Conquerhearts ปฏิบัติการพิชิตหัวใจ
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.31 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559 15.37 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
20) เลิกคิดถึงเขาเอาเท่าไหร่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 19 เลิกคิดถึงเขาเอาเท่าไหร่
Kaewjai talking
“นาย/เธอ”
“เธอ พูดก่อนสิ” โทโมะบอกด้วยเสียงนิ่งๆ พร้อมกับมองไปทางอื่นหลังจากที่เมื่อกี้เราสองคนบังเอิญหันมาสบตากันแล้ว กำลังจะพูดอะไรบางอย่างพร้อมกันพอดี
“นาย นั่นแหละพูดก่อน” ฉันบอกขณะที่ในใจกำลังเต้นตึกตักไม่ต่างจากเหตุการณ์ชวนฝันเมื่อสักครู่นี้ เลย ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าพี่ขนมเข่งไม่ออกมาจากห้องครัวเข้าเสียก่อนมันจะเกิด อะไรขึ้น -///-
“ฉันบอกให้เธอพูดก่อนก็พูดไปสิ -*-”
ทำไมต้องทำเสียงหงุดหงิดด้วยนะ!
“เออๆ คือ…คืนนี้ถ้าฝนไม่หยุดตก นายนอนที่นี่ก็ได้นะ -///-”
“จะบ้าเหรอ! นอนกับเธอเนี่ยนะ -_-^” ไปกันใหญ่แล้ว ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดจริงๆ เลย เสียดายที่เกิดมาหล่อ -.,-
“นายนั่นแหละจะบ้าเหรอ ฉันบอกว่านอนที่นี่ไม่ได้หมายความว่านอนกับฉันสักหน่อย ห้องพี่เข่งก็มี ไปนอนกับเขาก็ได้นี่ -3-”
“ฉันกลับบ้านดีกว่า เกรงใจ”
“แล้วถ้าฝนมันตกหนักอย่างนี้ทั้งคืนล่ะนายจะทำยังไง มันอันตรายนะถ้าจะกลับน่ะ”
“เป็นห่วง?”
“เออ!-0-” รู้ตัวแล้วก็ยังจะทำตัวให้เป็นห่วงนะ มันน่าต่อยให้คว่ำสักทีสองที
“ตกลง ว่าเธอชอบฉันเหรอ ฮะ?”โทโมะหรี่ตาลงอย่างจับผิดพร้อมกับชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นแต่ก็น้อย ว่าตอนแรกล่ะน่ะ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ! เขาก็ทำให้ความร้อนที่ใบหน้าของฉันพุ่งขึ้นมาแบบกู่ไม่กลับอีกแล้ว -///-
ฉันชอบเขาหรือเปล่านะ…
ไม่หรอก คงไม่ใช่ ฉันแค่รู้สึกดีเฉยๆ ก็เท่านั้นแหละ U.U
“พี่เข่งงง~ มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า >_<” เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มบีบบังคับ ฉันจึงเบี่ยงเบนประเด็นโดยการเลิกคุยกับโทโมะแล้วลุกขึ้นเดินไปยังห้องครัวแทน
ให้ตายเถอะ! ถ้าฉันนั่งอยู่ตรงนั้นต่อมีหวังตัวฉันได้ระเบิดเพราะอุณหภูมิพุ่งสูงแน่ๆ(คนหรือปรอท?)T^T ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็แย่แน่เลย โทโมะนะโทโมะตอนแรกก็เศร้าๆ อยู่หรอก แล้วทำไมจู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนอารมณ์เร็วนักนะ ฮึ่ย!
วันต่อมา…
และแล้วเมื่อคืนโทโมะก็ต้องค้างที่บ้านฉันจนได้เพราะฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก เลย รู้สึกมันจะซาๆ เม็ดลงก็เมื่อตอนเช้ามืดนี่เองล่ะมั้ง แล้วก็เป็นไปตามที่ฉันพูดตอนแรกนั่นก็คือเขาไปอาศัยห้องนอนพี่ชายที่รักของ ฉันเป็นที่ซุกหัวนอนชั่วคราวนั่นเอง -.,- แล้ว สุดหล่อของฉัน(?) ก็เพิ่งจะกลับบ้านไปตอนเช้าพร้อมๆ กับที่ฉันและพี่ชายออกจากบ้านเพื่อมามหาวิทยาลัย เห็นโทโมะคุยกับพี่ขนมเข่งว่าวันนี้เขาไม่มีเรียนเช้าล่ะมั้งก็เลยสบายหน่อย
“วันนี้อากาศดีเหลือเกิน ฉันอยากจะเดินๆๆ~” เสียงฮัมเพลงแบบมั่วๆ ที่ฟางแต่งเองดังขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับเจ้าตัวที่เดินทอดน่องเอ้อระเหยลอยชายอย่างสบายอุราไม่สนในเวร่ำ เวลาเลยสักนิดเดียว -_-^
ความจริงแล้วคนที่ไม่สนใจเวลาตั้งแต่แรกมันคือฉันเองต่างหากล่ะ เพราะหลังจากที่ฉันแยกกับพี่ขนมเข่งแล้วก็มารวมตัวกับเพื่อนรักและเราสองคน ก็เพิ่งไปทำภารกิจสำคัญมาซึ่งอันนี้ต้องขออุบเอาไว้ก่อน(พูดแบบดารา) รับรองว่าภารกิจนี้เด็ดชัวร์!
“แกก็เดินอยู่นั่นแหละ เลทแล้วเนี่ย รีบไปเร็วเข้า” ฉันบอกอย่างรีบร้อนพร้อมกับเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นโดยไม่ลืมที่จะฉุดข้อมือ เพื่อนสาวให้ตามมาติดๆ เพราะกลัวจะไปเรียนสายกว่านี้ นี่มันเลยเวลาเข้าเรียนมาประมาณสิบห้านาทีได้แล้วนะ!
“ก็เพราะใครล่ะ” ฟางเบ้ปากเล็กน้อยพร้อมกับตวัดตาคู่สวยด้วยมาสคาร่าที่กรีดแบบตาแมวมาทางฉันด้วยความหมั่นไส้
“ฉันผิดเองแหละ เอาน่า! เดี๋ยวเลี้ยงขนมเป็นการขอบคุณ ^O^”
“ขนงขนมอะไรกัน ช่วงนี้ฉัน Diet ย่ะ! ดูสิเนี่ย แกชวนฉันกินแต่ขนมจนน้ำหนักฉันขึ้นมาตั้งสองกิโล! -3-”
“คิดว่าแกขึ้นคนเดียวหรือไง ช่วงนี้ฉันก็อ้วนไม่ต่างจากแกหรอก”
“นี่ไอ้แก้ว…”
แล้วเราสองคนก็เถียงกันเรื่องนี้จนกระทั่งเข้าคลาสนั่นแหละ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่เรื่องเล็กน้อยก็สามารถสร้างบทสนทนาอันยืดยาวน่าปวด หัวได้ เฮ้อ!
ตอนบ่ายของวันเดียวกัน…
หลังจากที่ฉันกับฟางกินข้าวกลางวันกันเสร็จแล้ว และตอนบ่ายของวันนี้อาจารย์ก็งดคลาสเพราะติดไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด แต่ก็ใช่ว่าฉันจะได้กลับบ้านตามที่ใจอยากหรอกนะสาเหตุก็เพราะเย็นนี้มีนัด ประชุมรุ่นซึ่งเป็นอุปสรรคขัดขวางการกลับไปนอนตีพุงของฉัน TOT
ช่างเถอะ…
ตอนนี้มาภาคภูมิใจกับผลงานชิ้นเอกของฉันกันก่อนดีกว่า
แถ่น แทน แท้น~
“กรี๊ดดด! ฝีมือใคร!!!” เสียงแปดหลอดของพิมดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่แหวกฝูงชนออกมาจากหน้าบอร์ด ข่าวสารที่อยู่ใต้อาคารเรียนรวมซึ่งฉันกำลังเดินเข้ามาอย่างจงใจเพราะสายตา อันแหลมคมของฉันเห็นมาแต่ไกลว่ามีหญิงร้ายยืนอยู่ในนี้ >_<
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ^O^” ฉันเสนอหน้าเข้าไปถามไถ่ยัยพม่าด้วยสีหน้าเยาะเย้ยอย่างไม่ปิดบัง แต่ถามไปอย่างนั้นแหละ ที่จริงก็รู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงมายังไง
“แก! ฝีมือแกใช่มั้ย!?” พิมหันขวับมาเห็นฉันก็เบิกตาโพลงพร้อมกับมือที่เอื้อมไปดึงรูปภาพที่ บอร์ดมาขยำแล้วปาใส่หน้าฉัน ดีนะแค่เฉียดๆ น่ะ ถ้ามาเต็มๆ ฉันต่อยหน้ายัยนี่แน่ -_-^
“นี่อะไรเหรอ…ว้าว! อเมซิ่งมากๆ เลยนะเนี่ย คนในรูปหน้าคุ้นๆ นะว่ามั้ยฟาง>_<” ฉันก้มลงไปเก็บรูปนั้นขึ้นมาคลี่ออกพร้อมกับแสร้งทำหน้าตกใจแล้วยื่นให้ฟางดู เพื่อนสาวก็ไม่รีรอที่จะพยักหน้ารัวอย่างเห็นด้วย
“หน้าเหมือนใครน้า~” ฟางลากเสียงยาวพลางเอานิ้วขึ้นมาจิ้มแก้มตัวเองอย่างครุ่นคิด
“ใครหนอ~”
“เมื่อวานแกถ่ายรูปฉันเอาไว้ รูปบ้านี่ต้องเป็นฝีมือแกแน่ๆ แก้วใจ!” พิมกรีดนิ้วเรียวของเธอชี้มายังหน้าของฉันพร้อมกับจ้องมองมาด้วยสายตาเคียดแค้น น้ำเสียงของหล่อนสั่นเล็กน้อยด้วยความโกรธ
“ใช่! ฉันทำเอง อุตส่าห์รีบเอามาแปะไว้ตั้งแต่เช้า เพิ่งจะเห็นเหรอเนี่ย แย่จัง คิกๆ >O<” ฉันบอกยิ้มๆ อย่างไม่รู้สึกผิดอะไร
อยากรู้ใช่มั้ยล่ะว่าความจริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ ฉันก็แค่เอารูปของยัยพม่าหน้าวอกกับไอ้ฌอนไชหัวบานเย็นที่ถ่ายเอาไว้ก่อน กลับออกมาจากห้องหอมีประวัติ(?)ของอดีตแฟนสุดที่รักของโทโมะส่งให้เพื่อน สนิทอย่างฟางตอนที่ฉันขึ้นห้องไปอาบน้ำเพื่อให้เพื่อนรักปรับแสงนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็พิมพ์ข้อความบรรยายใต้ภาพไปด้วยว่า
น่าเศร้า...แฟนสาวของหนุ่มหล่อแอบมีชู้ พาขึ้นหอกลางวันแสกๆ
แฟนหนุ่มจับได้ ชิงบอกเลิก!
รักหวานชื่นมีอันต้องกลายเป็นอดีต
จากนั้นก็ฝากฟางเป็นธุระจัดการนำภาพไปอัดสี(ลงทุนสุดๆ)ตอนเช้าก่อนเข้า มหาวิทยาลัยรวมๆ แล้วฉันก็เสียเงินไปเกือบสองร้อย คิดดูละกันว่าอัดมาเยอะขนาดไหน -_-^ ต่อไปทุกคนคงเดาได้ไม่ยากหรอกเพราะฉันกับฟางก็นำรูปพวกนั้นไปติดตามบอร์ดต่างๆ ทั่วมหาวิทยาลัย!!!
แถวบ้านเรียก ประจาน อะนะ อุวะฮ่าๆๆๆ >O<
“แกทำแบบนี้ทำไม!”
“เพื่อความสะใจ >_<”
“แก…”
“ฉันก็แค่อยากให้เธอรับรู้ความรู้สึกอับอายและเสียหน้าเมื่อตัวเองถูกประจาน เหมือนที่เธอเคยทำไว้กับโทโมะยังไงล่ะ!” สิ่งที่ฉันพูดออกไปดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากบรรดานักศึกษามุงรอบๆ บริเวณนี้มากพอสมควร เสียงฮือฮาดังขึ้นมาจนฉันถึงกับแสยะยิ้มชั่วร้าย
“น่าสมเพชจริงๆ เลยนะ นอกจากจะทรยศหักหลังแฟนตัวเองแล้ว ยังจะมาโดนชิงบอกเลิกก่อน โถๆๆ”
“เธอเองก็น่าสมเพชเหมือนกันนั่นแหละ ที่มาวิ่งไล่จับผู้ชายน่ะ!”
“ฉันมันเป็นคนทำอะไรก็เปิดเผย ไม่ได้แอบๆ ซ่อนๆ เหมือนเธอ ยังไงก็ดีกว่าล่ะนะ หึหึ”
“แก!”
“แก้วระวัง!”
เผียะ!!!
ด้วยความที่มัวแต่เยาะเย้ยจนไม่ทันระวังตัวของฉันทำให้ตัวเองเกือบถูกตบด้วยฝ่า มือพิฆาตของยัยพม่าหน้าขาวโอโม่ ต้องขอบคุณฟางที่ร้องบอกฉันทำให้ฉันหลับตาปี๋…จริงๆ นะ ฉันแค่หลับตาแต่ไม่ได้หลบหรอก ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองรอดมาได้ยังไง…
“โมะ!” พิมร้องเสียงหลงทำให้ฉันลืมตาขึ้นมามองโลกอันแสนวุ่นวายทันทีแล้วก็พอจะเดาเรื่องได้แล้วล่ะ
“ตอนทำคนอื่นไม่เห็นสำนึก พอโดนทำบ้างจะมาโวยวายอะไรล่ะ”โทโมะเอ่ยด้วยเสียงนิ่งๆ อย่างไร้เยื่อใย ทั้งๆ ที่เมื่อวานนี้คนที่เขาพูดด้วยยังเป็นคนรักของเขาอยู่เลย
“นายไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันนะ!” พิมโวยขึ้นด้วยความขัดใจ
“จริงสินะ ฉันลืมไปว่าตัวเองเป็นแค่คนอื่นสำหรับเธอ…ถ้าอย่างนั้นก็ลาก่อน…” พูดจบโทโมะก็คว้าข้อมือฉันไปจับเอาไว้แน่นแล้วดึงออกมาจากตรงนั้นอย่างไม่รั้งรอจนฉันต้องจำใจโดนเขาลากมาอย่างช่วยไม่ได้
“แกใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดโทโมะไปเลยนะ” ฟางรีบเดินตามมากระซิบบอกกับฉันก่อนจะเดินเลี้ยวไปอีกทาง ใกล้ช้งใกล้ชิดอะไรกันเล่า! ไอ้บ้านี่มันพาฉันไปฆ่าหั่นศพแล้วโยนทิ้งคลองน้ำเน่าหรือเปล่าก็ไม่รู้เนี่ย เพราะยัยพม่าทำให้หมอนี่โกรธแท้ๆ เลย
“ไอ้ฟาง! มาช่วยฉันก่อน แกจะไปไหนวะ -*-”
“โชคดีละกันแก เรื่องนี้ฟางจะไม่ยุ่ง >_<”
“เฮ้ย!!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อไม่มีการช่วยเหลือใดๆ จากฟาง แล้วก็ดูเหมือนว่าโทโมะจะเดินเร็วมากๆ จนฉันแทบจะก้าวขาไม่ทัน “นายจะพาฉันไปไหน!”
“เดี๋ยวก็รู้เอง…” สิ้นคำพูดนั้นฉันก็พบว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวได้เปลี่ยนมาเป็นลานจอดรถของมหาวิทยาลัยแล้วเรียบร้อยเนื่องจากมันอยู่ ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุเมื่อกี้เท่าไหร่นัก
พลั่ก!
ปึง!
จุดจบของแก้วใจวันนี้ก็คือที่รถของโทโมะนั่นเองเจ้าค่ะ U_U เขาจับฉันเหวี่ยงเข้ามานั่งในรถเต่าคันเดิมของเขาด้วยความโมโหแล้วก็ปิดประตูใส่หน้าฉันด้วยพละกำลังที่ไม่เรียกได้ว่าควายก็ฉุดไม่อยู่
ปึง!
“เธอทำแบบนั้นทำไม” เจ้าของรถขึ้นมานั่งประจำที่คนขับด้วยความรวดเร็วก่อนจะปิดประตูรถฝั่งนั้น เสียงดังไม่ต่างจากเมื่อกี้แล้วก็หันใบหน้ายุ่งๆ มาจ้องฉันอย่างคาดคั้นพลางเอ่ยถามด้วยเสียงเย็นเยียบ
เอ่อ…สงสัยเขาจะไม่ได้โกรธยัยพม่าหน้าปลวกกินกลูต้าอย่างที่ฉันคิดแล้วล่ะมั้ง ฮือออ~
“ทำอะไรเหรอ” ฉันถามกลับพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ อย่างอินโนเซนต์ราวกับว่าไม่รู้จริงๆ ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร
“ก็รูปพิมกับไอ้ฌอนนั่นน่ะ เธอเอาไปแปะประกาศทำไม” เขาพยายามพูดเสียงนิ่งอย่างสะกดกลั้นอารมณ์โกรธ
แล้วทำไมเขาต้องโกรธฉันด้วยล่ะ ฉันทำเพื่อเขานะ T^T เขาน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอที่ยัยพม่าต้องอับอายและเสียหน้าเหมือนอย่างที่ยัยนั่นทำกับเขาน่ะ ทำไมเป็นแบบนี้ โฮกกกก~
ไม่มีความยุติธรรมบนโลกใบนี้ให้แก้วใจเลย T^T
“ที่ฉันทำก็เพราะ…”
“พิม เป็นผู้หญิง ทำแบบนั้นเขาเสียหายนะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะอธิบายเหตุผล โทโมะก็สวนขึ้นมาเสียก่อนจนฉันต้องกลืนคำพูดทุกอย่างลงคอไป อะไรของเขากันเนี่ย เมื่อกี้ยังว่ายัยนั่นอยู่เลย หรือแท้ที่จริงแล้วลึกๆ เขาไม่ได้อยากจะพูดแบบนั้น...
เป็นห่วงกันมากใช่มั้ย!
ใช่สิ! ฉันมันเป็นมือที่สาม ฉันมันเป็นคนมาทีหลังนี่ ทำอะไรก็ผิดไปหมดแหละ จะไปเทียบอะไรกับยัยพม่านั่นได้ล่ะ ต่อให้ทำผิดมากมายขนาดไหนก็ยังเป็นคนที่โทโมะเป็นใส่ใจตลอดว่ายัยนั่นจะ รู้สึกยังไงหรือจะเป็นตายร้ายดียังไง
“นายแคร์ยัยนั่น…”
“แคร์สิ ยังไงฉันกับพิมก็เคย…คบกัน”
ถ่านไฟเก่าสินะ!
“ถามจริงๆ เถอะ นายยังรักและคิดถึงยัยนั่นอยู่ใช่มั้ยโมะ” นี่ฉันพูดราวกับว่าตอนนี้ตัวเองเป็นแฟนใหม่ของเขาแล้วอย่างนั้นแหละเนอะ แต่ถึงไม่เป็นก็จะถามใครจะทำไม ยัยนั่นมันเป็นตัวมารความรักของฉันแท้ๆ เลย!
เอ่อ…ฉันหมายถึงตัวขัดขวางการแก้ดวงของฉันน่ะ อย่าคิดเป็นอย่างอื่นนะ -///-
“รักหรือเปล่าไม่รู้ แต่…ก็ คิดถึง คิดถึงวันเวลาดีๆ ตอนที่คบกันอยู่” ฉันถอนหายใจออกมาทันทีเมื่อเขาพูดจบก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ในเป้สะพายหลัง ออกมา โทโมะดูจะมีสีหน้างงๆ อยู่ไม่น้อย
“-_-?”
“บอกมาว่านายจะเอาเงินเท่าไหร่”
“เงิน? ค่าอะไร”
“ค่าที่นายจะเลิกคิดถึงพิมไง! ฉันต้องการให้นายเลิกรักเลิกคิดถึงยัยนั่นน่ะ นายจะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามา แล้วที่ทำแบบนี้ก็เพราะฉันสวยและรวยมาก! -^-” พูดจบก็เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แต่เปล่าหรอก ฉันก็พูดให้ตัวเองดูดีไปอย่างนั้นแหละ ทุกวันนี้ยังยืมเงินพี่ขนมเข่งอยู่เลย -.,-
“ยัยบ้าเอ๊ย”
“ไม่เอาหรือไงเงินน่ะ”
“เอาเก็บไว้ซื้อยาระงับประสาทให้ตัวเองเถอะ -_-^”
“นี่นาย!”
“แล้ววันหลังก็อย่าเล่นอะไรบ้าๆ แบบวันนี้อีกนะ คนอื่นเขาเดือดร้อน”
“ฉันแก้แค้นแทนนายนะ! ใจคอนายจะว่าฉันอย่างเดียวโดยที่ไม่ขอบคุณสักคำเลยหรือไง Y^Y”
“แล้วถามฉันสักคำหรือยังว่าอยากให้แก้แค้นให้หรือเปล่า ทำแบบนี้เรื่องมันจะไม่จบนะ” นี่เขาไม่เห็นความหวังดีของฉันเลยสินะ คงไม่มีใครเข้าใจฉันได้เท่าพี่ชายฉันแล้วล่ะ ฮือๆๆ
“ขอโทษ! ฉันผิดเองแหละที่ไปยุ่งเรื่องของนาย ต่อไปฉันจะไม่มายุ่งกับชีวิตนายอีก ฮึก!” ไม่รู้ทำไมน้ำตาเจ้ากรรมต้องมาไหลเอาตอนนี้ด้วย T_T
แค่โดนโทโมะโกรธเอง!
แค่โดนเขาว่าเอง!!!
แค่นี้ทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วยนะ ฮือๆๆๆๆ
“เธอ…ร้องไห้เหรอ -_-^” เขาเบิกตาโตขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ และสีหน้าที่ดูจะไม่ตกใจอะไรเท่าไหร่นัก
“ไม่ร้องมั้งไอ้บ้า! ถามมาได้ นี่ฉันคงน้ำลายไหลหรอกมั้ง!!! ฮึก ฮือๆๆๆ” ฉันส่งเสียงดังลั่นรถพร้อมทั้งเอื้อมมือทั้งสองข้างไปผลักโทโมะด้วยความ โมโหก่อนจะเตรียมลงจากรถ แต่ทันทีที่มือของฉันสัมผัสกับที่จับเปิดประตูรถผู้ชายข้างๆ ก็ดึงฉันเข้าไปสวมกอดเอาไว้! O_O
“ยัยโง่เอ๊ย! ฉันไม่อยากให้เธอมีปัญหากับคนพวกนั้นต่างหากล่ะ” ถึงแม้เสียงพูดของเขาจะฟังดูอู้อี้แต่ฉันก็พอจะได้ยินอยู่หรอกนะว่าเขาพูดว่าอะไร
“ฮือๆๆ”
“ถ้าสองคนนั้นมาหาเรื่องเธอตอนฉันหรือพี่หนมเข่งไม่อยู่ แล้วใครจะช่วยเธอล่ะ ฉันเป็น…” จู่ๆ เขาก็เงียบไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะพูดจบแล้วล่ะมั้ง เพราะฉันกำลังร้องไห้เลยฟังไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นักแต่ก็พอจับใจความได้ ที่แท้เขาก็ไม่อยากให้ฉันไปยุ่งกับพวกนิสัยไม่ดีพวกนั้นนั่นเอง >_<
“คิดว่าฉันกลัวพวกนั้นหรือไง ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันคือแก้วใจน้องพี่เข่ง!”
“อย่าทำเป็นปากดีไปหน่อยเลย ถ้าไอ้ฌอนมันเอาจริงขึ้นมาตัวเล็กเท่ามดอย่างเธอจะไปสู้อะไรมันได้” เขาดันตัวฉันออกพร้อมกับทำสีหน้ายุ่งๆ คิ้วนี่แทบจะรวมเป็นเส้นเดียวกันอยู่แล้ว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย “เลิกร้องไห้สักทีสิ -0-”
สาบานเถอะว่าประโยคนั้นเขาบอกเพราะอยากให้ฉันหยุดร้องจริงๆ น่ะ ไม่ได้จะทำให้ฉันร้องหนักกว่าเดิม ชิ!
“สู้ได้ก็แล้วกัน ฮึก!” ไอ้ที่พูดไปก็ใช่ว่าฉันจะมั่นใจอะไรมากมายหรอกนะ T.T
“บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ”
“นายจะเถียงฉันทำไมฮะ!”
“เธอนั่นแหละจะเถียงฉันทำไม -_-^” แถวบ้านฉันเรียกว่ายอกย้อนนะแบบนี้ มันน่าจับกดซะให้เข็ด! ในรถแบบนี้ด้วยแล้ว…หึหึ -.,-
“จะชวนทะเลาะหรือไง”
“เธอนี่มันงี่เง่าเอาแต่ใจดีนะ ฮ่าๆๆ” โทโมะพูดติดตลกพร้อมกับผลักหัวฉันเบาๆ ฉันจึงนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ เรื่องอะไรต้องมาว่าฉันแบบนั้นด้วยเล่า!“เลิกร้องไห้แล้วด้วย เก่งชะมัด ”
จริงเหรอ? ฉันไม่เห็นรู้ตัวเลยแฮะ ฟึดดด! (สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด) แต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้ต้องมาเคลียร์เรื่องที่เขาว่าฉันเมื่อกี้ก่อน
“ก็ฉันเป็นแบบนี้แล้วนายจะทำไมฮะ คิดจะหาเรื่องใช่มั้ย”
“เธอนั่นแหละกำลังหาเรื่องฉันอยู่รู้ตัวหรือเปล่า ไอ้ตัวยุ่ง!” ว่าพลางผลักหัวฉันเป็นรอบที่สอง
ตัวยุ่ง? เขาว่าฉันอย่างนั้นเหรอ นี่ฉันวุ่นวายกับเขามากขนาดที่เขาต้องเรียกฉันแบบนี้เลยสินะ
“T^T”
“จะร้องอีกแล้วเหรอ -_-^”
แปะ!
“ไอ้คนบ้า!” เมื่อเห็นใบหน้ากวนประสาทของเขาฉันกับอดไม่ได้ที่จะเอามือตีไหล่เขาไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ มันน่าตีๆๆๆๆ ตีให้ตายไปเลย! -3-
“ฮ่าๆๆ ว่าแต่เย็นนี้ว่างหรือเปล่า” อะไรคือการที่เขาเปลี่ยนเรื่องแบบนี้? แล้วนี่จะมาไม้ไหนอีกล่ะเนี่ย ไม่น่าไว้ใจเลยแฮะผู้ชายคนนี้ =_=+
“ทำไม”
“จะพาไปนั่งรถเล่นชดเชยเมื่อคืน”
“รู้หน้าที่ดีนี่เบ๊”
“ตกลงว่าว่าง แล้วจะไป?” คนหน้าหล่อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ไม่รู้สิ พี่ชายหวง -.,-” ต้องเล่นตัวเสียหน่อย แบบนี้เขาจะได้รู้สึกตื่นเต้น(?) แบบว่าอะไรที่ได้มากยากๆ มันก็จะท้าทายใช่มั้ยล่ะ! >_<
“ก็ดี จะได้ไม่เปลืองน้ำมันรถ”
“ตอนนายไปแข่งรถนี่ใช้น้ำเปล่าหรือไง พาฉันไปนั่งรถเล่นถึงเรียกว่าเปลืองน่ะ”
“นั่นมันความชอบ”
“แล้วฉันล่ะ?”
“เธอก็…”
“ก็?”
“ก็นั่นแหละ -///-” ทำไมใจฉันต้องเต้นแรงขึ้นมาเมื่อเห็นเขาหน้าแดงแบบนี้ด้วยนะ แล้วทำไมเขาต้องหน้าแดงด้วยล่ะ? สงสัยเป็นเพราะรถไม่ได้ติดเครื่องยนต์อากาศในนี้เลยร้อนล่ะมั้ง(ถามเองตอบ เองก็เป็น)
“ก็อะไรก็พูดมาเซ่!”
“เธอมันเป็นความซวย -_-^”
จึก!
ราวกับธนูนับพันเล่มปักลงมาที่กึ่งกลางหัวใจ เจ็บจี๊ดๆ เจ็บลึกๆ แต่ยังไม่ถึงตายหรอกนะ!
“ฝากไว้ก่อนเถอะ -0-”
สิ พูดถึงเรื่องซวยๆ แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าฉันยังไม่ได้บอกเรื่องแก้ดวงกับเขาเลย รู้สึกว่ายังไม่พร้อมบอกเลยแฮะ แต่ยังไงก็ปล่อยเอาไว้แบบนี้ก่อนน่าจะดีกว่า ฉันคงยังไม่บอกตอนนี้หรอก ถ้าพูดไปเขาต้องหาว่าฉันบ้างมงายแน่ๆ แต่ฉันรู้สึกได้จริงๆ นะว่าพักหลังมานี้ตั้งแต่ความสัมพันธ์ของฉันกับเขาดีขึ้นมาเรื่อยๆ ความซวยฉันก็ห่างหายไป เหมือนจะไม่เจอเลยด้วยซ้ำ >_<
“ฝากเสร็จก็ลงไปได้แล้ว ฉันเองก็จะไปเรียนละ”
ได้ทีก็ไล่เลยนะ!
“อ้าว ไม่พาฉันไปนั่งรถเล่นแล้วเหรอ -_-?”
“ฉันบอกว่าตอนเย็นยัยสมองเสื่อม” พูดดีๆ ก็ได้ทำไมต้องว่าด้วยเล่า คอยดูนะ! ฉันจะฟ้องพี่ขนมเข่ง เฮอะ!
“ที่จริงฉันมีประชุมรุ่นตอนสี่โมงเย็น นายรอก่อนได้หรือเปล่า”
“ไม่ได้ ฉันเลิกเรียนสามโมงครึ่ง เธอต้องโดดประชุม”
“เอ่อ…” ให้ตายเถอะค่ะ อดีตเดือนมหาวิทยาลัยบอกให้ฉันโดดประชุมรุ่นบอกทีว่าฉันหูฝาดน่ะ
“หรือจะไม่ไปกับฉันก็ได้นะ” เขาบอกพร้อมกับยักไหล่ขึ้นอย่างไม่ยี่หระ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฉันอยากไปกับเขามากกว่าเข้าประชุมรุ่นอันแสนน่าเบื่อหน่ายน่ะ โดดก็ได้วะ! แค่ประชุมรุ่นเรื่องงานกีฬาสีเฟรชชี่ของน้องปีหนึ่งเอง เอาไว้รุ่นพี่ปีสูงเรียกเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน เฮ้อ!
“เออๆ เลิกเรียนแล้วโทรมานะ -3-”
“ไม่สามโมงครึ่งมารอฉันที่รถนี่แหละ…ลงมาได้แล้ว” เขาพูดพร้อมกับเปิดประตูแล้วพาตัวเองลงไปจากรถ ก่อนจะโน้มตัวกลับเข้ามาแล้วเอียงคอบอกกับฉันจนในที่สุดฉันก็ต้องยอมลงมา ด้วยอารมณ์บูดๆ ให้โทรก็ไม่โทร ชิ! ถ้าเป็นแฟนเก่านายคงไม่ปฏิเสธสินะ
ฉันจะต้องทำให้นายยอมสยบฉันให้ได้เลยโทโมะ!
ช่วงนี้อัพช้าหน่อยเพราะไม่ค่อยว่างเลยๆ เม้นให้กำลังใจด้วยนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ