{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story

-

เขียนโดย LadyTyrell

วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.

  26 ตอน
  0 วิจารณ์
  25.73K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) ความรู้สึกนี้…ต้องใช่แน่ ๆ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          “ท่านหญิงครับคุณนารุโตะมาหาครับ” เสียงเรียกของโนบุทำให้อายากะตื่นแทบจะทันที
“ให้ตายสิเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนกันเนี่ย…ไม่น่าคิดถึงเรื่องตอนเด็ก ๆ เลย” คิ้วสวยขมวดมุ่นเข้าหากันด้วยความหงุดหงิดก่อนที่จะลุกออกจากโต๊ะพร้อมกับเดินออกจากห้องทำงานเพื่อตรงไปยังห้องรับแขกของบ้าน
“ไงอาเจ๊มาช้าจังเลยนะ ผมซัดขนมไปตั้งสองถ้วยแล้วนา” นารุโตะเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางร่าเริงเมื่อเห็นเจ้าของบ้านเดินเข้ามาภายในห้องรับแขก
“ฉันนัดนายไว้ตอนเย็นนะยะจะรีบมาทำไมกันเจ้าเด็กบ้า”
“อะไรกันเนี่ยะ อาเจ๊ไม่ได้ดูนาฬิกาหรือไงกัน” นารุโตะเบะปากด้วยความไม่ชอบใจ
“เออโทษทีฉันมัวแต่ยุ่งกับการเขียนรายงานภารกิจน่ะ…ป้าฮากิจัดอาหารไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?” พูดกับนารุโตะเสร็จก็รีบหันไปถามโนบุทันที
“เรียบร้อยแล้วครับ รอแค่ท่านหญิงและคุณนารุโตะไปก็เท่านั้นเอง”
“งั้นก็ไปกินข้าวเย็นกันเถอะนารุโตะ”
“โอ๊ส! ที่แท้อาเจ๊ก็จะเลี้ยงข้าวเย็นผมนี่เอง ช่างเป็นโชคดีอะไรแบบนี้ ผมจะซัดให้เรียบไม่เหลือหลอเลย” เด็กหนุ่มผมเหลืองตอบด้วยท่าทางร่าเริง
“ดะ…เดี๋ยวก่อนครับท่านหญิง ผมลืมบอกไปว่าท่านเรียวอิจิเพิ่งจะมาถึงที่นี่แล้วก็บอกว่าจะมาร่วมกินอาหารเย็นด้วยครับ”
“ทำไมไม่บอกฉันก่อน!” สีหน้าและแววตาของอายากะเปลี่ยนมาเป็นโมโหแทบจะทันที
หน็อยเจ้าบ้านั่นคิดจะมัดมือชกอย่างนั้นเหรอ เฮอะแล้วจะได้รู้กัน
“ขะ…ขอโทษด้วยครับ คือว่าท่านเรียวอิจิเพิ่งจะส่งคนสนิทมาบอกข่าว”
“งั้นเหรอ…ช่างเถอะงั้นฉันกับเจ้านารุโตะจะไปรอที่ห้องทานข้าวส่วนนายก็จัดการบอกคนสนิทของเรียวอิจิด้วยว่าให้หมอนั่นมาเร็ว ๆ”
 
          ชายหนุ่มผมยาวประบ่าในชุดผ้าฝ้ายยูคาตะสีขาวยืนรอโนบุที่เขาอ้างว่าเป็นคนสนิทของผู้นำตระกูลอยู่หน้าทางเข้าบ้านด้วยความเบื่อหน่าย เป็นอย่างนี้ทุกทีสินะ เวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนส่วนตัวคงจะไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่มย่าม
“ขอโทษด้วยนะครับคุณเรย์พอดีว่าท่านหญิงมัวแต่เขียนรายงานภารกิจเลยทำให้การพูดคุยล่าช้าไปหน่อยแต่ตอนนี้สะดวกแล้วครับเชิญคุณเรย์ให้บอกท่านเรียวอิจิว่าท่านหญิงจะรอกินข้าวเย็นที่ห้องรับประทานอาหาร”
“ครับแล้วเดี๋ยวเจอกันนะครับ ขอบคุณมาก” คิดไว้ไม่มีผิด ไม่รู้ว่ามัวแต่ยุ่งกับการเขียนรายงานภารกิจหรือว่าหลับคาโต๊ะทำงานกันแน่
 
          บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยอาหารมากมายหลายอย่างที่แม่บ้านของตระกูลฟูจิวาระช่วยกันทำอย่างสุดฝีมือ นารุโตะอดทึ่งไม่ได้ เด็กหนุ่มรู้สึกว่าเหมือนกับเป็นงานเลี้ยงฉลองอะไรบางอย่างก็ไม่ปาน
“นี่เอาเจ๊คราวหน้าก็ชวนผมมากินข้าวด้วยบ่อย ๆ นา” เขาหันไปพูดด้วยท่าทางอารมณ์ดีกับผู้นำตระกูลสาว
“เอ่อไม่ทราบว่าเด็กคนนี้เป็นใครเหรอครับท่านอายากะ” เรียวอิจิหนุ่มวัยยี่สิบสองปีเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่านารุโตะดูท่าทางจะสนิทสนมกับอายากะ
“เป็นลูกศิษย์ฉันเองชื่อนารุโตะน่ะ” เธอตอบอย่างห้วน ๆ
“อ้อแบบนี้นี่เองยินดีที่ได้รู้จักนะนารุโตะคุง” ชายหนุ่มยิ้มให้นารุโตะด้วยความเป็นมิตร
“อินอีอี้ไอ้อู้อักอั้บ” (ยินดีที่ได้รู้จักครับ) นารุโตะพูดอู้อี้เนื่องจากกำลังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปากจนทำให้อายากะแจกมะเหงกไปให้หนึ่งที
“นี่เจ้าเด็กบ้าฉันยังไม่ได้บอกให้เริ่มกินเลยนะ ตะกละจริง ๆ” หล่อนพูดด้วยความโมโห
“ก็มันน่ากินนี่นาอาเจ๊ก็ โธ่แค่นี้ก็มาดุผม…นี่พี่ชายชื่อเรียวอิจิใช่ม๊า ผมอุสึมากิ นารุโตะ อนาคตผมจะเป็นโฮคาเงะของหมู่บ้านให้ได้!” หันไปพูดกับชายหนุ่มด้วยความมุ่งมั่นก่อนที่จะหันไปจัดการกับอาหารบนโต๊ะต่อโดยที่ไม่สนใจคำปรามของอายากะเลยสักนิด
“ถ้างั้นฉันว่าเราก็เริ่มกันเลยดีกว่า” เธอเอ่ยปากเชิญทุกคนที่ร่วมโต๊ะให้เริ่มรับประทานอาหารทันที
 
          ขณะรับประทานอาหารเย็นอยู่นั้นหญิงสาวรู้สึกได้ว่าในห้องนี้มีอะไรบางอย่างที่เธอรู้สึกคุ้นอยู่ด้วย ไม่ใช่สิต้องเป็นใครสักคนแน่ ๆ แต่เธอและเรียวอิจิรวมไปถึงคนสนิทของเขาไม่ได้พบหน้าค่าตากันมาตั้งนานแล้ว เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารก็พบว่าคนสนิทของเรียวอิจิที่ชื่อว่าเรย์กำลังจ้องเธออยู่ด้วยสายตาอันเย็นชา
          สายตาอันเย็นชา! ท่าทางแบบนั้นทำให้ชวนนึกไปถึงใครบางคนที่จากโคโนฮะไปแต่จะเป็นไปได้ยังไงกัน ในเมื่อหมอนั่นไปเข้าร่วมกับแสงอุษาแล้ว คงจะยากถ้าหากจะกลับมาและอีกอย่างอิทาจิก็ไม่ค่อยใช้วิชาแปลงร่างสักเท่าไหร่
“ทำไมนายไม่ตามหมอนั่นไปล่ะคิซาเมะ” เดอิดาระที่กำลังนั่งมองดินเหนียวรูปแมงมุมฝีมือตัวเองเอ่ยถามคู่หูของอิทาจิขึ้นมา
“ก็คุณอิทาจิบอกผมไว้ว่าต้องการจะไปคนเดียวนี่ครับ ผมก็ไม่อยากจะขัดคุณอิทาจิด้วยสิ”
“งั้นเหรอ…ไปสืบข่าวเรื่องเด็กเก้าหางนั่นน่ะนะ โดยที่ไม่ต้องการคู่หู แปลกจริง ๆ”
“อ๊า อิ่มแล้วสิอร่อยสุด ๆ ไปเลยนะนี่” นารุโตะพูดด้วยท่าทางร่าเริงพร้อมกับชูสองแขนขึ้นเหนือหัวเพื่อบิดขี้เกียจ
“แวะมาบ่อย ๆ สิครับคุณนารุโตะ ท่านหญิงเต็มใจจะเลี้ยงอยู่แล้ว” โนบุหันไปพูดกับนารุโตะด้วยท่าทางอ่อนโยน
“เห จริงนะอาเฮีย งั้นผมจะไม่เกรงใจล่ะน้า”
“เราจะเริ่มคุยเรื่องนั้นกันเมื่อไหร่ดีครับท่านอายากะ?” หลังจากวางตะเกียบลงเรียวอิจิจึงรีบเปิดบทสนทาถึงเรื่องนั้นทันที
“ฉันว่าพรุ่งนี้เช้าก็คงจะดีนะคะ ฉันพอจะมีเวลาว่างอยู่ตอนช่วงเช้าหวังว่าท่านเรียวอิจิคงจะไม่ขัดข้องอะไร”
“ไม่ขัดข้องอยู่แล้วล่ะครับ งั้นผมคงต้องขอตัวก่อนแต่ว่าผมขออนุญาตให้เรย์อยู่เช็กเอกสารการสั่งซื้อสมุนไพรและชามกระเบื้องต่ออีกสักครู่นะครับ” เรียวอิจิหันมาส่งยิ้มอันเป็นมิตรให้กับเธอ
“หวังว่าท่านหญิงอายากะคงจะไม่ว่าอะไร” คนสนิทของเรียวอิจินามว่าเรย์รีบเอ่ยขึ้นมาทันที
“อ้อ…เรื่องนั้นไม่เป็นไรอยู่แล้วงั้นเดี๋ยวก็ตามฉันไปที่ห้องทำงานเลยก็แล้วกัน…โนบุจัดการส่งท่านเรียวอิจิด้วยส่วนนารุโตะถ้าอยากจะอยู่ที่นี่ต่อก็ตามใจฉันต้องไปคุยเรื่องงานก่อนคงไม่มีเวลาดูแลนาย”
“โอ๊ส!” นารุโตะขานรับก่อนที่จะเสนอตัวช่วยแม่บ้านเก็บอาหารที่อยู่บนโต๊ะไปไว้ในครัว
 
          บนโต๊ะทำงานที่ตอนนี้เต็มไปด้วยกองเอกสารเท่าภูเขาและม้วนภารกิจที่เจ้าของยังเขียนไม่เสร็จวางอยู่กระจัดกระจาย เมื่อเดินไปถึงโต๊ะเจ้าของห้องจึงนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความเฉื่อยชา
“โทษทีนะคุณเรย์หนังท้องตึงหนังตาก็ต้องหย่อนเป็นธรรมดา ฮ้าววว” พูดจบก็รีบเอามือป้องปากหาว
“ไม่เป็นไรครับ…เรามาดูเรื่องเอกสารกันเลยดีกว่า” ชายหนุ่มคนสนิทของเรียวอิจิตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉยทำให้อายากะนึกหมั่นไส้ขึ้นมา ถ้าหากว่าตัดหน้าตาของเจ้าหมอนี่ออกแล้วเอาหน้าตาของอิทาจิมาใส่ละก็ คนตรงหน้านี่ก็คืออิทาจิชัด ๆ!
“เอกสารสั่งซื้อทั้งสองแผ่นครับ สมุนไพรแล้วก็ชามกระเบื้อง” ชายหนุ่มยื่นแผ่นเอกสารนั้นให้คู่ค้าแทบจะทันที
“สั่งเยอะกว่าครั้งก่อนนี่แต่ครั้งนี้ฉันคงจะไม่มีของแถมให้หรอกนะ” หญิงสาวกวาดสายตาอ่านจนละเอียดก่อนที่จะวางลงพร้อมกับอ่านทวนอีกรอบและปั๊มตราประจำตระกูลเพื่อเป็นการอนุมัติ
“ท่านเรียวอิจิบอกว่าจุดประสงค์จริง ๆ คือการคุยกันพรุ่งนี้เช้า”
“งั้นเหรอ” หญิงสาวตอบด้วยท่าทางไม่แยแสก่อนที่จะพูดต่อว่า “ท่าทางของคุณดูคุ้น ๆ นะคะคุณเรย์”
“หึหึ” คู่สนทนาเพียงแค่หัวเราะในลำคอแต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อมีมีดคุไนจ่อตรงคอหอย
“ว่ายังไงล่ะ? เราเคยเจอกันมาก่อนไหม? เอ…หรือว่าฉันแค่คิดไปเองคนเดียว” อายากะตัวจริงยังคงนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานด้วยท่าทางสบาย ๆ ส่วนร่างแยกของเธอนั้นกำลังล็อคคอของเรย์เอาไว้
“จมูกไวดีนี่” ชายหนุ่มตรงหน้าตอบแต่เพียงเท่านั้น
“หือ? หมายความว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนอย่างนั้นเหรอคะ?”
“…” คนสนิทของเรียวอิจิไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ชายหนุ่มเพียงแค่ปล่อยให้ทุกอย่างอยู่ในความเงียบก็เท่านั้น เขากำลังหาทางให้หญิงสาวผู้นำตระกูลเผลอแล้วค่อยหาทางเอาตัวรอด
“ว่าไงล่ะคะคุณเรย์ แต่สงสัยว่าฉันคงจะคิดไปเองคนเดียวซะละมั้งว่าคุณเป็นใครบางคนที่ฉันเคยรู้จัก”
‘เคยรู้จักอย่างนั้นเหรอ?’ ชายหนุ่มที่ถูกล็อคคอด้วยมีดคุไนคิดในใจ ส่วนลึกในจิตใจรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาแปลก ๆ ไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เลย…
“ว่าไงนายใช่มั้ยอิทาจิ!” เสียงอันเหี้ยมโหดดังขึ้นทันทีพร้อมกับแววตาที่ดูไม่เคร่งเครียดก็กลับแปรเปลี่ยน จิตสังหารแรงขึ้นทุกขณะ
“ท่านหญิงอายากะพูดอะไรน่ะ แล้วอิทาจิคือใคร?” ยายนี่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริง ๆ ดีไม่ดีเขารู้สึกว่าหล่อนคงจะพัฒนาขึ้นในด้านการควบคุมอารมณ์ ดูใจเย็นมากกว่าเดิมแต่ครั้งนี้เขามาเพื่อสืบเรื่องเด็กเก้าหางนั่นแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว จุดประสงค์ที่มาที่นี่คงจะเป็นเพราะคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยละมั้ง… ไม่สิคงจะไม่ใช่หรอก
“เฮอะแต่ก็เอาเถอะ ฉันอาจจะคิดมากไปเองมั้ง ขอโทษด้วยก็แล้วกันนะคุณเรย์ เอกสารก็เช็กกันเรียบร้อยแล้วคุณกลับไปรายงานให้ท่านเรียวอิจิเถอะ ฉันคงต้องรีบเขียนรายงานภารกิจต่อ” พูดจบร่างแยกที่ถือมีดคุไนจ่อคอหอยของเรย์ก็สลายบ๊องไปทันที พร้อมกับร่างจริงของหญิงสาวที่โบกมือเป็นเชิงไล่ให้แขกกลับไป
“งั้นลาก่อนครับท่านหญิงอายากะแล้วเจอกันพรุ่งนี้” เรย์โค้งคำนับให้ก่อนที่จะหยิบเอกสารและเดินออกไป
 
ประตูห้องทำงานถูกเปิดขึ้นอีกครั้งด้วยฝีมือของนารุโตะและโนบุ
“มีอะไรกับฉันอีกยะเนี่ย ฉันจะรีบทำงาน!” หญิงสาวตะโกนออกมาทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากม้วนรายงาน
“ก็เมื่อกี้น่ะอาเจ๊ ผมรู้สึกถึงจิตสังหารที่โคตรจะรุนแรงเลยนา!” นารุโตะตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“ใช่ครับท่านหญิงผมก็สัมผัสได้เช่นกันเลยรีบวิ่งมาทางนี้เผื่อจะเกิดอันตรายอะไร”
“เออไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันไม่ยักจะรู้สึกอะไรเลยสักนิด นายก็อีกโนบุคิดมากไปเองรึป่าวเสียชื่อตระกูลหมด…นี่นายอีกนารุโตะอย่าเพิ่งกลับนะรอฉันเขียนรายงานภารกิจให้เสร็จก่อนแล้วฉันจะไปส่งนายเอง”
“ได้ไงกันอาเจ๊! ผมเดินกลับคนเดียวได้น่า อย่าห่วง ๆ” เด็กหนุ่มรีบยกมือขึ้นมาห้ามทันที
“ไม่ได้! เดี๋ยวฉันก็เขียนเสร็จแล้วน่าแค่แป๊ปเดียว นายอยากจะไปเดินเล่นซอกไหนมุมไหนของบ้านก็เชิญตามสบายฝากดูแลด้วยนะโนบุจนกว่าฉันจะเขียนรายงานเสร็จ” พูดจบหญิงสาวก็รีบโบกมือไล่ทั้งสองคนให้ออกจากห้องแทบจะทันที
          ถ้าว่ากันตามความรู้สึกแล้ว ต้องใช่แน่ ๆ เจ้าเรย์คนนั้นเป็นอิทาจิอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม อายากะก็มั่นใจเพียงแค่แปดสิบเปอร์เซ็นต์ส่วนอีกยี่สิบนั้นก็อาจจะเป็นแค่คนที่บุคลิกคล้ายกันก็เท่านั้นเอง แล้วถ้าหากว่าเป็นอิทาจิจริง ๆ หมอนั่นต้องเข้ามาเพื่อสืบเรื่องสัตว์เก้าหางในตัวของนารุโตะอย่างแน่นอนเพราะฉะนั้นเธอจะไม่ยอมให้ใครมาพาตัวเจ้าเด็กหนวดแมวนั่นไปจากโคโนฮะเด็ดขาด ยังไงก็ตามจะต้องปกป้องเด็กคนนั้นด้วยชีวิตตามที่ได้ให้สัญญาไว้กับพี่ชายที่เป็นเพื่อนสนิทของท่านรุ่นสี่ว่าจะดูแลเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา