คลังวาร์ป #ฟิคยังรักมาร์ค
-
เขียนโดย chiraxq
วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.26 น.
1 ตอน
3 วิจารณ์
4,976 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559 19.33 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) CHAPTER 05 : NC
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความCUT
“ของขวัญที่พี่อยากได้ที่สุดคือแบมแบมครับ”
ผมเบิกตากว้างและเริ่มดิ้นทันทีหลังฟังคำพูดของมาร์คจบ
“อย่าล้อแบมเล่นสิ”
“. . .”
“หนักนะ ลุกออกไปเลย”
มาร์คมองสบตาผมแล้วยิ้มกว้างออกมาแต่ไม่ได้ขยับร่างกายออกไปไหน รอยยิ้มของคนตรงหน้ามันช่างอ่อนโยน แววตาของมาร์คยามที่มองใบหน้าผมมันเต็มไปด้วยความหมายมากมายแม้ไม่ได้พูดออกมาแต่แววตาของมาร์คก็บอกผมได้ดีเลยว่าเขารักผมมากแค่ไหน
ผมไม่ได้คิดไปเองนะ ถ้าคุณเคยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาใครสักคนที่รักคุณ
คุณจะรู้เลยว่าดวงตาของเขายามที่มองคุณมันอบอุ่น
มันอ่อนโยน มันเต็มไปด้วยคำพูดมากมายทางสายตา
ผมหยุดดิ้นมองนัยน์ตาที่ผมหลงใหลเนิ่นนานจนกระทั่งใบหน้าชวนต้องมนต์เลื่อนเข้ามา กดจูบบางเบาที่ริมฝีปากเสมือนเป็นการขออนุญาตก่อนจะลุกล้ำสอดลิ้นร้อนเข้ามาตักตวงความหวาน . . . เนิ่นนานเท่าไรไม่รู้ที่ผมปล่อยให้เขาช่วงชิงลมหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่สัมผัสได้ถึงความความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ตกกระทบมายังผิวกายเปลือยเปล่าจึงทำให้ผมตระหนักได้ว่ามันชักจะเลยเถิดเกินไปกันใหญ่แล้ว มาร์คถอดเสื้อผมออกไปตอนไหน ผมไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
ผมยกมือทั้งสองข้างดันอกมาร์คออกไปเบาๆ ร่างหนาละใบหน้าออกมาจากปากอวบก่อนจะรวบมือทั้งสองข้างของผมตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือเดียว มาร์คเอียงคอพรมจูบไปตามกรอบหน้าผมแล้วซุกไซ้จมูกโด่งบนลำคอ จนผมต้องส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาเพราะความจั๊กจี้
“มาร์ครักแบมนะครับ”
มาร์คเอ่ยออกมาด้วยเสียงกระซิบแหบพร่าก่อนจะเลื่อนไปงับใบหูทำเอาผมขนลุกซู่
“ให้มาร์คเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของแบมได้ไหม?”
ร่างสูงพูดออกมาเป็นเชิงขออนุญาตด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ผมหลับตาแน่นพยักหน้าน้อยๆ
ผมรักเขามาก . . . ผมให้เขาได้ทั้งชีวิต ทั้งหัวใจและร่างกาย
ทั้งหมดที่ผมมีมันเป็นของเขา ผู้ชายคนนี้ที่ผมรักสุดดวงใจ
มาร์คปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระ ผมลืมตามองใบหน้าหล่อแต่ก็ต้องเอียงคอหลบสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ เขาต้องการผม ผมรู้ดี
คนตัวโตกว่ายกร่างผมขึ้นมานั่งคร่อมทับตักแกร่ง จับมือทั้งสองข้างของผมโอบรอบลำคอของเขาเหมือนเป็นการบังคับกลายๆไม่ให้ผมหลบสายตาเขา
มาร์คส่งมือขึ้นมาลูบหัวผมอย่างที่ชอบทำเป็นประจำอย่างเอ็นดู กระชับอ้อมแขนอีกข้างให้ตัวผมและเขาชิดกันมากขึ้นจนรู้สึกได้ถึงความแข็งขืนทิ่มแทงอยู่ที่ต้นขา นั่นยิ่งทำให้ใบหน้าผมเห่อร้อนขึ้นมากเป็นสองเท่า ร่างหนาหลุดขำออกมาเมื่อเห็นว่าใบหน้าของคนตรงหน้านั้นแดงจนแทบจะกลายเป็นมะเขือเทศ
“แบมรู้ไหม เวลาแบมหน้าแดงแบบนี้. . .แบมยิ่งน่ารักจนพี่อยากแกล้ง”
“อ๊ะ! ไอ้พี่มาร์ค”
ผมร้องออกมาเสียงหลงพลางทุบมือลงบนไหล่แกร่งเมื่อเขาขยำมือลงบนสะโพกมนแล้วโยกมันช้าๆทำให้ส่วนอ่อนไหวของผมเสียดสีกับหน้าท้องเขาจนความรู้สึกแปลกใหม่ที่เรียกว่า ‘เสียว’
ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยช่วยตัวเองนะ มันก็มีกันบ้าง คนเรามันห้ามอารมณ์ละความต้องการไม่ได้ แต่ประสบการณ์ใหม่ที่กำลังจะได้พบเจอ ผมไม่เคยเลยสักนิด ปมไม่รู้ว่ามันรู้สึกยังไง ผมได้แต่ปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามสันชาตญาณ
พี่มาร์คหัวเราะเมื่อแกล้งผมสำเร็จ ซุกใบหน้าลงกับลำคอบาง ขบเม้มสร้างรอยแดงไว้จนพอใจแล้วจึงผลักร่างของผมนอนลงก่อนจะขึ้นคร่อมทับอีกครั้ง พรมจูบตามแผ่นอกเล็กดูดดึงยอดอกสร้างความเสียวซ่านให้แล่นไปทั่วร่างกาย เขาลากลิ้นร้อนลงมาตามหน้าท้องแบนราบไล้วนรอบๆสะดือก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงต่ำจนถึงขอบกางเกงขาสั้นของผม มือหนาดึงกางเกงผ้าเนื้อดีลงอย่างเบามือใช้ฟันคมงับไปที่ขอบกางเกงชั้นในสีน้ำเงินเข้มของคนใต้ร่างแล้วลากลงจนเผยให้เห็นแก่นกายน้อยที่ชูชันจากการโดนปลุกปั่นอารมณ์มาก่อนหน้านี้
ผมนอนนิ่งไม่กล้าขยับตัวไปไหนใบหน้าขึ้นสีจากความต้องการและความเขินอาย
“อึ๊ อือออ”
ผมเอียงหน้าซุกลงกับหมอนนุ่มและส่งเสียงครางออกมาเบาๆเมื่อมาร์คจับขาของผมตั้งชัน ไล้ลิ้นร้อนลงบนส่วนอ่อนไหว ดูดดึงราวกับมันเป็นไอศกรีมรสหวานก่อนจะใช้มือเพิ่มจังหวะรูดขึ้นลง เงยหน้าขึ้นมองคนถูกกระทำที่ส่งเสียงครางอู้อี้เล็ดลอดออกมาจากหมอนใบโต
คนเป็นพี่สอดนิ้วเรียวเข้าสำรวจช่องทางอุ่นร้อนแต่ปากก็ยังคงทำหน้าที่สร้างความเสียวให้คนไม่ประสีประสาต่อไป ขยับนิ้วเร่งจังหวะก่อนจะเพิ่มนิ้วจากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสาม
“อ๊ะ อา อ๊ะ พี่ มะ อา มาร์คค”
ผมครางเสียงหลงยามที่นิ้วเรียวแตะโดนจุดกระสันถี่ๆ ผมหดเกร็งหน้าท้องและกระตุกเกร็งเมื่อฝั่งฝันมาถึง ปลดปล่อยน้ำรักใส่โพรงปากของร่างสูง ร่างสูงดูดกลืนมันอย่างไม่นึกรังเกียจแล้วถอนนิ้วออกไป
“แฮ่ก แฮ่ก อ๊ะ!”
ผมนอนหอบหายใจสูดอากาศเข้าปอดรู้สึกโล่งและร่างกายเบาหวิวเมื่อได้ปลดปล่อย แต่ก็ต้องสะดุ้งตัวโยนเมื่อพี่เขายกขาข้างหนึ่งของผมขึ้นพาดบ่าก่อนจะจ่อแก่นกายใหญ่ไว้ที่ปากทางรักและกดส่วนปลายเข้ามาช้าๆ
แม้จะโดนเบิกช่องทางมาก่อนหน้านี้แต่เมื่อโดนสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่กว่ายัดเข้ามามันต้องก็รู้สึกเจ็บเป็นธรรมดา ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นเริ่มหายไปเมื่อความเจ็บแสบที่ช่องทางด้านหลังเข้ามาแทนที่
“อืออ มาร์คแบมเจ็บ มันเจ็บ”
น้ำตาใสกลิ้งลงมาจากหางตาเมื่อคนด้านบนดึงดันแก่นกายเข้ามาลึกขึ้น
“ทนหน่อยนะครับ อืม อย่า อะ อย่าเกร็งสิแบม”
ร่างหนาโน้มตัวลงมาจูบซับน้ำตา กดจูบลงที่ริมฝีปากอวบอูม ฟันคมขบเม้มไปตามริมฝีปากดึงปากสีแดงระเรื่อออกมาก่อนจะไล้ลิ้นร้อนไปตามไรฟันคนไร้เดียงสาจูบตอบอย่างเก้ๆกังแพราะยังไม่ชำนาญเท่าคนพี่ คนแก่กว่าพูดปลอบประโลมและเริ่มปลุกอารมณ์คนด้านล่างอีกครั้งด้วยการหยอกล้อกับยอดอกที่แข็งขึ้นตามความต้องการ เลื่อนใบหน้าไปสูดดมกลิ่นหอมแบบเด็กๆจากแก้มนวล หายใจรดใบหูร่างเล็กจนขนลุกไปทั่วทั้งร่างกาย ก่อนจะใช้ลิ้นลามเลียไปตามซอกคออ่อนจนเด็กน้อยใต้อาณัติเคลิบเคลิ้มไปตามแรงอารมณ์อีกครั้ง คนมากประสบการณ์ตัดสินใจกระแทกแก่นกายใหญ่เข้าไปครั้งเดียวจนสุดความยาว
“โอ้ยยย อึกก ฮะ อา ฮึกก จะ อะ เอ็บ”
“อย่าเกร็ง ซี๊ดด อย่ารัดพี่แบบนั้นสิ อือ”
ผมร้องออกมาเสียงหลง ผวายกตัวขึ้นกอดร่างสูงจิกเล็บลงบนไหล่แกร่ง รู้สึกจุกไปทั่วทท้องน้อย เลือดสีแดงไหลตามเรียวขาจนหยดเลอะผ้าปูที่นอนเป็นวงกว้าง ความเจ็บปวดตีรวนขึ้นมาจนน้ำตาไหลอออกมาจากหางตา พี่มาร์คยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกไปจากแก้มของผม
“ไหวไหม? พี่ขอโทษที่ทำให้เจ็บนะ”
ผมพยักหน้าน้อยๆเป็นการบอกเขาว่าผมไหว มาร์คแช่แก่นกายค้างไว้สักพักใหญ่ๆจนช่องทางของผมเริ่มคุ้นชิน พี่เขาจึงเริ่มขยับสะโพกช้าๆ
“อ๊ะ อื๊อออ”
ความเสียวซ่านกลับมาอีกครั้งจนผมต้องยกมือขึ้นมาปิดปากไม่ให้ส่งเสียงน่าอายเล็ดลอดออกไป
“ร้องออกมาเถอะ พี่อยากฟังเสียงแบมนะ”
ร่างหนาปัดมือของผมทิ้งแต่ผมก็ยกมือขึ้นมาปิดเสียงอีก มาร์คทำหน้าไม่พอใจก่อนจะถอนแก่นกายออกไปจนเกือบสุดความยาวแล้วกระแทกลงมาใหม่ทีเดียวจนมิดลำ
“อึกกกกกก อื้ออ”
“ลงโทษเด็กดื้อ ถ้าเอามือปิดปากอีกพี่จะกระแทกให้เดินไม่ไหวเลยคอยดูสิ”
ผมจุกจนร่างกายไร้เรี่ยวแรง ปล่อยมือที่ปกปิดเสียงน่าอายทิ้งลงข้างตัว เมื่อเห็นว่าผมเชื่อฟังคนนิสัยไม่ดีก็เริ่มขยับสะโพกอีกครั้งเป็นจังหวะเนิบนาบแต่ความเสียวกลับแล่นไปทั่วจนขนอ่อนลุกชัน
“อ๊ะ มาร์…คค อ่ะ เสีย…วว”
“ซี๊ดดด โคตรแน่น”
เสียงครางไม่เป็นภาษาของทั้งสองร่างดังระงมไปทั่วทั้งห้องและตามมาด้วยเสียงเนื้อกระทบกันเมื่อคนตัวโตเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
“อ๊ะ อะ อ๊ะ อย่าย้ำ ซี๊ดด อืออ อ๊ะ แฮ่กก อ่ะ อ๊า”
ร่างกายกระทำสวนคำพูดเมื่อปากบอกไม่ให้คนพี่กระแทกย้ำถี่ๆที่จุดกระสันแต่ร่างบางกลับเด้งสะโพกสวนตามสันชาตญาณ
“อืม ม มไม่ไหว แล้ว”
เมื่อโดนตอดรัดถี่ๆ ร่างแกร่งก็แทบจะอดกลั้นไม่ไหว กระแทกซอยถี่รัวๆจนคนใต้ร่างตัวสั่นคลอน
“อ๊ะ อะ เบา..หน่อ..ย”
คนโดนกระแทกถี่ๆร้องห้ามเสียงหลงเมื่อจุดไวต่อความรู้สึกในร่างกายโดนจี้ถี่ๆอย่างแรง
ผมรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วทั้งท้องน้อย หัวสมองเป็นสีขาวโพลนไปหมดส่งเสียงครางออกไปจนรู้สึกลำคอแห้งผาก ก่อนจะกระตุกเกร็งปลดปล่อยออกไปเลอะหน้าท้องแกร่งที่มีกล้ามเนื้อกำลังดีจากการเล่นกีฬา ร่างหนากระแทกย้ำลงมาอีกสองสามทีก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นในช่องทางของร่างเล็กจนมันไหลย้อนออกมาเปรอะเปื้อนที่นอน
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก”
เสียงหอบหายใจเป็นเพียงเสียงเดียวที่ได้ยินเป็นสิ่งแรกหลังจากจบกิจกรรมลามก มาร์คถอนแก่นกายออกมาจากช่องทางสีหวาน ช้อนตัวอุ้มร่างเล็กที่นอนตาปรืออย่างหมดแรงเดินเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำด้วยกัน จับร่างเล็กสวมเสื้อตัวโคร่งของเขาเพียงตัวเดียวก่อนจะวางแบมแบมลงบนเตียงนุ่มที่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนเรียบร้อยแล้ว มาร์คล้มตัวลงนอนข้างๆกันดึงเด็กน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
“พี่รักแบมนะครับ”
“. . .”
“ฝันดีนะ”
“อื้ออ”
แบมแบมที่หมดเรี่ยวแรงจะเอ่ยเสียงใดใด จึงได้แต่ส่งเสียงตอบกลับไป
มาร์คกดจูบลงบนหน้าผากมนของแฟนตัวเล็กด้วยความรักใคร่พลางกระชับอ้อมกอดก่อนจะพากันเข้าสู่ห้วงนิทราในวันที่แสนสุขนี้
_____________________________
กลับไปอ่านต่อได้ที่ : CHAPTER 05 : แผลกายไม่ทรมานเท่าแผลใจ
“ของขวัญที่พี่อยากได้ที่สุดคือแบมแบมครับ”
ผมเบิกตากว้างและเริ่มดิ้นทันทีหลังฟังคำพูดของมาร์คจบ
“อย่าล้อแบมเล่นสิ”
“. . .”
“หนักนะ ลุกออกไปเลย”
มาร์คมองสบตาผมแล้วยิ้มกว้างออกมาแต่ไม่ได้ขยับร่างกายออกไปไหน รอยยิ้มของคนตรงหน้ามันช่างอ่อนโยน แววตาของมาร์คยามที่มองใบหน้าผมมันเต็มไปด้วยความหมายมากมายแม้ไม่ได้พูดออกมาแต่แววตาของมาร์คก็บอกผมได้ดีเลยว่าเขารักผมมากแค่ไหน
ผมไม่ได้คิดไปเองนะ ถ้าคุณเคยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาใครสักคนที่รักคุณ
คุณจะรู้เลยว่าดวงตาของเขายามที่มองคุณมันอบอุ่น
มันอ่อนโยน มันเต็มไปด้วยคำพูดมากมายทางสายตา
ผมหยุดดิ้นมองนัยน์ตาที่ผมหลงใหลเนิ่นนานจนกระทั่งใบหน้าชวนต้องมนต์เลื่อนเข้ามา กดจูบบางเบาที่ริมฝีปากเสมือนเป็นการขออนุญาตก่อนจะลุกล้ำสอดลิ้นร้อนเข้ามาตักตวงความหวาน . . . เนิ่นนานเท่าไรไม่รู้ที่ผมปล่อยให้เขาช่วงชิงลมหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่สัมผัสได้ถึงความความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ตกกระทบมายังผิวกายเปลือยเปล่าจึงทำให้ผมตระหนักได้ว่ามันชักจะเลยเถิดเกินไปกันใหญ่แล้ว มาร์คถอดเสื้อผมออกไปตอนไหน ผมไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
ผมยกมือทั้งสองข้างดันอกมาร์คออกไปเบาๆ ร่างหนาละใบหน้าออกมาจากปากอวบก่อนจะรวบมือทั้งสองข้างของผมตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือเดียว มาร์คเอียงคอพรมจูบไปตามกรอบหน้าผมแล้วซุกไซ้จมูกโด่งบนลำคอ จนผมต้องส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาเพราะความจั๊กจี้
“มาร์ครักแบมนะครับ”
มาร์คเอ่ยออกมาด้วยเสียงกระซิบแหบพร่าก่อนจะเลื่อนไปงับใบหูทำเอาผมขนลุกซู่
“ให้มาร์คเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของแบมได้ไหม?”
ร่างสูงพูดออกมาเป็นเชิงขออนุญาตด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ผมหลับตาแน่นพยักหน้าน้อยๆ
ผมรักเขามาก . . . ผมให้เขาได้ทั้งชีวิต ทั้งหัวใจและร่างกาย
ทั้งหมดที่ผมมีมันเป็นของเขา ผู้ชายคนนี้ที่ผมรักสุดดวงใจ
มาร์คปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระ ผมลืมตามองใบหน้าหล่อแต่ก็ต้องเอียงคอหลบสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ เขาต้องการผม ผมรู้ดี
คนตัวโตกว่ายกร่างผมขึ้นมานั่งคร่อมทับตักแกร่ง จับมือทั้งสองข้างของผมโอบรอบลำคอของเขาเหมือนเป็นการบังคับกลายๆไม่ให้ผมหลบสายตาเขา
มาร์คส่งมือขึ้นมาลูบหัวผมอย่างที่ชอบทำเป็นประจำอย่างเอ็นดู กระชับอ้อมแขนอีกข้างให้ตัวผมและเขาชิดกันมากขึ้นจนรู้สึกได้ถึงความแข็งขืนทิ่มแทงอยู่ที่ต้นขา นั่นยิ่งทำให้ใบหน้าผมเห่อร้อนขึ้นมากเป็นสองเท่า ร่างหนาหลุดขำออกมาเมื่อเห็นว่าใบหน้าของคนตรงหน้านั้นแดงจนแทบจะกลายเป็นมะเขือเทศ
“แบมรู้ไหม เวลาแบมหน้าแดงแบบนี้. . .แบมยิ่งน่ารักจนพี่อยากแกล้ง”
“อ๊ะ! ไอ้พี่มาร์ค”
ผมร้องออกมาเสียงหลงพลางทุบมือลงบนไหล่แกร่งเมื่อเขาขยำมือลงบนสะโพกมนแล้วโยกมันช้าๆทำให้ส่วนอ่อนไหวของผมเสียดสีกับหน้าท้องเขาจนความรู้สึกแปลกใหม่ที่เรียกว่า ‘เสียว’
ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยช่วยตัวเองนะ มันก็มีกันบ้าง คนเรามันห้ามอารมณ์ละความต้องการไม่ได้ แต่ประสบการณ์ใหม่ที่กำลังจะได้พบเจอ ผมไม่เคยเลยสักนิด ปมไม่รู้ว่ามันรู้สึกยังไง ผมได้แต่ปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามสันชาตญาณ
พี่มาร์คหัวเราะเมื่อแกล้งผมสำเร็จ ซุกใบหน้าลงกับลำคอบาง ขบเม้มสร้างรอยแดงไว้จนพอใจแล้วจึงผลักร่างของผมนอนลงก่อนจะขึ้นคร่อมทับอีกครั้ง พรมจูบตามแผ่นอกเล็กดูดดึงยอดอกสร้างความเสียวซ่านให้แล่นไปทั่วร่างกาย เขาลากลิ้นร้อนลงมาตามหน้าท้องแบนราบไล้วนรอบๆสะดือก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงต่ำจนถึงขอบกางเกงขาสั้นของผม มือหนาดึงกางเกงผ้าเนื้อดีลงอย่างเบามือใช้ฟันคมงับไปที่ขอบกางเกงชั้นในสีน้ำเงินเข้มของคนใต้ร่างแล้วลากลงจนเผยให้เห็นแก่นกายน้อยที่ชูชันจากการโดนปลุกปั่นอารมณ์มาก่อนหน้านี้
ผมนอนนิ่งไม่กล้าขยับตัวไปไหนใบหน้าขึ้นสีจากความต้องการและความเขินอาย
“อึ๊ อือออ”
ผมเอียงหน้าซุกลงกับหมอนนุ่มและส่งเสียงครางออกมาเบาๆเมื่อมาร์คจับขาของผมตั้งชัน ไล้ลิ้นร้อนลงบนส่วนอ่อนไหว ดูดดึงราวกับมันเป็นไอศกรีมรสหวานก่อนจะใช้มือเพิ่มจังหวะรูดขึ้นลง เงยหน้าขึ้นมองคนถูกกระทำที่ส่งเสียงครางอู้อี้เล็ดลอดออกมาจากหมอนใบโต
คนเป็นพี่สอดนิ้วเรียวเข้าสำรวจช่องทางอุ่นร้อนแต่ปากก็ยังคงทำหน้าที่สร้างความเสียวให้คนไม่ประสีประสาต่อไป ขยับนิ้วเร่งจังหวะก่อนจะเพิ่มนิ้วจากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสาม
“อ๊ะ อา อ๊ะ พี่ มะ อา มาร์คค”
ผมครางเสียงหลงยามที่นิ้วเรียวแตะโดนจุดกระสันถี่ๆ ผมหดเกร็งหน้าท้องและกระตุกเกร็งเมื่อฝั่งฝันมาถึง ปลดปล่อยน้ำรักใส่โพรงปากของร่างสูง ร่างสูงดูดกลืนมันอย่างไม่นึกรังเกียจแล้วถอนนิ้วออกไป
“แฮ่ก แฮ่ก อ๊ะ!”
ผมนอนหอบหายใจสูดอากาศเข้าปอดรู้สึกโล่งและร่างกายเบาหวิวเมื่อได้ปลดปล่อย แต่ก็ต้องสะดุ้งตัวโยนเมื่อพี่เขายกขาข้างหนึ่งของผมขึ้นพาดบ่าก่อนจะจ่อแก่นกายใหญ่ไว้ที่ปากทางรักและกดส่วนปลายเข้ามาช้าๆ
แม้จะโดนเบิกช่องทางมาก่อนหน้านี้แต่เมื่อโดนสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่กว่ายัดเข้ามามันต้องก็รู้สึกเจ็บเป็นธรรมดา ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นเริ่มหายไปเมื่อความเจ็บแสบที่ช่องทางด้านหลังเข้ามาแทนที่
“อืออ มาร์คแบมเจ็บ มันเจ็บ”
น้ำตาใสกลิ้งลงมาจากหางตาเมื่อคนด้านบนดึงดันแก่นกายเข้ามาลึกขึ้น
“ทนหน่อยนะครับ อืม อย่า อะ อย่าเกร็งสิแบม”
ร่างหนาโน้มตัวลงมาจูบซับน้ำตา กดจูบลงที่ริมฝีปากอวบอูม ฟันคมขบเม้มไปตามริมฝีปากดึงปากสีแดงระเรื่อออกมาก่อนจะไล้ลิ้นร้อนไปตามไรฟันคนไร้เดียงสาจูบตอบอย่างเก้ๆกังแพราะยังไม่ชำนาญเท่าคนพี่ คนแก่กว่าพูดปลอบประโลมและเริ่มปลุกอารมณ์คนด้านล่างอีกครั้งด้วยการหยอกล้อกับยอดอกที่แข็งขึ้นตามความต้องการ เลื่อนใบหน้าไปสูดดมกลิ่นหอมแบบเด็กๆจากแก้มนวล หายใจรดใบหูร่างเล็กจนขนลุกไปทั่วทั้งร่างกาย ก่อนจะใช้ลิ้นลามเลียไปตามซอกคออ่อนจนเด็กน้อยใต้อาณัติเคลิบเคลิ้มไปตามแรงอารมณ์อีกครั้ง คนมากประสบการณ์ตัดสินใจกระแทกแก่นกายใหญ่เข้าไปครั้งเดียวจนสุดความยาว
“โอ้ยยย อึกก ฮะ อา ฮึกก จะ อะ เอ็บ”
“อย่าเกร็ง ซี๊ดด อย่ารัดพี่แบบนั้นสิ อือ”
ผมร้องออกมาเสียงหลง ผวายกตัวขึ้นกอดร่างสูงจิกเล็บลงบนไหล่แกร่ง รู้สึกจุกไปทั่วทท้องน้อย เลือดสีแดงไหลตามเรียวขาจนหยดเลอะผ้าปูที่นอนเป็นวงกว้าง ความเจ็บปวดตีรวนขึ้นมาจนน้ำตาไหลอออกมาจากหางตา พี่มาร์คยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกไปจากแก้มของผม
“ไหวไหม? พี่ขอโทษที่ทำให้เจ็บนะ”
ผมพยักหน้าน้อยๆเป็นการบอกเขาว่าผมไหว มาร์คแช่แก่นกายค้างไว้สักพักใหญ่ๆจนช่องทางของผมเริ่มคุ้นชิน พี่เขาจึงเริ่มขยับสะโพกช้าๆ
“อ๊ะ อื๊อออ”
ความเสียวซ่านกลับมาอีกครั้งจนผมต้องยกมือขึ้นมาปิดปากไม่ให้ส่งเสียงน่าอายเล็ดลอดออกไป
“ร้องออกมาเถอะ พี่อยากฟังเสียงแบมนะ”
ร่างหนาปัดมือของผมทิ้งแต่ผมก็ยกมือขึ้นมาปิดเสียงอีก มาร์คทำหน้าไม่พอใจก่อนจะถอนแก่นกายออกไปจนเกือบสุดความยาวแล้วกระแทกลงมาใหม่ทีเดียวจนมิดลำ
“อึกกกกกก อื้ออ”
“ลงโทษเด็กดื้อ ถ้าเอามือปิดปากอีกพี่จะกระแทกให้เดินไม่ไหวเลยคอยดูสิ”
ผมจุกจนร่างกายไร้เรี่ยวแรง ปล่อยมือที่ปกปิดเสียงน่าอายทิ้งลงข้างตัว เมื่อเห็นว่าผมเชื่อฟังคนนิสัยไม่ดีก็เริ่มขยับสะโพกอีกครั้งเป็นจังหวะเนิบนาบแต่ความเสียวกลับแล่นไปทั่วจนขนอ่อนลุกชัน
“อ๊ะ มาร์…คค อ่ะ เสีย…วว”
“ซี๊ดดด โคตรแน่น”
เสียงครางไม่เป็นภาษาของทั้งสองร่างดังระงมไปทั่วทั้งห้องและตามมาด้วยเสียงเนื้อกระทบกันเมื่อคนตัวโตเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
“อ๊ะ อะ อ๊ะ อย่าย้ำ ซี๊ดด อืออ อ๊ะ แฮ่กก อ่ะ อ๊า”
ร่างกายกระทำสวนคำพูดเมื่อปากบอกไม่ให้คนพี่กระแทกย้ำถี่ๆที่จุดกระสันแต่ร่างบางกลับเด้งสะโพกสวนตามสันชาตญาณ
“อืม ม มไม่ไหว แล้ว”
เมื่อโดนตอดรัดถี่ๆ ร่างแกร่งก็แทบจะอดกลั้นไม่ไหว กระแทกซอยถี่รัวๆจนคนใต้ร่างตัวสั่นคลอน
“อ๊ะ อะ เบา..หน่อ..ย”
คนโดนกระแทกถี่ๆร้องห้ามเสียงหลงเมื่อจุดไวต่อความรู้สึกในร่างกายโดนจี้ถี่ๆอย่างแรง
ผมรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วทั้งท้องน้อย หัวสมองเป็นสีขาวโพลนไปหมดส่งเสียงครางออกไปจนรู้สึกลำคอแห้งผาก ก่อนจะกระตุกเกร็งปลดปล่อยออกไปเลอะหน้าท้องแกร่งที่มีกล้ามเนื้อกำลังดีจากการเล่นกีฬา ร่างหนากระแทกย้ำลงมาอีกสองสามทีก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นในช่องทางของร่างเล็กจนมันไหลย้อนออกมาเปรอะเปื้อนที่นอน
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก”
เสียงหอบหายใจเป็นเพียงเสียงเดียวที่ได้ยินเป็นสิ่งแรกหลังจากจบกิจกรรมลามก มาร์คถอนแก่นกายออกมาจากช่องทางสีหวาน ช้อนตัวอุ้มร่างเล็กที่นอนตาปรืออย่างหมดแรงเดินเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำด้วยกัน จับร่างเล็กสวมเสื้อตัวโคร่งของเขาเพียงตัวเดียวก่อนจะวางแบมแบมลงบนเตียงนุ่มที่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนเรียบร้อยแล้ว มาร์คล้มตัวลงนอนข้างๆกันดึงเด็กน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
“พี่รักแบมนะครับ”
“. . .”
“ฝันดีนะ”
“อื้ออ”
แบมแบมที่หมดเรี่ยวแรงจะเอ่ยเสียงใดใด จึงได้แต่ส่งเสียงตอบกลับไป
มาร์คกดจูบลงบนหน้าผากมนของแฟนตัวเล็กด้วยความรักใคร่พลางกระชับอ้อมกอดก่อนจะพากันเข้าสู่ห้วงนิทราในวันที่แสนสุขนี้
_____________________________
กลับไปอ่านต่อได้ที่ : CHAPTER 05 : แผลกายไม่ทรมานเท่าแผลใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ