{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story
-
เขียนโดย LadyTyrell
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.
26 ตอน
0 วิจารณ์
25.74K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
14) ข้อเสนอที่แสนบ้าบอกับแม่บ้านที่สุดเห่ย!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หน้าแท่นศิลาจารึกมีชายหนุ่มในชุดโจนินยืนหลับตาตรงนั้นอยู่เนิ่นนาน เขารู้สึกเสียใจที่ตามไปช่วยให้สมาชิกทีม7อย่างอุจิวะ ซาสึเกะกลับมาไม่ได้สุดท้ายจึงช่วยมาได้แค่นารุโตะ ทำไมกันนะเด็กคนนั้นถึงตัดสินใจเลือกเส้นทางแบบนั้นทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาได้พูดเตือนสติไปแล้วหนึ่งครั้งแต่ผลสุดท้ายเด็กหนุ่มนั่นก็ตัดสินใจออกจากหมู่บ้านไปอยู่ดีจนมาถึงตอนนี้เรื่องนั้นก็ยังคงรบกวนจิตใจเขาอยู่ไม่น้อย
“เฮ้อ…” คาคาชิถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงก่อนที่จะตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมนารุโตะและใช่สินะวันนี้เป็นวันที่สามที่ฟูจิวาระ อายากะสลบไป วันนี้เจ้าหล่อนคงจะฟื้นแล้วแวะเข้าไปเยี่ยมหน่อยก็คงจะไม่เสียหายและก็หวังว่าคงจะไม่ป๊ะเข้ากับเจ้าพวกเพื่อน ๆ
“บัดซบที่สุดเลย!” หญิงสาวผมยาวสลวยในชุดลำลองที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยสบถออกมาด้วยความโมโหเมื่อได้อ่านจดหมายที่โนบุนำมาให้
“ใจเย็น ๆ ก่อนครับท่านหญิง…ตอนนี้ท่านหญิงเพิ่งจะหายนะครับผมไม่อยากให้เก็บเรื่องนั้นมาใส่ใจ” โนบุเอ่ยด้วยความเป็นห่วงเพราะผู้นำตระกูลฟูจิวาระเพิ่งจะฟื้นจากการสลบมาเมื่อเช้ามืดนี้เอง
“จะให้เย็นได้ยังไงกันเล่า! เจ้าเรียวอิจินั่นน่ะต้องการจะเดทกับฉันให้ได้ถึงได้ส่งจดหมายมาเชิญฉันไปร่วมงานวันเกิด”
“ละ…แล้วท่านหญิงคิดว่ายังไงล่ะครับจะไปหรือว่าปฏิเสธ”
“เรื่องนั้นฉันขอคิดดูก่อนตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาคิดอะไรทั้งนั้นแต่ว่านะ…เจ้าหมอนั่นน่ะดันให้ฉันชวนตาแก่ลามกนั่นไปด้วยน่ะสิ” น้ำเสียงของอายากะบ่งบอกได้ว่าไม่สบอารมณ์สุด ๆ
“ไง…ฟื้นขึ้นมาก็โวยวายเชียวนะ” คาคาชินั่งยอง ๆ อยู่ที่ขอบหน้าต่างพร้อมกับถืออะจึ๋ยอยู่ในมือเอ่ยทักหญิงสาวที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่บนเตียง
“นายก็เหมือนกันนั่นแหละน่าตาแก่ลามก! ไม่เคยจะเข้าตามตรอกออกตามประตูเลยซักครั้ง”
“แหม ๆ เรียกชื่อฉันก็ได้นะ ถูกเรียกแบบนั้นแล้วรู้สึกจั๊กจี้ยังไงก็ไม่รู้สิ แหะ ๆ” คาคาชิยกมือเกาหัวเล็กน้อย
“ตาแก่ลามกน่ะเหมาะกับนายที่สุดแล้วเฟ้ย…แต่ก็เอาเถอะฉันมีเรื่องต้องคุยกับนายนิดหน่อย ถ้าเย็นนี้ว่างล่ะก็เจอกันที่ร้านเหล้า!”
“ดะ…เดี๋ยวนะครับ ท่านหญิงเพิ่งจะฟื้นเองนะผมว่าอย่าไปซัดเหล้าเลย”
“เอาน่า ๆ ตอนนี้ฉันสบายดีแล้วไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะตาแก่ลามกอย่าลืมล่ะ!”
“หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนะ งั้นเจอกันตอนเย็นฉันไปล่ะ” ว่าจบโจนินหนุ่มผมเงินก็หายตัวแวบไปทันที
ฟูจิวาระ อายากะนั่งอยู่หน้าระเบียงบ้านพร้อมกับขบคิดถึงเรื่องจดหมายที่เรียวอิจิส่งมาเชิญให้ทั้งเธอและแฟนกำมะลอที่เธอดึงเข้ามาเอี่ยวไปร่วมงานวันเกิดของเขา อีกไม่พอเจ้าหมอนั่นยังพ่วงท้ายด้วยว่ายังไงเสียเขาก็ยังยืนยันว่าอยากจะเดทกับเธอถึงแม้ว่าเธอจะมีแฟนอยู่แล้วก็ตาม
“หน็อยแสดงว่าเจ้าหมอนั่นไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่แต่ก็เอาเถอะครั้งนี้ฉันจะทำให้นายเชื่อจนสนิทใจเลย!”
“อายะจัง…รอนานไหมจ๊ะ พอดีว่าฉันกับรุ่นพี่แวะซื้อดังโงะมาให้น่ะจ้ะ” ยูกิยิ้มแป้นทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของหล่อนหายดีเป็นปกติแล้ว
“ไม่นานหรอกน่า เอ…ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าเก็นมะจะตามมาด้วย” หญิงสาวหรี่ตาจับพิรุธเพราะสงสัยในความสัมพันธ์ของสองคนนี้เพราะตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่ได้เจอกับเพื่อนทั้งสองของเธอสักเท่าไหร่ต่างคนต่างมีภารกิจให้ต้องทำนี่นะ
“ตอนจะเดินมาบ้านเธอฉันเจอยูกิโดยบังเอิญเลยชวนมาด้วยกันซะเลย…เอ้านี่ดังโงะของฝากกินซะสิ”
“ขอบใจนะ” หันไปขอบคุณเก็นมะพร้อมกับผายมือเชิญให้ทั้งสองหนุ่มสาวนั่งลง
“ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่มั้ยจ๊ะอายะจัง?”
“โอ๊ยไม่ต้องเป็นห่วงน่าฉันสบายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ถ้าไม่เชื่อนะให้ฉันสู้กับเก็นมะให้ดูมั้ยล่ะ?”
“ได้ไงเล่า…ฉันไม่อยากสู้กับผู้หญิงหรอกนะ” เก็นมะรีบปฏิเสธแทบจะทันที
ยูกิหัวเราะคิกขึ้นมาเพราะเดาออกอยู่ว่าต่างก็ไม่มีใครอยากจะสู้กับเพื่อนสนิทของเธอเลยสักนิด ยิ่งเวลาที่อายากะโมโหอาละวาดล่ะก็รีบเผ่นให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
“จะว่าไปแล้วช่วงนี้ก็ไม่ได้ฝึกวิชาอะไรเลย”
“เธอเพิ่งหายเองนี่ยายเจ๊โหดจะรีบไปทำไมกัน” เก็นมะพูดด้วยท่าทางอารมณ์ดีแต่ในใจก็แอบลุ้นหวังว่าคำพูดของเขาคงจะไม่ปลุกให้บาทากระทืบมารของอายากะตื่นตัว
“ฉันก็บอกแล้วยังไงล่ะยะว่าหายดีร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว!”
“แต่อายะจังก็ควรจะพักอีกสักนิดหน่อยนะจ๊ะ ไม่อยากจะให้หักโหมมากกลัวว่าจะทรุดลงอีก” น้ำเสียงของยูกิเอ่ยทัดทานด้วยความเป็นห่วง
ทั้งสามหนุ่มสาวนั่งคุยกันจนถึงเวลาเที่ยงกว่า ๆ ทั้งเก็นมะและยูกิก็ต่างพากันขอตัวกลับโดยที่เก็นมะให้เหตุผลว่าเขาต้องรีบไปทำภารกิจอย่างอื่นต่อส่วนยูกิก็จะแวะเข้าไปช่วยงานที่ร้านดอกไม้ก่อนที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อทำหน้าที่นินจาแพทย์
บนท้องถนนยามค่ำคืนของหมู่บ้านโคโนฮะงาคุเระนั้นคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งนินจาและชาวบ้านที่ต่างพากันออกมาเดินเล่นซื้อของกลับบ้านเพื่อไปทำกับข้าวและรวมไปถึงสิงห์สุราทั้งหลายที่ชอบไปสิงสถิตอยู่ตามร้านเหล้าและร้านคาราโอเกะ ฟูจิวาระ อายากะก็เป็นหนึ่งในนั้นเธอเดินไปเรื่อย ๆ เพื่อไปยังร้านเหล้าที่เธอนัดกับคาคาชิไว้
“เราไปเดินเล่นที่อื่นก่อนดีกว่า…ตาแก่ลามกนั่นน่ะมาช้าจะตายไป ไม่ไปนั่งรอให้รากงอกหรอกย่ะ” เมื่อคิดได้แบบนั้นหญิงสาวจึงหันเปลี่ยนเป้าหมายไปยังร้านขายเสื้อผ้าแทบจะทันที
“ทำไมยายนั่นยังไม่มาอีกนะ…เราอุตส่าห์มาก่อนเวลาตั้งหนึ่งนาทีเลยนะเนี่ย” คาคาชิพึมพำเบา ๆ เมื่อไม่เห็นวี่แววของคนที่นัดไว้ เขาจึงตัดสินใจเข้าไปนั่งข้างในร้านเพื่อรอเธออีกสักพัก
ผ่านไปได้พักใหญ่ ๆ เกือบจะครึ่งชั่วโมงเสียงใสของคนที่นัดเขาไว้ตั้งแต่เช้าก็ดังขึ้นมาทันที
“ไงตาแก่ลามกโทษทีนะพอดีว่าไปเจอลูกหมาหลงทางน่ะ” หญิงสาวยิ้มแป้นให้กับเขาก่อนที่จะนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“ข้ออ้างอะไรเนี่ย เชื่อไม่ได้เลย” เขาพึมพำออกมาเบา ๆ (แหม ๆ ทีหล่อนยังอ้างกับนารุโตะออกจะบ่อยพิสดารกว่านี้อีก// ไรท์)
“ว่า-ไง-นะ!” อายากะแทบจะเปลี่ยนไปอยู่โหมดนางยักษ์ทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่คาคาชิพูด
“ปะ…เปล่า ๆ ว่าแต่เธอมีอะไรเหรอถึงนัดฉันออกมาร้านเหล้าแบบนี้”
“เอาล่ะ…นายก็คงรู้อยู่แล้วว่าวันนั้นน่ะฉันตั้งใจดึงนายมาเป็นไม้กันหมาแล้วก็แบบว่าถ้าฉันจะยื่นข้อเสนอให้นายช่วยเป็นไม้กันหมาอีกครั้งล่ะ นายจะว่าไง?” ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองโจนินหนุ่มผมเงินที่นั่งอยู่ตรงข้ามเพื่อรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“ขอผ่าน” เขาโบกมือปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย แค่วันนั้นก็เป็นข่าวลือกันไปทั้งหมู่บ้านแล้วถ้าหากรับข้อเสนอบ้าบอนี่อีกล่ะก็ไม่เป็นข่าวลือไปทั้งแคว้นเลยเรอะ
“นี่ ๆ อย่าเพิ่งปฏิเสธสิ…ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าถ้าเกิดนายรับข้อเสนอของฉันล่ะก็ ฉันจะเลี้ยงอะไรก็ได้แบบฟรี ๆ ไปเลยสักหนึ่งหรือสองเดือน…ฟรีเชียวนะ?” หญิงสาวหรี่ตามองคนตรงหน้าอีกครั้งหวังว่าคราวนี้เหยื่อคงจะติดกับ
“น้อยไปม้างงงง” เขาเอามือเท้าค้างด้วยความเบื่อหน่าย จะทำยังไงดีนะนี่ให้ยายนี่เลิกขอให้เขาช่วยเรื่องบ้า ๆ แบบนั้น
“งั้นเลี้ยงฟรีทั้งชีวิตเลยก็ได้” คำพูดแบบไม่คิดอะไรของหญิงสาวตรงหน้าทำให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตกใจจนลูกตาแทบจะถลนออกจากเบ้า
“แว้กกกกกทั้งชีวิตเลยเรอะ อืมถ้างั้นล่ะก็…เอางี้ดีกว่า” เขาพูดด้วยท่าทางใช้ความคิดยังไงซะยายนี่ต้องได้รับบทเรียนซะบ้างแต่จะว่าไปเรื่องของกินฟรีนี่ก็น่าสนไม่ใช่น้อย
“นายก็ว่ามาซี่อย่ามัวแต่ทำสีหน้าเบื่อโลกแบบนั้นจะได้มั้ย”
“ฉันคิดออกแล้ว…เธอไม่จำเป็นต้องเลี้ยงข้าวฟรีฉันไปตลอดชีวิตหรอกนะแค่ทุก ๆ เย็นก็พอ” (มันต่างกันตรงไหนฟะ // ไรท์) เขาตอบพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะพูดต่อ “เรื่องนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อนนา…จะว่าไปแล้วอันที่จริงนอกจากเลี้ยงข้าวเย็นเธอก็ควรที่จะช่วยฉันทำความสะอาดห้องอันรกรุงรังด้วย”
“ได้ยังไงกันยะแค่ข้าวฟรีก็พอแล้วนี่…ได้คืบจะเอาศอกเรอะตาแก่ลามก!” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าเขาด้วยความโมโห หน็อยคิดได้คืบจะเอาศอก
“มันไม่ยุติธรรมกับฉันเอาซะเลย ก็คราวก่อนน่ะจู่ ๆ เธอก็ดึงฉันไปเป็นแฟนเฉยเลยทีนี้ล่ะก็ถึงเวลาที่ฉันควรจะทวงแบบทบต้นทบดอก…ถ้าเธออยากจะให้ฉันช่วยล่ะก็ทำตามนี้”
“ฮึ่ม…ฉันจะยอมรับข้อเสนอนายก็ได้เห็นแก่ว่าขี้เกียจหาไม้กันหมาคนใหม่นะยะ!”
“งั้นก็ตามนั้นล่ะนะยายเจ๊โหด…ถ้าจะให้ดีก็เริ่มพรุ่งนี้เลยก็แล้วกัน ฮ้าว…ง่วงแล้วสิฉันไปก่อนนะไว้พรุ่งนี้จะแวะไปกินข้าวฟรีที่บ้านเธอ”
ความขี้เกียจนั้นคือสิ่งที่อายากะยอมรับได้ว่าตัวเธอเองมักจะมีสิ่ง ๆ นี้อยู่เสมอ โดยเฉพาะในวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนในช่วงเช้า อากาศแบบนี้ทำให้เธอไม่อยากจะลุกออกจากที่นอนเลยจริง ๆ แต่สุดท้ายก็ทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้เพราะยังมีงานอีกมายมายรอเธออยู่โดยเฉพาะการรอรับภารกิจจากโฮคาเงะและงานทำความสะอาดที่คาคาชิยื่นข้อเสนอให้กับเธอ
“มาแต่เช้าเลยนะอาเจ๊หน้าหนา!” เก็นมะที่นั่งอยู่บนโซฟาเอ่ยทักอายากะด้วยท่าทางอารมณ์ดี
“เออช่วยไม่ได้นี่…อากาศแบบนี้ขี้เกียจชะมัด…ง่วงก็ง่วง!”
“วันนี้มาแปลกจริง ๆ ปกติเธอคงไล่หวดเจ้าเก็นมะไปเรียบร้อยแล้ว” คุเรไนเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มขำเพราะเวลาใครทักอะไรที่ไม่เข้าหูล่ะก็แม่รุ่นน้องคนนี้จะไล่หวดจนคนคนนั้นจมธรณีเลยทีเดียว
“ไม่มีแรงจะหวดแล้วค่ะรุ่นพี่…ฉันล่ะอยากจะงีบซะตรงนี้เลย” พูดไม่ทันขาดคำโจนินสาวผมส้มก็นั่งสัปหงกไปเป็นที่เรียบร้อยเรียกเสียงหัวเราะให้กับเหล่าโจนินที่นั่งรอรับภารกิจอยู่ไม่น้อย
“เอาอีกแล้วสิยายนี่…วันนี้จะรอดมั้ยล่ะเนี่ย” คาคาชิพูดพร้อมยกมือขึ้นปาดเหงื่อเมื่อเห็นสภาพของโจนินสาวอย่างฟูจิวาระ อายากะ นั่งสัปหงกอยู่ข้าง ๆ เก็นมะ
แผนอันชั่วร้ายของเขาตั้งใจไว้ว่ากะใช้งานเธอเยี่ยงทาสแล้วทีนี้บางที…ไม่เอาดีกว่า ๆ ต้องไปกินข้าวฟรีให้หนำใจก่อนแล้วค่อยหลอกใช้งานเยี่ยงทาสหลังจากนั้นล่ะก็…คนอย่างเจ้าหล่อนต้องโวยวายแน่ ๆ ยอมให้ข้าวของในห้องพักพังสักชิ้นสองชิ้นคงจะเป็นการเสียสละที่คุ้ม ถ้าหากว่าแม่สาวผมส้มรับการทำงานแบบนี้ไม่ได้ล่ะก็ สุดท้ายก็เข้าทางเขาล่ะ…หล่อนจะต้องยอมยกเลิกข้อเสนอบ้าบอนั่นแล้วตัวเขาเองก็จะปลอดภัยจากการโดนซักไซ้และการมอง
“แหม…เรานี่ก็คิดแผนซับซ้อนซ่อนเงื่อนแบบนี้ได้เร็วเหมือนกันนะนี่” เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะนั่งลงตรงโซฟาฝั่งตรงข้าม
“ไงคาคาชิ มารอรับภารกิจเหมือนกันเหรอ?” คุเรไนเป็นคนเปิดบทสนทนาก่อน
“ก็ประมาณนั้นนั่นแหละ…แล้วอาสึมะล่ะ?” อดใจที่จะถามไม่ได้เพราะส่วนมากเวลาเจอคุเรไนทีไรก็มักจะเจออาสึมะที่นั่นเสมอ
“ออกไปทำภารกิจน่ะ”
โจนินผมเงินเพียงแค่พยักหน้ารับแล้วก็หยิบหนังสือโปรดขึ้นมาอ่านเป็นอันว่าจากนี้ไปจะไม่สนทนากับใครทั้งสิ้น
“อา…งานเข้าแล้ว” เก็นมะพึมพำออกมาพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบห้องที่ตอนนี้เหลือแค่เขา คาคาชิและเพื่อนสนิทรุ่นน้องอย่างอายากะที่นั่งสัปหงกอยู่
“ฝากหน่อยนะคาคาชิ…เห็นทีว่าคงอีกนานกว่าจะตื่น” พูดจบเขาก็รีบย้ายร่างของเพื่อนสนิทให้ไปนั่งสัปหงกข้าง ๆ โจนินผมเงิน ถึงจะได้ยินข่าวลือมาบ้างเรื่องนั้นแต่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะถ้าหากว่ามันเป็นจริงกลุ่มแก๊งค์ต่างวัยของเขาจะต้องรู้ก่อนเป็นอันดับแรกแต่ถึงยังไงก็ตามก็อยากจะแกล้งแม่เพื่อนสนิทตัวแสบนี่เสียหน่อย
‘ถ้ายายนี่ตื่นมาคงตกใจไม่น้อย…เอาล่ะโชคดีนะอาเจ๊หน้าหนา' ชายหนุ่มคิดในใจก่อนที่จะค่อย ๆ ดันศีรษะของหญิงสาวผมส้มให้ไปพิงกับไหล่ของคนที่นั่งอ่านหนังสือนิยาย18+
“ไปล่ะนะ…โชคดีล่ะ” เขายิ้มมุมปากน้อย ๆ ก่อนที่จะรีบเผ่นแบบไม่คิดชีวิต ความจริงแล้วควรจะอวยพรให้โจนินผมเงินโชคดีอยู่รอดปลอดภัยมากกว่าสินะ
“เฮ้ย! อะไรฟะเนี่ย…เจ้าเก็นมะเล่นอะไรให้ฉันอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอีกแล้ว” คาคาชิสบถออกมาก่อนที่จะพยายามยกศีรษะของอายากะให้ไปพิงกับพนักโซฟาแทนแต่…มันก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อสาวเจ้าลืมตาตื่นขึ้นมา
“หน็อย…นี่นาย! ตาแก่ลามกคิดจะทำอะไรน่ะ!” โจนินสาวรีบกระเถิบตัวถอยห่างออกมาแทบจะทันที
“เปล่านี่ ฉันก็แค่จะย้ายให้เธอไปพิงพนักโซฟาแทน พิงไหล่ฉันมันหนักน่ะ!”
“ว่า-ยัง-ไง-นะ! หาว่าฉันหนักงั้นเหรอ…อย่าอยู่เลย!” อายากะลุกขึ้นแทบจะทันทีพร้อมกับเตรียมท่าไม้ตายของเธอ
“เฮ้…เดี๋ยวสิคือความจริงแล้วเก็นมะเป็นคน…”
ตุ้บ! เสียงหมัดกระทบกับศีรษะจนทำให้คนที่กำลังจะพูดกลืนคำพูดหายเข้าไปในลำคอจนหมด ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอมะเหงกจากหล่อนอีก คิดว่าจะอยู่รอดแล้วแท้ ๆ เฮ้อ…เสียชื่ออดีตหน่วยลับหมดแล้วก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนอย่างแม่นี่เป็นหน่วยลับได้ยังไง คิดแล้วก็ยังแปลกใจไม่หาย
“ว่ายังไงนะเจ้าเก็นมะงั้นเหรอ…หน็อยแน่ถ้าฉันเจอหมอนั่นเมื่อไหร่ล่ะก็จะจัดการให้สลบไปหนึ่งอาทิตย์ซะเลย!”
“อย่ามัวแต่บ่นเลย…รับผิดชอบฉันด้วยนะเธอน่ะ”
“อย่ามามั่วน่า ฉันไม่มีอะไรจะต้องรับผิดชอบเฟ้ย!”
“เธอลืมข้อตกลงไปแล้วรึไงกัน? สงสัยวันนี้คงไม่มีภารกิจแล้วล่ะเอาเป็นว่าเธอควรจะเริ่มทำความสะอาดห้องฉันตอนนี้เลยดีกว่า”
ไม่ทันไรฟูจิวาระ อายากะก็พบว่าตัวเธอเองยืนอยู่ตรงหน้าอ่างล้างจานในห้องพักของคาคาชิเรียบร้อยแล้ว ถ้วยชามกองสุมกันเต็มไปหมดแค่เห็นหญิงสาวก็ไม่อยากจะทำซะแล้ว อะไรกันนี่ทำไมวันนี้เธอต้องมาทำงานบ้านแบบนี้ด้วย จะว่าไปแล้วมันไม่ยุติธรรมกับเธอเลยสักนิดเดียว ยังไงซะเรื่องอะไรเธอจะต้องยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบแบบนี้…จนในที่สุดแผนหลาย ๆ แผนก็ผุดขึ้นมาในหัวเธอเป็นดอกเห็ด
“มัวแต่ชักช้าอยู่ได้เดี๋ยวก็ไม่เสร็จหรอก…ฉันยังมีผ้าอีกเป็นกองให้เธอช่วยซักนะ” เสียงโจนินหนุ่มดังขึ้นอยู่ข้างหลังของเธอเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนเงียบไปนาน แบบนี้ก็เข้าทางเขาล่ะอีกไม่นานยายเจ๊โหดนี่ต้องโวยวายและยกเลิกข้อตกลงแน่ ๆ
“แหมแผนเรานี่จ๊าบสุด ๆ ไปเลย” เขาพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะเดินไปนอนอ่านหนังสือบนเตียงด้วยความสบายใจ
“หน็อย ๆ คิดเหรอยะว่าฉันจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แบบนี้!” หญิงสาวล้างจานที่กองตั้งกันเป็นภูเขาด้วยความเคียดแค้นจึงทำให้เธอไม่ระมัดระวังในการล้างซักเท่าไหร่สุดท้ายจานเกือบทั้งหมดจึงกลายเป็นแค่เศษเล็กเศษน้อยนอนอยู่ในอ่างล้างจาน
เพล้ง เพล้ง เพล้ง! เสียงของจานชามที่แตกไปหลายใบทำให้โจนินผมเงินรีบวางนวนิยาย18+ที่ถืออยู่ในมือลงโดยอัตโนมัติพร้อมกับวิ่งไปที่อ่างล้างจานด้วยความรวดเร็ว หมดกันแผนอันแยบยลที่เคยวางไว้ คิดไว้ว่ายายเจ๊โหดคงจะทำข้าวของในห้องของเขาเสียหายแค่ไม่กี่ชิ้นแต่จากการที่ได้ยินเสียงจานชามแตกนั้นคงจะมากกว่าสิบใบแน่ ๆ
“อะไรกันยะเนี่ย ทำไมมันหลุดมือบ่อยแบบนี้ ฮึ่ม!” หญิงสาวร้องตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง
“ให้ตายสิเธอหยุดล้างเลยนะยายเจ๊โหด…แตกไปกี่ใบแล้วเนี่ย” คาคาชิพูดพลางปาดเหงื่อ ดูท่าทางแล้วเขาคงต้องเสียเงินซื้อจานชามใบใหม่มาอีกแน่ ๆ มันคุ้มกันไหมล่ะนี่กับแผนที่วางไว้
“ได้ยังไงกัน…ฉันอุตส่าห์มาช่วยทั้งทีก็ทำให้มันเสร็จ ๆ ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ?”
“แต่นี่มัน…มันแตกเกือบทั้งหมดเลย”
“โอ๊ยจะไปยุ่งยากอะไรเล่าเดี๋ยวก็เก็บไปทิ้งซะก็สิ้นเรื่อง…ส่วนใบใหม่น่ะนายก็แวะไปซื้อที่ร้านของตระกูลฉันสิ แบบใหม่มาเพียบเลยฉันลดให้ห้าเปอร์เซ็นเลยเอ้า!”
‘ยังจะมาขายของอีกเรอะ ผู้หญิงนี่จริง ๆ เล้ย’ เขาคิดในใจพร้อมกับถอดถุงมือออกเพื่อที่จะจัดการจานชามที่เหลือด้วยตัวเอง
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเองส่วนเธอน่ะไปซักผ้าที่กองไว้ตรงนั้นเลย” คาคาชิรีบชี้ไปยังตระกร้าผ้าที่วางอยู่มุมห้องให้อายากะดู
“จะบ้าเหรอยะมันเยอะซะขนาดนั้นฉันไม่เอาด้วยหรอก…” หล่อนบ่นกระปอดกระแปดพร้อมกับมองเขาด้วยความหงุดหงิด
“อย่าลืมไปสิว่าเรามีข้อตกลงอะไรกันไว้” เขาส่งยิ้มตาหยีให้กับเธอ ทำให้หญิงสาวที่เพิ่งจะถอยห่างออกจากอ่างล้างจานหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจพร้อมกับเดินกระแทกเท้าไปหยิบตะกร้าผ้าที่วางอยู่มุมห้องไปซัก
ระหว่างการซักผ้านั้นอายากะก็พบว่ามันช่างจะเป็นเวลาที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายเสียจริง ถ้าเปรียบการซักผ้าเป็นหญิงสาวในความคิดของเธอล่ะก็คงจะเป็นหญิงสาวที่ดูจืดชืดเอามากมากเลยล่ะ
“ฮ้าว…ไม่คิดว่ามันน่าจะเบื่อขนาดนี้ ซักเท่าไหร่ก็ซักไม่หมด เราเป็นนินจานะเฟ้ยไม่ใช่แม่บ้าน!”
“หึหึตาแก่ลามก…คราวนี้ล่ะ นายต้องยอมสยบให้ฉันแน่ ๆ” มือสวยของเธอหยุดชะงักไปทันทีเมื่อเพิ่งคิดแผนดี ๆ ออก
อายากะแอบมองตรงไปยังอ่างล้างจานเห็นว่าคาคาชิกำลังจัดการเก็บเศษจานชามที่เธอทำแตกเรียบร้อยแล้วและไม่นานนักชายหนุ่มก็จัดการเดินออกไปข้างนอกห้องเพื่อที่จะนำไปทิ้ง คราวนี้แหละโอกาสดีสำหรับเธอ
‘นี่คือความฝันหรือความจริงกันแน่นะ ทำไมยายเจ๊โหดที่กำลังซักผ้าอยู่ตรงระเบียงถึงได้แต่งตัวและท่าทางเหมือนนางเอกนิยายอะจึ๋ยเลย’ เขานึกในใจพร้อมกับรีบเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ด้วยความสงสัย ตอนนี้หัวใจเต้นรัวแรงมากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ
“มาแล้วเหรอค๊าพี่ชาย…” เสียงหวานใสปนด้วยความเซ็กซี่เอ่ยทักขึ้นมาทันที
“นะ…นี่มัน จ๊ากกกกกก” พูดจบเพียงแค่นั้นก็ต้องเลือดกำเดาพุ่งจนแทบหมดตัว เพราะนอกจากนางเอกนิยายจะนั่งซักผ้าให้เขาอยู่ตรงหน้าแล้ว หน้าอกหน้าใจของเธอก็ใหญ่ล้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ซะเหลือเกิน คิดแล้วก็แบบว่า ๆ เขินแปลก ๆ
“เฮ้อ…เมื่อยมือจังเลยซักมาตั้งนานแล้ว” เสียงใสพูดออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อนทำให้โจนินหนุ่มผมเงินที่ยืนมองด้วยสายตาชื่นชม(หื่น) รีบเสนอตัวเข้าช่วยเหลือแทบจะทันทีตอนนี้เขาคงลืมไปแล้วว่าความจริงแล้วคนที่เขาสั่งให้ซักผ้าคือฟูจิวาระ อายากะ
“แหมถ้าเหนื่อยก็เข้ามาพักในห้องก่อนสิครับเดี๋ยวผมจัดการเอง” คาคาชิคงจะไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ลูกตาเขาแทบจะถลนออกจากเบ้าแล้ว
“จะดีเหรอคะพี่ชาย…แบบว่าไม่อยากจะรบกวนน่ะค่ะ”
“ดีสิครับ…เข้ามาเลยครับไปนั่งรอบนเตียงได้เลย” ว่าจบคาคาชิก็รีบพุ่งออกไปที่ระเบียงพร้อมกับนั่งซักผ้าด้วยท่าทางขะมักขะเม้น
“งั้นฉันจะนอนรอพี่ตรงนี้นะคะ”
“คร้าบบบบบบบ จะรีบซักให้เสร็จไว ๆ เลยคร้าบบบบ”
“ฮ่า ๆ ตาแก่ลามกนี่ถูกหลอกง่ายซะจริง…เอาล่ะหมดหน้าที่ร่างแยกอย่างเราแล้วไปดีกว่า” สิ้นเสียงร่างแยกของอายากะที่แปลงเป็นนางเอกนิยายอะจึ๋ยก็สลายบ๊องไป
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงหลังจากตากผ้าตรงระเบียงเสร็จเรียบร้อยแล้วโจนินหนุ่มผมเงินจึงรีบกระโดดเข้าห้องด้วยความรวดเร็วพร้อมกับรีบปิดประตูระเบียงและม่านทั้งหมด
“มาแล้วคร้าบบบบบ” เมื่อเดินมาถึงเตียงนอนก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่านางเอกนิยายอะจึ๋ยเมื่อตะกี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย “รึว่า…ม่ายยยย” เขาหันไปมองรอบห้องเพื่อหาเจ้าหล่อนแต่สุดท้ายก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในห้องนอกจากเขา
“ให้ตายซี่ลืมคิดไปซะสนิทเลยว่าเราสั่งให้ยายเจ๊โหดนั่นซักผ้า…น่าอายจริง ๆ เลยเรา ความหื่น…เอ้ย!ความตื่นเต้นมันบังตาไปหน่อย”
“เฮ้อ…” คาคาชิถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงก่อนที่จะตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมนารุโตะและใช่สินะวันนี้เป็นวันที่สามที่ฟูจิวาระ อายากะสลบไป วันนี้เจ้าหล่อนคงจะฟื้นแล้วแวะเข้าไปเยี่ยมหน่อยก็คงจะไม่เสียหายและก็หวังว่าคงจะไม่ป๊ะเข้ากับเจ้าพวกเพื่อน ๆ
“บัดซบที่สุดเลย!” หญิงสาวผมยาวสลวยในชุดลำลองที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยสบถออกมาด้วยความโมโหเมื่อได้อ่านจดหมายที่โนบุนำมาให้
“ใจเย็น ๆ ก่อนครับท่านหญิง…ตอนนี้ท่านหญิงเพิ่งจะหายนะครับผมไม่อยากให้เก็บเรื่องนั้นมาใส่ใจ” โนบุเอ่ยด้วยความเป็นห่วงเพราะผู้นำตระกูลฟูจิวาระเพิ่งจะฟื้นจากการสลบมาเมื่อเช้ามืดนี้เอง
“จะให้เย็นได้ยังไงกันเล่า! เจ้าเรียวอิจินั่นน่ะต้องการจะเดทกับฉันให้ได้ถึงได้ส่งจดหมายมาเชิญฉันไปร่วมงานวันเกิด”
“ละ…แล้วท่านหญิงคิดว่ายังไงล่ะครับจะไปหรือว่าปฏิเสธ”
“เรื่องนั้นฉันขอคิดดูก่อนตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาคิดอะไรทั้งนั้นแต่ว่านะ…เจ้าหมอนั่นน่ะดันให้ฉันชวนตาแก่ลามกนั่นไปด้วยน่ะสิ” น้ำเสียงของอายากะบ่งบอกได้ว่าไม่สบอารมณ์สุด ๆ
“ไง…ฟื้นขึ้นมาก็โวยวายเชียวนะ” คาคาชินั่งยอง ๆ อยู่ที่ขอบหน้าต่างพร้อมกับถืออะจึ๋ยอยู่ในมือเอ่ยทักหญิงสาวที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่บนเตียง
“นายก็เหมือนกันนั่นแหละน่าตาแก่ลามก! ไม่เคยจะเข้าตามตรอกออกตามประตูเลยซักครั้ง”
“แหม ๆ เรียกชื่อฉันก็ได้นะ ถูกเรียกแบบนั้นแล้วรู้สึกจั๊กจี้ยังไงก็ไม่รู้สิ แหะ ๆ” คาคาชิยกมือเกาหัวเล็กน้อย
“ตาแก่ลามกน่ะเหมาะกับนายที่สุดแล้วเฟ้ย…แต่ก็เอาเถอะฉันมีเรื่องต้องคุยกับนายนิดหน่อย ถ้าเย็นนี้ว่างล่ะก็เจอกันที่ร้านเหล้า!”
“ดะ…เดี๋ยวนะครับ ท่านหญิงเพิ่งจะฟื้นเองนะผมว่าอย่าไปซัดเหล้าเลย”
“เอาน่า ๆ ตอนนี้ฉันสบายดีแล้วไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะตาแก่ลามกอย่าลืมล่ะ!”
“หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนะ งั้นเจอกันตอนเย็นฉันไปล่ะ” ว่าจบโจนินหนุ่มผมเงินก็หายตัวแวบไปทันที
ฟูจิวาระ อายากะนั่งอยู่หน้าระเบียงบ้านพร้อมกับขบคิดถึงเรื่องจดหมายที่เรียวอิจิส่งมาเชิญให้ทั้งเธอและแฟนกำมะลอที่เธอดึงเข้ามาเอี่ยวไปร่วมงานวันเกิดของเขา อีกไม่พอเจ้าหมอนั่นยังพ่วงท้ายด้วยว่ายังไงเสียเขาก็ยังยืนยันว่าอยากจะเดทกับเธอถึงแม้ว่าเธอจะมีแฟนอยู่แล้วก็ตาม
“หน็อยแสดงว่าเจ้าหมอนั่นไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่แต่ก็เอาเถอะครั้งนี้ฉันจะทำให้นายเชื่อจนสนิทใจเลย!”
“อายะจัง…รอนานไหมจ๊ะ พอดีว่าฉันกับรุ่นพี่แวะซื้อดังโงะมาให้น่ะจ้ะ” ยูกิยิ้มแป้นทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของหล่อนหายดีเป็นปกติแล้ว
“ไม่นานหรอกน่า เอ…ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าเก็นมะจะตามมาด้วย” หญิงสาวหรี่ตาจับพิรุธเพราะสงสัยในความสัมพันธ์ของสองคนนี้เพราะตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่ได้เจอกับเพื่อนทั้งสองของเธอสักเท่าไหร่ต่างคนต่างมีภารกิจให้ต้องทำนี่นะ
“ตอนจะเดินมาบ้านเธอฉันเจอยูกิโดยบังเอิญเลยชวนมาด้วยกันซะเลย…เอ้านี่ดังโงะของฝากกินซะสิ”
“ขอบใจนะ” หันไปขอบคุณเก็นมะพร้อมกับผายมือเชิญให้ทั้งสองหนุ่มสาวนั่งลง
“ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่มั้ยจ๊ะอายะจัง?”
“โอ๊ยไม่ต้องเป็นห่วงน่าฉันสบายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ถ้าไม่เชื่อนะให้ฉันสู้กับเก็นมะให้ดูมั้ยล่ะ?”
“ได้ไงเล่า…ฉันไม่อยากสู้กับผู้หญิงหรอกนะ” เก็นมะรีบปฏิเสธแทบจะทันที
ยูกิหัวเราะคิกขึ้นมาเพราะเดาออกอยู่ว่าต่างก็ไม่มีใครอยากจะสู้กับเพื่อนสนิทของเธอเลยสักนิด ยิ่งเวลาที่อายากะโมโหอาละวาดล่ะก็รีบเผ่นให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
“จะว่าไปแล้วช่วงนี้ก็ไม่ได้ฝึกวิชาอะไรเลย”
“เธอเพิ่งหายเองนี่ยายเจ๊โหดจะรีบไปทำไมกัน” เก็นมะพูดด้วยท่าทางอารมณ์ดีแต่ในใจก็แอบลุ้นหวังว่าคำพูดของเขาคงจะไม่ปลุกให้บาทากระทืบมารของอายากะตื่นตัว
“ฉันก็บอกแล้วยังไงล่ะยะว่าหายดีร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว!”
“แต่อายะจังก็ควรจะพักอีกสักนิดหน่อยนะจ๊ะ ไม่อยากจะให้หักโหมมากกลัวว่าจะทรุดลงอีก” น้ำเสียงของยูกิเอ่ยทัดทานด้วยความเป็นห่วง
ทั้งสามหนุ่มสาวนั่งคุยกันจนถึงเวลาเที่ยงกว่า ๆ ทั้งเก็นมะและยูกิก็ต่างพากันขอตัวกลับโดยที่เก็นมะให้เหตุผลว่าเขาต้องรีบไปทำภารกิจอย่างอื่นต่อส่วนยูกิก็จะแวะเข้าไปช่วยงานที่ร้านดอกไม้ก่อนที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อทำหน้าที่นินจาแพทย์
บนท้องถนนยามค่ำคืนของหมู่บ้านโคโนฮะงาคุเระนั้นคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งนินจาและชาวบ้านที่ต่างพากันออกมาเดินเล่นซื้อของกลับบ้านเพื่อไปทำกับข้าวและรวมไปถึงสิงห์สุราทั้งหลายที่ชอบไปสิงสถิตอยู่ตามร้านเหล้าและร้านคาราโอเกะ ฟูจิวาระ อายากะก็เป็นหนึ่งในนั้นเธอเดินไปเรื่อย ๆ เพื่อไปยังร้านเหล้าที่เธอนัดกับคาคาชิไว้
“เราไปเดินเล่นที่อื่นก่อนดีกว่า…ตาแก่ลามกนั่นน่ะมาช้าจะตายไป ไม่ไปนั่งรอให้รากงอกหรอกย่ะ” เมื่อคิดได้แบบนั้นหญิงสาวจึงหันเปลี่ยนเป้าหมายไปยังร้านขายเสื้อผ้าแทบจะทันที
“ทำไมยายนั่นยังไม่มาอีกนะ…เราอุตส่าห์มาก่อนเวลาตั้งหนึ่งนาทีเลยนะเนี่ย” คาคาชิพึมพำเบา ๆ เมื่อไม่เห็นวี่แววของคนที่นัดไว้ เขาจึงตัดสินใจเข้าไปนั่งข้างในร้านเพื่อรอเธออีกสักพัก
ผ่านไปได้พักใหญ่ ๆ เกือบจะครึ่งชั่วโมงเสียงใสของคนที่นัดเขาไว้ตั้งแต่เช้าก็ดังขึ้นมาทันที
“ไงตาแก่ลามกโทษทีนะพอดีว่าไปเจอลูกหมาหลงทางน่ะ” หญิงสาวยิ้มแป้นให้กับเขาก่อนที่จะนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“ข้ออ้างอะไรเนี่ย เชื่อไม่ได้เลย” เขาพึมพำออกมาเบา ๆ (แหม ๆ ทีหล่อนยังอ้างกับนารุโตะออกจะบ่อยพิสดารกว่านี้อีก// ไรท์)
“ว่า-ไง-นะ!” อายากะแทบจะเปลี่ยนไปอยู่โหมดนางยักษ์ทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่คาคาชิพูด
“ปะ…เปล่า ๆ ว่าแต่เธอมีอะไรเหรอถึงนัดฉันออกมาร้านเหล้าแบบนี้”
“เอาล่ะ…นายก็คงรู้อยู่แล้วว่าวันนั้นน่ะฉันตั้งใจดึงนายมาเป็นไม้กันหมาแล้วก็แบบว่าถ้าฉันจะยื่นข้อเสนอให้นายช่วยเป็นไม้กันหมาอีกครั้งล่ะ นายจะว่าไง?” ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองโจนินหนุ่มผมเงินที่นั่งอยู่ตรงข้ามเพื่อรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“ขอผ่าน” เขาโบกมือปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย แค่วันนั้นก็เป็นข่าวลือกันไปทั้งหมู่บ้านแล้วถ้าหากรับข้อเสนอบ้าบอนี่อีกล่ะก็ไม่เป็นข่าวลือไปทั้งแคว้นเลยเรอะ
“นี่ ๆ อย่าเพิ่งปฏิเสธสิ…ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าถ้าเกิดนายรับข้อเสนอของฉันล่ะก็ ฉันจะเลี้ยงอะไรก็ได้แบบฟรี ๆ ไปเลยสักหนึ่งหรือสองเดือน…ฟรีเชียวนะ?” หญิงสาวหรี่ตามองคนตรงหน้าอีกครั้งหวังว่าคราวนี้เหยื่อคงจะติดกับ
“น้อยไปม้างงงง” เขาเอามือเท้าค้างด้วยความเบื่อหน่าย จะทำยังไงดีนะนี่ให้ยายนี่เลิกขอให้เขาช่วยเรื่องบ้า ๆ แบบนั้น
“งั้นเลี้ยงฟรีทั้งชีวิตเลยก็ได้” คำพูดแบบไม่คิดอะไรของหญิงสาวตรงหน้าทำให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตกใจจนลูกตาแทบจะถลนออกจากเบ้า
“แว้กกกกกทั้งชีวิตเลยเรอะ อืมถ้างั้นล่ะก็…เอางี้ดีกว่า” เขาพูดด้วยท่าทางใช้ความคิดยังไงซะยายนี่ต้องได้รับบทเรียนซะบ้างแต่จะว่าไปเรื่องของกินฟรีนี่ก็น่าสนไม่ใช่น้อย
“นายก็ว่ามาซี่อย่ามัวแต่ทำสีหน้าเบื่อโลกแบบนั้นจะได้มั้ย”
“ฉันคิดออกแล้ว…เธอไม่จำเป็นต้องเลี้ยงข้าวฟรีฉันไปตลอดชีวิตหรอกนะแค่ทุก ๆ เย็นก็พอ” (มันต่างกันตรงไหนฟะ // ไรท์) เขาตอบพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะพูดต่อ “เรื่องนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อนนา…จะว่าไปแล้วอันที่จริงนอกจากเลี้ยงข้าวเย็นเธอก็ควรที่จะช่วยฉันทำความสะอาดห้องอันรกรุงรังด้วย”
“ได้ยังไงกันยะแค่ข้าวฟรีก็พอแล้วนี่…ได้คืบจะเอาศอกเรอะตาแก่ลามก!” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าเขาด้วยความโมโห หน็อยคิดได้คืบจะเอาศอก
“มันไม่ยุติธรรมกับฉันเอาซะเลย ก็คราวก่อนน่ะจู่ ๆ เธอก็ดึงฉันไปเป็นแฟนเฉยเลยทีนี้ล่ะก็ถึงเวลาที่ฉันควรจะทวงแบบทบต้นทบดอก…ถ้าเธออยากจะให้ฉันช่วยล่ะก็ทำตามนี้”
“ฮึ่ม…ฉันจะยอมรับข้อเสนอนายก็ได้เห็นแก่ว่าขี้เกียจหาไม้กันหมาคนใหม่นะยะ!”
“งั้นก็ตามนั้นล่ะนะยายเจ๊โหด…ถ้าจะให้ดีก็เริ่มพรุ่งนี้เลยก็แล้วกัน ฮ้าว…ง่วงแล้วสิฉันไปก่อนนะไว้พรุ่งนี้จะแวะไปกินข้าวฟรีที่บ้านเธอ”
ความขี้เกียจนั้นคือสิ่งที่อายากะยอมรับได้ว่าตัวเธอเองมักจะมีสิ่ง ๆ นี้อยู่เสมอ โดยเฉพาะในวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนในช่วงเช้า อากาศแบบนี้ทำให้เธอไม่อยากจะลุกออกจากที่นอนเลยจริง ๆ แต่สุดท้ายก็ทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้เพราะยังมีงานอีกมายมายรอเธออยู่โดยเฉพาะการรอรับภารกิจจากโฮคาเงะและงานทำความสะอาดที่คาคาชิยื่นข้อเสนอให้กับเธอ
“มาแต่เช้าเลยนะอาเจ๊หน้าหนา!” เก็นมะที่นั่งอยู่บนโซฟาเอ่ยทักอายากะด้วยท่าทางอารมณ์ดี
“เออช่วยไม่ได้นี่…อากาศแบบนี้ขี้เกียจชะมัด…ง่วงก็ง่วง!”
“วันนี้มาแปลกจริง ๆ ปกติเธอคงไล่หวดเจ้าเก็นมะไปเรียบร้อยแล้ว” คุเรไนเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มขำเพราะเวลาใครทักอะไรที่ไม่เข้าหูล่ะก็แม่รุ่นน้องคนนี้จะไล่หวดจนคนคนนั้นจมธรณีเลยทีเดียว
“ไม่มีแรงจะหวดแล้วค่ะรุ่นพี่…ฉันล่ะอยากจะงีบซะตรงนี้เลย” พูดไม่ทันขาดคำโจนินสาวผมส้มก็นั่งสัปหงกไปเป็นที่เรียบร้อยเรียกเสียงหัวเราะให้กับเหล่าโจนินที่นั่งรอรับภารกิจอยู่ไม่น้อย
“เอาอีกแล้วสิยายนี่…วันนี้จะรอดมั้ยล่ะเนี่ย” คาคาชิพูดพร้อมยกมือขึ้นปาดเหงื่อเมื่อเห็นสภาพของโจนินสาวอย่างฟูจิวาระ อายากะ นั่งสัปหงกอยู่ข้าง ๆ เก็นมะ
แผนอันชั่วร้ายของเขาตั้งใจไว้ว่ากะใช้งานเธอเยี่ยงทาสแล้วทีนี้บางที…ไม่เอาดีกว่า ๆ ต้องไปกินข้าวฟรีให้หนำใจก่อนแล้วค่อยหลอกใช้งานเยี่ยงทาสหลังจากนั้นล่ะก็…คนอย่างเจ้าหล่อนต้องโวยวายแน่ ๆ ยอมให้ข้าวของในห้องพักพังสักชิ้นสองชิ้นคงจะเป็นการเสียสละที่คุ้ม ถ้าหากว่าแม่สาวผมส้มรับการทำงานแบบนี้ไม่ได้ล่ะก็ สุดท้ายก็เข้าทางเขาล่ะ…หล่อนจะต้องยอมยกเลิกข้อเสนอบ้าบอนั่นแล้วตัวเขาเองก็จะปลอดภัยจากการโดนซักไซ้และการมอง
“แหม…เรานี่ก็คิดแผนซับซ้อนซ่อนเงื่อนแบบนี้ได้เร็วเหมือนกันนะนี่” เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะนั่งลงตรงโซฟาฝั่งตรงข้าม
“ไงคาคาชิ มารอรับภารกิจเหมือนกันเหรอ?” คุเรไนเป็นคนเปิดบทสนทนาก่อน
“ก็ประมาณนั้นนั่นแหละ…แล้วอาสึมะล่ะ?” อดใจที่จะถามไม่ได้เพราะส่วนมากเวลาเจอคุเรไนทีไรก็มักจะเจออาสึมะที่นั่นเสมอ
“ออกไปทำภารกิจน่ะ”
โจนินผมเงินเพียงแค่พยักหน้ารับแล้วก็หยิบหนังสือโปรดขึ้นมาอ่านเป็นอันว่าจากนี้ไปจะไม่สนทนากับใครทั้งสิ้น
“อา…งานเข้าแล้ว” เก็นมะพึมพำออกมาพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบห้องที่ตอนนี้เหลือแค่เขา คาคาชิและเพื่อนสนิทรุ่นน้องอย่างอายากะที่นั่งสัปหงกอยู่
“ฝากหน่อยนะคาคาชิ…เห็นทีว่าคงอีกนานกว่าจะตื่น” พูดจบเขาก็รีบย้ายร่างของเพื่อนสนิทให้ไปนั่งสัปหงกข้าง ๆ โจนินผมเงิน ถึงจะได้ยินข่าวลือมาบ้างเรื่องนั้นแต่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะถ้าหากว่ามันเป็นจริงกลุ่มแก๊งค์ต่างวัยของเขาจะต้องรู้ก่อนเป็นอันดับแรกแต่ถึงยังไงก็ตามก็อยากจะแกล้งแม่เพื่อนสนิทตัวแสบนี่เสียหน่อย
‘ถ้ายายนี่ตื่นมาคงตกใจไม่น้อย…เอาล่ะโชคดีนะอาเจ๊หน้าหนา' ชายหนุ่มคิดในใจก่อนที่จะค่อย ๆ ดันศีรษะของหญิงสาวผมส้มให้ไปพิงกับไหล่ของคนที่นั่งอ่านหนังสือนิยาย18+
“ไปล่ะนะ…โชคดีล่ะ” เขายิ้มมุมปากน้อย ๆ ก่อนที่จะรีบเผ่นแบบไม่คิดชีวิต ความจริงแล้วควรจะอวยพรให้โจนินผมเงินโชคดีอยู่รอดปลอดภัยมากกว่าสินะ
“เฮ้ย! อะไรฟะเนี่ย…เจ้าเก็นมะเล่นอะไรให้ฉันอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอีกแล้ว” คาคาชิสบถออกมาก่อนที่จะพยายามยกศีรษะของอายากะให้ไปพิงกับพนักโซฟาแทนแต่…มันก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อสาวเจ้าลืมตาตื่นขึ้นมา
“หน็อย…นี่นาย! ตาแก่ลามกคิดจะทำอะไรน่ะ!” โจนินสาวรีบกระเถิบตัวถอยห่างออกมาแทบจะทันที
“เปล่านี่ ฉันก็แค่จะย้ายให้เธอไปพิงพนักโซฟาแทน พิงไหล่ฉันมันหนักน่ะ!”
“ว่า-ยัง-ไง-นะ! หาว่าฉันหนักงั้นเหรอ…อย่าอยู่เลย!” อายากะลุกขึ้นแทบจะทันทีพร้อมกับเตรียมท่าไม้ตายของเธอ
“เฮ้…เดี๋ยวสิคือความจริงแล้วเก็นมะเป็นคน…”
ตุ้บ! เสียงหมัดกระทบกับศีรษะจนทำให้คนที่กำลังจะพูดกลืนคำพูดหายเข้าไปในลำคอจนหมด ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอมะเหงกจากหล่อนอีก คิดว่าจะอยู่รอดแล้วแท้ ๆ เฮ้อ…เสียชื่ออดีตหน่วยลับหมดแล้วก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนอย่างแม่นี่เป็นหน่วยลับได้ยังไง คิดแล้วก็ยังแปลกใจไม่หาย
“ว่ายังไงนะเจ้าเก็นมะงั้นเหรอ…หน็อยแน่ถ้าฉันเจอหมอนั่นเมื่อไหร่ล่ะก็จะจัดการให้สลบไปหนึ่งอาทิตย์ซะเลย!”
“อย่ามัวแต่บ่นเลย…รับผิดชอบฉันด้วยนะเธอน่ะ”
“อย่ามามั่วน่า ฉันไม่มีอะไรจะต้องรับผิดชอบเฟ้ย!”
“เธอลืมข้อตกลงไปแล้วรึไงกัน? สงสัยวันนี้คงไม่มีภารกิจแล้วล่ะเอาเป็นว่าเธอควรจะเริ่มทำความสะอาดห้องฉันตอนนี้เลยดีกว่า”
ไม่ทันไรฟูจิวาระ อายากะก็พบว่าตัวเธอเองยืนอยู่ตรงหน้าอ่างล้างจานในห้องพักของคาคาชิเรียบร้อยแล้ว ถ้วยชามกองสุมกันเต็มไปหมดแค่เห็นหญิงสาวก็ไม่อยากจะทำซะแล้ว อะไรกันนี่ทำไมวันนี้เธอต้องมาทำงานบ้านแบบนี้ด้วย จะว่าไปแล้วมันไม่ยุติธรรมกับเธอเลยสักนิดเดียว ยังไงซะเรื่องอะไรเธอจะต้องยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบแบบนี้…จนในที่สุดแผนหลาย ๆ แผนก็ผุดขึ้นมาในหัวเธอเป็นดอกเห็ด
“มัวแต่ชักช้าอยู่ได้เดี๋ยวก็ไม่เสร็จหรอก…ฉันยังมีผ้าอีกเป็นกองให้เธอช่วยซักนะ” เสียงโจนินหนุ่มดังขึ้นอยู่ข้างหลังของเธอเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนเงียบไปนาน แบบนี้ก็เข้าทางเขาล่ะอีกไม่นานยายเจ๊โหดนี่ต้องโวยวายและยกเลิกข้อตกลงแน่ ๆ
“แหมแผนเรานี่จ๊าบสุด ๆ ไปเลย” เขาพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะเดินไปนอนอ่านหนังสือบนเตียงด้วยความสบายใจ
“หน็อย ๆ คิดเหรอยะว่าฉันจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แบบนี้!” หญิงสาวล้างจานที่กองตั้งกันเป็นภูเขาด้วยความเคียดแค้นจึงทำให้เธอไม่ระมัดระวังในการล้างซักเท่าไหร่สุดท้ายจานเกือบทั้งหมดจึงกลายเป็นแค่เศษเล็กเศษน้อยนอนอยู่ในอ่างล้างจาน
เพล้ง เพล้ง เพล้ง! เสียงของจานชามที่แตกไปหลายใบทำให้โจนินผมเงินรีบวางนวนิยาย18+ที่ถืออยู่ในมือลงโดยอัตโนมัติพร้อมกับวิ่งไปที่อ่างล้างจานด้วยความรวดเร็ว หมดกันแผนอันแยบยลที่เคยวางไว้ คิดไว้ว่ายายเจ๊โหดคงจะทำข้าวของในห้องของเขาเสียหายแค่ไม่กี่ชิ้นแต่จากการที่ได้ยินเสียงจานชามแตกนั้นคงจะมากกว่าสิบใบแน่ ๆ
“อะไรกันยะเนี่ย ทำไมมันหลุดมือบ่อยแบบนี้ ฮึ่ม!” หญิงสาวร้องตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง
“ให้ตายสิเธอหยุดล้างเลยนะยายเจ๊โหด…แตกไปกี่ใบแล้วเนี่ย” คาคาชิพูดพลางปาดเหงื่อ ดูท่าทางแล้วเขาคงต้องเสียเงินซื้อจานชามใบใหม่มาอีกแน่ ๆ มันคุ้มกันไหมล่ะนี่กับแผนที่วางไว้
“ได้ยังไงกัน…ฉันอุตส่าห์มาช่วยทั้งทีก็ทำให้มันเสร็จ ๆ ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ?”
“แต่นี่มัน…มันแตกเกือบทั้งหมดเลย”
“โอ๊ยจะไปยุ่งยากอะไรเล่าเดี๋ยวก็เก็บไปทิ้งซะก็สิ้นเรื่อง…ส่วนใบใหม่น่ะนายก็แวะไปซื้อที่ร้านของตระกูลฉันสิ แบบใหม่มาเพียบเลยฉันลดให้ห้าเปอร์เซ็นเลยเอ้า!”
‘ยังจะมาขายของอีกเรอะ ผู้หญิงนี่จริง ๆ เล้ย’ เขาคิดในใจพร้อมกับถอดถุงมือออกเพื่อที่จะจัดการจานชามที่เหลือด้วยตัวเอง
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเองส่วนเธอน่ะไปซักผ้าที่กองไว้ตรงนั้นเลย” คาคาชิรีบชี้ไปยังตระกร้าผ้าที่วางอยู่มุมห้องให้อายากะดู
“จะบ้าเหรอยะมันเยอะซะขนาดนั้นฉันไม่เอาด้วยหรอก…” หล่อนบ่นกระปอดกระแปดพร้อมกับมองเขาด้วยความหงุดหงิด
“อย่าลืมไปสิว่าเรามีข้อตกลงอะไรกันไว้” เขาส่งยิ้มตาหยีให้กับเธอ ทำให้หญิงสาวที่เพิ่งจะถอยห่างออกจากอ่างล้างจานหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจพร้อมกับเดินกระแทกเท้าไปหยิบตะกร้าผ้าที่วางอยู่มุมห้องไปซัก
ระหว่างการซักผ้านั้นอายากะก็พบว่ามันช่างจะเป็นเวลาที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายเสียจริง ถ้าเปรียบการซักผ้าเป็นหญิงสาวในความคิดของเธอล่ะก็คงจะเป็นหญิงสาวที่ดูจืดชืดเอามากมากเลยล่ะ
“ฮ้าว…ไม่คิดว่ามันน่าจะเบื่อขนาดนี้ ซักเท่าไหร่ก็ซักไม่หมด เราเป็นนินจานะเฟ้ยไม่ใช่แม่บ้าน!”
“หึหึตาแก่ลามก…คราวนี้ล่ะ นายต้องยอมสยบให้ฉันแน่ ๆ” มือสวยของเธอหยุดชะงักไปทันทีเมื่อเพิ่งคิดแผนดี ๆ ออก
อายากะแอบมองตรงไปยังอ่างล้างจานเห็นว่าคาคาชิกำลังจัดการเก็บเศษจานชามที่เธอทำแตกเรียบร้อยแล้วและไม่นานนักชายหนุ่มก็จัดการเดินออกไปข้างนอกห้องเพื่อที่จะนำไปทิ้ง คราวนี้แหละโอกาสดีสำหรับเธอ
‘นี่คือความฝันหรือความจริงกันแน่นะ ทำไมยายเจ๊โหดที่กำลังซักผ้าอยู่ตรงระเบียงถึงได้แต่งตัวและท่าทางเหมือนนางเอกนิยายอะจึ๋ยเลย’ เขานึกในใจพร้อมกับรีบเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ด้วยความสงสัย ตอนนี้หัวใจเต้นรัวแรงมากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ
“มาแล้วเหรอค๊าพี่ชาย…” เสียงหวานใสปนด้วยความเซ็กซี่เอ่ยทักขึ้นมาทันที
“นะ…นี่มัน จ๊ากกกกกก” พูดจบเพียงแค่นั้นก็ต้องเลือดกำเดาพุ่งจนแทบหมดตัว เพราะนอกจากนางเอกนิยายจะนั่งซักผ้าให้เขาอยู่ตรงหน้าแล้ว หน้าอกหน้าใจของเธอก็ใหญ่ล้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ซะเหลือเกิน คิดแล้วก็แบบว่า ๆ เขินแปลก ๆ
“เฮ้อ…เมื่อยมือจังเลยซักมาตั้งนานแล้ว” เสียงใสพูดออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อนทำให้โจนินหนุ่มผมเงินที่ยืนมองด้วยสายตาชื่นชม(หื่น) รีบเสนอตัวเข้าช่วยเหลือแทบจะทันทีตอนนี้เขาคงลืมไปแล้วว่าความจริงแล้วคนที่เขาสั่งให้ซักผ้าคือฟูจิวาระ อายากะ
“แหมถ้าเหนื่อยก็เข้ามาพักในห้องก่อนสิครับเดี๋ยวผมจัดการเอง” คาคาชิคงจะไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ลูกตาเขาแทบจะถลนออกจากเบ้าแล้ว
“จะดีเหรอคะพี่ชาย…แบบว่าไม่อยากจะรบกวนน่ะค่ะ”
“ดีสิครับ…เข้ามาเลยครับไปนั่งรอบนเตียงได้เลย” ว่าจบคาคาชิก็รีบพุ่งออกไปที่ระเบียงพร้อมกับนั่งซักผ้าด้วยท่าทางขะมักขะเม้น
“งั้นฉันจะนอนรอพี่ตรงนี้นะคะ”
“คร้าบบบบบบบ จะรีบซักให้เสร็จไว ๆ เลยคร้าบบบบ”
“ฮ่า ๆ ตาแก่ลามกนี่ถูกหลอกง่ายซะจริง…เอาล่ะหมดหน้าที่ร่างแยกอย่างเราแล้วไปดีกว่า” สิ้นเสียงร่างแยกของอายากะที่แปลงเป็นนางเอกนิยายอะจึ๋ยก็สลายบ๊องไป
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงหลังจากตากผ้าตรงระเบียงเสร็จเรียบร้อยแล้วโจนินหนุ่มผมเงินจึงรีบกระโดดเข้าห้องด้วยความรวดเร็วพร้อมกับรีบปิดประตูระเบียงและม่านทั้งหมด
“มาแล้วคร้าบบบบบ” เมื่อเดินมาถึงเตียงนอนก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่านางเอกนิยายอะจึ๋ยเมื่อตะกี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย “รึว่า…ม่ายยยย” เขาหันไปมองรอบห้องเพื่อหาเจ้าหล่อนแต่สุดท้ายก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในห้องนอกจากเขา
“ให้ตายซี่ลืมคิดไปซะสนิทเลยว่าเราสั่งให้ยายเจ๊โหดนั่นซักผ้า…น่าอายจริง ๆ เลยเรา ความหื่น…เอ้ย!ความตื่นเต้นมันบังตาไปหน่อย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ