(Inuyasha Fanfiction) Forever Love Sesshomaru&Rin

8.5

เขียนโดย MomijiNI

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.38 น.

  16 ตอน
  6 วิจารณ์
  36.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2560 00.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) การพบกันอีกครั้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ณ หมู่บ้านของท่านคาเอเดะ


         ภายในกระท่อมของคาเอเดะ หญิงสาวที่บัดนี้บรรจงแต่งกายด้วยกิโมโนเนื้อดี ที่ได้รับจากอสูรหนุ่มที่จะไปงานด้วยกันในค่ำคืนนี้ เสียงของเจ้าของกระท่อมที่กำลังนั่งดูหญิงสาวเกล้าผมอยู่ก็เอ่ยถามด้วยเสียงเบา และสั่นเครือเพราะความชรา


“เจ้ากำลังมีความสุขใช่ไหม?” หญิงชราถามขึ้น เพราะตั้งแต่วันที่ได้รับจดหมายจากเส็ตโชมารู สาวน้อยตรงหน้าก็ดูมีความสุข ความสุขแบบที่คนแก่จวนจะเข้าโลงอย่างตนก็ไม่ได้เห็นมาหลายปีดีดักแล้ว


“ค่าา ท่านคาเอเดะ วันนี้เป็นวันที่ข้ามีความสุขมากเลย” สาวน้อยยิ้มให้หญิงชราอย่างมีความสุข


“งั้นรึ เห็นทีจะจริงอย่างเจ้าว่า ยิ้มหวานซะขนาดนั้น ได้เห็นรอยยิ้มเช่นนี้ของเจ้าอีกซักครั้ง ข้าก็คงตายตาหลับแล้วล่ะ รินเอ๊ย ฮ่ะๆๆ” หญิงชราพูดพลางขำออกมาเล็กน้อย


“เอ๊! ไม่เอาสิคะ ไหนสัญญาแล้วไงคะว่าจะไม่พูดเรื่องตายๆ กัน ท่านน่ะ ยังแข็งแรงดีนะคะ ยังอยู่กับข้าได้อีกหลายปีเชียวล่ะ” ถึงรินจะรู้ว่าร่างกายของหญิงชราตรงหน้าคงจะอยู่กับเธอได้อีกไม่นาน แต่เธอเองก็ยังทำใจไม่ได้ที่คนที่เธอนับถือว่าเป็นญาติคนสำคัญของเธอจะต้องมาตายจากเธอไป เพราะเธอเองไม่อยากจะเห็นคนสำคัญ ไม่ว่าคนไหน ตายจากเธอไปอีกแล้ว..


“ข้าอยู่กับเจ้าไม่ได้ตลอดหรอก เจ้าก็รู้ดี เจ้าเองก็โตพอจะออกเย้าออกเรือนได้แล้ว เจ้าไม่อยากจะมีครอบครัวรึยังไงกัน?”


“ถ้าข้ามีครอบครัว แล้วหน้าที่มิโกะของหมู่บ้านล่ะคะ หน้าที่ที่ข้าพยายามทำแทนท่านกับท่านคาโงเมะ…” คำพูดถูกแทรกขึ้นด้วยคำพูดของหญิงชรา


“ข้าน่ะ ไม่ได้เลี้ยงเจ้าให้เติบโตเป็นมิโกะนะริน แต่เพราะว่าเจ้ามีพลังนั้น เจ้าจึงอยากจะช่วยหมู่บ้าน แล้วก็อยากตอบแทนข้า ตอบแทนทุกคน ไม่ใช่รึ? ถึงตอนนี้เจ้าก็พยายามได้ดีมากแล้ว ได้เวลาที่ต้องไปตามทางของเจ้าเสียที”


“ท่านคาเอเดะ...” เสียงของรินเริ่มสั่นเครือ


“พลังที่เจ้ามี ทั้งพลังวิญญาณ แล้วก็พลังแฝงนั่น ถึงไม่ต้องเป็นมิโกะ เจ้าก็ช่วยเหลือคนอื่นได้เช่นกัน รวมถึงไว้ปกป้องตัวเจ้าเองด้วย เข้าใจที่ข้าพูดใช่ไหมริน?”


“ข้าเข้าใจค่ะ ข้าแค่ไม่อยากทิ้งท่านไว้คนเดียวหนิคะ ท่านเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ของข้า จะให้ข้าทิ้งท่านไปได้ยังไง”


“ไปตามหัวใจของเจ้าเถอะริน เจ้าก็เป็นเหมือนลูกหลานข้า ถ้าเจ้ามีความสุข ข้าเองก็มีความสุข” หยดน้ำตาใสๆ จากนัยน์ตาสีน้ำตาล ไหลอาบแก้มของสาวน้อยทันทีที่คำพูดของหญิงชราจบลง เธอโผเข้ากอดหญิงชราตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมา


“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะท่านคาเอเดะ ข้าขอบคุณจริงๆ” เธอพูดโดยที่กอดหญิงชราไว้แน่น หญิงชราที่เห็นดังนั้นก็ใช้มือลูบผมสีนิลนั้นเบาๆ แล้วใช้อีกมือปาดน้ำตาบนพวงแก้มสีชมพูระเรื่ออย่างเบามือ


“เจ้าไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะริน ร้องไห้มากๆ แบบนี้ก่อนไปหาเส็ตโชมารู มีหวังข้าโดนเอ็ดเป็นแน่ ว่าดูแลเจ้าไม่ดี” หญิงชราพูดแล้วยิ้มให้ริน


“ท่านเส็ตโชมารูไม่กล้าเอ็ดท่านหรอกค่ะ” รินพูดแล้วยิ้มอย่างสดใสกลับไปให้หญิงชรา


“งั้น ข้าจะไปรอท่านเส็ตโชมารูก่อนนะคะ ข้าอยากจะไปเก็บดอกไม้ให้ท่านด้วย” รินพูดพลางหยิบถุงผ้าน้อยขนาดเท่าฝ่ามือที่เธอเป็นคนเย็บเองไปด้วย พร้อมกับใส่รองเท้า เตรียมตัวออกจากกระท่อม


“ไปดีมาดีล่ะริน”


“ค่า ท่านคาเอเดะ”


“ไปกับเส็ตโชมารูสินะ ข้าคงไม่ต้องห่วงอะไร กินข้าวดีกว่า” หญิงชราพูดกับตัวเองด้วยความรู้สึกที่เบาใจ และยิ้มออกมา


         รินเดินออกจากกระท่อม โดยมีจุดมุ่งหมายคือทุ่งหญ้าแถวๆ หน้าหมู่บ้าน ที่ๆ เธอมักจะไปเก็บดอกไม้บางชนิดมาลองใส่ในชา หรือขนมอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อเดินมาถึงจุดมุ่งหมายนั้นแล้ว ความคิดของเธอก็พลันหายไปทันที เช่นเดียวกับทุ่งหญ้าตรงหน้านั้น ที่ดอกไม้มายมายมันหายไป…


“เอ๊ะ? ดอกไม้...ไปไหนหมด?”


         ถึงเธอจะสงสัยอยู่มาก และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นวันนี้ วันที่เธอคิดว่าจะเก็บมันไปให้กับคนสำคัญของเธออีกคน เธอกวาดสายตาหาอยู่ซักพัก และเธอก็ได้พบ ถึงมันจะน้อยนิด แต่ก็ยังดีกว่าจะทิ้งความตั้งใจของเธอไปเสียเฉยๆ

         ดอกไม้เพียงดอกเดียวที่ปรากฏอยู่ทุ่งหญ้าเล็กๆ นั้น ดอกไม้สีเหลืองอ่อน ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว ที่พริ้วไสวไปตามสายลมอ่อนๆ หญิงสาวเดินเข้าไปให้ใกล้มากขึ้น เพื่อหาคำตอบว่ามันคือดอกอะไร และแล้วก็ใกล้พอที่จะได้ยลโฉมของมัน


“นี่มัน…ซ..”


“ซุยเซ็น...” นัยน์ตาสีน้ำตาลพลันสบตากับเจ้าของเสียงที่ถึงแม้จะไม่ได้ฟังมานาน แต่ก็คุ้นเคยนั้นทันที ใบหน้างามนั้น ที่แม้จะผ่านไปเกือบสิบปีก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีแม้แต่รอยเหี่ยวย่นให้เห็นซักรอย ติดจะแปลกก็เพียงอาภรณ์ที่สวมใส่ ที่ไม่ใช่ทรง สี และรูปแบบที่สวมใส่เป็นประจำ กิโมโนชั้นนอกสีดำเรียบไร้ลวดลายตัดกับสีขาวที่อยู่ชั้นใน ปราศจากเกราะนักรบ แต่ก็ยังพกดาบทั้งสองนั้นเช่นเดิม ใบหน้าที่ตอนนี้อาจจะดูซีดเซียวไปบ้าง โดยที่เธอเองก็ไม่ทราบสาเหตุ บัดนี้กำลังจ้องมองเธออยู่อย่างไม่ลดละ นัยน์ตาสีอำพันคู่นั้น เธอเองจำได้ดี เขามาตามสัญญาจริงๆ สินะ


“ท่าน...เส็ตโชมารู..”


“...” อสูรหนุ่มผู้ถูกเรียกชื่อ ตกอยู่ในภวังค์ชะงักงันตั้งแต่สบตากับสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่รู้ว่าเธอคือริน เขาเพียงแต่ตามกลิ่นที่เขาจำมันได้ดีกว่ากลิ่นไหนๆ มาตามสายลม ไม่ใช่ว่าจะไม่คิดภาพไว้บ้างแล้วว่ารินเองที่เติบโตมาจะหน้าตาเป็นเช่นไร แต่กับสาวน้อยตรงหน้าเขานี้ นี่มันอะไร? ไม่เหมือนกับภาพที่คิดไว้ซักนิด ผมสีนิลที่ยาวคลุมหลังถูกมัดเกล้าครึ่งศรีษะ ผ้าผูกผมสีขาวสะอาดตา ปอยผมที่ถูกจัดให้ห้อยลงมาแต่พองาม กิโมโนแขนยาวเนื้อดีสีฟ้าลายดอกซากุระสีชมพูกับโอบิสีครีม รับกับผิวผ่องเนียน พวงแก้มและริมฝีปากที่น่าจุมพิตนั้น ทำให้ใจของเขาเต้นระรัว ความคิดมากมายถูกผุดขึ้นมาในหัวของอสูรหนุ่มเต็มไปหมด


...นั่นรินจริงๆ งั้นรึ?

เด็กที่ดูมอมแมมคนนั้น

ทำไมถึงได้งดงามเพียงนี้…


         อสูรหนุ่มครุ่นคิดอยู่นานพอสมควร จนแม้แต่สาวน้อยตรงหน้าที่เรียกชื่อเขาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ก็ไม่ได้ทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์นั้นเลยแม้แต่น้อย


“ท่านเส็ตโชมารูคะ!!” รินเดินเข้าไปหาอสูรหนุ่ม แล้วกระตุกชายแขนกิโมโนข้างขวาของเขา ก่อนจะทำให้อสูรหนุ่มหลุดออกจากภวังค์


“หึ!”


“ท่านเป็นอะไรรึเปล่าคะ? ทำไมถึงนิ่งไปล่ะคะ” รินถามด้วยความสงสัย


“เปล่า! ข้าแค่…”


“แค่...อะไรคะ?”


“แค่คิดว่า...จะให้สิ่งนี้กับเจ้า” เส็ตโชมารูพูดพร้อมยื่นมือซ้ายที่ไขว้ไว้ด้านหลังมาซักพักออกมาตรงหน้าสาวน้อย ในมือนั้นมีดอกซุยเซ็นอยู่จำนวนหนึ่งที่ถูกมัดรวมเป็นช่ออย่างดี สีของมันแตกต่างไปจากดอกที่อยู่บนทุ่งหญ้า บ่งบอกว่าไม่ได้ถูกเก็บมาจากทุ่งแห่งนี้เป็นแน่


“ว้าว!...สวยจังเลยค่ะ” รินพูดพลางเอื้อมมือรับดอกไม้ช่อนั้นมาจากอสูรหนุ่ม ด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ใจของเขาหวั่นไหวทุกครั้งที่ได้เห็น


“ข้าเห็นเจ้าชอบมองมัน เหมือนกับวันนี้”


“อย่างนั้นหรือคะ แล้วท่านทราบความหมายของมันหรือเปล่าคะ?” รินพูดแล้วยิ้มออกมา ในใจนั้นอบอุ่นที่ได้ยินประโยคนั้นจากอสูรหนุ่ม ที่อย่างน้อยเขาก็เคยสังเกตเธอ ว่าเธอชอบอะไร


“...” เส็ตโชมารูเงียบไป เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องความหมายของดอกไม้อยู่แล้ว แค่เห็นว่ารินน่าจะชอบก็เลยเก็บมาให้เธอ เหมือนที่เธอเคยชอบเก็บดอกไม้มาให้เขาตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เพราะฉะนั้นถ้าจะไม่รู้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แค่จำชื่อดอกไม้ได้ก็ถือว่ามากพอแล้ว สำหรับเรื่องหยุมหยิมแบบนี้


“ท่านคาโงเมะเคยเล่าให้รินฟังว่า ที่โลกที่ท่านคาโงเมะจากมา เขาให้ความสำคัญของความหมายของดอกไม้กันมากเลยล่ะค่ะ อย่างเช่นดอกซากุระ ก็จะมีความหมายว่า ความสำเร็จ และหัวใจที่เข้มแข็ง หรือดอกสึบากิ ก็จะหมายถึง ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความรักที่สมบูรณ์แบบ เวลาจะให้ดอกไม้กันแต่ละทีก็ต้องหาดอกที่มีความหมายดีๆ ให้กันน่ะค่ะ”


“แล้วดอกซุยเซ็นที่เจ้าชอบนั่น มันมีความหมายว่าอย่างไรล่ะ?” เส็ตโชมารูเริ่มรู้สึกอยากรู้ความหมายของดอกไม้ที่ตนมอบให้รินขึ้นมาทันที พอลองฟังๆ ดูแล้วมันก็ดูเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่นะ


“มันก็มีหลายความหมายนะคะ แตกต่างกันตามสีด้วย แต่ความหมายที่รินชอบก็คือ...ความรักที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน…” เธอพูดขณะที่ก้มลงมองช่อดอกไม้ในมือ ด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย


“...” ความหมายนั้นทำให้เขาอึ้งเล็กน้อย ใบหน้าที่ซีดเซียวนั้นมีสีขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน เพราะเขาเป็นคนมอบให้ริน เลยรู้สึกเหมือนตนบอกรักรินทางอ้อมไปเสียแล้ว แต่แล้วเขาก็คิดได้ขึ้นมาเมื่อพูดถึงเรื่องรักขึ้น


“โคฮาคุ ไม่ได้ชวนเจ้าไปงานรึริน?”


“ก็..ชวนอยู่ค่ะ” รินตอบ แต่ก็สงสัยว่าทำไมอสูรหนุ่มถึงถามเจาะจงว่าต้องเป็นโคฮาคุที่ชวน ทั้งที่ก็มีคนที่เธอเองก็รู้จักคนอื่นๆ อีก


“แล้ว...ทำไมเจ้าไม่ไปกับโคฮาคุล่ะ?”


“ก็ริน...อยาก...อยากจะไปกับท่านมากกว่าหนิคะ...” เสียงที่เบาแต่ก็ดังพอให้อีกฝ่ายได้ยินคำตอบนั้น รินก้มหน้าพูดด้วยความเขิน แต่เธอเองก็ไม่รู้ตัวว่าทำไมถึงเขินเช่นกัน


“...” เส็ตโชมารูกระตุกยิ้มบางๆ อย่างพอใจในคำตอบของสาวน้อย แล้วกลับมาสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม เมื่อสาวน้อยเงยหน้าขึ้นเพื่อจะพูดกับเขา


“ตะวันจะตกดินแล้ว รินว่าเรารีบไปจะดีกว่านะคะ”


“อืม”


         ทั้งคู่เดินมาจนถึงที่ๆ อะอุนนอนอยู่ บนหลังของมันมีห่อผ้าที่เส็ตโชมารูนำมันมาใช้เปลี่ยนอาภรณ์ของตน เขานำมันไปผูกไว้ที่คอของอะอุน ก่อนจะเรียกรินให้ขึ้นไปนั่ง


“ริน”


“ค่ะ”


“เจ้าขี่อะอุนไปก็แล้วกัน” รินขึ้นขี่อะอุนทันทีราวกับรู้หน้าที่


“แล้วท่านเส็ตโชมารูล่ะคะ” รินถามด้วยความเป็นห่วง เพราะดูเหมือนอสูรหนุ่มในวันนี้จะดูเหนื่อยๆ กว่าปกติ


“ข้าจะเหาะไป”


“เอ่อ...รินว่าแบบนั้นท่านจะเหนื่อยนะคะ ท่านมาขี่อะอุนดีไหมคะ?” รินพูดแล้วลงจากหลังอะอุนเพื่อให้เส็ตโชมารูมาขี่แทน


“งั้นรึ?” เส็ตโชมารูเดินมาขึ้นขี่อะอุนพลางขำในใจที่สาวน้อยตรงหน้าคงจะลืมอะไรบางอย่างไปอยู่ เมื่อนั่งเรียบร้อยดี เขาก็เอ่ยถามรินทันที


“แล้วเจ้าล่ะ จะไปยังไงทีนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงยียวนเล็กน้อย


“เอ๊?!” รินทำหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนจะลืมคิดไปว่าตนเองไม่ได้เหาะเหินเดินอากาศได้อย่างเส็ตโชมารู ถ้าไม่ขี่อะอุนแล้วเธอจะไปได้อย่างไรนอกจากเดิน เพราะคิดแต่ห่วงคนข้างหน้าเลยลืมห่วงตัวเองซะนี่ แต่แล้วก็มีแขนแกร่งเข้าโอบเอวเธอ แล้วอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนหลังอะอุน ด้านหน้าของอสูรหนุ่ม


“..อ๊ะ?!...”


“ทีนี่ก็...ไปกันได้แล้ว” เส็ตโชมารูจับเชือกบังคับอะอุน และทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ที่ตอนนี้สีส้มประกายทองของอาทิตย์ตกดินนั้น เริ่มจะจางหายไปเสียแล้ว


         ทั้งสองเริ่มออกเดินทางท่ามกลางความเงียบงัน เพราะไม่มีบทสนทนาใดๆ ออกจากปากของทั้งสอง จนซักพักอสูรหนุ่มก็จ้องมองริน ที่บัดนี้นั่งตัวเกร็งอยู่ด้านหน้าของเขา ก็ทำให้เขาอดขำในใจไม่ได้


“นั่งเกร็งแบบนั้น ระวังจะตกอะอุนเอา” บทสนทนาแรกออกจากปากอสูรหนุ่ม หลังจากเงียบมาได้พักใหญ่ เขาพูดเสียงเรียบ พร้อมกับใบหน้าเรียบเฉยที่กลั้นขำเอาไว้


“ม..ไม่ตก...หรอกค่ะ! อ๊ะ!..อ๊ายยย!” รินพูดตะกุกตะกักเพราะความเขินอาย แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ลมแรงก็พัดมายังด้านหน้าของริน จนทำให้เธอแทบหงายหลังตกอะอุนจริงๆ เพราะเธอนั่งโดยที่ไม่ได้จับอะไรไว้เลย นอกจากกำช่อดอกซุยเซ็นไว้แน่นเพียงเท่านั้น

         แต่แล้วมือเรียวนั้นก็ปล่อยเชือกที่บังคับอะอุน แล้วใช้อ้อมแขนอันอบอุ่นโอบรับร่างของสาวน้อยที่กำลังจะหงายหลังได้ทันท่วงที รินได้แต่หลับตาปี๋ เพราะคิดว่าคงตกลงไปเป็นแน่ แต่แล้วสัมผัสอันอบอุ่นนั้นก็ทำให้เธอเบิกตากว้าง เมื่อใบหน้าของอสูรหนุ่มผู้รับเธอไว้นั้น ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบ ความเงียบนั้นทำให้ทั้งคู่ได้ยินเสียงของหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าที่จ้องมองกันนั้น บัดนี้แดงก่ำไปด้วยความเขินอาย


“เอ่อ...คือ...ท่านปล่อ..ย…” รินพยายามจะทำให้ความเงียบนั้นหายไป เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ยินเสียงหัวใจของตนเอง แต่ทว่า...


“กรรรร…” สัญญาณของอะอุนบ่งบอกว่าได้เดินทางมาถึงที่หมายแล้ว


“ถึงแล้วล่ะ ริน เราไปกันเถอะ” เขาพูดพร้อมจับรินให้นั่งขึ้น ก่อนที่เขาจะลงจากหลังอะอุนไปยืนรอริน


“ทำไมท่านเส็ตโชมารูถึงเปลี่ยนชุดล่ะคะ?”


“เจ้าไม่ชอบชุดข้างั้นรึ?”


“ป..เปล่าค่า รินแค่สงสัย…”


“ผู้คนมางานมากมาย ข้าไม่อยากให้เป็นที่สะดุดตาใคร” รินพยักหน้าเบาๆ บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเข้าใจแล้ว ก่อนจะปล่อยอะอุนไว้ในป่าใกล้ๆ แล้วมุ่งหน้าเข้าไปในงานพร้อมกับเส็ตโชมารู

 

-------------------------------------------------

 
จบตอนที่ 4

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา