{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story

-

เขียนโดย LadyTyrell

วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.

  26 ตอน
  0 วิจารณ์
  26.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

12) ภารกิจที่ต้องแลกด้วยเลือด2 (End)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “ตกลงแกเป็นใครกันแน่…ไม่ใช่พวกไก่กาอาลาเล่สินะ” ฮายาโตะเอ่ยถามด้วยความโมโหหลังจากที่เฝ้ามองลูกน้องประลองฝีมือกับชายหนุ่มผมสีชมพูเข้มคนนั้นแต่ดูท่าทางแล้วพวกลูกกระจ๊อกคงจะสู้ไม่ได้

“หึ…ฉันก็เป็นแค่คนธรรมดาที่อยากจะมาเหมาเหล้าร้านนายก็เท่านั้นเอง” โซซิโร่ยิ้มเยาะพร้อมกับมองไปยังสภาพอันน่าเวทนาของลูกกระจ๊อกที่เพิ่งจะถูกเขาจัดการไปหยก ๆ

“อืมนั่นสินะ…นายคงจะเป็นโซซิโร่แห่งซึนะ จะว่าไปแล้วก็เข้าเค้าเลยทีเดียว!”

“เหมี๊ยวววววววววววว!” เสียงแมวน้อยสีเทาวิ่งผ่านหน้าคนทั้งหมดไปด้วยความรวดเร็ว ทำให้โซซิโร่รู้ทันทีว่าภารกิจใกล้จะสำเร็จแล้ว

“ถ้านายคิดว่าฉันเป็นเจ้าหมอนั่นน่ะนะก็คงต้องขอตัวก่อน” ว่าจบชายหนุ่มก็รีบใช้สปีดความเร็วในการวิ่งตามแมวสีเทาตัวนั้นออกไปทันที

“แย่แล้วครับคุณฮายาโตะ…เจ้าเด็กนั่นหายตัวไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ประตูก็ไม่ได้ถูกเปิด!”

“หรือว่าเจ้าแมวนั่น!...รีบตามพวกมันไปแล้วฉันจะตามไปสมทบ!”

 

          เมื่อวิ่งออกมาไกลพอสมควรจากร่างแมวน้อยที่คาบสร้อยคอนั้นก็กลับกลายเป็นโจนินสาวอีกครั้ง เธอหอบหายใจอย่างหนักหน่วงเพราะรีบวิ่งออกจากที่นั่นมาอย่างไม่คิดชีวิต

“แล้วเด็กคนนั้นล่ะอยู่ไหน?” ชายหนุ่มเอ่ยถามแทบจะทันทีเมื่อเห็นว่าไร้วี่แววของลูกชายไดเมียว

“อยู่นี่…ฉันว่าเรารีบไปกันเถอะตอนนี้พวกมันคงจะรู้ตัวแล้ว” หญิงสาวชี้สร้อยคอให้ชายหนุ่มดูก่อนที่จะรีบสวมไว้ที่คอตัวเอง

“จะไปไหนจ๊ะน้องสาว…รีบจริง ๆ เลยนะเรา” เสียงห้าวของลูกสมุนที่ฮายาโตะสั่งให้ตามดังขึ้นทันที

อายากะและโซซิโร่พบว่าตอนนี้พวกเขากำลังถูกพวกนินจาถอนตัวรายล้อมได้ประมาณสี่คน

“ส่งเด็กนั่นคืนมาให้เราซะดี ๆ ถ้าพวกแกยังไม่อยากตาย” หนึ่งในสี่คนนั้นพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเหี้ยมโหด

“เฮอะ…เด็กอะไรที่ไหนกันพวกแกก็เห็นนี่ว่าที่นี่มีแค่ฉันกับหมอนี่แค่สองคน” อายากะตอบด้วยท่าทางโมโห

“อย่ามาโกหกเลยแม่สาวสวยถึงยังไงฉันก็ไม่เชื่อคำพูดแกหรอก…พวกแกต้องซ่อนไอ้เด็กนั่นไว้ที่ไหนซักที่แน่ ๆ บอกมาซะดี ๆ ก่อนที่พวกเราจะหมดความอดทน”

“อย่ามาเล่นลิ้นน่า น่ารำคาญจริง…ยายเจ๊โหดเธอจัดการไอ้สองคนตรงหน้าเธอส่วนอีกสองคนฉันจัดการเอง!” สั่งการเสร็จโซซิโร่ก็รีบดึงคัมภีร์ออกมาพร้อมกับใช้คาถาอัญเชิญหุ่นเชิด

“เคาะฝุ่นหน่อยก็คงไม่เสียหาย!” สิ้นเสียงของชายหนุ่มการต่อสู้ระหว่างเขาและนินจาถอนตัวอีกสองคนก็เริ่มขึ้น

 

          โจนินหนุ่มแห่งซึนะบังคับให้หุ่นเชิดปล่อยเข็มพิษออกมาโจมตีคู่ต่อสู้ทั้งสองด้วยความรวดเร็วทำให้สองคนนั้นหลบหลีกด้วยความยากลำบากเพราะยังไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่ใช้หุ่นเชิดเป็นอาวุธมาก่อนและยิ่งไปกว่านั้นเข็มที่ปล่อยออกมาโจมตียังเคลือบไปด้วยพิษ ถ้าหากว่าพลาดโดนแค่ครั้งเดียวล่ะก็คงจะต้องลาโลกนี้ไปอย่างแน่นอน

          ทางด้านอายากะที่กำลังดูเชิงคู่ต่อสู้ทั้งสองอยู่นั้นแทบจะหนักใจไม่น้อยเพราะไม่รู้ว่าฝ่ายที่อยู่ตรงหน้าจะถนัดใช้วิชาประเภทไหนเธอกลัวว่าจะรับมือผิดพลาด

“ไงล่ะแม่สาวสวยมัวแต่ยืนจ้องพวกเราอยู่ได้ คิดจะยอมแพ้แล้วใช่มั้ยล่ะ?” หนึ่งในสองคนนั้นพูดขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้อายากะสติเกือบจะขาดผึงแต่เธอก็พยายามรวบรวมสติดึงจิตใจตัวเองให้สงบนิ่งอีกครั้ง

“เฮอะฝันไปเถอะย่ะเจ้าพวกบ้า! เตรียมรับการโจมตีของฉันได้แล้ว” ว่าจบหญิงสาวจึงรีบวิ่งบุกเข้าไปด้วยความรวดเร็ว เธอตั้งใจที่จะทดสอบก่อนว่าฝ่ายนั้นมีท่าทีการต่อสู้แบบไหนแล้วสุดท้ายจะได้ตัดสินใจว่าควรจะใช้วิชาคาถาแปลงร่างหรือใช้วิชาที่ตัวเองเป็นคนคิดค้นขึ้นมา

‘ฮึ…เจ้าพวกนี้หากว่าเราใช้แค่กระบวนท่าก็น่าจะเอาอยู่(มั้ง)’ หญิงสาวคิดในใจพร้อมกับตั้งรับการโต้กลับของฝ่ายคู่ต่อสู้ ถึงจะยังไงก็ตามเธอก็ไม่ได้เก่งการวิเคราะห์ถึงขั้นปรมาจารย์ บางทีก็ทำให้ไม่แน่ใจเวลาจัดการกับศัตรู

“บาทากระทืบมารเวอร์ชั่นทะลวงไส้!” หญิงสาวซัดเท้าเข้าไปเต็ม ๆ หน้าท้องของนินจาถอนตัวคนแรกพร้อมกับหลบการโจมตีของคนที่สองได้อย่างฉิวเฉียด ‘เดี้ยงไปหนึ่งแล้วเหลือแค่อีกหนึ่ง…เอาล่ะคราวนี้ก็’

“วิชานินจาคาถาเปลี่ยนร่าง!” ฝ่ามือสวยที่ตอนนี้เปื้อนไปด้วยเลือดทาบลงตรงหน้าอกของคู่ต่อสู้คนที่สองแทบจะทันทีเมื่อถูกโจมตีแบบประชิดตัวสุดท้ายร่างของคู่ต่อสู้ก็สลายบ๊องกลายเป็นเพียงหินก้อนเล็ก ๆ

“ส่วนเจ้านี่ก็อีกคนนะเป็นก้อนหินไปด้วยกันให้หมดซะเถอะ….วิชานินจาคาถาเปลี่ยนร่าง!” ว่าจบนินจาคนแรกที่ถูกเธอเล่นงานด้วยบาทากระทืบมารเวอร์ชั่นทะลวงไส้ก็หายไปกลายเป็นก้อนหินแทบจะทันที

“เก่งไม่เบานี่ฟูจิวาระ อายากะ!” น้ำเสียงอันทรงพลังดังขึ้นมาหลังจากที่หญิงสาวจัดการกับสองนินจาถอนตัวได้สำเร็จ เธอรีบหันไปมองผู้มาใหม่แทบจะทันทีพร้อม ๆ กับที่โซซิโร่วิ่งมาสมทบ

“แกคือฮายาโตะสินะ” ชายหนุ่มผมสีชมพูเข้มพูดขึ้น อายากะแอบเหลือบมองเขาเล็กน้อยซึ่งเธอพบว่าเขาแทบจะไม่มีรอยขีดข่วนอะไรเลยซึ่งต่างจากเธอโดยสิ้นเชิงเพราะต้องต่อสู้ระยะประชิดส่วนเขานั้นใช้หุ่นเชิดในการต่อสู้คงจะง่ายกว่าเธอเห็น ๆ

“ถ้าฉันคือฮายาโตะแกก็คือโซซิโร่ผู้มีชื่อเสียงแห่งซึนะ” หนุ่มนินจาถอนตัวแค่นยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะพูดอะไรบางอย่าง “สงสัยพวกลูกกระจ๊อกของฉันมันคงอ่อนไป…ยังไงซะวันนี้พวกแกก็ไม่รอดไปจากที่นี่หรอก”

“อย่ามาทำปากดีไปน่าไอ้บ้าห้าร้อย!” โจนินสาวตะโกนลั่น พูดแบบนี้เหมือนกับว่าดูถูกฝีมือของทีมเธอชัด ๆ

“เดี๋ยวก็ได้รู้กันล่ะน่าว่าใครจะเหนือกว่าใคร!” ฮายาโตะตั้งท่าประสานอินแทบจะทันที “คาถาห่าฝนเข็ม!”

 

          เข็มนับร้อยเล่มพุ่งตรงไปยังเป้าหมายอย่างอายากะและโซซิโร่แทบจะทันที ชายหนุ่มรีบบังคับหุ่นเชิดให้ใช้ใบมีดปัดป้องเข็มนั้นออกไป หญิงสาวก็เช่นกันเธอรีบหยิบคุไนออกมาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับปัดป้องห่าเข็มที่พุ่งเข้ามา

“เจ้าหมอนั่นร้ายกาจไม่เบา นี่นาย…พอจะจับมันให้อยู่หมัดได้ไหมด้วยหุ่นเชิดของนายน่ะ”

“เรื่องนั้นได้อยู่แล้วแต่ต้องขอเวลาหน่อยดูท่าทางแล้วน่าจะนานเหมือนกัน”

“เออ…งั้นฝากด้วย…สงสัยฉันคงต้องยืมวิชาตาแก่ลามกมาใช้ก่อนแต่ก่อนอื่นก็ต้อง…วิชานินจาคาถาแปลงร่าง!” ร่างโจนินสาวหายไปอีกครั้งแต่กลับปรากฏร่างโจนินหนุ่มผมสีเงินขึ้นมาแทน

“เอาล่ะนะ” โจนินหนุ่มผมเงินรีบดึงผ้าคาดหน้าผากที่ปิดตาข้างซ้ายทำให้เห็นเนตรวงแหวนที่ได้รับมาจากเพื่อนรักอย่างอุจิวะ โอบิโตะ

“หึ…ใช้คาถาแปลงร่างเป็นคาคาชิเนตรวงแหวนงั้นเรอะ เข้าท่าดีนี่แต่ยังไงซะวันนี้พวกแกก็ไม่รอดหรอก!” เสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของฮายาโตะดังก้องไปทั่ว

“ตอนนี้น่ะคู่ต่อสู้ของแกไม่ใช่เจ้าเนตรวงแหวนนั่นแต่เป็นฉัน!” โซซิโร่เริ่มโจมตีฮายาโตะโดยการปล่อยเข็มอาบยาพิษ

แต่ทว่าฝ่ายฮายาโตะก็รู้ทันจึงรีบหลบหลีกด้วยความรวดเร็วพร้อมกับสวนกลับด้วยห่าฝนเข็มเช่นกัน ‘อย่าย่ามใจไปเลยว่าห่าฝนเข็มแกจะเจ๋งกว่าวิชาอื่น’ ชายหนุ่มผมสีชมพูเข้มร้องในใจ

“ตอนนี้แหละจัดการเลย” เขารีบตะโกนบอกหญิงสาวในร่างของโจนินผมเงินแทบจะทันทีเมื่อทุกอย่างลงตัว

“ฉันรู้แล้วย่ะ!” คาคาชิหันมาตอบโจนินหนุ่มแห่งซึนะด้วยท่าทางอ้อนแอ้นราวกับสาวน้อยก็ไม่ปานแต่เสียงและท่าทางของเขาช่างไม่เหมาะที่จะทำตัวอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิงเลยจริง ๆ

“นะ…นี่แก…หลอกฉันอย่างนั้นเรอะ” ฮายาโตะที่ถูกพันธนาการไปด้วยเส้นลวดที่บางจนแทบจะมองไม่เห็นร้องขึ้นมาด้วยความเคียดแค้น

“เออก็ใช่น่ะสิ ฉันก็แกล้งโจมตีแกไปอย่างนั้นแหละแล้วตอนที่แกมัวแต่คิดจะปล่อยห่าฝนเข็มอะไรนั่นแกก็ไม่มีสมาธิพอที่จะระวังว่ามีลวดเส้นเล็ก ๆ ติดกับอาวุธที่ฉันส่งจากหุ่นเชิดไปโจมตี”

“ไอ้พวกสารเลว!”

“หุบปากแกได้ซะที…น่ารำคาญ!” เสียงของโจนินผมเงินดังก้องพร้อมกับมีเสียงนกนับพันดังระงมอยู่ที่มือข้างขวาของเขา จะว่าไปแล้วเสียงที่เหมือนนกนับพันนั้นเกิดจากการเสียดสีกันของจักระที่รวมอยู่ในมือนั่นเอง

“ตัดสายฟ้า!” พูดจบร่างสูงของโจนินผมเงินก็พุ่งเข้าไปหานินจาถอนตัวอย่างฮายาโตะที่กำลังถูกตรึงไว้ด้วยเส้นลวดด้วยความรวดเร็ว

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของฮายาโตะดังขึ้นลั่นป่าเมื่อถูกวิชาตัดสายฟ้าของคาคาชิทะลวงเข้าไปที่ท้อง เลือดของนินจาหนุ่มกระเด็นไปทั่วบริเวณพร้อมกับลมหายใจที่หมดไปแทบจะทันที

“เหนื่อยชะมัด…” เสียงพึมพำอันแผ่วเบาของโจนินผมเงินดังขึ้นก่อนที่โจนินสาวเจ้าของร่างตัวจริงจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

 

          อายากะล้มตัวลงนอนแผ่หลาตรงพื้นด้วยความเหน็ดเหนื่อย วันนี้คงจะเป็นอีกวันที่เธอใช้จักระเปลืองที่สุดก็ว่าได้ ไหนจะต้องแปลงร่างเป็นคนนั้นทีคนนี้ทีอีกไม่พอยังต้องแบ่งส่วนจักระจัดการแปลงร่างให้ทั้งลูกชายไดเมียวและลูกกระจ๊อกนินจาถอนตัว ถ้ากลับถึงโคโนฮะเมื่อไหร่เธอคงจะหมดสภาพไปโดยปริยาย

“เจ็บตรงไหนรึเปล่า…ไหวไหม?” โจนินหนุ่มจากซึนะรีบวิ่งเข้ามาทันทีพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง

“ยังพอไหวอยู่…นายช่วยพยุงฉันลุกหน่อย” ชายหนุ่มทำตามที่เธอขอพร้อมกับพาเธอไปนั่งพักตรงโคนต้นไม้

“ก่อนอื่นฉันต้องจัดการคลายคาถาให้ลูกชายไดเมียว”

          หญิงสาวพยายามรวบรวมจักระที่เหลืออีกครั้งพร้อมกับประสานอินด้วยความรวดเร็วเพื่อคลายคาถาเปลี่ยนร่างที่เธอใช้กับลูกชายไดเมียว

“ทะ…ที่นี่…ที่ไหน ทำไมเหมือนกับว่ามีการต่อสู้”

“อย่าเพิ่งถามเลยตอนนี้นายปลอดภัยแล้วและเราก็กำลังจะกลับคาเซะโนะคุนิด้วยกัน” โซซิโร่เอ่ยขึ้นก่อนที่จะหันไปมองอายากะที่ดูท่าทางจะร่อแร่ “นี่เธอ…ฉันว่าเรารีบกลับไปโรงแรมแล้วพักกันก่อนจะดีกว่าดูท่าทางเธอควรจะต้องนอนพักสักหน่อยนะ”

“ไม่ได้หรอก…ภารกิจเราเสร็จสิ้นแล้วตอนนี้ต้องรีบพาเจ้าเด็กนี่ไปส่งแล้วหลังจากนั้นค่อยพักก็ได้ ฉันพอจะทนได้อยู่” พูดจบโจนินสาวก็กระอักเลือดออกมาทันที “หน็อย…เจ้านั่น ขนาดว่าถึงวาระสุดท้ายของชีวิตแล้วแท้ ๆ ยังซัดคุไนใส่ฉันอยู่” ดึงคุไนออกจากแขนด้วยความเจ็บปวด

“เธอไม่ฟังที่ฉันพูดเลยรึไง ฉันบอกให้เธอกลับไปนอนพักที่โรงแรม!” ชายหนุ่มตะโกนใส่เธอด้วยความเป็นห่วง

“ช่างมันเถอะน่าฉันบอกแล้วไงว่าอดทนได้อยู่…คาถาอัญเชิญ!”

‘แม่สาวน้อยคนนี้นี่จริง ๆ เลยหัวดื้อหัวรั้นไม่เคยคิดจะฟังกันบ้าง’ ชายหนุ่มคิดในใจ

และแล้วอินทรีย์ตัวใหญ่ก็ปรากฏขึ้นแทบจะทันทีหลังจากที่หญิงสาวใช้พลังเฮือกสุดท้ายเรียกสัตว์อัญเชิญออกมา

“มีอะไรให้ช่วยอีกเหรออายากะจัง”

“ช่วยพาพวกเรากลับไปที่ซึนะทีค่ะท่านมิชิแล้วก็รบกวนแวะที่โรงแรมด้วยนะคะจะแวะเอาสัมภาระหน่อย” สิ้นเสียงพูดของอายากะ อินทรีย์หนุ่มสีน้ำตาลก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมทำให้ทั้งสามคนสามารถนั่งอยู่บนหลังมิชิได้

 

          ตกกลางคืนทั้งสามคนที่นั่งอยู่บนหลังของอินทรีย์หนุ่มสีน้ำตาลก็เดินทางมาถึงซึนะงาคุเระแทบจะทันที เพราะความเร็วของมิชินั้นมีมากกว่าการเดินทางแบบธรรมดาเป็นไหน ๆ

“พาลูกชายไดเมียวไปหาท่านบากิแล้วฉันจะตามไปรายงานภารกิจทีหลัง” โซซิโร่สั่งนินจาหน้าหมู่บ้านแทบจะทันทีหลังจากที่ลงมาจากหลังของมิชิ

“ขอบคุณนะครับท่านมิชิเดี๋ยวผมจะให้หน่วยแพทย์ของซึนะดูแลยายนี่ก่อน”

ชายหนุ่มรีบอุ้มหญิงสาวที่หมดสติไปยังโรงพยาบาลของซึนะแทบจะทันที ไหนบอกกับเขาหยก ๆ ว่าอดทนได้แต่สุดท้ายระหว่างการเดินทางก็สลบเหมือดไป

          โซซิโร่นั่งรอนินจาแพทย์ออกจากห้องมารายงานผลด้วยความกระวนกระวายใจ ถึงแม้ว่าแม่สาวน้อยนี่จะเป็นนินจาจากโคโนฮะและก็ชอบโวยวายด่าหาว่าเขาหื่นใส่บ้างล่ะแต่ข้อนั้นเขาก็ยอมรับแต่โดยดีว่าเขาหื่นจริง ๆ ก็มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชายนี่ แต่จะว่าไปแล้วเขาก็รู้สึกเป็นห่วงเธออยู่มากเลยทีเดียวทั้งที่จริงแล้วภารกิจนี้ทางซึนะจะเป็นคนจัดการเองก็ได้แต่ก็ดันส่งจดหมายไปขอความช่วยเหลือจากโคโนฮะเพราะว่าทางฝ่ายนั้นมีตระกูลฟูจิวาระที่มีสายเลือดพิเศษในด้านการแปลงร่างจึงเหมาะสมกับภารกิจนี้มากกว่า

“ไม่ต้องห่วงนะครับคุณโซซิโร่…ตอนนี้แผลที่ต้นแขนก็ปิดสนิทแล้วนอนพักคืนนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับมาเป็นปกติ ผมขอตัวก่อนนะครับ”

 

          ใกล้กับทางออกนอกหมู่บ้านโจนินสาวแห่งโคโนฮะเดินเคียงมากับโจนินหนุ่มแห่งซึนะ หลังจากที่พักฟื้นได้หนึ่งคืนจากการกลับมาจากการปฏิบัติภารกิจเธอก็รู้สึกดีขึ้นมากเป็นพิเศษแต่ถึงอย่างนั้นถ้ากลับไปถึงโคโนฮะเมื่อไหร่ก็คงต้องพักให้เยอะกว่านี้เพราะตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าจักระยังมาไม่เต็มร้อย

“ลูกชายไดเมียวนั่นเป็นยังไงบ้างได้กลับไปพบพ่อตัวเองรึยัง?” อายากะเอ่ยถามเพื่อทำลายความเงียบระหว่างเธอและเขา

“เรียบร้อยแล้วทางนั้นส่งคนมารับและทางเราก็ส่งโจนินฝีมือดีไปคุ้มกันการเดินทางด้วยภารกิจนี้ถือว่าสำเร็จไปด้วยดีถึงแม้ว่าเธอจะต้องเจ็บตัว”

“งั้นก็ดีแล้วล่ะไอ้พวกนั้นน่ะน่าจับแปลงร่างให้เป็นก้อนหินให้หมดแล้วนำมาทุบให้ละเอียดซะ!” โจนินสาวพูดออกมาด้วยความเคียดแค้นเพราะตอนที่เธอกำลังใช้ตัดสายฟ้าเล่นงานฮายาโตะเธอรู้สึกได้ว่ามีคุไนจากมือที่ถูกพันธนาการของหมอนั่นลอยเข้ามาปักที่แขนของเธอเต็ม ๆ

“นอกจากเปิดร้านเหล้าอะไรนั่นเจ้าพวกนั้นยังรับงานสกปรกซึ่งก็คือการรับจ้างฆ่าคน…รู้สึกว่าค่าจ้างแต่ละครั้งสูงลิบลิ่วไม่แปลกใจเลยที่พวกมันยังอยู่รอดมาจนถึงตอนนี้”

“นั่นสินะ…ขอบใจมากนะที่เมื่อคืนอยู่ดูแลฉัน”

“เออก็ภารกิจครั้งนี้เราเป็นคู่หูกันนี่ฉันก็ต้องดูแลเธออย่างช่วยไม่ได้!”

“หน็อย ๆ หมายความว่ายังไงกันยะ หาว่ามันเป็นหน้าที่ของคู่หูงั้นเหรอ…อะไรกันหนุ่มซึนะนี่ไม่มีความอ่อนโยนเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย!”

“พูดอย่างกับเธอเป็นสุภาพสตรีตายล่ะ” โจนินหนุ่มพูดออกมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี นี่แหละนะสาวโคโนฮะที่เขารู้สึกแปลก ๆ ด้วย ทั้งโมโหง่าย อารมณ์ร้อนแต่เวลาได้ลับฝีปากกับเธอแล้วก็รู้สึกมีความสุขไปอีกแบบ

“ว่า-ไง-นะ!” อายากะทนไม่ได้หากมีคนมาว่าเธอไม่มีความเป็นสุภาพสตรี ก็เธอออกจะเรียบร้อยซะปานนี้อีกไม่พอฝีมือการบ้านการเรือนก็เข้าขั้นห่วย เฮ้ย!เข้าขั้นดีเยี่ยมตังหากเล่า!

“นี่เธอพกลิปมันมาไหม?” จู่ ๆ ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีชมพูเข้มก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาเอ่ยถามถึงลิปมันขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทำให้อายากะงงเป็นไก่ตาแตกแต่เธอก็รู้สึกดีใจขึ้นมานิดหน่อยเพราะไม่เคยเห็นผู้ชายที่ไหนสนใจเรื่องเครื่องสำอางเลยสักนิด

“พกมาสิยะฉันเพิ่งจะทาไปเมื่อกี้ก่อนออกจากห้องเอง…นายถามทำไม?” หญิงสาวมองคนตรงหน้าด้วยความสงสัยใคร่รู้

“ฉันรู้สึกว่าปากแตกน่ะเลยจะขอยืมหน่อยได้ไหม?” โซซิโร่ตอบด้วยท่าทางใสซื่อไม่มีพิษไม่มีภัย

“ได้สิยะ…ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างนายจะสนใจเรื่องนี้ด้วย” พูดจบโจนินสาวก็เอื้อมมือไปควานหาลิปมันที่เธอเก็บไว้ในกระเป๋าอาวุธแทบจะทันทีแต่ทว่าก็ต้องหยุดชะงักเมื่อ

“อุ๊บ…” ชายหนุ่มตรงหน้าแทบจะไม่เปิดโอกาสให้เธอทำอะไรได้เลย เมื่อเขาโน้มหน้าเข้าหาเธอพร้อมกับประกบริมฝีปากของเขาเข้ากับเธออย่างนุ่มนวล

          อายากะตะลึงนิ่งจนแทบจะหยุดหายใจ นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วนะที่ถูกเขาขโมยจูบแบบนี้ (สามตังหากเจ๊ // ไรท์) หน็อยแน่! รอให้เธอได้สติดีกว่านี้ก่อนเถอะรับรองได้เลยว่าไอ้หื่นนี่ต้องจมสู่ธรณีอย่างไม่ต้องสงสัย

“ขอบใจนะที่ให้ฉันยืมลิปมันจากริมฝีปากของเธอมาใช้…เดินทางปลอดภัยล่ะสาวน้อย แล้วเจอกัน!” พูดจบโซซิโร่ก็กระโดดขึ้นต้นไม้แล้วหายวับไปแทบจะทันทีไม่เปิดโอกาสให้คนที่ถูกขโมยจูบได้ล้างแค้นเลยสักนิด

“ฮึ่ย…ถ้าไม่เห็นว่าต้องรีบกลับโคโนฮะล่ะก็ฉันจะตามไล่อัดนายให้แหลกคาเท้าแน่!”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา