{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story
เขียนโดย LadyTyrell
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
15) มันคือความรู้สึกอะไรกันแน่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความงานดักซุ่มรอศัตรูนั้นถือว่าเป็นงานที่ง่ายสำหรับหน่วยลับผมเงินอย่างมากเพราะประสาทสัมผัสและการรับรู้ของเขาไวเท่า ๆ กับสุนัขนินจา ดังนั้นเวลาออกปฏิบัติภารกิจในการซุ่มดูศัตรูเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องจดจ้องอยู่ตลอดเวลา ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะหยิบหนังสือนิยาย18+ ออกมาอ่านฆ่าเวลาเหมือนเช่นทุกครั้ง และ ณ ขณะที่กำลังมาถึงฉากที่เขารอลุ้นมากที่สุดก็มีบางสิ่งบางอย่างมาสะกดอารมณ์จนได้…
“หยุดอู้งานเดี๋ยวนี้เลยนะยะตาแก่ลามก!” เสียงใสที่เจือปนด้วยความโกรธเกรี้ยวของลูกทีมเอ่ยขึ้น ทำให้หน่วยลับผมเงินต้องรีบวางนิยาย18+ อย่างอะจึ๋ยลงพร้อมกับเงยหน้าหาต้นตอของเสียง
ถึงแม้ว่าทั้งสองจะมีหน้ากากที่ช่วยปิดบังอำพรางใบหน้าแต่คาคาชิก็รู้ดีว่าตอนนี้นัยน์ตาสีดำของเขากำลังประสานกับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอเข้าอย่างจังซึ่งครั้งนี้มันทำให้เขาเริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะพยายามไล่ความรู้สึกนั้นออกไปด้วยการเบือนหน้าหนี ‘ทำไมรู้สึกว่าใจเต้นแรงแปลก ๆ แฮะ’
“ก็แหม…ฉันก็กำลังทำงานอยู่นี่ไงส่วนเธอน่ะควรจะรีบกลับไปซุ่มตรงจุดที่ตัวเองได้รับมอบหมายได้แล้ว”
“หมายความว่าไงกันยะ…กำลังทำงานงั้นเหรอ? ก็เห็นอยู่โต้ง ๆ ว่านายน่ะกำลังอ่านนิยายลามกอยู่!” หน่วยลับสาวผมส้มยังคงยืนห้อยหัวจากต้นไม้เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“ก็…ถ้าอ่านไปด้วยแล้วทำงานไปด้วยล่ะก็มันจะช่วยเพิ่มสมาธิให้ฉันมากเลยทีเดียว”
“หน่อยแน่นาย! ตอบมาได้กวนส้นแบบนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้…ว้ายยยย!”
ร่างของหน่วยลับสาวร่วงลงมาด้วยความรวดเร็วเพราะถูกผู้ที่เธอเรียกว่า ‘ตาแก่ลามก’ นั้นใช้เส้นลวดคล้องเข้ากับข้อเท้าของเธอ
“เอาล่ะตอนนี้เลิกเล่นแล้วกลับไปทำงานได้แล้ว” เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“นายก็หยุดอ่านอะจึ๋ยอะไรนั่นก่อนซี่! แล้วฉันจะยอมกลับไปอยู่ที่เดิม” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเช่นกันทำให้หัวหน้าหน่วยอย่างเขารู้สึกปลง
“เฮ้อ…ถ้าฉันไม่หยุดอ่านเธอก็จะยังนอนทับอยู่บนตัวของฉันทั้งแบบนี้สินะ?”
เมื่อหัวหน้าหน่วยพูดจบลูกทีมสาวก็เพิ่งจะตระหนักได้ว่าตอนที่เธอร่วงลงมาจากกิ่งไม้นั้นเธอไม่ได้ร่วงลงพื้นอย่างที่ตัวเองคิดแต่เธอร่วงลงทับตัวเขาต่างหาก!
“งั้น…ฉันก็จะอ่านต่อก็แล้วกัน มีคนมานอนทับตัวอยู่แบบนี้จะถือว่าฝึกไปในตัว”
“บ้าจริง! ฉันไปก็ได้เฟ้ย” หญิงสาวรีบผละออกจากตัวชายหนุ่มด้วยความรวดเร็ว เธอรู้สึกถึงความร้อนระอุบนใบหน้าพร้อมกับรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงราวกับกลองรบ ‘มันคือความรู้สึกอะไรกันนะ?’
“เฮ้อ…ให้ตายสิฝันอีกแล้วเรา” เสียงฟ้าร้องทำให้คาคาชิต้องรีบผวาตื่นจากฝันเมื่อกี้แทบจะทันที
จะว่าไปแล้วทำไมถึงต้องฝันถึงแม่โจนินสาวผมส้มบ่อย ๆ ด้วยนะ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็ไม่รู้สิ… อธิบายความรู้สึกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันถึงแม้ว่าบางครั้งจะพยายามผลักไสความคิดเรื่องนี้ออกไปแล้วก็ตาม
มีดคุไนและดาวกระจายถูกปาให้โดนเป้าด้วยความเร็วแต่กลับไม่เหมือนอย่างวันที่ผ่านมาเพราะคนที่กำลังซ้อมปากำลังคิดถึงเรื่องอื่นจึงไม่ได้ตั้งสติไปกับการซ้อมสักเท่าไหร่
‘เมื่อวานก็ไม่เห็นจะมาทานข้าวฟรีเหมือนที่ว่าไว้เลย!’ หยิบคุไนขึ้นมาเล็งอีกรอบ
‘หรือว่าตาแก่ลามกนั่นโกรธเรื่องที่เราใช้ร่างแยกปลอมเป็นนางเอกนิยายอะจึ๋ยหรือว่าเรื่องที่เราทำจานแตกไปเกือบสิบใบ?’ ขว้างออกไปด้วยความรวดเร็ว
‘เฮอะใครจะสนล่ะ…แต่ว่าถ้าหากหมอนั่นโกรธจริง ๆ แล้วไม่ยอมช่วยเราล่ะ เราก็ต้องหาไม้กันหมาคนใหม่งั้นสิ’
คุไนที่ถูกขว้างออกไปไม่ได้โดนเป้าเลยสักนิดแต่มันกลับไปปักตรงโคนต้นไม้แทน ทำให้หญิงสาวที่ฝึกขว้างอาวุธรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองอยู่ไม่น้อย
“พักดื่มชาก่อนนะครับท่านหญิง…รู้สึกว่าวันนี้ไม่ค่อยแม่นเหมือนทุกวันเลยนะครับหรือว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่?” ชายหนุ่มวัยกลางคนยกน้ำชามาเสิร์ฟไว้ตรงศาลาที่นั่งพักจากการซ้อมต่อสู้รีบตะโกนทักผู้นำตระกูลเมื่อเห็นว่าวันนี้การฝึกซ้อมของเธอดูไม่น่าจะราบรื่นเท่าไหร่ โดยปกติแล้วคนอย่างอายากะไม่จำเป็นที่จะต้องซ้อมปาคุไนหรือดาวกระจายทั้งนั้นแต่เธอก็มักจะบอกว่า ‘อะไรก็ตามถึงมันจะเป็นสิ่งพื้นฐานง่าย ๆ แต่ถ้าไม่ฝึกฝนอยู่บ่อย ๆ สักวันมันก็อาจจะลดลง’
“ขอบใจ” หญิงสาวรับแก้วชาจากมือของคนสนิทขึ้นมาดื่มพรวดเดียวพร้อมกับมองตรงไปยังสนามซ้อมของตระกูลฟูจิวาระด้วยท่าทางครุ่นคิด
“จะว่าคิดก็คิดนะ” เธอเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกังวลนั้นคืออะไรกันแน่ระหว่างที่กลัวคาคาชิโกรธหรือกลัวที่จะต้องหาไม้กันหมาคนใหม่เพราะดู ๆ แล้วคงจะไม่มีใครยอมตกลงกับเธอถึงแม้จะมีนินจาหนุ่มหลายคนที่ตามจีบเธอเป็นกระพรวนก็ตาม
“ถ้างั้นหากท่านหญิงอยากจะพูดอะไรซักหน่อยผมก็จะรอฟัง”
“เอาไว้วันหลังก็แล้วกันนะ ฉันว่าจะออกไปเดินเล่นข้างนอกซักหน่อย” ไม่รู้ว่าควรจะปรึกษากับโนบุเรื่องนี้ดีไหมแต่สุดท้ายอายากะก็เลือกที่จะไม่พูดเรื่องที่กำลังรบกวนจิตใจของเธออยู่ ถ้าหากว่าบอกกับโนบุไปแล้วเกิดว่าเขาแนะนำให้ไปขอโทษตาแก่ลามกนั่นล่ะ เธอไม่เอาด้วยหรอก ‘เรามันเป็นประเภทไม่ค่อยชอบง้อคนซะด้วยสิ’
สายลมพัดเอื่อย ๆ ทำให้คนที่กำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้านุ่มรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ ทั้งเสียงน้ำที่กำลังไหลนั้นยิ่งทำให้โจนินสาวสลัดความคิดที่ตีกันอยู่ในหัวออกไปแทบจะหมดสิ้น ตอนนี้เธอรู้สึกสบายใจมากจนไม่อยากจะลุกออกจากที่นี่เลยจริง ๆ หวังว่าจะไม่มีอะไรมาขัดความสงบสุขของจิตใจเธอ
“เฮ้อาเจ๊ มาอยู่นี่เอง ผมตามหาซะแทบแย่”
“มีอะไรเหรอนารุโตะ…ฉันกำลังพักผ่อนอยู่นะยะ”
“ผมก็แค่แบบว่าอยากจะให้อาเจ๊ช่วยดูผมซ้อมหน่อย…เจ้าครูคาคาชินั่นหายไปไหนก็ไม่รู้” เด็กหนุ่มทำหน้ามุ่ยด้วยความไม่ชอบใจ
“เออก็ได้…เสียเวลานอนพักของฉันหมด” อายากะเด้งตัวลุกขึ้นมาจากพื้นหญ้าแทบจะทันที เจ้าเด็กนี่จริง ๆ เลยนะ เธออยากจะปฏิเสธไปเหมือนกันแต่ก็ปฏิเสธไม่ลง ไม่รู้ว่าทำไม
“ฝากด้วยนะคะพี่อายากะ” เด็กสาวผมสีชมพูเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอายากะเดินเข้ามากับนารุโตะ วันนี้หล่อนและนารุโตะตัดสินใจที่จะฝึกวิชาด้วยกันเอง ซึ่งความจริงแล้วตาครูจอมมาสายนั่นก็บอกไว้ว่าจะมาช่วยดูให้แต่สุดท้ายก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย มันน่านักไหมล่ะ! ฮารุโนะ ซากุระคิดในใจก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้กับหญิงสาวที่เดินเข้ามาใหม่
“ได้สิจ๊ะซากุระจัง” อายากะส่งยิ้มตาหยีให้เด็กสาวก่อนที่จะถอยออกไปยืนประจำที่พร้อมดูการฝึกซ้อมของเด็ก ๆ
“เน่ ๆ ซากุระจังถ้าซ้อมกันเสร็จแล้วเราไปเดทกันม๊า?” เด็กหนุ่มผมเหลืองหันไปถามเพื่อนร่วมทีมที่เขาชอบด้วยท่าทางอารมณ์ดี
“หน็อยใครจะไปกับนายกันยะไม่มีทางหรอก!” เด็กสาวหักนิ้วมือดังกร๊อบเพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหากอีกฝ่ายพูดอะไรไม่เข้าหูอีกล่ะก็รับรองว่าจะจัดการให้เละเลย
“โธ่ซากุระจังอะ”
“เอ้าเริ่มซ้อมกันได้แล้วพวกเธอ…ถ้าเกิดว่าฉันมีภารกิจเร่งด่วนเข้ามาพวกเธออาจจะไม่มีใครดูให้นะ!” อายากะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะเห็นว่าเด็กทั้งสองคนยังไม่เริ่มการฝึกซ้อมเลยสักที
“เฮ้อ…ไม่คิดว่ามันจะเหนื่อยขนาดนี้ เจ้าพวกนั้นก็ใช่ย่อยนึกว่าจะจัดการได้สบาย ๆ แต่เล่ห์เหลี่ยมกลับเยอะชะมัด” คาคาชิบ่นกับตัวเองระหว่างเดินออกมาจากห้องทำงานของโฮคาเงะ
หลังจากเดินออกมาจากที่ทำการโฮคาเงะเรียบร้อยแล้ว คาคาชิไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปทางไหนต่อดีระหว่างที่พักหรือว่าที่ทำการโจนิน จริงสิเขามีที่ที่นึงที่ยังไม่ได้ไปและอยากจะไปอยู่มากแต่ภารกิจเร่งด่วนจากท่านซึนาเดะทำให้เขายังไม่ได้ไปที่แห่งนั้นเลย
“มาหาท่านหญิงหรือครับคุณคาคาชิ”
เมื่อเดินไปถึงบ้านของผู้นำตระกูลฟูจิวาระ เขาก็ป๊ะเข้ากับมือขวาของผู้นำตระกูลอย่างโนบุทันที
“ใช่ครับ…แล้วยายนั่นอยู่ไหมครับ?”
“กว่าจะโผล่หน้ามาได้นะยะตาแก่ลามก หายหัวไปไหนตั้งนาน!” จากการที่จะรอฟังคำตอบอันสุภาพนุ่มนวลของโนบุนั้นก็กลับได้คำถามจากเสียงใสที่เอ่ยขึ้นด้วยความขุ่นเคืองแทน
“ภารกิจน่ะโทษที…ไม่คิดว่าจะทำให้เธอรอขนาดนี้” เขาพูดพร้อมกับส่งยิ้มตาหยีไปยังเธอ
“ใครว่าฉันรอกันล่ะยะ! เพ้อเจ้อน่า” หญิงสาวรีบโบกมือปฏิเสธด้วยความรวดเร็ว หน็อยหาว่าเธอรออย่างนั้นเหรอ ใช่ที่ไหนกันล่ะ ไม่มีทางหรอก!
“ถ้างั้นล่ะก็ ฉันก็มานี่เพื่อพบเธอนั่นแหละ ยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่ทำจานชามแตกเลยนะแล้วอีกอย่างเรื่องซักผ้าด้วย!”
“ทั้งทำจานแตกและซักผ้า มะ…หมายความว่ายังไงกันครับท่านหญิง?” โนบุถามออกไปด้วยสีหน้าตกใจแบบสุดขีดอย่าบอกนะว่าผู้นำตระกูลบุกไปถึงห้องของโจนินผมเงิน
“อย่าถามมากน่า นายจะไปทำธุระตรงไหนก็ไป…ส่วนนายน่ะตามฉันมาทางนี้เลยตาแก่ลามก!”
อายากะหันไปสั่งการโนบุด้วยความหัวเสีย วันนี้มันวันอะไรกันนะทำไมจะต้องมีเรื่องปวดหัวเข้ามาหาเธอไม่หยุดหย่อนด้วย
“เล่นซะจนฉันน่วมไปเลยนะ” คาคาชิพูดขึ้นหลังจากที่เขานั่งลงตรงระเบียงไม้หลังบ้านที่มีบ่อน้ำร้อนให้เอาไว้แช่เท้า
“ก็ใครใช้ให้นายมาสั่งให้ฉันทำงานบ้านแบบนั้นกันเล่า!”
“ช่วยไม่ได้นะเธอยอมรับข้อเสนอไปแล้วนี่นา” โจนินผมเงินพูดพลางจุ่มเท้าลงไปในบ่อน้ำร้อนที่อุณหภูมิกำลังเหมาะแก่การแช่เท้า
“ฮึ่ม…รอให้เรื่องนี้จบเมื่อไหร่เถอะฉันจะจัดการนายให้เละเลยคอยดู” หญิงสาวชูกำปั้นขึ้นมาด้วยท่าทางเอาเรื่องแต่กลับทำให้ชายที่นั่งข้าง ๆ หัวเราะออกมาเบา ๆ
“เธอนี่น้า…เป็นแบบนี้ตลอดเลย”
“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้เลยนะยะ!” อายากะหันไปแหวใส่คนที่นั่งข้าง ๆ พร้อมกับพาลคิดไปถึงตอนที่เป็นหน่วยลับแล้วได้สังกัดเป็นลูกทีมของคาคาชิ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอมักจะเป็นคนป่วนเขาอยู่ตลอดเวลาและนั่นเองก็เป็นที่มาของชื่อตาแก่ลามกที่เธอใช้เรียกเขาอยู่บ่อย ๆ
“ชักหิวขึ้นมาแล้วล่ะสิ” คาคาชิยกเท้าขึ้นจากน้ำเตรียมพร้อมที่จะลุกยืนขึ้น
“เดี๋ยวสิ เรื่องข้อเสนอนั่นน่ะคือว่า…เจ้าหมอเรียวอิจินั่นส่งจดหมายมาเชิญให้ฉันไปงานวันเกิดแล้วก็ชวนนายไปด้วย…ยังไงก็ตามนายรับปากฉันแล้ว นายต้องไปกับฉันแล้วอีกอย่างถ้าหากว่าเสร็จงานนี้เมื่อไหร่ทุกอย่างก็จบ”
‘เสร็จงานนี้เมื่อไหร่ทุกอย่างก็จบงั้นเหรอ?’ หมายความว่ายังไงกันนะ ตั้งแต่กลับมาจากบ้านตระกูลฟูจิวาระ โจนินผมเงินก็เอาแต่คิดถึงประโยคสุดท้ายที่อายากะเอ่ยออกมาจนสมองแทบระเบิด ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจะต้องคิดถึงคำพูดของหล่อนด้วย
“ให้ตายสิเรามาคิดเรื่องอะไรไร้สาระแบบนี้ทำไมเนี่ย”
ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ ตั้งแต่วันนั้นแล้วที่รู้สึกแปลก ๆ แบบนี้ ‘ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ?’ เสียงในใจดังก้องขึ้นมา แต่ว่าเขาก็พยายามจะผลักไสมันออกไป มันคงจะเป็นแค่เรื่องที่ไม่น่าเก็บเอามาคิดสักเท่าไหร่
“เฮ้อ…เป็นแบบนี้ไปได้ซะแล้วเราหรือว่าเราจะแก่แล้วจริง ๆ อย่างที่ยายนั่นว่า” เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะล้มลงนอนบนเตียงนุ่มพร้อมกับหลับไปด้วยความเหนื่อย
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ