รหัสรัก ROMEO and JULIET
เขียนโดย zeeto
วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 21.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
10) ROMEO...2016
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกว่าจะเสร็จโอ้ย...เมื่อยเป็นบ้าที่เหลือก็มารอลุ้นเกรดที่จะออกมาแล้ว ผมเดินออกจากห้องหลังจากพรีเซ็นต์งานเสร็จโดยมีไอ้ซิงกับสแน็คที่เดินมาด้วยกัน “คืนนี้ไปฉลองไหมมึง” เสียงสแน็คที่หันมาถามผมกับไอ้ซิง “ก็ดีนะเราไม่ได้ไปปล่อยผีกันนานแล้วตั้งแต่มึงไปเล่นละครเวที” “เออๆ...เอาไงก็เอาว่าแต่ที่ไหนดีว่ะ” “ใกล้ๆมหาลัยนี้แหล่ะ..สี่ทุ่มที่เดิม” “เออ...งั้นกูไปก่อนนะไว้สี่ทุ่มเจอกัน” ผมแยกจากไอ้ซิงและสแน็คก่อนจะขับรถออกจากมหาลัยตรงไปรับชายธี เพราะวันนี้ชายธีจะไปนอนที่คอนโดผมกับแรมโบ้ ว่าแต่ผมจะดีใจทำไมว่ะไหนบบอกว่าไม่ชอบคนมายุ่งกับตัวเอง ไหนเมื่อก่อนเคยพูดว่าชอบอยู่คนเดียว แล้วนี้อะไรอยากให้มีคนมาอยู่ด้วยซ่ะงั้น แล้วคนคนนั้นที่อยากให้อยู่ด้วยก็คือ Julietผมมองข้อความในไลน์ที่ชายธีส่งมาว่าจะไปค้างที่คอนโดด้วยก่อนจะยิ้มแล้ววางมือถือลงอาจเป็นเพราะชายธีไม่ค่อยยุ่งกับผมมากกว่ามั่งเลยอยู่ด้วยแล้วสบายใจเพราะเหมือนไม่ต้องมาคอยตอบคำถามอะไรที่ไม่อยากตอบ มันไม่เหมือนกับคนที่เคยเจอหรือรู้จักมาที่ชอบถามหาเหตุผลนู้นนั้นนี้ให้หงุดหงิด แต่กับชายธีแล้วรู้ไม่รู้เขาก็นิ่งรอให้ผมเอ่ยเองหมดแบบนี้แหล่ะเลยทำให้สบายใจ ว่าแต่มันเก็บของเสร็จยังว่ะเนี้ยเดาใจไม่ถูกไม่ใช่ไปถึงบ้านแล้วบอกขี้เกียจอีกนะ แต่... “เฮ้ย!!!...ไอ้ฟลุ๊คนั้นมันเอากระเป๋าออกมารอหน้านเลยหรอว่ะ” ผมรีบขับรถไปจอดข้างๆคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน “ไอ้ฟลุ๊คมึงทำไรเนี้ย” “ก็รอมึงไง” พูดจบไอ้ฟลุ๊คก็เปิดประตูรถก่อนเอากระเป๋าโยนไปที่เบาะหลังแล้วเดินมาเปิดประตูขึ้นมานั่งข้างคนขับ “แล้วมึงไม่รอในบ้านว่ะ” “ก็เดี๋ยวมึงมากูก็ต้องออกมาอยู่แล้วก็เลยมารอหน้าบ้าน” “ไม่ร้อนหรอว่ะ” “ก็ดีนะเหงื่อออกด้วยไป...กลับคอนโดกันคิดถึงแรมโบ้แล้ว” “เออ...” ไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆผมบอกแล้วไงว่าไอ้ฟลุ๊คมันเดาใจยากสุดๆแต่ก็ไม่คิดว่าจะเล่นหอบข้าวของมายืนรอผมไปรับที่หน้าบ้านนี้แหล่ะ สงสัยจะคิดถึงแรมโบ้มากซินะ
รู้สึกเหมือนนานจังเลยที่ไม่ได้นั่งตรงเบาะนี้แล้วกลับคอนโดพร้อมกับไอ้กัน ทั้งที่ความเป็นจริงมันก็แค่สองสามอาทิตย์เองแท้ๆแต่ทุกครั้งที่ขึ้นมานั่งตรงนี้ทำไมรู้สึกดีบอกไม่ถูก “ยิ้มอะไรว่ะ...” เสียงคนที่ขับรถอยู่ข้างๆหันมาถามผม “เปล่า...แค่ดีใจจะได้เจอแรมโบ้” “พูดถึงแรมโบ้นี้ตาวิ๊งมากเลยนะมึงทีกับกูไม่เห็นเป็นแบบนี้บ้าง” “อยากให้กูทำหน้าแบนี้ให้บ้างหรอ” ผมหันไปหาไอ้กันก่อนจะยิ้มให้คนที่ขับที่หันมามองจะถึงกับเบรกทันที “เชี้ย!!...ขับรถอะไรมึงเนี้ยอยู่ๆก็เบรก” “ก็ใครให้มึงมาทำหน้าแบบนั้นใส่ว่ะ” “ทำหน้าอะไรกูก็แค่ยิ้มให้” “เออ...ก็นั้นแหล่ะกูตกใจ” “ตกใจ?...หรือหวั่นไหวกับกูว่ะ” “ไอ้ฟลุ๊คคคค...” “ครับ...” “พอๆจะถึงคอนโดแล้วอย่าพึ่งกวนดิ” “อะไรว่ะยิ้มให้ก็ไม่ได้พอกูวิ๊งกับแมวก็อิจฉาตกลงจะเอาไงแน่” “ก็ไม่รู้นึกว่ามึงแกล้งกู” “เออๆขับไปเลยไปกูไม่ยิ้มให้ละคนตั้งใจยิ้มให้แท้ๆ” “อย่างอนนะ...ดีกันนะๆๆๆๆ” “ขับรถไปไม่ต้องพูดละกูจะเก็บรอยยิ้มกูให้แรมโบ้พอ” “ใจร้ายว่ะ” ผมแกล้งหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างก็ขืนผมหันไปมองมันได้เผลอยิ้มให้แน่ๆตอนที่มันทำหน้าง้อไอ้กันแม่งโคตรน่ารักเลย ใจเย็นๆไว้ถ้ายิ้มให้ก่อนเดี๋ยวแพ้นะเว้ยไอ้ฟลุ๊ค....
“เออฟลุ๊คคืนนี้อยู่คนเดียวได้ป่ะพอดีนัดกับสแน็คแล้วก็ไอ้ซิงไปเที่ยวอ่ะ” ผมหันไปบอกคนที่นอนกอดแรมโอยู่บนเตียงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมที่กำลังจัดการเทอาหารที่ซื้อมาใส่จาน “มึงไปเที่ยวหรอ” “อือ...พอดีพวกนั้นนัดฉลองพรีเซ็นต์งานผ่านจะไปด้วยกันไหม” “ไม่อ่ะกูไม่ชอบที่เสียงดัง” “ก็ได้...มากินข้าวมะ” ชายธีพยักหน้าให้ผมก่อนเดินลงมากินข้าวแต่ทำไมเหมือนรู้สึกแปลกๆเมื่อกี้ยังดูอารมณ์ดีแท้ๆหรือเพราะผมบอกจะไปเที่ยวหรอ “อันนี้อร่อย...ลองกินดู” ผมตักผัดเปรี้ยวหวานไก่ใส่จานให้ชายธีที่ก้มหน้าก้มตากินไม่พูดไม่จา หรือว่ามันหิว ไม่ซิเมื่อกี้ก็ดูยิ้มอยู่แท้ๆ “มึงโกรธกูหรอ...” “ห่ะ??...อะไรนะ” “กูถามว่า...มึงโกรธกูหรอที่กูจะไปเที่ยวแล้วทิ้งมึงอยู่ห้องคนเดียว” “เปล่านิ...มึงทำงานเสร็จไปฉลองก็ถูกแล้ว” “ก็เนี้ยมึงทำท่าเหมือนโกรธกูอยู่” “แล้วกูจะโกรธมึงทำไมมึงไปเที่ยวกับเพื่อนกับแฟนของมึงกูก็อยู่เฝ้าห้องกับแรมโบ้ไง” “แฟน?...ใครแฟนกู” “ก็สแน็คไง...น่ารักออกแฟนมึงไม่ใช่หรอ” “กูว่ามึงเข้าใจผิดละกูกับสแน็คเป็นเพื่อนกัน อีกอย่างสแน็คมันเพี้ยนขนาดนั้นกูจะเอามาเป็นแฟนได้ไง” “ใครจะไปรู้น่ารักขนาดนั้น” “อย่าบอกนะว่ามึงชอบสแน็ค” “จะบ้ารึไงกูจะไปชอบเขาได้ไง” “อ้าวถ้ามึงไม่ชอบสแน็คงั้นมึงชอบกูหรอถึงได้ทำท่าหึงขนาดนั้น” “แคกๆ...” ผมวางช้อนกับจานข้าวก่อนเทน้ำใส่แก้วส่งให้คนตรงหน้าที่อยู่ๆก็สำลักข้าวซ่ะอย่างนั้น “ใจเย็นๆกินน้ำก่อน” “เพราะมึงคนเดียวเลย” เสียงบ่นงุงงิงที่พอให้ได้ยินว่าเขาโทษผมอยู่ ว่าแต่ตกลงไอ้ฟลุ๊คมันเป็นอะไร...สแน็คก็ไม่ได้ชอบ ไอ้ซิงหรอ? ก็ไม่หน้าใช่ “อ้าวไม่กินต่อหรอวะ” “ไม่กินแล้ว” อะไรของมันว่ะตกลงผมทำอะไรผิดรึเปล่า... ช่างเหอะคงไม่มีอะไรจริงๆ
เสียงเพลงที่ดังกับคนที่ต่างเต้นเบียดเสียดในผับแต่ทำไมผมกับไม่มีอารมณ์อยากเต้นหรือสนุกเลย มือที่ยกแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรอกเข้าไปเรื่อยจนไอ้ซิงกับสแน็คที่เต้นอยู่ใกล้ๆกับเวทีเดินกลับมาหาผมที่โต๊ะ “ไอ้กัน...ไม่ไปเต้นด้วยกันว่ะตรงนั้นพี่สาวชุดดำแม่งอย่างน่ารัก” “ไม่เอากูอยากกินเหล้าอย่างเดียว” “อิกันมาทั้งทีแม่งนั่งแดก...ไปเต้นกันเร็ว” “ไม่เอาไม่มีอารมณ์” “มึงเป็นไรเนี้ยกูเห็นตั้งแต่มาถึงแล้ว” “อย่าบอกนะว่าทะเลาะกับJulietมา” “กูไม่เข้าใจว่ะ...ตอนแรกก็ดีๆนะเว้ยแต่พอกูบอกว่าจะออกมาเที่ยวกับมึงสองคนก็เงียบไปเลย...แถมหาว่ากูกับสแน็คแม่งเป็นแฟนกัน” “ไอ้กันเดี๋ยวนะที่มึงพูดนี้หมายถึงJulietหรอ” ผมหันไปมองไอ้ซิงที่นั่งข้างผมถามขึ้น “ก็เออดิ...กูว่านะเขาชอบสแน็คแน่ๆว่ะ” “กูไม่รู้จะหาคำไหนมาว่ามึงเลยอิกัน...บางทีมึงก็โง๊โง่เนอะกับเรื่องแบบนี้” “สแน็คนี้มึงด่ากูอยู่นะเนี้ย” “ก็เออดิ...ว่าแต่มึงชอบJulietใช่ป่าว” ผมมองหน้าสแน็คที่นั่งฝั่งตรงข้ามที่ถามขึ้นมา มันเหมือนเป็นคำถามที่ตอบง่ายนะเพราะผมเป็นผู้ชายแล้วผมก็ไม่ได้เป็นเกย์คำตอบก็ต้องเป็นไม่อยู่แล้ว แต่ทำไมคำตอบมันถึงตอบยากจัง “ไอ้กัน...ตกลงที่สแน็คถามว่ามึงชอบJulietใช่ไหมมึงยังไม่ตอบกูสองคนเลยนะ” “กู...กูไม่รู้” “ไม่รู้เชี้ยไรว่ะอาการหนักขนาดนี้ยังต้องคิดเยอะอีกนะชอบเขาก็ไปบอกเขาดิว่ะ” “มึงก็พูดได้ดิว่ะนั้นเขาเป็นผู้ชายแล้วกูก็เป็นผู้ชายด้วย” “แล้วไงว่ะ...งั้นกูถามมึงหน่อยตอนที่มึงเล่นละครเวทีกับเขาจูบจริงไหม” “เออก็จูบจริง” “แล้วมึงรังเกียจไหม” “ก็ไม่นะ..ทำไมว่ะ” “แล้วมึงรู้สึกไงตอนจูบเขา...อีกอย่างนั้นจูบแรกมึงด้วยไม่ใช่หรอ” ผมหันไปมองหน้าไอ้ซิงที่ถามจี้ใจดำก่อนที่ผมจะหยิบแก้วขึ้นกระดกรวดเดียวหมด นั้นซิจูบแรก แล้วผมก็ไม่ได้รังเกียจด้วยแถมกับรู้สึกดี หมายความว่าผมเป็นเกย์หรอว่ะ “ค่อยๆกินอิกันกระดกแบบนั้นเดี๋ยวก็ได้คานหรอก “ไอ้ซิงกูไม่ได้เป็นเกย์นะเว้ย...กูจะชอบผู้ชายได้ไงว่ะ” “เรื่องนั้นนะกูรู้...แต่มึงรู้ไหมผู้ชายที่ชอบผู้ชายบางทีเขาก็ไม่ได้เป็นเกย์แต่เขาแค่ชอบแค่คนนี้คนเดียวก็แค่นั้นหรือมึงไปชอบผู้ชายคนไหนนอกจากJulietของมึงอีก” “จะบ้าหรือไงกูก็มีเขาที่กูจูบด้วยแล้ว...รู้สึกดีก็แค่คนเดียว” “ก็นั้นไงมึงก็ไม่ได้เป็นเกย์แต่มึงชอบJulietแค่คนเดียว...เอาเหอะจะแดกให้เมาก็เรื่องของมึงนะกูไม่ห้ามหรอกเสร็จแล้วก็ไปเคลียร์กับJulietของมึงได้แล้วRomeo”
เสียงโทรศัพท์ที่ดังในตอนดึกปลุกผมให้ตื่นขึ้นมารับสาย Romeo แล้วมันโทรมาทำไม “ฮัลโล...” “Julietใช่ไหม” “ห่ะ!!...อ๋อใช่นี้ใครอ่ะ” “เราซิงนะนายช่วยลงมารับไอ้กันขึ้นคอนโดทีได้ไหมมันเมามาก” “ได้ๆรอแปบนะ” ผมรีบลุกจากที่นอนก่อนจะหยิบคีย์การ์ดและกุญแจก่อนจะลงไปด้านล่างคอนโด พอมาถึงผมก็เห็นสแน็คกับซิงที่พยุงไอ้กันให้เข้ามานั่งหน้าล๊อบบี้ “ทำไมเมาขนาดนี้อ่ะ” “ไว้ถามมันเอาแล้วกันเดี๋ยวเราต้องไปส่งสแน็คก่อนไงฝากไอ้กันด้วยนะ” “อือ...ขอบใจนะ...เหม็นเหล้าหึ่งเลย” ผมค่อยๆยกแขนไอ้กันขึ้นกอดคอก่อนจะพาเข้าลิฟล์แล้วกดขึ้นห้องทันที “ตัวก็หนักเหม็นเหล้าก็เหม็น...ให้นอนหน้าห้องดีไหมเนี้ย” “My Juliet, I love youuuuu” ละครเวทีจบไปจะเป็นเดือนจะเพ้ออะไรของมันอีกเนี้ย “เดินดีๆดิว่ะกูหนัก” อีกมือก็ต้องประคองอีกมือก็ต้องไขกุญแจทำไมต้องมาดูแลคนขี้เมาแบบนี้ด้วยว่ะเนี้ย “เดินดีๆถึงเตียงแล้ว...แรมโบ้ออกไปก่อนลูกป๊ะป๊าหนูเมามาก” ผมค่อยๆจับแรมโบ้ให้ลงไปเดินข้างล่างก่อนจะค่อยๆวางคนเมาลงบนเตียง “ทำไมถึงได้กินอะไรเยอะแยะว่ะเนี้ย” พูดไปบ่นไปก็ต้องมาจัดการถอดรองเท้าถึงเท้าให้ขี้เมาก่อนเอาไปวางไว้ที่ชั้นแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆกับน้ำที่ใส่กะละมังเพื่อมาเช็ดตัวให้คนเมา “ถอดเสื้อออกก่อนก็ได้ว่ะผมค่อยๆจับไอ้กันให้นั่งพิงก่อนจะถอดเสื้อยืดออกจากตัวแล้วจับให้มันนอนก่อนจะบิดผ้าที่ชุบน้ำค่อยๆเช็ดตัวให้เบาๆ “I love you Julietttttt” “มึงจะอินกับละครเวทีอะไรนักหนาว่ะ...มานี้เช็ดตัวก่อน” พอผ้าที่ชุบน้ำเย็นๆชโลมไปที่ร่างกายคนที่นอนอยู่ก็ค่อยๆกระพริบตาขึ้นมามองหน้าผม “รู้สึกตัวแล้วหรอ...งั้นก็ลุกมานั่งดีๆ...อ้าวเฮ้ย!!!” “Julietจริงๆด้วย” ไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัวคนเมาก็พลิกตัวขึ้นมานอนทาบทับบนตัวผมก่อน “ไอ้กันกูหนักออกไปเลย” เอาไงดีว่ะเหมือนจะไม่ได้ผลคนเมาเอาแต่ส่ายหัวไม่ยอมปล่อยผมซักที เอาว่ะมุขนี้คงได้ผลมั่ง “Romeo มึงจะทำร้ายกูหรอ” “ไม่ทำๆไม่ทำร้ายหรอก” ได้ผลแหะ...เอาว่ะเล่นไปก่อนแล้วกัน “งั้นช่วยปล่อยตัวกูก่อนได้ไหม” “ไม่เอาเดี๋ยวJulietหนี” “ไม่หนีสัญญา” “Julietรักเค้าไหม” นี้ไอ้กันมันคิดว่าเป็นRomeo and Juliet เวอร์ชั่นไหนว่ะเนี้ยทำไมRomeoดูงอแงจังว่ะ เออสงสัยจะเป็นเวอร์ชั่น2016 “Julietรักเค้าไหม” “รักดิไม่รักRomeoจะให้ไปรักใคร...แต่ปล่อยก่อนได้ไหมเดี๋ยวเช็ดตัวให้จะได้นอนสบายๆไง” “ก็ได้...เค้ารักJulietนะ” มือแกร่งค่อยๆปล่อยผมออกจากการกดตรึงแล้วยอมให้ผมเช็ดตัวให้แต่โดยดีพอเสร็จผมก็เอาผ้าไปตากก่อนจะกลับมาห่มผ้าให้คนที่นอนถอดเสื้อก่อนจะเดินไปอุ้มเจ้าแรมโบ้ให้มานอนข้างๆคนเมาด้วยกัน แสงสว่างจากด้านนอกที่ส่องผ่านม่านสีขาวพอให้เห็นโคร่งหน้าคนที่หลับสนิทผมนอนมองใบหน้านั้นก่อนจะลอบถอนหายใจ นี้ไอ้กันมันยังคิดว่าตัวเองเป็นRomeoอยู่อีกหรอ ผมเอื้อมมือค่อยๆลูบผมที่หน้าผากเบาๆก่อนที่คนที่นอนหลับจะพลิกตัวมาดึงผมเข้าไปกอดซุกกับอกของมันไม่ต่างจากที่มันทำกับเจ้าแรมโบ้เลย ว่าแต่แล้วทำไมผมไม่ดิ้นหนีออกละทั้งกลิ่นเหล้าที่ยังมีอยู่ไหนจะแขนที่รัดกอดผมไว้แน่นนั้นอีก ทำไมมันรู้สึกดีจัง “ฟลุ๊ค...กูว่ากูชอบมึงนะ” เสียงที่พูดเบาๆกับริมฝีปากที่จูบลงบนหน้าผากของผมตอนนี้ ไอ้กันบอกชอบผมงั้นหรอใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอกข้างซ้ายตอนนี้แม้อยากจะดันตัวออกห่างเพราะกลัวว่าคนที่หลับจะรู้ว่าผมกำลังตื่นเต้น แต่แขนที่กอดอยู่มันอบอุ่นเกินกว่าจะปฏิเสธว่าผมไม่ได้ชอบมัน อย่าบอกนะว่า “กูก็ชอบมึงนะ My Romeo” ในเมื่อใจตรงกันแล้ว...แต่ผมจะทำไรได้ในเมื่อไอ้กันมันพูดตอนเมาผมจะยังไม่นับ แต่จะรอจนกว่าวันที่มันกล้ามาบอกผมว่ามันคิดยังไง “ฝันดีนะRomeo”
เมื่อเสียงลมหายใจที่เข้าออกของคนที่นอนในอ้อมกอดของผมสม่ำเสมอแสดงให้เห็นว่าตอนนี้ชายธีหลับไปแล้วผมค่อยๆลืมตาผ่านความมืดพร้อมกับยิ้มมุมปาก ไม่คิดเลยว่าแผนที่ไอ้ซิงให้ผมทำจะสำเร็จ ว่าแต่ที่ชายธีบอกว่าชอบผมนั้นเป็นเรื่องจริงใช่ไหม ผมค่อยๆกระชับคนในอ้อมกอดไว้แน่นก่อนจูบที่หน้าผากเบาๆ อย่างน้อยๆก็ได้บอกความรู้สึกไปแล้วแถมยังตรงกันด้วยเหลือก็แต่รอวันที่ผมกล้ามากกว่านี้ที่จะบอกว่าชอบชายธีอีกครั้ง
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ