{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story
-
เขียนโดย LadyTyrell
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.
26 ตอน
0 วิจารณ์
25.76K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) ท่านหญิงฟูจิวาระ อายากะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เสียงนาฬิกาปลุกไม่ได้ช่วยให้คนขี้เซาที่เพิ่งจะได้นอนพักตอนตีสามกว่า ๆ ตื่นขึ้นมาเลยสักนิด อายากะยังคงสวมเสื้อปฏิบัติภารกิจของโจนิน แสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้อาบน้ำชำระร่างกายตั้งแต่มาถึงเมื่อวานแล้ว
“ท่านหญิงคะ ตื่นได้แล้วค่ะ อีกสามสิบนาทีจะแปดโมงเช้าแล้วนะคะ” เสียงของฮากิซึ่งมีตำแหน่งเป็นแม่บ้านของตระกูลฟูจิวาระดังขึ้นอยู่หน้าห้องของผู้นำตระกูล
“อืมมมมม ฉันจะฆ่านายทิ้งซะ…รีบ ๆ มาจัดการไอ้เชือกนี่ให้ฉันซักทีซี่ตาแก่เอ้ย!” หญิงสาวผมยาวสลวยที่ตอนนี้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นผมฟูยุ่งเหยิงเพราะการเขียนรายงานภารกิจแบบโต้รุ่งนั้นตะโกนโหวกเหวกโวยวายเพราะความฝันอันร้ายแรง
“ถ้าหากว่าไม่ยอมตื่นป้าจะขอเข้าไปปลุกให้ถึงที่แล้วนะคะท่านหญิง…อย่าลืมสิคะว่ามีนัดส่งรายงานภารกิจให้กับท่านโฮคาเงะเวลาแปดโมงเช้านี่ก็ใกล้เวลาแล้วนะคะ”
“ให้ตายสิ ภารกิจบ้านี่!” เมื่อได้ยินเพียงคำว่าส่งรายงานภารกิจและคำว่าท่านโฮคาเงะ จากอาการขี้เซาของอายากะก็หายเป็นปลิดทิ้ง “ช่วยไม่ได้นี่นะ” เธอพึมพำก่อนลุกออกจากเตียงพร้อมกับควานหาม้วนรายงานภารกิจบนโต๊ะทำงานด้วยความเร่งรีบ
“ตื่นแล้วค่า ป้าฮากิ” รีบเปิดประตูห้องออกมาด้วยความรวดเร็วทันที
สภาพของอายากะนั้นทำเอาแม่บ้านของตระกูลฟูจิวาระตกใจอยู่พักใหญ่ ๆ ด้วยความที่ว่าหญิงสาวยังคงสวมชุดปฏิบัติภารกิจของโจนินและผมเพ้าก็ยังดูยุ่งเหยิงจนขัดหูขัดตา
“เอ่อ…ป้าว่าท่านหญิงควรจะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วค่อยไปส่งรายงานก็ได้นะคะ” คนอาวุโสแนะนำด้วยความหวังดี
“ไม่ได้หรอกค่ะป้า มันใกล้จะแปดโมงแล้วไม่ใช่หรือไง เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันค่อยกลับมาจัดการตัวเองจะดีกว่า” หญิงสาวส่งยิ้มแฉ่งให้กับฮากิก่อนที่จะรีบวิ่งลงไปยังชั้นล่างเพื่อออกจากบ้านไปที่ทำการของโฮคาเงะ
ภายในห้องทำงานของโฮคาเงะ ซึนาเดะยังคงนั่งอ่านเอกสารด้วยท่าทางเคร่งเครียด ถ้ารู้ว่าเป็นโฮคาเงะแล้วจะได้ป๊ะหน้ากับเอกสารตลอดเวลาอยู่แบบนี้ สู้ไม่รับตำแหน่งคงจะดีซะกว่า
“เฮ้อ…” โฮคาเงะสาววางแผ่นเอกสารนั้นด้วยความขี้เกียจแต่สุดท้ายก็ต้องหยิบมันขึ้นมาอ่านพิจารณาอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้เมื่อถูกชิสึเนะส่งทั้งเสียงและสายตาปราม
“ท่านซึนาเดะคะ อย่าเชียวนะคะ”
“เออรู้แล้วน่า” ซึนาเดะโบกมืออย่างไม่ใส่ใจพร้อมกับปั๊มตราประทับลงเอกสารแผ่นแล้วแผ่นเล่าจนประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“เอารายงานภารกิจมาส่งแล้วนะคะป้าซึนาเดะ” อายากะส่งยิ้มกวน ๆ เล็กน้อยให้กับซึนาเดะ
“นี่เธอ!” โฮคาเงะสาวขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกคุ้นหน้าค่าตาของหญิงสาวคนนี้แต่ดูจากสภาพของหล่อนตอนนี้แล้วท่าท่างจะจำได้ยากพอควร
“ท่านซึนาเดะคะ อายากะยังไงล่ะคะ” ชิสึเนะที่เพิ่งจะนึกขึ้นได้รีบเอ่ยทักท้วงทันที ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหล่อนกันแน่สภาพถึงได้เยินขนาดนี้
“นี่เธอไปทำอะไรมาน่ะ ทำไมสภาพถึงดูไม่ได้อย่างนี้?” ซึนาเดะเท้าค้างพร้อมกับถามออกไปด้วยความสงสัย
“ก็แหม…จะอะไรอีกล่ะ ภารกิจบ้าบอคอแตกของป้ายังไงล่ะ ฉันต้องไปประจำการที่ชายแดนของแคว้นตั้งสองเดือนเพิ่งจะกลับมาถึงเมื่อวานกว่าจะได้นอนก็ตีสามกว่า ๆ เพราะเจ้ารายงานภารกิจเนี่ยแหละ หวังว่าฉันคงจะได้วันหยุดพักผ่อนนะคะ”
“หน็อยยายเด็กบ้านี่ กล้าว่าภารกิจที่ฉันให้มันบ้าบอคอแตกเหรอยะ!”
“ก็ใช่น่ะสิ” อายากะตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “แหมล้อเล่นค่า ใครจะไปกล้าว่าภารกิจที่ป้าให้เป็นภารกิจบ้าบอคอแตกกันล่ะคะ”
“เออก็ดีแล้ว ฉันอนุมัติให้เธอหยุดได้จนถึงวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
“แหมหยุดพักตั้งสองวันแบบนี้ทำภารกิจต่อเลยไม่ดีกว่ารึไง” แอบพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง
“ว่ายังไงนะ? หรือเธออยากจะรับภารกิจต่อเลยล่ะ?” สายตาพิฆาตของซึนาเดะส่งมาทำให้อายากะรีบปฏิเสธแทบจะทันที
“ป่าวค่า ๆ ก็แบบว่าวันหยุดที่ป้าให้ถูกใจฉันน่ะสิคะ”
“งั้นเหรอ…งั้นก็ไปจัดการพักผ่อนซะ สภาพเธอนี่ช่างไม่น่าดูเลยจริง ๆ”
หลังจากกลับจากรายงานภารกิจเสร็จเรียบร้อยแล้วอายากะจึงรีบตรงดิ่งไปยังบ้านด้วยความรวดเร็ว ไม่คิดว่าจะมีคนทักเธอถึงเรื่องสภาพที่ดูไม่ได้ ก็แหงล่ะเพราะอดหลับอดนอนคิดแล้วก็เจ็บใจตัวเองจริง ๆ ที่ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลตัวเองถึงเพียงนี้
“กลับมาแล้วหรือคะท่านหญิง” ฮากิที่กำลังจัดตะกร้าผลไม้อยู่นั้นรีบเอ่ยทักทายผู้นำตระกูลทันทีเมื่อเห็นว่าใบหน้าของอายากะดูไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่
“ค่ะ ขอตัวไปจัดการตัวเองสักครู่นะคะ”
ท่ามกลางถนนย่านการค้าของหมู่บ้านโคโนฮะ เด็กหนุ่มผมสีเหลืองนามว่าอุสึมากิ นารุโตะกำลังเดินเลียบถนนไปด้วยความเบื่อหน่าย เด็กหนุ่มทำหน้าซังกะตายสุดชีวิตเพราะไม่มีภารกิจให้ทำมาหลายวันแล้วแต่ทันใดนั้นดวงตากลมโตสีฟ้าของเขาก็เหลือบไปป๊ะเข้ากับหัวหน้าทีม7ที่กำลังเดินอ่านหนังสืออะจึ๋ยโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ‘มันน่านักไหมละ ทั้ง ๆ ที่ภารกิจก็ไม่มีจะให้ทำเจ้าครูนี่ยังมาอ่านนิยายลามกนั่นอย่างสบายอารมณ์อย่างนั้นเรอะ’ เด็กหนุ่มร้องในใจพลางวิ่งสี่คูณร้อยเข้าไปหาเป้าหมายด้วยความเร็วแสง
“นี่ครูคาคาชิ มาอ่านหนังสือสบายใจเฉิบอยู่ได้” เด็กหนุ่มผมเหลืองยืนจังก้าชี้หน้าผู้เป็นครูด้วยท่าทางตำหนิติเตียนทันที
“ไงนารุโตะ” โจนินผมเงินเลือกที่จะไม่ใส่ใจกับคำพูดตำหนิของลูกทีม
“อะไรกันเนี่ย ผมกำลังเตือนสติครูอยู่นะ! ไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง” นารุโตะชูกำปั้นขึ้นมาด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง
“ก็…ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนี่” คาคาชิพูดพลางส่งยิ้มตาหยีให้กับลูกศิษย์ คิดแล้วก็เหนื่อยใจจริง ๆ ที่ต้องมาเป็นหัวหน้าทีมให้กับเจ้าเด็กนี่
“ชิ! ภารกิจก็ไม่มีให้ทำ”
“เอาน่านารุโตะ เดี๋ยวมันก็มีมาเองแหละ เอาล่ะฉันต้องไปก่อนนะไว้เจอกัน” พูดจบโจนินผมเงินก็รีบหายตัวไปทันทีไม่ทันให้นารุโตะได้ทักท้วงอะไรเลยสักนิด
“ปั๊ดโธ่เว้ยเจ้าครูคาคาชิ ตาแก่อ่านหนังสือลามกเอ้ย!” เด็กหนุ่มบ่นด้วยท่าทางหัวเสียก่อนที่จะตัดสินใจเดินกลับห้อง
ชายหนุ่มผมสีเงินในชุดโจนินยืนอยู่หน้าแท่นจารึกพร้อมกับหลับตาลงเพื่อระลึกถึงเพื่อนรักอย่างอุจิวะ โอบิโตะที่เสียชีวิตไประหว่างการทำภารกิจด้วยกัน เมื่อเขาลืมตาเรียบร้อยแล้วจึงรีบวางช่อดอกไม้ที่เพิ่งจะแวะซื้อก่อนที่จะมาที่นี่ไว้ตรงแท่นจารึกด้วยความนุ่มนวล
“เหมือนกับมันเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง…” เขาพึมพำออกมาพร้อมกับเตรียมตัวที่จะเดินหันหลังให้กับแท่นจารึกนั้นแต่ก็ต้องหยุดฝีเท้าซะก่อนเมื่อได้ยินเสียงทักทายของผู้มาใหม่
“ไงตาแก่ลามกสบายดีไหม ไม่เจอกันนานเลยนี่นะ” เสียงสดใสของหญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปีในชุดลำลองเรียกทำให้คาคาชิต้องหันกลับไปมองด้วยความสนใจ คนที่เรียกเขาว่าตาแก่ลามกก็คงจะมีแค่คนเดียวนั่นก็คืออดีตสมาชิกหน่วยลับอย่างท่านหญิงฟูจิวาระ
“แหม ๆ ทักทายฉันด้วยคำพูดอันร้ายกาจอีกแล้วนะท่านหญิงฟูจิวาระ” เขาส่งยิ้มตาหยีให้กับเธอทีนึงก่อนที่จะหยิบนิยายของท่านจิไรยะขึ้นมาอ่านต่อด้วยสีหน้าและแววตาเบื่อโลก
“เฮอะให้มันได้อย่างนี้ซี่ ไม่ว่าจะกี่ปี ๆ นายนี่ก็เป็นตาแก่ลามกอยู่วันยังค่ำล่ะน้า” อายากะยิ้มล้อเลียนอดีตเพื่อนร่วมงานเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าแท่นจารึกพร้อมกับวางช่อดอกไม้ไว้ข้าง ๆ ช่อที่เพิ่งจะวางหมาด ๆ
“นั่นสินะ…เธอเป็นยังไงบ้างล่ะได้ข่าวว่าท่านซึนาเดะให้พักแค่สองวันเองนี่”
“ฉันสบายดีแต่กลับมาคราวนี้ภาระคงเยอะขึ้นกว่าเดิมเพราะมีเรื่องตระกูลให้ต้องรับผิดชอบ…เออใช่แล้วยายป้าซึนาเดะโหดชะมัด จะให้พักซักหนึ่งอาทิตย์ก็ไม่ได้ใจดำจริง ๆ เล้ย” โจนินสาวบ่นกระปอดกระแปด
“ช่วยไม่ได้นี่นะเพื่อหมู่บ้าน” สิ้นประโยคของโจนินผมเงินก็พลันให้อายากะนึกไปถึงอากิระพี่ชายของตัวเองที่เป็นผู้นำตระกูลคนก่อน
“เออก็คงจะเป็นอย่างนั้น” เธอพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเขาพร้อมกับเดินออกมาจากแท่นจารึกด้วยกัน
“ว่าแต่ได้เจอกับนารุโตะหรือยังล่ะ?” คาคาชิถามขณะที่ตายังคงจ้องอ่านอะจึ๋ยส่วนเท้าก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ
“ตั้งแต่กลับมาก็ยังไม่ได้เจอเลย ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นจะโตขึ้นแค่ไหนแล้ว จะว่าไปฉันก็ไม่ได้ดูแลเขาแบบใกล้ชิดด้วยสิ ก็แค่ส่งเงินค่าที่พักและค่าเลี้ยงดูผ่านทางท่านรุ่นสาม”
“นั่นสินะ เธอควรจะไปเยี่ยมเด็กคนนั้นซะหน่อย” คาคาชิอดที่จะออกความเห็นไม่ได้เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเก้าหางบุกถล่มหมู่บ้านและท่านรุ่นสี่ก็จัดการผนึกไว้กับตัวนารุโตะ เด็กคนนั้นก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด
ถึงแม้ว่าท่านอากิระโจนินระดับแนวหน้าของหมู่บ้านผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับท่านรุ่นสี่ได้ให้สัญญากับท่านรุ่นสี่ว่าจะช่วยดูแลนารุโตะแต่สุดท้ายก็มีเหตุทำให้ไม่ได้ดูแลอย่างที่ว่าไว้ จนต้องส่งเงินค่าเลี้ยงดูผ่านทางท่านรุ่นสามแทนและมากไปกว่านั้นเมื่ออากิระเสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจเขาได้สั่งเสียไว้ว่าให้น้องสาวคนเดียวอย่างอายากะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายและหากเป็นไปได้ให้เข้าไปทำความรู้จักและดูแลนารุโตะแต่เพราะตอนนั้นโจนินสาวอายุยังน้อยและทำงานอยู่ในหน่วยลับจึงไม่ค่อยจะมีเวลาสักเท่าไหร่สุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิมที่ว่าส่งเสียแค่เงินแต่ไม่ได้เข้าไปดูแลอย่างจริงจัง
“ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนี่…ล่าสุดที่ฉันเจอกับเด็กนั่นก็ก่อนที่ฉันจะออกไปทำภารกิจประจำการที่ชายแดน” อายากะพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย
“งั้นเธอก็รีบไปดูเด็กนั่นซะสิ เมื่อกี้ก็เพิ่งจะมาโวยวายเรื่องภารกิจกับฉันอยู่หยก ๆ” คาคาชิพูดด้วยท่าทางเบื่อโลกก่อนที่จะหายตัวแวบไปเสียเฉย ๆ
“อ้าวตาแก่ลามกนี่คิดจะไปก็ไม่ลากันสักคำ…หน็อยแน่อย่าให้ได้เจออีกรอบนะฉันจะแจกบาทากระทืบมารเข้าให้”
เสียงเคาะประตูห้องทำให้เด็กหนุ่มผมสีเหลืองที่กำลังกินบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อยอดที่จะแปลกใจไม่ได้เพราะปกติแล้วนาน ๆ ทีถึงจะมีคนมาหาเขาถึงห้องแบบนี้
“เอ๋…หรือว่าเจ้าครูคาคาชิมาเรียกเราไปทำภารกิจ” เมื่อคิดได้แบบนั้นจึงรีบวางถ้วยบะหมี่ลงทันทีพร้อมกับวิ่งไปที่ประตูและตะโกนอย่างอารมณ์ดี “คร้าบบบครูคาคาชิผมจะรีบไปเปิดเดี๋ยวนี้แหละคร้าบ…ว่าแต่ภารกิจอะไรหน๊ออออ”
แต่พอเปิดประตูห้องออกมานารุโตะก็แทบจะอ้าปากค้างทันทีเพราะคนที่ยืนอยู่หน้าห้องไม่ใช่คาคาชิแต่กลับเป็นหญิงสาวผมยาวสลวยสีส้มในชุดลำลอง หล่อนผูกกระบังหน้าผากไว้ที่คอ
“เคาะผิดห้องรึป่าวครับพี่สาว?”
“ฉันมาหาเธอนั่นแหละนารุโตะ จำฉันไม่ได้รึไง?” อายากะถามด้วยความแปลกใจ
“เอ๋…เดี๋ยวนะจะว่าไป หน้าตาของพี่ก็ดูคุ้น ๆ นะ เหมือนใครซักคนที่ผมเคยรู้จัก!” เด็กหนุ่มทำหน้านึกด้วยความประหลาดใจ “เอ๋ใครกันหว่า”
“นี่เจ้าเด็กบ้าจะนึกอีกนานไหมยะ!” สิ้นเสียงตะโกนอย่างโมโหของอายากะ นารุโตะจึงนึกขึ้นได้ทันที
“อาซิ้ม เอ้ย อาเจ๊นี่เอง แหม ๆ ไม่ได้แต่งหน้านี่ดูหน้าเด็กลงไปมากโขเลยนา” เด็กหนุ่มเกาหัวด้วยความเก้อเขิน
“หน็อย ๆ หาว่าฉันเป็นอาซิ้มหรือยะเจ้าเด็กบ้า!”
“เอ่อ ปะ…เปล่านะ ก็แบบว่า ๆ ผมจะชมตังหากล่ะว่าอาเจ๊ดูหน้าเด็กขึ้นกว่าเดิม ฮ่ะ ๆ”
“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วย่ะ ว่าแต่วันนี้เธอพอจะว่างมั้ยล่ะ?”
“จะชวนผมเดทเหรอ?” นารุโตะหน้าแดงขึ้นมาทันที
“เจ้าเด็กแก่แดด! ฉันก็แค่จะชวนนายออกไปเลี้ยงอะไรนิดหน่อย อยากจะกินอะไรว่ามาเลย วันนี้ฉันจ่ายเอง!”
“เห จริงเด้? งั้นผมไม่เกรงใจละน้า”
“เออเร็ว ๆ เข้าก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ!”
“ท่านหญิงคะ ตื่นได้แล้วค่ะ อีกสามสิบนาทีจะแปดโมงเช้าแล้วนะคะ” เสียงของฮากิซึ่งมีตำแหน่งเป็นแม่บ้านของตระกูลฟูจิวาระดังขึ้นอยู่หน้าห้องของผู้นำตระกูล
“อืมมมมม ฉันจะฆ่านายทิ้งซะ…รีบ ๆ มาจัดการไอ้เชือกนี่ให้ฉันซักทีซี่ตาแก่เอ้ย!” หญิงสาวผมยาวสลวยที่ตอนนี้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นผมฟูยุ่งเหยิงเพราะการเขียนรายงานภารกิจแบบโต้รุ่งนั้นตะโกนโหวกเหวกโวยวายเพราะความฝันอันร้ายแรง
“ถ้าหากว่าไม่ยอมตื่นป้าจะขอเข้าไปปลุกให้ถึงที่แล้วนะคะท่านหญิง…อย่าลืมสิคะว่ามีนัดส่งรายงานภารกิจให้กับท่านโฮคาเงะเวลาแปดโมงเช้านี่ก็ใกล้เวลาแล้วนะคะ”
“ให้ตายสิ ภารกิจบ้านี่!” เมื่อได้ยินเพียงคำว่าส่งรายงานภารกิจและคำว่าท่านโฮคาเงะ จากอาการขี้เซาของอายากะก็หายเป็นปลิดทิ้ง “ช่วยไม่ได้นี่นะ” เธอพึมพำก่อนลุกออกจากเตียงพร้อมกับควานหาม้วนรายงานภารกิจบนโต๊ะทำงานด้วยความเร่งรีบ
“ตื่นแล้วค่า ป้าฮากิ” รีบเปิดประตูห้องออกมาด้วยความรวดเร็วทันที
สภาพของอายากะนั้นทำเอาแม่บ้านของตระกูลฟูจิวาระตกใจอยู่พักใหญ่ ๆ ด้วยความที่ว่าหญิงสาวยังคงสวมชุดปฏิบัติภารกิจของโจนินและผมเพ้าก็ยังดูยุ่งเหยิงจนขัดหูขัดตา
“เอ่อ…ป้าว่าท่านหญิงควรจะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วค่อยไปส่งรายงานก็ได้นะคะ” คนอาวุโสแนะนำด้วยความหวังดี
“ไม่ได้หรอกค่ะป้า มันใกล้จะแปดโมงแล้วไม่ใช่หรือไง เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันค่อยกลับมาจัดการตัวเองจะดีกว่า” หญิงสาวส่งยิ้มแฉ่งให้กับฮากิก่อนที่จะรีบวิ่งลงไปยังชั้นล่างเพื่อออกจากบ้านไปที่ทำการของโฮคาเงะ
ภายในห้องทำงานของโฮคาเงะ ซึนาเดะยังคงนั่งอ่านเอกสารด้วยท่าทางเคร่งเครียด ถ้ารู้ว่าเป็นโฮคาเงะแล้วจะได้ป๊ะหน้ากับเอกสารตลอดเวลาอยู่แบบนี้ สู้ไม่รับตำแหน่งคงจะดีซะกว่า
“เฮ้อ…” โฮคาเงะสาววางแผ่นเอกสารนั้นด้วยความขี้เกียจแต่สุดท้ายก็ต้องหยิบมันขึ้นมาอ่านพิจารณาอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้เมื่อถูกชิสึเนะส่งทั้งเสียงและสายตาปราม
“ท่านซึนาเดะคะ อย่าเชียวนะคะ”
“เออรู้แล้วน่า” ซึนาเดะโบกมืออย่างไม่ใส่ใจพร้อมกับปั๊มตราประทับลงเอกสารแผ่นแล้วแผ่นเล่าจนประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“เอารายงานภารกิจมาส่งแล้วนะคะป้าซึนาเดะ” อายากะส่งยิ้มกวน ๆ เล็กน้อยให้กับซึนาเดะ
“นี่เธอ!” โฮคาเงะสาวขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกคุ้นหน้าค่าตาของหญิงสาวคนนี้แต่ดูจากสภาพของหล่อนตอนนี้แล้วท่าท่างจะจำได้ยากพอควร
“ท่านซึนาเดะคะ อายากะยังไงล่ะคะ” ชิสึเนะที่เพิ่งจะนึกขึ้นได้รีบเอ่ยทักท้วงทันที ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหล่อนกันแน่สภาพถึงได้เยินขนาดนี้
“นี่เธอไปทำอะไรมาน่ะ ทำไมสภาพถึงดูไม่ได้อย่างนี้?” ซึนาเดะเท้าค้างพร้อมกับถามออกไปด้วยความสงสัย
“ก็แหม…จะอะไรอีกล่ะ ภารกิจบ้าบอคอแตกของป้ายังไงล่ะ ฉันต้องไปประจำการที่ชายแดนของแคว้นตั้งสองเดือนเพิ่งจะกลับมาถึงเมื่อวานกว่าจะได้นอนก็ตีสามกว่า ๆ เพราะเจ้ารายงานภารกิจเนี่ยแหละ หวังว่าฉันคงจะได้วันหยุดพักผ่อนนะคะ”
“หน็อยยายเด็กบ้านี่ กล้าว่าภารกิจที่ฉันให้มันบ้าบอคอแตกเหรอยะ!”
“ก็ใช่น่ะสิ” อายากะตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “แหมล้อเล่นค่า ใครจะไปกล้าว่าภารกิจที่ป้าให้เป็นภารกิจบ้าบอคอแตกกันล่ะคะ”
“เออก็ดีแล้ว ฉันอนุมัติให้เธอหยุดได้จนถึงวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
“แหมหยุดพักตั้งสองวันแบบนี้ทำภารกิจต่อเลยไม่ดีกว่ารึไง” แอบพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง
“ว่ายังไงนะ? หรือเธออยากจะรับภารกิจต่อเลยล่ะ?” สายตาพิฆาตของซึนาเดะส่งมาทำให้อายากะรีบปฏิเสธแทบจะทันที
“ป่าวค่า ๆ ก็แบบว่าวันหยุดที่ป้าให้ถูกใจฉันน่ะสิคะ”
“งั้นเหรอ…งั้นก็ไปจัดการพักผ่อนซะ สภาพเธอนี่ช่างไม่น่าดูเลยจริง ๆ”
หลังจากกลับจากรายงานภารกิจเสร็จเรียบร้อยแล้วอายากะจึงรีบตรงดิ่งไปยังบ้านด้วยความรวดเร็ว ไม่คิดว่าจะมีคนทักเธอถึงเรื่องสภาพที่ดูไม่ได้ ก็แหงล่ะเพราะอดหลับอดนอนคิดแล้วก็เจ็บใจตัวเองจริง ๆ ที่ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลตัวเองถึงเพียงนี้
“กลับมาแล้วหรือคะท่านหญิง” ฮากิที่กำลังจัดตะกร้าผลไม้อยู่นั้นรีบเอ่ยทักทายผู้นำตระกูลทันทีเมื่อเห็นว่าใบหน้าของอายากะดูไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่
“ค่ะ ขอตัวไปจัดการตัวเองสักครู่นะคะ”
ท่ามกลางถนนย่านการค้าของหมู่บ้านโคโนฮะ เด็กหนุ่มผมสีเหลืองนามว่าอุสึมากิ นารุโตะกำลังเดินเลียบถนนไปด้วยความเบื่อหน่าย เด็กหนุ่มทำหน้าซังกะตายสุดชีวิตเพราะไม่มีภารกิจให้ทำมาหลายวันแล้วแต่ทันใดนั้นดวงตากลมโตสีฟ้าของเขาก็เหลือบไปป๊ะเข้ากับหัวหน้าทีม7ที่กำลังเดินอ่านหนังสืออะจึ๋ยโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ‘มันน่านักไหมละ ทั้ง ๆ ที่ภารกิจก็ไม่มีจะให้ทำเจ้าครูนี่ยังมาอ่านนิยายลามกนั่นอย่างสบายอารมณ์อย่างนั้นเรอะ’ เด็กหนุ่มร้องในใจพลางวิ่งสี่คูณร้อยเข้าไปหาเป้าหมายด้วยความเร็วแสง
“นี่ครูคาคาชิ มาอ่านหนังสือสบายใจเฉิบอยู่ได้” เด็กหนุ่มผมเหลืองยืนจังก้าชี้หน้าผู้เป็นครูด้วยท่าทางตำหนิติเตียนทันที
“ไงนารุโตะ” โจนินผมเงินเลือกที่จะไม่ใส่ใจกับคำพูดตำหนิของลูกทีม
“อะไรกันเนี่ย ผมกำลังเตือนสติครูอยู่นะ! ไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง” นารุโตะชูกำปั้นขึ้นมาด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง
“ก็…ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนี่” คาคาชิพูดพลางส่งยิ้มตาหยีให้กับลูกศิษย์ คิดแล้วก็เหนื่อยใจจริง ๆ ที่ต้องมาเป็นหัวหน้าทีมให้กับเจ้าเด็กนี่
“ชิ! ภารกิจก็ไม่มีให้ทำ”
“เอาน่านารุโตะ เดี๋ยวมันก็มีมาเองแหละ เอาล่ะฉันต้องไปก่อนนะไว้เจอกัน” พูดจบโจนินผมเงินก็รีบหายตัวไปทันทีไม่ทันให้นารุโตะได้ทักท้วงอะไรเลยสักนิด
“ปั๊ดโธ่เว้ยเจ้าครูคาคาชิ ตาแก่อ่านหนังสือลามกเอ้ย!” เด็กหนุ่มบ่นด้วยท่าทางหัวเสียก่อนที่จะตัดสินใจเดินกลับห้อง
ชายหนุ่มผมสีเงินในชุดโจนินยืนอยู่หน้าแท่นจารึกพร้อมกับหลับตาลงเพื่อระลึกถึงเพื่อนรักอย่างอุจิวะ โอบิโตะที่เสียชีวิตไประหว่างการทำภารกิจด้วยกัน เมื่อเขาลืมตาเรียบร้อยแล้วจึงรีบวางช่อดอกไม้ที่เพิ่งจะแวะซื้อก่อนที่จะมาที่นี่ไว้ตรงแท่นจารึกด้วยความนุ่มนวล
“เหมือนกับมันเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง…” เขาพึมพำออกมาพร้อมกับเตรียมตัวที่จะเดินหันหลังให้กับแท่นจารึกนั้นแต่ก็ต้องหยุดฝีเท้าซะก่อนเมื่อได้ยินเสียงทักทายของผู้มาใหม่
“ไงตาแก่ลามกสบายดีไหม ไม่เจอกันนานเลยนี่นะ” เสียงสดใสของหญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปีในชุดลำลองเรียกทำให้คาคาชิต้องหันกลับไปมองด้วยความสนใจ คนที่เรียกเขาว่าตาแก่ลามกก็คงจะมีแค่คนเดียวนั่นก็คืออดีตสมาชิกหน่วยลับอย่างท่านหญิงฟูจิวาระ
“แหม ๆ ทักทายฉันด้วยคำพูดอันร้ายกาจอีกแล้วนะท่านหญิงฟูจิวาระ” เขาส่งยิ้มตาหยีให้กับเธอทีนึงก่อนที่จะหยิบนิยายของท่านจิไรยะขึ้นมาอ่านต่อด้วยสีหน้าและแววตาเบื่อโลก
“เฮอะให้มันได้อย่างนี้ซี่ ไม่ว่าจะกี่ปี ๆ นายนี่ก็เป็นตาแก่ลามกอยู่วันยังค่ำล่ะน้า” อายากะยิ้มล้อเลียนอดีตเพื่อนร่วมงานเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าแท่นจารึกพร้อมกับวางช่อดอกไม้ไว้ข้าง ๆ ช่อที่เพิ่งจะวางหมาด ๆ
“นั่นสินะ…เธอเป็นยังไงบ้างล่ะได้ข่าวว่าท่านซึนาเดะให้พักแค่สองวันเองนี่”
“ฉันสบายดีแต่กลับมาคราวนี้ภาระคงเยอะขึ้นกว่าเดิมเพราะมีเรื่องตระกูลให้ต้องรับผิดชอบ…เออใช่แล้วยายป้าซึนาเดะโหดชะมัด จะให้พักซักหนึ่งอาทิตย์ก็ไม่ได้ใจดำจริง ๆ เล้ย” โจนินสาวบ่นกระปอดกระแปด
“ช่วยไม่ได้นี่นะเพื่อหมู่บ้าน” สิ้นประโยคของโจนินผมเงินก็พลันให้อายากะนึกไปถึงอากิระพี่ชายของตัวเองที่เป็นผู้นำตระกูลคนก่อน
“เออก็คงจะเป็นอย่างนั้น” เธอพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเขาพร้อมกับเดินออกมาจากแท่นจารึกด้วยกัน
“ว่าแต่ได้เจอกับนารุโตะหรือยังล่ะ?” คาคาชิถามขณะที่ตายังคงจ้องอ่านอะจึ๋ยส่วนเท้าก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ
“ตั้งแต่กลับมาก็ยังไม่ได้เจอเลย ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นจะโตขึ้นแค่ไหนแล้ว จะว่าไปฉันก็ไม่ได้ดูแลเขาแบบใกล้ชิดด้วยสิ ก็แค่ส่งเงินค่าที่พักและค่าเลี้ยงดูผ่านทางท่านรุ่นสาม”
“นั่นสินะ เธอควรจะไปเยี่ยมเด็กคนนั้นซะหน่อย” คาคาชิอดที่จะออกความเห็นไม่ได้เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเก้าหางบุกถล่มหมู่บ้านและท่านรุ่นสี่ก็จัดการผนึกไว้กับตัวนารุโตะ เด็กคนนั้นก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด
ถึงแม้ว่าท่านอากิระโจนินระดับแนวหน้าของหมู่บ้านผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับท่านรุ่นสี่ได้ให้สัญญากับท่านรุ่นสี่ว่าจะช่วยดูแลนารุโตะแต่สุดท้ายก็มีเหตุทำให้ไม่ได้ดูแลอย่างที่ว่าไว้ จนต้องส่งเงินค่าเลี้ยงดูผ่านทางท่านรุ่นสามแทนและมากไปกว่านั้นเมื่ออากิระเสียชีวิตในการปฏิบัติภารกิจเขาได้สั่งเสียไว้ว่าให้น้องสาวคนเดียวอย่างอายากะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายและหากเป็นไปได้ให้เข้าไปทำความรู้จักและดูแลนารุโตะแต่เพราะตอนนั้นโจนินสาวอายุยังน้อยและทำงานอยู่ในหน่วยลับจึงไม่ค่อยจะมีเวลาสักเท่าไหร่สุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิมที่ว่าส่งเสียแค่เงินแต่ไม่ได้เข้าไปดูแลอย่างจริงจัง
“ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนี่…ล่าสุดที่ฉันเจอกับเด็กนั่นก็ก่อนที่ฉันจะออกไปทำภารกิจประจำการที่ชายแดน” อายากะพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย
“งั้นเธอก็รีบไปดูเด็กนั่นซะสิ เมื่อกี้ก็เพิ่งจะมาโวยวายเรื่องภารกิจกับฉันอยู่หยก ๆ” คาคาชิพูดด้วยท่าทางเบื่อโลกก่อนที่จะหายตัวแวบไปเสียเฉย ๆ
“อ้าวตาแก่ลามกนี่คิดจะไปก็ไม่ลากันสักคำ…หน็อยแน่อย่าให้ได้เจออีกรอบนะฉันจะแจกบาทากระทืบมารเข้าให้”
เสียงเคาะประตูห้องทำให้เด็กหนุ่มผมสีเหลืองที่กำลังกินบะหมี่อย่างเอร็ดอร่อยอดที่จะแปลกใจไม่ได้เพราะปกติแล้วนาน ๆ ทีถึงจะมีคนมาหาเขาถึงห้องแบบนี้
“เอ๋…หรือว่าเจ้าครูคาคาชิมาเรียกเราไปทำภารกิจ” เมื่อคิดได้แบบนั้นจึงรีบวางถ้วยบะหมี่ลงทันทีพร้อมกับวิ่งไปที่ประตูและตะโกนอย่างอารมณ์ดี “คร้าบบบครูคาคาชิผมจะรีบไปเปิดเดี๋ยวนี้แหละคร้าบ…ว่าแต่ภารกิจอะไรหน๊ออออ”
แต่พอเปิดประตูห้องออกมานารุโตะก็แทบจะอ้าปากค้างทันทีเพราะคนที่ยืนอยู่หน้าห้องไม่ใช่คาคาชิแต่กลับเป็นหญิงสาวผมยาวสลวยสีส้มในชุดลำลอง หล่อนผูกกระบังหน้าผากไว้ที่คอ
“เคาะผิดห้องรึป่าวครับพี่สาว?”
“ฉันมาหาเธอนั่นแหละนารุโตะ จำฉันไม่ได้รึไง?” อายากะถามด้วยความแปลกใจ
“เอ๋…เดี๋ยวนะจะว่าไป หน้าตาของพี่ก็ดูคุ้น ๆ นะ เหมือนใครซักคนที่ผมเคยรู้จัก!” เด็กหนุ่มทำหน้านึกด้วยความประหลาดใจ “เอ๋ใครกันหว่า”
“นี่เจ้าเด็กบ้าจะนึกอีกนานไหมยะ!” สิ้นเสียงตะโกนอย่างโมโหของอายากะ นารุโตะจึงนึกขึ้นได้ทันที
“อาซิ้ม เอ้ย อาเจ๊นี่เอง แหม ๆ ไม่ได้แต่งหน้านี่ดูหน้าเด็กลงไปมากโขเลยนา” เด็กหนุ่มเกาหัวด้วยความเก้อเขิน
“หน็อย ๆ หาว่าฉันเป็นอาซิ้มหรือยะเจ้าเด็กบ้า!”
“เอ่อ ปะ…เปล่านะ ก็แบบว่า ๆ ผมจะชมตังหากล่ะว่าอาเจ๊ดูหน้าเด็กขึ้นกว่าเดิม ฮ่ะ ๆ”
“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วย่ะ ว่าแต่วันนี้เธอพอจะว่างมั้ยล่ะ?”
“จะชวนผมเดทเหรอ?” นารุโตะหน้าแดงขึ้นมาทันที
“เจ้าเด็กแก่แดด! ฉันก็แค่จะชวนนายออกไปเลี้ยงอะไรนิดหน่อย อยากจะกินอะไรว่ามาเลย วันนี้ฉันจ่ายเอง!”
“เห จริงเด้? งั้นผมไม่เกรงใจละน้า”
“เออเร็ว ๆ เข้าก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ