{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story
เขียนโดย LadyTyrell
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
16) ใกล้เข้ามาแล้วแผนไม้กันหมาของอายากะ!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอายากะคิดว่ามันช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะจนเธอแทบอยากจะจัดงานเลี้ยงฉลองเพราะซึนาเดะมอบภารกิจให้เธอและคาคาชิไปคุ้มกันนักธุรกิจค้าเพชรที่ต้องการนินจาไปคุ้มกันระหว่างการเจรจาการค้ากับไดเมียวแห่งแคว้นฮิโนะคุนิ
โจนินสาวตอบรับภารกิจแทบจะทันทีเพราะเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะเจาะแก่การจัดการปัญหาเรื่องของเรียวอิจิ จากที่คำนวณวันดูแล้วหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการคุ้มกันนักธุรกิจค้าเพชรพวกเธอก็ยังพอมีเวลาที่จะไปร่วมงานวันเกิดของเรียวอิจิก่อนกลับโคโนฮะและคราวนี้แหละหมอนั่นจะได้เลิกตามตื้อสักที
“แต่จะว่าไปแล้ว…ตาแก่ลามกนั่นก็ยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนี่นา ตั้งแต่รับภารกิจเสร็จก็หายหัวเข้ากลีบเมฆไปเลย ไม่ได้การละเราต้องรีบตามตัวให้พบ!”
ที่ทำการโจนิน
“แหมอาเจ๊โหดรีบวิ่งมาแบบนี้กำลังหาใครอยู่รึเปล่า?” ไรโดเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทวิ่งเข้ามาในที่ทำการโจนินด้วยความรวดเร็วพร้อมกับเหลียวซ้ายแลขวาจนคอเกือบจะเคล็ด
อายากะหยุดพักหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มถามต่อ “นายเห็นเขารึเปล่าตาแก่ลามกนั่นน่ะ?”
“ตาแก่ลามก…ใครฟะ ไม่ยักเห็นได้ยินชื่อนี้” ไรโดขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย
“เพิ่งกลับไปเมื่อกี้เอง…เห็นบอกว่าจะไปนอนพักเอาแรงก่อนเริ่มภารกิจพรุ่งนี้” เมื่อเห็นว่าไรโดกำลังมึนงงกับคำถามของเพื่อนสนิท อาสึมะที่นั่งอยู่บนโซฟาจึงตอบแทนเพราะเขาพอจะรู้มาอยู่บ้างว่าโจนินรุ่นน้องอย่างอายากะมักจะชอบเรียกอดีตหน่วยลับอย่างคาคาชิว่าตาแก่ลามก
“งั้นเหรอคะ…ขอบคุณนะคะรุ่นพี่อาสึมะ ฉันไปก่อนนะไรโดไว้เจอกันหลังกลับจากภารกิจ!”
“นี่ตกลงเธอกับหมอนั่น?”
“เปล่านะยะ ฉันต้องการพบหมอนั่นเพื่อพูดคุยถึงเรื่องภารกิจย่ะ อย่าคิดถึงเรื่องอื่นเด็ดขาด!”
“เออรู้แล้วน่าไม่กล้าคิดหรอกแค่เห็นโหมดนางยักษ์ของเธอฉันก็…”
ตุ้บ! และแล้วโจนินหนุ่มอย่างไรโดก็ได้รับมะเหงกประทับบนศีรษะอีกครั้ง ไม่รู้ว่าครั้งนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วที่เขามักจะโดนเจ้าหล่อนเล่นงานอยู่แบบนี้ เฮ้อ…กะว่าจะไม่พูดอะไรให้อายากะระแคะระคายแล้วแท้ ๆ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้
“นี่ตาแก่ลามกอยู่ไหม!” โจนินสาวผมส้มทั้งเคาะและตะโกนอยู่หน้าห้องพักของโจนินหนุ่มผมเงินด้วยความตื่นเต้น เธอหวังว่าเขาจะยอมทำตามแผนที่เธอวางไว้
“เฮ้อ…เอาอีกจนได้” คาคาชิถอนหายใจอย่างหนักหน่วงหลังจากที่เขากำลังจะถอดเสื้อเพื่อไปอาบน้ำแต่สุดท้ายก็ต้องสวมกลับไว้ที่เดิมพร้อมกับเดินไปเปิดประตูห้อง
“ไง” เขาโบกมือทักทายเธอสั้น ๆ พร้อมกับมองคนตรงหน้าด้วยสายตาสงสัย
“ตั้งแต่รับภารกิจเสร็จก็หายหัวไปเลยนะยะ ไม่คิดที่จะประชุมวางแผนกับเพื่อนร่วมงานเลยรึไง!” อายากะแกล้งเอ็ดเสียงเขียวตอนนี้ล่ะเธอจะหาทางคุยเรื่องภารกิจก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยวกเข้าเรื่องไม้กันหมา
“ก็…ไม่เห็นจะต้องคุยอะไรมากนี่ เธอก็เคยทำงานอยู่ทีมเดียวกับฉันแล้ว”
“ได้ยังไงกัน!”
“จะคุยเรื่องไม้กันหมาล่ะสิ”
เขาพูดขึ้นมาอย่างรู้ทันจึงทำให้หญิงสาวจำเป็นต้องพยักหน้าน้อย ๆ เป็นคำตอบ ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะรู้จุดประสงค์ที่เธอมาเคาะห้องเขา
“เฮ้อ…งั้นก็เข้ามาก่อน เธอนี่นะชอบมาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มของฉันตลอดเลย” ชายหนุ่มบ่นด้วยท่าทีที่ไม่จริงจังมากเท่าไหร่
“หมายความว่ายังไงกัน เข้าด้ายเข้าเข็มงั้นเหรอ นายนี่มันลามกจริง ๆ !”
“เอาล่ะพูดมาเลย” เขาไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับเธอเพราะคิดว่าต่อไปก็เท่านั้นจึงพูดเปิดประเด็นเพื่อให้อายากะพูดถึงสิ่งที่เธอต้องการ
“หลังจากภารกิจเสร็จสิ้นเราก็จะพอมีเวลาเหลือ ฉันเลยจะชวนนายไปเป็นไม้กันหมาที่งานวันเกิดของเรียวอิจิต่อน่ะ นายจะว่าไง?” อายากะเอ่ยถามด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะกลัวถูกปฏิเสธ ถึงแม้ว่าวันนั้นเธอจะพูดแกมบังคับเขาแล้วก็ตามแต่ถึงยังไงทุกอย่างมันก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคาคาชิล้วน ๆ
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ไปก็ไปสิ…อ้าวเฮ้ย…” พูดไม่ทันจบประโยคหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็รีบกระโดดกอดเขาด้วยความรวดเร็ว
“ฉันนี่เลือกไม้กันหมาไม่ผิดคนเลยจริง ๆ ฮิฮิ” อายากะพูดไปหัวเราะไปทั้งที่ยังคงอยู่ในสภาพกระโดดกอดคาคาชิอยู่
โจนินผมเงินอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ถึงแม้ว่าการกระโดดกอดแบบนี้อายากะมักจะทำกับเขาและเพื่อนคนอื่น ๆ ตอนที่สังกัดอยู่หน่วยลับก็ตามแต่เขาก็ยังไม่ชินอยู่ดี ยิ่งเจ้าหล่อนทำแบบนี้หัวใจเขายิ่งเต้นโครมครามมากกว่าเดิมเป็นล้านเท่า
“แต่เธอต้องถูหลังให้ฉันก่อนเพราะฉันกำลังจะอาบน้ำพอดีแล้วเธอก็มาขัดจังหวะ!” เขากระซิบเธอเล็กน้อย อยากจะรู้นักว่ายายเจ๊โหดนี่จะมีปฏิกิริยายังไง
“อะไรนะ!” เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนร่วมงานพูด อายากะก็รีบผละกอดออกทันที ตาแก่ลามกนี่คงคิดว่าถ้าขู่แบบนี้เธอจะยอมยกเลิกงั้นสิ…ฝันไปเถอะ ถึงแม้ว่ายังไม่เคยถูหลังให้ผู้ชายคนไหนมาก่อนแต่ครั้งนี้ล่ะก็เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของสถานะโสดจะยอมสักครั้งก็คงไม่เสียหาย
“ก็ตามที่พูดไปเมื่อกี้?” โจนินผมเงินจ้องเธอเพื่อรอคำตอบ เขาคิดว่าแม่นี่คงจะต้องอาละวาดแน่ ๆ ‘ไม่น่าเลยเราคราวนี้อะไรในห้องจะพังอีกก็ไม่รู้’
“ตกลง!” เสียงใสอันหนักแน่นตอบพร้อมกับสีหน้าและแววตาที่ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อยทำให้คาคาชิรู้สึกอึ้งและอึ้งไปอีกเป็นสิบเท่า
“เธอจะเอาจริงเหรอ?” ตอนนี้สีหน้าของเขาที่แสดงออกมานั้นบ่งบอกได้ว่าตกใจอย่างสุดขีด ไม่คิดว่าแค่คำพูดเล่น ๆ ของเขาจะทำให้ใครอีกคนคิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาขนาดนี้
“ก็เออน่ะสินายก็รีบ ๆ เข้าห้องน้ำไปซี่ เร็ว ๆ ล่ะฉันไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้นนะยะรีบ ๆ หน่อย” พูดจบอายากะก็รีบดันหลังของคาคาชิให้เข้าห้องน้ำไปด้วยความรวดเร็ว
คาคาชินั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำด้วยสีหน้าและแววตาเบื่อโลก ไหนว่ารีบนักรีบหนาแต่ถึงตอนนี้แม่นั่นก็ยังไม่เข้ามาเลยสักนิด ‘จะว่าไปแล้ว…เราจะรอทำไมฟะเนี่ย ก็แค่รีบ ๆ อาบเองให้เสร็จไม่ดีกว่ารึไง!’ เขาคิดในใจเพียงเท่านั้นแต่พอจะตัดสินใจลุกออกมาอาบน้ำจริง ๆ หญิงสาวที่เขาเพิ่งจะนึกถึงก็เดินเข้ามาในห้องน้ำด้วยท่าทางแปลก ๆ
“ฉันคิดว่าเธอกลับไปแล้วซะอีก” หรี่ตามองคนตรงหน้าด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนจะมาไม้ไหน
“ฉันกลับไม่ได้หรอก ลั่นวาจาไว้แล้วนี่” โจนินสาวผมส้มยิ้มแป้น
“แหม ๆ ไม่คิดว่าคนอย่างท่านหญิงฟูจิวาระจะทำอะไรแบบนี้เป็นกับเขาด้วย” ขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับการถูกถูหลังเขาก็เอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี ตอนนี้รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย คิดมาถึงตอนนี้ถ้าหากว่าพวกเพื่อน ๆ รู้เรื่องนี้เข้าล่ะก็มีหวังได้ดังกว่าเรื่องเดิมแน่ ๆ
“ผมก็จำเอาจากที่คุณอายากะสอนน่ะครับ” เสียงใสของหญิงสาวตอบกลับมาด้วยความร่าเริงแต่คาคาชิเพิ่งจะสังเกตได้ว่าการพูดการจาของเธอมันไม่ใช่เธอเลยสักนิด
“รึว่า…” ชายหนุ่มรีบหันไปมองคนที่กำลังถูหลังให้เขาแทบจะทันที
บ๊อง! ร่างของฟูจิวาระ อายากะสลายไปกลายเป็นลูกหมาป่าขนปุยสีขาวยืนมองเขาด้วยท่าทางดีใจ มันพยายามกระดิกหางเล็ก ๆ หนึ่งที
“โทษทีนะครับคุณคาคาชิ…คุณอายาะขอให้ผมช่วยดูแลคุณ”
“ยายเจ๊โหดนั่น! ตลอดเลย…โดนหลอกอีกแล้วเรา รอบหน้าเถอะนะถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่จะทำให้ยายเจ๊โหดนั่นลืมไม่ลงเลย!”
“จะทำอะไรเหรอครับ?” หมาป่าอัญเชิญถามขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงบ่นของโจนินหนุ่ม
“เปล่าหรอก ๆ ขอบใจมากนะเซจิ ยังไงนายก็กลับไปพักผ่อนเถอะเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
ยามเช้าหน้าประตูหมู่บ้านยังไม่มีผู้คนเดินพลุกพล่านกันมากนัก อายากะในชุดโจนินกำลังยืนทำหน้าเบื่อหน่ายเพราะเธอยืนรอเพื่อนร่วมงานมาได้หนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ แล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฝ่ายนั้นจะมาได้สักที รอจนไม่รู้จะรอยังไงแล้ว ถ้าหากว่าอยู่ในทะเลทรายเธอคงแห้งตายไปก่อนที่จะได้ออกเดินทาง
“โทษที ๆ นะพอดีว่าไปเจอคนแก่หกล้มน่ะ” โจนินผมเงินส่งยิ้มตาหยีไปยังเพื่อนร่วมงานที่ทำหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ
“หน็อย…เจอคนแก่หกล้มหรือว่าตื่นสายกันแน่ยะ!”
“เรารีบเดินทางกันเถอะเดี๋ยวถ้าช้ากว่านี้จะไปไม่ทันเวลานะ” คาคาชิเลือกที่จะไม่ตอบคำถามนั้นจึงตัดสินใจเดินนำหน้าออกไปทันที
“รอฉันด้วยสิยะตาแก่ลามก!”
สถานที่เจรจาธุรกิจการค้าของผู้ว่าจ้างนั้นก็คือห้องรับรองแขกบ้านแขกเมืองของไดเมียวแห่งแคว้นฮิโนะคุนิ อายากะสังเกตว่าสถานที่แห่งนี้คงจะถูกดูแลเป็นอย่างดีเพราะตัวอาคารดูไม่ทรุดโทรมเลยสักนิดเดียว
เธอและคาคาชิจึงเดินตามคนสนิทของผู้ว่าจ้างเข้าไปในอาคารด้วยความเงียบเชียบเพราะอีกครึ่งชั่วโมงการเจรจาจะเริ่มต้นขึ้น
“เราจะยืนกันอยู่ตรงหน้าห้องที่ใช้ในการเจรจาแต่ฉันก็จะส่งร่างแยกอีกคนไปดูสถานการณ์ตามที่ต่าง ๆ”
“เออรู้แล้วน่า…เอาแต่วางแผนอยู่ได้” หญิงสาวพูดขึ้นมาด้วยท่าทางเบื่อหน่าย เอะอะไรก็วางแผน ๆ มันออกน่าเบื่อจะตายไป กะอีแค่ทำหน้าที่คุ้มกันมันจะยากอะไรนักหนา
คาคาชิไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกับคนช่างบ่นที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาเลือกที่จะหยิบนวนิยาย18+ ขึ้นมาอ่านฆ่าเวลาเพื่อรอการเจรจาเริ่ม
ก่อนการเจรจาเริ่มขึ้นประมาณห้านาที คาคาชิจึงจัดการใช้วิชาแยกร่างเพื่อส่งให้ร่างแยกตัวเองออกไปดูสถานการณ์ตามส่วนต่าง ๆ ของอาคารเผื่อว่าหากมีอะไรไม่ชอบมาพากลจะได้รีบจัดการ
หลังจากสั่งให้ร่างแยกตัวเองออกไปสำรวจรอบ ๆ อาคารนี้แล้วโจนินผมเงินจึงหันไปมองเพื่อนร่วมงานในครั้งนี้ก็พบว่าเจ้าหล่อนยืนสัปหงกไปเป็นที่เรียบร้อย
“จะรอดมั้ยเนี่ยภารกิจนี้…” เขาพึมพำออกมาเบา ๆ เมื่อมองไปยังคนตัวเล็กที่ยืนสัปหงกอย่างไม่รู้เรื่องราว
เวลาว่างหลังจากทำภารกิจเสร็จสิ้นหน่วยลับสาวอย่างฟูจิวาระ อายากะมักจะมาใช้เวลานอนพักผ่อนอยู่บนหญ้านุ่ม ๆ ริมลำธารอยู่เสมอและวันนี้ก็เช่นกันหลังจากกลับมาจากภารกิจเธอและคนในทีมก็ต่างแยกย้ายกันกลับไปใช้เวลาพักผ่อน สองขาเรียวจึงพาร่างอันบอบบางเดินไปตามทางที่แสนจะคุ้นเคยแต่เมื่อเดินไปถึงที่ประจำก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่ามีคนนอนอยู่ตรงที่ประจำของเธอ
มันจะมีอะไรสงบสุขมากไปกว่านี้อีกเมื่อได้นอนอ่านนิยายเล่มโปรดอยู่บนพื้นหญ้านุ่ม ๆ พร้อมกับได้ยินเสียงน้ำไหลแบบนี้ หน่วยลับผมเงินที่นอนอ่านนิยายเล่มโปรดอย่างเพลิดเพลินรู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่มีความสุขอย่างมากเลยก็ว่าได้ ภารกิจอันหนักหน่วงวันนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีถึงแม้ว่าเขาจะต้องคอยจับตาและกำราบลูกทีมสุดป่วนอย่างฟูจิวาระ อายากะอยู่ก็ตาม เวลาแม่นั่นก่อเรื่องทีไรเขาจะต้องเป็นคนเข้าไปคอยจัดการอยู่ตลอดเวลา ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมท่านรุ่นสามถึงต้องให้ยายตัวป่วนนี่เข้ามาทำงานเป็นหน่วยลับด้วย
ถ้าหากว่ากันตามจริงแล้ว ทั้งเรื่องและความวุ่นวายที่ยายอายากะก่อก็ทำให้สมาชิกในทีมของเขามีรอยยิ้มและดูจะไม่เครียดกับภารกิจมากจนสร้างความกดดันให้กับหัวหน้าทีมอย่างเขาเอง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นกับตาตัวเองเพราะถูกหน้ากากบดบังแต่ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ว่าตอนนั้นลูกทีมของเขากำลังยิ้มขันกับความวุ่นวายที่แม่สาวผมส้มก่อขึ้นระหว่างการเดินทางไปทำภารกิจ “เราอ่านถึงตอนไหนแล้วเนี่ย…มัวแต่คิดเรื่องบ้าอะไรกัน” เมื่อรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองกำลังถือหนังสือค้างไว้อย่างนั้นโดยที่ไม่ได้พลิกเปลี่ยนหน้าเลยสักนิด ให้ตายสิ…
ฟุ้บ! เสียงวัตถุบางอย่างล้มลงข้าง ๆ ชายหนุ่มทำให้เขารู้สึกว่าพื้นหญ้าข้าง ๆ ยุบตัวไปเพียงแค่นิดเดียว สงสัยคงจะเป็นกระต่ายไม่ก็สุนัขละมั้ง
“กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?” เสียงใสอันคุ้นเคยดังขึ้นอยู่ข้าง ๆ ทำให้คาคาชิรู้ตัวแทบจะทันทีว่าไม่ใช่กระต่ายหรือสุนัขที่ไหนแต่กลับเป็นลูกทีมของเขาเอง
“ก็เรื่องไร้สาระนิดหน่อยน่ะ” เขาตอบออกไปทั้งที่ตายังจดจ้องอยู่ที่หนังสือแต่ก็กลับพบว่าตอนนี้ตัวเองไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อกับเนื้อหาในนั้นเลยสักนิด
“อย่างนายเนี่ยนะคิดเรื่องไร้สาระกับเขาเป็นด้วย?” ไม่ว่าเปล่าคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้าง ๆ รีบเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงพร้อมกับมองคนตัวโตกว่าด้วยท่าทางพินิจพิเคราะห์
“จะมาป่วนฉันเหรอ? ไม่ว่างให้เธอป่วนหรอกนะ” ตอนนี้คาคาชิวางนิยายเล่มโปรดลงเรียบร้อยแล้วเหตุเนื่องมาจากไม่มีสมาธิที่จะอ่านต่อนั่นเอง และเขาก็ปรับท่าทางให้ตัวเองนอนตะแคงพร้อมกับหันหน้าไปเผชิญกับฝ่ายตรงข้าม คราวนี้แหละจะได้รู้ว่าแม่สาวผมส้มต้องการอะไรกันแน่
“แหม ๆ หัวหน้าหน่วยคะฉันเปล่าจะมาป่วนนะคะ แค่จะมาบอกว่าวันนี้ฉันจองที่ตรงนี้แล้วเฟ้ย!” อายากะจ้องหน้าคาคาชิด้วยท่าทางเอาเรื่อง เธอจะไม่ยอมให้แผนที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่าแน่ ๆ การนอนพักบนหญ้านุ่ม ๆ ริมลำธารแบบนี้ บรรยากาศที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดหลังจากทำภารกิจเสร็จ ยังไงวันนี้เธอก็ต้องได้นอนที่นี่อย่างสงบและเพียงลำพัง!
“ไม่ยักเห็นว่ามีป้ายจองนี่นาเพราะงั้นฉันก็นอนได้” ว่าจบคาคาชิก็เปลี่ยนท่าไปเป็นการนอนหงายพร้อมกับหลับตาพริ้มเพื่อยั่วยุใครบางคน
“หน็อย…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ นายต้องมาตัดสินกับฉันเดี๋ยวนี้ว่าใครจะได้ครองที่นี่!”
ไม่ว่าเปล่าร่างบางลุกขึ้นนั่งพร้อมกับพยายามเอื้อมมือไปยกไหล่ของหัวหน้าหน่วยให้ลุกขึ้นจากการนอน
“ฉันมาถึงที่นี่ก่อนเธอตั้งนานแล้วเพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเป็นคนครองน่ะสิ” เขาตอบออกไปทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่
“ฮึ่ม…อย่าคิดว่าฉันจะไม่มีแรงดึงนายให้ลุกนะยะ…เอาล่ะ!” ว่าจบแต่เพียงเท่านั้นแรงพลังมหาศาลของหญิงสาวก็สามารถยกไหล่ของหน่วยลับผมเงินขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย…
แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเมื่อคนที่ถูกยกก็ใช้แรงตัวเองเด้งลุกขึ้นมาด้วย ความเร็วของหน่วยลับผมเงินและแรงอันมหาศาลของลูกทีมสาวจึงทำให้หน้าผากของทั้งสองชนกันเข้าอย่างจัง
โป๊ก! อายากะรีบผละออกห่างจากคาคาชิแทบจะทันที ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้
“โอ๊ย…นี่หน้าผากคนหรือก้อนหินกันยะเจ็บชะมัดเลย!” เสียงตะโกนทั้งที่ยังยืนสัปหงกของอายากะทำให้คาคาชิหันไปมองด้วยความสนใจ
“แล้วใครใช้ให้เธอหลับแบบนี้กันล่ะ?” เขาตัดสินใจพูดตอบกลับไปเพราะรู้ว่าตอนนี้หญิงสาวที่ยืนอยู่อีกฝั่งของประตูคงกำลังฝันอย่างแน่นอน อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าหล่อนกำลังฝันถึงเรื่องอะไร
“นายนั่นแหละตาแก่ลามกทำให้ฉันเจ็บแบบนี้!”
สิ้นเสียงของอายากะ คาคาชิก็แทบอยากจะหลุดขำออกมา เจ้าหล่อนกำลังฝันถึงเขาหรอกหรือนี่…
ตึกตึกตึก… หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง เขาพยายามควบคุมมันอย่างหนักหน่วงจนคนที่เพิ่งจะละเมอถึงเขานั้นตื่นขึ้นมา
“ฮ้าววววว…เราฝันบ้าอะไรวะเนี่ย” โจนินสาวเอามือป้องปากหาวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับพึมพำบ่นออกมาแต่ก็ไม่พ้นการได้ยินของคาคาชิ
“เมื่อกี้เธอน่ะ…ละเมอซะดังเลยนะ” เขาส่งยิ้มตาหยีให้กับเธอทำให้อายากะเพิ่งจะระลึกได้ว่าเธอฝันถึงเขาและอีกไม่พอมีละเมอด้วย…
“งั้นเหรอ…ก็แค่ฝันถึงเรื่องไร้สาระนิดหน่อยน่ะ” รีบตีหน้าซื่อตอบกลับไป
“งั้นบอกฉันหน่อยสิว่าเรื่องไร้สาระที่เธอฝันน่ะคือเรื่องอะไร?” เขาจ้องเธอเพื่อรอฟังคำตอบ ทำมาเป็นกลบเกลื่อนดีนักคราวนี้ล่ะต้องมีอายแน่ ๆ แต่จะว่าไปแล้ว…ถ้าหากว่าเจ้าหล่อนฝันถึงเรื่องที่แบบว่า… ไม่ใช่สิฝันแบบนั้นคงไม่เกิดกับผู้หญิงหรอก คิดแล้วเขาก็รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้าของตัวเอง
“ก็…นายจะมาถามทำไมเล่า ใครอยากจะบอกกันล่ะยะ!” อายากะตอบด้วยท่าทางหงุดหงิด
ขืนให้เธอเล่าไปก็อายแย่น่ะสิ ก็ตอนนั้นเธอทำเรื่องไร้สาระมากกว่าตอนนี้อีก ไม่คิดว่าตัวเองจะทำแบบนั้นไปได้ เข้าไปแย่งสถานที่ประจำของตัวเองกับคนที่มานอนอยู่ก่อนแล้วเนี่ยนะ คิดแล้วก็อายตัวเองที่ทำแบบนั้นและอายที่ตัวเองเก็บเอามาฝันจนเป็นตุเป็นตะแบบนี้
“เธอแน่ใจเหรอ? แต่ว่านะเมื่อกี้ฉันได้ยินเธอละเมอชื่อฉันด้วย ว่าไงล่ะ?” เขาจ้องมองเธอเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ
คนที่ได้ยินถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ก็แค่ฝันถึงวันเก่า ๆ ก็เท่านั้นเองแต่ก็ดันมาละเมอชื่อคนในฝันให้เจ้าตัวได้ยินอีก น่าอายชะมัด! อายากะก้มหน้าลงต่ำตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะปั้นสีหน้ายังไงดี เริ่มรู้สึกนิด ๆ ด้วยว่าตอนนี้ใบหน้าตัวเองกำลังร้อนผ่าว ‘จะร้อนทำไมเนี่ย ฉันไม่ได้เขินหมอนี่ซักหน่อยก็แค่อายเฉย ๆ’ เธอคิดในใจด้วยความหงุดหงิด
“บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ผู้หญิงคิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย” เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ แต่ก็ทำให้คนที่ได้ฟังถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
“ปะ…เปล่านะยะฉันก็แค่ฝันถึง…นะ…นายตอนที่เราแย่งที่นอนริมลำธารตังหาก!” สุดท้ายแล้วโจนินสาวจึงเฉลยออกมาด้วยความอายพร้อมกับรีบหันหน้าไปทางอื่นแทบจะทันทีถ้าหากว่าเขาเห็นสีหน้าอันแดงระเรื่อของเธอตอนนี้ล่ะก็คงจะหมดกันกับภาพลักษณ์หญิงแกร่งที่ไม่เคยอายใคร!
“อ้อ…ที่ตอนสุดท้ายฉันก็ยอมจำนนแบ่งให้เธอนอนครึ่งหนึ่งสินะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ