{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story

-

เขียนโดย LadyTyrell

วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.

  26 ตอน
  0 วิจารณ์
  25.47K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

11) ภารกิจที่ต้องแลกด้วยเลือด1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          อายากะตื่นขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติเพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาเธอหลับลึกจนรู้สึกว่าเติมพลังจนเต็มอิ่ม ดังนั้นเพื่อนร่วมทีมหรือสัตว์อัญเชิญจึงไม่จำเป็นต้องตื่นขึ้นมาปลุกเธอ

“ทำไมรู้สึกว่าฝันเมื่อคืน…มันเหมือนจริงอย่างนี้นะ” เธอเอามือแตะปากตัวเองด้วยความแปลกใจพร้อม ๆ กับที่ความคิดอะไรบางอย่างแล่นเข้ามาหรือว่า…เธอหันไปมองคู่หูโดยทันทีแต่ก็พบว่าเขานอนอยู่อีกมุมของเต็นท์โดยที่ห่างจากเธอไปพอสมควร

“งั้นเราก็คงคิดมากไป…บ้าจริง” ถ้าหากว่าใครมาเห็นสีหน้าของเธอตอนนี้ล่ะก็คงจะแปลกใจไปตาม ๆ กันเพราะมันแดงแปร๊ดมากกว่าลูกมะเขือเทศซะอีก

 

          การเดินทางได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อพระอาทิตย์เริ่มขยับขึ้นมาทีละนิด อายากะสั่งให้เซจิออกเดินทางก่อนพวกตนเพื่อไปสำรวจเส้นทางและดูลาดเลาให้

“พรุ่งนี้เราก็น่าจะถึงซึจิโนะคุนิถ้าระหว่างการเดินทางไม่มีเหตุการณ์อะไรเข้ามาขัดขวาง” ผมสีชมพูเข้มปลิวไปตามแรงลมเมื่อโซซิโร่วิ่งแซงหน้าอายากะไป

“งั้นถ้าจะให้ดีเราก็ควรเร่งการเดินทาง คืนนี้แค่งีบบนกิ่งไม้ก็พอแล้ว”

“ใจร้อนจริงนะแม่สาวน้อย…ถ้าหากว่าเดินทางไปถึงที่นั่นแล้วร่างกายจะเอาแรงที่ไหนไปทำภารกิจต่อล่ะ?” เขาหันหน้ากลับมาถามเธอด้วยความเจ้าเล่ห์

อันที่จริงถ้าจะทำตามแบบที่โจนินสาวเสนอก็ได้ มันก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรอยู่แล้วแต่ความคิดที่ซ่อนลึกไว้ภายในจิตใจกลับต่อต้านอย่างรุนแรงเพราะถ้าหากว่าคืนนี้ไม่ได้หยุดพักเป็นเรื่องเป็นราวเขาก็คงอดที่จะแอบฉวยโอกาสจูบริมฝีปากบางอันนุ่มนิ่มแน่ ๆ ‘ให้ตายสิเรากำลังคิดบ้าอะไรอยู่นะ’

“ระวังกิ่งไม้!” หญิงสาวตะโกนลั่นเมื่อเห็นว่าคนที่เป็นฝ่ายนำกำลังจะกระโดดไปป๊ะกับกิ่งไม้ใหญ่

“คาถากำแพงลม!” สิ้นสุดเสียงของโจนินหนุ่มจากซึนะ สายลมก็ก่อตัวขึ้นระหว่างตัวเขาและกิ่งไม้แทบจะทันที

“เกือบไปแล้วมั้ยละเจ้าคนหื่น! น่าอายจริง ๆ มัวแต่คิดอะไรของนายอยู่นะ” โจนินสาวที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้อีกกิ่งหัวเราะคิก ไม่คิดว่าชายหนุ่มคู่หูของเธอจะมีมุมเซ่อซ่าแบบนี้ได้

“ฉันมัวแต่คิดเรื่องภารกิจจนไม่ได้ระวัง…รีบไปกันเถอะ” โซซิโร่ตอบหน้าตายทั้งที่ความจริงแล้วเขาคิดถึงริมฝีปากของเธอต่างหาก! ถ้าหากว่าสาวเจ้ารู้เข้าล่ะก็เขาคงจะนอนจมอยู่บนพื้นดินด้วยความน่าเวทนาอย่างแน่แท้

 

          เมื่อการเดินทางทุกอย่างราบรื่นไปได้ด้วยดีบวกกับโจนินทั้งสองเลือกที่จะพักงีบเอาแรงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นจึงทำให้พวกเขาเดินทางมาถึงแคว้นแห่งดินอย่างซึจิโนะคุนิเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

“ฉันไปล่ะนะอายากะ…ไปก่อนนะครับคุณโซซิโร่” สิ้นเสียงลาหมาป่าน้อยก็สลายบ๊องไปทันที

“นี่นาย…ทำไมเจ้าหมาป่านี่ถึงพูดดีกับนายซะเหลือเกิน!” อายากะหันไปถามโซซิโร่ด้วยความไม่พอใจ หรือว่าตอนที่เธอหลับหมอนี่คงจะตีสนิทกับเจ้าเซจิแน่ ๆ เลย

“ก็ไม่รู้สิสงสัยเซจิคงจะชอบฉันมากกว่าเธอล่ะมั้ง ก็เธอเอาแต่บ่น ๆ นี่” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจพร้อมกับยกมือเป็นสัญญาณให้เธอหยุดพูดเพราะรู้สึกว่ากำลังมีสิ่งมีชีวิตมุ่งหน้ามาทางพวกเขา

เสียงผิวปากเป็นจังหวะของผู้มาเยือนส่งผลให้โซซิโร่รีบกระโจนออกจากพุ่มไม้ที่ซ่อนตัวอยู่แทบจะทันที

“ทำไมถึงรู้ว่าพวกเราจะมาก่อนเวลา?” เขาเอ่ยถามชายที่อยู่ในชุดหน่วยลับของอิวะงาคุเระด้วยความสงสัย

“ทางซึนะแจ้งให้ท่านซึจิคาเงะทราบเวลาที่พวกนายจะเดินทางมาที่นี่เพราะงั้นฉันเลยต้องมาสอดแนมที่นี่ทุกวัน”

“งั้นก็แสดงว่าทางอิวะงาคุเระรู้แล้วว่าจะมีโจนินจากต่างแคว้นมาปฏิบัติภารกิจที่นี่”

หน่วยลับของอิวะงาคุเระพยักหน้าให้โจนินหนุ่มเล็กน้อยก่อนที่จะยื่นเอกสารบางอย่างให้ “ข้อมูลล่าสุดที่พวกเราพอจะช่วยได้…ตอนนี้ก็หมดหน้าที่ของทางอิวะแล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับฝีมือพวกนายแต่ถ้าหากว่าภารกิจครั้งนี้มันรุนแรงจนทำให้เกิดภัยต่ออิวะพวกเราก็คงต้องเข้าไปยุ่งอย่างช่วยไม่ได้” พูดจบหน่วยลับของอิวะก็หายตัวไปแทบจะทันที

“จากข้อมูลนี่บอกว่าพวกมันอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ห่างจากอิวะไปมากพอสมควร”

“งั้นแสดงว่าเราก็ไม่ควรที่จะเข้าไปพักในอิวะ” โจนินสาวออกความเห็นหลังจากที่โซซิโร่และเธอตัดสินใจนั่งพักกันที่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่

ชายหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วยก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางต่อไปยังโรงแรมที่อยู่ใกล้หมู่บ้านที่ว่ามากที่สุด

“ขอสองห้องค่า” อายากะยิ้มแป้นเมื่อจองห้องกับพนักงานวัยกลางคน

“นี่เธอห้องเดียวกันก็ได้นี่มันเปลืองเงินจะตายไป”

“ฉันเป็นผู้หญิงนะยะแล้วยิ่งจะให้นอนพักห้องเดียวกับไอ้คนหื่นอย่างนายน่ะฝันไปเถอะ!” หญิงสาวรับกุญแจจากพนักงานวัยกลางคนเสร็จก็รีบเดินขึ้นไปยังห้องพักทันที

“ฉันก็ไม่ได้อยากจะนอนห้องเดียวกับเธอมากนักหรอกน่า” ชายหนุ่มตะโกนไล่หลัง

‘อดลักหลับเลยเรา’ ‘เฮ้ยบ้าน่าไม่ใช่แบบนั่นซะหน่อยมันก็แค่จูบเฉย ๆ’ ความคิดของเขาตีกันในหัวฟุ้งซ่านไปมาจนไม่มีสมาธิที่จะนึกถึงเรื่องภารกิจ (หื่นจริง ๆ พ่อคุ๊ณณณ // ไรท์)

 

          ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องทำให้ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีชมพูเข้มอดที่จะรู้สึกแปลกใจไม่ได้เพราะเขาเพิ่งจะเข้ามาในห้องพักได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ

“นี่นาย…ไปกินข้าวกัน!” เสียงใสตะโกนอยู่หน้าห้อง

ชวนไปกินข้าวงั้นเหรอ? ชายหนุ่มคิดในใจ รู้สึกว่าแม่นี่มาแปลกขึ้นทุกที จู่ ๆ ก็มาเคาะห้องแล้วชวนไปกินข้าว

“ทำไมต้องสั่งมากินในห้องนายด้วยเนี่ยห๊า!” โจนินสาวโวยวายด้วยความไม่พอใจเมื่อโซซิโร่ตัดสินใจไม่ยอมลงไปทานข้าวข้างล่างแต่กลับสั่งให้จัดชุดอาหารกลางวันมาถึงห้องและก็เป็นห้องที่เขาพักอีกด้วย!

“อย่ามาถามหาเหตุผลน่าเธอก็คงจะรู้ดีเรามาทำภารกิจถ้าเกิดคุยเรื่องภารกิจข้างล่างอาจจะมีคนรู้ก็ได้” เขาตอบเธอด้วยท่าทางเบื่อหน่ายก่อนที่จะเริ่มจัดการอาหารกลางวันส่วนของเขา ความจริงแล้วใครจะไปรู้ว่าเขาอยากจะนั่งทานอาหารกลางวันกับเธอสองต่อสองในห้องซะมากกว่าเพราะบางทีอาจจะมีโอกาสให้ทำอะไรที่เขาอยากจะทำก็ได้… ‘นี่เราเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย’

          หลังจากวางแผนกันขณะที่ทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนจึงเดินทางไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ได้ข่าวมาจากหน่วยลับของอิวะงาคุเระว่าพวกนินจาถอนตัวที่จับลูกชายไดเมียวหลบซ่อนอยู่ในหมู่บ้านนั้น

“พวกมันซ่อนอยู่ในร้านเหล้างั้นเหรอ ทำไมมันดูซ่อนง่ายเกินไป” อายากะออกความเห็นขณะที่ไล่สายตาอ่านข้อมูลอีกครั้ง

“เรื่องนั้น…ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันบางทีมันอาจจะมีอะไรมากกว่าร้านเหล้าก็ได้นี่”

“ถ้างั้นล่ะก็…ฉันจะเข้าไปหมู่บ้านนี้ก่อนส่วนนายค่อยตามไปทีหลังถ้าฉันให้สัญญาณ”

ก่อนที่จะใช้คาถาแปลงร่างโจนินสาวจึงใช้คาถาอัญเชิญสัตว์ออกมาเพื่อเป็นตัวกลางสื่อสารระหว่างเธอและคู่หู “สวัสดีครับอายากะจัง มีอะไรให้ผมรับใช้งั้นเหรอ?” อินทรีย์หนุ่มสีน้ำตาลปรากฏตัวขึ้นมาแทบจะทันที

“ฉันกำลังอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจต้องการจะให้ท่านมิชิช่วยเป็นสื่อกลางระหว่างฉันกับคู่หูให้ที…ฉันจะใช้คาถาแปลงร่างเป็นนกเข้าไปสำรวจในหมู่บ้านนั้นก่อนแล้วให้ท่านมิชิซุ่มรออยู่บนต้นไม้แถวนั้นถ้าฉันส่งสัญญาณให้เมื่อไหร่ท่านมิชิก็รีบส่งสารให้หมอนี่ได้เลยรบกวนด้วยนะคะ”

“ได้เลยอายากะจัง…งั้นเรารีบไปกันเถอะ”

อินทรีย์หนุ่มพูดจบ อายากะจึงอยู่ในท่าประสานอินทันทีพร้อมกันนั้นร่างจริงของเธอก็สลายบ๊องกลายเป็นนกพิราบสีขาวขึ้นมา

 

          หมู่บ้านแห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นพิราบขาวตัวน้อยก็ดูออกว่าน่าจะเต็มไปด้วยผู้คนที่ชื่นชอบการพนันเพราะมีแต่ร้านพนันร้านเหล้าและคาราโอเกะ ถึงจะรู้ดีว่าลูกชายของไดเมียวถูกจับไว้ในร้านเหล้าแต่เธอก็ไม่อาจทราบได้ว่าร้านไหนเพราะมีประมาณสิบกว่าร้านเห็นจะได้ คิดมาถึงตอนนี้แล้วก็อยากจะให้คนในทีมมีเนตรสีขาว! จริงสิมันจะยากอะไรล่ะเธอก็แค่คลายคาถาแล้วแปลงร่างเป็นคนของตระกูลฮิวงะก็สิ้นเรื่อง

“เนตรสีขาว!” อายากะที่อยู่ในร่างของเด็กหนุ่มอย่างฮิวงะ เนจิยืนอยู่บนต้นไม้พร้อมกับมองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจหาเป้าหมายที่เธอต้องการ เป็นอันโชคดีที่ม้วนภารกิจมีรูปของลูกชายไดเมียวแห่งแคว้นคาเซะโนะคุนิติดอยู่พอให้เธอจำได้

“อืม…หายากจังเลยแฮะเจ้าลูกไดเมียวนั่น ขนาดว่าเราใช้เนตรสีขาวแล้วนะ” เสียงห้าวของเด็กหนุ่มดังขึ้นเมื่อพยายามกวาดสายตาหาแล้วแต่ก็หาไม่เจอ

“ยังหาไม่เจออีกหรืออายากะจัง?” เสียงอันนุ่มทุ้มของอินทรีย์หนุ่มสีน้ำตาลดังขึ้น

“ค่ะ…หายากจริง ๆ ถึงแม้ว่าเนตรสีขาวจะเหมาะกับการใช้มองหาก็ตามแต่ตอนนี้ฉันยังหาไม่เจอเลย” เสียงห้าวของเด็กหนุ่มฮิวงะ เนจินั้นออกจะดูแปร่ง ๆ ไปเสียหน่อยเมื่อผู้พูดใช้คำว่า ‘ค่ะ’ (รู้สึกสงสารเนจิขึ้นมาตะหงิด ๆ// ไรท์)

“เอ๊ะ…นั่นมัน! เหมือนกับว่ามีประตูลงไปชั้นใต้ดินของร้านนั้น…หึหึซ่อนไว้ในนั้นเองสินะ จะว่าไปแล้วดูจากพวกที่เฝ้าอยู่น่าจะร้ายกาจพอตัว…รบกวนไปรายงานให้หมอนั่นด้วยนะคะท่านมิชิฉันจะรออยู่ตรงนี้…คลาย!” สิ้นเสียงของอายากะ อินทรีย์หนุ่มที่ถูกอัญเชิญจึงรีบโผบินออกไปแจ้งข่าวให้กับโซซิโร่ทันทีพร้อมกันนั้นจากเด็กหนุ่มฮิวงะ เนจิก็กลายสภาพเป็นโจนินสาวผมสีส้มดังเดิม

“ถ้ายายป้าซึนาเดะรู้ว่าที่นี่มีแต่แหล่งการพนันล่ะก็คงจะรีบลาออกจากตำแหน่งแล้วมาขลุกอยู่นี่ทั้งวันแน่ ๆ เอ…จะว่าไปบางทียายป้าก็อาจจะเคยมาขลุกอยู่ที่นี่แล้วก็ได้” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองขณะที่รอคู่หูที่กำลังจะตามมาสมทบ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ที่ทำการโฮคาเงะ

“ฮัดเช่ย! อากาศก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงบ่อยขนาดนั้นนี่แต่ทำไมฉันกลับจามติดต่อกันแบบนี้นะ” โฮคาเงะสาวรีบวางแผ่นเอกสารลงพร้อมกับหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดจมูกแทบจะทันที

“สงสัยฝุ่นในห้องนี้คงจะเยอะเกินไปมั้งคะ” ชิสึเนะที่กำลังอุ้มทงทงอยู่ออกความเห็น

“งั้นเหรอ…เดี๋ยวเธอช่วยสั่งให้คนมาทำความสะอาดด้วยก็แล้วกัน จะว่าไปแล้วไม่รู้ว่ายายอายากะจะทำภารกิจไปถึงไหนแล้ว คิดแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้จริง ๆ ถึงแม้ว่าแม่เด็กนั่นจะฝีมือร้ายกาจก็ตามแต่ดันได้คู่หูเป็นนินจาจากซึนะจะทำงานร่วมกันได้ดีรึเปล่า” ซึนาเดะเอามือเท้าคางพร้อมกับคิดถึงเรื่องภารกิจระดับAที่ทางซึนะขอความช่วยเหลือมา

“ฉันเชื่อว่าอายากะจังมีความเป็นมืออาชีพพอค่ะท่านซึนาเดะ บางทีตอนนี้อาจจะกำลังเดินทางกลับมาโคโนฮะอยู่ก็ได้นะคะ”

“อือ…ก็หวังให้เป็นอย่างนั้นล่ะนะ”

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

 

          “ไง โทษทีนะแอบลักลอบเข้ามาหมู่บ้านแบบนี้ก็ต้องระวังตัวเยอะหน่อย” เสียงชายหนุ่มผู้เป็นคู่หูดังขึ้นอยู่ข้างหลัง อายากะจึงหันไปมองก็พบว่าตอนนี้เขาอยู่ในชุดลำลองธรรมดาของชาวบ้านทั่วไป

“ฉันรู้แล้วว่าพวกนั้นจับตัวลูกชายไดเมียวไว้ที่ไหน…เราเริ่มทำตามแผนที่วางไว้กันเลยดีกว่าแต่ดูท่าพวกที่เฝ้าเจ้าลูกชายไดเมียวน่ะคงร้ายกาจพอตัว”

“วางใจได้ฉันจะจัดการดึงความสนใจจากพวกมันเอง”

          สิ้นเสียงของโซซิโร่อายากะจึงรีบตั้งสมาธิพร้อมกับรีดเร้นจักระและประสานอินอีกครั้งจนร่างของเธอสลายบ๊องไปกลายเป็นเพียงแค่แมลงเต่าทองตัวเล็ก ๆ ก็เท่านั้น ถึงใครหลายคนจะคิดว่าวิชาแปลงร่างของฟูจิวาระนั้นมีข้อได้เปรียบแต่ถึงอย่างนั้นก็ตามการแปลงร่างในสภาพสัตว์ที่ไม่มีทางสู้นั้นก็เท่ากับว่าเป็นการเสี่ยงอันตรายสุดชีวิตหากแมลงเต่าทองน้อยถูกใครสักคนจับแล้วฆ่าให้ตายคามือนั่นก็ถือว่าเป็นการปิดฉากชีวิตของผู้นำตระกูลฟูจิวาระทันที…

          โจนินหนุ่มจากซึนะรีบกระโดดลงจากต้นไม้แทบจะทันทีเมื่อเห็นว่าแมลงเต่าทองผู้ร่วมทีมเดียวกับเขาเริ่มบินออกไปก่อนแล้ว ชายหนุ่มเดินตามไปเรื่อย ๆ พร้อมกับสังเกตผู้คนรอบข้างไปด้วยว่ามีศัตรูแฝงอยู่หรือไม่แต่ก็ไม่พบใครที่ดูมีพิรุธเลย

“เหมาเหล้าหมดร้านเท่าไหร่?” ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีชมพูเข้มเดินเข้าไปในร้านเป้าหมายด้วยท่าทีสบาย ๆ พร้อมกับเอ่ยขอเหมาเหล้าทั้งหมดในร้าน ทำให้คนที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นนินจาถอนตัวดูจะไม่พอใจเขาอย่างมาก

“ไอ้หมอนี่…ไม่เคยเห็นหน้าแฮะ มาใหม่เรอะ?” หนึ่งในหนุ่มคนที่โซซิโร่คิดว่าเป็นพวกนินจาถอนตัวเอ่ยถามเขาขึ้นมาด้วยความสนใจ

“ฉันก็แค่มาเที่ยวหาความสุข…มีเงินเยอะแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้” ว่าจบเขาก็รีบโยนถุงเงินไว้บนโต๊ะทันที “ว่าไง…ฉันขอเหมาเหล้าหมดร้าน จัดการเอามาให้ฉันเร็ว ๆ สิ”

“นายมีเงินเยอะแค่ไหนกันเชียวเจ้าหน้าวัยละอ่อน!”

“อืมก็มีเยอะกว่านายก็แล้วกันล่ะนะ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาทำท่าทางนับ

ตุ้บ! หมัดของชายคนนั้นเสยเข้าโดนหน้าของเขาเต็ม ๆ โซซิโร่จึงยกมือขึ้นมากุมใบหน้าอันอ่อนวัยของเขาด้วยท่าทีสบาย ๆ…แบบนี้แหละที่เขาต้องการ

“นี่เรียกว่าหมัดเรอะ…ทำไมถึงไม่รู้สึกอะไรเลยคิดว่านายเอามือมาสะกิดซะอีก”

 

          แมลงเต่าทองน้อยรอจังหวะการเปิดประตูห้องใต้ดินของพวกนินจาถอนตัวอย่างใจจดใจจ่อพร้อมกับลอบมองสถานการณ์อันวุ่นวายที่คู่หูของเธอเป็นคนก่อขึ้นด้วยอาการลุ้นสุดขีดเพราะถ้าหากมันไม่รุนแรงมากพอ เธอคิดว่าพวกที่เฝ้าลูกชายไดเมียวก็คงไม่ยอมออกมาแน่ ๆ

“เกิดเรื่องอะไรกันขึ้น!” เสียงห้าวอันทรงพลังดังออกมาพร้อมกับประตูห้องลับใต้ดินที่ถูกเปิดออกมาด้วยความรวดเร็วทำให้แมลงเต่าทองน้อยรีบฉวยโอกาสบินเข้าไปในนั้นทันที

“ยะ…แย่แล้วครับพวกที่อยู่ข้างนอกกำลังมีเรื่องกับลูกค้าหน้าละอ่อน” หนึ่งในลูกสมาชิกของฮายาโตะหนึ่งในนินจาผู้ถอนตัวจากแคว้นแห่งสายฟ้าอย่างคามินาริโนะคุนิรีบเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นหัวหน้าตัวเองเปิดประตูห้องใต้ดินออกมาด้วยความฉุนเฉียว

“เดี๋ยวฉันจัดการเอง…หึหึหวังว่าคงจะไม่ใช่พวกนินจาขี้สอดนะ”

‘ห้องใต้ดินแบบนี้ ก่อนอื่นต้องหาทางออกนอกจากประตูนั่น’ แมลงเต่าทองน้อยพยายามบินหาทางออกทางอื่นไว้แต่ก็กลับพบว่ามันทึบจนไม่มีทางออกทางไหนนอกจากประตูทางเข้าที่เธอบินเข้ามา ‘ยังเป็นโชคดีของเราที่พวกมันแห่กันออกไปดูเจ้าหมอนั่น…ตอนนี้แหละเราต้องรีบจัดการ’ แมลงเต่าทองน้อยรีบบินผ่านลูกกรงที่ใช้ขังลูกชายไดเมียวเข้าไปด้วยความรวดเร็ว

“นะ…นี่…คะ…ใครน่ะ” เด็กหนุ่มสภาพโทรมเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าอยู่ ๆ ก็มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา

“เงียบหน่อยเด็กน้อย…อย่าเอ็ดไป ฉันไม่มีเวลาจะมาอธิบายอะไรพร่ำเพรื่อเอาเป็นว่าถ้ารอดออกไปจากที่นี่ได้ให้หมอนั่นอธิบายก็แล้วกัน”

“ดะ…เดี๋ยวก่อน คุณมาช่วยผมเหรอ?” เด็กหนุ่มถามด้วยความข้องใจพร้อมกับแววตาประกายที่เปี่ยมไปด้วยความหวังที่จะรอดออกไปจากที่นี่เพราะเจ้าพวกนั้นส่งจดหมายไปขู่ท่านพ่อของเขาว่าต้องส่งเงินทั้งหมดที่มีมาแลกกับตัวลูกชายถ้าหากว่าไม่มีสัญญาณอะไรตอบรับก็จะตัดหัวเขาทิ้ง

“อย่าเพิ่งถามอะไรมากน่านายอยู่นิ่ง ๆ…เฮ้อต้องทำอะไรซับซ้อนอีกแล้วเรา” สิ้นเสียงบ่นของตัวเองอายากะจึงยกนิ้วโป้งขึ้นมากัดให้มีเลือดไหลออกมาพร้อมกับรีดเร้นจักระและประสานอินด้วยความรวดเร็ว “วิชานินจาคาถาเปลี่ยนร่าง!” เธอทาบฝ่ามือที่มีเลือดลงบนหน้าอกของเด็กหนุ่มพร้อมกันนั้นร่างของเขาจึงสลายบ๊องกลายเป็นเพียงสร้อยคอเส้นหนึ่งก็เท่านั้น

“เนตรสีขาว!” ฮิวงะ เนจิกลับมาอีกครั้งหลังจากที่อายากะเปลี่ยนร่างของลูกชายไดเมียวให้กลายเป็นสร้อยคอ

“ถ้าเราใช้พวกคาถาทำลายกำแพงล่ะก็…ไม่รอดแน่ ๆ พวกนั้นต้องรู้ตัวถ้าเป็นอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้นี่นะ เสี่ยงอีกรอบจะเป็นอะไรไป!” ว่าจบร่างของเนจิก็กลายเป็นอายากะอีกครั้งก่อนที่จะกลายเป็นแมวน้อยสีเทา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา