Conquerhearts ปฏิบัติการพิชิตหัวใจ
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.31 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559 15.37 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) แผนลับกระชับความสัมพันธ์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 8 แผนลับกระชับความสัมพันธ์
“เฮ้ย! -0-”
“ฉันจะไม่ทนแล้วนะพี่เข่ง!” ฉันโวยวายพร้อมกับปาหมอนอิงที่อยู่ในมือไปฟาดหัวพี่ชายของตัวเองเข้าเต็มๆ ในขณะที่เขากำลังเดินตรงมาหาฉัน
ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มนิดๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเวลานี้พี่ขนมเข่งกับฉันถึงไม่ได้อยู่ที่ริกกี้เวย์ แต่ดันมาโผล่หัวเป็นผีสิงอยู่ที่บ้านแบบนี้ นั่นก็เพราะฉันยังโกรธโทโมะเรื่องเมื่อตอนบ่ายไม่หายน่ะสิ! เขาเชื่อยัยพม่าว่าฉันเป็นคนปล่อยลมยางรถของเขา มันน่าเจ็บใจชะมัดเลย!
ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ! -3-
“เป็นบ้าอะไรของแกวะ ฉันจะไปริกกี้ก็ไม่ให้ไป พอตกลงว่าจะอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนยังจะมาเนรคุณเขวี้ยงหมอนใส่อีก…ทำตัว -_-^” พี่ขนมเข่งพูดอย่างเซ็งอารมณ์ก่อนที่จะเดินถือหมอนอิงใบเมื่อกี้แล้วมาหย่อน ก้นลงนั่งข้างๆ ฉันอย่างแรงจนฉันถึงกับกระเด้งขึ้นเล็กน้อย
ไม่เบาเลยนะน้ำหนักตัวเนี่ย ไอ้พี่บ้า -*-
“เออน่ะ!”
“นี่ฉันเพิ่งหายงอนแกเรื่องเมื่อกลางวันที่ว่าฉันพูดอะไรเลี่ยนๆ นะเนี่ย ไอ้แก้วเน่า -0-”
“หายก็ดีแล้วไง -*-”
“ที่แกหงุดหงิด โหวกเหวกโวยวาย ทำลายข้าวของนี่เรื่องไอ้โมะใช่มะ” เขาถามพ้รอมกับหรี่ตาลงจ้องหน้าฉันอย่างจับผิด ฉันล่ะเกลียดสายตารู้ทันภายใต้กรอบแว่นไม่มีเลนส์ของเขาจริงๆ เลย ให้ตายเถอะ!
“ใช่! เพราะไอ้บ้านั่นคนเดียว”
“เอาน่า ฉันบอกมันให้มั้ยว่าแกไม่ได้เป็นคนปล่อยลมยางน่ะ มันอาจจะเชื่อนะ ^_^” พี่ขนมเข่งพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ
ใช่สิ! คนที่โทโมะไม่เชื่อก็มีแต่ฉันคนเดียวเท่านั้นแหละ!
“ใครจะไปรู้ หมอนั่นอาจจะหาว่าฉันฟ้องพี่เข่ง แล้วพี่ก็เข้าข้างฉันก็ได้ เขาต้องคิดแบบนี้แน่ๆ” ฉันพูดเสียงแข็งพร้อมกับนึกหน้าโทโมะตอนที่พี่เข่งไปบอกเขาออกเลยล่ะ ถึงมันยังไม่เปิดขึ้น ฉันก็รู้ว่าเขาต้องทำหน้าแล้วพูดยังไง
“แล้วแกฟ้องจริงมั๊ยล่ะ -_-”
“ก็นิดหน่อยเอง T.T”
“ได้ข่าวว่าแกเล่ามาทั้งหมด ถ้าไอ้โมะมันจะว่าแกฟ้องก็ไม่ผิดไปจากความจริงเลย”
“บอกว่าฉันฟ้องไม่เท่าไหร่หรอก แต่หมอนั่นชอบว่าฉันไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ ขี้อิจฉาอย่างนั้น เฮอะ!” นึกถึงน้ำเสียงตอนที่เขาว่าฉันขึ้นมาแล้วมันก็จี๊ด!
“ไอ้โมะมันเป็นคนดีพอที่จะไม่พูดจาทำร้ายผู้หญิงหรอกน่า”
“น้อยไปสิ! แววตาหมอนั่นเวลามองฉันนะ มันแข็งยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น! น้ำเสียงก็ไม่เคยจะเป็นมิตรเลย ฮึ่ย! แล้วนี่ยัยแม่หมอนั่นดันคอนเฟิร์มว่าฉันมาถูกทางแล้ว อย่าบอกนะว่าไอ้บ้านั่นมันเป็นเนื้อคู่ฉันจริงๆ น่ะ TOT” ฉันพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาขยี้หัวตัวเองจนผมยุ่งเหยิงไปหมด นี่ถ้าแรงกว่านี้อีกนิดผมต้องหลุดติดมือฉันออกมาแน่ๆ
“ใจเย็นๆ” พี่ขนมเข่งเอามือมาลูบหลังฉันเบาๆ ให้สงบสติอารมณ์
“ฮึ่ย!”
พลั่ก!
“อะเจ้ยยย!!!-0-”
ฉันดึงหมอนใบเดิมมาจากหน้าตักของพี่ขนมเข่งแล้วปาออกไปอีกรอบเพื่อระบายอารมณ์ แต่มันกลับไม่ได้ดิ่งลงสู่พื้นตามที่หวังเอาไว้ เพราะมันไปโดนใครบางคนเข้า….ใครบางคนที่ไม่ได้มาแค่คนเดียวแต่มาสาม…สามคนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในบ้านของฉันโดยไม่กดกริ่งเรียกหรือส่งเสียงให้เจ้าของบ้านรู้เลยแม้แต่นิดเดียว -*-
“O_O!” ฉันกับพี่ขนมเข่งทำสีหน้าเดียวกันทันทีที่เห็นแขกไม่ได้รับเชิญทั้งสามคนนั้น
เขื่อน!
ป๊อปปี้!!
โทโมะ!!!
“ทำไมคนบ้านนี้มันโหดจังครับ ตอนรับแขกแบบนี้เหรอเนี่ย TOT” เขื่อนทำหน้าเศร้าก่อนที่จะก้มลงเก็บหมอนที่ตกอยู่กับพื้นแล้วเดินมายื่นคืนให้
ไอ้เรื่องที่ปาหมอนไปโดนเขื่อนมันไม่ได้ทำให้ฉันตกใจเท่าไหร่หรอกนะ เพราะตอนนี้สายตาของฉันกับพี่ขนมเข่งกำลังมองไปยังโทโมะที่สภาพแบบว่า…แขนทั้งสองข้างไขว้กันไว้ข้างหลังแล้วถูกล็อกด้วยกุญแจมือ และที่ปากของเขายังมีผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่พันปิดปากเอาไว้ด้วย! ตอนนี้เขาก็กำลังดิ้นขลุกขลักไปมาอยู่ในการจับกุมของป๊อปปี้ที่ตัวใหญ่กว่าและน่าจะแรงเยอะกว่ามากด้วย
“มาได้ไง ทำไมไม่ได้ยินเสียงรถเลยเนี่ย” พี่ขนมเข่งเป็นคนเปิดปากถามคนแรก
“อ๋อ ผมขับเต่าทองของไอ้โมะมาเองแหละเลยไม่ส่งเสียงดัง คันโปรดมันเติมลมเสร็จก็กลับไปนอนพักที่บ้านล้วล่ะ” เขื่อนตอบก่อนที่จะก่อนที่จะเหลือบไปมองโทโมะที่ตอนนี้มีสีหน้าเหมือนขี้ ไม่ออกมาสักเจ็ดวันแปดวันได้
“แล้วนี่แกสองคนทำอะไรไอ้โมะวะ อย่างกับจับตัวคนขโมยกางเกงใน >_<”
“ก็จับตัวมันมาขอโทษที่เข้าใจแก้วใจผิดไงครับพี่หนมเข่ง” คราวนี้ป๊อปปี้เป็นคนตอบพร้อมกับพลักโทโมะให้เดินเข้ามาใกล้ฉันกับพี่ขนมเข่งเรื่อยๆ
“เฮอะ!” ฉันจงใจพ่นลมหายใจเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อหันไปสบตากับโทโมะที่เขา มองมาที่ฉันพอดี สายตาของเขาที่มองฉันก็ยังเหมือนเดิมนั่นแหละ แข็งกร้าวไม่เปลี่ยนเลย!
“เหรอ ฉันว่าปล่อยมันก่อนดีกว่ามั้ย หน้าแม่งใกล้จะลาโลกเต็มแก่แล้วว่ะ ฮ่าๆๆ >O<” พี่ขนมเข่งบอกพร้อมกับลุกขึ้นไปเป็นคนแก้มัดผ้าที่ปิดปากโทโมะอยู่ ส่วนเขื่อนก็ล้วงลูกกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วโยนเล่นสองสามทีก่อนที่ จะเดินชิวๆ ไปปลดล็อกกุญแจมือให้เพื่อนตัวเอง
“ฉันบอกพวกแกแล้วใช่มั้ยว่าพรุ่งนี้ก็ได้ พวกแกทำให้พิมโกรธฉันอีกแล้วนะเว้ย!” ทันทีที่เป็นอิสระ โทโมะก็โวยวายใส่เพื่อนทั้งสองคนของตัวเองทันที แต่นอกจากจะไม่มีใครสนใจฟังแล้ว…เขื่อนยังยกมือขึ้นมาปิดหูเอาไว้ ป๊อปปี้เองก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทัชเล่นไปมา -_-^
“ไม่ได้! เมื่อรู้ตัวว่าทำผิด ก็ต้องรีบขอโทษสิวะ” เขื่อนที่แกล้งทำเหมือนไม่ได้ยินแต่ที่จริงแล้วก็ได้ยินทั้งหมดพูดขึ้น พร้อมกับเก็กหน้าโหดใส่เพื่อนของตัวเอง
“ฉันว่าพวกนายพาไอ้บ้านี่กลับไปเถอะ! ดูท่าทางก็รู้ว่าไม่เต็มใจมาขอโทษ” ฉันพูดแล้วลุกขึ้นเตรียมจะเดินหนีขึ้นชั้นสองของบ้าน แต่ก็ถูกพี่ขนมเข่งดึงแขนเอาไว้ก่อน ฉันหันไปมองพี่ชายตัวเองอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนที่จะยอมนั่งลงที่เดิม
“เล่ามาดิ๊ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ สรุปน้องฉันไม่ได้ทำใช่มั้ย นี่มันโวยวายตั้งแต่กลับมาถึงบ้านแล้วรู้มั้ยเนี่ย -*-” พี่เข่งพูดพร้อมกับกอดอกแล้วกระแทกก้นลงนั่งบนโซฟาเหมือนเดิม
เขื่อนและป๊อปปี้เองก็เดินมาไปจับจองโซฟาตัวเล็กกันคนละตัวเหมือนกัน จะเหลือก็แค่โทโมะเท่านั้นที่ยังคงยืนนิ่งอยู่พร้อมกับจ้องฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ หน้าหมอนี่มันเหวี่ยงโลกชะมัดเลย
“อ้าวไอ้โมะ เป็นริดสีดวงเหรอวะ นั่งดิ!” เขื่อนหันไปขมวดคิ้วใส่เพื่อนของตัวเองเมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมนั่ง
“พวกแกนะพวกแก ฮึ!” โทโมะบ่นอุบแล้วพ่นลมหายใจอย่างแรงพลางเดินไปนั่งที่โซฟาตัวเล็กอีกตัวข้างๆ ป๊อปปี้
“พวกฉันทำไมวะ ก็แฟนแกแม่งไม่ดูเองว่าใครทำกันแน่ เห็นแก้วใจไปเดินก้มๆ เงยๆ แถวรถหน่อยก็หาว่าเป็นคนปล่อยลมยาง โด่ว!”
“-_-+”โทโมะไม่พูดตอบโต้เพียงแต่ทำสายตาอาฆาตส่งไปให้คนที่ว่าแฟนของเขาเท่านั้น แต่ฉันว่านั่นมันเป็นการตอบโต้อย่างหนึ่งที่น่ากลัวของหมอนี่เลยล่ะ
“พอเถอะไอ้เขื่อน เมื่อกี้แกก็พูดแบบนี้จนยัยนั่นโกรธไอ้โมะไปแล้ว”
“เอาล่ะๆ อย่าเพิ่งเถียงกัน…ตกลงว่ารู้ความจริงแล้ว?” พี่ขนมเข่งยกมือทั้งสองข้างขึ้นเป็นเชิงห้ามทัพ
“ครับ ผมเป็นคนไปขอวิดีโอกล้องวงจรปิดของมหา’ลัย มาเปิดมาดูเองแหละ ไอ้ฌอนมันคงไม่รู้ว่าที่ลานจอดรถมันมีกล้องข้างตึกตัวนึงที่จับภาพตรงนั้นอยู่” เขื่อนอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง พี่ขนมเข่งเองก็พยักหน้าลงช้าๆ อย่างเข้าใจ ส่วนฉันน่ะเหรอ…ก็กำลังเขม่นตาใส่โทโมะอยู่น่ะสิ คิดว่าเขาทำสายตาแบบนั้นเป็นคนเดียวหรือไง เฮอะ!
“จะจ้องอีกนานมั้ยห๊ะ” โทโมะถามขึ้นอย่างหาเรื่อง
“ก็จนกว่านายจะขอโทษฉันนั่นแหละ!” ฉันถลึงตาใส่เขาด้วยความโมโห เขาไม่เห็นมีสีหน้าและท่าทางสำนึกผิดเลยสักนิด!
“ไอ้บ้าสองตัวนี่ก็กัดกันอยู่ได้ โว๊ะ!” พี่ขนมเข่งส่ายหน้าอย่างระอา
“เอาเป็นว่า…เรื่องนี้ไอ้แก้วไม่ผิดสินะ…” เขาพูดต่อเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่างอยู่
“ใช่ แล้วครับ ดังนั้นขอโทษแก้วใจซะไอ้โทโมะ” เขื่อนพยักหน้าลงอย่างเห็นด้วยกับพี่ขนมเข่งแล้วหันมาสั่งเพื่อนของตัวเอง เสียงเข้ม
“ขอโทษ!…ไป! ไอ้ เขื่อน ไอ้ป๊อปปี้ กลับกันเถอะ ลาล่ะครับพี่หนมเข่ง” โทโมะพูดเสียงรอดไรฟันขอโทษฉันอย่างไม่เต็มใจนักก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วหัน ไปพยักหน้าเรียกเพื่อนของตัวเอง
“อะไรวะ มายังไม่ถึงห้านาทีเลย” ป๊อปปี้บอกพร้อมกับดึงเพื่อนของตัวเองให้นั่งลงที่เดิม
“จะรีบไปไหนล่ะ ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่ายกโทษให้หรือเปล่า…แต่ งานนี้มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนิดๆ หน่อยๆ ในการที่จะให้ฉันยกโทษให้นะ” ฉันพูดลอยๆ แต่รู้นะว่าเขาได้ยินน่ะ เพราะฉันเห็นเขาชักสีหน้าไม่พอใจแล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอด้วย
“เอ่อ…เออๆ นั่นสิ! ข้อแลกเปลี่ยน” พี่ขนมเข่งทำเสียงอ้ำๆ อึ้งๆ ทันทีเมื่อฉันแอบเอื้อมมือไปหยิกแขนเขาเบาๆ เป็นเชิงว่าให้ร่วมด้วยช่วยกัน
“เออว่ะ! เป็นฉันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ” เขื่อนพยักหน้าลงอย่างเห็นด้วยอีกคนโดยที่ฉันไม่ได้ขอร้อง
ดีล่ะ! คนสนิทของโทโมะร่วมมือกับฉันแบบนี้มันค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย…หึหึ
ยัยพม่า! แฟนเธอเสร็จฉันแน่!
เอ๊ย! เธอเสร็จฉันแน่ ฉันไม่ยอมให้เธอมาทำร้ายฉันแบบนี้ได้ตลอดหรอกนะ >_<
“พี่หนมเข่ง ผมว่า…” โทโมะมีสีหน้าลำบากใจทันที แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดจบป๊อปปี้ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ยกแขนขึ้นมาคล้องคอเขาเอาไว้แล้วชิงพูดแทรกขึ้นซะก่อน
“ฉันว่ามันโอเคเลยนะถ้าจะมีข้อแลกเปลี่ยนเนี่ย”
“พวกแกก็เห็นด้วยกับยัยบ้านี่เหรอวะ!” โทโมะพูดเสียงดังแล้วชี้นิ้วมาที่ฉันอย่างลืมตัว
“อะแฮ่ม! น้องกู -_-^” พี่ขนมเข่งแกล้งส่งเสียงกระแอมขึ้น จนโทโมะรีบชักมือกลับไปกำไว้แล้ววางไว้ที่หน้าตักของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
“ขอโทษครับพี่หนมเข่ง แต่ผมขอโทษแก้วใจไปแล้ว…ให้ผมกลับเถอะ U.U”
“น้องฉันบอกมีว่ามีข้อแลกเปลี่ยนไง ฟังมันหน่อยเหอะ ฉันขี้เกียจรำคาญตอนมันพล่ามบ่นเรื่องแกให้ฉันฟัง” สรุปแล้วพี่ชายฉันตั้งใจจะช่วยฉันจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย -*- แต่ไม่ว่าด้วยเจตนาอะไรก็ตามแค่เขาช่วยฉันก็พอแล้วล่ะ ลำพังฉันแค่คนเดียวคงลำบากแน่ๆ ก็โทโมะตีหน้าโหดใส่ฉันตลอดเวลาเลยน่ะสิ T^T
“…ก็ ได้ครับ” เขาจำใจยอมฟังในที่สุด คงเพราะเกรงใจพี่ขนมเข่งนั่นแหละ ถึงแม้ว่าเขาจะห้ามไม่ให้ฉันดึงพี่ชายของตัวเองเข้ามาเกี่ยงข้องกับเรื่องนี้ก็เถอะ แต่ฉันไม่เชื่อเขาหรอกนะ เพราะเขาเองยังไม่เชื่อฉันเลย
แบบนี้เขาเรียกว่าหายกันนะจ๊ะสุดหล่อ
แล้วก็เกิดความเงียบเข้ามาครอบงำทันทีเพราะทุกคนกำลังรอฟังฉันว่าจะมีข้อแปลก เปลี่ยนอะไร รวมถึงโทโมะด้วย แต่รายนั้นดูจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นอกจากส่งสายตาเป็นเชิงเร่งให้ฉันพูด เร็วๆ เขาจะได้กลับสักที เห็นหน้ายุ่งๆ ของเขาแบบนี้แล้วตลกชะมัด มันน่าแกล้งซะให้เข็ด!
“นาย…เลิกกับแฟนได้ป้ะ!>_<” ฉันเอ่ยขึ้น
“ไม่!!!” เขาค้านเสียงแข็งพร้อมกับลุกพรึบขึ้นทันใด
“ฉันว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจนะ” ป๊อปปี้เอ่ยขึ้นเสียงเรียบตามสไตล์ของเขาในขณะที่สายตาก็ยังคงสนใจโทรศัพท์ในมือของตัวเองอยู่
“นั่นดิ แกเลิกกับพิมก็ดีเหมือนกัน ฉันไม่ค่อยชอบแฟนแกเท่าไหร่ว่ะนี่พูดเลย ดูเป็นคนแปลกๆ อะ =.,=” เขื่อนพูดขึ้นอย่างไม่สนใจ เขาต้องไม่ทันเห็นสีหน้าของโทโมะแน่ๆ เพราะตอนนี้ตาหมอนั่นกำลังกระตุกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“พูดอีกทีดิ๊” โทโมะหันขวับไปหาเขื่อนแล้วง้างหมัดขึ้นสูงเตรียมจะปล่อยใส่เพื่อนของตัวเองได้ทุกเมื่อหมอนี่มันน่าหมั่นไส้นัก! กับอีแค่ผู้หญิงคนเดียวถึงกับจะต่อยเพื่อนตัวเองเลยเหรอไง งี่เง่าโง่งมงายชะมัดยาด -0-
“เฮ้ยๆๆ! เข้ามากูถีบอะนี่บอกล่วงหน้าเลย O[]O!” เขื่อนยกเท้าขึ้นทันทีเพื่อเตรียมพร้อมยันโทโมะออกไปถ้าหมอนั่นเข้าไปต่อยเขาจริงๆ
“นั่งก่อนๆ ใจเย็นเว้ย! ไอ้แก้วล้อเล่นหรอกน่า” พี่ขนมเข่งเป็นคนห้ามทัพอีกครั้ง
“แกก็ดีแต่ว่าพิม ยัยนั่นไปทำอะไรให้แกนักหนาวะ…แกด้วยไอ้ป๊อป นิ่งๆ เงียบๆ นี่ตัวดีเลยนะ -*-” โทโมะยอมนั่งลงแต่โดยดีแต่ก็ไม่วายโวยวายใส่เพื่อนของตัวเองจนได้ แถมป๊อปปี้ที่นั่งกดมือถืออยู่(น่าจะเล่นเกมนะฉันว่า)ถึงกับผงะพร้อมกับเงย หน้าขึ้นมาอย่างงุนงงทันทีที่โดนอ้างถึงด้วย
“ฉันให้โอกาสเธอพูดอีกครั้ง ถ้ายังเพ้อเจ้อไม่เลิก ฉันจะกลับ!...ขอ โทษนะครับพี่หนมเข่ง” เมื่อเห็นว่าโทโมะหันมาทำตาเขียวใส่ฉันแล้วก็หันไปทำท่าทีอ่อนน้อมให้พี่ ขนมเข่ง ฉันก็ถึงกับเบ้ปากทันที ความจริงแล้วหมอนี่มันก็ขี้โวยวายเหมือนกันนะเนี่ย เผลอๆ จะมากกว่าฉันด้วยซ้ำ แถมยังเลือกปฏิบัติด้วย! T^T
“เรื่องมากจริงๆ เลย” ฉันแกล้งบ่น
“…”โทโมะไม่โต้เถียงอะไรเพียงแต่ส่งสายตาอำมหิตมาให้ฉันเท่านั้น
“ถ้าเรื่องเมื่อกี้ทำไม่ได้ งั้นก็…” ฉันเงียบไปก่อนที่จะหันไปกระซิบถามพี่ขนมเข่งทันที
“ทำอะไรดีวะพี่เข่ง”
“เบ๊เป็นไง แกจะได้ใกล้ชิดหนิดหนมกับมันมากขึ้น >_<” พี่ขนมเข่งกระซิบตอบกลับมา และมันก็เป็นคำตอบที่เจ๋งมาก! โอกาสที่ฉันจะเอาชนะใจโทโมะมันก็อยู่แค่เอื้อมนี้เองล่ะเนอะ!
“เออว่ะ…อะแฮ่ม! เอาล่ะฉันรู้แล้ว นายต้องมาเป็นเบ๊ให้ฉัน! >O<”
“ตลกเหรอ -_-^”
“ความคิดฉันนะเว้ย!” พี่ขนมเข่งโวยวายทันที
“โถ่พี่หนมเข่ง ผมเข้าใจผิดแค่นี้ถึงกับต้องมีข้อแลกเปลี่ยนติ้งต๊องอะไรพวกนี้ด้วยเหรอ…เอ่อ คือผมหมายถึงข้อแลกเปลี่ยนที่มันติ้งต๊อง ที่มัน…เอ่อ หมายถึงข้อแลกเปลี่ยนอะครับ ต้องมีด้วยเหรอ T_T” โทโมะพูดจาติดขัดทันทีเมื่อเห็นว่าพี่ชายฉันถลึงตาใส่ คิกๆ เห็นสีหน้าสลดแล้วทำแก้มป่องของเขาแบบนี้แล้วมันน่าจับหยิกแก้มชะมัดเลย -///-
“แกก็เป็นให้น้องฉันหน่อยเถอะ”
“ครับ…วันเดียวน่าจะพอนะ” โทโมะมองพี่ขนมเข่งตาละห้อยก่อนที่จะเลื่อนสายตามาที่ฉันแล้วแววตาก็แสดงความรำคาญขึ้นมาทันที
“บอกแล้วว่ามันเป็นคนดี ไม่ดีจริงไม่ตกลงหรอก” พี่ขนมเข่งกระซิบข้างหูฉันให้ได้ยินแค่สองคน แต่สายตาของเขาก็ยังคงมองไปที่โทโมะอยู่
“ตลอดชีวิตได้ป้ะ >_<” ฉันแอบหยอดไปหนึ่งที
บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ฉันเกือบจะหายโกรธที่โทโมะเข้าใจผิดแล้วล่ะ อย่างน้อยเขาก็ยอมขอโทษแล้ว ก็ยอมรับเงื่อนไขของฉันล่ะเนอะ อีกอย่างฉันก็จะพยายามจะทำใจนะว่าที่เขาแข็งกระด้างแล้วก็ไม่ชอบขี้หน้าฉัน มันเป็นเพราะเขารักแฟนตัวเองแล้วก็เชื่อใจแฟนตัวเองทั้งนั้นแหละ ฉันว่ามันก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งนะ แต่มันก็เป็นข้อเสียของเขาที่ทำให้โดนหลอกได้ง่ายๆ ฉันจะต้องทำให้เขาตาสว่างให้ได้ว่ายัยพิมนั่นน่ะมันร้ายกาจแค่ไหน! ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะยังไม่รู้ก็เถอะว่ายัยนั่นมันกำลังทำอะไรอยู่ แต่อย่างน้อยก็รู้ว่ายัยพม่าหน้าตุ๊กตาไม่จริงใจ! แค่นี้ก็เป็นต้นทุนอย่างหนึ่งแล้ว >_<
“เหอะ! จะเล่นอีกนานมั๊ย”
“ฉันพูดจริงนะ ฉันจริงใจ *O*” ฉันแกล้งทำตาบ้องแบ๊ว เพื่อว่าเขาจะสนใจเห็นความงามในตัวฉันขึ้นมาบ้าง แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ…
“ทำหน้าเหมือนเป็ดใส่ฉันอีก บ้าเอ๊ย!…หนึ่งวันขาดตัว -_-”
“สามเดือนขาดตัวเหมือนกัน!” ฉันพูดอย่างเป็นต่อแล้วยักคิ้วให้เขาสองสามทีโดยแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจเรื่องที่เขาว่าฉันหน้าเหมือนเป็ด T^T
ปากร้ายนักนะ!
“สามวันขาดตัว -_-” ไอ้หมอนี่มันต่อจังเลยแฮะ
“งั้นสองเดือนครึ่งอ่ะ!” ฉันเบะปากอย่างไม่พอใจ โทโมะนี่ดื้อชะมัดเลย :(
“ฉันให้สองวันครึ่ง…ความจริงวันเดียวก็มากเกินไปด้วยซ้ำสำหรับคนอย่างเธอเนี่ย -*-”
“พี่เข่ง~ แก้วน้อยต้องการประชาธิปไตย T^T” ฉันหันไปเอามือคล้องแขนพี่ขนมเข่งพลางเขย่าเล็กน้อยแล้วพูดเสียงอ้อนทันที
ถ้าเป็นพี่ชายฉันล่ะก็ รับรองว่าต่อให้หนึ่งปีโทโมะก็ไม่มีสิทธิ์ค้าน! ฉันนี่นิสัยแย่เนอะที่เอาคนที่โทโมะนับถือและยอมทุกอย่างมาบังหน้าเพื่อทำให้เขาทำตามที่ฉันต้องการ แต่ทำไงได้ล่ะ เขาอยากเล่นตัวเองอะ -.,-
“โอ๋ๆ น้องน้อยของพี่…เอาล่ะ เรา…สาม สี่…ห้าคนต้องลงประชามติ!” พี่ขนมเข่งพูดพลางนับจำนวนคนที่อยู่ในนี้ มีไม่กี่หัวเองถึงกับต้องชี้นิ้วนับเลยเหรอพี่ชายฉัน -_-^
(-_-)(_ _)(-_-)(_ _)(-_-)(_ _)(-_-)
ทุกต่างพากันพยักหน้าลงอย่างเห็นด้วย เห็นจะมีก็แต่โทโมะที่คิ้วของเขาขมวดกันเป็นปมใหญ่เลยล่ะ
“คู่กรณีเสนอจำนวนวันมาคนละหนึ่งจำนวน” พี่ขนมเข่งเก็กหน้าหล่อแล้วพูดเสียงเข้ม
“สามเดือน!” ฉันพูดแล้วเชิดหน้าขึ้น
“หนึ่งวัน!” โทโมะยืนยันคำตอบเดิมเสียงแข็ง
“เอาล่ะ ใครเห็นด้วยกับสามเดือนยกมือขึ้น! (>_<)//” พี่ขนมเข่งพูดพร้อมกับยกมือขึ้นสูง รวมทั้งฉันเองก็ยกขึ้นด้วยที่สำคัญ…เขื่อนกับป๊อปปี้เองก็เห็นด้วยกับฉันเหมือนกัน!
“ไอ้โมะ ฉันแสดงความเสียใจด้วยว่ะ กร๊ากกก!~ แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ยกมือ >_<” พี่ขนมเข่งหัวเราะดีใจอย่างออกนอกหน้าในขณะที่ฉันทำเพียงแค่แสยะยิ้มชั่วร้ายออกมาเท่านั้น หึหึ
“นี่มันไม่ยุติธรรมเลยนะ” โทโมะพูดเสียงแข็ง
“ยังไงวะไอ้โมะ” เขื่อนถามขึ้น
“ก็…”
“สามเดือน…ไปเถอะกลับกัน ลาล่ะครับพี่หนมเข่ง” ป๊อปปี้พูดรวบรัดตัดความพร้อมกับลุกขึ้นล็อกคอโทโมะดึงให้ลุกตามขึ้นมา
“กลับได้ไง ฉันยังไม่ตกลงเลย ทีเมื่อกี้จะกลับก็ไม่ให้กลับ -*-” โทโมะโวย
“ก็ตอนนี้ให้กลับแล้วไง กลับดิ!” ป๊อปปี้พูดหน้าตายแล้วลากคอโทโมะออกไปทันที
“เฮ้ย! ฉันยังข้องใจอยู่เลย ปล่อย! ว้ากก~” โทโมะโวยวายพลางพยายามดิ้นให้หลุดจากการถูกจับกุมของป๊อปปี้ แต่เขาก็ยังสู้แรงเพื่อนของตัวเองไม่ได้อยู่ดี เห็นแล้ว…อนาถแท้
“แล้วเจอกันคร้าบบบ~ พี่หนมเข่ง แก้ว >_<” เขื่อนลุกขึ้นโบกไม้โบกมือลาด้วยอีกคน
“เออ กลับกันดีๆ นะเว้ย ถนอมไอ้โมะหน่อย ฮ่าๆๆๆ” พี่ขนมเข่งพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปส่งสามคนนั้น ฉันเองก็เลยลุกแล้วเดินตามมาบ้าง
เราสองคนพี่น้องยืนมองรถโฟล์คเต่าสีเหลืองนวลที่มีเขื่อนเป็นคนขับและป๊อปปี้นั่งคุมตัวโทโมะอยู่ที่เบาะด้านหลังเลี้ยวออกไปจนลับตา จะว่าไปโทโมะนี่ก็น่าสงสารเหมือนกันนะ มีแฟนกับเขาแต่ยัยนั่นก็ไม่จริงใจแถมเจ้าตัวก็โง่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แล้วนี่ยังจะโดนเพื่อน พี่ขนมเข่ง แล้วก็ฉันรุมบังคับอีก =_=
“ขอบคุณนะพี่เข่งที่ช่วยฉันอะ T^T” ฉันบอกพร้อมกับโผเข้ากอดพี่ชายตัวเองด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งหาที่เปรียบไม่ได้
“เรื่องแค่นี้เอง สบายๆ” เขากอดตอบฉันพลางลูบหัวเบาๆ
“ความจริงฉันไม่น่าให้พี่มาปวดหัวกับเรื่องนี้ด้วยเลยอะ นี่ก็กลัวว่าโทโมะจะหมดความศรัทธาในตัวพี่นะเนี่ย”
“ไม่หรอก น้องสาวคนเดียวดวงตกทั้งที เรื่องไหนช่วยได้ก็ต้องช่วยดิ”
“ซึ้งน้ำตาจะไหลอะ T_T” ฉันพูดพร้อมกับรับรู้ได้ถึงความชื้นจากน้ำใสๆ ที่ขอบตา
“ไอ้เด็กบ้า ไม่งอแงน่า ฉันรู้จักคนอย่างไอ้โมะดี…อีกอย่างมันก็เป็นคนดีพอที่จะรักษาสัญญาหรือสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้ เชื่อเถอะ”
“แน่ใจนะ”
“แน่ดิ แผนลับกระชับความสัมพันธ์ ครั้งนี้ต้องไปได้สวยแน่ แกเองก็ทำอ่อนแอบ้างนะ ไปชวนมันทะเลาะบ่อยๆ เดี๋ยวแผนล่ม -*- รับรองว่าถ้าเชื่อฉัน…ไม่ช้าหรอกไอ้โมะกับแฟนต้องเลิกกัน อุวะฮ่าๆๆ >O<”
นั่นชื่อแผน?
พี่ฉันนี่แหละตัวร้ายเลย ฉันเคยบอกไปหรือยัง?
------------------------------------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป---------------------------------------------------------
สองพี่น้องของเรื่องนี้มันร้ายกาจชะมัดเลย จอมวางแผน โดยเฉพาะพี่เข่ง =___=
1 ตอน 1 คอมเม้นท์ = 1 กำลังใจนะคะ :)
อย่าลืมให้คะแนนโหวตด้วยน้าาาาา
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ