รหัสรัก ROMEO and JULIET

6.4

เขียนโดย zeeto

วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.

  20 ตอน
  2 วิจารณ์
  30.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 21.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) พิษไข้ของ Juliet

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          "ไอ้กันครับ...ตกลงมึงไปสนิทกับชายธีได้ไง" ไอ้ซิงกับสแน็คที่นั่งขนาบข้างเพื่อไม่ให้ผมหนีไปได้หลังจากเรียนเสร็จ  ก็แน่ละครับคราวนี้ผมคงต้องบอกความจริงพวกมึงแล้วละ " เออคือ.." "ไม่ต้องมาติดอ่างคะอิกัน..ตอบกูกับไอ้ซิงมาเดี๋ยวนี้มึงไปสนิทกับชายธีได้ไง" "เออๆๆ...เล่าก็ได้..คืองี้นะ กูไปสมัครเล่นละครเวทีกับเขามา แล้วชายธีเป็นคนสอนแอคติ้งกูก็เลยไปไหนมาไหนด้วยกันก็แค่นั้น" "แค่นี้?...แล้วมึงจะปิดบังกูกัสแน็คทำไมวะ..มึงต้องมีอะไรมากกว่านี้ไอ้กัน" "รู้มากจริงๆ..เออๆกูแค่อยากรู้ว่าชายธีมันทำยังไงคนถึงไปติดตามไปไลน์มันเยอะก็แค่นั้น" "ไปสืบเขาว่างั้น...แล้วตกลงได้อะไรมาบ้างละ" "ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย...แค่ผู้ชายติสๆเข้าใจยากคนหนึ่ง" "โถ่ว..อิกันคะมึงไม่รู้หรอผู้ชายแบบชายธีเนี้ยเขาเรียกว่าหน้าค้นหาโว้ย...สาวๆที่ไหนก็ปลื้ม หล่อ มีความติส ยิ้มน่ารัก มีเสน่ห์ โอ้ยรวมๆคือดีอะมึง" "พอเลยๆสแน็คนี้มึงชมคนอื่นต่อหน้าเพื่อนได้ไงว่ะ" "ก็เรื่องจริง" "เออๆพอๆกูไปซ้อมละครแล้ว"ยิ่งฟังสแน็คกับไอ้ซิงแล้วยิ่งหงุดหงิดไปหาอะไรทำให้หายเครียดดีกว่า  ว่าแต่อะไรนะหรอที่แก้เครียดสำหรับผมก็...สาวสวยดีกรีดาวคณะศิลปกรรมนะซิ "แอปเปิ้ล" จากท่าทางของชายธีที่ดูจะหวงไม่ให้ผมเล่นฉากจูบจริงกับแอปเปิ้ลแล้ว  แน่นอนว่าเพราะชายธีชอบแอปเปิ้ลชัวร์ แล้วถ้าผมจะแย้งแอปเปิ้ลมาเป็นแฟนผมละ...แค่คิดก็สนุกแล้ว
 
          "ไอ้ปริ้นๆ...เอาอันนั้นวางตรงนั้นเลยเดี๋ยวมึงมาช่วยกูยกพวกไม้กางเขนมาตั้งทางนี้" ผมเรียกไอ้ปริ้นท์ให้มาจัดฉากสุสานช่วยก่อนจะเดินไปหยิบนู้นนั้นนี้ช่วยเพื่อนคนอื่นๆ "อ่ะ...ซื้อมาฝาก" แก้วกาแฟที่ยื่นมาตรงหน้าไม่บอกก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งให้  ผมแอบยิ้มระหว่างที่ก้มหน้าก่อนจะดึงหน้ากลับมาให้เป็นสีหน้านิ่งเฉยแล้วรับแก้วกาแฟมา "ขอบใจ..มานานแล้วหรอว่ะ" "พึ่งมา...ว่าแต่มีอะไรให้ช่วยป่ะ" "อืม...ยังวะมึงไปอ่านบบทรอก่อนก็ได้เดี๋ยวแอปเปิ้ลกับคนอื่นๆมาค่อยซ้อม" "ก็ได้...แล้วนี้ทำฉากสุสานหรอว่ะไม้กางเขนเยอะเลย" "เออ" "เออฟลุ๊คแล้วแอปเปิ้ลไปไหนอะ" "สอบอยู่" "หรอว่ะ...ว่าแต่มึงรู้ป่ะว่าเขาชอบกินอะไรกูจะได้ไซื้อให้" "ไม่รู้...กูก็เห็นเขากินทุกอย่าง" "เออแล้ว..." "เลิกถามแล้วมายกอันนี้ไปช่วยหน่อยดิ" ผมตัดความรำคราญและหงุดหงิดก่อนจะเรียกไอ้กันมายกพวกผ้ากับฉากช่วยแทน ทำไมผมต้องหงุดหงิดด้วยว่ะก็แค่ไอ้กันมันถามหา...ช่างเหอะหงุดหงิดทีไรเหมือนแพ้ทุกที ผมค่อยๆพ่นลมหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเดินกลับมาหาไอ้ปริ้นท์ที่เซตกล้องอยู่ "ไอ้ปริ้นท์...วันนี้มึงดูซ้อมได้ป่ะว่ะ" "อ้าว..แล้วมึงจะไปไหน" "กูปวดหัวนิดหน่อยว่าจะไปหาที่พักวะ" "เฮ้ย...งั้นมึงกลับบ้านก่อนก็ได้นี้หว่า" "กูต้องรอไปซ้อมบทให้ไอ้กันที่คอนโด งั้นถ้าเสร็จแล้วมึงโทรบอกกูแล้วกัน" "เออๆ...หายากินด้วยมึง" พูดจบผมก็คว้ากระเป๋าออกจากห้องซ้อมไปหาที่นั่งพักสมองและมันก็ไม่ใช่ที่ไหน  ห้องสมุดมหาลัยตามเคย นอกจากร้านกาแฟก็มีห้องสมุดนี่แหล่ะที่เหมาะสำหรับผมที่สุดแล้ว ถ้าคุมอารมณ์ไม่ได้แบบนี้อย่าไปที่ไหนเลยดีกว่าควรอยู่กับตัวเองจริงไหมไอ้ฟลุ๊ค
 
          ซ้อมละครเวทีมาได้พักใหญ่จนมาถึงฉากเลิฟซีนของ Romeo กับ Juliet แล้วแท้ๆแต่คนที่ผมอยากจะแกล้งให้เดือดกับไม่อยู่ซ่ะอย่างนัน  ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ชายธีหายไปไหนเห็นแต่แก้วกาแฟที่ผมซื้อมาให้ทิ้งไว้จนละลาย ไม่อยู่ไม่ว่าแต่นี้ดันทิ้งของที่อุตส่าซื้อมาให้ ไม่ได้เรื่องเลยนะ "ไอ้กัน...ตั้งใจหน่อยดิว่ะมีสมาธิหน่อย" เสียงไอ้ปริ้นท์ที่ยืนมองอยู่ตะโกนใส่ผมที่มัวแต่มองหาอีกคนจนลืมมองคนตรงหน้า "เออ..โทษทีว่ะ" "เป็นไรว่ะเนี้ยเกร็งหรอ" แอปเปิ้ลที่ยืนมองผมถามขึ้น เอาจริงๆมันก็นิดหน่อยแหล่ะครับที่เกร็ง  ก็มันเป็นฉากที่ต้องจูบถึงแม้ว่าชายธีบอกว่าไม่ต้องจูบจริง  แต่ผมก็ไม่ชินกับการที่ต้องเล่นกับแอปเปิ้ลอยู่ดี อาจเพราะผมซ้อมกับชายธีจนชินกับคนคนนั้นไปแล้วก็ได้มั่ง "เปล่าหรอกแค่กลัวเล่นไม่ได้" "อย่าเครียดเว้ย..ตอนเล่นก็คิดว่าตัวเองเป็นRomeoแล้วเราก้คือ Julietแค่นั้นเอง" "แอปเปิ้ลนี้พูดเหมือนฟลุ๊คเลยเนอะ" "ก็พวกเราเรียนการแสดงหลักการแค่นี้ก็ต้องรู้เหมือนๆกันดิ" "อ๋อ...แล้วแอปเปิ้ลกับฟลุ๊คเป็นแฟนกันหรอ" "ฮาๆๆๆ...คิดได้ไงเนี้ย..ไอฟลุ๊คกับเราเนี้ยนะไม่มีทางเลยว่ะคนละทางกันเลย" "อ้าวหรอ...ก็เมื่อวานฟลุ๊คบอกให้เราหามุมเอาไม่ให้เราจูบแอปเปิ้ลจริงๆเราก็คิดว่าฟลุ๊คมันหึงซ่ะอีก" "ฟลุ๊คมันคงกลัวกันเขนมั่งปกติถ้าเป็นเด็กเอกการแสดงคนอื่นๆก็คงจูบกันได้ปกติแต่กันไม่ใช่ไงฟลุ๊คมันเลยห่วง" "อ๋อ...งั้นหรอ" "ใช่...ว่าแต่ตอนที่ฟลุ๊คซ้อมให้จูบจริงหรอ" "อือ...พอดีตอนซ้อมเราอินไปหน่อยเลยจูฟลุ๊คไปอะ" "ห่ะ!!!...พูดจริงป่ะเนี้ย" "อืม...ทำไมแอปเปิ้ลต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นอะ" "ก็ปกตินะไอ้ฟลุ๊คมันไม่เคยสอนใครถึงขั้นจูจริงเลยนะ" "หมายความว่าไงอ่ะ?" "ก็ฟลุ๊คแม่งโคตรให้เกียรติคนอื่นไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายมันไม่เคยจูจริงนะ ถึงเป็นฉากจูบมันก็จะมีเทคนิคแบบนิ้วกดปากไว้" "แต่อันนี้เราจูบมันนะ" "แล้วฟลุ๊คว่าไงอะ" "มันก็เฉยๆนะ...แถมยังกวนประสาทเราอีกด้วยซ้ำ" "หรอ..." ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแอปเปิ้ลต้องทำหน้าตกใจอะไรขนาดนั้นก็แค่ผมกัชายธีซ้อมทจนอินแล้วก็เผลอจูบกันจริงๆไปก็แค่นั้นเอง... ปกติพวกนักแสดงตบจูบกันเยอะแยะไม่เห็นจะต้องตกใจขนาดนั้นเลยนี่หว่า หรือไง ช่างเหอะหลังจากพักจนผมตั้งสติได้ผมกับแอปเปิ้ลก็ซ้อมกันต่อ
 
          TRRRRRR~~ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นปลุกให้ผมที่ฟุบหน้าหลับกับหนังสือในมุมท้ายสุดของห้องสมุดให้ตื่นขึ้นมา ว่าแต่นี้มันกี่โมงแล้วเนี้ย "ว่าไงไอ้ปริ้นท์เสร็จแล้วหรอ...เออๆเดี๋ยวกูไปบอกไอ้กันรอหน้าคณะนั้นแหล่ะ" ผมค่อยๆลุกเดินเอาหนังสือไปเก็บที่ชั้นเหมือนเดิมก่อนจะเดินออกจากห้องสมุดทันที เมื่อมาถึงหน้าตึกคณะก็เห็นไอ้กันยืนคุยกับแอปเปิ้ลและคนอื่นๆอยู่ พอเห็นแบบนี้แล้วความจริงผมว่าไอ้กันมันก็ทำได้แล้วละแค่ซ้อมอีกหน่อยก็ดีแล้ว บางทีผมให้มันซ้อมแค่ตอนหลังเลิกเรียนกับคนอื่นๆก็ได้ไม่ใช่หรอ เอาว่ะวันนี้อีกวันแล้วกันถือว่าไปเก็บของด้วยพรุ่งนี้กลับบ้านดีกว่า "ไปไหนมาฟลุ๊คกันรอตั้งนาน" แอปเปิ้ลทักผมขึ้น "พอดีปวดหัวนะเลยไปหาที่งีบ" "แล้วกินยายังอะ" "ไม่อ่ะ...ว่าแต่แอปเปิ้ลกลับเลยไหมหรือว่าไง" "ยังว่าจะไปเที่ยวกับพวกนี้ต่อ" "อ๋อ...แม้วมึงจะไปกับแอปเปิ้ลไหม" ผมหันไปถามอีกคนที่ยืนข้างๆแอปเปิ้ล "ไม่อ่ะ...ว่าแต่มึงไม่กินยาจะหายปวดหัวหรอว่ะ" "เออ...ไม่เป็นไรว่าแต่จะกลับยังอ่ะ" "กลับเลยก็ได้...งั้นเรากลับก่อนนะแอปเปิ้ล" พูดจผมก็เดินขึ้นรถไอ้กันทันทีโดยที่อีกคนเดินตามมาประจำตำแหน่งคนขับเช่นเดิม "คาดเข็มขัดด้วยดิให้เตือนทุกวันเลย" "เออมึงขับไปก่อนเหอะเดี๋ยวกูคาดของกูเอง" "มึงนี้มัน..." ไม่ทันที่ผมจะหันไปว่ากลับกลายเป็นไอ้กันที่เอื้อมตัวเองข้ามมาดึงสายเข็มขัดคาดให้กับผม โดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัวได้แต่มองตามจนอีกคนเงยหน้ามามองหน้าผมแล้วใช้หลังมือทาบลงที่หน้าผากเบาๆ "ตัวร้อนหน่อยๆนะสงสัยจะไม่สบายจริงๆหน้าเน้อแดงด้วยไปกลับกันเถอะถ้าไม่ไหววันนี้ก็นอนพักนะ" ผมได้แต่มองตามอีกคนโดยไม่สามารถพูดตอบโต้ใดๆก็ตอนนี้หัวใจของผมอยู่ๆก็เต้นแรงขึ้นมาซ่ะอย่างนั้น คงทำได้แต่พยักหน้ารับไปหรือว่าผมไม่สบายอย่างที่ไอ้กันมันพูด ต้องใช่แน่ๆไม่งั้นผมคงไม่ใจเต้นแรงแบบนี้
 
          เมื่อมาถึงคอนโดอีกคนก็เดินเอากระเป๋าไปวางไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินไปเปิดเอาแรมโบ้ออกมาเล่นพร้อมกอดและหอมแก้มเจ้าแรมโบ้บนเตียงอย่างมีความสุข ทีกับแมวละอ่อนโยนเหลือเกินพ่อคุณเอ่ยทีกับผมนี่พูดด้วยทีแทบจะแดกหัว อ้าว...แล้วผมจะมาอิจฉาอะไรกับแมวว่ะเนี้ยบ้าไปแล้วไอ้กัน... "ฟลุ๊คกินยาไหมจะได้หายปวดหัว" "ไม่เอา..." "เฮ้ย...ไม่กินยาแล้วจะหายปวดหัวไหมเนี้ย" "เรื่องของกู..มึงจะทำไรทำหรือจะให้กูสอนตรงไหนก็บอกมา" "มึงนี้มันจริงๆเลย...ปกติก็ว่าดื้อแล้วพอไม่สบายดื้อหนักกว่ากลัวอีก" "เออออ...ว่าแต่วันนี้ซ้อมละครเป็นไง" "ก็ดีนะโดนไอ้ปริ้นท์ดุไปหลายรอบเลย" "ก็ไม่ตั้งใจอ่ะดิไอ้ปริ้นท์มันถึงได้ดุเอา" "ก็เปล่า...ความจริงก็เพราะมึงนั้นแหล่ะ" "เกี่ยวไรกับกู" "ก็กูไม่เห็นมึงอ่ะ" "ไม่เห็นกู...???" "เออๆ..ช่างเหอะว่าแต่เป็นไงมั่งเนี้ย" ผมเดินเอามือไปแตะที่หน้าผากคนที่นอนกอดแรมโบ้บนเตียง ว่าแต่ไอ้สายตาที่นอนมองหน้าผมแบบนั้นมันทำไม... (ก็ฟลุ๊คแม่งโคตรให้เกียรติคนอื่นไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายมันไม่เคยจูบจริงนะ) แล้วทำไมอยู่ๆคำพูดของแอปเปิ้ลถึงดังเข้ามาในหัวของผมตอนนี้ละ ผมรีบดึงมือออกก่อนจะลุกออกจากเตียงนั้นทันที ผมสลัดหัวเบาๆเพื่อไล่ความคิดอะไรที่เข้ามาในหัวออกให้หมด "เดี๋ยวกูลงไปซื้อข้าวนะมึงเอาอะไรไหม" "อะไรก็ได้" ผมพยักหน้ารับก่อนจะคว้ากุญแจและคีย์การ์ดออกจากห้องไป  ความจริงผมแค่ไม่อยากอยู่กับอีกคนในตอนนี้เพราะมันรู้สึกเหมือนผมกำลังจะเป็นบ้าก็แค่นั้น ไหนตอนแรกแค่อยากมาสืบว่าชายธีเป็นคนยังไง อยากหาวิธีเอายอดวิวยอดไลน์คืนกลับมาไม่ใช่หรอว่ะ  ทำไมตอนนี้กลายเป็นผมที่เป็นบ้าไปแล้ว เออพูดถึงยอดวิวยอดไลน์ผมไม่ได้อัพไอจีมาหลายวันแล้วนี่หว่า ไม่ได้ล่ะๆเมื่อคิดได้ดังนั้นผมรีบยกมือถือขึ้นมาเพื่อทำการเรียกเรตติ้งบ้าง "มุมไหนดีว่ะตรงนี้แล้วกัน" เมื่อหามุมที่จะถ่ายรูปได้ผมก็กดถ่ายรูปตัวเองก่อนจะอัพลงไอจี "ความสับสนมันทำให้เหงากว่าการอยู่คนเดียวเสียอีก" ข้อความสั้นๆที่พิมพ์ลงไปพร้อมรูปที่บ่งบอกความเหงาของตนเอง ไม่นานข้อความคอมเม้นต่างๆก็ตามมาแต่ผมกับสะดุดตากับคอมเม้นจากใครคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จักเช่นกันว่าใคร (อย่าสับสนนานนะคะพี่กันน้องเชียร์พี่กันกับชายธีนะคะ^_^) ข้อความนี้?...อย่าบอกนะว่าเป็นคนที่แอบถ่ายผมกับชายธีที่ร้านอาหารขายสัตว์ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็กดเข้าไปดูในไอจีทันที ใช่จริงๆด้วยว่าแต่นี้มันอะไรกัน ทำไมมีแต่รูปผมกับชายธีละ  แล้วนี้มันไอจีอะไรเนี้ย #ชนภัทร แปลว่าอะไรว่ะรูปมีไม่มากที่เหลือก็เป็นภาพตัดต่อ แฟนอาร์ท นี้อย่าบอกน่ะว่ามีคนจิ้นผมกับชายธีงั้นหรอ แล้วดูคนติดตามดิหลายพันคนเลย... "ไอ้ฟลุ๊คมันรู้ยังว่ะเนี้ย" พอกดดูรูปนี่แท็กมาหาผมด้วย... ผมไม่ได้เช็คไอจีนานพึ่งรู้นะเนี้ย บ้าจริงแล้วผมยิ้มทำไมละเนี้ยอ้าว...แล้วผมไปกดติดตามทำไมฮาๆๆๆๆ....ผมว่าใครที่ผ่านมาเห็นผมตอนนี้คงคิดว่าผมเป็นบ้าแน่ๆ
 
          ไอ้กันลงไปซื้อข้าวได้ซักพักแล้วป่านนี้ยังไม่มาเลย แล้วผมจะรอมันทำไมละใช่ซิผมต้องเก็บของก็ผมจะกลับบ้านพรุ่งนี้นี่...ไอ้ฟลุ๊คเอ่ยไปหมดละสติสงสัยจะเป็นไข้จริงๆแล้วมั่งเนี้ยปวดหัวจัง ผมค่อยๆเก็บนั้นนี้เพื่อจะนำใส่กระเป๋าทีละอย่าง ว่าแต่นี้กูเป็นไข้จริงๆใช่ไหมเนี้ยปวดหัวจชิบแกก...เสียงเปิดประตูห้องเข้ามาผมหันไปมองไอ้กันที่ถือถุงข้าวเดินเข้ามา "ทำอะไรว่ะ" "เก็บของกูว่าจะกลับบ้านพรุ่งนี้" "อ้าวไหนบอกว่าจะสอนกูไม่ใช่หรอ" "ก็กูเห็นมึงทำได้แล้วไง" "ได้ไงก็สัญญากันแล้วว่าจะช่วยจนกว่าจะเสร็จงานไม่ใช่หรอ" "แต่ว่า..." "ไม่ต้องเลยกูไม่ให้กลับสัญญาต้องเป็นสัญญา" ไม่ทันที่ผมจะได้พับเก็บอะไรไอ้กันก็คว้าของออกจากมือผมแล้วลากผมไปนั่งที่เตียงก่อนมันจะเก็บของผมเข้าตู้เหมือนเดิม ว่าแต่มันจะมาห้ามผมทำไมว่ะเนี้ยก็แค่จะกลับบ้านไม่ใช่หรอว่ะ "มึงจะห้ามกูทำไมว่ะ" "ก็มึงผิดคำพูด...อีกอย่างมากินข้าวกูซื้อมาให้จะได้กินยา" "ไม่เอา...กูไม่กิน" "อย่าดื้อได้ป่ะว่ะมึงนี้ชอบขัดใจกูจังเลยว่ะ" "อะไรว่ะเนี้ย" "มานี้อันนี้ข้าวต้มกุ้งกินไปอิ่มแล้วจะได้กินยา" ผมมองหน้าคนที่เดินไปจัดแจงยกชามข้าวต้มกับน้ำมาให้ผมว่าแต่มันทำไมต้องมาดูแลผมขนาดนี้ด้วยว่ะ "อย่าดื้อแม่มึงให้กูดูแลมึงนะจำไม่ได้หรอว่ะกินข้าวกินยาจะได้อาบน้ำนอน" อ๋อที่แท้ก็ทำตามที่แม่ผมบอกไว้แล้วผมจะรู้สึกผิดหวังทำไมพอๆไอ้ฟลุ๊คกินไป
 
          "กินข้าวนะครับแรมโบ้...อร่อยไหมครับ" ผมมองไอ้กันทั้งนั่งลูบหัวแรมโบ้ที่กินข้าวอยู่อย่างเอ็นดูว่าแต่ผมจะอิจฉาแมวทำไมปกติไอ้กันก็เล่นกับแรมโบ้ทุกวันอยู่แล้ว พิษไข้นี้แปลกๆแหะพอไม่สบายเลยทำให้พาลทุกอย่างไปหมดขนาดกับแมวก็ยังไปหงุดหงิดอีก นั้นแมวนะฟลุ๊คมึงไม่ใช่แมวจะให้ใครมาลูบหัวละ "มองอะไรว่ะไม่กินต่อละหรือไม่อร่อย" "เปล่า..." "กินไปเลยเดี๋ยวเถอะนะดื้อกูจะจับกรอก" "ขู่กูจังเลยนะเดี๋ยวแม่งไม่กินเลย" "ก็ลองดู...อย่าหาว่ากูไม่เตือนแล้วกัน"
 
          คนถูกสั่งทำหน้ามุ่ยก่อนก้มตักข้าวต้มกินต่อ รอยยิ้มที่เหมือนเป็นผู้ชนะของผมค่อยๆกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นก่อนจะก้มไปลูบหัวเจ้าแรมโบ้เหมือนเดิม สายตาของคนที่ตักข้าวต้มกินพร้อมกับมองมาที่ผมมันชวนให้ผมอยากเอาชนะอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งนึกถึงฟิคในไอจีที่พึ่งอ่านของแฟนคลับมามันเหมือนยิ่งทำให้ผมอยากแกล้งชายธีมากขึ้น พึ่งรู้เหมือนกันนะว่าพวกแฟนคลับน่ากลัวกว่าที่ผมคิดแถมยังรู้รายละเอียดข้อมูลมากกว่าตัวผมเองเสียอีก "อิ่มแล้ว" "ห่ะ!!...อ๋อแปบนะเดี๋ยวหยิบยาให้" ผมลุกไปล้างมือก่อนจะเดินไปหยิบยามาให้ชายธีที่นั่งมองผมเดินไปมา "อ่ะยา" "ไม่กินได้ป่ะว่ะ" "กินไปเลยอย่าดื้อ" "ก็กูไม่ชอบกินยามันขม" "ยาที่ไหนไม่ขมว่ะกินดีๆอย่าให้ถึงขั้นต้องกรอก" "ขู่จังแน่จริงกรอกเลยอย่าเก่งแต่ขู่ว่ะ" "อย่ามาท้าไอ้ฟลุ๊คกินดีๆ" "โถ่ว...นึกว่าจะแน่ เฮ้ย..." หมั่นไส้นักเชียวกวนประสาทอยู่ได้ไม่ทันให้อีกคนได้ตั้งตัวผมจับปลายคางไอ้ฟลุ๊คก่อนจะใช้อีกมือยัดยาเข้าปากทันที "อื้อ...ขมอ่ะ..." เสียงคนถูกยัดยาเข้าปากร้องอู้อี้พร้อมใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความขมก่อนที่ผมจะยกแก้วน้ำป้อนให้กลืนยาลงคอ สายตาที่จ้องมองหน้าผมอย่างเอาเรื่องมันทำให้ผมพอใจไม่น้อย "เป็นไงให้กินดีๆไม่ชอบ" "ขมอ่ะ" "ไม่ต้องบ่นไปอาบน้ำเลยไปจะได้มานอนพัก" "ไม่อาบไม่ได้หรอว่ะขี้เกียจอ่ะ" "ฟลุ๊คคคคค..." "อะไร" "จะไปอาบดีๆหรือต้องให้กูอาบให้" "ขี้เกียจ...เดี๋ยวค่อยอาบไม่ได้หรอว่ะ" "ฟลุ๊ค 1 , 2..." "เออๆไปแล้วขู่อยู่ได้" "กูไม่ได้ขู่นะมึงก็รู้กูทำจริงไม่เชื่อจะลองไหมละ" "เออๆๆ...ไปแล้วโว้ย" คนโดนขู่รีบเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที น่ารักดีเหมือนกันแหะ... เดี๋ยวนะไอ้กัน...มึงจะเคลิ้มอะไรกับเขาว่ะ...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา