เม็ดทรายในสายลม
-
เขียนโดย ดาวเหนือ
วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.11 น.
5 ตอน
8 วิจารณ์
7,774 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 23.36 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) เม็ดทรายกับสายลม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพลั่ก !!
"โอ๊ยยย เจ็บ" เสียงหญิงสาวร้องขึ้นเมื่อตัวเองดันก้าวพลาด จนล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปกับพื้น
"เอ้า เดินยังไงของเธอเนี่ยแก้ว" เสียงชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้าเอ่ยถามเมื่อหันมาเห็นเธอนั่งแบะอยู่กับพื้น
"ก็เดินแบบนายนั่นแหละ แต่มันลื่นไง" เธอเอ่ยตอบเขา "นี่โทโมะ อย่ามัวแต่ถามได้มั้ย มาช่วยกันก่อนสิ"
"555 ยัยซุ่มซ่ามเอ๊ย เธอนี่มันจริงๆเลยนะแก้ว ส่งมือมา" โทโมะบ่นนิดหน่อยก่อนจะยื่นมือส่งไปให้หญิงสาวจับเพื่อยึดไว้
เธอจับมือของเขาก่อนจะดึงตัวเองลุกขึ้นโดยมีมือของเขาช่วยดึง มือ...ที่ไม่เคยปล่อยให้เธออ้างว้าง อบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้สัมผัส
"อีกนิดเดียวก็จะถึงลานกางเตนท์แล้ว เธอไหวไหม"
"ไหวสิ เดินมาตั้งนานแล้ว อีกนิดเดียวจะเป็นไรไป"
"ดีมาก แก้วใจของฉันไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ งั้นไปกันเลยไป" ว่าแล้วก็เดินเข้าไปกดคอหญิงสาวทันที
"เฮ่ยๆ โทโมะ ปล่อยๆ ฉันเดินเองได้ไม่ต้องมากอดคอฉาาาน"
ไอบ้านี่ อยู่ๆก็เดินมากอดคอ แถมบอกให้ปล่อยก็ไม่ยอมปล่อยอีกน่ะ เหนื่อยก็เหนื่อย จะแกล้งกันไปถึงไหนเนี่ย
ฉันกับโทโมะ เราสองคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆบ้านเราอยู่ติดกัน หลังจากที่พ่อแม่ฉันเสียตอนฉันอายุ 15 ฉันก็ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพอาศัยอยู่กับน้าสาว และได้มาเจอกับโทโมะที่นี่ เขาช่วยให้ฉันหายเศร้าเร็วขึ้น ระยะเวลาเพียงไม่นานเราก็สนิทกัน โทโมะมาหาฉันทุกวันจนสนิทกับน้าของฉันและพ่อแม่ของเขาก็เอ็นดูฉัน เขาเป็นทั้งเพื่อนบ้านที่ดีและเพื่อนซี้ในโรงเรียนใหม่ของฉัน เรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ทำอะไรบ้าๆด้วยกัน ชอบอะไรเหมือนๆกัน เรียน จนกระทั่งใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยความที่ชอบอะไรเหมือนกันเราจึงเลือกที่จะเรียนที่เดียวกันคณะเดียวกัน และตอนนี้ฉันกับโทโมะตัดสินใจแบกเป้ขึ้นภูเพื่อฉลองความสำเร็จที่สามารถสอบเข้าที่เดียวกันได้
"นี่โทโมะ ไปออกไปถ่ายรูปกัน " แก้วตะโกนเรียกโทโมะที่ตั้งท่าจะนอนอย่างเดียวหลังจากที่ทั้งคู่ช่วยกันกางเตนท์เสร็จ
"ไม่เอาอะ เหนื่อยอยากนอน"
"อะไรกัน เดินมาตั้งไกลเพื่อจะมานอนเนี่ยนะ ลุกเลยๆ ลุก" โทโมะก็ยังไม่ยอมลุก
"นี่ ลุกเดี๋ยวนี้นะ ลุก !!"
"โอ๊ยยัยบ้า นั่นเท้านะ" ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาโวยวายเมื่อหญิงสาวใช้เท้าสะกิด
"เอ้าถ้าพูดดีแล้วลุกมั้ยล่ะ นี่ ถ้ายังไม่ลุกอีกนะไม่ใช่แค่ใช้เท้าสะกิดแน่ จะลุกไม่ลุก"
"เออๆไปก็ได้ ผู้หญิงอะไรว่ะ" โทโมะบ่นก่อนจะหยิบแจ็กเก็ตมาสวมและรีบวิ่งตามหญิงสาวที่ถือกล้องนำหน้าไป
เราเที่ยวชมธรรมชาติกันอย่างสนุก และตกลงกันว่ากิจกรรมสุดท้ายของทริปนี้คือดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ตอนนี้คนที่ชวนกันมาน่ะนอนหลับสบายอยู่ในเตนท์ ก่อนถึงเวลาเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นฉันเดินไปปลุกโทโมะในเตนท์ของเขาแต่หมอนั่นกลับบอกให้ฉันเดินมาก่อนส่วนเจ้าตัวจะตามมาทีหลัง นี่ฉันก็เดินมาถึงแล้วพระอาทิตย์ดวงสวยกำลังเคลื่อนตัวขึ้นมาพ้นขอบฟ้าก็ไม่เห็นวี่แววของเจ้าเพื่อนตัวดีจะตามขึ้นมาอย่างที่บอกเลย เหอะ คงหลับเป็นตายไปแล้วมั้ง
"พระอาทิตย์กลมโตสีส้มกำลังเคลื่อนตัวขึ้นมาจากข้างหลังขุนเขาช้าๆ สวยงามเหลือเกิน ถ้าเราได้นั่งดูด้วยกัน มันคงจะสวยมากกว่านี้"
ตลอดเวลาสามวันสองคืนที่เรามาเที่ยวด้วยกัน ในกล้องของฉันมีแต่รูปวิวสวยๆและรูปของเขากับรูปคู่ที่เราถ่ายด้วยกัน เราเล่นน้ำ ถ่ายรูป เดินเล่น และชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติที่ไม่มีทางจะหาเจอในเมืองใหญ่ จนมาถึงวันที่เราจะต้องกลับกันแล้ว ฉันกับโทโมะตกลงกันว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันก่อนที่จะเดินทางกลับ การได้มาอยู่ในสถานที่สวยงามแบบนี้กับคนๆนั้นมันเป็นความรู้สึกพิเศษที่ต่อให้ไม่มีกล้องถ่ายรูป ฉันก็ไม่มีทางลืม"
ณ ผานกแอ่น
วันสุดท้ายภูกระดึง
อากาศบนนี้ดีจังแฮะฉันนั่งพิงต้นไม้พร้อมกับสมุดไดอารี่ในมือที่ใช้บันทึกทุกอย่างเกี่ยวกับเขาลงไปในนั้น หลับตาซึมซับกลิ่นไอบริสุทธิ์ก่อนที่จะต้องลากลับ ไม่ได้สนใจกับผู้คนมากมายหรือสิ่งรอบข้าง เนิ่นนานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบที่ฉันหลับตาอยู่อย่างนี้สายลมเย็นๆพัดผ่านจนร่างกายเหน็บหนาวแต่ตอนนี้ฉันรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดหน้าผากฉันเบาๆราวกับกลัวว่าฉันจะตื่น
แผ่วเบาแต่รู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจ
"โอ๊ยยย เจ็บ" เสียงหญิงสาวร้องขึ้นเมื่อตัวเองดันก้าวพลาด จนล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปกับพื้น
"เอ้า เดินยังไงของเธอเนี่ยแก้ว" เสียงชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้าเอ่ยถามเมื่อหันมาเห็นเธอนั่งแบะอยู่กับพื้น
"ก็เดินแบบนายนั่นแหละ แต่มันลื่นไง" เธอเอ่ยตอบเขา "นี่โทโมะ อย่ามัวแต่ถามได้มั้ย มาช่วยกันก่อนสิ"
"555 ยัยซุ่มซ่ามเอ๊ย เธอนี่มันจริงๆเลยนะแก้ว ส่งมือมา" โทโมะบ่นนิดหน่อยก่อนจะยื่นมือส่งไปให้หญิงสาวจับเพื่อยึดไว้
เธอจับมือของเขาก่อนจะดึงตัวเองลุกขึ้นโดยมีมือของเขาช่วยดึง มือ...ที่ไม่เคยปล่อยให้เธออ้างว้าง อบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้สัมผัส
"อีกนิดเดียวก็จะถึงลานกางเตนท์แล้ว เธอไหวไหม"
"ไหวสิ เดินมาตั้งนานแล้ว อีกนิดเดียวจะเป็นไรไป"
"ดีมาก แก้วใจของฉันไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ งั้นไปกันเลยไป" ว่าแล้วก็เดินเข้าไปกดคอหญิงสาวทันที
"เฮ่ยๆ โทโมะ ปล่อยๆ ฉันเดินเองได้ไม่ต้องมากอดคอฉาาาน"
ไอบ้านี่ อยู่ๆก็เดินมากอดคอ แถมบอกให้ปล่อยก็ไม่ยอมปล่อยอีกน่ะ เหนื่อยก็เหนื่อย จะแกล้งกันไปถึงไหนเนี่ย
ฉันกับโทโมะ เราสองคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆบ้านเราอยู่ติดกัน หลังจากที่พ่อแม่ฉันเสียตอนฉันอายุ 15 ฉันก็ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพอาศัยอยู่กับน้าสาว และได้มาเจอกับโทโมะที่นี่ เขาช่วยให้ฉันหายเศร้าเร็วขึ้น ระยะเวลาเพียงไม่นานเราก็สนิทกัน โทโมะมาหาฉันทุกวันจนสนิทกับน้าของฉันและพ่อแม่ของเขาก็เอ็นดูฉัน เขาเป็นทั้งเพื่อนบ้านที่ดีและเพื่อนซี้ในโรงเรียนใหม่ของฉัน เรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ทำอะไรบ้าๆด้วยกัน ชอบอะไรเหมือนๆกัน เรียน จนกระทั่งใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยความที่ชอบอะไรเหมือนกันเราจึงเลือกที่จะเรียนที่เดียวกันคณะเดียวกัน และตอนนี้ฉันกับโทโมะตัดสินใจแบกเป้ขึ้นภูเพื่อฉลองความสำเร็จที่สามารถสอบเข้าที่เดียวกันได้
"นี่โทโมะ ไปออกไปถ่ายรูปกัน " แก้วตะโกนเรียกโทโมะที่ตั้งท่าจะนอนอย่างเดียวหลังจากที่ทั้งคู่ช่วยกันกางเตนท์เสร็จ
"ไม่เอาอะ เหนื่อยอยากนอน"
"อะไรกัน เดินมาตั้งไกลเพื่อจะมานอนเนี่ยนะ ลุกเลยๆ ลุก" โทโมะก็ยังไม่ยอมลุก
"นี่ ลุกเดี๋ยวนี้นะ ลุก !!"
"โอ๊ยยัยบ้า นั่นเท้านะ" ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาโวยวายเมื่อหญิงสาวใช้เท้าสะกิด
"เอ้าถ้าพูดดีแล้วลุกมั้ยล่ะ นี่ ถ้ายังไม่ลุกอีกนะไม่ใช่แค่ใช้เท้าสะกิดแน่ จะลุกไม่ลุก"
"เออๆไปก็ได้ ผู้หญิงอะไรว่ะ" โทโมะบ่นก่อนจะหยิบแจ็กเก็ตมาสวมและรีบวิ่งตามหญิงสาวที่ถือกล้องนำหน้าไป
เราเที่ยวชมธรรมชาติกันอย่างสนุก และตกลงกันว่ากิจกรรมสุดท้ายของทริปนี้คือดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ตอนนี้คนที่ชวนกันมาน่ะนอนหลับสบายอยู่ในเตนท์ ก่อนถึงเวลาเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นฉันเดินไปปลุกโทโมะในเตนท์ของเขาแต่หมอนั่นกลับบอกให้ฉันเดินมาก่อนส่วนเจ้าตัวจะตามมาทีหลัง นี่ฉันก็เดินมาถึงแล้วพระอาทิตย์ดวงสวยกำลังเคลื่อนตัวขึ้นมาพ้นขอบฟ้าก็ไม่เห็นวี่แววของเจ้าเพื่อนตัวดีจะตามขึ้นมาอย่างที่บอกเลย เหอะ คงหลับเป็นตายไปแล้วมั้ง
"พระอาทิตย์กลมโตสีส้มกำลังเคลื่อนตัวขึ้นมาจากข้างหลังขุนเขาช้าๆ สวยงามเหลือเกิน ถ้าเราได้นั่งดูด้วยกัน มันคงจะสวยมากกว่านี้"
ตลอดเวลาสามวันสองคืนที่เรามาเที่ยวด้วยกัน ในกล้องของฉันมีแต่รูปวิวสวยๆและรูปของเขากับรูปคู่ที่เราถ่ายด้วยกัน เราเล่นน้ำ ถ่ายรูป เดินเล่น และชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติที่ไม่มีทางจะหาเจอในเมืองใหญ่ จนมาถึงวันที่เราจะต้องกลับกันแล้ว ฉันกับโทโมะตกลงกันว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันก่อนที่จะเดินทางกลับ การได้มาอยู่ในสถานที่สวยงามแบบนี้กับคนๆนั้นมันเป็นความรู้สึกพิเศษที่ต่อให้ไม่มีกล้องถ่ายรูป ฉันก็ไม่มีทางลืม"
ณ ผานกแอ่น
วันสุดท้ายภูกระดึง
อากาศบนนี้ดีจังแฮะฉันนั่งพิงต้นไม้พร้อมกับสมุดไดอารี่ในมือที่ใช้บันทึกทุกอย่างเกี่ยวกับเขาลงไปในนั้น หลับตาซึมซับกลิ่นไอบริสุทธิ์ก่อนที่จะต้องลากลับ ไม่ได้สนใจกับผู้คนมากมายหรือสิ่งรอบข้าง เนิ่นนานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบที่ฉันหลับตาอยู่อย่างนี้สายลมเย็นๆพัดผ่านจนร่างกายเหน็บหนาวแต่ตอนนี้ฉันรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดหน้าผากฉันเบาๆราวกับกลัวว่าฉันจะตื่น
แผ่วเบาแต่รู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ