เจ้าสาวบ้านไร่

9.2

เขียนโดย Chapond

วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.14 น.

  45 ตอน
  342 วิจารณ์
  72.21K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม พ.ศ. 2560 17.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) 5 เธอคือ ของขวัญ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แต่เราไม่รู้จักกันมาก่อน และชั้นก็ไม่รู้จักคุณ”ฟางมองหน้าป๊อปปี้ก่อนที่ชายหนุ่มจะคลายกอดฟาง

ออกเมื่อเห็นเธอสงบลงก่อนที่ร่างบางจะบอกชายหนุ่มแล้วอดซึมลงไปอีกครั้งไม่ได้พลางนั่งกอดเข่า

อยู่บนเตียง

 

 

 

 

 

 

 

“ถึงก่อนหน้านั้นเราไม่รู้จักแต่ตอนนี้ผมรู้จักคุณแล้วนะ ไม่ต้องกลัว ผมกับเพื่อนเราไม่ทำร้ายคุณและ

ก็ไม่มีวันทิ้งคุณให้อยู่ตามลำพังแน่นอน ผมสัญญา”ป๊อปปี้พูดพลางชูนิ้วก้อยตัวเองออกมาแล้วยิ้ม

 

 

 

 

 

 

 

“อื้อ คุณสัญญากับชั้นแล้วนะ”ฟางยิ้มออกมาแล้วเกี่ยวก้อยกับป๊อปปี้แทนคำสัญญาที่ทั้งคู่มีให้กัน

 

 

 

 

 

 

 

“ฮัลโหลครับ พี่กิ๊ป อะไรนะครับ ทรีตกต้นไม้ ป๊อปไปหาลูกด่วนเลย”เขื่อนมองภาพนั้นแล้วอดยิ้ม

ตามไม่ได้ก่อนที่จะบอกเพื่อนชาย

 

 

 

 

 

 

 

 

“คุณจะไปไหนน่ะ/เดี๋ยวผมมานะคุณ เชื่อใจผมนะ ผมจะไม่ทิ้งคุณ”ฟางตกเมื่อป๊อปปี้จะไปจาก

ตนเองก็รีบดึงเสื้อยืดของเขารั้งไว้ ป๊อปปี้มองร่างบางก่อนที่จะบอก แล้วขอตัวออกไปหาลูกของเขา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ความจริงน้องแก้วไม่น่าทำแบบนั้นเลยนะครับ คนรวยพวกนั้นอยากจะเอาเงินฟาดใครต่อใครก็จริง

ในเมื่อเค้าเอาให้เราแล้ว เราก็มีสิทธิ์รับนี่ ขนหน้าแข้งเจ้าพวกนั้นมันไม่ร่วงหรอกน่า”ฟลุ้คพูดเมื่อ

กลับเข้ามาในออฟฟิศในตลาดกับแก้วหลังจากเขาและเธอไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวในตลาด

แทน

 

 

 

 

 

“แก้วไม่อยากติดหนี้บุญคุณใครค่ะพี่ฟลุ้คโดยเฉพาะคนอย่างพวกนั้น พวกจิ้งจอกหน้าเงิน ทำทุก

อย่างเพื่อเงินและเห็นแก่ตัวแบบนั้น”แก้วเงียบก่อนที่จะพูดตอบกลับชายหนุ่ม

 

 

 

 

 

 

 

“เอาอย่างที่น้องแก้วว่าก็ได้ครับ จริงงสิวันนี้เราไปดูหนังกันมั้ยครับพอดีมีหนังพึ่งเข้าโรง/พี่ฟลุ้คคะ

เอกสารแก้วยังเคลียร์ไม่หมดเลย แก้วขอเป็นคราวหน้าแล้วกันนะคะ”ฟลุ้คชะงักก่อนจะรีบเปลี่ยน

เรื่องมาเรื่องชวนแก้วแต่แก้วรีบพูดจัดบททำให้ฟลุ้คมองร่างบางที่เอาแต่ทำงานสักพักแล้วเดินออก

ไป แก้วมองฟลุ้คที่เดินออกไปแล้วโล่งใจก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ความจริงทรีไม่เป็นมากหรอกครับพ่อป๊อปไม่เห็นต้องมาโรงพยาบาลแบบนี้เลย ที่โรงพยาบาลน่า

เบื่อจะตาย ไม่มีของเล่น ไม่มีลูกโป่ง”ทรีบ่นอุบเมื่อตัวเองนั่งรถเข็นออกมาและมีผ้าพันแผลพันไว้ที่

แขนขวาเป็นแบบสามเหลี่ยม

 

 

 

 

 

 

 

 

“เจ้าแสบของพ่อ ยังจะบอกไม่เป็นไรได้ไง แขนเคล็ดแบบนี้ ดีนะที่แขนไม่หัก ไม่งั้นแม่โฟร์คงบิน

กลับมาแหกอกพ่อพอดี”ป๊อปปี้พูดต่อ

 

 

 

 

 

 

 

 

“งั้นวันไปกระโดดให้ตกต้นไม้บ้างดีกว่า แม่โฟร์จะได้กลับมา/พอเลยค่ะน้องวัน พี่กิ๊ปใจหายใจคว่ำ

กับน้องทรีไปคนละ อย่าทำแบบนี้สิคะพี่เป็นห่วง”วันได้ยินเช่นนั้นก็รีบออกความคิดเห็นตัวเองก่อนที่

กิ๊ปซี่จะรีบพูดเพื่อเอาใจลูกๆของป๊อปปี้บ้าง

 

 

 

 

 

 

“ตายแล้วคุณจะไปไหนคะ คุณยังไม่หายดีเลยนะคะ ใครอยู่แถวนั้นช่วยจับคนไข้หน่อย”แต่แล้วก็มี

เสียงเอะอะโวยวายของนางพยาบาลทำให้พวกของป๊อปปี้ต้องหันไปมองฟางที่วิ่งหนีไม่ให้บุรุษ

พยาบาลและนางพยาบาลจับตัวราวกับวิ่งไล่จับ

 

 

 

 

 

 

 

“พ่อคะพี่เค้าเป็นเด็กดื้อหรอคะทำไมพี่พยาบาลต้องไล่จับแบบนั้นด้วย”ทูเห็นฟางวิ่งแบบนั้นก็หันไป

ถามพ่อ ป๊อปปี้ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปขวางหน้าฟางไว้ทำให้ฟางที่รีบวิ่งไปไม่ทันมองทางข้างหน้า ชน

ชายหนุ่มจนล้มไปทั้งคู่และตกอยู่ในอ้อมกอดของป๊อปปี้ที่รับเธอได้ทันที

 

 

 

 

 

 

 

“จะหนีไปไหนน่ะคุณ ทำโรงพยาบาลวุ่นไปหมดแล้วนะ/ก็คุณหายไปนานนิ ชั้นคิดว่าคุณจะทิ้งชั้นไป

แล้ว”ป๊อปปี้มองคนตัวเล็กที่กำลังกอดแล้วพูดเชิงดุร่างบางนิดๆก่อนที่ฟางจะกระพริบตาปริบๆแล้ว

ตอบชายหนุ่มราวกับเป็นเด็กถูกผู้ใหญ่ดุ ทำเอาป๊อปปี้แอบขำกับคำตอบของฟางก่อนที่ทั้งคู่จะ

ประคองกันให้ลุกกขึ้น

 

 

 

 

 

 

“คุณป๊อปรู้จักแม่คนไข้คนนี้ด้วยหรอคะ”กิ๊ปซี่เห็นป๊อปปี้อยู่กับฟางก็ไม่รอช้ารีบดึงเจ้านายของตัวเอง

ออกมาแล้วรีบแสดงความเป็นเจ้าของทันที

 

 

 

 

 

 

 

“คนนี้เมียคุณหรอ/เปล่านะ คืองี้ครับพี่กิ๊ป ผมกับเขื่อนช่วยผู้หญิงคนนี้จากอุบัติเหตุเมื่อวันก่อนครับ

แล้วเธอพึ่งฟื้นแถมความจำเสื่อม เลยไม่คุ้นชินกับคนที่นี่ผมกับเขื่อนเลยต้องอยู่เป็นเพื่อนเธอน่ะ

ครับ”ฟางมองกิ๊ปซี่แล้วพูดขึ้นมาตรงๆก่อนที่ป๊อปปี้จะรีบสวนกลับมาทันที โดยที่อธิบายให้ทุกคน

เข้าใจ

 

 

 

 

 

 

“ดูจากท่าทางแม่นี่วิ่งเดินเหินได้แบบนี้ก็คงจะหายแล้วนี่คะ ไม่จำเป็นจะต้องมาดูแลบ่อย เค้าคงจะ

อยากกลับบ้าน คุณป๊อปคะ รีบกลับบ้านเราเถอะค่ะ”กิ๊ปซี่มองหน้าฟางอย่างไม่ชอบใจก่อนที่จะพูด

ต่อพลสงกระแนะกระแหนฟาง

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ได้นะ คุณจะทิ้งชั้นไปจริงๆหรอ ไหนเราสัญญากันแล้วไงว่าคุณจะไม่ทิ้งชั้น ชั้นไม่รั้กใครที่นี่

จริงๆ ที่นี่ที่ไหนก็ไม่รู้ ฮึก แล้วคุณะทิ้งชั้นไปอีกคนหรอ ฮือๆ”ฟางได้ยินเช่นนั้นก็รีบดึงรั้งแขนป๊อปปี้

ไว้ก่อนที่จะเริ่มกลัวและร้องไห้ออกมาเสียงดังจนทำให้ป๊อปปี้และเขื่อนเหวอกับอาการของฟางก่อน

ที่ชายหนุ่มทั้ง2จะปลอบใจร่างบางให้เลิกร้องไห้ซะ

 

 

 

 

 

 

 

“อย่าร้องสิคุณ คนเค้าทองกันทั้งโรงบาลแล้วนะ ผมไม่ทิ้งคุณไปไหนซักหนอ่ย แต่ผมแค่ต้องมา

ดูแลลูกดูแลครอบครัวของผมบ้างสิ อย่างอแงเลย เลิกร้องไห้เถอะนะ”ป๊อปปี้พาฟางไปนั่งก่อนจะนั่ง

ลงคุกเข่าตรงหน้าแล้วปลอบร่างบางเอาไว้

 

 

 

 

 

 

 

“ฮึก คุณนี่ดีจังมีครอบครัวด้วย แต่ชั้นไม่มีใคร บ้านชั้นอยู่ไหนชั้นก็ไม่รู้ แล้วชั้นเป็นใครชั้นก็ไม่รู้

ฮือๆ”ฟางเห็นป๊อปปี้ที่ห่วงใยตนก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้งกับอาการความจำเสื่อมของตัว

เอง จนป๊อปปี้แทบส่ายหน้ากับฟาง

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ร้องไห้นะคะคนดีเดี๋ยวไม่สวยนะ/พ่อป๊อปฮะ ก็ถ้าเกิดพี่เค้าไม่มีบ้านก็มาอยู่บ้านเราก็ได้นี่ฮะ ไร่

ของเราตั้งกว้าง พี่เค้าอยู่กับเราได้สบายเลย”ทูเดินไปแตะมือฟางให้หยุดร้องแล้วเช็ดน้ำตาให้ก่อน

ที่ทรีจะพูดแสดงความคิดเห็นออกมา

 

 

 

 

 

 

 

“ดีเลยหลงมาเหมือนเจ้าหมูหลงที่เราเจอเมื่อวันก่อน ก็ให้นอนกับเจ้าหมูหลงไปเลยสิฮะพ่อ”วันมอง

ฟางนิดนึงก่อนที่จะพูดออกมาตรงๆ

 

 

 

 

 

 

“วันครับ พี่เค้าไม่ใช่หมูนะครับพี่เค้าเป็นคนจะนอนคอกหมูได้ยังไง เอางี้คุณ ถ้าออกจากโรง

พยาบาลแล้วคุณจะไปพักกับผมก่อนที่ไร่ก็ได้นะ ค่อยๆรื้อฟื้นความจำไปแล้วกัน”ป๊อปปี้บอกลูกชาย

ก่อนที่จะกันไปบอกฟาง ทำให้ร่างบางยิ้มออกมาด้วยความดีใจก่อนที่จะยอมเดินกลับไปที่ห้องตาม

ที่ป๊อปปี้บอก โดยที่มีสายตาของวันและกิ๊ปซี่มองฟางอย่างไม่พอใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โอย กว่างานจะเสร็จก็ปาไปมืดค่ำ ป่านนี้ป๊ากับม๊าคงจะนอนแล้วสินะ”แก้วที่นั่งเคลียร์เอกสารใน

ออฟฟิศจนดึกดื่นมองนาฬิกาที่ตอนนี้ก็4ทุ่มครึ่งแล้วจึงปิดออฟฟิศแล้วเดินออกมาที่ท้ายตลาดเพื่อ

ไปที่รถยนต์ของเธอ

 

 

 

 

 

“อย่าขยับนะแม่คนสวย แล้วมานี่”แต่แล้วแก้วก็ตัวชาวาบเมื่อจู่ๆเหมือนมีของแข็งคล้ายมีดมาจ่อที่

หลังเธอก่อนที่แก้วจะถูกชาย3คนลากเธอไปที่ทางเปลี่ยวหลังตลาดเธอเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่พวกนายเองหรอ จะมาปล้นกันสินะ”แก้วเห็นว่าคนที่ลากเธอมานั้นคืออดีตคนงาน3คนที่มีเรื่องกับ

เธอเมื่อวันก่อนและถูกโทโมะไล่ออกมาก็ทำทีเป็นไม่กลัวแล้วพูดนิ่งๆ

 

 

 

 

 

 

 

“เพราะมึงล่ะทำให้พวกกูไม่มีงานทำ เพราะมึงกับพวกตลาดนี่ล่ะ”หัวหน้ากลุ่มคนงานพูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

“กล้ามากนะที่มาว่าทุกอย่างเป็นความผิดของพวกชั้น เพราะนิสัยแย่ๆของพวกนายต่างหากล่ะ”แก้ว

ไม่พอใจรีบว่ากลับก่อนร่างบางจะเซล้มเมื่อถูกตบจนล้มคว่ำ

 

 

 

 

 

 

 

 

“ปากดีนักนะมึง อยากจะรู้ว่าถ้าตกเป็นเมียพวกกูแล้วยังจะปากดีแค่ไหน”หัวหน้ากลุ่มคนงานพูด

ก่อนที่จะชกท้องของแก้วแล้วลากไปข้างทางโดยให้ลูกน้อง2คนล้อคมือ2ข้างของแก้วไว้

 

 

 

 

 

 

 

 

“ชาติหน้าตอนบ่ายๆดีกว่ามึง”แต่ก่อนที่แก้วจะถูกทำมิดีมิร้าย โทโมะที่โผล่เข้ามา และคว้าท่อน

เหล็กแถวนั้นฟาดใส่หัวหน้าคนงานทันที

 

 

 

 

 

 

 

“กูว่าแล้วว่าทำไมมึงถึงไล่กูออก เพราะอีนี่เป็นผู้หญิงของมึงสินะ เห้ย เราไม่ได้เป็นลูกน้องมันแล้ว

พวกเรา รุม”หัวหน้ากลุ่มคนงานหันขวับไปมองโทโมะแล้วเดือดจัดเมื่อเห็นเลือดที่หัวของเขาไหล

ออกมาไม่รอช้า เปลี่ยนเป้าหมายไปเล่นงานโทโมะ แต่โทโมะที่ตั้งการ์ดรอ หลบหลีกพวกอดีตลูก

น้องตัวเองอย่างคล่องแคล่ว

 

 

 

 

 

 

 

“ว้าย พี่โทโมะระวังข้างหลัง”แก้วที่ประคองตัวเองให้ลุกขึ้นตกใจเมื่อเห็นลูกคนน้องโทโมะคนหนึ่ง

คว้าท่อนเหล็กท่อนที่โทโมะใช้เมื่อกี้หมายจะฟาด โทโมะได้ยินแล้วหันไปตามเสียงก็เบี่ยงตัวหลบ

ทำให้ท่อนเหล็กโดนเข้าที่แขนของชายหนุ่มแทน

 

 

 

 

 

 

“ทางนี้เลยค่ะคุณตำรวจจับมันให้หมดเลย”ตอนนั้นเองเด็กที่บ้านของแก้ววิ่งมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่

ตำรวจ3นายมาจับพวกพวกลูกน้องของโทโมะทั้ง3คนไปส่งตำรวจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่อ ไปดูอาการอีกครั้งที่โรงพยาบาลดีมั้ยเพราะแขนของพี่ เอ่อ คุณช้ำมากเลยนะ”หลังจากให้

ปากคำกับตำรวจเสร็จแล้ว แก้วเดินออกมาพร้อมเด็กที่บ้านของเธอแล้วตกใจเมื่อเห็นรอยช้ำจนม่วง

ตามแขนจนนากลัวทำให้แก้วอดห่วงโทโมะไม่ได้

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ต้องหรอก แค่นี้มันไม่ถึงกับตาย ไกลหัวใจอีกเยอะ เอาล่ะเสร็จแล้วใช่มั้ยงั้นเดี๋ยวชั้นจะได้กลับ

ไปเคลียร์งานของชั้นต่อสักที เสียเวลานั่งอ่านเอกสารชะมัด”โทโมะพูดนิ่งๆแล้วลุกขึ้นจะเดินไปแต่

แก้วไม่ยอมแพ้รีบเดินไปคว้าที่แขนของโทโมะจนชายหนุ่มร้องออกมาด้วยความเจ็บแผล

 

 

 

 

 

 

 

“ชั้นขอโทษ เห็นมั้ย ถึงมันจะไกลหัวใจแต่มันก็เจ็บเหมือนกันนะ ชั้นว่าคุณไปหาหมอเถอะค่ะคุณ

นักธุรกิจใหญ่ ถ้าเกิดตายเป็นอะไรขึ้นมาจะได้ไม่มาโทษว่าเป็นเพราะช่วยชั้น ไปกันชมพู่”แก้วบ่น

ยาวเหยียดก่อนที่จะบอกให้คนสนิทพาโทโมะไปหาหมอที่โรงพยาบาลกับเธอ

 

 

 

 

 

 

 

 

“เธอนี่มันพูดมากจู้จี้จุกจิกชะมัด”โทโมะมองแก้วที่ลากเขาและจับมือเขาอีกข้างที่ไม่เจ็บก็พูดขึ้นแต่

ก็ยอมเดินไปกับแก้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่แน่ใจจริงๆนะคะคุณป๊อปว่าจะเอาแม่คนนี้ไปอยู่กับพวกเราที่ไร่จริงๆ”กิ๊ปซี่มองร่างบางของฟางที่

แต่งตัวในชุดเดิมที่เข้ามาในโรงพยาบาลแล้วยิ้มให้กับป๊อปปี้กับเขื่อนก็อดหมั่นไส้ไม่ได้แล้วพูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

“เอ้า พี่กิ๊ป คุณคนสวยเค้าจำใครไม่ได้ไม่รู้จักใครเลยเค้ากำลังลำบากเราคนไทยเหมือนกันก็ต้อง

ช่วยกันสิครับ”เขื่อนที่รู้ว่ากิ๊ปซี่นั้นชอบป๊อปปี้และกำลังหึงก็รีบพูด

 

 

 

 

 

 

 

“แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีนี้ไม่มีหรอคะพวกเราก็มีงานมีการต้องทำไม่ใช่สถานสงเคราะห์ช่วย

เหลือใครฟรีๆสักหน่อย มีความจำเป็นด้วยหรอคะที่จะต้องเอาแม่นี่ แค่ค่ารักษาพยาบาลก็มากพออยู่

แล้ว”กิ๊ปซี่ไม่พอใจฟางตั้งแต่แรกก็รีบว่ากลับ

 

 

 

 

 

 

 

 

“อันนี้มันเป็นการตัดสินใจของพ่อเลี้ยงเค้าแล้วนะครับพี่กิ๊ป ผมว่าพี่กิ๊ปอย่าขัดเลยดีกว่า ไปครับคุณ

คนสวย”เขื่อนพูดขึ้นแทนเพื่อนชายที่เก็บของให้ฟางแล้วไม่พูด ก่อนที่จะประคองฟางแล้วพาฟาง

ไปที่รถโดยมีกิ๊ปซี่มองตามอย่างไม่พอใจ

 

 

 

 

 

 

 

“โอ้โห สวยจังเลย ที่นี่คือบ้านของคุณหรอ สวยมากเลย ว้าว มีม้าด้วย”ฟางมองบรรยากาศในไร่ของ

ฟางแล้วร้องออกมาก่อนที่จะมองเห็นคอกม้าที่คนงานกำลังขี่อยู่ก็ยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น จนกิ๊ป

ซี่ที่นั่งข้างๆแอบเบ้ปากออกมาอย่างหมั่นไส้ สักพักเมื่อทุกคนลงมาถึงที่ตัวบ้านของป๊อปปี้ ฟางที่ดิน

ลงมาก็มองบรรยากาศโดยรอบไปแล้วอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นลูกๆของป๊อปปี้ วัน ทู ทรีวิ่งมาหาและกอด

พ่อของเขา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่พี่เค้าจะมายู่กับเราจริงๆหรอฮะพ่อ/ก็ใช่น่ะสิครับพี่เค้าจะมาอยู่ที่นี่กับเราจนกว่าพี่สาวเค้าจะ

หาย”ทรีมองฟางแล้วพูดก่อนที่ป๊อปปี้จะตอบแล้วมองไปที่ฟางที่ถูกทูและวันจ้องหน้า

 

 

 

 

 

 

 

“พ่อป๊อปคะแล้วพี่เค้าชื่ออะไรหรอคะ เรายังไม่รู้จักเลย”ทูมองหน้าฟางแล้วหันไปถามพ่อของเขา

ทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ของขวัญ/ห้ะ อะไรนะป๊อป”ป๊อปปี้พูดขึ้นมาทำให้เขื่อนต้องรีบถาม

 

 

 

 

 

 

 

“ก็ตั้งชื่อแล้วไงว่าชื่อของขวัญ เพราะเธอเป็นเหมือนของขวัญที่หล่นมากฟ้าที่พระเจ้าประทานมาให้

กับพวกเราไง ต่อไปนี้ชั้นจะตั้งชื่อให้เธอว่าของขวัญนะ จะได้ไม่ต้องเครียดว่าเธอเป็นใครอีก”ป๊อปปี้

พูดต่อและอธิบายให้ทุกคนฟังก่อนที่จะหันไปยิ้มกับฟางที่ยิ้มให้เขาด้วยความดีใจที่ตอนนี้เธอก็มีชื่อ

เรียกแล้ว

 

 

 

 

 

 

อัพแล้วนะคะ แต่คนอ่านหาย บางทีกำลังใจที่อยากกลับมาอัพบ่อยๆก็หายเหมือนกันนะ

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา