รักเธอนิรันดร

8.7

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 21.08 น.

  10 ตอน
  98 วิจารณ์
  14.90K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

Chapter 6

 

 

 

 

 

 

 

 

 


"เธอเป็น แวมไพร์"

 

 

 

"หึ" ฟางหัวเราะในลำคอ "ฉันคิดไว้แล้วว่าสักวันนึงยังไงนายก็ต้องได้รู้"

 

 

 

"ผิวเธอเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ตาเธอเปลี่ยนสีอยู่ตลอดเวลา เธอไม่เคยกินหรือดื่มอะไร เธอ.."

 

 

 

"ฉันขอถามนายสักข้อนึงสิ"

 

 

 

"..."

 

 

 

"นายกลัวไหม"

 

 

 

"ไม่" ป๊อปปี้จ้องฟางอย่างไม่วางตา เธอก็มองเขาเช่นเดียวกัน

 

 

 

"นายไม่กลัวว่าตัวเองจะตายหรอไง ในเมื่อนายก็รู้แล้วว่าพวกฉันเป็นอะไร" ฟางยกยิ้มเล็กๆ "พวกฉันเกิดมาเพื่อฆ่า"

 

 

 

"ฉันไม่กลัว ถ้าฉันจะต้องตาย ฉันก็อยากให้เธอเป็นคนฆ่าฉันเอง" ป๊อปปี้พูดด้วยแววตาจริงจัง ฟางขมวดคิ้วทันที

 

 

 

"แล้วยังไงล่ะ นายได้รู้สมใจอยากแล้วนี่ คงจะพูดโอ้อวดไปทั่วว่าพวกฉันเป็นแวมไพร์"

 

 

 

"ฉันไม่เคยคิดจะบอกใครนะ"

 

 

 

"จงอยู่ห่างจากฉันซะ ไม่งั้นนายจะตกอยู่ในอันตราย" ฟางจะเดินออกไปแต่ป๊อปปี้จับแขนฟางไว้

 

 

 

"ก่อนจะไปฉันมีบางอย่างจะบอกกับเธอ"

 

 

 

"อะไร" ฟางมองหน้าป๊อปปี้อย่างไม่เข้าใจ

 

 

 

"ฉันอยากจะลองจูบกับแวมไพร์สักครั้ง อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันรู้สึกยังไง" ป๊อปปี้ดันฟางไปชิดกำแพงแล้วบดจูบคนตัวเล็กตรงหน้า ฟางนิ่งไปก่อนจะตอบกลับ เธอเอามือคล้องคอป๊อปปี้โดยที่ป๊อปปี้ขย้ำเอวฟางอย่างได้ใจ

 

 

 

"อืม.." ทั้งสองหลับตาพริ้ม พร้อมกับเสียงร้องในลำคอ นี่เป็นจูบที่รุนแรงจูบที่ไม่มีใครยอมใคร นับได้ว่าพวกเขาร้อนแรงทั้งคู่

 

 

 

"ฉันต้องการเธอมากเหลือเกิน" ฟางลืมตาขึ้นมา พร้อมผลักป๊อปปี้จนตัวลอยกระเด็นออกไปทันทีที่เธอได้ยินในสิ่งที่ป๊อปปี้คิด

 

 

 

"ฉันขอโทษ นายไม่คู่ควรกับฉัน เราไม่ควรรู้จักกัน ป๊อปปี้" ฟางพูดพร้อมมองป๊อปปี้ที่กองอยู่กับพื้นด้วยแววตาอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร ก่อนจะรีบเดินหนีไป

 

 

 

"เดี๋ยวก่อนสิ ฟาง"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"แล้วเราจะเอายังไงต่อล่ะ หมอนั่นรู้แล้ว" ธามไทร้อนใจ เพราะถ้ามีหนึ่งคนรู้ คนอื่นๆก็จะรู้และพวกเขาจะถูกกำจัดโดยกลุ่มชนชั้นสูง

 

 

 

"เราคุยกันได้ ป๊อปปี้ไม่ใช่คนปากโป้งเที่ยวไปบอกใครต่อใครนะธาม" พิมพูดเพื่อให้ธามไทใจเย็นลง

 

 

 

"ฉันกะแล้วว่ามันต้องรู้ และเชื่อสิ ทั้งเรา ทั้งมันจะไม่ปลอดภัย พวกนั้นต้องมาเด็ดหัวพวกเราทีละคน" ธามไทกำแก้วน้ำที่เขาถืออยู่แน่นจนมันแตกกระจาย

 

 

 

"คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ลองสังเกตุการณ์ต่อไป เราทำอะไรหมอนั้นไม่ได้ ข้างบนเขากำหนดไว้แล้ว" โทโมะที่เงียบไปนานก็พูดขึ้น โดยมองฟางที่ตอนนี้ไม่สนใจสิ่งใด และเหม่อลอยมองวิวนอกหน้าต่าง

 

 

 

"ทำไมต้องเป็นป๊อปปี้ โธ่เว้ย" ธามไทปัดข้าวของอย่างโมโหแล้วกระโดดออกทางหน้าต่าง

 

 

 

"เดี๋ยวพิมเก็บเองค่ะ" พิมรีบเก็บข้าวของที่ธามไททำไว้ทันที

 

 

 

"มันจริงหรอคะ ที่ฟางเป็นคู่แท้ของป๊อปปี้" ฟางที่นั่งเงียบไปนานก่อนจะพูดขึ้นมา

 

 

 

"ใช่ ที่ไมเคิลไม่ให้เราแตะต้องหมอนั่นเพราะน้องเป็นคู่แท้ของป๊อปปี้ ไม่อย่างนั้นน้องคงไม่สนใจหมอนั่น และน้องคงไม่เปลี่ยนใจไปจากพี่ง่ายขนาดนี้" โทโมะมองฟาง เพราะฟางเคยแอบรักเขา เขาเป็นคนเดียวที่ฟางอ่านใจไม่ออกโดยที่เขาไม่เคยคิดกับฟางเกินพี่น้องเลยสักครั้ง แต่ตั้งแต่ป๊อปปี้เข้ามา ฟางกลับเปลี่ยนใจได้ไวและคอยดูแลปกป้องป๊อปปี้มาตลอด

 

 

 

"ฟางรู้สึกต้องการเขามาก แต่ใจหนึ่งฟางก็รู้สึกว่าฟางไม่ควรยุ่งกับหมอนั่นอีก"

 

 

 

"พวกเรามันอันตรายเกินไป เธอควรจะคิดก่อนจะทำอะไร เธอไม่ควรทำให้ป๊อปปี้เสี่ยงอยู่ในอันตรายเพราะเธอ" พิมบอกฟาง

 

 

 

"พี่ว่าเราพักเรื่องนี้ไว้ก่อน วันออกล่าเราใกล้จะมาถึงแล้วอีกไม่กี่วัน เตรียมคำตอบงามๆไว้ให้ไมเคิลฟังเถอะ เขาต้องไม่พอใจแน่ๆ" โทโมะพูดถึงไมเคิล พ่ออุปถัมภ์ของพวกเขาซึ่งไมเคิลกำชับไว้อย่างดีว่าอย่าให้ใครรู้เรื่องตัวตนของพวกเขา และวันออกล่าหรือวันจันทร์ดับใกล้จะเข้ามาถึงทุกที..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


'มีสองอย่างที่ผมรู้ อย่างแรกผมรู้ว่าฟางและครอบครัวของฟางเป็นแวมไพร์ และอย่างที่สอง ผมตกหลุมรักเธอ ใช่ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน'

 

 

 

'นั่นคือจูบแรกของผม และผมคิดว่านั่นเป็นการสารภาพรักของผม..หวังว่าเธอจะเข้าใจ'

 

 

 

 

 

"สุดสัปดาห์นี้ ฉันว่าฉันจะกลับบ้าน" ป๊อปปี้พูดขึ้น

 

 

 

"ฉันก็ด้วย" เฟย์พูดต่อ

 

 

 

"ฉันจะกลับไปเยี่ยมพ่อสักหน่อย หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน"

 

 

 

"ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ ทั้งสองเลย" แก้วพูดไปเขียนงานไป

 

 

 

"แน่อยู่แล้ว" ป๊อปปี้ยักไหล่นิดๆ

 

 

 

"หวัดดี" เขื่อนเดินมานั่งข้างแก้วพร้อมถือถาดอาหารมาด้วย

 

 

 

"ตายละ หน้าเธอ ไปโดนอะไรมา เหมือนเป็นรอยข่วนเลยนะ" เฟย์ที่นั่งตรงข้ามกับเขื่อนก็รีบทักเมื่อเห็นแผลบนใบหน้าเขา

 

 

 

"โดนแมวที่บ้านข่วนน่ะ ไม่เป็นอะไรมากหรอก" เขื่อนตอบปัดๆแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ

 

 

 

"แล้วนี่นายทำแผลรึยัง" แก้วถาม

 

 

"ยัง ฉันไม่ค่อยมีเวลาน่ะ พวกเธอกินข้าวเช้ากันแล้วหรอ" เขื่อนเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้ทุกคนถามเขาเซ้าซี้

 

 

 

"เรียบร้อยแล้วล่ะ" เฟย์ตอบไป เขามองเฟย์นิดนึงแล้วเหลือบตาไปมองป๊อปปี้อย่างไม่ชอบใจ ทุกทีเฟย์จะนั่งข้างเขา แต่วันนี้กลับนั่งกับป๊อปปี้

 

 

 

"มีอะไรรึเปล่า" ป๊อปปี้ถามเขื่อนเพราะเขาเห็นเขื่อนมองอยู่นานสองนาน

 

 

 

"เปล่า ฉันแค่..ฉันขอตัว" เขื่อนรีบเดินออกไปทันที ปล่อยให้ทุกคนงงกันหมด

 

 

 

"เป็นอะไรของเขานะ" เฟย์มองตามเขื่อนที่เดินออกไปแล้ว

 

 

 

"ก็คงจะไม่ชอบใจมั้งที่เห็นเธอไปนั่งกับป๊อปปี้ ฮ่าๆ" แก้วพูดขำๆ อันที่จริงเธอดูออกว่าเขื่อนชอบเฟย์มาก แต่เธอก็ไม่เคยพูดอะไร เธอรู้ว่าการแอบชอบมันเป็นไง เช่นเดียวกับเธอที่ชอบโทโมะ

 

 

 

"งี่เง่าจริงๆ" เฟย์ส่ายหน้าน้อยๆ แล้วนั่งเขียนงานต่อไม่ได้สนใจอะไรอีก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


"นายมองอะไรอยู่หรอป๊อปปี้" แก้วเห็นป๊อปปี้ยืนแอบอยู่หลังกำแพงก็เข้าไปทัก

 

 

 

"ฉันกำลังสงสัยว่าเขื่อนไปญาติดีกับพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" ป๊อปปี้มองเขื่อนที่นั่งคุยกับครอบครัวไมเคิล และที่สำคัญเขากำลังคุยกับฟางอยู่

 

 

 

"นั่นสิ หมอนั่นเกลียดขี้หน้าครอบครัวไมเคิลจะตายไป"

 

 

 

"..." ป๊อปปี้จ้องฟางไม่ละสายตา เธอยิ้มให้เขื่อนราวกับว่าโลกนี้มีแค่พวกเขาสองคน

 

 

 

"ป๊อปปี้"

 

 

 

"..."

 

 

 

"ป๊อปปี้"

 

 

 

"..." ป๊อปปี้กำมือแน่น ในหัวเขาตอนนี้มีแต่คนตัวเล็กข้างหน้าที่กำลังยิ้มให้กับเพื่อนของเขา

 

 

 

"ป๊อปปี้!!"

 

 

 

"เอ่อ เธอว่าไงนะ" ป๊อปปี้หลุดจากภวังค์ ก่อนจะหันมาถามแก้ว

 

 

 

"นายหึงฟางกับเขื่อนหรอ" แก้วพูดไปยิ้มไป

 

 

 

"ป่าว"

 

 

 

"ฉันรู้น่า ทีนี้นายก็คงเข้าใจความรู้สึกเขื่อนแล้วสิ เขื่อนก็รู้สึกแบบนาย"

 

 

 

"หมายความว่าไง"

 

 

 

"หมอนั่นชอบเฟย์ เราเป็นเพื่อนกันมานานป๊อปปี้ ทำไมฉันจะไม่รู้"

 

 

 

"งั้นหรอ ไม่น่าล่ะถึงฟึดฟัดเดินออกไป" ป๊อปปี้พยักหน้าเข้าใจ "เรื่องนั้นช่างมันก่อน ฉันกำลังสงสัยว่าพวกนั้นคุยอะไรกัน"

 

 

 

"เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ"

 

 

 

 

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันต้องเป็นเรื่องไม่ธรรมดาแน่" ป๊อปปี้ขมวดคิ้วสงสัย ไม่ต่างกันกับแก้วที่สงสัยไม่แพ้กัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หญิงเขียดTalk
ไม่ได้มาอัพนานเลย พอดีติดสอบ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆ อย่างที่บอกเรื่องนี้เรื่องแรก ยังไงก็ติชมกันได้ ที่สำคัญเลยคือเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา