใส่เป็นประจำอยู่ในนั้น รินหยิบกิโมโนตัวนั้นไปใส่ให้อสูรหนุ่ม เผื่อว่าจะทำให้เขาอบอุ่นขึ้น แต่ขณะที่รินกำลังใส่กิโมโนให้นั้น เสียงพึมพำเบาๆ ของอสูรหนุ่มก็เอ่ยออกมา
“ห..หน..หนาว ..ข้า..หนาว…” เส็ตโชมารูที่ไร้สตินั้น โอบกอดสาวน้อยตรงหน้าไว้แน่น เพื่อบรรเทาความหนาวของเขา
“ท่านเส็ตโชมารู...ฮึกๆ ฮือๆ…” เสียงสะอื้นของรินในอ้อมกอดของเส็ตโชมารู อกแกร่งนั่นเปียกปอนไปด้วยน้ำตาของเธอ น้ำตาที่ถูกกลั้นไว้มานาน ในที่สุดก็ได้ระบายออกมา แข่งกับสายฝนที่ตกหนักอยู่นอกถ้ำ เธอรู้ดีว่าตอนนี้เส็ตโชมารูเองไม่มีสติพอที่จะรับรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้ หรือแม้กระทั่งกำลังกอดเธออยู่ รินไม่ได้ผละออกจากอสูรหนุ่มแต่อย่างใด ยังคงปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น อย่างน้อยเธอก็ขอได้อยู่แบบนี้..ได้ดูแลเขา ถึงแม้จะเป็น...ครั้งสุดท้ายก็ตาม
-------------------------------------------------
จบตอนที่ 5
ช่วงเวลาที่ยาวนานผ่านล่วงเลยไป ทั้งคู่เดินออกจากงานมาพร้อมกับของเล็กน้อยๆ ที่รินซื้อออกมาจากงาน เส็ตโชมารูเองก็เดินออกมาที่ดูท่าจะเหนื่อยเล็กน้อย จนสาวน้อยเห็นสีหน้าแล้วก็อดถามไม่ได้
“รินทำให้ท่านเส็ตโชมารูเหนื่อยรึเปล่าคะ?” รินก้มหน้าพลางพูดเสียงเบา
“ข้าไม่ได้เหนื่อยอะไร” เสียงตอบที่อ่อนโยนนั้นหวังแต่ไม่ให้คนข้างๆ ต้องกังวล แต่ก็คงจะไม่เป็นเช่นนั้น
“ทั้งๆ ที่รินก็รู้ว่าท่านไม่ชอบงานเช่นนี้ แต่รินก็ยังชวนท่านมา รินขอโทษนะคะ”
“ข้าอยากมากับเจ้าเอง เจ้าไม่ผิดหรอก วันนี้ข้าเองก็ดีใจ...ที่ได้ไปงานกับเจ้า” คำตอบที่แสนอ่อนโยนนั้นทำให้สาวน้อยยิ้มไม่หุบ ก่อนจะกลับไปสนใจของที่ตนซื้อมาดังเดิม เส็ตโชมารูเห็นเช่นนั้นก็เบาใจ ที่สาวน้อยไม่ต้องมากังวลเรื่องของเขา
ถึงความจริงแล้วมันจะเหนื่อยก็จริง ไม่ใช่เพราะริน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มมากหน้าหลายตาภายในงานนั้น พยายามจะเกี้ยวรินอยู่ตลอดเวลา เขาเลยต้องกลายเป็นองครักษ์จำเป็นให้รินไปโดยปริยาย พอขวางคนนั้นที อีกคนก็เข้ามา จนเขาไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากขวางคนพวกนี้ตลอดทั้งงาน แต่ดีที่สาวน้อยไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัว นอกจากร้านค้ากับการละเล่นเล็กๆ ภายในงาน ไม่เช่นนั้นงานคงหมดสนุกเลยทีเดียว
เมื่อเดินมาได้ซักพักก็มาถึงป่าที่อะอุนนอนหลับอยู่ เมื่อมันได้กลิ่นของทั้งสองมันก็ลุกขึ้นทันที รินเองเมื่อเห็นอะอุนลุกแล้วก็รีบนั่งบนหลังอะอุน ราวกับกลัวว่าใครจะมาแย่งเธอนั่ง เส็ตโชมารูเองก็จะขึ้นนั่งอะอุนเช่นกัน แต่แล้วสาวน้อยก็รีบเอ่ยคำออกมาก่อน
“ท่า..ท่านเส็ตโชมารูจะทำอะไรคะ?”
“จะพาเจ้ากลับหมู่บ้าน” เมื่อรินได้ยินคำนั้นก็รู้สึกใจแป้วขึ้นมาทันที เพราะไม่รู้ว่านับจากวันนี้ไปเธอจะได้เจอกับอสูรหนุ่มตรงหน้านี้อีกทีเมื่อไหร่ หรืออาจจะไม่ได้เจอกันอีกเหมือนที่ผ่านมา ยิ่งคิดยิ่งทำให้เธอร้อนรน จนต้องหาอะไรยื้อเวลาออกไป อีกซักหน่อยก็ยังดี
“เอ่อ...รินว่า...เราเดินไปดีไหมคะ?”
“มันไกล ข้าว่าเหาะไป…”
“นะคะ…” รินพยายามออดอ้อนสุดชีวิต จนสุดท้ายอสูรหนุ่มก็ใจอ่อน เพราะไม่อยากปฏิเสธสายตาที่เว้าวอนของเธอ ก่อนจะเดินนำหน้าไปจูงอะอุน ในขณะที่รินนั่งอยู่บนตัวของมัน แล้วเดินออกจากตรงนั้นไปเพื่อกลับหมู่บ้าน
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างอสูรหนุ่มและสาวน้อย ถึงแม้ตัวเส็ตโชมารูเองจะชอบความเงียบ แต่พออยู่กับรินแล้ว เขาเองก็ไม่ชอบที่จะให้มันเงียบเกินไป เพราะมันไม่ต่างอะไรกับเขาอยู่คนเดียว เขาเองก็ไม่ค่อยจะชอบพูดซะด้วย เลยลองพยายามหาคำพูดชักชวนรินดู เผื่อเธอจะมีเรื่องอะไรอยากพูดกับเขาบ้าง
“เจ้า...ไม่มีอะไรจะเล่าให้ข้าฟังบ้างรึ?” อสูรหนุ่มพูดโดยไม่ได้หันมาหาสาวน้อยแต่อย่างใด
“เอ่อ...คือรินกลัวท่านจะรำคาญน่ะค่ะ”
“เล่ามาเถอะ ข้าอยากฟัง” เขาหันมาหารินเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
เสียงเจื้อยแจ้วที่ไม่ได้น่ารำคาญ แต่ทว่าชวนน่าฟัง เรื่องราวต่างๆ ของสาวน้อย ถูกเล่าออกมาจากปากของเธอเอง บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เส็ตโชมารูเองก็พอจะจำได้ เพราะมันถูกบันทึกอยู่ในจดหมายที่เขาได้รับ แต่บางเรื่องก็เหมือนจะเป็นเรื่องใหม่ ที่รินเองก็อาจจะไม่ได้เขียนเล่าให้เขาฟังทั้งหมด แต่ซักพักเสียงเจื้อยแจ้วนั้นก็ค่อยๆ เบาลง จนสุดท้ายก็กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง จนอสูรหนุ่มต้องหันกลับไปมองทันที ภาพที่เห็นคือ...รินฟุบหลับอยู่บนหลังอะอุน ทำให้เขาต้องลดความเร็วในการเดิน เพื่อไม่ให้สาวน้อยตกลงจากหลังอะอุนไปเสียก่อน เส็ตโชมารูเปลี่ยนเส้นทางทันทีที่เห็นเช่นนั้น คืนนี้คงต้องหาที่พักในป่าเสียก่อนแล้ว แต่ขณะที่เดินหาที่พักอยู่นั้น
แปะ! แปะ!! แปะ!!!
“ฝน…” รินเอ่ยขึ้นด้วยเสียงงัวเงีย
“ริน เจ้าตื่นแล้วรึ?”
“รินยังหลับไม่ค่อยสนิทน่ะค่ะ” รินพูดพลางขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาคลุมอยู่บนหัวของเธอ เมื่อภาพข้างหน้าเริ่มชัดเจน ก็พบว่าเส็ตโชมารูเอากิโมโนชั้นนอกสีดำที่เขาสวมอยู่ มาคลุมกันฝนให้เธอ ก่อนจะเดินกลับไปจูงอะอุนดังเดิม เธอเองก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะดูอีกฝ่ายจะรีบร้อนหาที่หลบฝน ซึ่งมันก็เริ่มจะตกแรงขึ้นเรื่อยๆ
ซักพักเขาก็เดินมาเจอถ้ำกลางป่า ที่พอจะเป็นที่กำบังสายฝนในคืนนี้ให้เขาและสาวน้อยได้บ้าง เขารีบตรงเข้าไปในถ้ำที่อยู่ไม่ไกลนั้นทันที เมื่อมาถึงเส็ตโชมารูก็นั่งทรุดลงด้านในใกล้กับปากถ้ำ พิษไข้เริ่มมีอาการหนักขึ้นกว่าตอนแรก อาการหายใจหอบ รวมทั้งร่างกายที่ตอนนี้ร้อนผ่าวนั้น ทำให้เขารู้สึกหนาวขึ้นมาเล็กน้อย อาจจะเพราะตอนนี้ตัวเขาเองเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนก็เป็นได้
รินเองที่ดูท่าทีว่าอสูรหนุ่มหน้าตาซีดเซียวกว่าตอนแรกมาก ก็พยายามเดินลึกเข้าไปในถ้ำ เพื่อจะหาอะไรมาก่อไฟให้อสูรหนุ่ม แต่ทว่านี่ก็ไม่ใช่ถ้ำที่ลึกอะไรมาก มีแต่เพียงก้อนกรวดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เธอจึงเดินกลับมานั่งพิงผนังถ้ำ ฝั่งเดียวกับที่อสูรหนุ่มนั่งอยู่ โดยเว้นระยะห่างระหว่างกันเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มถามอย่างเป็นห่วง
“ท่านเส็ตโชมารูหน้าซีดมากเลย ท่านเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ?”
“ไม่เป็นไร เจ้าน่ะ ไปนอนพักได้แล้ว”
รินย้ายที่นั่งจากข้างๆ มาเป็นข้างหน้าของอสูรหนุ่ม และเว้นระยะห่างตามเดิม
“รินจะเฝ้าท่านแบบนี้แหละค่ะ!” รินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“หึ! จะฝืนก็ตามใจเจ้า” เขาพูดเสียงเบา แต่ซักพักเขาก็หันไปมองสาวน้อยตรงหน้า
“จริงๆ ที่ข้ามาหาเจ้า ไม่ใช่แค่จะไปงานกับเจ้าหรอกนะริน แต่ข้าน่ะมีเรื่องที่จะต้องบอกเจ้า”
“เอ๊ะ?!”
“ข้าน่ะ..กำลังจะ...แต่งงาน…” เขายิ้มออกมาบางๆ อย่างมีความสุขที่ได้พูด แต่สำหรับรินแล้ว เป็นคำพูดที่ไม่ได้ทำให้เธอยิ้มออกเลยซักนิด
“...” เหมือนมีลูกธนูเข้าไปปักทะลุอยู่กลางหัวใจของริน เมื่อได้ยินคำที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา
“เรื่องน่ายินดีแบบนี้ แต่ทำไม?! นี่มันอะไรกัน? ความรู้สึกแบบนี้ ไม่เคยรู้สึก ไม่เคยเลย… เจ็บจัง เจ็บมาก เหมือนหัวใจ...กำลังจะ...สลาย อย่างนั้นแหละ นี่รึเปล่าที่เรียกว่า..รัก เพราะรักรึเปล่า ข้าจึงได้เป็นเช่นนี้…”
เธอเงียบไปซักครู่ แล้วครุ่นคิดบางอย่าง รินก้มหน้าเล็กน้อย ราวกับไม่อยากให้อสูรหนุ่มตรงหน้าล่วงรู้ความในใจของเธอ พลางคิดไปอีกว่าไม่น่าเปลี่ยนที่นั่งมาตรงนี้เสียเลย แต่จะให้กลับไปนั่งที่เดิมก็จะดูแปลกไปอีก รินรู้สึกอึดอัดและสับสนไปหมด จนบัดนี้ความรู้สึกเหล่านั้นก็ถูกกลั่นเป็นน้ำตา แต่เธอก็พยายามกลั้นไม่ให้มันไหลลงมาให้อสูรหนุ่มตรงหน้ารู้สึกแปลกใจ
“ริน เป็นอะไรรึ ริน?” เส็ตโชมารูเอื้อมมือมาจับไหล่รินแล้วเขย่าเบาๆ เพื่อให้สาวน้อยรู้สึกตัว เพราะเห็นเธอเงียบไป
“ป..เปล่าค่าา..รินแค่คิดว่าเจ้าสาวของท่านจะต้องเป็นสตรีที่งดงามมากเป็นแน่ เพราะท่านเองก็เป็นบุรุษที่รูปงามถึงเพียงนี้น่ะค่ะ...” รินพยายามเผชิญหน้ากับอสูรหนุ่มอีกครั้ง พร้อมส่งยิ้มหลังพูดจบเหมือนอย่างเคย
“งั้นรึ?” อสูรหนุ่มพูดด้วยเสียงที่แหบแห้ง
“รินดีใจด้วยจริงๆ นะคะ ที่ท่านจะได้มีครอบครัว มีคนรักที่ท่านรัก แล้วก็รักท่าน...ไว้..รินจะทำของขวัญวันแต่งงานของท่านฝากอะอุนไป เหมือนทุกทีนะคะ” รินพูดแล้วยิ้มแต่ดูฝืนกว่าตอนแรกเล็กน้อย
“เจ้าจะไม่ไป..งานแต่งงาน...ของ..ข้างั้นรึ?” น้ำเสียงที่เริ่มหอบเล็กน้อย ทำให้รินเริ่มรู้สึกไม่ดี
“ท่านเส็ตโชมารูคะ รินว่า…” รินที่คิดว่าจะถามอาการ แต่ก็ถูกขัดขึ้นด้วยคำพูดของอสูรหนุ่ม
“ข้าอยาก..ให้...เจ้าไปนะ...ไป..เป็น…” ยังไม่จบคำพูด ใบหน้าของอสูรหนุ่มก็ล้มฟุบลงไปบนไหล่ของรินเสียก่อน
รินเบิกตากว้างเพราะตกใจที่อสูรหนุ่มสลบไป เธอเรียกชื่อและเขย่าตัวอยู่นานแต่ก็ไม่เป็นผล ร่างกายของอสูรหนุ่มนั้นร้อนขึ้นเรื่อยๆ เธอถอดกิโมโนของเขาที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนออกอย่างเบามือ เพราะเป็นห่วงว่าเขาจะปอดบวม เมื่อถอดออก ก็พบบาดแผลมากมายตามร่างกาย ซึ่งบางรอยมันยังไม่สมานดีเสียด้วยซ้ำ ทำให้รู้ทันทีถึงสาเหตุที่เขาหน้าซีดอยู่ตลอดเวลาที่อยู่กับเธอ รินจับร่างของอสูรหนุ่มพิงไว้กับพนังถ้ำ แล้วเดินไปหาอะอุนที่อยู่ใกล้ๆ กัน
เพราะนึกได้ว่าบนคอของมันน่าจะมีบางอย่างที่เธอต้องการอยู่
ห่อผ้าถูกแกะออกมาจากคอของอะอุน เธอเปิดออกดูก็พบสิ่งที่เธอต้องการนั่นคือ กิโมโนชั้นนอกของอสูรหนุ่มที่มีสีและลวดลายที่เธอคุ้นเคย ผ้าคาดเอวสีเหลืองที่มีลวดลายสีน้ำเงิน พร้อมกับเกราะที่เขาใส่เป็นประจำอยู่ในนั้น รินหยิบกิโมโนตัวนั้นไปใส่ให้อสูรหนุ่ม เผื่อว่าจะทำให้เขาอบอุ่นขึ้น แต่ขณะที่รินกำลังใส่กิโมโนให้นั้น เสียงพึมพำเบาๆ ของอสูรหนุ่มก็เอ่ยออกมา
“ห..หน..หนาว ..ข้า..หนาว…” เส็ตโชมารูที่ไร้สตินั้น โอบกอดสาวน้อยตรงหน้าไว้แน่น เพื่อบรรเทาความหนาวของเขา
“ท่านเส็ตโชมารู...ฮึกๆ ฮือๆ…” เสียงสะอื้นของรินในอ้อมกอดของเส็ตโชมารู อกแกร่งนั่นเปียกปอนไปด้วยน้ำตาของเธอ น้ำตาที่ถูกกลั้นไว้มานาน ในที่สุดก็ได้ระบายออกมา แข่งกับสายฝนที่ตกหนักอยู่นอกถ้ำ เธอรู้ดีว่าตอนนี้เส็ตโชมารูเองไม่มีสติพอที่จะรับรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้ หรือแม้กระทั่งกำลังกอดเธออยู่ รินไม่ได้ผละออกจากอสูรหนุ่มแต่อย่างใด ยังคงปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น อย่างน้อยเธอก็ขอได้อยู่แบบนี้..ได้ดูแลเขา ถึงแม้จะเป็น...ครั้งสุดท้ายก็ตาม
-------------------------------------------------
จบตอนที่ 5
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ