รหัสรัก ROMEO and JULIET
เขียนโดย zeeto
วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 21.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) ที่มาของ #ชนภัทร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากงานแสดงละครเวทีจบไปแล้ว ชายธีก็กลับบ้านไปแล้วตอนนี้ในห้องก็เหลือแค่ผมกับเจ้าแรมโบ้เหมือนเดิม ว่าแต่ทำไมต้องรู้สึกแปลกๆด้วยว่ะ จริงซิไม่ได้อัพเดรทชีวิตในไอจีตั้งนานดูหน่อยดิเป็นไงบ้าง เมื่อผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาก็เป็นอย่างที่คาดคิดไว้ยอดไลน์ยอดวิวและคอมเม้นต่างๆที่ถล่มเข้ามาเหมือนเดิมแต่แปลกทำไมไม่รู้สึกดีใจว่ะทั้งที่ความเป็นจริงมันคือสิ่งที่ต้องการไม่ใช่หรอ มีคนแท็กรูปมาด้วย “นี้มันรูปวันงานแสดงละครเวทีนี้หว่าดูแคปชั่นดิ...เธอคือRomeoและเขาคือJulietต่อให้แม้ต้องถูกกีดกันแต่ความรักระว่ากันกับชายธีจะไม่มีวันหายไป” แคปชั่นอะไรเลี้ยนได้ขนาดนี้ผมไล่อ่านคอมเม้นและรูปในไอ้จีของ #ชนภัทร ที่ผมกดติดตามไว้ ไม่รู้เจ้าตัวเห็นรูปนี้หรือยัง ยิ่งไม่ค่อยสนใจอะไรด้วยแคปส่งไลน์ไปให้ดีกว่า ไลน์ไอ้ฟลุ๊คอยู่ไหนนะ Juliet ... ไม่นานหลังจากที่ผมกดส่งรูปไปข้อความก็ขึ้นสถานะว่าเปิดอ่านแล้วแต่...อะไรคืออ่านแล้วไม่ตอบ... “อ่านไลน์แล้วทำไมไม่ตอบ” เหมือนเดิมขึ้นว่าอ่านแต่ก็ยังไม่ตอบ เฮ้ยอะไรว่ะอ่านไม่ตอบหรือนี้มันหมดธุระกัผมก็จะเงียบแบบนี้เลยหรือไง “ไอ้ฟลุ๊ค...มึงทำไมไม่ตอบกู” ผมส่งไปอีกครั้งก็เหมือนเดิมอ่านไม่ตอบไม่ไหวแล้วโว้ยไม่ตอบใช่ไหม...ผมกดโทรหามันทันทีดูดิจะว่าไง
โทรศัพท์จ้ากรรมดันมาพังอะไรตอนนี้ผมเปิดไลน์ที่ไอ้กันส่งมาแต่มันดันค้างไม่รู้ว่าอีกคนจะเป็นไง ดูจากที่มันส่งกลับมาแน่นอนละคงหัวเสียไม่น้อย แต่จะให้ทำไงก็โทรศัพท์มันพังนี้หว่า TRRRR~ รับสายได้เปล่าว่ะอ่ะลองดูดิ เฮ้ยรับได้ “ไอ้ฟลุ๊คอ่านไลน์ไม่ตอบมึงเป็นไร” “จะโวยวายทำไมว่ะ...โทรศัพท์กูพังเนี้ย” “พังแล้วมึงรับสายกูได้ไง” “กูจะรู้ไหมก็ไลน์มันค้าง” “อ้าวหรอ...” “เออ...ว่าแต่มีอะไร” “กูแค่ส่งรูปของพวกเรามาให้” “เออกูเห็นแล้วแต่เปิดไม่ได้” “หรอ...โทษทีว่ะนึกว่ามึงไม่อยากคุยกับกูแล้ว” “ทำไม...ขาดความอบอุ่นหรอกูไม่อยู่ด้วยเนี้ย” “มั่ง...ไม่มีคนมากอดนอน” “เพ้อเจ้อกอดแรมโบ้นอนไปเลยไป” “แรมโบ้ตัวไม่ใหญ่...” “ก็หาสาวมากอดซิครับRomeo” “ก็จะกอดใครได้ละครับRomeoก็ต้องกอดแค่Juliet” “พอๆๆ...เล่นไรของมึงเนี้ย...ว่าแต่ทำไมยังไม่นอน” “ก็นอนไม่หลับ” “นอนไม่หลับจะให้กูทำไงละครับ...” “มึงก็...มานอนเป็นเพื่อนหน่อยดิเหงา” คำพูดที่ผ่านสายมากับน้ำเสียงที่ไม่ใช่แค่เล่นเหมือนทุกครั้งทำไมมันทำให้ใจผมเต้นแรงขึ้นมาแบบนี้ล่ะ กับอีกแค่คำพูด... แต่ทำไมมันถึง...พอๆไอ้ฟลุ๊คดึงสติก่อน “ไม่ออกไปเที่ยวไหนละ” “ขี้เกียจ” “ฮาๆๆๆ...กูรู้สึกว่าคำว่าขี้เกียจมันเป็นของกูนะมันเปลี่ยนไปเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไรว่ะ” “นั้นดิ...มึงก็มานอนกับกูแค่อาทิตย์เดียวทำไมพอมึงไม่อยู่กูโคตรเหงาเลยว่ะ” “กูว่ามึงไปนอนเถอะดึกแล้วฟุ้งซ่านว่ะ” “อือ...เออฟลุ๊ค...” “ว่า?” “ฝันดีนะ” “ห่ะ!!...เออฝันดี” ฝันดีนะคำพูดที่ได้ยินคนนอนข้างๆตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่กระซิบบอกตอนผมหลับทุกคืนทำไมพอต้องมาฟังผ่านโทรศัพท์แล้วมันรู้สึกต่างจากตอนที่มันกระซิบบอกทุกวันเลยว่ะ อยู่ๆใบหน้าผมก็ร้อนผ่าวเพราะอะไรกันทำไมรู้สึกเขินกับคำนี้ทั้งที่...ไอ้กันก็กระซิบบอกผมทุกวัน หรือเพราะว่าผมไม่ได้อยู่กับมันเลยแปลกไป ใช่ซิมันต้องเป็นเพราะเหตุผลนี้แน่ๆ พอๆนอนเถอะหัวใจบ้านี้อีกหยุดเต้นแรงได้แล้ว....
หน้าเบื่อจริงๆพองานละครเวทีเสร็จก็เข้าสู่โหมดสอบไฟนอล ว่าแต่ทำไมทุกคนจับกลุ่มดูอะไรกันว่ะ “ไอ้ปริ้นท์” “อ้าวไอ้ฟลุ๊คมาแล้วหรอเป็นไงบ้างอ่านหนังสือมาไหวไหมวันนี้” “ก็พอได้ว่าแต่...พวกนั้นเขาจับกลุ่มทำไรกันว่ะ” “พวกนั้นหรอก็ดูพวกทวิตเตอร์ ไอจี แฟนเพจของมึงกับไอ้กันไง” “ห่ะ!!...ของกูกับไอ้กัน...อะไรยังไงงง” “ก็นี้ไง...” พูดเสร็จไอ้ปริ้นก็หยิบมือถือของมันขึ้นมาเปิดให้ผมดูไม่ว่าจะเป็น ทวิตเตอร์ ไอจี แฟนเพจ ที่ใช้ชื่อว่า #ชนภัทรว่าแต่มันคืออะไร “ชนภัทร?...คืออะไรว่ะ” “มึงอยากรู้ก็ลองเมนชั่นไปถามดูดิว่ะ แต่ยอดวิวคนตามโคตรเยอะเลยนะ...แต่ถ้าให้กูเดานะชนภัทรหน้าจะมาจากชื่อของมึงกับไอ้กันรวมกัน” “ยังไงว่ะ...” “ก็เหมือนคู่จิ้นอื่นๆที่ดังๆไงอย่างอันนี้ คู่จิ้น พีรญา ที่มาจากชื่อของพีรวัสบวกกับปราชญา เขาก็เอามารวมกันเป็น พีรญา” “งั้นแสดงว่าของกูกับไอ้กันก็คือชนกันย์บวกกับธีรภัทรก็มาเป็น ชนภัทร?” “ถูกต้องเพื่อน...ไว้มึงก็ไปส่องๆดูเห็นไอ้กันไปติดตามด้วยนี้” ไอ้กันติดตามอยู่ด้วยหรอแล้วทำไมเขาถึงจิ้นผมกับไอ้กันได้ละไปเอาโมเม้นไหนมาจิ้นได้ว่ะเนี้ย หมดงานที่ทำร่วมกันผมกับมันแทบจะไม่ได้เจอกันแต่ยังมีคนจิ้นผมสองคนได้อีกหรอ แบบนี้ซินะที่เขาเรียกว่าพวกแฟนคลับคู่จิ้นน่ากลัว ไว้หลังสอบเสร็จต้องเข้าไปดูแล้วละ #ชนภัทร
“เป็นไงว่ะเพื่อนเดี๋ยวนี้ยอดวิวถล่มถลายกว่าเก่าอีกนะมึง” เสียงไอ้ซิงที่เดินมาตบไหล่ผมแซวกับท่าทางอารมณ์ดีของผมที่เดินอ่านแฟนฟิคไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก็จะไม่ให้อารมณ์ดีได้ไงไม่อยากจะเชื่อว่าแค่ละครเวทีเรื่องเดียวจะทำให้ผมกลับมาฮอตอีกครั้ง “แล้วนี้มึงอ่านอะไรว่ะไอ้กันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” “เรื่องของกูครับเพื่อน...เออไอ้ซิงกูไปก่อนนะมีธุระว่ะ” “ธุระไรอีกว่ะละครเวทีก็เสร็จแล้วจะทิ้งกูไปปไหนอีกครับ” “Romeoก็ต้องไปหา Julietป่ะว่ะ...ไปล่ะไว้เจอกัน” ผมรีบบวิ่งขึ้นรถของตนเองก่อนจะขับออกไปที่คณะศิลปกรรมทันทีเพราะวันนี้ชายธีมีสอบเดี๋ยวคงเลิกแล้ว เมื่อขับมาถึงผมก็จอดรถก่อนมองหาชายธี หน้าจะลงมาแล้วนี่หว่า เฮ้ยนั้น... “พี่กันสมายของถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ” “อ๋อครับ” ผมยิ้มให้กล้องรุ่นน้องที่เข้ามาขอถ่ายรูปอีกทางก็กลัวคนที่ยืนอยู่หน้าตึกจะหนี “ขอตัวก่อนนะครับ..” ผมขอแยกตัวออกจากรุ่นน้องแล้วเร่งฝีเท้าเดินไปขว้างทางคนที่กำลังจะเดินออกจากตึก “หลีกจะกลับบ้าน” “เดี๋ยวไปส่งขึ้นรถดิ” “ละครก็ไม่ต้องซ้อมแล้วมาทำไมว่ะไม่มีสอบหรือไง” “มีแต่อยากมารับ” “ไม่ต้องกูกลับเองได้” “กูอยากไปส่ง...นี้ตั้งใจขับรถมารับเลยนะ” “ทำไมเรียกเรตติ้งหรอ...กูไม่มีเวลามาเล่นละครเอาใจแฟนคลับกับมึงหรอกนะหลบไป” “ทำไมพูดงี้ว่ะ...กูแค่อยากชวนไปกินข้าวแล้วก็ไปส่งที่บ้านไม่ได้หรอว่ะ” “ก็กูกลับเองได้อีกอย่างไม่มีธุระไรต้องเจอกันแล้วนี่หว่า” “แค่เพื่อนไปกินข้าวกันเฉยๆก็ไม่ได้หรอวะ...ไลน์มึงก็ไม่ค่อยจะตอบกูก็รู้ว่ามึงสอบกูก็สอบแต่มันขนาดจะไม่ทักทายเหมือนเพื่อนกันไม่ได้หรอว่ะ”
ผมมองหน้าไอ้กันที่เปลี่ยนสีหน้าดูจริงจังขึ้นมานี้ผมพูดแรงเกินไปหรอก็ไม่มีธุระอะไรแล้วผมก็อยากกลับไปพักจริงๆหรือว่าใช้คำพูดอะไรผิดไปว่ะ “เออ...กูขอโทษพอดีกูเหนื่อยๆ” “งั้นไปกินข้าวเดี๋ยวกูไปส่งที่บ้านโอเคนะ” “อือ...” พูดจบผมก็เดินไปขึ้นรถไอ้กันก่อนจะขับออกจากมหาลัยทันที “วันนี้ไม่ลืมคาดเข็มขัดหรอว่ะ” “เออ...ก็เดี๋ยวมึงบ่นกูอีก” “ก็มึงชอบทำตัวให้หน้าเป็นห่วงนี้หว่า” “แล้วมึงจะมาห่วงกูทำไมว่ะ...” “เออ...กูเป็นห่วงแค่นั้นแหล่ะอยากกินอะไรอ่ะ” “อะไรก็ได้แวะร้านไหนกูก็กินร้านนั้นแหล่ะ” “ความจริงกูก็อยากกินก๋วยเตี๊ยวเรือนะแต่ไกลว่ะรถติดอีกงั้นไปกิน....” TRRRRR~~ “แปบ...แม่กูโทรมา...ครับแม่...ครับกำลังกลับครับ...ไอ้กันไปส่งครับ..ครับๆได้ครับ” “แม่มึงโทรมาว่าไรว่ะ” “แม่ทำกับข้าวรอแล้วให้ชวนมึงไปกินด้วย” “อ๋อ...งั้นกลับบ้านเลยแล้วกัน” ผมพยักหน้าให้ไอ้กันก่อนจะนั่งพิงไปกับประตูมองออกไปข้างนอก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมยังต้องไปกลับด้วยกันกับมันทำไมแต่จะให้ปฏิเสธก็ทำไม่ได้อยู่ดี
“สวัสดีครับแม่หอมจังเลยวันนี้ทำอะไรครับเนี้ย” ทันทีที่เดินเข้าบ้านมาผมก็เข้าไปทักทายแม่ของชายธีที่กำลังตั้งโต๊ะอาหารรอแล้ว “กับข้าวง่ายๆนะลูกไม่รู้กันกินได้หรือเปล่า” “สบายครับแม่...มาครับผมช่วย” “ขอบใจจ้า...แล้วฟลุ๊คละ” “หน้าจะขึ้นไปเก็บของเดี๋ยวคงลงมาครับ” “จ่ะ...ช่วงนี้ฟลุ๊ดดูแปลกๆกันพอจะรู้ไหมเขาเป็นอะไร” “คงสอบมั่งครับแม่” “หรอ...ยังไงแม่ฝากดูแลฟลุ๊คด้วยนะ” “ครับ” อย่าว่าแต่แม่เลยครับที่รู้สึกว่าอีกคนแปลกไปผมเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน “อ้าวฟลุ๊คมานั่งเร็วเดี๋ยวแม่ตักข้าวให้” “ครับ...” “สอบเป็นไงบ้างละลูกเหนื่อยหรอ” “ก็นิดหน่อยครับ...” “งั้นสอบเสร็จไปพักผ่อนบ้างไหมไปเที่ยวต่างจังหวัดไม่ก็ต่างประเทศเลย” “แม่ก็รู้ผมไม่ชอบเดินทางขอนอนพักดีกว่า” “แย่จังแม่กับพ่ออุตส่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่ฟลุ๊คไม่ไปด้วยกันหรอ” “ไม่ละครับพ่อกับแม่ไปเลย” ผมนั่งฟังเสียงสนทนาระหว่างแม่ลูกไปก็กินข้าวไปเวลาเหนื่อยๆชายธีก็งอแงไม่อาอะไรเหมือนกันหรอเนี้ยปกติเห็นแต่โหมดตอนทำงานกับไม่สบาย เมื่อกินข้าวเสร็จเรียบร้อยผมก็อาสาเอาจานไปล้างที่ห้องครัวเองจะกินข้าวแล้วกลับเลยก็น่าเกลียดทำตัวให้มีประโยชน์บ้างเถอะว่ะ ผมค่อยๆกวาดเศษอาหารใส่ถุงก่อนจะมัดแล้วเอาใส่ถุงดำสำหรับทิ้งขยะก่อนจะบีบน้ำยาล้างจานลงบนฟองน้ำ “มา...กูช่วยได้เสร็จเร็วๆ” ผมหันไปมองคนที่เดินมายืนข้างๆ “ทำไมว่ะ...จะได้รีบไล่กูกลับคอนโดหรอ” “เออ...” “เบื่อขี้หน้ากูขนาดนั้น” “เปล่า...กูแค่เหนื่อยอีกอย่างมึงไม่ต้องกลับไปอ่านหนังสือสอบรึไง” “ของกูสอบเสร็จแล้วเหลือพรีเซ็นต์งานวันศุกร์” “อ๋อ...” “มึงไม่พอใจอะไรกูป่ะเนี้ย” “ไม่นิ...” “ถ้ามีอะไรไม่พูดก็เป็นแบบนี้กูไม่ชอบแบบนี้ว่ะมีอะไรสู้มึงบอกกูตรงๆยังดีซ่ะกว่า” “งั้นหรอ...แล้วที่มึงมาเล่นละครเวทีเนี้ยเพราะอะไรละ...อยากได้เรตติ้งกลับหรอ” ผมหันไปมองหน้าชายธีที่พูดประโยคนี้ขึ้นมา อย่าบอกนะว่าตอนนี้ชายธีรู้แล้วว่าที่ผมเข้ามาอยู่ใกล้เขาตอนแรกแค่อยากเอาชนะกับดึงเรตติ้งที่ตกลงกลับมา “ช่างเหอะล้างจานเสร็จแล้วก็กลับคอนโดไป” “มึงรู้แล้วหรอ...” “เออ...วันนี้กูเห็นพวกไอจี ทวิตเตอร์อะไรของแฟนคลับที่จิ้นมึงกับกู ก็ดีแล้วมึงจะได้ไม่ต้องมาเครียดเรื่องเรตติ้งตกอีก” “คือมันไม่ใช่...กูหมายถึงมันไม่ใช่อย่างที่มึงเข้าใจทั้งหมดนะ” “เออ...ช่างเหอะเสร็จแล้วกลับไปป่ะ” “ไม่เป็นแบบนี้ดิว่ะ...มึงคุยกับกูก่อน” “ดึกแล้วมึงกลับไปก่อนกูไม่ได้ว่าอะไร” “จะไม่ว่าอะไรได้ไงว่ะก็มึงโกรธกูอยู่” “กูไม่ได้โกรธแต่กูห่วงแรมโบ้นี้ก็สองทุ่มครึ่งแล้ว...ถึงคอนโดแล้วโทรมาแล้วกัน” อะไรกันที่รีบไล่ผมกลับคอนโดไม่ใช่ว่ามันโกรธผมแต่มันห่วงเจ้าแรมโบ้หรอกหรอ เมื่อ่เห็นคนพูดมองหน้าผมนิ่งผมก็พยักหน้าก่อนจะเดินออกมาลาแม่ของชายธีแล้วขับรถกลับคอนโดไปทันที
จะว่าโกรธหรอมันก็มีนิดหน่อยแหล่ะ แต่ก็อย่างว่าใครๆก็อยากเป็นที่สนใจแต่ผมแค่น้อยใจมันที่ไม่พูดตรงๆก็แค่นั้นแหล่ะ นี้ก็ขับรถออกไปได้ซักพักแล้วไม่รู้ถึงคอนโดหรือยังความจริงก็อยากคุยต่อแต่พอคิดถึงเจ้าแรมโบ้แล้วผมก็ต้องไล่ให้มันกลับคอนโดไปก่อนไม่งั้นเจ้าแรมโบ้หิวแย่ ตรึ่ง! ตรึ่ง! เสียงไลน์ดังผมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดู ใช่แล้วตอนนี้ไอ้กันอยู่ที่คอนโดพร้อมกับถ่ายรูปคู่กับเจ้าแรมโบ้ส่งมา “พึ่งถึงหรอว่ะ” “อือ...คิดถึงกูหรอ” “ตลก...แรมโบ้กินข้าวยัง” “กำลังกินอยู่...คิดถึงแรมโบ้อะดิ” “เออ...” “ไม่เห็นคิดถึงกูบ้าง” “ก็พึ่งเจอจะคิดถึงทำไม” “...ถ้าคิดถึงก็แวะมานอนกับแรมโบ้บ้างดิ” “อือ...รอสอบเสร็จตอนพ่อกับแม่ไปเชียงใหม่จะไปอยู่ด้วยเลย” “พูดจริง?” “เออ...งั้นกูไปอาบน้ำอ่านหนังสือนอนละไว้คุยกัน” “เออ...” หลังจากวางมือถือไว้ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้พอเงยหน้าขึ้นจากหนังสือก็เกือบจะห้าทุ่มแล้วบางทีผมควรนอนนะ ปวดตาเป็นบ้าเลย ผมค่อยๆถอดแว่นออกวางบนโต๊ะก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนอนที่เตียง ตรึ่ง! ตรึ่ง! ใครส่งไรมาดึกป่านนี้ “ไอ้กันส่งไรมาว่ะ...คลิปไรเนี้ย” ผมเอานิ้วแตะเพื่อเปิดดูคลิปที่ไอ้กันส่งมา “สวัสดีครับพี่ฟลุ๊ค...แรมโบ้กับป๊ะป๊าจะนอนแล้วนะครับ...พี่ฟลุ๊คก็นอนได้แล้วนะฝันดีครับผม” มาทำเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมกับจับเจ้าแรมโบ้โบกไม้โบกมือเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ก็แรมโบ้น่ารักนี่เนอะ... “อัดคลิปส่งกลับไปดีเปล่าว่ะ ไม่ดีกว่าแค่พิมพ์แล้วกัน ....ฝันดีครับแรมโบ้กล่อมป๊ะป๊านอนหลับได้แล้วนะครับ...ฝันดีนะ J” เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จผมก็กดส่งไปทันทีก็ก่อนจะขึ้นสถานะว่าอ่านแล้วแต่ไม่มีข้อความตอบกลับมาใดๆ แล้ว...ผมจะเขินทำไมบ้าบอพอๆนอนได้แล้ว นับวันยิ่งบ้าไปใหญ่แล้วไอ้ฟลุ๊คเอ่ย....
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ