WHAT IF?(you love me) [THE ARK minju&halla]
7.0
เขียนโดย sonatieviola
วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.42 น.
4 chapter
0 วิจารณ์
7,512 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559 10.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) ค่ายปฐมนิเทศ(วันแรกกับการไปค่ายของมหาวิทยาลัย)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฟิคThe arkเรื่องนี้แต่งขึ้นด้วยความคิดถึงThe arkสุดหัวใจ
เมื่อไหร่จะคัมแบ็คกันนะ ..
มาดูโมเม้นฟินๆก่อนไปเสพฟิคเรื่องนี้กัน >< #minjuhalla #Theark
ฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของไรท์นะคะ ฝากคอมเม้นติชมกันได้เลย น้อมรับครับผม!
ตื๊ดตื๊ดตื๊ด...ตื๊ดตื๊ดตื๊ด เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น มือเรียวขยับควานหาต้นเสียงไปตามผ้าปูที่นอนบนเตียง ’05.30am’ เช้าขนาดนี้ถ้าไม่ใช่วันสำคัญจ้างให้ก็ไม่ตื่น
วันที่ฉันต้องไปค่ายปฐมนิเทศของมหาวิทยาลัย เรียกได้ว่าเป็นวันแรกของชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยของฉันเลยก็ว่าได้ .. “นี่ฉันโตขึ้นมากแค่ไหนแล้ว เป็นเด็กมหาลัยแล้วสินะ” ฉันพูดกับตัวเองแล้วลุกขึ้นไปเตรียมชุดที่ต้องใส่ไปค่ายวันนี้
‘เสื้อยืดของมหาลัยดนตรีชื่อดังแห่งหนึ่งในโซลที่มีแถบสีเหลืองพร้อมกางเกงวอร์ม’
.
ตึ้ก..ตึ้ก..ตึ้ก ฉันกำลังเดินลงบันไดจากชั้น2ของบ้านเพื่อลงไปยังห้องครัวที่อยู่ชั้นล่าง
“โห คนสวยของแม่วันนี้ไม่ต้องให้ปลุกเลยนะ” หญิงสาวที่เกล้าผมรวบตึงและหน้าตายังสวยอยู่ถึงแม้อายุจะ40แล้วก็ตามเอ่ยทักฉันจากห้องครัว นั่นแหละแม่ฉันเอง“หนูตื่นเต้นนี่คะแม่ วันนี้หนูจะได้ไปเจอเพื่อนๆและรุ่นพี่ในคณะด้วยแหละ” ฉันตอบบทสนธนาแรกของวันกับแม่ของฉันก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว
“จ้าๆ แล้วผมเนี่ยจะปล่อยไปแบบนี้หรอ รวบเก็บให้เรียบร้อยด้วยนะ จะได้ไม่เกะกะเวลาทำกิจกรรม”
ฉันฟังคำแนะนำของแม่ก่อนจะรวบผมที่ยาวถึงกลางหลังขึ้นแล้วมัดให้เรียบร้อย“หนูสวยยังคะ” ฉันเข้าไปกอดจากข้างหลังแม่ตัวเองพร้อมกับยิ้มหวานให้
“สวยมากจ้ะ สวยเหมือนแม่เลย” แม่ฉันก็เป็นแบบนี้แหละนะ ชอบชมตัวเองอยู่บ่อยๆ
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ ” ฉันร่ำลาผู้เป็นแม่พร้อมสะพายกระเป๋าเป้ใบโปรดเดินออกจากบ้านเพื่อไปขึ้นรถประจำทาง
“ผู้โดยสารที่จะโดยสารรถไฟขบวนโซล-ปูซานเวลา8นาฬิกา ขณะนี้รถไฟได้จอดเทียบชานชลาแล้วขอให้ทุกท่านเตรียมตัวให้พร้อมและตรวจดูทรัพย์สินของท่าน ขอบคุณค่ะ”
‘Yongsan Station’
ฉันก้าวเท้าเข้ามาในสถานีรถไฟจุดนับพบที่ทางมหาวิทยาลัยบอกไว้ก่อนจะมองหากลุ่มนักศึกษาที่ใส่เครื่องแบบเหมือนฉัน อ๊ะ นั่นไงเจอแล้ว
“น้องๆที่มาถึงแล้ว นั่งเข้าแถวตามสีของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจะเช็คชื่อเพื่อออกเดินทางทันที”
เสียงรุ่นพี่ผู้ชายตัวสูงผมยาวมีเคราบางๆกำลังพูดใส่โทรโข่ง อาา คนอะไรน่ากลัวชะมัด
สี ... สีหรอ “ฉันอยู่สีอะไรนะ” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วมองไปที่แถบเสื้อยืดที่ฉันใส่อยู่ “สีเหลือง...” ใช่ ฉันอยู่สีเหลือง หลังจากก้มมองเสื้อโดยที่สังเกตจากนักศึกษาคนอื่นๆสีที่แถบของเสื้อนั้นแตกต่างกันมีสีชมพู สีฟ้า สีม่วงและสีเหลือง ฉันมองหาเพื่อนนักศึกษาที่ใส่เสื้อมีแถบสีเหลืองเพราะฉันต้องไปนั่งต่อแถว .. แถวยาวชะมัด ฉันเดินไปนั่งที่แถวแล้วมองไปรอบๆ
“ลี ฮัลลา” เสียงรุ่นพี่ผู้หญิงคนนึงที่มายืนข้างๆ
เรียกชื่อฉันพร้อมกับก้มจดอะไรสักอย่างลงบนกระดาษใบขาวนั่น
“ค่ะ” ฉันเงยหน้าตอบรับเสียงรุ่นพี่ไปพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแต่กับไม่ได้รอยยิ้มกลับมาจากรุ่นพี่คนนั้นเลย
จำเป็นต้องkeep lookขนาดนี้ไหม .. ฉันพอรู้ว่าค่ายปฐมนิเทศมันก็คือการรับน้องนั่นแหละ
แล้วก็จะเจอรุ่นพี่หน้าเข้ม ทำตัวขรึมๆให้ดูหน้าเกรงขาม พอจบงานทุกคนก็จะถอดลุครุ่นพี่ใจร้ายออกไปเอง
“เราจะออกเดินทางกันแล้ว เช็คสัมภาระตัวเองให้ดีก่อนขึ้นรถไฟด้วย
แล้วก็เดินเป็นแถวด้วยนะ” เสียงรุ่นพี่หน้าเข้มที่ยืนอยู่ข้างหน้าคนเดิมตะโกนใส่โทรโข่ง
ฉันถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน เดินตามแถวเพื่อขึ้นรถไฟไปเงียบๆตามที่รุ่นพี่บอก
“จับจองที่นั่งให้เรียบร้อยนะคะน้องๆ นั่งตามพื้นที่ของสีตัวเองด้วยนะคะ”
รุ่นพี่ผู้หญิงพูดขึ้นมาหลังจากเด็กปี1สีเหลืองทุกคนขึ้นมาบนรถไฟแล้ว
บนรถไฟซึ่งตอนนี้วุ่นวายไปด้วยนักศึกษาปี1ของมหาวิทยาลัยดนตรีชื่อดังที่กำลังจะไปเข้าค่ายปฐมนิเทศ
ส่วนใหญ่มาจากต่างโรงเรียน ส่วนน้อยที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน อืม..ฉันเองก็ยังไม่มีเพื่อนสักคนเลยแฮะ
ฉันคิดไปพลางหาที่นั่งที่ว่างไป “นี่ มานั่งด้วยกันสิเหลือ1ที่พอดี”
เสียงแหบหวานของผู้หญิงตากลมสวยใส่ผ้ารัดหัวสีดำพูดทักฉัน
“อุ้ย ขอบคุณนะ” ฉันเก็บกระเป๋าพร้อมนั่งลงตามคำชักชวน สักพักก็มีรุ่นพี่มาแจกป้ายชื่อให้น้องปี1ทุกคน
‘เจน ยูนา’ ฉันอ่านชื่อของหญิงสาวทั้ง2คนที่นั่งอยู่ในบล็อกเดียวกันกับฉัน
“ฮัลลา ฮัลลายาาา ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ” เสียงแป๋วจากผู้หญิงหน้าสวยที่ใส่หมวกแก้บตรงหน้าฉันพูดขึ้น เธอคนนี้ชื่อยูนาหละ ดูเป็นคนร่าเริงชะมัด “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะยูนา แล้วก็..เจน”
ผู้หญิงเจ้าของเสียงหวานแหบที่เอ่ยทักฉันคนแรกท่าทางเหมือนเด็กคนนี้ชื่อเจน....
ความบังเอิญกว่านั้นเราสามคนอยู่เอกขับร้องเหมือนกัน คุยกันมาตลอดทางจนเป็นเพื่อนที่(เกือบ)สนิทกันไปแล้ว
“สถานีต่อไป ชุนชอน” สิ้นเสียงประกาศจากรถไฟ รุ่นพี่ประกาศให้น้องปี1ทุกคนลงจากรถไฟแล้วไปต่อแถวเพื่อขึ้นรถบัสเข้าไปในค่าย “จับกลุ่มกันไว้นะทุกคน เราต้องได้นอนห้องเดียวกัน” หญิงสาวตากลมโตที่สุดในกลุ่มพูดขึ้นเมื่อคนเริ่มกรูลงรถไฟไปขึ้นรถบัสเมื่อทุกอย่างพร้อมรถบัสจึงออกจากสถานีรถไฟตรงไปยังค่ายปลายทาง
... นานแค่ไหนแล้วไม่รู้เพราะฉันหลับไป ฉันลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงรุ่นพี่ประกาศว่าจะถึงแล้ว ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างข้างทางมีแต่ป่าเขา บรรยากาศน่าสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆจริงๆ
ฉันก้าวเท้าลงจากรถ...แล้วก็เป็นอย่างที่คิด บรรยากาศดีมากๆ
บริเวณค่ายล้อมรอบไปด้วยป่าและภูเขาสีเขียวได้ยินเสียงนกร้องชัดเจน ดีกับใจเหลือเกินบรรยากาศแบบนี้
“ดีมากกอ่ะ” ฉันบอกความรู้สึกของฉันกับยูนา “บรรยากาศดีแต่ไม่รู้ว่าจะไปเจอบทรับน้องแบบไหนนี่สิ”
นั่นสินะ ...... รับน้อง
เมื่อไหร่จะคัมแบ็คกันนะ ..
มาดูโมเม้นฟินๆก่อนไปเสพฟิคเรื่องนี้กัน >< #minjuhalla #Theark
ฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของไรท์นะคะ ฝากคอมเม้นติชมกันได้เลย น้อมรับครับผม!
ตื๊ดตื๊ดตื๊ด...ตื๊ดตื๊ดตื๊ด เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น มือเรียวขยับควานหาต้นเสียงไปตามผ้าปูที่นอนบนเตียง ’05.30am’ เช้าขนาดนี้ถ้าไม่ใช่วันสำคัญจ้างให้ก็ไม่ตื่น
วันที่ฉันต้องไปค่ายปฐมนิเทศของมหาวิทยาลัย เรียกได้ว่าเป็นวันแรกของชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยของฉันเลยก็ว่าได้ .. “นี่ฉันโตขึ้นมากแค่ไหนแล้ว เป็นเด็กมหาลัยแล้วสินะ” ฉันพูดกับตัวเองแล้วลุกขึ้นไปเตรียมชุดที่ต้องใส่ไปค่ายวันนี้
‘เสื้อยืดของมหาลัยดนตรีชื่อดังแห่งหนึ่งในโซลที่มีแถบสีเหลืองพร้อมกางเกงวอร์ม’
.
ตึ้ก..ตึ้ก..ตึ้ก ฉันกำลังเดินลงบันไดจากชั้น2ของบ้านเพื่อลงไปยังห้องครัวที่อยู่ชั้นล่าง
“โห คนสวยของแม่วันนี้ไม่ต้องให้ปลุกเลยนะ” หญิงสาวที่เกล้าผมรวบตึงและหน้าตายังสวยอยู่ถึงแม้อายุจะ40แล้วก็ตามเอ่ยทักฉันจากห้องครัว นั่นแหละแม่ฉันเอง“หนูตื่นเต้นนี่คะแม่ วันนี้หนูจะได้ไปเจอเพื่อนๆและรุ่นพี่ในคณะด้วยแหละ” ฉันตอบบทสนธนาแรกของวันกับแม่ของฉันก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว
“จ้าๆ แล้วผมเนี่ยจะปล่อยไปแบบนี้หรอ รวบเก็บให้เรียบร้อยด้วยนะ จะได้ไม่เกะกะเวลาทำกิจกรรม”
ฉันฟังคำแนะนำของแม่ก่อนจะรวบผมที่ยาวถึงกลางหลังขึ้นแล้วมัดให้เรียบร้อย“หนูสวยยังคะ” ฉันเข้าไปกอดจากข้างหลังแม่ตัวเองพร้อมกับยิ้มหวานให้
“สวยมากจ้ะ สวยเหมือนแม่เลย” แม่ฉันก็เป็นแบบนี้แหละนะ ชอบชมตัวเองอยู่บ่อยๆ
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ ” ฉันร่ำลาผู้เป็นแม่พร้อมสะพายกระเป๋าเป้ใบโปรดเดินออกจากบ้านเพื่อไปขึ้นรถประจำทาง
“ผู้โดยสารที่จะโดยสารรถไฟขบวนโซล-ปูซานเวลา8นาฬิกา ขณะนี้รถไฟได้จอดเทียบชานชลาแล้วขอให้ทุกท่านเตรียมตัวให้พร้อมและตรวจดูทรัพย์สินของท่าน ขอบคุณค่ะ”
‘Yongsan Station’
ฉันก้าวเท้าเข้ามาในสถานีรถไฟจุดนับพบที่ทางมหาวิทยาลัยบอกไว้ก่อนจะมองหากลุ่มนักศึกษาที่ใส่เครื่องแบบเหมือนฉัน อ๊ะ นั่นไงเจอแล้ว
“น้องๆที่มาถึงแล้ว นั่งเข้าแถวตามสีของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจะเช็คชื่อเพื่อออกเดินทางทันที”
เสียงรุ่นพี่ผู้ชายตัวสูงผมยาวมีเคราบางๆกำลังพูดใส่โทรโข่ง อาา คนอะไรน่ากลัวชะมัด
สี ... สีหรอ “ฉันอยู่สีอะไรนะ” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วมองไปที่แถบเสื้อยืดที่ฉันใส่อยู่ “สีเหลือง...” ใช่ ฉันอยู่สีเหลือง หลังจากก้มมองเสื้อโดยที่สังเกตจากนักศึกษาคนอื่นๆสีที่แถบของเสื้อนั้นแตกต่างกันมีสีชมพู สีฟ้า สีม่วงและสีเหลือง ฉันมองหาเพื่อนนักศึกษาที่ใส่เสื้อมีแถบสีเหลืองเพราะฉันต้องไปนั่งต่อแถว .. แถวยาวชะมัด ฉันเดินไปนั่งที่แถวแล้วมองไปรอบๆ
“ลี ฮัลลา” เสียงรุ่นพี่ผู้หญิงคนนึงที่มายืนข้างๆ
เรียกชื่อฉันพร้อมกับก้มจดอะไรสักอย่างลงบนกระดาษใบขาวนั่น
“ค่ะ” ฉันเงยหน้าตอบรับเสียงรุ่นพี่ไปพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแต่กับไม่ได้รอยยิ้มกลับมาจากรุ่นพี่คนนั้นเลย
จำเป็นต้องkeep lookขนาดนี้ไหม .. ฉันพอรู้ว่าค่ายปฐมนิเทศมันก็คือการรับน้องนั่นแหละ
แล้วก็จะเจอรุ่นพี่หน้าเข้ม ทำตัวขรึมๆให้ดูหน้าเกรงขาม พอจบงานทุกคนก็จะถอดลุครุ่นพี่ใจร้ายออกไปเอง
“เราจะออกเดินทางกันแล้ว เช็คสัมภาระตัวเองให้ดีก่อนขึ้นรถไฟด้วย
แล้วก็เดินเป็นแถวด้วยนะ” เสียงรุ่นพี่หน้าเข้มที่ยืนอยู่ข้างหน้าคนเดิมตะโกนใส่โทรโข่ง
ฉันถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน เดินตามแถวเพื่อขึ้นรถไฟไปเงียบๆตามที่รุ่นพี่บอก
“จับจองที่นั่งให้เรียบร้อยนะคะน้องๆ นั่งตามพื้นที่ของสีตัวเองด้วยนะคะ”
รุ่นพี่ผู้หญิงพูดขึ้นมาหลังจากเด็กปี1สีเหลืองทุกคนขึ้นมาบนรถไฟแล้ว
บนรถไฟซึ่งตอนนี้วุ่นวายไปด้วยนักศึกษาปี1ของมหาวิทยาลัยดนตรีชื่อดังที่กำลังจะไปเข้าค่ายปฐมนิเทศ
ส่วนใหญ่มาจากต่างโรงเรียน ส่วนน้อยที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน อืม..ฉันเองก็ยังไม่มีเพื่อนสักคนเลยแฮะ
ฉันคิดไปพลางหาที่นั่งที่ว่างไป “นี่ มานั่งด้วยกันสิเหลือ1ที่พอดี”
เสียงแหบหวานของผู้หญิงตากลมสวยใส่ผ้ารัดหัวสีดำพูดทักฉัน
“อุ้ย ขอบคุณนะ” ฉันเก็บกระเป๋าพร้อมนั่งลงตามคำชักชวน สักพักก็มีรุ่นพี่มาแจกป้ายชื่อให้น้องปี1ทุกคน
‘เจน ยูนา’ ฉันอ่านชื่อของหญิงสาวทั้ง2คนที่นั่งอยู่ในบล็อกเดียวกันกับฉัน
“ฮัลลา ฮัลลายาาา ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ” เสียงแป๋วจากผู้หญิงหน้าสวยที่ใส่หมวกแก้บตรงหน้าฉันพูดขึ้น เธอคนนี้ชื่อยูนาหละ ดูเป็นคนร่าเริงชะมัด “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะยูนา แล้วก็..เจน”
ผู้หญิงเจ้าของเสียงหวานแหบที่เอ่ยทักฉันคนแรกท่าทางเหมือนเด็กคนนี้ชื่อเจน....
ความบังเอิญกว่านั้นเราสามคนอยู่เอกขับร้องเหมือนกัน คุยกันมาตลอดทางจนเป็นเพื่อนที่(เกือบ)สนิทกันไปแล้ว
“สถานีต่อไป ชุนชอน” สิ้นเสียงประกาศจากรถไฟ รุ่นพี่ประกาศให้น้องปี1ทุกคนลงจากรถไฟแล้วไปต่อแถวเพื่อขึ้นรถบัสเข้าไปในค่าย “จับกลุ่มกันไว้นะทุกคน เราต้องได้นอนห้องเดียวกัน” หญิงสาวตากลมโตที่สุดในกลุ่มพูดขึ้นเมื่อคนเริ่มกรูลงรถไฟไปขึ้นรถบัสเมื่อทุกอย่างพร้อมรถบัสจึงออกจากสถานีรถไฟตรงไปยังค่ายปลายทาง
... นานแค่ไหนแล้วไม่รู้เพราะฉันหลับไป ฉันลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงรุ่นพี่ประกาศว่าจะถึงแล้ว ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างข้างทางมีแต่ป่าเขา บรรยากาศน่าสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆจริงๆ
ฉันก้าวเท้าลงจากรถ...แล้วก็เป็นอย่างที่คิด บรรยากาศดีมากๆ
บริเวณค่ายล้อมรอบไปด้วยป่าและภูเขาสีเขียวได้ยินเสียงนกร้องชัดเจน ดีกับใจเหลือเกินบรรยากาศแบบนี้
“ดีมากกอ่ะ” ฉันบอกความรู้สึกของฉันกับยูนา “บรรยากาศดีแต่ไม่รู้ว่าจะไปเจอบทรับน้องแบบไหนนี่สิ”
นั่นสินะ ...... รับน้อง
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ