ใครสักคน

9.1

เขียนโดย mintmathuros

วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.05 น.

  4 chapter
  21 วิจารณ์
  7,122 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 21.36 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) เจอเธอครั้งแรก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ตอนที่1
 
 
 
 
 
 
 
 
ร้านกาแฟ
"เฮ้อ ฉันจะรอดไหมเนี่ย" เสียงบ่นอุบของฟาง หญิงสาวที่กำลังนั่งรอเจ้านายของตัวเองที่ร้านกาแฟหรูในตัวของโรงแรมมีชื่อนเสียง ที่เธอจะต้องมาประชุมและพรีเซ้นต์งานวันนี้ เธอพึ่งเข้ามาทำงานกับเจ้านายของเธอเพียง1สัปดาห์เท่านั้น แต่ต้องเข้าร่วมงานใหญ่ๆแบบนี้เธอก็รู้สึกประหม่าไม่น้อย 
 
 
 
 
 
"อุ้ย" เธอลุกขึ้นก่อนจะไปชนกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังถอยหลังเหมือนจะหนีอะไรสักอย่าง หลังจากชนเสร็จโกโก้เย็นพร้อมวิปครีมของฉันก็หกไปเต็มๆที่เสื้อของเขา แต่เขากลับหันมามองฉันแล้วหันกลับไปทางหน้าร้านก่อนจะดึงฉันไปยืนที่ด้านหน้าของเขา 
 
 
 
 
 
"นี่เธออยากไถ่โทษไหม" ฉันได้ยินเสียงกระซิบของคนด้านหลัง ก่อนจะพยายามหันกลับไปมองแต่เขากลับไม่ยอม 
 
 
 
 
 
"เธอทำยังไงก็ได้ อย่าให้ผู้หญิงคนนั้นมาหาฉันเจอ ฉันจะไม่โกรธเธอ" ฉันมองตามมือที่เขาชี้ให้ฉันดูก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดรัดรูปเปิดนู่นโชว์นี่ จนแทบจะไม่มีเสื้อปกปิดอยู่แล้วบนร่างกาย ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาต้องทำร้ายอะไรหญิงสาวคนนั้นแน่ๆ แล้วหนีฉันไม่คิดที่จะช่วยเขาและเลือกที่จะตะโกนบอกผู้หญิงคนนั้นแทน 
 
 
 
 
 
 
"คุณค่ะ ผู้ชายคนนั้นอยู่นี่ค่ะ!" 
 
 
 
 
 
 
"เฮ้ย!นี่เธอ" ชายคนนั้นตกใจที่โดนตลบหลัง ก่อนที่จะดึงแขนผู้หญิงคนที่ชนเขาเอาไว้ เมื่อเห้นว่าเธอกำลังจะหนี 
 
 
 
 
 
"นี่ปล่อยนะ ก็ใครจะรู้คุณอาจจะไปทำร้ายเธอมาแล้วหนีก็ได้ ปล่อย" 
 
 
 
 
 
 
"ป๊อปปี้ค่ะ คุณหนีแอนนี่ทำไม" ชายคนนั้นไม่ทันพูดอะไร เสียงของหญิงสาวที่เขาพึ่งจะหลบหน้าก็เดินเข้ามาพร้อมกับมาเกาะที่แขนของชายหนุ่ง ฟางยกคิ้วเชิงถามว่าปล่อยได้หรือยัง 
 
 
 
 
 
"มานี่" ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มมุมปากหลังจากมองไปที่หน้าของฟาง ก่อนจะดึงฟางเข้ามาในอ้อมกอดของเขา 
 
 
 
 
 
"จะทำอะไรปล่อยนะ /ป๊อปปล่อยนังนั่นนะ" ฟางที่ดิ้นและทุกอกแกร่งของคนตัวสูงอย่างไม่ยั้งมือ พร้อมกับเสียงหวีดร้องที่พร้อมจะตบคนอยู่ข้างๆของชายหนุ่ม 
 
 
 
 
 
"หยุดนะแอนนี่่ เลิกโวยวายสักที นี่แฟนของผมเองพอใจหรือยัง" ชายหนุ่มคนนั้นยึดแขนของฟางเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวก่อนจะหันไปพูดกับสาวขางกาย 
 
 
 
 
 
"เหอะ มีเมียแล้วก็ไม่บอก ฉันไม่ได้ต้องการเป็นเมียน้อยใครหรอกนะย่ะ เชอะ" แอนนี่ปล่อยมือออกจากป๊อปปี้แล้วพูดก่อนจะออกไปโดยไม่หันกลับมามองป๊อปปี้อีกเลย ฟางยืนเหวอไม่คิดว่าจะง่ายขนาดนี้ แต่เธอก็ตั้งสติได้แล้วผลักคนตรงหน้าออกจนสุดแรง เสื้อแขนยาวสีขาวเต็มไปด้วยสีโกโก้ที่เธอพึ่งจะทำหกไป
 
 
 
 
 
"เปื้อนเลยเห็นไหมคุณ" ฟางมองที่ตัวเองก่อนจะมองไปที่ป๊อปปี้ที่ยินกอดอกมองเธออยู่ ฟางยกคิ้ว 
 
 
 
 
 
"ไม่ต้องมาด่าฉันในใจ ฉันต่างหากที่ต้องด่าคุณทำอะไรเนี่ยฉันมีประชุมนะคุณ ให้ตายเถอะฉันจะทำยังไงห้ะ!" 
 
 
 
 
 
"เอ้าเธอเป็นคนทำไอ้เนี่ยหกใส่ฉันนะ แถมเธอยังแกล้งฉันอีก โดนแบบนี้แหละดีแล้ว ฉันก็มีประชุมไม่เห็นจะเดือดร้อนเหมือนเธอเลย ถือว่าหายกันละกันนะ บรัยที่รัก" ชายคนนั้นเอ่ยแล้วเดินออกไปยิ้มๆ ปล่อยในหญิงสาวอีกคนยืนหน้ามุ่ยและไม่สบอารมณ์อยู่ตรงนั้น 
 
 
 
 
 
 
"เอาไงดีว่ะเนี่ย" ฟางพูดกับตัวเองก่อนจะเดินออกจากร้านไปแล้วหาร้านเสื้อผ้าที่ใกล้ที่สุดแถวนั้น 
 
 
 
 
 
"เอ่อมีอะไรหรือเปล่าค่ะ" มีแมสเสนเจอร์เดินตามเธอ เธอเลยถามเขาไปตรงๆ ก่อนที่อีกฝ่านจะยื่นถุงเหมือนถุงเสื้อผ้ามาให้ฉัน พร้อมกับกระดาษโน้ตเล็กๆให้แล้วเดินออกไป 
 
 
 
 
 
       'อย่าเธอทั้งเตี้ย ทั้งเรียบสอง2ด้านแบบนี้อ่ะ ใส่รัดรูปสะบ้างจะได้ไม่ต้องเป็นป้าแก่เก่าค้างปี'
                                                                               จากสุดหล่อที่เธอทำน้ำหก..
 
 
 
 
"อื้อหือออ ด่ากันชัดๆ ไอ้บ้าเอ้ย!" 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
              บริษัทไทยานนท์ บริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และติดท็อบเท็นของโลกเพราะเป็นบริษัทที่มีคุณภาพ พนักงานทุกคนใส่ใจกับรายละเอียดของสินค้า และทุกอย่างมีขั้นตอนที่ทำได้รวดเร็วและทันใจกับลูกค้า ไม่ว่าจะส่งในประเทศหรือส่งออกนอกประเทศ ทำให้เจ้าของธุรกิจนี้มีกำไรต่อปีไม่ต่ำกว่า100ล้าน บริษัทนี้ก่อตั้งมานานถึง70ปี จนตอนนี้เป็นรุ่นลูกที่เป็นคนดูแลกิจการแทน ซึ่งมีชื่อว่า 'วิศวะ ไทยานนท์' หนุ่มบริหารจบนอก เกียรตินิยมอันดับ1 เขาเป็นที่หมายปองวันนี้เขามีประชุมกับคณะผู้บริหารในด้านอื่นๆของประเทศ เพื่อที่จะพิจารณาต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจากประเทศ ศิขริน
 
 
 
 
 
"ยินดีที่พบกันอีกนะครับคุณภาณุ" วิศวะเอ่ยกับคู่ปรับตั้งแต่สมัยมหาลัย ที่ไม่ถูกกันมาเกือบ10 ปี แต่ก็ต้องมานั่งทำงานร่วมกันแถมเป็นงานที่สำคัญของประเทศเสียอีก 
 
 
 
 
 
"ก็ไม่ค่อยอยากเจอเทา่ไรหรอกครับคุณวิศวะ" ปากหยักได้รูปยิ้มมุมปาก ก่อนยักคิ้วหยั่งเชิงแล้วเดินชนไหล่ของอีกคนออกไปจากตรงนั้น 
 
 
 
 
 
"คุณท่านครับ คุณฟางยังมาไม่ถึงเลยครับ" ลูกน้องคนสนิทของวิศวะเดินเข้ามาแล้วกระซิบบอก ก่อนที่เขาจะพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ลูกน้องคนนั้นออกไปก่อน 
 
 
 
 
 
"เอาละครับเราจะเริ่มประชุมกันเลยนะครับ" เสียงประธานเอ่ยขึ้นเมื่องทุกคนดูจะพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ซึ่งทุกคนจะมีเลขาอีก1คนที่นั่งอยุ่ข้างเจ้านายของพวกเขา ทำให้ห้องประชุมแห่งนี้ใหญ่พอสมควร 
 
 
 
 
 
"เดี๋ยวค่ะ!! เดี๋ยวค่ะ!" เสียงหวานพร้อมผู้หญิงตัวเล็กที่ใส่ชุดบอดี้สูตรสีดำรัดรูปวิ่งเข้ามาพร้อมกับเอกสารมากมาย กำลังยืนหอบอยุ่ตรงประตู 
 
 
 
 
 
"เอ่อ ขอโทษค่ะ เริ่มได้เลยค่ะ ^^" ฟางแจกยิ้มก่อนจะรีบเดินไปนั่งข้างเจ้านายของตัวเองแล้วกล่าว อย่างน้ำเสียงหวานๆ แต่พอหันกลับมามองหน้าเจ้านายสุดหล่อกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น 
 
 
 
 
 
"เอ่อคือ พี่โมะค่ะ" ฟางกำลังจะบอกเหตุผลที่มาแต่ก็โดนโทโมะส่ายหน้าเอาไว้ก่อน ทำให้หญิงสาวหน้ามุ่ยก่อนจะกลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ พอถึงเวลาที่ทางบริษัทของโทโมะต้องออกไปพรีเซนต์และอธิบายความคิดเกี่ยวกับงานในครั้งนี้ฟางก็ทำได้ผ่านฉลุย รวมไปถึงโทโมะด้วย 
 
 
 
 
 
"ทุกคนสรุปแล้วนะครับ ว่าจะเอาแบบของคุณวิศวะ" ทุกคนพยักหน้ายิ้ม เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะเลือกแบบของบริษัทไทยานนท์ ก่อนที่โทโมะจะลุกขึ้นแล้วโค้งเล็กน้อยให้ทุกคน พร้อมกับเสียงปรอบมือจากคนอื่นๆ 
 
 
 
 
 
"ยินดีด้วยนะเพื่อน ไม่น่าเชื่อว่าครั้งนี้แกจะละเอียดกว่าฉัน" หลังจากจบการประชุม ภาณุก็เดินเข้ามาหาวิศวะที่กำลังช่วยเลขขาสาวเก็บของอยู่ 
 
 
 
 
 
"อย่าพาลดีกว่านะเพื่อน กะอีแค่สับเพร่า ไม่น่าา..." โทโมเงิยหน้ามาตอกกลับเพื่อนรักอย่างสุดซึ้งก่อนจะยิ้มกวนๆให้ 
 
 
 
 
 
 
" นี่คงเป็นเลขาคนใหม่ของเพื่อนรักละสิ ชาติที่แล้วคงทำบุญมาน้อยนะเธอน่ะ" ป๊อปปี้มองหน้าฟางก่อนจะพูดแล้วเดินออกไป
 
 
 
 
 
"พี่รู้จักกับเขาด้วยหรอค่ะ" 
 
 
 
 
 
 
"ไปไหนมาล่ะ ทำไมมาสาย" ชายหนุ่มเอ่ยกับหญิงสาว ฟางยิ้มแหยๆให้กับอีกฝ่าย ก่อนที่จะแยะกันที่ด้านหน้าของโรงแรม เพราะเจ้านายของเธอต้องรีบไปต่างจังหวัดต่อแต่เธอไม่ต้องไปด้วย 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 ณ สวนสาธารณ
 
 
 
 
 
"ฉันเบื่อจัง" ตั้งแต่เดินเข้ามาเห็นแต่คนรักกันเดินจูงมือ ครอบครัวที่แสนอบอุ่นมีพ่อ แม่ แล้วก็ลูก คู่รักวัยรุ่น วันชราก็มา แต่ทำไมวัยอย่างฉันกลับไม่เห็นมีใครสักคน ฉันเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น แต่ฉันก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ที่ไม่เคยมีใครมาเติมให้ฉันจนเต็มได้สักคน ฉันรอมาจนทุกวันนี้ รอว่าสักวันฉันจะมีความรักที่สมบูรณ์ รอคอยที่พบกับคนที่จะนำทางให้กับฉัน นำทางให้กับความรักของเราสองคน สักวันที่ฉันจะต้องเจอเขาคนนั้น ไม่ว่าจะนานแค่ไหนฉันก็จะรอ.....
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
          บ้านไม้สองชั้นริมแม่น้ำ ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน คงจะมีเพียงเจ้าของบ้านเท่านนั้นที่อยู่ที่นั้น แสงสว่างของไฟบ้านทำให้เห็นชัดเจนว่าคนในบ้านมีใครบ้าง หนึ่งในนั้นคือชา่ยหนุ่มที่เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ของประเทศอย่าง ภาณุ จิระคุณหรือป๊อปปี้ ชายหนุ่มถือถุงเสื้อผ้าที่เขาพึ่งจะเปลี่ยนไปเมื่อเย็นมาที่ระเบียงริมแม่น้ำที่ยื่นออกไปเขานั่งลงพร้อมกับแสงเทียนที่เขาชอบ เขาเกิดมาอยู่คนเดียวตั้งแต่เกิด ทุกวันที่มีอยู่เป็นเพราะสองมือของเขาที่เริ่มมาตั้งแต่0 ทำให้เขารับรู้ว่าความยากจนเป็นอย่างไง 
 
 
 
 
                 ป๊อปปี้หยิบถุงผ้าขึ้นมาก่อนจะหยิบมากางออก ก่อนจะอมยิ้มพร้อมกับส่ายหัว ภาพของหญิงสาวตัวเล๋กแต่ชั่งพูดและสง่างามไปในตัวฉายเข้ามาในหัวของเขา รอยยิ้มตอนที่พรีเซนต์งานกับหน้าดุๆที่ทำให้เขาเมื่อเจอกันครั้งแรก มันยังคงทำให้เขาหัวเราะไม่หาย กับอาการไม่พอใจของอีกคนที่ดูเหมือนจะไม่กลัวเขาเอาเสียเลย นานแล้วที่เขาไม่เคยเก็บรอยยิ้มของใคร ตั้งแต่เธอคนนั้นทิ้งเขาไปอย่างไม่คิดจะใยดี แต่ยัยตัวเล็กคนนั้นกลับทำให้เขายิ้มออกมาคนเดียวได้อีกครั้ง... 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา