[FIC GINTAMA]AllGIN เหตุมันเกิด เพราะว่าผมเหงา

-

เขียนโดย kakaoki_ki

วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.21 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  10.66K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 21.52 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

:chapter 4:

 

 

“ปล่อยชั้นลงได้แล้ว นายไม่หนักรึไง” ผมบอกโซโกะให้เลิกอุ้มผมได้แล้ว เพราะตอนนี้เผมกับโซโกะก็เข้ามาอยู่ในสำนักงานชินเซ็นกุมิแล้ว กว่าจะเข้ามาได้ก็ลำบากอยู่เหมือนกัน แต่ดีหน่อยที่มันดึกแล้วคนเลยไม่ค่อยเพ่นพ่าน

 

ที่เค้าพาผมมาที่นี่เพราะอย่างแรกเลย ยัยหมวยกับชินปาจิคงจะกลับมาจากไปเที่ยวแล้ว ถ้าพวกนั้นเห็นผมในสภาพห่อผ้าผืนเดียว ลอยจูบเต็มตัว มีน้ำสีขาวขุ่นไหลตามหว่างขา มีหวัง....

 

ตูซวยแน่นอน...

 

อ่ออ แล้วก็ตอนที่ผมกับร่างสูงกำลังจะลงมาจากเขาโซโกะมันหยิบโทรสับขึ้นมาดูผมจึงเห็นว่าเราอยู่ในห้องนรกนั่นมา3วันแล้ว อะไรจะนานขนาดนั้น! ตั้งแต่เกิดมาผมมีเซ็กข้ามวันข้ามคืนเป็นครั้งแรกเลยนะ ไม่อยากเชื่อว่าจะมาลงเอยกับเจ้าเด็กบ้าปากดีแถมsสุดๆ ตลอด3วันที่อยู่ในห้องนั้นเจ้าเด็กนี่คอยหาเอาของมาทรมานผมทุกเวลา แต่ผมก็ไม่ปฎิเสธหรอกนะว่ามันสุดยอดแค่ไหนน่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

 

ที่หน้าตื่นเต้นกว่าก็คือมันดันพามาที่นี่ ถ้าเจ้าบ้ามายองเนสเห็นล่ะก็ผมคงไม่ตายดีแน่ ผมจะบอกฮิจิคาตะว่าไงดีนะ..

 

ชั่งเถอะ ตอนนี้ต้องจัดการกับสภาพที่เหมือนโดนควายป่าทั้งฝูงรุมโทรมก่อน

 

คิดได้ดังนั้นผมก็บอกร่างสูงทันทีว่าอยากจัดการกับสภาพตัวเอง

 

ร่างสูงบอกจะไปด้วยเพราะสภาพเค้าก็ไม่ต่างกันจากผมเท่าไหร่ ลอยจูบสีแดงเต็มซอกคอ ตรงหัวไหล่ก็มีลอยฟันผมกับลอยเล็บ ไม่ต้องแปลกใจ เพราะผมก็มีลอยแบบเดียวกันแต่ลอยฟันจะเยอะกว่า แล้วยังมีลอยเขียวเป็นจ้ำๆ....เฮ้ออออ

 

ทำไมชั้นถึงยอมให้ทำแบบนี้นะ!

 

หลังจากพวกผมอาบน้ำล้างตัวเส็จตอนนี้เราก็กลับมาที่ห้องของร่างสูงอีกครั้ง ผมขอโซโกะกลับไปที่ร้านรับจ้างสารพัดเพราะนี่ก็หลายวันแล้วที่ยังไม่กลับไป กลัวพวกยัยหมวยกับชินปาจิจะเป็นห่วง โซโกะพยักหน้ารับและไม่วายจะพูดจากวนทีนกลับ

 

“ลูกพี่ค้าบบ ไว้วันหลังเรามาสนุกด้วยกันอีกนะ หึหึ ลูกพี่น่ะร้อนแรงสุดๆ..”

 

“หึ ชั้นก็ชอบที่นายเป็นแบบนี้นะ แต่ว่า.....ชั้นชอบไอ่นั่นของนายมากว่า..หึหึ” ผมพูดติดตลกและยิ้มยั่วก่อนจะเดินจากมา

 

ผมเดินมาเลื่อยเปลื่อยเพราะจำได้ว่าไม่ได้กินอะไรมา3วันแล้ว ถึงจะบอกเจ้าเด็กนั่นว่าหิวแต่พอเห็นห้องน้ำก็ลืมเรื่องหิวไปเลย

 

พวกนั้นคงกินข้าวและเข้านอนกันหมดแล้ว เพราะเวลานี้มันดึกมาก ไม่น่าจะมีใครออกมาเดินด้วยซ้ำ

 

ผมคงต้องไปฝากท้องกับร้านข้าวขาประจำอีกแล้ว

 

ผมเดินไปยังร้านข้าวพร้อมเปิดประตูออกช้าๆ

 

ร้านข้าวร้านนี้เค้าเปิดทั้งวันเพราะงั้นไม่ต้องห่วงว่าร้านจะปิด

 

ผมเดินเข้าไปข้างในร้านพรางคิดอะไรเลื่อยเปื่อยโดยไม่ได้มองคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วสั่งอาหารตามแบบฉบับของผม

 

“เอา...”

 

“กินโทกิด้ง / ฮิจิคาตะสเปเชี่ยว ที่นึงครับ”

 

เอ้ะ...

 

เสียงแบบนี้….

 

แถมอาหารสุนัขที่สั่งไปเมื่อกี้..

 

ควับ!!

 

ผมหันไปมองคอแทบเคล็ดก็พบว่าเป็นร่างสูงของใครบางคนที่นั่งข้างกันกำลังทำหน้าเหวอไม่แพ้กับผม

 

“ฮิ..ฮิจิคาตะ..”ผมเรียกชื่อของอีกฝ่ายติดๆขัดๆ

 

ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกันเร็วขนาดนี้ ถึงจะอาบน้ำล้างกายออกแล้วแต่ก็ยังมีสิ่งที่ล้างไม่ออกอยู่เต็มตัว

 

ผมรีบดึงคอเสื้อขึ้นสูงเพื่อปิดบังร่องลอยที่ใครบางคนได้ทำไว้

 

“ไง แกหายไปไหนมาตั้ง3วัน แกไม่คิดจะบอกอะไรชั้นหน่อยหรอ” ร่างสูงทำหน้าเคลียดใส่ผม

 

ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายที่ตอนนี้มันเริ่มดุดันขึ้นเลื่อยๆ

 

“ฮ่ะ..ฮ่าฮ่าฮ่า ขอโทษนะ พอดีชั้นรับงานใหญ่มา มันใช้เวลาเยอะไปหน่อย..แหะๆ” ผมแก้ตัวน้ำขุ่นๆพรางเกาแก้มแก้เก้อ

 

เหมือนร่างสูงจะดูออกว่าผมโกหก เค้าช้อนตามองมาที่คอเสื้อของผมที่ปกติจะเปิดโชวคอขาวระหง

 

แต่ตอนนี้กลับติดกระดุมทุกเม็ด ไม่พอ ยังดึงขึ้นสูงผิดปกติ

 

“แล้วแกเป็นอะไร ไม่ร้อนหรอไง ติดกระดุมจำคอซะขนาดนั้น?” ใจผมกระตุกวูบ กลัวว่าอีกฝ่ายจะจับได้ว่าภายใต้เสื้อของผมมีอะไร

 

“ร้อนอะร้ายยยย หนาวจะตายยย ดูสิ ขนาดพี่ชายตรงนู้นยังใส่เสื้อกันหนาวทับเสื้อฮูดเลย.” ผมชี้นิ้วไปทางผู้ชายตัวใหญ่คนนึง ปากก็แถไปเลื่อยครับ

 

“เอ้า กินโทกิด้ง แล้วก็ ฮิจิคาตะสเปเชี่ยว ได้แล้วครับบบ!”

 

เหมือนเสียงสวรรค์ พออาหารมาปุ้บผมก็หันมาสนใจของตรงหน้าและทำเป็นเปลี่ยนเรื่องทันที

 

“นี่ๆ ฮิจจี้ ทำไมนายถึงออกมานั่งกินข้าวดึกดื่นแบบนี้อ่าา มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ รู้มั้ยยย” ผมกอดแขนแสร้งทำเป็นออเซาะอีกฝ่ายเหมือนจะได้ผลเพราะตอนนี้สายตาของร่างสูงดูจะเป็นปกติแล้ว ไม่มีแววจับผิดอีก

 

“ก็ป่าว พอดีชั้นคิดถึงหน้าตาปัญญาอ่อนของใครบางคน เลยออกมาร้านประจำที่ชอบนั่งกินข้าวด้วยกัน ก็แค่นั้น” ร่างสูงยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้ ถึงจะเป็นคำพูดหมาไม่รับประทานแต่ในเวลานี้ผมกลับสนใจแต่รอยยิ้มของอีกฝ่าย มันช่าง...

 

หล่อ.... ดูดีอะไรขนาดนี้...

 

ชักอยากแล้วสิ...

 

อยากงั้นหรอ..

 

ห้ะ! อยากบ้าอยากบออะไรล่ะ บ้าบ้าบ้า ผมหมายถึงอยากเห็นเค้ายิ้มอีกต่างหากล่ะ!

 

 

 

HIJIKATA PART

 

“กินโทกิ”

 

“เฮ้..ได้ยินชั้นมั้ย”ผมเรียกเจ้าของผมสีเงินสวยน่าสัมผัสอีกครั้งพรางใช้นิ้วดีดหน้าผากเจ้าตัวเล็กที่ตอนนี้เหมือนจะอยู่ในโลกส่วนตัวไปแล้ว

 

“อ้ะ! เจ็บอ่าาาาาาา” กินโทกิร้องงอแงออกมาเสียงดัง มือกุมหน้าผากแล้วก้มลงซบหน้ากับแผงอกของผม

 

ดีนะที่ในเวลาดึกดื่นแบบนี้ ไม่มีคนเข้ามาในร้านแถมเจ้าของร้านก็หายไปไหนไม่รู้ไม่งั้นได้เป็นเป้าสายตาแน่ๆ แต่ว่าท่าทางของเจ้านี่มัน....ช่างน่ารัก ทำไมถึงออดอ้อนเค้าขนาดนี้ ปกตินานๆทีจะทำแท้ๆ หรือเพราะไม่ได้เจอกันหลายวันคนตัวเล็กอาจอยากให้ผมสนใจก็เป็นได้ ก็คงไม่พ้นเหงาอีกแน่...

 

“ฮิจจี้...ชั้นเจ็บ..เป่าให้หน่อยสิ...นะ..” ร่างบางละออกจากอกแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเชิงขอร้อง

 

ผมจับหน้าผากมนของอีกฝ่ายที่ตอนนี้ขึ้นสี พรางลูบเบาๆอย่างทนุทนอมเหมือนกลัวว่าร่างบางจะบุบสลาย

 

ผมเป่าลมหายใจใส่หน้าผากคนตัวเล็กกว่าแล้วก้มหน้าลงจุมพิตเบาๆที่ลอยแดง

 

ร่างบางหลับตาพริม มือทั้งสองกำเสื้อตรงหน้าอกของผมแน่น

 

ผมผละออกจากหน้าผากมน แล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง

 

ตอนนี้ผมใส่ชุดยูคาตะธรรมดาครับ ดูเหมือนร่างบางจะกำแน่นเกินเสื้อเลยยับยู่ยี่เผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง

 

พอลืมตาขึ้นมา กินโทกิก็หน้าแดงแป๊ดทันที

 

“อายทำไม ก็เห็นกันออกจะบ่อย” ผมพรางส่งยิ้มกรุ่มกริ่มให้

 

“ก็ส่วนมากชั้นจะมองแต่ไอ่นั่นของนายน่ะสิ...แหม..” นั่นไง ในที่สุดก็ยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าน้องชายของชั้นมันน่ากินแค่ไหน หึหึ

 

“นี่ก็3วันแล้วนะ ไม่คิดถึงมันรึไง.. หึหึ” ผมพูดพรางขยับขาถ่างออกเล็กน้อย เผยให้เห็นอะไรบางอย่างที่นูนอยู่ใต้ชุดยูคาตะ

 

ตอนนี้ร่างบางกำลังนั่งจ้องมาที่เป้าของผมครับ ดูสิ เจ้าหัวหยอยมันน่ารักขนาดไหนครับ จ้องไปหน้าก็เริ่มขึ้นสีเลื่อยๆครับ คนอะไรซื่อแล้วยังน่ารักอีก จะไม่ให้ผมหลงหัวปักหัวปำได้ไงล่ะ หึ ดีนะที่กินโทกิมันไม่ค่อยสนใจคนอื่นนอกจากผม ไม่งั้นมีหวังผมคงปวดหัวแน่ๆเลย

 

“ไง ทำไมไม่กินข้าวต่อ?อิ่มแล้วหรอครับ ที่รัก?” ร่างบางลอบกลืนน้ำลายดังเอื้อก แล้วหันหน้ากลับไปกินอาหารตรงหน้าต่อ

 

“อะ..อะไรเล่าาา คุณกินก็กำลังรับประทานอยู่นี่ไงเจ้าบ้าาาาาา” ผมยิ้มให้กับคนตรงหน้าแล้วหันมาจัดการกับอาหารของตนต่อ

 

แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับรอยบางอย่างสีแดงสีเขียวตรงคอของร่างบางที่ตอนแรกติดกระดุมจำคอผิดปกติสงสัยกระดุมจะหลุดตอนที่เราหยอกล้อกันม่ะกี้

 

ผมเหลือบมองหลายครั้ง รอยแบบนี้มัน...

 

ไม่หรอกมั้ง

 

ไม่มีทางหรอก

 

สงสัยตอนทำงานจะโดนแมลงกัดไม่ก็เป็นผื่น

 

แต่ไม่ว่าจะมองในแง่ดีแค่ไหน..

 

รอยแบบนี้มันก็...

 

“มีอะไรหรอฮิจิคาตะ? นายเป็นอะไรรึป่าว” กินโทกิทักขึ้นเพราะเห็นผมนั่งเงียบเป็นใบ้กินไม่ยอมตักข้าวเข้าปากแถมยังนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื่อน

 

“ป่าว ชั้นแค่คิดอะไรเลื่อยเปื่อย” ผมตักข้าวกินอีกครั้งแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ผมต้องรู้ให้ได้ว่ารอยบ้านั้นมันคืออะไร!!!

 

 

To Be continued.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา