{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story
-
เขียนโดย LadyTyrell
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.
26 ตอน
0 วิจารณ์
25.72K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
13) อาเจ๊กลับมาแล้ว!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ อินทรีย์หนุ่มสีน้ำตาลบินร่อนลงมายังหน้าประตูหมู่บ้านด้วยความนุ่มนวลก่อนหน้านี้เขาถูกโจนินสาวใช้คาถาอัญเชิญให้บินมาส่งที่หมู่บ้าน เมื่อสำรวจดูจากท่าทางของเธอแล้วคงจะไม่ค่อยมีแรงเดินทางเองมากสักเท่าไหร่ “แน่ใจเหรอว่าจะไม่ให้ไปส่งที่บ้านน่ะ?” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“ถ้าถึงโคโนฮะก็ปลอดภัยแล้วล่ะค่ะท่านมิชิ…ไม่เป็นอะไรแล้วขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ” ว่าจบอายากะก็รีบกระโดดลงหลังของอินทรีย์หนุ่มแทบจะทันที
เสียงพูดคุยของอายากะกับมิชินั้นทำให้จูนินหนุ่มสองคนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าหมู่บ้านถึงกับต้องรีบหันไปมองด้วยความสนใจ
“อ้าวคุณอายากะไม่เจอหลายวันเลยนะครับ ภารกิจเป็นยังไงบ้าง?” จูนินหนุ่มคนแรกชิงถามขึ้นก่อนทันทีเมื่อเห็นว่าโจนินสาวผมส้มเดินผ่านประตูหมู่บ้านเข้ามาเรียบร้อยแล้ว
“เลือดตกยางออกนิดหน่อยน่ะแต่แค่นี้ไม่คณามือฉันหรอกน่าฮ่า ๆ” หญิงสาวยิ้มตอบอย่างอารมณ์ดีก่อนที่คิ้วสวยของเธอจะต้องขมวดมุ่นอีกครั้งเพราะจูนินหนุ่มคนที่สองกำลังจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ
“จะว่าไปแล้วกลับมาก็ดีแล้วล่ะครับเพราะว่าตอนนี้น่ะมีข่าวลือเกี่ยวกับคุณอายากะเยอะแยะไปหมดเลย”
“เอ๋…ข่าวลือเรื่องอะไรงั้นเหรอ?” เธอถามด้วยความแปลกใจ
“ก็เรื่องที่แบบว่า…” เขายังไม่ทันได้พูดจบเสียงทักทายอันร่าเริงของเด็กหนวดแมวอย่างนารุโตะก็แทรกเข้ามาก่อน
“เฮ้ อาเจ๊ อาเจ๊กลับมาแล้ว” เด็กหนุ่มวิ่งตรงเข้ามาหาอายากะด้วยความร่าเริง
“นี่ ๆ อาเจ๊ อาเจ๊รู้ป่ะว่าไม่อยู่หลายวันเนี่ยมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับอาเจ๊เยอะแยะเลยนา” นารุโตะพูดพลางเอามือถูจมูกก่อนที่จะหันไปทักจูนินหนุ่มสองคน
“อย่าบอกนะว่าพี่ชายสองคนน่ะบอกข่าวกับอาเจ๊ไปเรียบร้อยแล้ว…อย่าเพิ่งเชียวนา ข่าวนี้ผมจะเป็นคนบอกเอง” ว่าจบเด็กหนุ่มก็รีบลากโจนินสาวกลับไปยังบ้านของตระกูลฟูจิวาระ
“อะไรของมันวะเนี่ย…อดรู้ความจริงเลยเรา ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก” จูนินหนุ่มถอนหายใจพร้อมกับเริ่มปลงตกที่ต้องมารับหน้าที่เฝ้าประตูหน้าหมู่บ้านด้วยความเบื่อหน่าย
หลังจากเดินตามแรงลากของนารุโตะมาจนถึงบ้านของตระกูลเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ต้องพบว่าคนในตระกูลมองเธอด้วยความสงสัยใคร่รู้ เธอจึงต้องกระแอมไปหลายครั้งเพื่อให้พวกนั้นเลิกจ้องเธอซะที
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ยหา?” เมื่อนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ห้องรับแขกเรียบร้อยแล้วหญิงสาวจึงรีบเอ่ยถามเจ้าเด็กหนวดแมว
“ฮ่ะ ๆ ก็แบบว่านะอาเจ๊มีแฟนรึยังอะ?” เด็กหนุ่มเกาหัวด้วยความเขินอายก่อนที่จะนิ่งรอฟังคำตอบ
“จะให้ฉันมีได้ยังไงกันล่ะยะ…มีแต่ปัญหาโน่นนี่นั่นเข้ามาใครจะไปมีเวลามีแฟน!” อายากะแหวใส่เด็กหนุ่มด้วยความโมโห อย่าบอกนะว่าที่ใครหลายคนมองเธอด้วยสายตาสงสัยแบบนั้นเป็นเพราะเรื่องที่นารุโตะกำลังถามเธอ
“เห…จริงเด้? ผมไม่เชื่ออะ ผมได้ยินมาเต็มสองหูเลยนา!”
“ได้ยินเรื่องอะไรกันยะ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย” หญิงสาวยังคงขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย เรื่องอะไรกันนะเธอไม่ได้พูดซะหน่อยว่ามีแฟน บ้าจริง ๆ เจ้าเด็กนี่
“ก็แบบว่า ๆ ความจริงแล้วอาเจ๊กับเจ้าครูคาคาชินั่นน่ะเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ”
ผ่าง! อายากะช็อคไปแทบจะทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่นารุโตะพูด ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมีคนได้ยินด้วย หน็อยแน่อย่าให้รู้นะว่าใครเป็นคนเอาไปปล่อยข่าว
“ให้ตายซี่…มันไม่ใช่ความจริงเลยซักนิดเดียว” หญิงสาวทำหน้าเบื่อหน่ายอย่างสุดขีด
“จริงเซ่! ผมได้ยินอาเจ๊พูดกับเจ้าหมอเรียวอิจินั่นเต็มสองหูแล้วจากนั้นผมก็เอาไปถามพวกโจนินให้ทั่วเลยว่าจริงไม่จริง” นารุโตะหยุดไว้เพียงเท่านั้นเพราะตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าตาขวากระตุกรัว ๆ
“หมายความว่าไงเจ้า-นา-รุ-โตะ!” สายตาพิฆาตของอายากะลุกเป็นไฟโชติช่วงทำให้เด็กหนุ่มผมเหลืองอ้าปากพะงาบ ๆ พูดอะไรไม่ออก
“คะ…คือว่า…ผม”
“บาทากระทืบมารเวอร์ชั่นทะลวงไส้!” หญิงสาวซัดบาทากระทืบมารใส่เด็กหนุ่มแทบจะทันทีทันใด ทำให้ตอนนี้นารุโตะกลมกลืนไปกับพื้นห้องรับแขกเป็นที่เรียบร้อย
“เกิดอะไรขึ้นครับท่านหญิงเสียงเอะอะดังไปจนถึงห้องผมเลย” โนบุรีบวิ่งเข้ามาแทบจะทันทีเมื่อได้ยินเสียงสนั่นหวั่นไหวของบาทากระทืบมารเวอร์ชั่นทะลวงไส้
“ไม่มีอะไรหรอกฉันก็แค่จัดการเจ้าเด็กปากมากนี่ให้หายหงุดหงิดซะหน่อย…ว่าแต่นายเถอะคงไม่เชื่อข่าวบ้าบอของเจ้านารุโตะใช่ไหม?” อายากะยังคงไว้ซึ่งสีหน้าอันเหี้ยมโหดทำให้โนบุไม่กล้าสบตาผู้นำตระกูลสาวโดยตรง
“แหะ ๆ ก็ใช่น่ะสิครับใครจะไปเชื่อได้ลงกันล่ะ” ชายวัยกลางคนยิ้มแห้ง ๆ ให้กับเธอก่อนที่จะขอตัวไปทำธุระให้กับตระกูล
“โธ่เว้ยอาเจ๊ ผมจะไปรู้รึไงเล่าว่ามันเป็นแค่เรื่องโกหกก็อาเจ๊พูดซะเต็มปากเต็มคำแบบนั้น!” นารุโตะที่เพิ่งจะแซะตัวออกมาจากพื้นห้องได้รีบเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางลำบาก
“นั่นมันเป็นวิธีเอาตัวรอดที่ฉันจำเป็นต้องทำ…นี่แล้วอีกอย่างนะช่วยหยุดเอาเรื่องนี้ไปโพนทะนาด้วยถ้าไม่งั้นล่ะก็นายจะเจอเวอร์ชั่นพิฆาตศัตรูแน่ ๆ” โจนินสาวทำท่าหักนิ้วดังกร๊อบก่อนที่จะปล่อยให้เด็กหนุ่มอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยความงุนงง
“ตกลงมันยังไงกันแน่วะเนี่ย เจ้าครูนั่นก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย ฮึ่ย…เรื่องนี้เราต้องรู้ให้ได้”
โจนินสาวรีบเขียนรายงานภารกิจอย่างรีบเร่งพร้อมกับรีบไปยังที่ทำการโฮคาเงะเพื่อที่จะส่งมอบรายงานภารกิจ
“เป็นยังไงบ้างล่ะ?” ซึนาเดะรับม้วนภารกิจจากอายากะพร้อมกับเอ่ยถาม
“ก็ดีกว่าที่คิดไว้ค่ะป้า”
“หน้าเธอดูซีด ๆ นะ” โฮคาเงะสาวจับสังเกตอาการผิดปกติของโจนินสาวได้ดี
“ก็คงเหนื่อยจากภารกิจนั่นล่ะน่าป้า ไม่มีไรมาหรอกฉันขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็รีบออกจากที่ทำการโฮคาเงะไปยังร้านดอกไม้ตระกูลยามานากะ
เธอบรรจงวางดอกไม้ไว้ที่แท่นศิลาพร้อมกับหลับตาระลึกถึงพี่ชายและคนที่จากไปอีกหลายคน ครั้งนี้ภารกิจของเธอสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี บางทีส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าได้รับคำอวยพรดี ๆ จากเหล่าวีรบุรุษที่จากไปก็เป็นได้
“เกิดเรื่องวุ่นวายเข้าอีกแล้วสิ” เสียงทักจากคนที่เพิ่งจะมาถึงทำให้อายากะต้องรีบลุกขึ้นและหันไปมอง
“เรื่องข่าวลือนั่นน่ะเหรอ…ช่างหัวมันปะไร ไม่ต้องไปสนใจหรอกน่า”
“ให้ตายสิ ไม่คิดว่าท่านหญิงฟูจิวาระจะคิดแบบนี้” โจนินหนุ่มผมเงินทำหน้าตาเบื่อโลกอีกครั้งก่อนที่จะเดินสวนเธอไปหยุดตรงหน้าแท่นศิลาพร้อมกับวางช่อดอกไม้ลงข้าง ๆ ช่อของเธอ
“จัดการลูกศิษย์นายหน่อยก็แล้วกันนะ เจ้านารุโตะน่ะตัวดีเลย!” คิดแล้วก็ยังแค้นไม่หายอยากจะอัดเจ้าเด็กนั่นซักสิบหมัดให้จมธรณี
“เฮ้อ…แล้วกันแต่อันดับแรกต้องจัดการกับตัวต้นเรื่องอย่างเธอก่อน”
“หน็อยฉันไม่ยอมให้จัดการง่าย ๆ หรอกย่ะฝันไปเถอะ” ว่าจบหญิงสาวก็อยู่ในท่าประสานอินเตรียมพร้อมที่จะหายตัวแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อรู้สึกว่าภาพตรงหน้าเลือนรางจนมองแทบจะไม่เห็นพร้อมกับร่างของเธอที่กำลังร่วงลงไปกับพื้น
“ระวัง!” คาคาชิพุ่งตัวไปรับร่างของโจนินสาวด้วยความรวดเร็ว
“อะไรกันอยู่ ๆ ก็เป็นลมไปซะอย่างนั้นหรือว่าบาดเจ็บจากภารกิจมา” เขามองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนที่จะรีบพาไปโรงพยาบาลด้วยความรวดเร็ว
“ฉันสังเกตตั้งแต่เมื่อกี้แล้วล่ะตอนที่ยายนี่มาส่งรายงานภารกิจ…เท่าที่ดูแล้วคงจะเป็นเพราะร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดีแต่ก็ดันพยายามรีดเร้นจักระมาใช้ ให้นอนพักสักสองสามวันก็คงจะหายดี”
คาคาชิพยักหน้ารับรู้ ไม่คิดว่าพลังช้างสารอย่างฟูจิวาระ อายากะจะมาหมดสภาพเอาดื้อ ๆ แบบนี้ สงสัยคงจะมีการปะทะกันอย่างดุเดือดในภารกิจที่เพิ่งจะจบลงไปแน่ ๆ
ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกเปิดตามมาด้วยเสียงของโนบุผู้เปรียบเสมือนมือขวาของอายากะ “ฟื้นหรือยังครับ?”
“ยังเลย…คงอีกสักสองถึงสามวัน สงสัยเพราะใช้จักระมากไป” ซึนาเดะตอบพร้อมกับเตรียมตัวที่จะออกจากห้องพักผู้ป่วย
“นอกจากจักระแล้วยังเพิ่งจะใช้บาทากระทืบมารเวอร์ชั่นทะลวงไส้กับนารุโตะด้วยล่ะครับ” ชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยเสริม
“ว่าแล้วเชียว” พูดจบโฮคาเงะสาวก็เดินออกจากห้องพักฟื้นผู้ป่วยไปทันทีปล่อยให้ชายหนุ่มวัยกลางคนและโจนินผมเงินยืนอยู่ในห้องนั้นด้วยความเงียบ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับไว้จะมาเยี่ยมใหม่” คาคาชิส่งยิ้มตาหยีให้กับโนบุแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกคำถามของชายวัยกลางคนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ตกลงแล้วคุณคาคาชิกับท่านหญิงเอ่อ…เป็นแฟนกันจริง ๆ เหรอครับ?”
‘ให้ตายสิถามแบบนี้อีกแล้ว’ วันนี้ทั้งวันมีแต่คนถามเขาถึงเรื่องนี้ซึ่งเขาก็พยายามเลี่ยงที่จะตอบเพราะถือว่าการไม่พูดคือการปฏิเสธ
“ไม่ใช่หรอกครับ” เขาส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มวัยกลางคนอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว กลัวว่าจะโดนซักไซ้ไปมากกว่านี้เพราะขนาดตัวเขาเองยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเลยจู่ ๆ ก็โดนลากไปเอี่ยวกับเรื่องบ้าบอนี่โดยบังเอิญ
ที่ทำการโจนินตอนนี้มีโจนินอยู่หลายคนที่ว่างเว้นจากภารกิจจึงพากันมานั่งพบปะพูดคุยเพื่อรอรับภารกิจเร่งด่วนจากเบื้องบน คาคาชิก็เป็นหนึ่งในนั้นหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาเขาจึงตัดสินใจมานั่งเล่นที่ทำการโจนินเพราะไม่รู้จะไปปลีกวิเวกที่ไหนดี แท่นศิลาจารึกก็ไปมาแล้วครั้นจะไปนอนอ่านอะจึ๋ยเล่นในป่าก็กลัวว่าจะมีภารกิจเร่งด่วนเข้ามาสุดท้ายที่ทำการโจนินจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้
“ไงคาคาชิตกลงข่าวลือนั่นน่ะมันจริงหรือไม่จริงกันแน่” อาสึมะที่กำลังนั่งสูบบุหรี่ด้วยความสบายใจเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ
“นั่นน่ะสิ ตกลงมันยังไงกันแน่” คุเรไนช่วยเสริมทัพอีกแรง
“นั่นน่ะสิเจ้าคาคาชิแต่ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกนะ นายจะมีแฟนก่อนฉันม่ายด้ายยยย!” ไมโตะ ไก ผู้มีผมเหมือนทรงกะลาครอบพร้อมกับคิ้วที่หนาเอ่ยออกมาด้วยความเจ็บจิ๊ด ตอนนี้พลังวัยรุ่นของเขาเหลือล้นเขาจะไม่ยอมแพ้คู่แข่งอย่างคาคาชิอย่างแน่นอน!
“ก็นั่นสินะ…” โจนินหนุ่มผมเงินหยิบอะจึ๋ยขึ้นมาอ่านและไม่ได้พูดอะไรต่อ
“ปั๊ดโธ่ว้อยยย…ตกลงคำตอบคืออะไรฟะ” ไกยื่นหน้าเข้าไปใกล้คาคาชิพร้อมกับจ้องเขม็งด้วยสายตาที่มีแต่ความฉงนสงสัย
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรเฟ้ย เลิกถามกันซะที!”
“โอ้วว…งั้นเรอะ ฉันจะเชื่อนายก็แล้วกันนะ จะได้โล่งใจไปอีกเปราะหนึ่งว่าฉันไม่ได้แพ้นายเรื่องนี้ ฮ่า ๆ” หนุ่มผู้ไว้ผมทรงบ๊อบหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“เฮ้อ…เอาอีกแล้วบ้าบอจริง ๆ เจ้าไกนี่” คาคาชิพึมพำออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะใช้สายตาจดจ่อกับหนังสือนิยาย18+ ของเขาต่อ
วันนี้ทั้งวันคาคาชิพบว่านอกจากไม่มีภารกิจเข้ามาให้ทำแล้วยังต้องเผชิญกับคำท้าต่อสู้ต่าง ๆ นานาของไกจนเขาเริ่มรู้สึกรำคาญสุดท้ายเลยตัดสินใจเปลี่ยนที่สิงสถิตกะทันหัน
“เน่ครูคาคาชิ ภารกิจน่ะภารกิจผมรอจนเหงือกแห้งแล้วนา!”
“เฮ้อ…เอาอีกแล้วเหรอ” เขาถอนใจออกมาเบา ๆ ไม่คิดว่าจะหนีไกมาปะกับนารุโตะแบบนี้ คิดว่าจะเข้ามานอนอ่านหนังสือในป่าด้วยความสงบแล้วแท้ ๆ แต่สุดท้ายก็มีเจ้าเด็กนี่มาทำลายความสงบสุข
“ว่าไงล่ะครู!” นารุโตะยื่นหน้าเข้าไปจ้องคาคาชิจนหน้าผากเกือบจะชนกัน
“เดี๋ยวถ้ามีจะไปบอกนะจ๊ะ…ตอนนี้ก็รบกวนให้เธอแวะไปเยี่ยมซาสึเกะที่โรงพยาบาลหน่อยก็แล้วกัน”
“เอ้อผมกำลังว่าจะไปพอดีเลย” เด็กหนุ่มเกาจมูกแก้เขิน
“อย่าลืมแวะเยี่ยมอาเจ๊ของเธอด้วยล่ะ”
“เอ๋…อาเจ๊ อาเจ๊เข้าโรงพยาบาลเหรอฮะ?” นารุโตะถามด้วยความตกใจ คาคาชิจึงพยักหน้าเป็นการยืนยัน
“งั้นผมรีบไปก่อนละนา อย่าลืมล่ะครูต้องรีบหาภารกิจมาให้ผมทำไว ๆ ด้วยล่ะ!” เด็กหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้หัวหน้าทีมอีกครั้ง
“จ๊ะ ๆ” เขาตอบเพียงแค่นั้นแล้วก็เปลี่ยนไปสนใจอะจึ๋ยในมือต่อ
ให้ตายสิวันนี้มันวันอะไรกันนะ ตั้งแต่ที่เจ้าพวกนั้นมองเขาแปลก ๆ แล้ว เดินไปทางไหนก็เจอแต่คนมองและถ้าเจอพวกใจกล้าแบบเพื่อน ๆ เขาอีกล่ะก็เดินเข้ามาถามจนเขาไม่รู้จะเงียบปฏิเสธยังไงแล้ว ช่างนับว่าเป็นโชคร้ายจริง ๆ ถ้าวันนั้นท่านซึนาเดะไม่ให้ไปตามยายนั่นที่บ้านก็คงไม่เกิดเรื่องเข้าใจผิดใหญ่โตกันแบบนี้เกิดขึ้น
“ฮึ่ม…คิดแล้วก็เจ็บใจจริง ๆ” จู่ ๆ ก็ต้องเข้าไปเอี่ยวกับเรื่องบ้าบอของยายอายากะอย่างเลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็ตามต้องหาทางแก้เผ็ดซักหน่อยแล้วล่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็เขาจะต้องกลายเป็นไม้กันหมาแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แน่นอน
“ถ้าถึงโคโนฮะก็ปลอดภัยแล้วล่ะค่ะท่านมิชิ…ไม่เป็นอะไรแล้วขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ” ว่าจบอายากะก็รีบกระโดดลงหลังของอินทรีย์หนุ่มแทบจะทันที
เสียงพูดคุยของอายากะกับมิชินั้นทำให้จูนินหนุ่มสองคนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าหมู่บ้านถึงกับต้องรีบหันไปมองด้วยความสนใจ
“อ้าวคุณอายากะไม่เจอหลายวันเลยนะครับ ภารกิจเป็นยังไงบ้าง?” จูนินหนุ่มคนแรกชิงถามขึ้นก่อนทันทีเมื่อเห็นว่าโจนินสาวผมส้มเดินผ่านประตูหมู่บ้านเข้ามาเรียบร้อยแล้ว
“เลือดตกยางออกนิดหน่อยน่ะแต่แค่นี้ไม่คณามือฉันหรอกน่าฮ่า ๆ” หญิงสาวยิ้มตอบอย่างอารมณ์ดีก่อนที่คิ้วสวยของเธอจะต้องขมวดมุ่นอีกครั้งเพราะจูนินหนุ่มคนที่สองกำลังจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ
“จะว่าไปแล้วกลับมาก็ดีแล้วล่ะครับเพราะว่าตอนนี้น่ะมีข่าวลือเกี่ยวกับคุณอายากะเยอะแยะไปหมดเลย”
“เอ๋…ข่าวลือเรื่องอะไรงั้นเหรอ?” เธอถามด้วยความแปลกใจ
“ก็เรื่องที่แบบว่า…” เขายังไม่ทันได้พูดจบเสียงทักทายอันร่าเริงของเด็กหนวดแมวอย่างนารุโตะก็แทรกเข้ามาก่อน
“เฮ้ อาเจ๊ อาเจ๊กลับมาแล้ว” เด็กหนุ่มวิ่งตรงเข้ามาหาอายากะด้วยความร่าเริง
“นี่ ๆ อาเจ๊ อาเจ๊รู้ป่ะว่าไม่อยู่หลายวันเนี่ยมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับอาเจ๊เยอะแยะเลยนา” นารุโตะพูดพลางเอามือถูจมูกก่อนที่จะหันไปทักจูนินหนุ่มสองคน
“อย่าบอกนะว่าพี่ชายสองคนน่ะบอกข่าวกับอาเจ๊ไปเรียบร้อยแล้ว…อย่าเพิ่งเชียวนา ข่าวนี้ผมจะเป็นคนบอกเอง” ว่าจบเด็กหนุ่มก็รีบลากโจนินสาวกลับไปยังบ้านของตระกูลฟูจิวาระ
“อะไรของมันวะเนี่ย…อดรู้ความจริงเลยเรา ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก” จูนินหนุ่มถอนหายใจพร้อมกับเริ่มปลงตกที่ต้องมารับหน้าที่เฝ้าประตูหน้าหมู่บ้านด้วยความเบื่อหน่าย
หลังจากเดินตามแรงลากของนารุโตะมาจนถึงบ้านของตระกูลเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ต้องพบว่าคนในตระกูลมองเธอด้วยความสงสัยใคร่รู้ เธอจึงต้องกระแอมไปหลายครั้งเพื่อให้พวกนั้นเลิกจ้องเธอซะที
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ยหา?” เมื่อนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ห้องรับแขกเรียบร้อยแล้วหญิงสาวจึงรีบเอ่ยถามเจ้าเด็กหนวดแมว
“ฮ่ะ ๆ ก็แบบว่านะอาเจ๊มีแฟนรึยังอะ?” เด็กหนุ่มเกาหัวด้วยความเขินอายก่อนที่จะนิ่งรอฟังคำตอบ
“จะให้ฉันมีได้ยังไงกันล่ะยะ…มีแต่ปัญหาโน่นนี่นั่นเข้ามาใครจะไปมีเวลามีแฟน!” อายากะแหวใส่เด็กหนุ่มด้วยความโมโห อย่าบอกนะว่าที่ใครหลายคนมองเธอด้วยสายตาสงสัยแบบนั้นเป็นเพราะเรื่องที่นารุโตะกำลังถามเธอ
“เห…จริงเด้? ผมไม่เชื่ออะ ผมได้ยินมาเต็มสองหูเลยนา!”
“ได้ยินเรื่องอะไรกันยะ ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย” หญิงสาวยังคงขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย เรื่องอะไรกันนะเธอไม่ได้พูดซะหน่อยว่ามีแฟน บ้าจริง ๆ เจ้าเด็กนี่
“ก็แบบว่า ๆ ความจริงแล้วอาเจ๊กับเจ้าครูคาคาชินั่นน่ะเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ”
ผ่าง! อายากะช็อคไปแทบจะทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่นารุโตะพูด ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมีคนได้ยินด้วย หน็อยแน่อย่าให้รู้นะว่าใครเป็นคนเอาไปปล่อยข่าว
“ให้ตายซี่…มันไม่ใช่ความจริงเลยซักนิดเดียว” หญิงสาวทำหน้าเบื่อหน่ายอย่างสุดขีด
“จริงเซ่! ผมได้ยินอาเจ๊พูดกับเจ้าหมอเรียวอิจินั่นเต็มสองหูแล้วจากนั้นผมก็เอาไปถามพวกโจนินให้ทั่วเลยว่าจริงไม่จริง” นารุโตะหยุดไว้เพียงเท่านั้นเพราะตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าตาขวากระตุกรัว ๆ
“หมายความว่าไงเจ้า-นา-รุ-โตะ!” สายตาพิฆาตของอายากะลุกเป็นไฟโชติช่วงทำให้เด็กหนุ่มผมเหลืองอ้าปากพะงาบ ๆ พูดอะไรไม่ออก
“คะ…คือว่า…ผม”
“บาทากระทืบมารเวอร์ชั่นทะลวงไส้!” หญิงสาวซัดบาทากระทืบมารใส่เด็กหนุ่มแทบจะทันทีทันใด ทำให้ตอนนี้นารุโตะกลมกลืนไปกับพื้นห้องรับแขกเป็นที่เรียบร้อย
“เกิดอะไรขึ้นครับท่านหญิงเสียงเอะอะดังไปจนถึงห้องผมเลย” โนบุรีบวิ่งเข้ามาแทบจะทันทีเมื่อได้ยินเสียงสนั่นหวั่นไหวของบาทากระทืบมารเวอร์ชั่นทะลวงไส้
“ไม่มีอะไรหรอกฉันก็แค่จัดการเจ้าเด็กปากมากนี่ให้หายหงุดหงิดซะหน่อย…ว่าแต่นายเถอะคงไม่เชื่อข่าวบ้าบอของเจ้านารุโตะใช่ไหม?” อายากะยังคงไว้ซึ่งสีหน้าอันเหี้ยมโหดทำให้โนบุไม่กล้าสบตาผู้นำตระกูลสาวโดยตรง
“แหะ ๆ ก็ใช่น่ะสิครับใครจะไปเชื่อได้ลงกันล่ะ” ชายวัยกลางคนยิ้มแห้ง ๆ ให้กับเธอก่อนที่จะขอตัวไปทำธุระให้กับตระกูล
“โธ่เว้ยอาเจ๊ ผมจะไปรู้รึไงเล่าว่ามันเป็นแค่เรื่องโกหกก็อาเจ๊พูดซะเต็มปากเต็มคำแบบนั้น!” นารุโตะที่เพิ่งจะแซะตัวออกมาจากพื้นห้องได้รีบเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางลำบาก
“นั่นมันเป็นวิธีเอาตัวรอดที่ฉันจำเป็นต้องทำ…นี่แล้วอีกอย่างนะช่วยหยุดเอาเรื่องนี้ไปโพนทะนาด้วยถ้าไม่งั้นล่ะก็นายจะเจอเวอร์ชั่นพิฆาตศัตรูแน่ ๆ” โจนินสาวทำท่าหักนิ้วดังกร๊อบก่อนที่จะปล่อยให้เด็กหนุ่มอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยความงุนงง
“ตกลงมันยังไงกันแน่วะเนี่ย เจ้าครูนั่นก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย ฮึ่ย…เรื่องนี้เราต้องรู้ให้ได้”
โจนินสาวรีบเขียนรายงานภารกิจอย่างรีบเร่งพร้อมกับรีบไปยังที่ทำการโฮคาเงะเพื่อที่จะส่งมอบรายงานภารกิจ
“เป็นยังไงบ้างล่ะ?” ซึนาเดะรับม้วนภารกิจจากอายากะพร้อมกับเอ่ยถาม
“ก็ดีกว่าที่คิดไว้ค่ะป้า”
“หน้าเธอดูซีด ๆ นะ” โฮคาเงะสาวจับสังเกตอาการผิดปกติของโจนินสาวได้ดี
“ก็คงเหนื่อยจากภารกิจนั่นล่ะน่าป้า ไม่มีไรมาหรอกฉันขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็รีบออกจากที่ทำการโฮคาเงะไปยังร้านดอกไม้ตระกูลยามานากะ
เธอบรรจงวางดอกไม้ไว้ที่แท่นศิลาพร้อมกับหลับตาระลึกถึงพี่ชายและคนที่จากไปอีกหลายคน ครั้งนี้ภารกิจของเธอสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี บางทีส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าได้รับคำอวยพรดี ๆ จากเหล่าวีรบุรุษที่จากไปก็เป็นได้
“เกิดเรื่องวุ่นวายเข้าอีกแล้วสิ” เสียงทักจากคนที่เพิ่งจะมาถึงทำให้อายากะต้องรีบลุกขึ้นและหันไปมอง
“เรื่องข่าวลือนั่นน่ะเหรอ…ช่างหัวมันปะไร ไม่ต้องไปสนใจหรอกน่า”
“ให้ตายสิ ไม่คิดว่าท่านหญิงฟูจิวาระจะคิดแบบนี้” โจนินหนุ่มผมเงินทำหน้าตาเบื่อโลกอีกครั้งก่อนที่จะเดินสวนเธอไปหยุดตรงหน้าแท่นศิลาพร้อมกับวางช่อดอกไม้ลงข้าง ๆ ช่อของเธอ
“จัดการลูกศิษย์นายหน่อยก็แล้วกันนะ เจ้านารุโตะน่ะตัวดีเลย!” คิดแล้วก็ยังแค้นไม่หายอยากจะอัดเจ้าเด็กนั่นซักสิบหมัดให้จมธรณี
“เฮ้อ…แล้วกันแต่อันดับแรกต้องจัดการกับตัวต้นเรื่องอย่างเธอก่อน”
“หน็อยฉันไม่ยอมให้จัดการง่าย ๆ หรอกย่ะฝันไปเถอะ” ว่าจบหญิงสาวก็อยู่ในท่าประสานอินเตรียมพร้อมที่จะหายตัวแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อรู้สึกว่าภาพตรงหน้าเลือนรางจนมองแทบจะไม่เห็นพร้อมกับร่างของเธอที่กำลังร่วงลงไปกับพื้น
“ระวัง!” คาคาชิพุ่งตัวไปรับร่างของโจนินสาวด้วยความรวดเร็ว
“อะไรกันอยู่ ๆ ก็เป็นลมไปซะอย่างนั้นหรือว่าบาดเจ็บจากภารกิจมา” เขามองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนที่จะรีบพาไปโรงพยาบาลด้วยความรวดเร็ว
“ฉันสังเกตตั้งแต่เมื่อกี้แล้วล่ะตอนที่ยายนี่มาส่งรายงานภารกิจ…เท่าที่ดูแล้วคงจะเป็นเพราะร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดีแต่ก็ดันพยายามรีดเร้นจักระมาใช้ ให้นอนพักสักสองสามวันก็คงจะหายดี”
คาคาชิพยักหน้ารับรู้ ไม่คิดว่าพลังช้างสารอย่างฟูจิวาระ อายากะจะมาหมดสภาพเอาดื้อ ๆ แบบนี้ สงสัยคงจะมีการปะทะกันอย่างดุเดือดในภารกิจที่เพิ่งจะจบลงไปแน่ ๆ
ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกเปิดตามมาด้วยเสียงของโนบุผู้เปรียบเสมือนมือขวาของอายากะ “ฟื้นหรือยังครับ?”
“ยังเลย…คงอีกสักสองถึงสามวัน สงสัยเพราะใช้จักระมากไป” ซึนาเดะตอบพร้อมกับเตรียมตัวที่จะออกจากห้องพักผู้ป่วย
“นอกจากจักระแล้วยังเพิ่งจะใช้บาทากระทืบมารเวอร์ชั่นทะลวงไส้กับนารุโตะด้วยล่ะครับ” ชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยเสริม
“ว่าแล้วเชียว” พูดจบโฮคาเงะสาวก็เดินออกจากห้องพักฟื้นผู้ป่วยไปทันทีปล่อยให้ชายหนุ่มวัยกลางคนและโจนินผมเงินยืนอยู่ในห้องนั้นด้วยความเงียบ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับไว้จะมาเยี่ยมใหม่” คาคาชิส่งยิ้มตาหยีให้กับโนบุแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกคำถามของชายวัยกลางคนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ตกลงแล้วคุณคาคาชิกับท่านหญิงเอ่อ…เป็นแฟนกันจริง ๆ เหรอครับ?”
‘ให้ตายสิถามแบบนี้อีกแล้ว’ วันนี้ทั้งวันมีแต่คนถามเขาถึงเรื่องนี้ซึ่งเขาก็พยายามเลี่ยงที่จะตอบเพราะถือว่าการไม่พูดคือการปฏิเสธ
“ไม่ใช่หรอกครับ” เขาส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มวัยกลางคนอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว กลัวว่าจะโดนซักไซ้ไปมากกว่านี้เพราะขนาดตัวเขาเองยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเลยจู่ ๆ ก็โดนลากไปเอี่ยวกับเรื่องบ้าบอนี่โดยบังเอิญ
ที่ทำการโจนินตอนนี้มีโจนินอยู่หลายคนที่ว่างเว้นจากภารกิจจึงพากันมานั่งพบปะพูดคุยเพื่อรอรับภารกิจเร่งด่วนจากเบื้องบน คาคาชิก็เป็นหนึ่งในนั้นหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาเขาจึงตัดสินใจมานั่งเล่นที่ทำการโจนินเพราะไม่รู้จะไปปลีกวิเวกที่ไหนดี แท่นศิลาจารึกก็ไปมาแล้วครั้นจะไปนอนอ่านอะจึ๋ยเล่นในป่าก็กลัวว่าจะมีภารกิจเร่งด่วนเข้ามาสุดท้ายที่ทำการโจนินจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้
“ไงคาคาชิตกลงข่าวลือนั่นน่ะมันจริงหรือไม่จริงกันแน่” อาสึมะที่กำลังนั่งสูบบุหรี่ด้วยความสบายใจเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ
“นั่นน่ะสิ ตกลงมันยังไงกันแน่” คุเรไนช่วยเสริมทัพอีกแรง
“นั่นน่ะสิเจ้าคาคาชิแต่ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกนะ นายจะมีแฟนก่อนฉันม่ายด้ายยยย!” ไมโตะ ไก ผู้มีผมเหมือนทรงกะลาครอบพร้อมกับคิ้วที่หนาเอ่ยออกมาด้วยความเจ็บจิ๊ด ตอนนี้พลังวัยรุ่นของเขาเหลือล้นเขาจะไม่ยอมแพ้คู่แข่งอย่างคาคาชิอย่างแน่นอน!
“ก็นั่นสินะ…” โจนินหนุ่มผมเงินหยิบอะจึ๋ยขึ้นมาอ่านและไม่ได้พูดอะไรต่อ
“ปั๊ดโธ่ว้อยยย…ตกลงคำตอบคืออะไรฟะ” ไกยื่นหน้าเข้าไปใกล้คาคาชิพร้อมกับจ้องเขม็งด้วยสายตาที่มีแต่ความฉงนสงสัย
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรเฟ้ย เลิกถามกันซะที!”
“โอ้วว…งั้นเรอะ ฉันจะเชื่อนายก็แล้วกันนะ จะได้โล่งใจไปอีกเปราะหนึ่งว่าฉันไม่ได้แพ้นายเรื่องนี้ ฮ่า ๆ” หนุ่มผู้ไว้ผมทรงบ๊อบหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“เฮ้อ…เอาอีกแล้วบ้าบอจริง ๆ เจ้าไกนี่” คาคาชิพึมพำออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะใช้สายตาจดจ่อกับหนังสือนิยาย18+ ของเขาต่อ
วันนี้ทั้งวันคาคาชิพบว่านอกจากไม่มีภารกิจเข้ามาให้ทำแล้วยังต้องเผชิญกับคำท้าต่อสู้ต่าง ๆ นานาของไกจนเขาเริ่มรู้สึกรำคาญสุดท้ายเลยตัดสินใจเปลี่ยนที่สิงสถิตกะทันหัน
“เน่ครูคาคาชิ ภารกิจน่ะภารกิจผมรอจนเหงือกแห้งแล้วนา!”
“เฮ้อ…เอาอีกแล้วเหรอ” เขาถอนใจออกมาเบา ๆ ไม่คิดว่าจะหนีไกมาปะกับนารุโตะแบบนี้ คิดว่าจะเข้ามานอนอ่านหนังสือในป่าด้วยความสงบแล้วแท้ ๆ แต่สุดท้ายก็มีเจ้าเด็กนี่มาทำลายความสงบสุข
“ว่าไงล่ะครู!” นารุโตะยื่นหน้าเข้าไปจ้องคาคาชิจนหน้าผากเกือบจะชนกัน
“เดี๋ยวถ้ามีจะไปบอกนะจ๊ะ…ตอนนี้ก็รบกวนให้เธอแวะไปเยี่ยมซาสึเกะที่โรงพยาบาลหน่อยก็แล้วกัน”
“เอ้อผมกำลังว่าจะไปพอดีเลย” เด็กหนุ่มเกาจมูกแก้เขิน
“อย่าลืมแวะเยี่ยมอาเจ๊ของเธอด้วยล่ะ”
“เอ๋…อาเจ๊ อาเจ๊เข้าโรงพยาบาลเหรอฮะ?” นารุโตะถามด้วยความตกใจ คาคาชิจึงพยักหน้าเป็นการยืนยัน
“งั้นผมรีบไปก่อนละนา อย่าลืมล่ะครูต้องรีบหาภารกิจมาให้ผมทำไว ๆ ด้วยล่ะ!” เด็กหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้หัวหน้าทีมอีกครั้ง
“จ๊ะ ๆ” เขาตอบเพียงแค่นั้นแล้วก็เปลี่ยนไปสนใจอะจึ๋ยในมือต่อ
ให้ตายสิวันนี้มันวันอะไรกันนะ ตั้งแต่ที่เจ้าพวกนั้นมองเขาแปลก ๆ แล้ว เดินไปทางไหนก็เจอแต่คนมองและถ้าเจอพวกใจกล้าแบบเพื่อน ๆ เขาอีกล่ะก็เดินเข้ามาถามจนเขาไม่รู้จะเงียบปฏิเสธยังไงแล้ว ช่างนับว่าเป็นโชคร้ายจริง ๆ ถ้าวันนั้นท่านซึนาเดะไม่ให้ไปตามยายนั่นที่บ้านก็คงไม่เกิดเรื่องเข้าใจผิดใหญ่โตกันแบบนี้เกิดขึ้น
“ฮึ่ม…คิดแล้วก็เจ็บใจจริง ๆ” จู่ ๆ ก็ต้องเข้าไปเอี่ยวกับเรื่องบ้าบอของยายอายากะอย่างเลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็ตามต้องหาทางแก้เผ็ดซักหน่อยแล้วล่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็เขาจะต้องกลายเป็นไม้กันหมาแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แน่นอน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ