[EXO×You] ไอดอลหน้าใสกับยัยผู้จัดการซาตาน
-
เขียนโดย Jay9
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 07.10 น.
9 ตอน
0 วิจารณ์
13.55K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2559 20.37 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) พบเจอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ที่นี่..ที่ไหน” นี่คือคำถามแรกที่คนเจ็บเอ่ยขึ้นเมื่อลืมตา เขากระพริบตาถี่ๆแล้วมองไปรอบๆ เพราะจำได้ว่าภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือตัวเองโดนทำร้ายในซอยเล็กๆแห่งหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าถามอย่างสงสัยกับชายกลางคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา
“ฟื้นแล้วสินะ ที่นี่ค่ายของฉันเองแหละ”ชายเจ้าของค่ายยิ้มตอบอย่างอารมณ์ดี“ใครเป็นคนพาผมมาที่นี่?” คำถามที่สองเอ่ยตามมา เด็กหนุ่มพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นโดยมีเจ้าของค่ายคอยช่วยประคอง “นู่น เธอเป็นคนแบกนายมา” พูดพร้อมกับชี้ไปยังร่างของหญิงสาวที่กำลังเดินมาพร้อมกับกะลังมังใบเล็กและผ้าขนหนูและกล่องปฐมพยาบาล ก่อนจะขอตัวไปดูแลคนที่มาซ้อมมวยต่อ“ไง พ่อหนุ่มน้อย ทายาหน่อยไหม” อีวานยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนจะวางกล่องปฐมพยาบาลลงบนโต๊ะตัวเล็ก หญิงสาวนำผ้าชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆแล้วเช็ดคราบเลือดที่แห้งกรังตามบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม พร้อมกับมีเสียงโอดโอยด้วยความเจ็บปวดดังตามมา เด็กหนุ่มมองใบหน้าสวยของหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณาจนอีวานเริ่มรู้สึกตัวจึงเอ่ยถามตัดจังหวะ
“เธอชื่ออะไร”
“ผมชื่อซองมิน”
“เด็กพวกนั้นเป็นเพื่อนเธอเหรอ”
“ครับ เรียนห้องเดียวกัน ซอกจินน่ะชอบหาเรื่องคนที่อ่อนแอกว่า เขาตกซ้ำชั้นมาหลายปี เลยคิดว่าตัวเองเก่งที่สุด แล้วก็ชอบข่มคนอื่นให้ทำตามคำสั่งของเขา ถ้าไม่ทำผมก็จะโดนอย่างที่พี่สาวเห็นนั่นแหละครับ ” เด็กหนุ่มเล่าสิ่งที่อัดอั้นจนหมดเปลือก
“พี่สาวไม่น่าช่วยผมเลย เพราะถ้าไปโรงเรียนผมก็จะถูกซอกจินทำร้ายอีก แต่ถึงยังไงก็ขอบคุณพี่สาวมากๆนะครับที่มาช่วยผม” ซองมินพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้อีวานที่กำลังใส่ยาตามรอยแผล“ พวกนั้นจะไม่มาทำร้ายนายอีกแล้วล่ะ” หญิงสาวพูดขึ้น ทำเอาเด็กหนุ่มซองมินมองอย่างสงสัย“เพราะฉันสั่งพวกนั้นเอาไว้แล้ว ว่าไม่ให้ยุ่งกับนายอีกต่อไป” อีวานเอ่ย เธอไม่ชอบการรังแกคนอื่นถึงแม้ตัวเองจะต่อสู้เป็นก็ตาม แต่ความยุติธรรมที่มาจากความรู้สึกว่าอะไรควรไม่ควรนั้นทำให้หญิงสาวตัดสินใจทำมันลงไปโดยไม่กลัวผลที่จะตามมา เด็กหนุ่มพยักหน้าเข้าใจก่อนจะปล่อยให้อีวานนั่งทำแผลบนใบหน้าของเขาต่อ“ข่าวด่วน เมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุรถตู้สีดำเสียหลักพลิกคว่ำตกลงข้างทางที่.... พบผู้เสียชีวิต1รายและบาดเจ็บสาหัสอีก1ราย” เสียงที่ดังมาจากโทรทัศน์หน้าเคาน์เตอร์นั้นทำให้ทุกคนหันไปให้ความสนใจโดยเฉพาะเด็กหนุ่มที่เพิ่งฟื้นอย่าซองมิน เขาจ้องมองอะไรบางอย่างในข่าวก่อนจะต่อสายหาใครบางคนทันที อีวานและเจ้าของค่ายมวยต่างหันมองหน้ากันโดยอัตโนมัติ“ฮัลโล พี่เป็นไงบ้าง เจ็บอะไรตรงไหนไหม ตอนนี้พี่อยู่ที่โรงพยาบาลหรือเปล่า” ขณะที่พูดไปน้ำตาก็เริ่มรื้นขึ้นมาที่ขอบตา ซองมินใช้นิ้วปาดน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากอ่อนแอไปมากกว่านี้ (พี่ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง ตอนนี้พี่อยู่ที่โรงพยาบาลมาเยี่ยมคนไข้น่ะ)“แล้วพี่คนอื่นไม่มีใครเป็นอะไรใช่ไหมครับ” (อื้อ ไม่มีใครเป็นอะไร เพราะพวกเราไม่ได้นั่งรถคันนั้น แล้วนี่เราไม่เข้าเรียนหรือยังไง เดี๋ยวก็ตามเพื่อนไม่ทันหรอก)“ผมไม่อยากไปเรียนแล้ว ผมเป็นห่วงพวกพี่ ผมกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีก”(ได้ยังไงล่ะ ไปเรียนซะ พวกเรากำลังตามหาคนผิดเพื่อมาลงโทษ อย่าให้รู้ว่าขาดเรียน ไม่งั้นพี่จะตัดค่าขนมของเราครึ่งหนึ่ง) ปลายสายตัดไปเรียบร้อยทำเอาซองมินหน้ามุ่ยเพราะไม่อยากไปเรียนในวันนี้เนื่องจากห่วงพี่ชายสุดที่รักที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแทนพ่อที่เสียไป“ผมไม่อยากไปโรงเรียนเลย” เขาพูดระบายออกมาเบาๆ“ไปเรียนเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเอง พี่เธอไม่เป็นอะไรหรอก” อีวานพูดขึ้นนึกสงสารเด็กหนุ่มที่เจอเรื่องไม่ดีในวันนี้หลายเรื่องด้วยกัน “ขอโทษที่ฉันเสียมารยาทแอบฟังเธอกับพี่คุยกัน แต่การเรียนของเธอก็สำคัญนะซองมิน หลังเลิกเรียนก็ค่อยไปเยี่ยมเขาก็ได้” หญิงสาวพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาสบายใจมากขึ้นและจะได้ไม่ขาดเรียนอีกด้วย เด็กหนุ่มนั่งคิดสักครู่จึงตอบตกลงเพราะเขาก็ไม่อยากทำให้พี่ชายสุดที่รักผิดหวัง อีวานจึงไปส่งซองมินตามข้อเสนอของเธอที่พูดเอาไว้
..............................................
“เอาล่ะ เรื่องที่เรียกมาก็มีแค่นี้ ส่วนเรื่องคนที่จะมาทำหน้าที่แทนคนเก่าขณะพักฟื้นนั้นเดี๋ยวฉันจะบอกอีกที แยกย้ายได้” สิ้นเสียงท่านประธานทุกคนจึงก้มโค้งคำนับให้จนเขาเดินออกจากห้องไป
“ฮยอง ฮยองคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรือมีคนจงใจทำ” มักเน่ที่นั่งอยู่ท้ายสุดเอ่ยขึ้น
“นั่นน่ะสิ ต้องเป็นฝีมือของพวกซาแซงแน่ๆเลย พวกนี้ยิ่งน่ากลัวอยู่” พูดจบแบคฮยอนก็เอามือลูบต้นแขนตัวเองขึ้นลงไปมา“บ้าน่า มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุจริงๆก็ได้” เฉินพูดเสริม ถึงแม้เซนส์ของเขาจะบอกอะไรบางอย่างแต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอนก็ยังคงสรุปอะไรไม่ได้“เอาล่ะๆ โชคดีแค่ไหนที่พวกเราไม่ได้อยู่ในตอนนั้น แค่ผู้จัดการรอดมาได้ก็ดีแล้ว อย่าเถียงกันเลยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เถอะ” ซูโฮเอ่ยขึ้นก่อนจะไล่ให้ทุกคนออกจากห้องประชุมแล้วไปนั่งในห้องซ้อมเต้น
หลังจากที่อีวานมาส่งซองมินไปโรงเรียนได้ทันเวลาพอดี หญิงสาวจึงเดินเตร็ดเตร่เพื่อหาของกินข้างทางแล้วก็รับบรรยากาศที่ดีในเช้านี้ก่อนกลับไปที่ค่ายมวยซึ่งจะเป็นที่พักพิงของเธอในคืนนี้และอีกต่อไป ต้องขอบคุณน้าศักดิ์เจ้าของค่ายมวยที่เป็นคนไทยที่ได้ให้เธอพักอาศัยอยู่ด้วยอีกคน
ฟึบ ฟึบ ฟึบ
“ฟื้นแล้วสินะ ที่นี่ค่ายของฉันเองแหละ”ชายเจ้าของค่ายยิ้มตอบอย่างอารมณ์ดี“ใครเป็นคนพาผมมาที่นี่?” คำถามที่สองเอ่ยตามมา เด็กหนุ่มพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นโดยมีเจ้าของค่ายคอยช่วยประคอง “นู่น เธอเป็นคนแบกนายมา” พูดพร้อมกับชี้ไปยังร่างของหญิงสาวที่กำลังเดินมาพร้อมกับกะลังมังใบเล็กและผ้าขนหนูและกล่องปฐมพยาบาล ก่อนจะขอตัวไปดูแลคนที่มาซ้อมมวยต่อ“ไง พ่อหนุ่มน้อย ทายาหน่อยไหม” อีวานยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนจะวางกล่องปฐมพยาบาลลงบนโต๊ะตัวเล็ก หญิงสาวนำผ้าชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆแล้วเช็ดคราบเลือดที่แห้งกรังตามบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม พร้อมกับมีเสียงโอดโอยด้วยความเจ็บปวดดังตามมา เด็กหนุ่มมองใบหน้าสวยของหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณาจนอีวานเริ่มรู้สึกตัวจึงเอ่ยถามตัดจังหวะ
“เธอชื่ออะไร”
“ผมชื่อซองมิน”
“เด็กพวกนั้นเป็นเพื่อนเธอเหรอ”
“ครับ เรียนห้องเดียวกัน ซอกจินน่ะชอบหาเรื่องคนที่อ่อนแอกว่า เขาตกซ้ำชั้นมาหลายปี เลยคิดว่าตัวเองเก่งที่สุด แล้วก็ชอบข่มคนอื่นให้ทำตามคำสั่งของเขา ถ้าไม่ทำผมก็จะโดนอย่างที่พี่สาวเห็นนั่นแหละครับ ” เด็กหนุ่มเล่าสิ่งที่อัดอั้นจนหมดเปลือก
“พี่สาวไม่น่าช่วยผมเลย เพราะถ้าไปโรงเรียนผมก็จะถูกซอกจินทำร้ายอีก แต่ถึงยังไงก็ขอบคุณพี่สาวมากๆนะครับที่มาช่วยผม” ซองมินพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้อีวานที่กำลังใส่ยาตามรอยแผล“ พวกนั้นจะไม่มาทำร้ายนายอีกแล้วล่ะ” หญิงสาวพูดขึ้น ทำเอาเด็กหนุ่มซองมินมองอย่างสงสัย“เพราะฉันสั่งพวกนั้นเอาไว้แล้ว ว่าไม่ให้ยุ่งกับนายอีกต่อไป” อีวานเอ่ย เธอไม่ชอบการรังแกคนอื่นถึงแม้ตัวเองจะต่อสู้เป็นก็ตาม แต่ความยุติธรรมที่มาจากความรู้สึกว่าอะไรควรไม่ควรนั้นทำให้หญิงสาวตัดสินใจทำมันลงไปโดยไม่กลัวผลที่จะตามมา เด็กหนุ่มพยักหน้าเข้าใจก่อนจะปล่อยให้อีวานนั่งทำแผลบนใบหน้าของเขาต่อ“ข่าวด่วน เมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุรถตู้สีดำเสียหลักพลิกคว่ำตกลงข้างทางที่.... พบผู้เสียชีวิต1รายและบาดเจ็บสาหัสอีก1ราย” เสียงที่ดังมาจากโทรทัศน์หน้าเคาน์เตอร์นั้นทำให้ทุกคนหันไปให้ความสนใจโดยเฉพาะเด็กหนุ่มที่เพิ่งฟื้นอย่าซองมิน เขาจ้องมองอะไรบางอย่างในข่าวก่อนจะต่อสายหาใครบางคนทันที อีวานและเจ้าของค่ายมวยต่างหันมองหน้ากันโดยอัตโนมัติ“ฮัลโล พี่เป็นไงบ้าง เจ็บอะไรตรงไหนไหม ตอนนี้พี่อยู่ที่โรงพยาบาลหรือเปล่า” ขณะที่พูดไปน้ำตาก็เริ่มรื้นขึ้นมาที่ขอบตา ซองมินใช้นิ้วปาดน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากอ่อนแอไปมากกว่านี้ (พี่ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง ตอนนี้พี่อยู่ที่โรงพยาบาลมาเยี่ยมคนไข้น่ะ)“แล้วพี่คนอื่นไม่มีใครเป็นอะไรใช่ไหมครับ” (อื้อ ไม่มีใครเป็นอะไร เพราะพวกเราไม่ได้นั่งรถคันนั้น แล้วนี่เราไม่เข้าเรียนหรือยังไง เดี๋ยวก็ตามเพื่อนไม่ทันหรอก)“ผมไม่อยากไปเรียนแล้ว ผมเป็นห่วงพวกพี่ ผมกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีก”(ได้ยังไงล่ะ ไปเรียนซะ พวกเรากำลังตามหาคนผิดเพื่อมาลงโทษ อย่าให้รู้ว่าขาดเรียน ไม่งั้นพี่จะตัดค่าขนมของเราครึ่งหนึ่ง) ปลายสายตัดไปเรียบร้อยทำเอาซองมินหน้ามุ่ยเพราะไม่อยากไปเรียนในวันนี้เนื่องจากห่วงพี่ชายสุดที่รักที่เป็นหัวหน้าครอบครัวแทนพ่อที่เสียไป“ผมไม่อยากไปโรงเรียนเลย” เขาพูดระบายออกมาเบาๆ“ไปเรียนเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเอง พี่เธอไม่เป็นอะไรหรอก” อีวานพูดขึ้นนึกสงสารเด็กหนุ่มที่เจอเรื่องไม่ดีในวันนี้หลายเรื่องด้วยกัน “ขอโทษที่ฉันเสียมารยาทแอบฟังเธอกับพี่คุยกัน แต่การเรียนของเธอก็สำคัญนะซองมิน หลังเลิกเรียนก็ค่อยไปเยี่ยมเขาก็ได้” หญิงสาวพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาสบายใจมากขึ้นและจะได้ไม่ขาดเรียนอีกด้วย เด็กหนุ่มนั่งคิดสักครู่จึงตอบตกลงเพราะเขาก็ไม่อยากทำให้พี่ชายสุดที่รักผิดหวัง อีวานจึงไปส่งซองมินตามข้อเสนอของเธอที่พูดเอาไว้
..............................................
“เอาล่ะ เรื่องที่เรียกมาก็มีแค่นี้ ส่วนเรื่องคนที่จะมาทำหน้าที่แทนคนเก่าขณะพักฟื้นนั้นเดี๋ยวฉันจะบอกอีกที แยกย้ายได้” สิ้นเสียงท่านประธานทุกคนจึงก้มโค้งคำนับให้จนเขาเดินออกจากห้องไป
“ฮยอง ฮยองคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรือมีคนจงใจทำ” มักเน่ที่นั่งอยู่ท้ายสุดเอ่ยขึ้น
“นั่นน่ะสิ ต้องเป็นฝีมือของพวกซาแซงแน่ๆเลย พวกนี้ยิ่งน่ากลัวอยู่” พูดจบแบคฮยอนก็เอามือลูบต้นแขนตัวเองขึ้นลงไปมา“บ้าน่า มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุจริงๆก็ได้” เฉินพูดเสริม ถึงแม้เซนส์ของเขาจะบอกอะไรบางอย่างแต่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอนก็ยังคงสรุปอะไรไม่ได้“เอาล่ะๆ โชคดีแค่ไหนที่พวกเราไม่ได้อยู่ในตอนนั้น แค่ผู้จัดการรอดมาได้ก็ดีแล้ว อย่าเถียงกันเลยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เถอะ” ซูโฮเอ่ยขึ้นก่อนจะไล่ให้ทุกคนออกจากห้องประชุมแล้วไปนั่งในห้องซ้อมเต้น
หลังจากที่อีวานมาส่งซองมินไปโรงเรียนได้ทันเวลาพอดี หญิงสาวจึงเดินเตร็ดเตร่เพื่อหาของกินข้างทางแล้วก็รับบรรยากาศที่ดีในเช้านี้ก่อนกลับไปที่ค่ายมวยซึ่งจะเป็นที่พักพิงของเธอในคืนนี้และอีกต่อไป ต้องขอบคุณน้าศักดิ์เจ้าของค่ายมวยที่เป็นคนไทยที่ได้ให้เธอพักอาศัยอยู่ด้วยอีกคน
ฟึบ ฟึบ ฟึบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ