ขอบคุณความบังเอิญ
เขียนโดย zeeto
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.36 น.
แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 22.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8) ต้องติว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากกินอะไรกันเสร็จผมก็แยกจากไอ้ดรันและไอ้ดปรานเพื่อนของไอ้ธัญที่มากับเพื่อน
สนิทของผมด้วยเหตุผลบางประการณ์ ตอนนี้ผมกับไอ้ธัญแวะมาเอาเสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัวของไอ้
ธัญที่บ้านของมันที่โคตรจะเงียบตกลงมันอยู่บ้านคนเดียวรึไง ผมก็ไม่เคยถามมันเหมือนกันก็ไม่รู้จะ
ไปถามทำไมในเมื่อผมไม่ได้เป็นอะไรกับมัน ผมเดินดูรูปที่ติดตามผนังและที่จัดวางอยู่บ้านโต๊ะต่างๆ
ที่จริงมันก็ไม่แปลกอะไรไม่ใช่หรอ ถ้าผมจะถามประวัติคนที่มาอาศัยมาอยู่กินบ้านผมเผื่อมันอาจจะ
คิดไม่ดีไม่ร้ายผมจะได้ตามตัวมันถูก หลังจากที่ไอ้ธัญขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าของใช้ลงมาผมก็หันไปถามทันที
"นี้อยู่บ้านคนเดียวรึไงว่ะแล้วพ่อกับแม่มึงล่ะ?" คนถูกถามหันมายิ้มก่อนเดินเอากระเป๋าไปวางที่โต๊ะ
"พ่อกับแม่เราอยู่ต่างจังหวัดไม่ค่อยได้มาหรอกนานๆมาที"
"อ้าวแล้วแบบนี้มึงก็อยู่บ้านหลังบะเร่อนี่คนเดียวอ่ะดิ"
"ใช่...แต่ก็ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็มีคนมาอยู่ด้วยแล้ว"แสดงว่าพ่อแม่มันอาจจะมาอยู่ด้วยเร็วๆนี้ผม
พยักหน้าเข้าใจก่อนเดินดูรูปต่อ
"ไม่อยากรู้หรอพัทธ์ว่าใครจะมาอยู่กับเรา?" ผมหันไปมองหน้าคนที่ยืนยิ้มทำหน้ากวนประสาทอย่าง
สงสัยว่ามันหมายความว่าไงแน่
"ก็พ่อแม่มึงไงจะมาอยู่ด้วยไม่ใช่หรอ?"
"คนที่ฉันหมายถึงก็คือพัทธ์ตั้งหาก ต่อไปพัทธ์ก็จะมาอยู่กับเราแล้วทันทีที่นายมาเป็นศรีสะใภ้บ้านเราไง"
"พอเลยๆ มึงเนี้ยเพ้อเจ้อ เก็บของเสร็จแล้วใช่ไหมกลับได้แล้ว"
"คร๊าบที่รักกกก" ผมหันไปมองหน้าคนที่กวนประสาทก่อนออกมาจากบ้านของมันทันทีแม้บางครั้ง
จะรำคราญในความบ้าของมันแต่ผมกับรู้สึกว่าชินไปแล้วล่ะ กับการที่มันมีมันกวนประสาทอยู่แบบนี้ทุกวัน
"พัทธ์ว่าเราจะเรียนต่อมหาลัยเดียวกันได้ไหม?" อ้าวอยู่ๆไอ้นี่ก็หันมาถามผมระหว่างที่กำลังเดินไป
ที่เวทป้าของมันด้วยสีหน้าจริงจังอย่างที่ผมเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน
"ไม่รู้ดิ...รีบกลับเถอะ" ผมก็ไม่รู้จะตอบอะไรกับมันเช่นกันเพราะการจะเข้ามหาลัยที่เดียวกันผมก็
เห็นว่ามันเป็นเรื่องยากน่ะที่จะเป็นไปได้แต่ถ้าไอ้ธัญสามารถทำได้ผมคงได้ไปเรียนกับมัน แต่ถ้าไม่
ผมก็คิดไม่ออกเหมือนกันถ้าต้องแยกกับไอ้ธัญแบบนี้
ตลอดทางที่ผมขับเวทป้าพาคนที่ซ้อนซึ่งเป็นเจ้าของบ้านกลับมา ผมก็อดคิดไม่ได้ผมเรียน
ไม่เก่งซึ่งถ้าคิดไปคิดมาผมว่าผมคงไม่สามารถเข้าเรียนที่เดียวกับพัทธ์ได้แน่ แต่จะเป็นไปได้ไหม
ว่าผมจะเรียนกับเขาได้ รึผมควรไปบ่นบาลศาลกล่าวดี คิดไปก็แอบยิ้มกับความเพี้ยนของตัวเอง
"มึงยิ้มอะไรคนเดียว?" ผมเดินตามคนที่หันหลังกลับมาถามตอนเดินเข้าบ้าน
"เปล่าไม่มีอะไร"
"อย่าให้รู้น่ะคิดอะไรชั่วๆ" ดูพูดเข้าตกลงในสายตาพัทธ์เห็นผมเป็นคนยังไงเนี้ย
"ถ้าคิดล่ะจะว่าไง" ขอแกล้งหน่อยเถอะชอบทำหน้าตาให้ผมอดหมั่นไส้ไม่ได้จริงๆ
"นอนข้างล่างน่ะงั้นคืนนี้"
"อ้าว...ไงงั้นล่ะ?"
"ก็มึงกำลังคิดอะไรชั่วๆกูก็ต้องปกป้องตัวเองดิว่ะ ขื่่นปล่อยคนอย่างมึงขึ้นไปนอนด้วยกูก็ซวยพอดี
ยิ่งไม่หน้าไว้ใจด้วย"
"อะไรกันเห็นเราบ้าๆแบบนี้ในสมองฉันก็คิดแต่เรื่องดีๆน่ะ"
"อะไรของมึงเถอะเรื่องดีๆ?"
"ก็วันๆเราคิดแต่เรื่องพัทธ์ไงแบบนี้ก็เรื่องดีๆไม่ใช่หรอ" คนถูกตอบถึงก็หยุดอ้าปากค้างไปเลยผมก็
ไม่คิดว่าจะเล่นอะไรเน่าๆแบบนี้หรอก แต่มันออกมาได้ไงเนี้ย พัทธ์เอามือผลักผมเบาๆก่อนจะรีบวิ่ง
ขึ้นห้องไปทันที ผมแอบยิ้มตามก่อนจะค่อยๆเอามือลูบปากตัวเองเพื่อซ้อนรอยยิ้มและความอาย
เช่นกันก่อนจะเดินตามขึ้นห้องไป แต่คนที่ขึ้นมาก่อนไม่รอให้ผมได้พูดอะไร คว้าผ้าเช็ดตัวได้ก็วิ่ง
เข้าห้องน้ำเลยผมรึจะไปอดขำกับความน่ารักแบบนั้นได้ไงกัน
"ไม่เสียแรงที่รอมาตั้งสองปี...เรารักพัทธ์น่ะ" ผมนั่งที่เตียงพร้อมกับพูดตามหลังเบาๆ ผมค่อยๆเปิด
กระเป๋าหยิบเอาของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าออกมาจัดเข้าตู้ ประหนึ่งว่าตอนนี้มันเป็นบ้านผมเช่นกัน
แต่ระหว่างที่เก็บของอยู่พลั่นสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นด้วย ความบังเอิญจริงๆน่ะครับว่าบังเอิญ
นั้นมันหนังสือเตรียมสอบเข้าระดับท๊อบของประเทศเลยน่ะ อย่าบอกผมน่ะว่าพัทธ์คิดจะเข้ามหาลัย
นั้นแบบนี้ผมจะทำไงดี ผมยืนยิ้มคนเดียวอยู่อย่างคนบ้าจนไม่รู้ว่าอีกคนเดินออกมาจากห้องน้ำตั้งแต่
เมื่อไร
"มึงยืนมองอะไรอยู่ตรงนี้?"
"เฮ้ย!..."
"ทำท่าทางมีพิรุท...ตกลงดูอะไรอยู่?"
"พัทธ์จะเขามหาลัยนี้หรอ?" ผมก้มมองที่หลังสือเตรียมสอบกับสลับหันมามองที่หน้าพัทธ์
"ใช่"
"งั้นเราก็อดไปเรียนด้วยกันแล้วซิ"
"กูจะสอบได้รึเปล่ายังไม่รู้เลยอย่าคาดหวังกับเรื่องแบบนี้เถอะ"
"ได้ดิเราเชื่อว่าพัทธ์เข้าได้ แต่เราคงไม่ได้เรียนกับพัทธ์แน่ๆ"
"แล้วทำไมมึงถึงจะเรียนที่เดียวกับกูไม่ได้"
"ก็เกรดเราไม่ดีแถมยังเรียนไม่เก่งด้วยเข้าไปคงโดนไทน์ตั้งแต่ปีแรกแล้ว"
"ดูถูกตัวเองทำไมว่ะมึงยังไม่ได้ลองเลย ถ้าเข้าไม่ได้มหาลัยอื่นก็มีเยอะแยะ"
"งั้นเราจะตั้งใจแล้วกันถ้าเราสอบติที่เดียวกับพัทธ์น่ะเราจะไปวิ่งรอบสนามหลวงเลย"
"พูดแล้วถ้าได้ขึ้นมาทำให้ได้อย่างปากพูดด้วยล่ะ" แม้การที่ผมจะวิ่งรอบสนานหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เลยแต่ถ้ามันเป็นโอกาสให้ผมกับพัทธ์ได้อยู่ด้วยกันต่อ มันก็คุ้มน่ะผมหันไปยิ้มให้คนที่เดินไปนอน
ที่เตียงก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ
หลังจากไอ้ธัญเข้าห้องน้ำไปแล้วผมก็อดยิ้มไม่ได้ แต่อีกใจก็อยากให้มันติดที่เดียวกับผม
น่ะเพราะผมก็อยากเห็นมันวิ่งลิ้นห้อยหอบเหมือนไอ้ตูบ แบบนี้สงสัยผมต้องมันติวมันหนักๆแล้วล่ะ
"อาบน้ำเสร็จแล้วหรอว่ะไวว่ะ" พอไอ้ธัญออกมาผมรีบปรับหน้าให้เป็นปกติทันที
"อืม..ไม่นอนอีกหรอ?...เอ๊ะรึว่ารอนอนพร้อมกัน"
"มึงเนี้ยน่ะ." ผมรีบดึงผ้าขึ้นมาห่มก่อนจะหังหลังนอนทันที
"ปิดไฟแล้วน่ะ?"
"เออ..." ผมไม่หันไปมองมันหรอกไอ้ธัญ แต่เอ๊ะไอ้ธัญค่อยๆขึ้นเตียงดึงผ้าห่มผืนเดียวกับผมแล้ว
ซุกตัวเข้ามาทำไมผ้าก็มีสองผืน ผมรีบหันกลับไปมองผ่านความมึดทำให้เหมือนกับใบหน้าผมชนเข้า
กับอะไรบางอย่างเบาๆ
"ผ้ามึงก็มีทำไมต้องมาแย้งผ้ากูด้วยเนี้ย"
"ห่มคนเดียวมันหนาวห่มด้วยกันแหล่ะอุ่นดี"
"ฉวยโอกาสตลอดน่ะมึง"
"ฉวยโอกาสตรงไหน...ถ้าฉวยโอกาสต้องแบบนี้" ไม่พูดเปล่ามันดึงผมเข้าไปหนุนที่แขนพร้อมกับ
กอดเอาไว้แน่นทันที แต่แปลกที่ทำไมผมกลับไม่รู็สึกรังเกลียด ผมต้องดันมันออกไม่ใช่หรอวะ?
แต่ทำไมกับไม่ทำล่ะแล้วไอ้เสียงหัวใจที่เต้นโครมครามนี้มันอะไรกัน
"อุ่นไหม?...แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวเป็นหวัดแล้ว" ไอ้ธัญพูดพร้อมกับกดปลายจมูกที่หน้าผากของผม
เบาๆผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันหลับรึยังแต่ผมซิจะหลับได้ไหมแบบนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ