รหัสรัก ROMEO and JULIET
เขียนโดย zeeto
วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 21.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8) JULIET ของกู
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความและแล้ววันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงนักศึกษาคณะศิลปกรรมต่างพากันช่วยจัดเตรียมงานแต่เช้าเพราะวันนี้จะมีละครเวทีเรื่อง ROMEO and JULIET ที่ทุกคนในคณะลงทุนลงแรงไปกับมันมากมายเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ไม่ต่างจากผมที่เป็นคนกำกับเอง “งานเข้าว่ะไอ้ฟลุ๊ค” เสียงไอ้ปริ้นท์ที่วิ่งออกมาจากห้องแต่งตัวทำหน้าตาแตกตื่นเหมือนจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่าง แต่ขออย่าให้มีอะไรเลยแค่วันนี้เท่านั้นขอร้องละ “ มีอะไรว่ะทำหน้าตาตื่นมาเชียวมึง” “แอปเปิ้ลอาหารเป็นพิษเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนว่ะ” “เชี้ย!!!...มึงพูดจริงไหมเนี้ย” “เออดิ...เอาไงดีว่ะขาดนางเอกไม่ได้นะโว้ย” ผมกับไอ้ปริ้นรีบเดินเข้าไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อหาคนที่จะมาแสดงบทJulietแทนแอปเปิ้ลแต่มันก็เป็นไปได้ยากซ่ะเหลือเกิน เพราะทุกคนต่างก็มีบทกันหมดแล้ว “ทุกคนมีใครพอจะรับบทJulietแทนแอปเปิ้ลได้ไหม” “ไม่มีหรอก..พวกเราเป็นแค่ตัวประกอบแถมไม่เคยอ่านบทด้วย” “ซักคนก็ไม่มีเลยหรอ” เพื่อนๆนักแสดงคนอื่นต่างพากันส่ายหัวพร้อมกัน ผมหันไปมองไอ้กันที่นั่งแต่งตัวอยู่อีกด้าน เมื่อมันเห็นหน้าผมอยู่ๆมันก็ยกมือขึ้นมา “มีอะไรว่ะไอ้กัน” “กูเสนออะไรได้ป่ะว่ะ” “เออว่ามาดิ” “คือมันอาจฟังดูตลกนะ...แต่คนที่จำบทได้ก็มีแค่ไอ้ฟลุ๊คคนเดียวงั้นให้ฟลุ๊คเล่นเป็นJuliet ก็ได้นี้” “ไอ้กัน.!!” “จริงของไอ้กันว่ะ...ไอ้ฟลุ๊คมึงเหมาะที่สุดละ” “ไอ้ปริ้นท์กูเป็นผู้ชาย” “แต่เอกการแสดงรุ่นเรามึงเก่งสุดแล้วนะมึงทำได้เพื่อน” “ใช่ๆพวกเราก็เห็นด้วยนะฟลุ๊ค” นี้ผมต้องมารับบทเป็นผู้หญิงจริงๆหรอเนี้ยแต่อะไรมันแก้ไม่ทันจะหาคนมาแทนก็ไม่ได้ เอาว่ะ The show must go on “เออๆ...ว่าแต่ชุดกูจะใส่ได้ไหม” “ไม่ต้องห่วงพวกเราจัดการให้”
“เสร็จแล้ว...เป็นไงทุกคนJulietผ่านไหม” เสียงของเพื่อนสาวประเพศสองที่เป็นทีมแต่งหน้าแต่งตัวให้นักแสดงพาชายธีที่ถูกแปลงโฉมให้เป็นJulietเดินออกมาไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ท่าทางเก้อเขินนั้นมันดูน่ารักไปหมดทุกอย่าง แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า เวลาที่ชายธีแต่งเป็นผู้หญิงก็น่ารักดีเหมือนกัน “ไงจ่ะRomeoถึงกับตะลึงในความงามของJulietเลยหรอจ่ะ” “อ๋อเปล่า...” “กูดูเป็นไงบ้างว่ะไอ้กัน” “ก็...น่ารักดี” “เอาจริงๆ...ตอนนี้กูแม่งโคตรไม่มั่นใจเลยว่ะ” “น่ารักจริงๆ...เหมาะกับเป็นJulietของกูเลย” ผมก้มไปกระซิบข้างหูชายธีเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ถูกแปลงโฉมที่ยืนมองหน้าผมนิ่งๆ ไม่บอกก็รู้ว่าวันนี้ชายธีมันเขินผมแน่ๆ “เอาละทุกคนพร้อมนะฉากต่อไปในงานเต้นรำ” นี้จะเป็นฉากแรกซินะที่ผมจะได้เจอกับJuliet ตอนซ้อมผมก็ว่าเฉยๆน่ะแต่พอมาวันจริงทำไมกับรู้สึกสนุกขึ้นมาอย่างนั้น เพราะนางเอกจำเป็นของผมหรอ ทันทีที่ถึงฉากที่ผมต้องเดินออกไปหน้าเวทีพร้อมกับตกหลุมรักJulietตั้งแต่แรกพบ เสียงของคนพากษ์ก็บรรยายไปเรื่อยๆพร้อมกับนักแสดงที่เล่นตามบทไป
ROMEO : Oh! Hello you?
JULIET : Hello, My name is JULIET, nice to meet you.
ROMEO : My name is ROMEO MONTAGUE
JULIET : MONTAGUE?
ทุกฉากทุกตอนค่อยๆเดินเรื่องไปต่อหน้าผู้ชมในห้องนับหลายร้อยคนที่ต่างพากันจับจ้องมาที่ผมกับชายธี และที่สำคัญทุกอย่างมันพลาดไม่ได้เลย นี้แค่ฉากเริ่มต้นแท้ๆทำไมตื่นเต้นจังว่ะ หลังจากลงไปหลังเวทีเพื่อรอให้เปลี่ยนฉากผมก็นั่งทำสมาธิอยู่เงียบๆตรงมุมห้องคนเดียว “ตื่นเต้นหรอ” ผมหันไปมองคนที่รับบทเป็นนางเอกที่ดินถือแก้วน้ำมายื่นให้ “อือ...” “ไม่ต้องเครียดหรอกเมื่อกี้มึงก็ทำได้ดีแล้ว” “กูเครียดฉากต่อไปมากกว่า...มึงก็รู้มันมีฉากจูบ” “ก็แค่เล่นไปตามบท กูบอกมึงแล้วไงทันทีที่มึงอยู่บนเวทีมึงไม่ใช่กันสมาย แต่มันคือ Romeo” “และมึงคือJuliet” “ใช่...เพราะฉะนั้นใส่อารมณ์ความรู้สึกของตัวละครเข้าไป...ไปกันเถอะเตรียมฉากต่อไปแล้ว” “อือ...ขอบใจว่ะ”
“สแน็ค...เมื่อกี้บนเวทีไม่ใช่แอปเปิ้ลนี้หว่าว่าแต่ใครเป็นJuliet” ผมหันไปถามสแน็คที่นั่งอยู่ข้างๆเพราะตอนแรกนอกจากไอ้กันแล้วผมก็ตั้งใจจะมาดูแอปเปิ้ลดาวคณะศิลปกรรมแต่ทำไมอยู่ๆนางเอกไม่ใช่แอปเปิ้ลละ “กูก็ไม่รู้ว่ะ...แต่คุ้นๆเหมือนกันเหมือนเคยเห็นที่ไหน” “แกๆ...ไหนพี่ชายธีบอกไม่ได้แสดงไงว่ะเซอร์ไพร์อ่ะแถมมาในบทJulietคู่กับพี่กันสมายด้วยอ่ะแก” เสียงของผู้หญิงสองคนที่นั่งคุยกันอยู่เก้าอี้ด้านหน้าทำให้ผมกับสแน็คหันหน้ามองกันทันที อย่าบอกนะว่าJulietคือ “ชายธี?” ผมสองคนพูดพร้อมกันเบาๆก่อนจะหันไปดูที่เวทีต่อเมื่อการแสดงเริ่มขึ้น
“I love you ROMEO” เมื่อสิ้นสุดคำพูดมืออีกข้างของผมค่อยๆดึงโน้มคนที่อยู่บนหอคอยให้ก้มลงมาก่อนที่ผมจะเงยหน้าขึ้นจูบที่ริมฝีปากเบาๆ เนินนานแค่ไหนไม่รู้ในตอนนี้รู้เพียงแค่ทันที่ที่บทถูกตัดลงเมื่อเสียงเคาะประตูเรียกJulietดังขึ้น ผมรีบผละริมฝีปากออกก่อนจะเอาขึ้นลูบหน้าของคนที่ร้องไห้เบาๆ แล้วรีบสั่งลาก่อนจากไป ก็รู้นะว่ามันเป็นการแสดงแต่ทำไมยังรู้สึกถึงจูบอยู่เลย ผมนั่งสงบสติตัวเองในห้องแต่งตัวเพื่อรอเข้าฉากต่อไป และฉากที่มันยิ่งใหญ่และกดอารมณ์มาที่สุดก็คือฉากตอนจบ “เล่นได้ดีมากไอ้กัน” เสียงไอ้ปริ้นท์ที่เดินเอาบทในมือมาเคาะที่ไหล่ผมเบาๆ ผมหันไปยิ้มให้กับไอ้ปริ้นท์ก่อนจะหันไปมองอีกคนที่เดินลากกระโปร่งเข้ามา “ไอ้ฟลุ๊คเพื่อนรัก...ฉากเมื่อกี้แม่งโคตรซึ้งน้ำตามึงที่ไหล กับตอนที่ไอ้กันเช็ดให้นี้แบบสุดๆว่ะ” “หรอว่ะ...” “เออ...งั้นเดี๋ยวกูไปดูข้างนอกก่อนนะ” หลังจากไอ้ปริ้นท์เดินออกไปผมก็หันไปมองหน้าอีกคนที่ลากกระโปร่งค่อยๆนั่งลงข้างๆ “ขอโทษนะเว้ยที่จูบจริง” “ก็มันเป็นตามบท...มึงจะเครียดไรว่ะ ว่าแต่ฉากจบมึงไหวนะ” “ก็คิดว่าไหวนะ...เอาจริงๆตอนนี้กูรู้สึกโล่งอกมากกว่า...ที่มึงมาเป็นJulietเพราะถ้าเป็นคนอื่นเล่นกูยังไม่แน่ใจเลยว่ะว่ากูจะทำได้ไหม” “ไม่เกี่ยวหรอกมึงทำได้อยู่แล้วถึงไม่มีกู” “กูพูดจริงๆ...ถ้าวันนี้คนที่เล่นเป็นJulietคือแอปเปิ้ลหรือคนอื่นกูก็ทำไม่ได้เท่านี้ว่ะ” “ทำไมว่ะ...” “ก็สำหรับกูคนที่เป็นJulietได้คือมึงแค่คนเดียว” “พูดเหมือนจีบกูเลยนะ...ฮาๆๆๆ” “เชี้ย!!...ให้กูซึ้งบ้างไม่ได้เลยนะมึง...แต่ก็ขอบใจนะMy Juliet” “เออ...My Romeo...ไปเหอะฉากสุดท้ายแล้ว” “มึงต้องจูบกูจริงไหมว่ะฟลุ๊ค” “แล้วอยากให้กูจูบจริงไหมล่ะ” “แล้วแต่มึงเลย...อินเนอร์มาแค่ไหนก็ได้ถ้าเป็นมึง” “ปากดี...ไปเร็ว” ไอ้ฟลุ๊คยื่นมือส่งมาให้ผมก่อนจะลุกขึ้นยืนผมยื่นมือไปจับก่อนจะจูงมือไอ้ฟลุ๊คเดินไปรอข้างเวที มือที่เย็นเฉียบสองมือที่กุมกันไว้ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กันเพื่อความมั่นใจ ตอนนี้ผมเป็นRomeo และเขาคือ Juliet และเราคือคนรักกันจำไว้
“Oh no! ROMEO, I can’t live without you! , ROMEO wake up please! ROMEO! I love you” มือที่คอยประคองใบหน้าของชายคนักขึ้นมากอดแล้วให้หนุนบนตักก่อนจะค่อยๆก้มลงไปจุมพิตบนริมฝีปาก แต่...ไอ้กันไอ้เจ้าเล่ห์อยู่ๆไอ้กันก็จูบผมตอบในใจแทบอยากจะทุบมันให้เดี้ยงซ่ะตรงนี้แต่ไม่ได้อีกแค่นิดเดียวจะจบแล้ว เมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระผมรีบดึงสติก่อนจะหันไปคว้ามีดที่อยู่ข้างๆขึ้นมาแล้วแทงตัวเองที่หน้าอกซ้ายก่อนจะค่อยๆสิ้นใจไป
ผมเดินลากกระโปร่งเดินหงุดหงิดอีกคนที่วิ่งกวนประสาทตามหลังมา “เฮ้ย...Julietจะรีบไปไหนรอก่อน” “มึงหุบปากไปเลยไอ้กันเล่นเชี้ยไรของมึง” “ก็กูอิน...แล้วมึงก็บอกเองไม่ใช่หรอถ้าอินก็ให้ปล่อยตัวเองไปกับบท” “บทอะไรของมึง...ฉากเมื่อกี้มึงตายแล้วมึงดันมาจูบกูเนี้ย” “กูขอโทษ...ก็กูเห็นมึงน่ารักก็เลยอยากจูบ” “ไปไกลๆกูเลย...กูจะไปเปลี่ยนชุด” “เปลี่ยนอะไรต้องออกไปถ่ายรูปกับคนดูที่หน้างานก่อนมานี้” “ปล่อยกูเดี๋ยวกูเดินเอง” “จะดื้อทำไมว่ะเห็นมึงลากกระโปรงไปมากูลุ้นมึงจะล้มไม่ล้มตั้งหลายครั้ง” “เออเรื่องของกูปล่อยเลย...เฮ้ย!!!” อะไรมันจะซวยซ้ำซวยซ่อนขนาดนี้ว่ะเพราะไอ้ชายกระโปรงฟูฟ่องนี้จริงๆทำให้ผมสะดุดล้มแต่... “บอกแล้วว่ากูช่วยเป็นไงล่ะ” มือของไอ้กันที่รวบเอวผมไว้ก่อนจะหน้าทิ่มดึงผมเข้ามากอดไว้ทันไม่งั้น....ว่าแต่มือโอบเอว...ผมก้มลงไปมองก่อนจะหันไปมองหน้าคนที่ยืนโอบข้างๆ “ปล่อยได้แล้ว” “เขินหรอ” “เปล่า...ก็จะไปถ่ายรูปไม่ใช่หรอไง” “ไม่เขินจริงหรอ...” “เออ...” “ไม่เขินก็ไม่เขินงั้นมานี้” มือของไอ้กันที่จับมือผมก่อนพากันเดินออกไปหน้างานเพื่อถ่ายรูปกับคนที่มาดูละครเวทีทุกคนต่างพากันมาขอถ่ายรูปและพูดคุยชื่นชมอยู่พักใหญ่ก่อนผมจะขออนุญาตกลับเข้าข้างใน “พี่ชายธีคะพี่กันหนูขอรูปคู่สวีทๆให้หน่อยได้ไหมคะ” “สวีทๆ?..” “ค่ะแบบพระนางไรงี้...” “ได้ครับ...ฟลุ๊คมานี้” มันถามผมซักคำไหมว่าอยากสวีทด้วยหรือเปล่า...ก่อนจะถูกอีกคนใช้มือประคองใบหน้าขึ้นมาเอาหน้าผากชนกัน เรียกเสียงกรี๊ดคนที่ยืนรัวชัตเตอร์ “ขอตัวก่อนนะครับจะพาJulietไปเปลี่ยนชุด” เหมือนผมไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกอีกคนลากเข้าข้างในเหมือนเคย นี้ตกลงไอ้กันมันเห็นผมเป็นอะไรเนี้ยลากไปมาไม่บอกไม่กล่าวซักคำ เพราะว่าวันนี้ผมเหนื่อยมามากแล้วเถอะถึงยอมตามมันไปนู้นนี้ไม่อยากเถียงให้เหนื่อยแล้วเฮ้อ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ