*แค้นรักหัวใจนายเย็นชา* [Chanyeol x You]
7.3
เขียนโดย Jay9
วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.18 น.
7 ตอน
3 วิจารณ์
11.10K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2559 16.33 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) สมัครงาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ กว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะมาสมัครงานที่นี่ก็นั่งคิดนอนคิดตั้งหลายวัน อีกทั้งยังรอให้แผลที่เท้าหายเจ็บก่อน ยูไอคิดว่าเธอจะหนีเขาพ้นแล้วเชียว ผลสุดท้าย ก็ต้องกลับมาให้เขาโขกสับเธอเหมือนเดิม เฮ้อ~ ปวดหัวจริงๆ
"ยัยขี้แย จะมัวยืนอยู่ตรงนี้อีกนานไหม เข้าไปได้แล้ว มันจะเลยเวลาสมัครงานเธอแล้วเนี่ย "ว่าจบ เพื่อนสนิทของเธออย่างแจ๊คสันก็ผลักให้เดินเข้าข้างใน
" เออ ฉันรู้แล้วน่า กำลังจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ เสร็จแล้วก็รอรับฉันกลับด้วยนะเว้ย "ร่างบางบอกกับเพื่อนก่อนจะเดินเข้าไปในบริษัทอย่างมั่นใจ แต่แท้จริงแล้วเธอกำลังข่มความกลัวของตัวเองอยู่ นี่เธอจะต้องเจอหน้าเขาบ่อยๆเหรอเนี่ย ไม่อยากจะคิดเลย
"เดี๋ยวก่อนค่ะ รอด้วยค่ะ " ร่างบางของยูไอวิ่งทั้งๆที่ใส่รองเท้าส้นสูงเพื่อจะเข้าลิฟต์
"เอ้า ไม่ทัน แล้วจะทำยังไงล่ะ ทีนี้ คิดสิ คิดสิยู" หญิงสาวได้แต่ต่อว่าตัวเอง เพราะมัวยืนลังเลอยู่หน้าบริษัท แล้วหัวสมองเจ้ากรรมก็ดันคิดออกพอดี
"บันได ใช่ บันได "พูดอย่างดีใจก่อนจะวิ่งไปที่บันไดอย่างรวดเร็ว เพื่อไปให้ถึงภายในเวลาที่กำหนด มาวันแรกก็สายซะแล้วสิ หญิงสาววิ่งอย่างต่อเนื่อง ในใจก็ก่นด่าว่าชั้นงานที่สัมภาษณ์มันอยู่สูงซะเหลือเกิน เธอไปไม่ทันเป็นแน่ ยูไอจึงตัดสินใจถอดรองเท้าส้นสูง ก่อนจะวิ่งต่อ
.........................
ในที่สุดเธอก็มาถึงชั้นที่มีสัมภาษณ์งานพอดี สภาพเธอตอนนี้เหมือนเพิ่งถ่ายหนังเรื่องวิ่งสู้ฟัดเสร็จยังไงยังงั้นเลย พนักงานที่นั่งทำงานอยู่ต่างก็มองเธอด้วยสายตาที่เหมือนเธอเป็นตัวแปลกประหลาด ยูไอจัดระเบียบร่างกายอย่างเรียบร้อยก่อนจะเดินไปที่แผนกบุคคลตามที่เธออ่านรายละเอียดมา
"เอ่อ..คือ ดิฉันมาสมัครงานน่ะค่ะ " หญิงสาวพูดพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆไปให้พนักงานตรงหน้า
"อ่อ คือตอนนี้ทางบริษัทเราท่านประธานจะเป็นคนสัมภาษณ์ผู้สมัครเองน่ะค่ะ " พนักสาวบอกก่อนจะส่งยิ้มแห้งให้เธอ
"ไม่ทราบว่า ห้องของท่านประธานไปทางไหนหรอคะ " ยูไอถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนเพราะกลัวไปไม่ทันเวลา
"อยู่ชั้นบนสุดน่ะค่ะ... ตะ...แต่." หลังจากที่พนักงานคนนั้นบอกจบ หญิงสาวก็รีบวิ่งไปที่ลิฟต์ โดยไม่ทันฟังเสียงเรียกของพนักงานสาวคนนั้นเลย" อ่ะ ..เอ่อ..คุณคะ นะ..นั่นไม่ใช่.." ไปซะแล้ว.... ยูไอเข้ามาอยู่ข้างในก่อนจะมองเลขบอกชั้นที่จะไป
'ทำไมมีแค่ปุ่มไม่กี่ปุ่มล่ะเนี่ย ช่างเถอะ ไหนดูสิมีถึงเลขอะไร' หญิงสาวเลิกคิดฟุ้งซ่านก่อนจะรีบกดปุ่มสุดท้ายทันที เธอคาดว่านี่แหละชั้นบนสุด
ติ๊ง
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด เธอก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า มันคือร่างของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังทำบางอย่างบนโต๊ะทำงานอย่างเมามันส์ โดยไม่อายฟ้าอายดิน
กรี๊ดดด
เสียงของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้น ทำให้ชานยอลปรายตาหันมามองยูไอที่ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟต์บนห้องทำงานเขา
"ใครอนุญาติให้เธอใช้ลิฟต์ตัวนี้" เสียงทุ้มของชานยอลเอ่ยขึ้น ก่อนจะผละออกมาจากร่างสาวทรงโตตรงหน้า อันที่จริงแล้วเขารู้ว่าเธอจะมา เขาเลยโทรเรียกสาวๆที่เคยเป็นคู่ขาของเขามาที่นี่ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ตัวเขาได้ปลดปล่อยกับสาวคู่ขา แถมยังได้แกล้งยัยผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟต์อีกด้วย ไม่คิดว่าพระเจ้าจะเป็นใจให้เธอใช้ลิฟต์ที่ขึ้นมาชั้นของเขาโดยตรงแบบนี้
"เอ่อ...คือ..ดิฉันจะมาสมัครงานน่ะค่ะ" ยูไอพูดละล่ำละลัก แถมยังตอบไม่ตรงคำถามเขาอีก
'นี่เขาไม่อายเธอบ้างหรือยังไง โอ๊ย เธอจะเป็นตากุ้งยิงไหมเนี่ย ' หญิงสาวต่อว่าชายหนุ่มตรงหน้าในใจ
"ฉันถามว่า ใครอนุญาติให้เธอให้ลิฟต์ตัวนี้ " เขาถามเธอเสียงเข้ม
"ไม่มีใครอนุญาติหรอกค่ะ ดิฉันใช้ลิฟต์ตัวนี้เอง คือ...ดิฉันคิดว่ามันเป็นลิฟต์ของพนักงานทั่วไปน่ะค่ะ เอ่อ ไม่คิดว่าจะเป็นลิฟต์ส่วนตัว"
"เธอ ออกไปก่อน ไป " เขาไล่ผู้หญิงคนนั้นให้ออกไป ก่อนจะหันมาพูดกับเธอต่อ
"มาสายตั้งสามสิบนาที เธอคิดว่าบริษัทฉันสมควรจะรับเธอเข้ามาทำงานด้วยไหม" เขายกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาก่อนลุกขึ้นยืน หญิงสาวอยากจะควักลูกตาทิ้งไปเสียเดี๋ยวนี้เลย เขากล้าพูดเรื่องงานกับเธอทั้งที่เสื้อผ้าก็ไม่ใส่
"เป็นอะไรของเธอ ฉันคุยกับเธออยู่นะ มองหน้าฉัน ไม่ใช่มองพื้น ไร้มารยาทจริงๆ" ชานยอลต่อว่าเธอ
"กะ..ก็...คุณยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยนี่คะ " ยูไอก้มหน้างุด เธอก็อายเป็นเหมือนกันนะ อีตาบ้า
"เหอะ อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาไปหน่อยเลย อย่างเธอน่ะ มันแปดเปื้อนราคีไปหมดแล้ว จับไปตรงไหนก็สกปรก "เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและดูถูกเธอ หญิงสาวเกลียดเขาจริงๆ อยากจะเข้าไปบีบคอเขาให้ตายเสียรู้แล้วรู้รอดไป ปากเสียนี่คงเป็นนิสัยของเขาที่แก้ไม่ได้สินะ
"ดิฉันว่า คุณควรเอาเรื่องส่วนตัวแยกออกจากเรื่องงานก่อนนะคะ แล้วก็กรุณาช่วยใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยค่ะ เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเขาจะมองคุณไม่ดี" หญิงสาวว่า ก่อนจะหลับตาปี๋แล้วเงยหน้าขึ้นมาเผชิญกับผู้บริหารของที่นี่ "เอาล่ะ มานี่สิ " ชานยอลเรียกหญิงสาวให้เดินเข้าไปหา แต่เพราะเธอหลับตาอยู่อีกทั้งยังกลัวว่าเขาจะยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เลยไม่ได้ทำตามที่ชายหนุ่มบอก
"จะยืนบื้ออีกนานไหม ฉันบอกให้มานี่ กินหญ้าแทนข้าวหรือยังไง ห้ะ " ชานยอลขึ้นเสียงเล็กน้อย เหอะ ทำเป็นเล่นตัว คิดว่าคนอย่างฉันจะรู้ไม่ทันเธองั้นเหรอ ผู้หญิงแพศยาอย่างเธอต้องเจอปีศาจอย่างฉัน ยูไอ
สุดท้ายก็ไม่พ้นคำต่อว่าของเขาอยู่ดี เพราะคุณลุงมีพระคุณกับเธอหรอกนะ เธอถึงยอมให้เขาโขกสับเธอแบบนี้
หญิงสาวลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะเดินตรงไปหาเขาที่โต๊ะ พร้อมกับยื่นแฟ้มเอกสาร ให้เขาดู แต่แล้วชายหนุ่มก็ปัดมันทิ้งลงพื้น
"นี่คุณ!! ถ้าไม่รับฉันเข้าทำงานก็บอกกันดีๆสิ ไม่เห็นต้องทำกริยาแบบนี้เลย" เธอแหวใส่เขา ความอดทนของเธอก็มีขีดจำกัดเหมือนกันนะ
"ในเมื่อเธอมาที่นี่ เพราะพ่อฉันต้องการ ฉันก็จะยอมรับเธอเข้ามา แต่เป็นเพียงแค่การฝึกงานเท่านั้น ฉันให้เวลาเธอสามเดือนในการทดลองเป็นพนักงานของที่นี่ ถ้าเธอทำไม่ได้ ก็เตรียมตัวออกได้เลย " ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบราวกับว่าไม่ใช่คนที่จิกกัดเธอเมื่อสักครู่ เขาดูเป็นผู้ใหญ่มากในเวลางาน
" แล้วคุณจะให้ฉัน...." คำพูดของหญิงสาวหยุดไว้เพียงเท่านี้ ก่อนจะมีเสียงทุ้มแทรกมา
"ผมจะให้คุณทำงานในตำแหน่งเลขาคนสนิทของผม "
หญิงสาวย่นคิ้วเล็กน้อย ‘เลขาคนสนิท?’ มันมีด้วยหรือไง
"คุณจะต้องตามผมไปด้วยทุกที่ และเมื่อมีการประชุม หรือพบปะกับลูกค้าคนสำคัญ คุณจะต้องคอยจดรายละเอียดต่างๆ พร้อมกับมารายงานให้ผมฟัง เริ่มงานได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เข้าใจที่ผมบอกใช่ไหม ถ้าเข้าใจแล้วก็เชิญกลับไปได้ " หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงไปเก็บแฟ้มที่พื้น
"ไม่ต้องเก็บ ปล่อยไว้ตรงนั้นแหละ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว " เขาเอ่ยปากไล่เธอ
'ชิส์ ไม่ต้องไล่ก็ได้ย่ะ ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่นานๆเท่าไหร่หรอก ' หญิงสาวเบ้ปาก ก่อนจะรีบเดินออกทางประตู แล้วตรงไปที่ลิฟต์ทันที
'หวังว่าคราวนี้ลิฟต์คงถูกตัวแล้วนะ' เธอนึกในใจ
........
"แจ๊คกี้ รอฉันนานไหมอ่ะ ขอโทษทีนะแก " หญิงสาววิ่งออกมาจากบริษัท ก่อนจะวิ่งไปหาแจ๊คสัน ที่นั่งรอหน้าบันไดทางเข้าพร้อมกับตบบ่าเพื่อนเบาๆเป็นการขอโทษ
"แจ๊คกี้ บ้านแกน่ะสิ ฉันชื่อแจ๊คสันโว้ย เดี๋ยวปั๊ดจับทำเมียเลยนี่ " ว่าจบแจ๊คสันก็แกล้งกอดเธอ ใช่ว่าทั้งคู่ไม่เคยเล่นหยอกกันแบบนี้ ออกจะเป็รเรื่องปกติด้วยซ้ำ เพราะเขาเป็นลูกครึ่งฮ่องกง-ไทย ตานี่เลยติดนิสัยของชาวตะวันตกมา ทั้งเขาและเธอเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ม.ต้น เมื่อเข้ามาเรียนแรกๆ แจ๊คสันไม่มีเพื่อนเลยสักคน เพราะว่าเขาทำเรื่องไม่ดี มียูไอนี่แหละที่กล้าทักเขาคนแรก อีกทั้งยังคอยห้ามคอยเตือนเขาไม่ให้ทำผิดอีกด้วย เขาจะรักษาเพื่อนคนนี้ให้ดีที่สุด เขาขอสัญญา
"ทะลึ่งละไอ่นี่ เดี๋ยวฉันจะฟ้องน้องแบมของแกเลยหนิ ว่าแกคิดไม่ซื่อกับน้องเค้า " เธอว่าก่อนจะผลักหัวเพื่อนเบาๆ
"ลองบอกสิ พ่อจะบีบคอไอ่จิ๋วให้ตายคามือเลย" แจ๊คสันว่า ก่อนจะหยิบพวงกุญแจที่มีตุ๊กตาแมวน้อยที่หญิงสาวเคยให้ในวันเกิดมาบีบเล่น
"อร๊ายย อย่านะ นั่นจิ๋วๆลูกฉันนะเว้ย อุตส่าห์ยกให้แกเลยนะ ทำไมทำแบบนี้ ไอ่เพื่อนเลว~ " ยูไอวิ่งไล่ตีแจ๊คสันไปทั่ว
ภาพของชายหญิงสองคนที่หยอกล้อกันตรงหน้าบริษัท ตกอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่ง
"หึ กะไว้แล้วไม่มีผิด เธอนี่มันร่านจริงๆ เป็นชู้กับพ่อฉันยังไม่พอ ยังเป็นชู้กับไอ่หน้าตี๋ขาสั้นนั่นอีก สนุกกันให้มากๆล่ะ ยังไม่รู้จักคำว่าตายทั้งเป็นสินะ เดี๋ยวฉันจะแสดงให้ดู " คนที่นั่งอยู่ในรถปรามาสออกมาเบาๆก่อนจะขับรถออกไปจากตรงนั้นทันที
............
เพราะว่ายัยขี้แยบ่นว่าหิวเขาจึงพาเพื่อนมาเดินหาของกินที่ใกล้ที่สุดในละแวกนี้ ยูไอเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดูธรรมดาๆ แต่ว่าราคาและคุณภาพกำลังพอดี คนทั่วไปสามารถมานั่งกินได้ ส่วนรสชาติของอาหารที่นี่อร่อยพอๆกับร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังได้เลยล่ะ
"แล้วสรุป คุณชานยอลอะไรนั่น เขารับแกเข้าทำงานหรือยังอ่ะ " แจ๊คสันยอมรับว่าเขาโมโหแทนเพื่อนสาว ตอนที่ยูไอเล่าให้ฟัง นี่เพื่อนของเขาจะต้องทนฟังคนปากร้ายอย่างชานยอลพูดจาเสียดสีเธอบ่อยๆงั้นเหรอ เขาแทบอยากจะเข้าไปเจอไอ่นั่นใจจะขาด แต่ยูไอก็ขัดตลอดแถมยังอ้างสารพัดเพื่อไม่ให้เขาไปทำร้ายชานยอล
"เขาก็รับแหละ แต่บอกแค่ว่าฉันเป็นแค่พนักงานฝึกหัดเท่านั้น เขาให้เวลาแค่สามเดือน ในการทำงานกับเขา ถ้าฉันทำไม่ดี ก็ต้องลาออกอ่ะแหละ " ยูไอว่าพลางตักข้าวเข้าปาก วันนี้เธอก็ต้องกลับบ้านไปเจอหน้าเขาอีก ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาสู้รบปรบมือกับใครแล้ว แค่วันนี้ก็แสนสาหัสเกินพอ
" เฮ้อ ฉันเอาใจช่วยนะเว้ย มีอะไรก็โทรเรียกฉันได้เสมอ ยังไงซะเราก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว เพราะแม่ฉันอยากมีลูกสาวแบบแก ก็ไม่รู้ว่าแม่ฉันคิดอะไรอยู่ ฉันล่ะไม่เข้าใจแม่จริงๆ "หลังจากที่พูดจบ จู่ๆก็มีฝ่ามือพิฆาตมากระทบที่หัวไหลข้างซ้ายของเขาจนเกิดเสียงดัง
"อูยยยย ฉันเจ็บนะเว้ย แกมาตีฉันทำไมเนี่ย " แจ๊คสันว่าพลางลูบแขนตัวเองขึ้นลงเพื่อบรรเทาความเจ็บ
"กินๆไปเลย พูดมากจริงๆ แกเนี่ย " ยูไอเอื้อมไปจับช้อนของคนตรงข้ามก่อนจะตักข้าวแล้วยัดใส่ปากเขา
"จะว่าไปฉันก็คิดถึงคุณน้าเหมือนกันนะเนี่ย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสไปพบท่านอีกไหม " หญิงสาวบ่นเบาๆ
"อาทิตย์หน้า แม่ฉันจะมาที่นี่ ให้ฉันไปรับแกที่บ้านไหม " แจ๊คสันเสนอความคิดเห็นให้หญิงสาว ก่อนจะตักน้ำซุปที่อยู่ในถ้วยซดเข้าปาก
"ซี๊ด ร้อนก็ไม่บอก โธ่ " ยูไอขำกับการกระทำของแจ๊คสันในตอนนี้มาก เขาจับที่ริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะพลิกให้ปากข้างในออกมาส่องกับโทรศัพท์ ช่างน่าตลกเสียจริง
..........
โธ่พี่แจ๊ค ร้อนมากไหม 555
"ยัยขี้แย จะมัวยืนอยู่ตรงนี้อีกนานไหม เข้าไปได้แล้ว มันจะเลยเวลาสมัครงานเธอแล้วเนี่ย "ว่าจบ เพื่อนสนิทของเธออย่างแจ๊คสันก็ผลักให้เดินเข้าข้างใน
" เออ ฉันรู้แล้วน่า กำลังจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ เสร็จแล้วก็รอรับฉันกลับด้วยนะเว้ย "ร่างบางบอกกับเพื่อนก่อนจะเดินเข้าไปในบริษัทอย่างมั่นใจ แต่แท้จริงแล้วเธอกำลังข่มความกลัวของตัวเองอยู่ นี่เธอจะต้องเจอหน้าเขาบ่อยๆเหรอเนี่ย ไม่อยากจะคิดเลย
"เดี๋ยวก่อนค่ะ รอด้วยค่ะ " ร่างบางของยูไอวิ่งทั้งๆที่ใส่รองเท้าส้นสูงเพื่อจะเข้าลิฟต์
"เอ้า ไม่ทัน แล้วจะทำยังไงล่ะ ทีนี้ คิดสิ คิดสิยู" หญิงสาวได้แต่ต่อว่าตัวเอง เพราะมัวยืนลังเลอยู่หน้าบริษัท แล้วหัวสมองเจ้ากรรมก็ดันคิดออกพอดี
"บันได ใช่ บันได "พูดอย่างดีใจก่อนจะวิ่งไปที่บันไดอย่างรวดเร็ว เพื่อไปให้ถึงภายในเวลาที่กำหนด มาวันแรกก็สายซะแล้วสิ หญิงสาววิ่งอย่างต่อเนื่อง ในใจก็ก่นด่าว่าชั้นงานที่สัมภาษณ์มันอยู่สูงซะเหลือเกิน เธอไปไม่ทันเป็นแน่ ยูไอจึงตัดสินใจถอดรองเท้าส้นสูง ก่อนจะวิ่งต่อ
.........................
ในที่สุดเธอก็มาถึงชั้นที่มีสัมภาษณ์งานพอดี สภาพเธอตอนนี้เหมือนเพิ่งถ่ายหนังเรื่องวิ่งสู้ฟัดเสร็จยังไงยังงั้นเลย พนักงานที่นั่งทำงานอยู่ต่างก็มองเธอด้วยสายตาที่เหมือนเธอเป็นตัวแปลกประหลาด ยูไอจัดระเบียบร่างกายอย่างเรียบร้อยก่อนจะเดินไปที่แผนกบุคคลตามที่เธออ่านรายละเอียดมา
"เอ่อ..คือ ดิฉันมาสมัครงานน่ะค่ะ " หญิงสาวพูดพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆไปให้พนักงานตรงหน้า
"อ่อ คือตอนนี้ทางบริษัทเราท่านประธานจะเป็นคนสัมภาษณ์ผู้สมัครเองน่ะค่ะ " พนักสาวบอกก่อนจะส่งยิ้มแห้งให้เธอ
"ไม่ทราบว่า ห้องของท่านประธานไปทางไหนหรอคะ " ยูไอถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนเพราะกลัวไปไม่ทันเวลา
"อยู่ชั้นบนสุดน่ะค่ะ... ตะ...แต่." หลังจากที่พนักงานคนนั้นบอกจบ หญิงสาวก็รีบวิ่งไปที่ลิฟต์ โดยไม่ทันฟังเสียงเรียกของพนักงานสาวคนนั้นเลย" อ่ะ ..เอ่อ..คุณคะ นะ..นั่นไม่ใช่.." ไปซะแล้ว.... ยูไอเข้ามาอยู่ข้างในก่อนจะมองเลขบอกชั้นที่จะไป
'ทำไมมีแค่ปุ่มไม่กี่ปุ่มล่ะเนี่ย ช่างเถอะ ไหนดูสิมีถึงเลขอะไร' หญิงสาวเลิกคิดฟุ้งซ่านก่อนจะรีบกดปุ่มสุดท้ายทันที เธอคาดว่านี่แหละชั้นบนสุด
ติ๊ง
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด เธอก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า มันคือร่างของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังทำบางอย่างบนโต๊ะทำงานอย่างเมามันส์ โดยไม่อายฟ้าอายดิน
กรี๊ดดด
เสียงของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้น ทำให้ชานยอลปรายตาหันมามองยูไอที่ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟต์บนห้องทำงานเขา
"ใครอนุญาติให้เธอใช้ลิฟต์ตัวนี้" เสียงทุ้มของชานยอลเอ่ยขึ้น ก่อนจะผละออกมาจากร่างสาวทรงโตตรงหน้า อันที่จริงแล้วเขารู้ว่าเธอจะมา เขาเลยโทรเรียกสาวๆที่เคยเป็นคู่ขาของเขามาที่นี่ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ตัวเขาได้ปลดปล่อยกับสาวคู่ขา แถมยังได้แกล้งยัยผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟต์อีกด้วย ไม่คิดว่าพระเจ้าจะเป็นใจให้เธอใช้ลิฟต์ที่ขึ้นมาชั้นของเขาโดยตรงแบบนี้
"เอ่อ...คือ..ดิฉันจะมาสมัครงานน่ะค่ะ" ยูไอพูดละล่ำละลัก แถมยังตอบไม่ตรงคำถามเขาอีก
'นี่เขาไม่อายเธอบ้างหรือยังไง โอ๊ย เธอจะเป็นตากุ้งยิงไหมเนี่ย ' หญิงสาวต่อว่าชายหนุ่มตรงหน้าในใจ
"ฉันถามว่า ใครอนุญาติให้เธอให้ลิฟต์ตัวนี้ " เขาถามเธอเสียงเข้ม
"ไม่มีใครอนุญาติหรอกค่ะ ดิฉันใช้ลิฟต์ตัวนี้เอง คือ...ดิฉันคิดว่ามันเป็นลิฟต์ของพนักงานทั่วไปน่ะค่ะ เอ่อ ไม่คิดว่าจะเป็นลิฟต์ส่วนตัว"
"เธอ ออกไปก่อน ไป " เขาไล่ผู้หญิงคนนั้นให้ออกไป ก่อนจะหันมาพูดกับเธอต่อ
"มาสายตั้งสามสิบนาที เธอคิดว่าบริษัทฉันสมควรจะรับเธอเข้ามาทำงานด้วยไหม" เขายกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาก่อนลุกขึ้นยืน หญิงสาวอยากจะควักลูกตาทิ้งไปเสียเดี๋ยวนี้เลย เขากล้าพูดเรื่องงานกับเธอทั้งที่เสื้อผ้าก็ไม่ใส่
"เป็นอะไรของเธอ ฉันคุยกับเธออยู่นะ มองหน้าฉัน ไม่ใช่มองพื้น ไร้มารยาทจริงๆ" ชานยอลต่อว่าเธอ
"กะ..ก็...คุณยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยนี่คะ " ยูไอก้มหน้างุด เธอก็อายเป็นเหมือนกันนะ อีตาบ้า
"เหอะ อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาไปหน่อยเลย อย่างเธอน่ะ มันแปดเปื้อนราคีไปหมดแล้ว จับไปตรงไหนก็สกปรก "เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและดูถูกเธอ หญิงสาวเกลียดเขาจริงๆ อยากจะเข้าไปบีบคอเขาให้ตายเสียรู้แล้วรู้รอดไป ปากเสียนี่คงเป็นนิสัยของเขาที่แก้ไม่ได้สินะ
"ดิฉันว่า คุณควรเอาเรื่องส่วนตัวแยกออกจากเรื่องงานก่อนนะคะ แล้วก็กรุณาช่วยใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยค่ะ เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเขาจะมองคุณไม่ดี" หญิงสาวว่า ก่อนจะหลับตาปี๋แล้วเงยหน้าขึ้นมาเผชิญกับผู้บริหารของที่นี่ "เอาล่ะ มานี่สิ " ชานยอลเรียกหญิงสาวให้เดินเข้าไปหา แต่เพราะเธอหลับตาอยู่อีกทั้งยังกลัวว่าเขาจะยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เลยไม่ได้ทำตามที่ชายหนุ่มบอก
"จะยืนบื้ออีกนานไหม ฉันบอกให้มานี่ กินหญ้าแทนข้าวหรือยังไง ห้ะ " ชานยอลขึ้นเสียงเล็กน้อย เหอะ ทำเป็นเล่นตัว คิดว่าคนอย่างฉันจะรู้ไม่ทันเธองั้นเหรอ ผู้หญิงแพศยาอย่างเธอต้องเจอปีศาจอย่างฉัน ยูไอ
สุดท้ายก็ไม่พ้นคำต่อว่าของเขาอยู่ดี เพราะคุณลุงมีพระคุณกับเธอหรอกนะ เธอถึงยอมให้เขาโขกสับเธอแบบนี้
หญิงสาวลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะเดินตรงไปหาเขาที่โต๊ะ พร้อมกับยื่นแฟ้มเอกสาร ให้เขาดู แต่แล้วชายหนุ่มก็ปัดมันทิ้งลงพื้น
"นี่คุณ!! ถ้าไม่รับฉันเข้าทำงานก็บอกกันดีๆสิ ไม่เห็นต้องทำกริยาแบบนี้เลย" เธอแหวใส่เขา ความอดทนของเธอก็มีขีดจำกัดเหมือนกันนะ
"ในเมื่อเธอมาที่นี่ เพราะพ่อฉันต้องการ ฉันก็จะยอมรับเธอเข้ามา แต่เป็นเพียงแค่การฝึกงานเท่านั้น ฉันให้เวลาเธอสามเดือนในการทดลองเป็นพนักงานของที่นี่ ถ้าเธอทำไม่ได้ ก็เตรียมตัวออกได้เลย " ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบราวกับว่าไม่ใช่คนที่จิกกัดเธอเมื่อสักครู่ เขาดูเป็นผู้ใหญ่มากในเวลางาน
" แล้วคุณจะให้ฉัน...." คำพูดของหญิงสาวหยุดไว้เพียงเท่านี้ ก่อนจะมีเสียงทุ้มแทรกมา
"ผมจะให้คุณทำงานในตำแหน่งเลขาคนสนิทของผม "
หญิงสาวย่นคิ้วเล็กน้อย ‘เลขาคนสนิท?’ มันมีด้วยหรือไง
"คุณจะต้องตามผมไปด้วยทุกที่ และเมื่อมีการประชุม หรือพบปะกับลูกค้าคนสำคัญ คุณจะต้องคอยจดรายละเอียดต่างๆ พร้อมกับมารายงานให้ผมฟัง เริ่มงานได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เข้าใจที่ผมบอกใช่ไหม ถ้าเข้าใจแล้วก็เชิญกลับไปได้ " หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงไปเก็บแฟ้มที่พื้น
"ไม่ต้องเก็บ ปล่อยไว้ตรงนั้นแหละ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว " เขาเอ่ยปากไล่เธอ
'ชิส์ ไม่ต้องไล่ก็ได้ย่ะ ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่นานๆเท่าไหร่หรอก ' หญิงสาวเบ้ปาก ก่อนจะรีบเดินออกทางประตู แล้วตรงไปที่ลิฟต์ทันที
'หวังว่าคราวนี้ลิฟต์คงถูกตัวแล้วนะ' เธอนึกในใจ
........
"แจ๊คกี้ รอฉันนานไหมอ่ะ ขอโทษทีนะแก " หญิงสาววิ่งออกมาจากบริษัท ก่อนจะวิ่งไปหาแจ๊คสัน ที่นั่งรอหน้าบันไดทางเข้าพร้อมกับตบบ่าเพื่อนเบาๆเป็นการขอโทษ
"แจ๊คกี้ บ้านแกน่ะสิ ฉันชื่อแจ๊คสันโว้ย เดี๋ยวปั๊ดจับทำเมียเลยนี่ " ว่าจบแจ๊คสันก็แกล้งกอดเธอ ใช่ว่าทั้งคู่ไม่เคยเล่นหยอกกันแบบนี้ ออกจะเป็รเรื่องปกติด้วยซ้ำ เพราะเขาเป็นลูกครึ่งฮ่องกง-ไทย ตานี่เลยติดนิสัยของชาวตะวันตกมา ทั้งเขาและเธอเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ม.ต้น เมื่อเข้ามาเรียนแรกๆ แจ๊คสันไม่มีเพื่อนเลยสักคน เพราะว่าเขาทำเรื่องไม่ดี มียูไอนี่แหละที่กล้าทักเขาคนแรก อีกทั้งยังคอยห้ามคอยเตือนเขาไม่ให้ทำผิดอีกด้วย เขาจะรักษาเพื่อนคนนี้ให้ดีที่สุด เขาขอสัญญา
"ทะลึ่งละไอ่นี่ เดี๋ยวฉันจะฟ้องน้องแบมของแกเลยหนิ ว่าแกคิดไม่ซื่อกับน้องเค้า " เธอว่าก่อนจะผลักหัวเพื่อนเบาๆ
"ลองบอกสิ พ่อจะบีบคอไอ่จิ๋วให้ตายคามือเลย" แจ๊คสันว่า ก่อนจะหยิบพวงกุญแจที่มีตุ๊กตาแมวน้อยที่หญิงสาวเคยให้ในวันเกิดมาบีบเล่น
"อร๊ายย อย่านะ นั่นจิ๋วๆลูกฉันนะเว้ย อุตส่าห์ยกให้แกเลยนะ ทำไมทำแบบนี้ ไอ่เพื่อนเลว~ " ยูไอวิ่งไล่ตีแจ๊คสันไปทั่ว
ภาพของชายหญิงสองคนที่หยอกล้อกันตรงหน้าบริษัท ตกอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่ง
"หึ กะไว้แล้วไม่มีผิด เธอนี่มันร่านจริงๆ เป็นชู้กับพ่อฉันยังไม่พอ ยังเป็นชู้กับไอ่หน้าตี๋ขาสั้นนั่นอีก สนุกกันให้มากๆล่ะ ยังไม่รู้จักคำว่าตายทั้งเป็นสินะ เดี๋ยวฉันจะแสดงให้ดู " คนที่นั่งอยู่ในรถปรามาสออกมาเบาๆก่อนจะขับรถออกไปจากตรงนั้นทันที
............
เพราะว่ายัยขี้แยบ่นว่าหิวเขาจึงพาเพื่อนมาเดินหาของกินที่ใกล้ที่สุดในละแวกนี้ ยูไอเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดูธรรมดาๆ แต่ว่าราคาและคุณภาพกำลังพอดี คนทั่วไปสามารถมานั่งกินได้ ส่วนรสชาติของอาหารที่นี่อร่อยพอๆกับร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังได้เลยล่ะ
"แล้วสรุป คุณชานยอลอะไรนั่น เขารับแกเข้าทำงานหรือยังอ่ะ " แจ๊คสันยอมรับว่าเขาโมโหแทนเพื่อนสาว ตอนที่ยูไอเล่าให้ฟัง นี่เพื่อนของเขาจะต้องทนฟังคนปากร้ายอย่างชานยอลพูดจาเสียดสีเธอบ่อยๆงั้นเหรอ เขาแทบอยากจะเข้าไปเจอไอ่นั่นใจจะขาด แต่ยูไอก็ขัดตลอดแถมยังอ้างสารพัดเพื่อไม่ให้เขาไปทำร้ายชานยอล
"เขาก็รับแหละ แต่บอกแค่ว่าฉันเป็นแค่พนักงานฝึกหัดเท่านั้น เขาให้เวลาแค่สามเดือน ในการทำงานกับเขา ถ้าฉันทำไม่ดี ก็ต้องลาออกอ่ะแหละ " ยูไอว่าพลางตักข้าวเข้าปาก วันนี้เธอก็ต้องกลับบ้านไปเจอหน้าเขาอีก ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาสู้รบปรบมือกับใครแล้ว แค่วันนี้ก็แสนสาหัสเกินพอ
" เฮ้อ ฉันเอาใจช่วยนะเว้ย มีอะไรก็โทรเรียกฉันได้เสมอ ยังไงซะเราก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว เพราะแม่ฉันอยากมีลูกสาวแบบแก ก็ไม่รู้ว่าแม่ฉันคิดอะไรอยู่ ฉันล่ะไม่เข้าใจแม่จริงๆ "หลังจากที่พูดจบ จู่ๆก็มีฝ่ามือพิฆาตมากระทบที่หัวไหลข้างซ้ายของเขาจนเกิดเสียงดัง
"อูยยยย ฉันเจ็บนะเว้ย แกมาตีฉันทำไมเนี่ย " แจ๊คสันว่าพลางลูบแขนตัวเองขึ้นลงเพื่อบรรเทาความเจ็บ
"กินๆไปเลย พูดมากจริงๆ แกเนี่ย " ยูไอเอื้อมไปจับช้อนของคนตรงข้ามก่อนจะตักข้าวแล้วยัดใส่ปากเขา
"จะว่าไปฉันก็คิดถึงคุณน้าเหมือนกันนะเนี่ย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสไปพบท่านอีกไหม " หญิงสาวบ่นเบาๆ
"อาทิตย์หน้า แม่ฉันจะมาที่นี่ ให้ฉันไปรับแกที่บ้านไหม " แจ๊คสันเสนอความคิดเห็นให้หญิงสาว ก่อนจะตักน้ำซุปที่อยู่ในถ้วยซดเข้าปาก
"ซี๊ด ร้อนก็ไม่บอก โธ่ " ยูไอขำกับการกระทำของแจ๊คสันในตอนนี้มาก เขาจับที่ริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะพลิกให้ปากข้างในออกมาส่องกับโทรศัพท์ ช่างน่าตลกเสียจริง
..........
โธ่พี่แจ๊ค ร้อนมากไหม 555
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ