{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story

-

เขียนโดย LadyTyrell

วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.

  26 ตอน
  0 วิจารณ์
  25.78K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

19) ภารกิจเร่งด่วน!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          ฟูจิวาระ อายากะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลอยู่ประมาณสองวันเพราะหลังจากกลับมาจากภารกิจเธอก็เกิดอาการจับไข้ สาเหตุก็คงไม่พ้นเรื่องที่บังเอิญไปเห็นของสงวนของคาคาชิอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“วันนี้ก็ออกได้แล้วล่ะจ้ะอายะจัง” เมื่อเห็นเพื่อนสนิทสาวทำหน้าไม่สบอารมณ์ยามานากะ ยูกิจึงบอกข่าวดีให้กับเจ้าหล่อน
“ออกตอนนี้เลยได้มั้ย? ฉันเบื่อจะแย่อยู่แล้วนะ”
“นี่ทำเป็นบ่นไปได้ ได้นอนแค่สองวันเอง” เก็นมะที่ยืนกอดอกพิงผนังรีบเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของเขาเริ่มจะบ่นเป็นหมีกินผึ้งขึ้นมาอีกรอบ
“ก็มันเบื่อนี่นา…ว่าแต่พวกนายสองคนน่ะเดทกันอยู่เหรอตัวติดกันเชียวนะช่วงนี้” เมื่อได้ทีอายากะจึงรีบยักคิ้วหลิ่วตาล้อเลียนเพื่อนสนิททั้งสองคน
“ก็ช่วงนี้ได้ทำภารกิจด้วยกันบ่อยนี่จ๊ะ” แก้มของยามานากะ ยูกิเริ่มที่จะขึ้นสีแดงระเรื่อเหมือนลูกตำลึงเข้าไปทุกที
“ก็ธรรมดา” ชิรานุอิ เก็นมะตอบเพียงสั้น ๆ ก่อนที่จะขอตัวกลับเพราะใกล้ถึงเวลาออกเดินทางไปทำภารกิจใหม่
“ทีแบบนี้ทำมาเป็นเก๊ก รอให้ฉันหายก่อนเถอะย่ะเจ้าเก็นมะ จะขออัดให้หายหมั่นไส้เลย!” โจนินสาวตะโกนไล่หลังก่อนที่จะสังเกตเห็นนกพิราบสีขาวบินผ่านหน้าต่างห้องซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าให้เธอรีบออกจากโรงพยาบาลในตอนนี้และไปรับภารกิจเร่งด่วนจากท่านโฮคาเงะ
 
ที่ทำการโฮคาเงะ
“ฉันยังไม่ได้การติดต่อกลับจากชิสึเนะแล้วก็อิรุกะกับนารุโตะที่ออกไปตามเจ้ามิทสึกินั่นเลย” โฮคาเงะสาวปั้นสีหน้าเครียดจนทำให้คนที่เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลรู้สึกเครียดตามไปด้วย
“ป้าหมายความว่าจะให้ฉันตามไปสมทบทั้งสองทีมเหรอคะ?”
“อือ…ก็ประมาณนั้นแหละแต่ว่าเมื่อกี้หน่วยแพทย์ส่งข่าวมาบอกว่าเจอทีมของชิสึเนะแล้วแต่ไม่เจอทีมของอิรุกะยังไงก็ฝากเธอจัดการด้วยล่ะ”
“รับทราบค่ะ”
 
 
          มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะตามหาทีมอิรุกะที่กำลังออกปฏิบัติภารกิจตามจับมิทสึกินักโทษที่แหกคุกออกมาเพราะครั้งนี้อายากะได้ตัวช่วยที่ดีอย่างสุนัขนินจาจากตระกูลอินุซึกะช่วยดมกลิ่นตามหากลุ่มทรีแมนซึ่งมีอิรุกะ นารุโตะและปั๊กคุงที่คาคาชิอัญเชิญมาให้ช่วยอิรุกะก่อนหน้านี้
“โฮ่ง!” เสียงเห่าของสุนัขนินจาดังขึ้นทำให้โจนินสาวต้องรีบเร่งสปีดความเร็วให้มากกว่าเดิม
“นี่มันเสื้อนักโทษนี่?” เธอพึมพำออกมาอย่างใช้ความคิดเมื่อเดินทางมาถึงสถานที่ที่คาดว่าน่าจะเกิดการปะทะกันก่อนหน้านี้
          เสื้อนักโทษหล่นเกลื่อนกลาดประมาณสามตัวส่วนรอยเท้าการเคลื่อนไหวบนพื้นก็พอจะดูออกว่าก่อนหน้านี้มีคนจำนวนห้าคนอยู่ที่นี่และสองในห้าคนนั้นต้องเป็นอิรุกะกับนารุโตะแน่ ๆ
“ลองดมหากลิ่นนารุโตะได้มั้ยเทรุ พวกนั้นน่าจะเพิ่งออกจากที่นี่ไป” หันไปสั่งการสุนัขนินจาแทบจะทันทีพร้อมกับเดินรอบ ๆ เพื่อสำรวจดูร่องรอย
 
          ฟูจิวาระ อายากะพบว่าสิ่งที่เธอสันนิษฐานไว้นั้นเป็นจริงตามที่คิดไว้ไม่มีผิดเพราะจากการเดินดูรอบ ๆ แล้วทำให้เจอมีดคุไนและดาวกระจายหล่นอยู่เกลื่อนกลาด เจ้าพวกนักโทษดันมีเจ้าฟูจินไรจินนั่นอีก พวกอิรุกะคงจะกำลังเจอศึกหนักอยู่แน่ ๆ
“โฮ่ง!” เสียงเทรุเห่าขึ้นเป็นสัญญาณให้อายากะเดินไปตามเสียงมัน
“เดี๋ยวนะถ้าแบบนี้ก็แสดงว่ารอยเท้าสิ้นสุดตรงนี้เป็นรอยเท้าเจ้าสองพี่น้องปัญญาอ่อนนั่น แย่ล่ะนารุโตะกับอิรุกะแยกกัน ใครคนใดคนนึงจะต้องได้ปะทะกับฟูจินไรจินแน่ ๆ…เทรุตามกลิ่นเจ้าสองพี่น้องนั่นไป!”
 
          สองพี่น้องตัวมหึมาถูกคาถาเงาเลียนแบบของนารา ชิกามารุพันธนาการไว้ทำให้ขยับเคลื่อนไหวไม่ได้แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นแรงอันมหาศาลของทั้งสองก็พอจะทำให้ร่างกายขยับได้บ้าง คิดแล้วก็เจ็บใจนักที่เจ้าสามคนนี้มาช่วยให้เจ้าเด็กผมเหลืองนั่นหนีไป
“ทำแบบนี้กับพวกเราสองพี่น้อง ฉันไม่ปล่อยพวกแกไปแน่” หนึ่งในสองพี่น้องพูดขึ้นด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยวแต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้ตามใจชอบ
“เอาล่ะงั้นเดี๋ยวก็รู้…โจจิอิโนะรีบจัดการซะให้เสร็จนะ”
“อื้อ!” ทั้งโจจิและอิโนะรีบหันไปตอบรับคำสั่งของหัวหน้าหน่วยอย่างชิกามารุพร้อมกัน
          ฟูจินไรจินพยายามขยับอย่างถึงที่สุดทำให้เจ้าของคาถาเงาเลียนแบบรู้สึกได้ว่าถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้เขาต้องคุมไม่อยู่แน่ ๆ เพราะพลังของสองพี่น้องตัวยักษ์นี่เยอะเกินไป
“ฉันจะรีบไปจับตัวเจ้าหมอนั่นไว้” เด็กหนุ่มตัวโตรีบวิ่งเข้าไปจับไรจินนินจายักษ์ผู้น้องเอาไว้
“อิโนะรีบจัดการเร็ว” ชิกามารุออกคำสั่งเมื่อโจจิเข้าไปจับตัวของไรจินไว้ได้เรียบร้อยแล้ว
“คาถาจิตย้ายร่าง!”
          หลังจากการใช้คาถาจิตย้ายร่างของอิโนะ ฟูจินที่กำลังถูกอิโนะควบคุมจิตใจอยู่นั้นก็ปล่อยหมัดใส่น้องชายฝาแฝดอย่างไม่ยั้ง
“พวกนายทำอะไรพี่ฉันเนี่ย!” แฝดยักษ์อีกคนที่ถูกโจจิจับตัวไว้รีบปล่อยหมัดสวนใส่พี่ชายของตัวเองทันทีเมื่อมีช่องโหว่
“พี่คร้าบตื่นสิคร้าบ…ตื่นได้ซักทีสิพี่คร้าบ!” สิ้นเสียงพูด ไรจินก็จัดการปล่อยหมัดใส่หน้าพี่ชายตัวเองอีกหมัดซึ่งมันแรงพอจนทำให้อิโนะที่กำลังควบคุมจิตใจของฟูจินกระเด็นออกจากร่างยักษ์แทบจะทันที
“เป็นไรรึเปล่าอิโนะ!?” ชิกามารุเป็นฝ่ายถามขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทกลับเข้าร่างตัวเองได้
“รู้สึกว่าไม่นะแต่ว่า…หน้าสวย ๆ ของฉัน!” เด็กสาวผมบลอนด์รีบเอามือกุมแก้มตัวเองพร้อมกับโวยวายยกใหญ่เมื่อแก้มที่ถูกต่อยไปเมื่อกี้บวมเป่งออกมา
“สวยตายล่ะ เอาเข้าไป โธ่เอ๊ย…” เด็กหนุ่มผู้ใช้คาถาเงาเลียนแบบถึงกับต้องพึมพำออกมาเบา ๆ พร้อมกับทำสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเพื่อนสนิทแต่ไม่นานนักก็ต้องรู้สึกเครียดหนักกว่าเดิมเมื่อโจจิถูกนินจายักษ์โยนกลับมา
“ช่วยไม่ได้…สงสัยคงต้องใช้คาถานั้นแล้ว!”
 
          เงาสีดำค่อย ๆ เลื้อยขึ้นไปจนถึงคอของสองนินจาฝาแฝดยักษ์ ทั้งสองเริ่มรู้สึกเจ็บปวดกับการถูกรัดคอ แต่ยังไงก็ตามผู้ใช้คาถาไม่ว่าคาถาอะไรก็ต้องรู้สึกเหนื่อยเป็นธรรมดาเพราะแต่ละคาถานั้นกินจักระที่มีในตัวไปอยู่มากโข
          ชิกามารุรู้สึกว่าคาถาเงารัดคอที่ตัวเองกำลังควบคุมตอนนี้เริ่มที่จะพันธนาการสองพี่น้องตัวยักษ์ไม่ได้อีกต่อไป เด็กหนุ่มหอบหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมกับต้องเบิกตากว้างเมื่อเงาสีดำที่เลื้อยขึ้นไปจนถึงลำคอของสองคนนั้นค่อย ๆ ถอยร่นลงมาจนถึงอก
“จะเอาไม่อยู่แล้วนะ!” เด็กหนุ่มสบถออกมาด้วยความหัวเสีย พร้อม ๆ กับที่คาถาเงาของเขาค่อย ๆ ลดลงมาเรื่อย ๆ
 
          ฟ้าว ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก! เสียงขว้างคุไนลอยผ่านไปด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับร่างของใครบางคนที่กระโดดลงมาจากต้นไม้
“ทันเวลาพอดีสินะ!” หญิงสาวผมส้มในชุดโจนินเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางอารมณ์ดีเมื่อตามมาช่วยเด็ก ๆ ได้ทันเวลาถึงแม้ว่าจะคาดผิดคิดว่าเป็นนารุโตะก็ตาม
“มีของเล่นชิ้นใหม่โผล่มาอีกแล้วคร้าบพี่คร้าบ” ไรจินฝาแฝดผู้น้องรีบหันไปพูดกับฟูจินผู้พี่ด้วยท่าทางตื่นเต้นกับผู้มาเยือนคนใหม่และอีกหนึ่งตัว
“ว่าฉันเป็นของเล่นงั้นเหรอ?” คิ้วสวยขมวดมุ่นด้วยความโกรธ
“ระวังตัวด้วยนะคะพี่อายากะ พวกมันแรงเยอะกว่าโจจิอีก” อิโนะตะโกนเตือนด้วยความเป็นห่วง
“เรื่องแค่นี้จิ๊บ ๆ น่า…คาถาคุกจักระ!” สิ้นเสียงของอายากะม่านพลังจักระสีฟ้าจากมีดคุไนที่ปักสี่ทิศรอบตัวของสองพี่น้องฝาแฝดยักษ์ก็ก่อตัวขึ้นมาทันที
“ว่าแล้วเชียว รูปแบบการขว้างคุไนเมื่อกี้ ไม่ใช่แค่ขว้างมั่ว ๆ สินะ” เด็กหนุ่มผู้ชอบนอนมองก้อนเมฆเป็นชีวิตจิตใจเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันเมื่อเห็นคาถาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
“สมกับเป็นชิกามารุจริง ๆ” โจนินสาวหันไปยิ้มตอบด้วยท่าทางเป็นกันเอง
“พี่คร้าบ ทำไม…ทำไมเราออกไปจากที่นี่ไม่ได้ พี่คร้าบทำยังไงดี” ไรจินแหกปากร้องลั่นเมื่อพยายามที่จะใช้มือแหวกม่านพลังของคุกจักระออกมาแต่ก็ทำไม่ได้
“ใสเจียเสียใจด้วยนะเจ้าสองพี่น้องปัญญานิ่ม! คุกจักระของฉันน่ะคนที่จะปล่อยพวกแกออกมาได้ก็คือคนที่อยู่ข้างนอกอย่างพวกฉันนี่!”
“ทางนี้เดี๋ยวพวกผมจับตาดูเองคาดว่าหน่วยเสริมคนอื่น ๆ น่าจะกำลังตามมา รีบตามนารุโตะไปช่วยครูอิรุกะเถอะครับ”
“เอ้อ…ถ้างั้นก็ฝากทางนี้ด้วยนะชิกามารุอิโนะโจจิ”
 
          ขณะที่ฟูจิวาระ อายากะตามมาถึง เธอก็พบว่านักโทษมิทสึกิที่กำลังไล่ตามจับกันอยู่นั้นได้ดื่มยาอะไรบางอย่างและมีพลังเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม จนทำให้ทั้งนารุโตะอิรุกะและนินจาสาวอีกคนที่เธอรู้สึกคุ้น ๆ ต่อกรกับหมอนั่นแทบจะไม่ได้เลย
“เร็วเกินไปขืนถ้าบุ่มบ่ามเข้าไปขัดจังหวะตอนนี้ล่ะก็…อาจจะเสียแผนเราแน่ ๆ” สมองกำลังใช้ความคิดวางแผนอย่างหนักพร้อมกับสายตาที่จดจ้องมองการต่อสู้ที่เสียเปรียบของฝ่ายอิรุกะ
“มิทสึกิขอร้องล่ะ…อย่าทำบาปไปมากกว่านี้เลย” จูนินสาวผมดำอย่างซึบากิที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของมิทสึกิรีบวิ่งเข้ามากอดแขนพร้อมกับขอร้องทั้งน้ำตาให้คนที่กำลังหลงใหลในพลังของโอโรจิมารุกลับตัวกลับใจและกลับหมู่บ้านไปด้วยกัน
“ถ้าห่วงฉันมากขนาดนั้นก็หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างซี่!”
          ไม่ว่าเปล่ามิทสึกิรีบยกตัวคู่หมั้นสาวขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงออกไปทำให้อิรุกะต้องรีบวิ่งเข้าไปรับตัวหญิงสาวไว้แต่ทว่าความเร็วของมิทสึกิมีมากกว่า อิรุกะที่กำลังอุ้มซึบากิไว้นั้นจึงถูกนักโทษผมฟ้ากระแทกเข่าใส่จนปลิวกระเด็นไปชนต้นไม้ด้วยความรุนแรง
“ครูอิรุกะ! หน็อย…คาถาเงาแยกร่าง!”
“มุกเดิม ๆ สินะเจ้าเด็กเก้าหาง” นักโทษหนุ่มหัวเราะเยาะเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยความชอบใจ ก่อนที่จะวิ่งเข้าจู่โจมด้วยความรวดเร็วซึ่งทำให้นารุโตะตั้งรับไม่ทันจนร่างแยกสลายบ๊องไปจนหมด
“ใครว่าล่ะ…นี่แหนะ!”
          ร่างจริงของนารุโตะกระโดดมาจากข้างบนแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรมิทสึกิได้เพราะความเร็วของเขามีมากกว่านารุโตะหลายเท่าตัว
“ยังไงซะตอนนี้แกก็สู้พลังของฉันไม่ได้หรอก!” นักโทษหนุ่มซัดนารุโตะลงไปกองกับพื้นด้วยความรุนแรง
 
          ตุ้บ! เสียงร่างของอุสึมากิ นารุโตะกระแทกลงพื้นดินทำให้โจนินสาวที่แอบซุ่มประเมินสถานการณ์อยู่บนต้นไม้เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ตอนนี้ความโกรธกำลังหลั่งใหลเข้าสู่จิตใจของเธอ
“แกมันก็ได้แค่นี้แหละ…ตอนนี้น่ะมันไม่เหมือนคราวที่แล้วหรอกนะรู้ไว้ด้วย…ฉันจะกระทืบแกให้จมดินซะ!”
          เด็กหนุ่มมองมิทสึกิด้วยความเจ็บใจ ตอนนี้เขาไม่สามารถตอบโต้อะไรหมอนี่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวเพราะเจ้ามิทสึกินี่เคลื่อนไหวเร็วเกินไป… และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ครูอิรุกะและพี่ซึบากิจะเป็นยังไงกันบ้าง
“ฉันจะขยี้แกให้แหลก!” ชายหนุ่มเตรียมตัวยกเท้าขึ้นพร้อมที่จะอัดนารุโตะให้เต็มพลังแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกดาวกระจายเฉือนผิวหนังตรงแขนไป
“ฉันตังหากที่จะขยี้แกให้แหลก!” เสียงใสของผู้มาเยือนคนใหม่ดังขึ้นด้วยความโกรธ เธอจะไม่ยอมให้เจ้าหมอนั่นทำร้ายนารุโตะเด็ดขาด ถ้าหากว่าเธอปกป้องเด็กคนนี้ไม่ได้…คำสัญญาที่พี่ชายเคยให้ไว้กับท่านรุ่นสี่ล่ะก็…คงจะเป็นแค่สัญญาลม ๆ แล้ง ๆ
“ฟูจิวาระ อายากะหรอกเหรอ…เธอสู้ฉันไม่ได้หรอกยายหน้าหนา!” มิทสึกิส่งแววตาเยาะเย้ยไปให้ผู้มาเยือนคนใหม่ซึ่งเขาหารู้ไม่ว่าคำพูดที่เพิ่งเปล่งออกไปนั้นจะทำให้คนที่ได้ยินเพิ่มดีกรีความโมโหมากขึ้นกว่าเดิม
“ว่าไงนะ! หน้าหนางั้นเหรอ…แล้วจะได้รู้กันไอ้บ้าห้าร้อย!”
“ระวังนะอาเจ๊ เจ้ามิทสึกินี่เคลื่อนไหวเร็วเป็นบ้าเลย”
“เออไว้ใจฉันเถอะน่า!”
 
          การต่อสู้ของนักโทษหนุ่มกับโจนินสาวเริ่มต้นขึ้นแทบจะทันทีเมื่อฝ่ายนักโทษกระโจนเข้ามาโจมตีด้วยความรวดเร็ว ‘ไวชะมัด…แต่ยังไงก็ตามเราต้องทำตามแผนที่วางไว้เพราะต้องจับเป็นเท่านั้น!’
          อายากะถูกมิทสึกิจู่โจมด้วยหมัดอย่างรวดเร็วแต่เธอก็สามารถหลบหลีกหมัดของเขาได้อย่างฉิวเฉียด โจนินสาวพยายามมองหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ ตอนนี้เธอยังมองไม่ออกถึงจุดอ่อนทางร่างกายของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ใช่สิ! ‘เจ้าหมอนี่น่ะน่าจะโมโหง่ายเพราะคำพูด…’
“เนี่ยนะพลังของโอโรจิมารุ…เฮอะก็แค่ของเล่นกิ๊กก๊อกละว้า”
“อย่ามาดูถูกพลังอันสุดยอดที่ท่านโอโรจิมารุมอบให้ฉันนะ!” ได้ผลชะงัด นักโทษหนุ่มเคลื่อนไหวช้าลงพร้อมกับมองอายากะด้วยสายตาที่ชิงชังและเคียดแค้น เขาพุ่งเข้าจู่โจมเธอด้วยความรวดเร็วแต่ก็เร็วน้อยกว่าโจนินสาวเมื่อร่างคู่ต่อสู้ที่เขาซัดหมัดใส่นั้นกลายเป็นเพียงท่อนไม้ส่วนร่างจริง!
“บาทากระทืบมารเวอร์ชั่นพิฆาตศัตรู!”
          มิทสึกิล้มลงไปนอนกับพื้นเพราะถูกแรงอันมหาศาลจากอายากะเข้าเต็มเปาแต่ทว่าไม่กี่อึดใจชายหนุ่มก็สามารถลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้งพร้อมกับสภาพร่างกายที่แปรเปลี่ยนกลายเป็นรูปลักษณ์ครึ่งคนครึ่งเสือ
“ไงล่ะคิดว่าจะจัดการฉันได้งั้นเรอะ ฝันไปซะเถอะน่าแม่สาวเลือดร้อน ตอนนี้แหละแกจะได้ไปนอนกองกับพื้นเหมือนไอ้เด็กบ้านั่น!”
          ฟูจิวาระ อายากะไม่คิดว่ามิทสึกิที่โดนบาทากระทืบมารเวอร์ชั่นพิฆาตศัตรูของเธอจะสามารถลุกขึ้นมาได้อีก ไม่พอเจ้าหมอนั่นยังเปลี่ยนสภาพกลายเป็นครึ่งคนครึ่งเสือเฉยเลยแต่ยังไงซะแค่นี้ก็ไม่คณามือเธอหรอก คิดได้แบบนั้นจึงรีบหยิบคุไนจากกระเป๋าอาวุธขึ้นมาปาตามสเต็ป
“ขว้างมีดอะไรของแกน่ะห่วยแตกชะมัดเนี่ยน่ะเรอะอดีตหน่วยลับ!” มิทสึกิส่งสายตามองอายากะอย่างดูถูกดูแคลน
“คิดผิดมหันต์แล้วล่ะมิทสึกิ” อิรุกะพึมพำออกมาเบา ๆ ขณะที่เฝ้ามองเหตุการณ์การต่อสู้ของมิทสึกิและอายากะ
“เฮอะ…พอกันทีฉันขี้เกียจจะเล่นกับนายเต็มทนแล้ว คาถาคุกจักระ!”
 
          ม่านจักระสีฟ้าพวยพุ่งออกมาจากคุไนทั้งสี่ทิศที่ปักล้อมรอบตัวมิทสึกิเป็นวงกว้างทำให้คนที่กำลังจะถูกพันธนาการมองด้วยความตกตลึงเพราะไม่คิดว่าจะมาเสียเปรียบแค่เรื่องง่าย ๆ แบบนี้
“ที่แกขว้างคุไนมั่วซั่วแบบนั้น ที่จริงแล้ว…” ชายหนุ่มเบิกตากว้างเพราะเขาจะไม่สามารถออกจากคุกจักระนี้ได้นอกเสียจากว่ามีคนที่อยู่ข้างนอกช่วยจัดการดึงคุไนออก
“ฮื่อ…นารุโตะจัดการเจ้าหมอนี่เลยฉันตรึงไว้ให้นายแล้ว!” โจนินสาวยิ้มแป้นให้กับเด็กหนุ่มพร้อมกับรีบวิ่งไปดูอิรุกะและซึบากิที่อาจจะบาดเจ็บอยู่
          มิทสิกึถูกขังอยู่ในคุกจักระทำให้เขาไม่สามารถหลบออกมาได้จึงเป็นโอกาสของนารุโตะที่ปล่อยกระสุนวงจักรใส่นักโทษหนุ่มเต็ม ๆ จนสุดท้ายร่างกายที่กลายเป็นเสือก็กลับสภาพเป็นร่างกายที่เล็กลงกว่าเดิมผิวหนังดำคล้ำและหน้าตาเหี่ยวย่นเหมือนคนแก่
 
          จากสภาพที่เกิดขึ้นกับมิทสึกินั้นโฮคาเงะสาวที่ตามมาจัดการฟูจินไรจินได้อธิบายไว้ว่ายาที่มิทสึกิขโมยจากศูนย์วิจัยของตระกูลนารานั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์จึงทำให้มันทำลายเซลล์ของคนที่ดื่มเข้าไป การทดลองที่โอโรจิมารุทิ้งไว้ครั้งนี้ไม่ได้สำเร็จซะทีเดียวและก็คงเป็นแค่การทดลองเล่น ๆ เพียงเท่านั้น
“โชคดีนะที่ได้คุกจักระของเธอขังเจ้าสองคนนั้นไว้ถ้าเธอตามไปไม่ทันล่ะก็พวกชิกามารุคงแย่แน่” โฮคาเงะสาวเอ่ยขึ้นหลังจากที่กลับมาถึงห้องทำงาน
“แต่ถ้าป้าไม่ตามไปจัดการ คุกฉันก็คงรั้งไว้ได้ไม่นาน เจ้าสองพี่น้องนั่นน่ะพลังมหาศาลเกินไป”
“อือ…แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ?” ซึนาเดะเท้าคางมองอายากะด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้
“เอ๋? ป้าหมายถึงเรื่องภารกิจเมื่อกี้เหรอคะ โอ๊ยไม่ต้องห่วงหรอกน่าฉันไม่เจ็บซักกะแอะเดียว”
“ฉันหมายถึงเรื่องเธอกับเจ้าคาคาชิน่ะ!”
“ให้ตายสิเรื่องนั้นน่ะมันเป็นแค่ข่าวลือแต่ความจริงแล้ว…”
“รายงานภารกิจครับท่านซึนาเดะ” เสียงอันคุ้นหูดังขึ้นทำให้อายากะจำเป็นต้องหันหน้าไปมองผู้มาเยือนคนใหม่
          ให้ตายสิทำไมหมอนี่ต้องมาตอนนี้ด้วยนะ หญิงสาวรู้สึกหูอื้อตาลายคล้ายจะเป็นลมก็เพราะตอนนี้คาคาชิที่เธอมองเห็นน่ะไม่ได้ใส่ชุดโจนินเลยสักนิดเดียว! ทำไมสายตาของเธอถึงเห็นเป็นแบบนั้นกัน เห็นเขาล่อนจ้อนหมดเนี่ยนะให้ตายสิ
“ไงยายเจ๊โหด” โจนินผมเงินเลือกที่จะทักเพียงแค่นั้นเพราะจากท่าทางตัวแข็งทื่อและตาที่เบิกกว้างของเจ้าหล่อนคงจะกำลังช็อคเรื่องที่เห็นของสงวนของเขายังไม่หายแน่ ๆ
“เร็วดีนี่ภารกิจครั้งนี้…งั้นก็ไปพักก่อนเถอะแล้วก็รบกวนช่วยลากตัวยายนี่ไปด้วยนะฉันจะทำงานต่อล่ะ”
          ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้าสองคนนี้ด้วย อีกคนก็ทำท่าทางตกตลึงอยู่ได้และอีกคนพอถูกใช้ให้ลากตัวคนที่ทำหน้าช็อคกลับ ก็ดูท่าทางแปลก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นซึนาเดะก็พยายามที่จะไม่ใส่ใจเพราะมีเอกสารมากมายที่รอให้เธอจัดการอยู่อีกเพียบ
 
          กลิ่นอายของหญ้าและเสียงน้ำไหลทำให้คนที่ถูกพามาที่ประจำได้สติขึ้นมาแทบจะทันที จากตาที่เบิกกว้างเมื่อกี้ของเธอเริ่มกลับมาเป็นปกติบ้างแล้ว
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไมเนี่ยตาแก่ลามก!”
“ก็เธอชอบมานอนเล่นที่นี่ไม่ใช่รึไง…คงจะช่วยให้เธอได้สติขึ้นมาบ้าง” เขาส่งยิ้มตาหยีให้กับเธอ
“ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีนายเลยนะยะที่…แหยะไม่อยากจะพูดเลย” เธอมองเขาด้วยความหงุดหงิด อะไรกัน ทำไมนะทำไมจะต้องเห็นอะไรแบบนั้นด้วย
“แหม ๆ จะยากอะไรล่ะเธอก็รับผิดชอบฉันซะสิ”
“ฝันไปเถอะย่ะ เรื่องอะไรฉันต้องรับผิดชอบด้วย มันเป็นความผิดของนายไม่ใช่รึไง!” คาคาชิสังเกตว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเริ่มหน้าแดงขึ้นมาด้วยความโมโห
“ก็เธอเห็นหมดแล้วนี่นา” เขาพูดตอบด้วยความไม่ทุกข์ร้อนอะไร
“เอาเป็นว่าฉันไม่เห็นอะไรก็แล้วกันนะ! เพราะตอนนี้หน้าที่ไม้กันหมาของนายก็จบลงเรียบร้อยแล้วและอีกอย่างน่ะฉันก็ชดใช้นายด้วยการเลี้ยงข้าวเย็นนายเกือบทุกวันแล้วนี่!”
“แต่ฉันน่ะสิดันจำจนขึ้นใจเลยว่าเธอน่ะเห็นอะไรต่อมิอะไรของฉันเต็ม ๆ ตา”
“แล้วยังไงล่ะยะ…ใครจะสนล่ะ นายเป็นผู้ชายไม่เสียหายเท่าผู้หญิงหรอก!” อายากะตอบด้วยท่าทางดุเดือด ตาแก่ลามกนี่ชักจะไปกันใหญ่แล้ว จะมาเรียกร้องทำพระแสงอะไรของเขานะ บ้าไปแล้ว
“เฮ้อ…แต่ก็เอาเถอะ ยังไงซะฉันก็จะยังไปกินข้าวเย็นที่บ้านเธออยู่ดีนั่นแหละจนกว่าจะหายวิตกเรื่องที่เธอเห็นของสงวน” ว่าจบโจนินหนุ่มก็แวบหายไปทันทีปล่อยให้คนที่ยืนโมโหรู้สึกโมโหมากขึ้นกว่าเดิม
“บ้าจริงหมอนี่…แล้วฉันจะกินข้าวลงได้ยังไงกันล่ะยะ!” เธอพึมพำด้วยความหงุดหงิดพร้อมกันนั้นภาพติดตาที่เห็นคาคาชิในสภาพแบบนั้นก็โผล่ขึ้นมาในห้วงความคิดจึงทำให้เจ้าตัวรู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้าอย่างชัดเจน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา