ขอบคุณความบังเอิญ
6.3
เขียนโดย zeeto
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.36 น.
17 ตอน
0 วิจารณ์
19.85K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 22.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) ป๊อบคอร์นชีส (รสหวาน)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังจากออกจากลานไอซ์สเก็ต ผมกับไอ้ฝรั่งลูกครึ่งที่ผมไปล้อลวงให้มาเที่ยวด้วย ก็ไป
พักหาน้ำดื่มกันก่อนจะเดินมาที่โรงหนังเพราะถึงรอบฉายพอดี
"โชคดีน่ะที่ไอ้ธัญไม่เห็น" ผมหันไปพูดกับดรันที่เดินถือแก้วน้ำกับป๊อบคอร์นตามเข้ามาในโรงหนัง
อย่างเงียบๆก็ใครจะไปคิดล่ะครับว่าสองคนนั้นจะมาดูหนัง ปกติเอ๊ะอะก็พากันไปติวอย่างเดียววันนี้
คิดอะไรของมันพากันมาเล่นสเก็ต ขึินให้มันเห็นว่าผมพาใครมาด้วยมีหวังโดนซักยาวแน่ แถมคน
ที่มาด้วยก็เป็นเพื่อนสนิทของแฟน(ที่มันมัดมือชก) ของมันอีก งานนี้ได้ยาวทั้งผมทั้งดรันแน่
"นั่งตรงไหนว่ะปรานต์" คนกำลังคิดอะไรเพลินก็ต้องหันไปหาดรัน
"แถวซีที่นั่งเก้ากับสิบ" ผมตอบก่อนจะค่อยๆจับมือกันเดินผ่านความมึดเข้าไปนั่งในโรงหนังที่เก้าอี้
ของตัวเอง ที่ตอนนี้เต็มหมดแล้วแต่เหลืออีกสองที่นั่งข้างๆกับผมที่ยังไม่เข้ามา หนังเขาดีจริงๆ
โชคดีมาจองรอบนี้ไว้ก่อนไม่งั้นได้ไปแหง๋นคอเมื่อยข้างล่างแน่ๆ ว่าแต่ไอ้เจ้าของที่นั่งสิบเอ็ดสิบ
สองมันจะมาไหมถ้าไม่มาจะเอาของวางแล้วน่ะ ผมคิดกับตัวเองในใจก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบ
ป๊อบคอนที่ไอ้ดรันถืออยู่กินบ้าง
"เฮ้ยอย่าแย้งดิ" อ้าวแล้วไงซื้อเองแท้ๆแต่ผมยังไม่ได้กินเลยน่ะมีหวงด้วย
"อะไรว่ะ กินด้วยกันดิอุตส่าซื้อน่ะเนี้ย"
"เออๆก็ได้..." น่ารักดีแหะ เหมือนเด็กหวงของเลยผมหยิบป๊อบคอร์นไปกินไปแอบมองหน้าคนที่
นั่งข้างๆไป จนมาสะดุดก็ตอนเจ้าของที่นั่งข้างๆเดินมานี่แหล่ะผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง ชัดเลย
พระเจ้าช่วยกล้วยทอดเถอะครับโลกแคบรึไง ตอนแรกผมคิดว่าหลบมันพ้นตั้งแต่ที่ลานไอซ์สเก็ต
แล้วน่ะ
"ไอ้ปรานต์?..." เสียงไอ้ธัญทักผมขึ้นผมยิ้มแห้งๆมองหน้าสองคนสลับไปมาพร้อมกับที่พัทธ์ ที่มองมาเช่นกัน
"ไอ้ดรัน"
"อ้าวไอ้พัทธ์ ไอ้ธัญหวัดดี" แหม๋คนมาด้วยยังจะมีมารยาทมาทักอีกน่ะ ด้วยไม่อยากจะโดนคนข้าง
หลังด่าเอาไอ้ธัญกับพัทธ์ค่อยเดินมานั่งตรงที่นั่ง พร้อมกับปรายตามองมาที่ผมเป็นระยะแต่มั่นใจได้
สองคนนี้มันมีมารยาทพอไม่ทำให้โดนด่าแน่นอน แต่หลังจากหนังจบนี่แหล่ะครับ
ผมนั่งดูหนังไปแต่สายตาก็ไม่วายแอบปรายตาไปมองไอ้ปรานต์กับไอ้ดรัน ที่นั่งอยู่ข้างๆ
แน่นอนว่าถ้าผมคลาดสายตา อะไรที่ผมอยากรู้มีหวังเป็นศูนย์แน่เพราะทันทีที่หนังจบ คนอย่างไอ้
ปรานต์ไม่ลั๊นล๊านั่งต่อรอให้ผมยิงคำถามแน่ๆ ผมดูหนังไปก็กินป๊อบคอร์นไปพร้อมกับจับผิดสองคน
ข้างๆ
"มึงตั้งใจดูหนังดิว่ะ อยากดูไม่ใช่หรอ?" พัทธ์ก้มมากระซิบบอกผมเบาๆเพราะรู้ดีว่าตอนนี้ผมสนใจ
หนังเพียงแค่นิดเดียวแต่ที่มากแน่นอนคือไอ้สองตัวข้างๆนี่แหล่ะ
"ก็ดูอยู่ไง"
"ยังจะเถียงอีกน่ะ เห็นอยู่ว่าจ้องไอ้สองคนนั้นจนกระดุกกระดิกไม่ได้แล้วน่ะ" ยังจะมารู้ทันผมอีกน่ะ
ผมหันไปยิ้มก่อนจะทำทีเอื้อมมือล่วงป๊อบคอน ตามที่มือของคนที่ถืออยู่พึ่งล่วงเข้าไปก่อนจะจับมือ
ของพัทธ์ไว้แน่น คนถูกจับมือหันมามองหน้าผมเป็นเชิงบอกให้ปล่อย มีหรอผมจะยอม
"ปล่อยมือกูไอ้ธัญ"
"ไม่ปล่อย...อากาศเย็นจับมือกันไว้จะได้อุ่นๆไง"
"ทะลึ้งน่ะมึง ปล่อยเลยน่ะ"
"อย่าเสียงดังซิเดี๋ยวคนอื่นว่าเอา" ผมแกล้งหยักคิ้วให้พัทธ์ที่ผมรู้ดีว่าคนอย่างเขาคงไม่โวยวาย
แน่นอนแล้วมันก็ได้ผลคนที่ผมจับมืออยู่ดูหนัง ไปพร้อมกับค่อยๆพยายามจะกินป๊อบคอร์นต่อ
"กูจะกินป๊อบคอร์น"
"ก็กินดิ"
"มึงจับมือกูอยู่"
"งั้นเราป้อนเอาป่ะ?"
"ไม่ต้อง" พัทธ์ทำหน้าดุน้อยๆใส่ผม ผมจึงค่อยๆปล่อยมือให้เป็นอิสระก่อนจะเอามือออกมาเช็ด
แล้วนั่งมองอีกคนกินป๊อบคอร์นไปดูหนังไป น่ารักขนาดนี้ขอแกล้งอีกหน่อยไม่เป็นไรมั่งก็โรงหนั
งมันมึดนี่หน่า ทันที่ที่พัทธ์ค่อยๆหยิบป๊อบคอร์นจเข้าปากผมยื่นหน้าเข้าไปกินป๊อบคอร์นในมือนั้น
ทันทีทำให้ริมฝีปากของผมชนเข้ากับริมฝีปากของพัทธ์เฉียดๆ คนโดนแกล้งนิ่งไม่กระดุกกระดิกแต่
เหมือนจะได้สติค่อยๆหันมามองผมที่นั่งเคี้ยวป๊อบคอร์นอย่างมีความสุข
"มึงทำเชี้ยอะไรเนี้ย"
"กินป๊อบคอร์นไงหว๊านหวาน ไหนตอนแรกเราสั่งรสชีสกันไม่ใช่หรอ?"
"อยากตายรึไงทำแบบนี้อายคนอื่นเขาบ้างไหม? กูไม่อยากเป็นข่าวคลิปหลุดจากโรงหนังโว้ย" ผม
ขำคิกคักจนคนในโรงหนังเริ่มหันมามองแล้วล่ะ
"ไอ้ธัญเบาๆหน่อยสองคนมึงเดี๋ยวก็โดนด่าหรอก" ไอ้ปรานต์หันมาสะกิดเพราะเห็นว่าคนเริ่มหันมา
มองผมสองคนแล้ว
"เออโทษทีๆลืมตัว" ผมหันไปสนใจหนังต่อโดยไม่ได้แกล้งอะไรคนนั่งข้างๆที่ตอนนี้เอาแต่นิ่งแต่ถ้า
ผมเดาไม่ผิด ใบหน้าคงแดงมากแล้วล่ะแต่ในโรงหนังมันมึดมองไม่เห็นเท่านั้นเอง
หลังจากที่หนังจบลงผมกับดรันและไอ้ธัญกับพัทธ์ก็เดินออกมาข้างนอก จริงอย่างที่คิดไว้
ไอ้ธัญมันรอช้าซักประวัติผมเต็มที่แล้วล่ะ
"ไปหาอะไรกินกันเถอะ" ผมแกล้งเปลี่ยนประเด็นเพื่อไม่ให้ไอ้ธัญสนใจมาก
"นั้นซิไปหาร้านนั่งกินกัน กูกับพัทธ์มีคำถามเรื่องมึงสองคนอีกยาวเลย"
"เหอะๆเรื่องไรว่ะ?"
"อย่ามาสตอว่ะไอ้ปรานต์...กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องน่ะมึง"
"เอาน่ะๆไปหาร้านนั่งกินกันเถอะกูหิวแล้ว" ผมไม่เข้าใจคนที่มาด้วยจริงๆนอกจากเรื่องกินดรันมัน
เคยสนใจอะไรกับผมบ้างไหมเนี้ย ไอ้ที่ล้อลวงมาได้บอกตรงๆน่ะครับผมก็ล้อมาด้วยของกินทั้งนั้น
แหล่ะ
"แล้วมึงอยากกินอะไรล่ะ?" ผมหันไปถามดรันที่ยืนบ่นหิวอยู่ข้างๆก่อนหันไปมองหน้าพัทธ์กับไอ้ธัญ
ที่ยืนอยู่ด้วย
"พัทธ์อยากกินอะไร?" ไอ้ธัญถามแฟนมันก่อนจะหันมาหาผม
"ให้ไอ้ดรันเลือกแล้วกัน ไอ้ดรันเอาไงมึงอยากกินไร" พึ่งเห็นเวลาสองคนนี้เขาคุยกันครั้งแรกจริงๆ
ไม่คิดว่าเวลาพัทธ์กับดรันคุยกันอย่างแมนเลยอ่ะ (ก็เขาสองคนแมนนี้มีเพื่อนแกแหล่ะจะไปเบี่ยง
เบนให้เขา)
"กูอยากกินส้มตำว่ะแต่ไปหาร้านข้างนอกเหอะดีกว่าบนนี้แพงแม่งรสชาดก็ไม่ได้เรื่อง"
"เออก็ดีปูปลาร้าไม่ได้จัดมานานแล้ว" ผมมองสองคนนี้เขาคุยกันจนเสร็จเรียบร้อย
"งั้นไปกินส้มตำกันน่ะไอ้ธัญมึงว่าไง?"
"พัทธ์กินไรกูก็กินได้หมดอยู่แล้ว"
"ปากดีไปเถอะไอ้ธัญ"
"รู้ได้ไงว่าปากดีรึเคยชิมแล้ว" ดูมันยังจะไปกวนประสาทพัทธ์อีก แต่ความจริงผมก็เห็นเหตุการณ์
ในโรงหนังเมื่อกี้แล้วล่ะว่าไอ้เพื่อนตัวดีของผมมันไปแอบลวนลามพัทธ์แบบไหน คนถูกถามไม่พูด
อะไรอีกนอกจากเดินโอบไหลดรันไปทันที บางทีสองคนนี้เขาก็คล้ายกันน่ะมิหน่าเป็นเพื่อนสนิทกัน
ได้
"ไอ้ปรานต์ตกลงมึงกับไอ้ดรันยังไงว่ะไปสอยฝรั่งมาได้ไง?" โห่ผมอุตส่าพามันอ้อมโลกให้ลืมยัง
มีหน้าเอามือมาโอบไหลผมกระซิบถามอีกเอาว่ะตอบๆไปเถอะไม่งั้นวันนี้ไม่จบแน่
"กูก็แค่ชวนมันมาเที่ยว"
"มันมีมากกว่านั้นไอ้ปรานต์ อย่ามาปิดกู มึงเล่ามาว่าตอนไหนเมื่อไร?"
"ก็เขารอรถที่บ้านมารับตอนเย็นทุกวัน แล้วกูเห็นเขาอยู่คนเดียวจนเย็นกูก็เลยไปรอเป็นเพื่อน ก็
แค่นั้น ทั้งหมดก็เพราะมึงนั้นแหล่ะไปแยกเขากับเพื่อนสนิทออกจากกันรู้ตัวไว้ด้วยไอ้เวร"
"แหม๋อย่างน้อยๆก็ผลประโยชน์กับมึงไม่ใช่หรอชอบอยู่แล้วนี่แบบนี้"
"รู้มากน่ะมึไม่ต้องมากอดคอกู ไปไหนก็ไปเลย" ผมปัดมือไอ้ธัญออกก่อนจะวิ่งไปแย้งดรันมาโอบ
ไหล่เดินแทนจากพัทธ์ทันที
พักหาน้ำดื่มกันก่อนจะเดินมาที่โรงหนังเพราะถึงรอบฉายพอดี
"โชคดีน่ะที่ไอ้ธัญไม่เห็น" ผมหันไปพูดกับดรันที่เดินถือแก้วน้ำกับป๊อบคอร์นตามเข้ามาในโรงหนัง
อย่างเงียบๆก็ใครจะไปคิดล่ะครับว่าสองคนนั้นจะมาดูหนัง ปกติเอ๊ะอะก็พากันไปติวอย่างเดียววันนี้
คิดอะไรของมันพากันมาเล่นสเก็ต ขึินให้มันเห็นว่าผมพาใครมาด้วยมีหวังโดนซักยาวแน่ แถมคน
ที่มาด้วยก็เป็นเพื่อนสนิทของแฟน(ที่มันมัดมือชก) ของมันอีก งานนี้ได้ยาวทั้งผมทั้งดรันแน่
"นั่งตรงไหนว่ะปรานต์" คนกำลังคิดอะไรเพลินก็ต้องหันไปหาดรัน
"แถวซีที่นั่งเก้ากับสิบ" ผมตอบก่อนจะค่อยๆจับมือกันเดินผ่านความมึดเข้าไปนั่งในโรงหนังที่เก้าอี้
ของตัวเอง ที่ตอนนี้เต็มหมดแล้วแต่เหลืออีกสองที่นั่งข้างๆกับผมที่ยังไม่เข้ามา หนังเขาดีจริงๆ
โชคดีมาจองรอบนี้ไว้ก่อนไม่งั้นได้ไปแหง๋นคอเมื่อยข้างล่างแน่ๆ ว่าแต่ไอ้เจ้าของที่นั่งสิบเอ็ดสิบ
สองมันจะมาไหมถ้าไม่มาจะเอาของวางแล้วน่ะ ผมคิดกับตัวเองในใจก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบ
ป๊อบคอนที่ไอ้ดรันถืออยู่กินบ้าง
"เฮ้ยอย่าแย้งดิ" อ้าวแล้วไงซื้อเองแท้ๆแต่ผมยังไม่ได้กินเลยน่ะมีหวงด้วย
"อะไรว่ะ กินด้วยกันดิอุตส่าซื้อน่ะเนี้ย"
"เออๆก็ได้..." น่ารักดีแหะ เหมือนเด็กหวงของเลยผมหยิบป๊อบคอร์นไปกินไปแอบมองหน้าคนที่
นั่งข้างๆไป จนมาสะดุดก็ตอนเจ้าของที่นั่งข้างๆเดินมานี่แหล่ะผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง ชัดเลย
พระเจ้าช่วยกล้วยทอดเถอะครับโลกแคบรึไง ตอนแรกผมคิดว่าหลบมันพ้นตั้งแต่ที่ลานไอซ์สเก็ต
แล้วน่ะ
"ไอ้ปรานต์?..." เสียงไอ้ธัญทักผมขึ้นผมยิ้มแห้งๆมองหน้าสองคนสลับไปมาพร้อมกับที่พัทธ์ ที่มองมาเช่นกัน
"ไอ้ดรัน"
"อ้าวไอ้พัทธ์ ไอ้ธัญหวัดดี" แหม๋คนมาด้วยยังจะมีมารยาทมาทักอีกน่ะ ด้วยไม่อยากจะโดนคนข้าง
หลังด่าเอาไอ้ธัญกับพัทธ์ค่อยเดินมานั่งตรงที่นั่ง พร้อมกับปรายตามองมาที่ผมเป็นระยะแต่มั่นใจได้
สองคนนี้มันมีมารยาทพอไม่ทำให้โดนด่าแน่นอน แต่หลังจากหนังจบนี่แหล่ะครับ
ผมนั่งดูหนังไปแต่สายตาก็ไม่วายแอบปรายตาไปมองไอ้ปรานต์กับไอ้ดรัน ที่นั่งอยู่ข้างๆ
แน่นอนว่าถ้าผมคลาดสายตา อะไรที่ผมอยากรู้มีหวังเป็นศูนย์แน่เพราะทันทีที่หนังจบ คนอย่างไอ้
ปรานต์ไม่ลั๊นล๊านั่งต่อรอให้ผมยิงคำถามแน่ๆ ผมดูหนังไปก็กินป๊อบคอร์นไปพร้อมกับจับผิดสองคน
ข้างๆ
"มึงตั้งใจดูหนังดิว่ะ อยากดูไม่ใช่หรอ?" พัทธ์ก้มมากระซิบบอกผมเบาๆเพราะรู้ดีว่าตอนนี้ผมสนใจ
หนังเพียงแค่นิดเดียวแต่ที่มากแน่นอนคือไอ้สองตัวข้างๆนี่แหล่ะ
"ก็ดูอยู่ไง"
"ยังจะเถียงอีกน่ะ เห็นอยู่ว่าจ้องไอ้สองคนนั้นจนกระดุกกระดิกไม่ได้แล้วน่ะ" ยังจะมารู้ทันผมอีกน่ะ
ผมหันไปยิ้มก่อนจะทำทีเอื้อมมือล่วงป๊อบคอน ตามที่มือของคนที่ถืออยู่พึ่งล่วงเข้าไปก่อนจะจับมือ
ของพัทธ์ไว้แน่น คนถูกจับมือหันมามองหน้าผมเป็นเชิงบอกให้ปล่อย มีหรอผมจะยอม
"ปล่อยมือกูไอ้ธัญ"
"ไม่ปล่อย...อากาศเย็นจับมือกันไว้จะได้อุ่นๆไง"
"ทะลึ้งน่ะมึง ปล่อยเลยน่ะ"
"อย่าเสียงดังซิเดี๋ยวคนอื่นว่าเอา" ผมแกล้งหยักคิ้วให้พัทธ์ที่ผมรู้ดีว่าคนอย่างเขาคงไม่โวยวาย
แน่นอนแล้วมันก็ได้ผลคนที่ผมจับมืออยู่ดูหนัง ไปพร้อมกับค่อยๆพยายามจะกินป๊อบคอร์นต่อ
"กูจะกินป๊อบคอร์น"
"ก็กินดิ"
"มึงจับมือกูอยู่"
"งั้นเราป้อนเอาป่ะ?"
"ไม่ต้อง" พัทธ์ทำหน้าดุน้อยๆใส่ผม ผมจึงค่อยๆปล่อยมือให้เป็นอิสระก่อนจะเอามือออกมาเช็ด
แล้วนั่งมองอีกคนกินป๊อบคอร์นไปดูหนังไป น่ารักขนาดนี้ขอแกล้งอีกหน่อยไม่เป็นไรมั่งก็โรงหนั
งมันมึดนี่หน่า ทันที่ที่พัทธ์ค่อยๆหยิบป๊อบคอร์นจเข้าปากผมยื่นหน้าเข้าไปกินป๊อบคอร์นในมือนั้น
ทันทีทำให้ริมฝีปากของผมชนเข้ากับริมฝีปากของพัทธ์เฉียดๆ คนโดนแกล้งนิ่งไม่กระดุกกระดิกแต่
เหมือนจะได้สติค่อยๆหันมามองผมที่นั่งเคี้ยวป๊อบคอร์นอย่างมีความสุข
"มึงทำเชี้ยอะไรเนี้ย"
"กินป๊อบคอร์นไงหว๊านหวาน ไหนตอนแรกเราสั่งรสชีสกันไม่ใช่หรอ?"
"อยากตายรึไงทำแบบนี้อายคนอื่นเขาบ้างไหม? กูไม่อยากเป็นข่าวคลิปหลุดจากโรงหนังโว้ย" ผม
ขำคิกคักจนคนในโรงหนังเริ่มหันมามองแล้วล่ะ
"ไอ้ธัญเบาๆหน่อยสองคนมึงเดี๋ยวก็โดนด่าหรอก" ไอ้ปรานต์หันมาสะกิดเพราะเห็นว่าคนเริ่มหันมา
มองผมสองคนแล้ว
"เออโทษทีๆลืมตัว" ผมหันไปสนใจหนังต่อโดยไม่ได้แกล้งอะไรคนนั่งข้างๆที่ตอนนี้เอาแต่นิ่งแต่ถ้า
ผมเดาไม่ผิด ใบหน้าคงแดงมากแล้วล่ะแต่ในโรงหนังมันมึดมองไม่เห็นเท่านั้นเอง
หลังจากที่หนังจบลงผมกับดรันและไอ้ธัญกับพัทธ์ก็เดินออกมาข้างนอก จริงอย่างที่คิดไว้
ไอ้ธัญมันรอช้าซักประวัติผมเต็มที่แล้วล่ะ
"ไปหาอะไรกินกันเถอะ" ผมแกล้งเปลี่ยนประเด็นเพื่อไม่ให้ไอ้ธัญสนใจมาก
"นั้นซิไปหาร้านนั่งกินกัน กูกับพัทธ์มีคำถามเรื่องมึงสองคนอีกยาวเลย"
"เหอะๆเรื่องไรว่ะ?"
"อย่ามาสตอว่ะไอ้ปรานต์...กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องน่ะมึง"
"เอาน่ะๆไปหาร้านนั่งกินกันเถอะกูหิวแล้ว" ผมไม่เข้าใจคนที่มาด้วยจริงๆนอกจากเรื่องกินดรันมัน
เคยสนใจอะไรกับผมบ้างไหมเนี้ย ไอ้ที่ล้อลวงมาได้บอกตรงๆน่ะครับผมก็ล้อมาด้วยของกินทั้งนั้น
แหล่ะ
"แล้วมึงอยากกินอะไรล่ะ?" ผมหันไปถามดรันที่ยืนบ่นหิวอยู่ข้างๆก่อนหันไปมองหน้าพัทธ์กับไอ้ธัญ
ที่ยืนอยู่ด้วย
"พัทธ์อยากกินอะไร?" ไอ้ธัญถามแฟนมันก่อนจะหันมาหาผม
"ให้ไอ้ดรันเลือกแล้วกัน ไอ้ดรันเอาไงมึงอยากกินไร" พึ่งเห็นเวลาสองคนนี้เขาคุยกันครั้งแรกจริงๆ
ไม่คิดว่าเวลาพัทธ์กับดรันคุยกันอย่างแมนเลยอ่ะ (ก็เขาสองคนแมนนี้มีเพื่อนแกแหล่ะจะไปเบี่ยง
เบนให้เขา)
"กูอยากกินส้มตำว่ะแต่ไปหาร้านข้างนอกเหอะดีกว่าบนนี้แพงแม่งรสชาดก็ไม่ได้เรื่อง"
"เออก็ดีปูปลาร้าไม่ได้จัดมานานแล้ว" ผมมองสองคนนี้เขาคุยกันจนเสร็จเรียบร้อย
"งั้นไปกินส้มตำกันน่ะไอ้ธัญมึงว่าไง?"
"พัทธ์กินไรกูก็กินได้หมดอยู่แล้ว"
"ปากดีไปเถอะไอ้ธัญ"
"รู้ได้ไงว่าปากดีรึเคยชิมแล้ว" ดูมันยังจะไปกวนประสาทพัทธ์อีก แต่ความจริงผมก็เห็นเหตุการณ์
ในโรงหนังเมื่อกี้แล้วล่ะว่าไอ้เพื่อนตัวดีของผมมันไปแอบลวนลามพัทธ์แบบไหน คนถูกถามไม่พูด
อะไรอีกนอกจากเดินโอบไหลดรันไปทันที บางทีสองคนนี้เขาก็คล้ายกันน่ะมิหน่าเป็นเพื่อนสนิทกัน
ได้
"ไอ้ปรานต์ตกลงมึงกับไอ้ดรันยังไงว่ะไปสอยฝรั่งมาได้ไง?" โห่ผมอุตส่าพามันอ้อมโลกให้ลืมยัง
มีหน้าเอามือมาโอบไหลผมกระซิบถามอีกเอาว่ะตอบๆไปเถอะไม่งั้นวันนี้ไม่จบแน่
"กูก็แค่ชวนมันมาเที่ยว"
"มันมีมากกว่านั้นไอ้ปรานต์ อย่ามาปิดกู มึงเล่ามาว่าตอนไหนเมื่อไร?"
"ก็เขารอรถที่บ้านมารับตอนเย็นทุกวัน แล้วกูเห็นเขาอยู่คนเดียวจนเย็นกูก็เลยไปรอเป็นเพื่อน ก็
แค่นั้น ทั้งหมดก็เพราะมึงนั้นแหล่ะไปแยกเขากับเพื่อนสนิทออกจากกันรู้ตัวไว้ด้วยไอ้เวร"
"แหม๋อย่างน้อยๆก็ผลประโยชน์กับมึงไม่ใช่หรอชอบอยู่แล้วนี่แบบนี้"
"รู้มากน่ะมึไม่ต้องมากอดคอกู ไปไหนก็ไปเลย" ผมปัดมือไอ้ธัญออกก่อนจะวิ่งไปแย้งดรันมาโอบ
ไหล่เดินแทนจากพัทธ์ทันที
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ