เธอผู้มาพร้อมแสงส่วาง
8.2
เขียนโดย muromaji
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.38 น.
5 ตอน
1 วิจารณ์
7,864 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.08 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) ตัวตนที่แท้จริงของศรัณ วายุพัฒน์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เป็นเวลาเกือบปีที่ศรัณแวะเวียนมาบ้านนี้เสมอ ๆ จนกระทั่งวันหนึ่นศรัณต้องเดินทางไปต่าง
ประเทศอย่างกระทันหันจึงไปแค่ว่าจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดซักพักแล้วจะรีบกลับ ซึ่งก็ไม่มีใคร
ว่าอะไรน้องจากเกศที่บอกแค่ว่าให้รีบกลับมาไว ๆ เท่านั้น จากนั้นศรัณก็รีบเดินทางทันทีโดย
เครื่องเครื่องบินส่วนตัว เพื่อจะได้รีบกลับมาทันเปิดร้านกาแฟที่อนุชิต ได้ทำตามคำพูดโดยหา
ทำเลที่ดีที่สุดในย่านชุมชนและโรงแรมเพราะนอกจากขนมไทยแล้วยังรู้อีกว่าทั้งน้ำจบป.ตรี
คหกรรมอาหารส่วนเกศก็กำลังจบป.ว.ส.คหกรรมแล้วต่อป.ตรีวิทยาศาสตร์อาหารอีกด้วย จึงทำ
ให้อนุชิตที่ขอความช่วยเหลือเรื่องการทำเค้กวันเกิด ได้รู้ว่าสองพี่น้องนอกจากขนมไทยแล้ว
อย่างอื่นก็อร่อยไม่แพ้กันขนาดพ่อกับแม่ของอนุชิตที่ไม่ชอบขนมไทยเพราะหวานไปยังชอบ
ในฝีมือที่ไม่หวานจนแสบคอเลย หลังจากที่ศรัณไปเกือบอาทิตย์ น้ำรินทร์ก็ยุ่งอยู่กับทาง
โรงแรมเพราะได้ทำเรื่องลาออกไปแล้วแต่ยังอยู่ในช่วงรอให้ถึงสิ้นเดือนแล้วค่อยออก ส่วนเกศินี
ก็กำลังเคล้งเคลียดอยู่กับการเตรียมสอบในเทอมสุดท้ายก่อนจะจบ จึงทำให้เหลือแค่ป้ารินแม่
ของน้ำและเกศที่ต้องรุนของไปขายเพียงคนเดียวถึงแม้ว่าน้ำกับเกศจะทักท้วงก็ตามจนในที่สุด
เรื่องก็เกิดเมื่อมีนายทุนสืบรู้มาว่าพื้นที่ตรงบ้านของรินแม่ของน้ำและเกศเป็นที่แปลงสวยจึงสั่ง
ให้ลูกน้องปลอมเป็นเทศกิจจับแม่ค้าที่มาขายของเมื่อแม่ค้าคนอื่นเห็นก็ต่างพากันวิ่งหนีโดย
ดึงป้ารินแม่ของน้ำและเกศไปด้วยจึงทำให้รถเข็ญไปชนกับรถของเสี่ยสัญชัยเป็นรอยแล้วสั่ง
ให้ลูกน้องอีกคนทำทีโวยวายเรียกร้องค่าเสียหายในขณะที่เกิดการชุนมุนลูกน้องเสี่ยคนหนึ่งก็
ดึงแขนป้ารินแล้วยื่นมีดไปเสียบลูกน้องอีกคนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะมาไกล่เกลี่ยต้องจับจันที
โดยทางเสี่ยสัญชัยได้เอาทนายมาข่มขู่ให้ยกที่ดินตรงนั้นให้ถ้าไม่ยอมก็ติดคุก จนเรื่องรู้ถึงน้ำ
และเกศทั้งสองคนจึงรีบมาจากที่ทำงานและที่โรงเรียนเพื่อมาเยี่ยมแม่ที่โรงพัก
"แม่" น้ำกับเกศร้องเรียกทันทีที่เห็นแม่ของตนก่อนที่ทนายความของเสี่ยสัญชัยจะเดินเข้า
มา
"ข้อหาพยายามฆ่าไม่ไช่เล็ก ๆ นะถ้ายอมมอบที่ดินผืนนั้นฉันรับรองว่าจะไม่เอา
เรื่องแถมเงินได้อีกต่างหาก" ทนายความของเสี่ยสัญชัยพูดขึ้นมา
"ที่ดินตรงนั้นเป็นของเก่าแก่ยังไงฉันก็ไม่ยอมยกให้ฉันจะเก็บเอาไว้ให้ลูกทั้งสอง"
ป้ารินยังคงพูดคำเดิม
"งั้นแก่ก็หาทนายเก่ง ๆ มาสูดคดีล่ะกัน แต่จะมีปัญญาหรือเปล่านังโง่" พูดจบ
ทนายของเสี่ยสัญชัยก็เดินออกไป
"แม่ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่ทนได้ลูกกลับบ้านไปเถอะ" ป้ารินพูดกับลูกก่อนจะเดินเข้า
ไปด้านใน น้ำกับเกศแทบไม่มีเรี่ยวแรงแต่ก็กลับมายังบ้านน้ำรินทร์ไปนั่งร้องไห้อยู่ตรงบ่อน้ำของ
สวนสาธารณะส่วนเกศก็แอบร้องไห้อยู่ในห้องนอนของตน น้ำแทบจะไม่มีกระจิตกระใจจะทำ
อะไร ส่วนเกศก็แทบจะเรียนไม่รู้เรื่องยิ่งเข้าวันที่จะต้องขึ้นศาลด้วยแล้ว จนกระทั่งศรัณกลับ
มาก็เห็นน้ำกับเกศนั่งกันคนล่ะมุม
"เป็นอะไรไปแล้วป้ารินไม่อยู่บ้านเหรอ" คำพูดของศรัณเพียงแค่นั้นก็ทำให้ 2 พี่น้อง
ถึงกับร้องไห้ออกมาทันทีก่อนจะโผกอดศรัณคนล่ะข้าง
"แม่น้ำถูกจับข้อหาพยายามฆ่า" น้ำพูดแค่นั้นก็ร้องไห้ออกมาอีก
"พี่ไม่เชื่อว่าป้ารินจะเป็นแบบนั้น ไหนเล่าให้พี่ฟังสิ" ศรัณมองหน้าทั้ง 2 คนก่อนน้ำจะ
เป็นคนเล่าเอง
"ตอนเช้าน้ำไปทำงานเกศก็ไปเรียนรู้ข่าวอีกทีตอนสายว่าแม่ถูกจับ พอไปหาที่โรง
พักก็มีทนายมาพูดว่าถ้าให้ที่ดินตรงนี้จะไม่เอาเรื่องและยังให้เงินอีก แต่แม่ไม่ยอมแม่
บอกจะเก็บที่ตรงนี้ให้เรา 2 คน วันพุธนี้ต้องขึ้นศาลอย่าว่าแต่เงินจะจ้างทนายเลยแม้
แต่เงินจะประกันตัวแม่น้ำยังไม่มีเลย" น้ำพูดจบก็ร้องไห้ตามเดิม
"พี่ศรัณช่วยแม่เกศด้วยนะ" เกศพูดจบก็ร้องไห้อีก
"เอาล่ะพี่เข้าใจแล้ว น้ำกับเกศไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะช่วยเองรับลองได้เลยว่าป้าริน
จะได้ออกมาอยู่กับเรา แน่ ๆ" ศรัณพูดก่อนให้บอกให้น้ำกับเกศเลิกร้องไห้
"อยู่กัน 2 คนแบบนี้คงไม่ดีเอาอย่างนี้ไปอยู่บ้านพี่ก่อนรอจนกว่าป้ารินจะออก
มาค่อยว่ากันอีกที" ศรัณรอให้ 2 พี่น้องเก็บเสื้อผ้าที่จำเป็นแล้วล็อกบ้านเรียบร้อยก็พาขึ้น
รถขับมายังบ้านของศรัณเมื่อ 2 พี่น้องเห็นก็ต้องตกใจกับบ้านที่เรียกว่าเป็นคฤหาสมากกว่า
จะเรียกบ้านอย่างที่ศรัณบอก ศรัณบอกให้หัวหน้าแม่บ้านพาไปยังห้องส่วนตัวของศรัณก็เดินไป
ยังห้องทำงานทันที
"ฮาโหล นพพร ฉันต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตลาด ภายใน 20 นาที"
ศรัณพูดจบก็วางหูไปทันที เมื่อ 2 สาวเดินเข้ามาที่ห้องทำงานของศรัณก็พบว่าภายในห้องมี
หนังสือมากมาย ศรัณจึงบอกให้หัวหน้าแม่บ้านนำน้ำมาเสริฟ แล้วก็พูดลอย ๆ ขึ้นมาซึ่งทำให้
น้ำกับเกศเกิดความสงสัย
"ทุกอย่างที่ต้องใช่" พูดจบศรัณก็บอกกับ 2 พี่น้อง
"วันพุธพี่จะให้คนขับรถไปส่งที่ศาล พี่อาจจะไปช้าซักหน่อยนะ" ศรัณพูดจบเครื่อง
ปริ้นที่อยู่บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น พร้อมกับปริ้นเอกสารรูปถ้ายสี และอีกมากมายราว 40 แผ่น
กำหนดวันขึ้นศาลก็มาถึงน้ำรินทร์กับเกศินีมารอในศาลแต่เช้าก่อนที่ทนายและเสี่ยสัญชัย
จะเดินเข้ามาเเสยะยิ้มแล้วเดินไปนั้งอีกด้านหนึ่ง เมื่อน้ำและเกศเห็นแม่ออกมายืนตรงจำเลย
ก็ทำท่าจะลุกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีมือของใครคนหนึ่งมาจักแขนทั้ง 2 คนเอาไว้ ก่อนจะหันไป
มอง
"พี่ศรัณ" น้ำกับเกศพูดขึ้นมาพร้อมกันทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างก็หันมามองทันที
"ไม่นึกเลยนะว่าจะได้พบกันอีก เจ้าของฉายามังกรสายฟ้าศรัณ" คำพูดของ
ตุลาการทำให้ทนายและเสี่ยสัญชัยถึงกับเหงื่อตกลงมาทันที
"ข้าแต่ศาลที่เคารพ ข้าพเจ้าศรัณ วายุพัฒน์ทนายความฝ่ายจำเลย ของให้
จำเลยได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังหน่อย" ศรัณถามป้ารินทันทีป้ารินก็เล่าเหตุการณ์
ที่พอจำได้
"วันนั้นป้าไปขายขนมตามปกติ อยู่ๆก็มีแม่ค้าวิ่งมาแล้วบอกว่าเทศกิจมาด้วย
ความตกใจป้าก็วิ่งด้วยแล้ว" ยังไม่ทันที่ป้ารินจะพูดต่อศรัณก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
"ข้าแต่ศาลที่เคารพวันวันที่ 13 พฤศจิกายน มีคำสั่งให้หน่วยงานทางเทศกิจไป
รวมตัวกันที่หน้าเทศบาลกลางกรุงเทพฯ ตามคำสั่งหนังสือทางราชการที่ออกมาโดย
ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นไปได้ไหมที่จะมีเทศกิจ 2 คนไม่ปฏิบัติคำสั่งที่ได้รับไปร่วม
พิธีในครั้งนั้นแล้วแอบไปจับแม่ค้า หรือว่ามีเจ้าที่แถวนั้นไม่พอใจที่จำเลยไม่เส้นไหว้
จึงแปลงกายเป็นเทศกิจมาจับแม่ค่า จริงเสี่ยสัญชัย" ศรัณพูดจบทนายความของเสี่ย
สัญชัยก็พูดทันที
"ข้าแต่ศาลที่เคารพคำพูดของทนายศรัณ ดูหมิ่นลูกความผมขอให้ถอนคำพูด
ด้วยครับ"
"ตรงไหนที่ว่าดูหมิ่นครับ หรือตรงที่ว่าเจ้าที่อดอยากมากจนต้องแปลงกายเป็น
เทศกิจอย่างนั้นหรือ อ่ะหรือว่าเสี่ยเป็น" ศรัณพูดแค่นั้นเมื่อเห็นว่าทนายของเสี่ยสัญชัย
จะประท้วงก็หันหน้าไปถามป้ารินต่อทันที
"ในวันนั้นขนมที่จำเลยไปขายมีอะไรบ้าง" ศรัณถามต่อ
"เนื่องจากช่วงนั้นลูกไม่ว่างก็เลยขายแค่ขนมประกิมไข่เต่า" ป้ารินตอบแค่นั้น
"แล้งจำได้ไหมได้ไหมว่าในรถเข็นมีอะไรบ้าง"
"ก็มีหม้อใส่ประกิมไข่เต่า ถ้าย ช้อน ถุง และยาง"
"แล้วอย่างอื่นล่ะ"
"ไม่มีแล้วเพราะป้าเป็นคนจัดของเองกับมือ"
"ข้าแต่ศาลที่เคารพ ในการขายขนมอย่างประกิมไข่เต่า แม้แต่ตุลาการทุกท่าน
ก็คงจะนึกออกว่ามีของแค่นั้นก็ขายได้ที่น่าแปลกใจคือเจ้าเลยบอกว่าของที่ใช้ขาย
มีแค่หม้อใส่ประกิมไข่เต่า ถ้วยสำหรับขาย ช้อน ถุงใส่สำหรับลูกค้าจะซื้อกลับบ้าน
และยางรัดถุง แล้วมีดที่ที่ใช้แทงสุนัขข้างนายล่ะ โอ๊ะขอโทษครับ ผมขอถอนคำพูด
แล้วมีดที่ใช้แทงบอร์ดี่การ์ดที่น่าจะระวังตัวเพราะมีการศึกมาอย่างดีกลับยืนให้ถูก
แทงได้ได้หมายความว่ายังไงครับ และที่น่าแปลกอีกอย่างคือวันนั้นจำเลยใสเสื้อ
แขนสั้นสีขาว แต่ถ้าเป็นผมเอาหม้อที่ใส่ประกิมตีหัวไม่ดีกว่าหรืออย่างมากก็แค่ข้อ
หาทะเลอะวิวาท ว่าแต่ลูกความผมท่าจะมีพลังจิตนะที่สามารถเอามีดจากแม่ค้าขาย
ผลไม้เอามาแทงได้นับถือ นับถือแต่ดูนี่สิครับ" คำพูดของศรัณทำให้ทั่วทั้งห้องถึงกับ
หลุดขำออกมาทันทีแต่เมื่อเสียงเงียบลงศรัณก็เดินไปที่โต๊ะแล้วเปิดภาพจากกล้องที่เรียก
ได้ว่าชัดมาก ๆเป็นภาพตั้งแต่ตอนวิ่งหนี่เทศกิจจนถึงตอนที่มีการชุลมุนกับอยู่แล้วเสื้อแขน
ยาวสีดำแทงมาจากหลังป้ารินถูกบอร์ดี้การ์ดที่ยื่นอยู่ข้างหน้าโดยไม่หลบ
"จากภาพทุกท่านคงจะเห็นว่าระยะขนาดนั้นบอร์ดี้การ์ดไม่เห็นมีดหรือ น่าคิดนะ
แล้วใหนจะแขนเสื้อสีดำที่เป็นมือแทงอีกผมขอจบคำถามแค่นี้ครับ" พูดจบศรัณก็เดิน
มานั่งข้อง ๆ น้ำรินทร์ทันที ซึ่งน้ำรินทร์แทบไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่ไม่กี่วันศรัณจะหาข้อมูลได้มาก
ขนาดนี้
"ข้าแต่ศาลที่เคาระ ข้าพเจ้าอย่างให้โจษย์เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น" ทนายของ
เสี่ยสัญชัยลุกขึ้นมาถามโจษย์บ้าง
"วันนั้นกระผมได้ขับรถพาเสี่ยไปที่ตลาดก็เห็นกลุ่มแม่ค้าวิ่งมาจึงจอดรถแล้วรถ
เข็นของป้าคนนั้นก็วิ่งมาชนที่รถกระผมจึงลงไปดูความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วก็มีการ
ชุนมุนขึ้นมาแล้วผมก็โดนป้าแทงครับ"
"ไม่จริงก็" น้ำรินทร์พูดได้แค่นั้นก็ถูงศรัณเอามือปิดปากก่อนจะลุกขึ้นแล้วโค้งคำนับ
"ขออภัยศาลที่เคารพ" จากนั้นศรัณก็นั่งลงต่อโดยไม่พูดอะไรอีก
จนกระทั่งทนายฝ่ายโจษย์ถามจบ ศรัณก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาที่โจษย์ทันที
"คุณเคยเห็นบุคคลในรูปไหม"
"ไม่เคยครับ" จากนั้นศรัณก็เดินไปที่จำเลย
"คุณเคยเห็นคนในภาพไหม"
"ป้าไม่เคยเห็นจ๊ะ"
"จากการตรวจสอบและขอข้อมูลของทางหน่วยงานเทศกิจทั่งประเทศ พบว่า
บุคคล 2 ทั้งสองนี้ได้กระทำการแต่งตัวเรียนแบบเทศกิจ ก่อให้เกิดความวุ่นวายจน
เป็นเหตุให้แม่ค้าแถวนั้นหลายคนบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหายหลายรายการ แต่ก็แปลก
ที่โจษย์บอกไม่รู้จักทั้ง ๆ ที่โจษย์ก็ยืนคุยกัน" ศรัณนำรูปตอนที่ 2 คนนั้นไม่ได้ใส่ชุดเทศกิจ
แต่ใส่ชุดของบอร์ดี้การ์ดกำลังยืนคุยกันอยู่โชให้ทุกคนในศาลได้ดูกัน ซึ่งก็ทำเอาเสี่ยสัญชัย
ถึงกลับต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปาดเหงื่อทันที ก่อนที่ศรัณจะส่งรูปไปให้ฝ่ายตุลาการได้ดูกัน
"เอาล่ะ ข้าแต่ศาลที่เคารพอันนี้คือสุดท้ายจริง ๆ ขอรับ" พูดจบศรัณก็เปิดคลิปเสียง
ทันที
"นายสั่งมาให้ทำยังไงก็ได้ เอาที่ดินยัยแก่นั่นมาให้ได้เข้าใจไหม"
"ครับ"
จากเสียงเป็นเสียงของโจษย์ที่สั่งการกับลูกน้อง จึงทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็มองมาที่โจษย์
ซึ่งเป็นคนของเสี่ยสัญชัย ก่อนที่ศรัณจะเดินกลับไปนั่งที่ก็พูดขึ้นมาลอย ๆ
"คนอย่างผมถ้าคิดจะฆ่าใครก็ต้องฆ่าให้ตาย"
หลังจากที่ศรัณกลับไปนั่งที่ศาลก็สั่งให้คุมตัวโจษย์ทันที แล้วมีคำสั่งยกฟ้องจำเลย เนื่อง
จากหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด พอสัณญาณเลิกศาลดังขึ้น
น้ำกับเกศก็ร้องไห้ด้วยความดีใจที่แม่พ้นข้อกล่าวหาได้เป็นอิสระอีกครั้ง ก่อนที่เสี่ยสัญชัยจะ
กลับ
"ครั้งนี้ชั้นแพ้ แต่ต้องมาสักวันที่เป็นวันของฉัน"
"คงไม่มีวันนั้นหรอกตราบใดที่ฉันยังอยู่"
ประเทศอย่างกระทันหันจึงไปแค่ว่าจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดซักพักแล้วจะรีบกลับ ซึ่งก็ไม่มีใคร
ว่าอะไรน้องจากเกศที่บอกแค่ว่าให้รีบกลับมาไว ๆ เท่านั้น จากนั้นศรัณก็รีบเดินทางทันทีโดย
เครื่องเครื่องบินส่วนตัว เพื่อจะได้รีบกลับมาทันเปิดร้านกาแฟที่อนุชิต ได้ทำตามคำพูดโดยหา
ทำเลที่ดีที่สุดในย่านชุมชนและโรงแรมเพราะนอกจากขนมไทยแล้วยังรู้อีกว่าทั้งน้ำจบป.ตรี
คหกรรมอาหารส่วนเกศก็กำลังจบป.ว.ส.คหกรรมแล้วต่อป.ตรีวิทยาศาสตร์อาหารอีกด้วย จึงทำ
ให้อนุชิตที่ขอความช่วยเหลือเรื่องการทำเค้กวันเกิด ได้รู้ว่าสองพี่น้องนอกจากขนมไทยแล้ว
อย่างอื่นก็อร่อยไม่แพ้กันขนาดพ่อกับแม่ของอนุชิตที่ไม่ชอบขนมไทยเพราะหวานไปยังชอบ
ในฝีมือที่ไม่หวานจนแสบคอเลย หลังจากที่ศรัณไปเกือบอาทิตย์ น้ำรินทร์ก็ยุ่งอยู่กับทาง
โรงแรมเพราะได้ทำเรื่องลาออกไปแล้วแต่ยังอยู่ในช่วงรอให้ถึงสิ้นเดือนแล้วค่อยออก ส่วนเกศินี
ก็กำลังเคล้งเคลียดอยู่กับการเตรียมสอบในเทอมสุดท้ายก่อนจะจบ จึงทำให้เหลือแค่ป้ารินแม่
ของน้ำและเกศที่ต้องรุนของไปขายเพียงคนเดียวถึงแม้ว่าน้ำกับเกศจะทักท้วงก็ตามจนในที่สุด
เรื่องก็เกิดเมื่อมีนายทุนสืบรู้มาว่าพื้นที่ตรงบ้านของรินแม่ของน้ำและเกศเป็นที่แปลงสวยจึงสั่ง
ให้ลูกน้องปลอมเป็นเทศกิจจับแม่ค้าที่มาขายของเมื่อแม่ค้าคนอื่นเห็นก็ต่างพากันวิ่งหนีโดย
ดึงป้ารินแม่ของน้ำและเกศไปด้วยจึงทำให้รถเข็ญไปชนกับรถของเสี่ยสัญชัยเป็นรอยแล้วสั่ง
ให้ลูกน้องอีกคนทำทีโวยวายเรียกร้องค่าเสียหายในขณะที่เกิดการชุนมุนลูกน้องเสี่ยคนหนึ่งก็
ดึงแขนป้ารินแล้วยื่นมีดไปเสียบลูกน้องอีกคนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะมาไกล่เกลี่ยต้องจับจันที
โดยทางเสี่ยสัญชัยได้เอาทนายมาข่มขู่ให้ยกที่ดินตรงนั้นให้ถ้าไม่ยอมก็ติดคุก จนเรื่องรู้ถึงน้ำ
และเกศทั้งสองคนจึงรีบมาจากที่ทำงานและที่โรงเรียนเพื่อมาเยี่ยมแม่ที่โรงพัก
"แม่" น้ำกับเกศร้องเรียกทันทีที่เห็นแม่ของตนก่อนที่ทนายความของเสี่ยสัญชัยจะเดินเข้า
มา
"ข้อหาพยายามฆ่าไม่ไช่เล็ก ๆ นะถ้ายอมมอบที่ดินผืนนั้นฉันรับรองว่าจะไม่เอา
เรื่องแถมเงินได้อีกต่างหาก" ทนายความของเสี่ยสัญชัยพูดขึ้นมา
"ที่ดินตรงนั้นเป็นของเก่าแก่ยังไงฉันก็ไม่ยอมยกให้ฉันจะเก็บเอาไว้ให้ลูกทั้งสอง"
ป้ารินยังคงพูดคำเดิม
"งั้นแก่ก็หาทนายเก่ง ๆ มาสูดคดีล่ะกัน แต่จะมีปัญญาหรือเปล่านังโง่" พูดจบ
ทนายของเสี่ยสัญชัยก็เดินออกไป
"แม่ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่ทนได้ลูกกลับบ้านไปเถอะ" ป้ารินพูดกับลูกก่อนจะเดินเข้า
ไปด้านใน น้ำกับเกศแทบไม่มีเรี่ยวแรงแต่ก็กลับมายังบ้านน้ำรินทร์ไปนั่งร้องไห้อยู่ตรงบ่อน้ำของ
สวนสาธารณะส่วนเกศก็แอบร้องไห้อยู่ในห้องนอนของตน น้ำแทบจะไม่มีกระจิตกระใจจะทำ
อะไร ส่วนเกศก็แทบจะเรียนไม่รู้เรื่องยิ่งเข้าวันที่จะต้องขึ้นศาลด้วยแล้ว จนกระทั่งศรัณกลับ
มาก็เห็นน้ำกับเกศนั่งกันคนล่ะมุม
"เป็นอะไรไปแล้วป้ารินไม่อยู่บ้านเหรอ" คำพูดของศรัณเพียงแค่นั้นก็ทำให้ 2 พี่น้อง
ถึงกับร้องไห้ออกมาทันทีก่อนจะโผกอดศรัณคนล่ะข้าง
"แม่น้ำถูกจับข้อหาพยายามฆ่า" น้ำพูดแค่นั้นก็ร้องไห้ออกมาอีก
"พี่ไม่เชื่อว่าป้ารินจะเป็นแบบนั้น ไหนเล่าให้พี่ฟังสิ" ศรัณมองหน้าทั้ง 2 คนก่อนน้ำจะ
เป็นคนเล่าเอง
"ตอนเช้าน้ำไปทำงานเกศก็ไปเรียนรู้ข่าวอีกทีตอนสายว่าแม่ถูกจับ พอไปหาที่โรง
พักก็มีทนายมาพูดว่าถ้าให้ที่ดินตรงนี้จะไม่เอาเรื่องและยังให้เงินอีก แต่แม่ไม่ยอมแม่
บอกจะเก็บที่ตรงนี้ให้เรา 2 คน วันพุธนี้ต้องขึ้นศาลอย่าว่าแต่เงินจะจ้างทนายเลยแม้
แต่เงินจะประกันตัวแม่น้ำยังไม่มีเลย" น้ำพูดจบก็ร้องไห้ตามเดิม
"พี่ศรัณช่วยแม่เกศด้วยนะ" เกศพูดจบก็ร้องไห้อีก
"เอาล่ะพี่เข้าใจแล้ว น้ำกับเกศไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะช่วยเองรับลองได้เลยว่าป้าริน
จะได้ออกมาอยู่กับเรา แน่ ๆ" ศรัณพูดก่อนให้บอกให้น้ำกับเกศเลิกร้องไห้
"อยู่กัน 2 คนแบบนี้คงไม่ดีเอาอย่างนี้ไปอยู่บ้านพี่ก่อนรอจนกว่าป้ารินจะออก
มาค่อยว่ากันอีกที" ศรัณรอให้ 2 พี่น้องเก็บเสื้อผ้าที่จำเป็นแล้วล็อกบ้านเรียบร้อยก็พาขึ้น
รถขับมายังบ้านของศรัณเมื่อ 2 พี่น้องเห็นก็ต้องตกใจกับบ้านที่เรียกว่าเป็นคฤหาสมากกว่า
จะเรียกบ้านอย่างที่ศรัณบอก ศรัณบอกให้หัวหน้าแม่บ้านพาไปยังห้องส่วนตัวของศรัณก็เดินไป
ยังห้องทำงานทันที
"ฮาโหล นพพร ฉันต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตลาด ภายใน 20 นาที"
ศรัณพูดจบก็วางหูไปทันที เมื่อ 2 สาวเดินเข้ามาที่ห้องทำงานของศรัณก็พบว่าภายในห้องมี
หนังสือมากมาย ศรัณจึงบอกให้หัวหน้าแม่บ้านนำน้ำมาเสริฟ แล้วก็พูดลอย ๆ ขึ้นมาซึ่งทำให้
น้ำกับเกศเกิดความสงสัย
"ทุกอย่างที่ต้องใช่" พูดจบศรัณก็บอกกับ 2 พี่น้อง
"วันพุธพี่จะให้คนขับรถไปส่งที่ศาล พี่อาจจะไปช้าซักหน่อยนะ" ศรัณพูดจบเครื่อง
ปริ้นที่อยู่บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น พร้อมกับปริ้นเอกสารรูปถ้ายสี และอีกมากมายราว 40 แผ่น
กำหนดวันขึ้นศาลก็มาถึงน้ำรินทร์กับเกศินีมารอในศาลแต่เช้าก่อนที่ทนายและเสี่ยสัญชัย
จะเดินเข้ามาเเสยะยิ้มแล้วเดินไปนั้งอีกด้านหนึ่ง เมื่อน้ำและเกศเห็นแม่ออกมายืนตรงจำเลย
ก็ทำท่าจะลุกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีมือของใครคนหนึ่งมาจักแขนทั้ง 2 คนเอาไว้ ก่อนจะหันไป
มอง
"พี่ศรัณ" น้ำกับเกศพูดขึ้นมาพร้อมกันทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างก็หันมามองทันที
"ไม่นึกเลยนะว่าจะได้พบกันอีก เจ้าของฉายามังกรสายฟ้าศรัณ" คำพูดของ
ตุลาการทำให้ทนายและเสี่ยสัญชัยถึงกับเหงื่อตกลงมาทันที
"ข้าแต่ศาลที่เคารพ ข้าพเจ้าศรัณ วายุพัฒน์ทนายความฝ่ายจำเลย ของให้
จำเลยได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังหน่อย" ศรัณถามป้ารินทันทีป้ารินก็เล่าเหตุการณ์
ที่พอจำได้
"วันนั้นป้าไปขายขนมตามปกติ อยู่ๆก็มีแม่ค้าวิ่งมาแล้วบอกว่าเทศกิจมาด้วย
ความตกใจป้าก็วิ่งด้วยแล้ว" ยังไม่ทันที่ป้ารินจะพูดต่อศรัณก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
"ข้าแต่ศาลที่เคารพวันวันที่ 13 พฤศจิกายน มีคำสั่งให้หน่วยงานทางเทศกิจไป
รวมตัวกันที่หน้าเทศบาลกลางกรุงเทพฯ ตามคำสั่งหนังสือทางราชการที่ออกมาโดย
ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นไปได้ไหมที่จะมีเทศกิจ 2 คนไม่ปฏิบัติคำสั่งที่ได้รับไปร่วม
พิธีในครั้งนั้นแล้วแอบไปจับแม่ค้า หรือว่ามีเจ้าที่แถวนั้นไม่พอใจที่จำเลยไม่เส้นไหว้
จึงแปลงกายเป็นเทศกิจมาจับแม่ค่า จริงเสี่ยสัญชัย" ศรัณพูดจบทนายความของเสี่ย
สัญชัยก็พูดทันที
"ข้าแต่ศาลที่เคารพคำพูดของทนายศรัณ ดูหมิ่นลูกความผมขอให้ถอนคำพูด
ด้วยครับ"
"ตรงไหนที่ว่าดูหมิ่นครับ หรือตรงที่ว่าเจ้าที่อดอยากมากจนต้องแปลงกายเป็น
เทศกิจอย่างนั้นหรือ อ่ะหรือว่าเสี่ยเป็น" ศรัณพูดแค่นั้นเมื่อเห็นว่าทนายของเสี่ยสัญชัย
จะประท้วงก็หันหน้าไปถามป้ารินต่อทันที
"ในวันนั้นขนมที่จำเลยไปขายมีอะไรบ้าง" ศรัณถามต่อ
"เนื่องจากช่วงนั้นลูกไม่ว่างก็เลยขายแค่ขนมประกิมไข่เต่า" ป้ารินตอบแค่นั้น
"แล้งจำได้ไหมได้ไหมว่าในรถเข็นมีอะไรบ้าง"
"ก็มีหม้อใส่ประกิมไข่เต่า ถ้าย ช้อน ถุง และยาง"
"แล้วอย่างอื่นล่ะ"
"ไม่มีแล้วเพราะป้าเป็นคนจัดของเองกับมือ"
"ข้าแต่ศาลที่เคารพ ในการขายขนมอย่างประกิมไข่เต่า แม้แต่ตุลาการทุกท่าน
ก็คงจะนึกออกว่ามีของแค่นั้นก็ขายได้ที่น่าแปลกใจคือเจ้าเลยบอกว่าของที่ใช้ขาย
มีแค่หม้อใส่ประกิมไข่เต่า ถ้วยสำหรับขาย ช้อน ถุงใส่สำหรับลูกค้าจะซื้อกลับบ้าน
และยางรัดถุง แล้วมีดที่ที่ใช้แทงสุนัขข้างนายล่ะ โอ๊ะขอโทษครับ ผมขอถอนคำพูด
แล้วมีดที่ใช้แทงบอร์ดี่การ์ดที่น่าจะระวังตัวเพราะมีการศึกมาอย่างดีกลับยืนให้ถูก
แทงได้ได้หมายความว่ายังไงครับ และที่น่าแปลกอีกอย่างคือวันนั้นจำเลยใสเสื้อ
แขนสั้นสีขาว แต่ถ้าเป็นผมเอาหม้อที่ใส่ประกิมตีหัวไม่ดีกว่าหรืออย่างมากก็แค่ข้อ
หาทะเลอะวิวาท ว่าแต่ลูกความผมท่าจะมีพลังจิตนะที่สามารถเอามีดจากแม่ค้าขาย
ผลไม้เอามาแทงได้นับถือ นับถือแต่ดูนี่สิครับ" คำพูดของศรัณทำให้ทั่วทั้งห้องถึงกับ
หลุดขำออกมาทันทีแต่เมื่อเสียงเงียบลงศรัณก็เดินไปที่โต๊ะแล้วเปิดภาพจากกล้องที่เรียก
ได้ว่าชัดมาก ๆเป็นภาพตั้งแต่ตอนวิ่งหนี่เทศกิจจนถึงตอนที่มีการชุลมุนกับอยู่แล้วเสื้อแขน
ยาวสีดำแทงมาจากหลังป้ารินถูกบอร์ดี้การ์ดที่ยื่นอยู่ข้างหน้าโดยไม่หลบ
"จากภาพทุกท่านคงจะเห็นว่าระยะขนาดนั้นบอร์ดี้การ์ดไม่เห็นมีดหรือ น่าคิดนะ
แล้วใหนจะแขนเสื้อสีดำที่เป็นมือแทงอีกผมขอจบคำถามแค่นี้ครับ" พูดจบศรัณก็เดิน
มานั่งข้อง ๆ น้ำรินทร์ทันที ซึ่งน้ำรินทร์แทบไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่ไม่กี่วันศรัณจะหาข้อมูลได้มาก
ขนาดนี้
"ข้าแต่ศาลที่เคาระ ข้าพเจ้าอย่างให้โจษย์เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น" ทนายของ
เสี่ยสัญชัยลุกขึ้นมาถามโจษย์บ้าง
"วันนั้นกระผมได้ขับรถพาเสี่ยไปที่ตลาดก็เห็นกลุ่มแม่ค้าวิ่งมาจึงจอดรถแล้วรถ
เข็นของป้าคนนั้นก็วิ่งมาชนที่รถกระผมจึงลงไปดูความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วก็มีการ
ชุนมุนขึ้นมาแล้วผมก็โดนป้าแทงครับ"
"ไม่จริงก็" น้ำรินทร์พูดได้แค่นั้นก็ถูงศรัณเอามือปิดปากก่อนจะลุกขึ้นแล้วโค้งคำนับ
"ขออภัยศาลที่เคารพ" จากนั้นศรัณก็นั่งลงต่อโดยไม่พูดอะไรอีก
จนกระทั่งทนายฝ่ายโจษย์ถามจบ ศรัณก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาที่โจษย์ทันที
"คุณเคยเห็นบุคคลในรูปไหม"
"ไม่เคยครับ" จากนั้นศรัณก็เดินไปที่จำเลย
"คุณเคยเห็นคนในภาพไหม"
"ป้าไม่เคยเห็นจ๊ะ"
"จากการตรวจสอบและขอข้อมูลของทางหน่วยงานเทศกิจทั่งประเทศ พบว่า
บุคคล 2 ทั้งสองนี้ได้กระทำการแต่งตัวเรียนแบบเทศกิจ ก่อให้เกิดความวุ่นวายจน
เป็นเหตุให้แม่ค้าแถวนั้นหลายคนบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหายหลายรายการ แต่ก็แปลก
ที่โจษย์บอกไม่รู้จักทั้ง ๆ ที่โจษย์ก็ยืนคุยกัน" ศรัณนำรูปตอนที่ 2 คนนั้นไม่ได้ใส่ชุดเทศกิจ
แต่ใส่ชุดของบอร์ดี้การ์ดกำลังยืนคุยกันอยู่โชให้ทุกคนในศาลได้ดูกัน ซึ่งก็ทำเอาเสี่ยสัญชัย
ถึงกลับต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปาดเหงื่อทันที ก่อนที่ศรัณจะส่งรูปไปให้ฝ่ายตุลาการได้ดูกัน
"เอาล่ะ ข้าแต่ศาลที่เคารพอันนี้คือสุดท้ายจริง ๆ ขอรับ" พูดจบศรัณก็เปิดคลิปเสียง
ทันที
"นายสั่งมาให้ทำยังไงก็ได้ เอาที่ดินยัยแก่นั่นมาให้ได้เข้าใจไหม"
"ครับ"
จากเสียงเป็นเสียงของโจษย์ที่สั่งการกับลูกน้อง จึงทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็มองมาที่โจษย์
ซึ่งเป็นคนของเสี่ยสัญชัย ก่อนที่ศรัณจะเดินกลับไปนั่งที่ก็พูดขึ้นมาลอย ๆ
"คนอย่างผมถ้าคิดจะฆ่าใครก็ต้องฆ่าให้ตาย"
หลังจากที่ศรัณกลับไปนั่งที่ศาลก็สั่งให้คุมตัวโจษย์ทันที แล้วมีคำสั่งยกฟ้องจำเลย เนื่อง
จากหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด พอสัณญาณเลิกศาลดังขึ้น
น้ำกับเกศก็ร้องไห้ด้วยความดีใจที่แม่พ้นข้อกล่าวหาได้เป็นอิสระอีกครั้ง ก่อนที่เสี่ยสัญชัยจะ
กลับ
"ครั้งนี้ชั้นแพ้ แต่ต้องมาสักวันที่เป็นวันของฉัน"
"คงไม่มีวันนั้นหรอกตราบใดที่ฉันยังอยู่"
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ