Conquerhearts ปฏิบัติการพิชิตหัวใจ
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.31 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559 15.37 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) แท้ที่จริง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 4 แท้ที่จริง
“สวัสดีคนมีกรรม~ วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ ทำไมถึงยังใส่ชุดนอนอยู่เนี่ย” พี่ชายตัวดีของฉันเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านอย่างอารมณ์ดีต้อนรับเช้าวันใหม่ที่มันไม่สดใสสำหรับฉันเอาซะเลย
เมื่อคืนกว่าพี่ขนมเข่งจะทายาบริเวณแผลที่ฉันโดนต่อยเสร็จก็เข้าไปเป็นชั่วโมงๆ ก็ฉันเจ็บอะ เลยหันหน้าหนีตลอดเลย ให้ตายเถอะ วันนี้ขอโดเรียนวันนึงก็แล้วกันนะ ไหนๆ วิชานึงเขาก็ให้หยุดได้ไม่เกินสามครั้ง ใช้สิทธิ์สักครั้งคงไม่เป็นอะไร TvT
“มีแต่ไม่ไป -0-”
“หน้าอย่างแกโดดเรียนเป็นด้วยเหรอ” คนถามทำหน้าแปลกใจพร้อมกับเดินมาหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาข้างๆ ฉัน
“เป็นก็คราวนี้แหละ ไม่มีอารมณ์ไปเรียนแล้วเนี่ย ปากก็เจ็บ T^T”
“เห็นแกก็ยังพูดได้นี่หว่า”
“บอกว่าไม่ไปไง =_=+”
“โอเค๊~ งั้นฉันไปล่ะ เลิกเรียนแล้วจะรีบกลับมาดูแลน้องสาวนะจ๊ะ...หมั่นไส้จริงๆ ไอ้ยุ่ง!” พี่ขนมเข่งเอามือมาขยี้หัวฉันก่อนที่จะผลักเบาๆ แล้วพี่แกก็ลุกขึ้นเดินผิวปากออกจากบ้านไป ไม่นานนักฉันก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถดังขึ้นก่อนที่จะค่อยๆ เงียบหายไปเพราะเจ้าของรถได้พามันออกไปไกลจากบ้านแล้ว
สรุปว่าวันนี้ฉันจะทำอะไรดีเนี่ย อยู่บ้านก็น่าเบื่อชะมัดเลย นายฌอนนะนายฌอน ฮึ่ย! ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งเจ็บใจ ทำไมฉันถึงได้ซวยอย่างนี้เนี่ย T^T อยากจะรู้จังเลยว่าฉันซวยจริงๆ หรือว่าเพิ่งจะมาซวยเพราะยัยแม่มดหมอดูนั่นกันแน่ ยัยเจ๊นั่นเล่นของใส่ฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้ เฮ้อ!
…เธอมันโง่
ขณะ ที่ฉันนั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียวนั้น เสียงของโทโมะที่ว่าฉันเมื่อคืนก็ลอยเข้ามาทำร้ายจิตใจฉันอีกจนได้ ฉันว่าฉันจะแกล้งลืมแล้วนะ! คอยดูเถอะโทโมะ ฉันจะต้องทำให้นายมาเป็นแฟนฉันให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!
แล้วหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปก็อย่างรวดเร็ว ฉันไม่ได้โผล่หน้าไปที่ริกกี้เวย์เลย ตอนนี้แผลที่ปากฉันก็หายดีแล้วแหละ ก็ยังมีช้ำๆ อยู่บ้าง และที่ฉันไม่ไปริกกี้เวย์นั้นก็เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันติดต้องเตรียมงาน ของทางคณะน่ะสิ แต่ก็ใช่ว่าชีวิตฉันจะดำเนินไปอย่างราบเรียบซะเมื่อไหร่ นั่นก็เพราะมีเรื่องซวยมาหาฉันไม่หยุดหย่อน อาทิเช่น ขณะที่ฉันกำลังเดินกินไอศกรีมโคนอย่างสบายใจอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้น ก็มีลูกหมาจากไหนไม่รู้วิ่งมาไล่กัดฉัน จนฉันต้องทิ้งไอศกรีมแล้ววิ่งหนีป่าราบ นึกตามแล้วอาจจะตลกนะ แต่ถ้ามาอยู่ในเหตุการณ์แบบฉันมันจะไม่ตลกเลย! -3- อย่าให้รู้นะว่าใครเอาหมาเข้ามาแล้วปล่อยออกมาไล่กัดชาวบ้านเนี่ย คิดดูสิ คนอื่นมันก็ไม่วิ่งไล่นะ มาไล่ฉันคนเดียว! แสนรู้เกินไปแล้วนะยะ เรื่องนี้จบไป อีกเรื่องที่เด็ดก็คือ ฉันกำลังเดินออกมาจากตึกคณะ แล้วระหว่างทางก็ไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากเดินผ่านป้าแม่บ้านคนหนึ่ง เป็นโชคดีของยัยฟางที่ทำหนังสือตกแล้วหยุดก้มลงไปเก็บซะก่อน ความซวยมันเลยมาตกที่ฉันคนเดียวเพราะเดินนำมาก่อน แล้วยัยป้าแม่บ้านก็สาดน้ำถูกพื้นมาโดนฉันเข้าเต็มๆ พอฉันโวยก็บอกว่าไม่ทันเห็น คือป้าแกจะสาดใส่โคนต้นไม้ที่ฉันเดินผ่านนั่นแหละค่ะ แต่ฉันก็ไม่ได้ตัวเล็กเท่ามดนะ ไม่เห็นได้ยังไง? TTvTT
“วันนี้ไม่มีงานที่คณะแล้ว แกจะเริ่มแผนจีบโทโมะต่อเลยมั๊ยเนี่ย” ฟางถามฉันขณะที่เราสองคนกำลังนั่งกินกาแฟและของหวานอยู่ที่ร้านค็อฟฟี่ช็อปเล็กๆ ภายในมหาวิทยาลัย
จีบโทโมะ?
“แกใช้คำว่าจีบเหรอ ฉันอยากจะฆ่าหมอนั่นให้ตายมากกว่าจีบนะ”
โป๊ก!
“โอ๊ย! ใครวะ =*=” ฉันหันไปทางด้านหลังทันทีเนื่องจากจู่ๆ ก็มีลูกบอลยางของเล่นลูกประมาณกำปั้นลอยมากระแทกเข้ากับหัวของฉันเต็มๆ ถึงมันจะไม่เจ็บอะไรก็เถอะ แต่เมื่อหันไปแล้วก็พบแค่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งซึ่งเป็นลูกเจ้าของร้านแต่เด็กคนนั้นก็นั่งเล่นอยู่ปกติไม่ได้สนใจ ฉันแต่อย่างใด เหมือนไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จะเป็นใครไปได้ล่ะ! แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ เด็กสมัยนี้มันร้ายกาจชะมัดเลย T^T
“ฟางแกนั่งตรงข้ามฉัน แกเห็นใช่มั๊ยว่าเด็กคนนั้นปาลูกบอลใส่หัวฉันเนี่ย” ฉันหันไปถามเพื่อนรักด้วยความสงสัย
“ไม่เห็นอะ ก็มัวแต่มองหน้าแกอยู่ T.T”
“เอาเถอะๆ ว่าแต่พอมีแผนมั๊ยล่ะว่าจะทำยังไงให้โทโมะใจอ่อนน่ะ”
“ยุ” ฟางตอบมาคำเดียวสั้นๆ ทำเอาฉันเกือบหงายเงิบทันที ยุ อะไรของมัน พูดอะไรเข้าใจยากเหมือนยัยเจ๊แม่มดหมอดูนั่นเลย
“ห๊ะ!?”
“เอ้า แกก็ยุให้หมอนั่นเลิกกับแฟนไง” โหย ยัยนี่แรงกว่าฉันอีกอะ แต่ฉันว่าถ้าไม่มีนิสัยคล้ายๆ กันคงเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอกมั้งเนี่ย แต่จะว่าไปฉันก็ไม่ค่อยแรงนะ(?) =*=
“โอย แค่ไปพูดวันนั้นว่าจะทำให้เขามาเป็นแฟนฉันต่อหน้ายัยพม่าหน้าตุ๊กตานั่น ก็ไม่รู้ว่ามีนรกกี่ขุมอยู่บนหัวฉันแล้วเนี่ย” ฉันพูดอย่างเซ็งๆ นี่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ สาบานเลยว่าฉันไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่ถ้าฉันไม่เจอเจอเรื่องซวยๆ ไม่เว้นแต่ละวันอย่างกับมีคนจงใจแกล้งน่ะ
“ฟาง…แกว่ายัยเจ๊แม่หมอนั่นจะเล่นของใส่ฉันหรือเปล่าอะ”
“บ้า! เขาจะทำแบบนั้นทำไมล่ะ” ฟางเบิกตาโตทันทีกับความคิดของฉัน ก็หรือมันไม่น่าคิดล่ะ คนบ้าอะไรจะซวยไปยี่สิบปีน่ะ มันเชื่อได้จริงๆ น่ะเหรอ ฉันรู้สึกเหมือนโดนแกล้งมากกว่า -0-
“ก็…ไม่ถูกชะตากับฉันมั้ง”
“แกน่ะคิดมาก ฉันว่าแกอาจจะกำลังดวงตกจริงๆ ก็ได้นะ”
“ฉันคิดมากเพราะไอ้เรื่องดวงตกนี่แหละ”
“แหม แต่ว่า…ไอ้ฉันจะไม่เชื่อก็ยังไงไม่รู้สิ เพราะช่วงนี้แกก็เจอเรื่องให้เจ็บตัวตลอดเลย แถมหน้าแกยังหมองๆ ด้วยนะ!” เพื่อนสาวพูดพร้อมกับจ้องหน้าฉันเขม็ง
“หมองเพราะไม่ค่อยได้นอนมากกว่า” ยัยนี่ก็พูดไปเรื่อย จะไม่ให้หมองได้ยังไงล่ะ อาทิตย์ที่ผ่านมาเล่นทำงานกันอยู่ที่คณะยันตีหนึ่งตีสองกว่าจะได้กลับ ไหนจะต้องช่วยดูแลน้องปีหนึ่งเอย ช่วยงานในส่วนที่รุ่นตัวเองรับผิดชอบบ้างล่ะ เยอะแยะไปหมด -0-
“แกพูดเหมือนจะกลับมาไม่เชื่อเรื่องดวงตกแล้วอย่างนั้นแหละ T^T”
“แล้วทำไมแกต้องทำหน้าเศร้าเหมือนโดนแฟนทิ้งด้วยล่ะ”
“ฉันโสดย่ะ! แล้วอย่างฉันไม่มีใครกล้าทิ้งหรอก ฉันจะไปทิ้งเขามากกว่า เชอะ!” เจ้าตัวพูดแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างงอนๆ แต่ก็จริงอย่างว่าแหละ ยัยนี่จะไปทิ้งเขามากกว่า เห็นมีคนมาจีบหลายต่อหลายคนแล้ว แต่ยัยนี่ก็ไม่สนใจเลย บอกแค่ว่า…ถ้าฉันไม่สวยไอ้พวกนี้จะมาชอบฉันมั๊ยเนี่ย…เออก็จริงอย่างยัยฟางว่านะ
“โอเคๆ แกนั่นแหละจะไปทิ้งเขา”
“นี่มาว่าเรื่องของแกต่อเถอะ”
“เรื่องของฉัน? ฉันว่ามันบาปนะแก อีกอย่างยัยพม่านั่นก็ดูไม่ได้เลวร้ายตรงไหนนี่ ถ้าโทโมะจะตกอยู่ใต้ความชั่วจริง เห็นจะเป็นนายฌอนอะไรนั่นแหละ” แล้วถ้าฉันทำให้โทโมะมาเป็นแฟนฉันได้สำเร็จ นายฌอนนั่นจะเดือดร้อนอะไรเหรอ?
“จริงเหรอ”
“ไม่งั้นฉันจะโดนต่อยมาเหรอ”
“ก็แกเสร่อเข้าไปยืนขวางคนที่เขากำลังจะมีเรื่องกันทำไมล่ะย่ะ”
“คำนั้นใช้กับพี่เข่งเถอะ ฉันจะเข้าไปเอาตัวพี่ชายฉันออกมาต่างหาก -0-”
“นินทาอะไรฉันห๊ะไอ้ใจแก้ว”
ไอ้พี่ชายนี่ก็ไม่เคยเรียกชื่อฉันถูกเลยให้ตายเถอะ รักน้องจริงหรือเปล่าเนี่ยถึงจำชื่อน้องตัวเองสลับพยางค์กันแบบนี้ ชื่อฉันมันจำยากตรงไหนเหรอ
“แหม มาได้จังหวะเหมือนรู้งานเลยนะ รู้ได้ไงว่าฉันอยู่นี่ =*=”
“อ๋อ เห็นฟางเช็คอินในเฟซบุ๊คอะ =.,=” พี่ขนมเข่งพูดพลางนั่งลงที่เก้าอี้หัวโต๊ะฝั่งหนึ่งซึ่งว่างอยู่ (อีกฝั่งฉันกับยัยฟางวางกระเป๋าเรียบร้อย) พร้อมกับชูโทรศัพท์ให้ฉันดู ก่อนที่เขาจะยัดมันลงกระเป๋ากางเกง
“เออดี ต่อไปเวลาจะทำธุระหนักเบาเข้าห้องน้ำคนก็รู้กันหมดอะ” ฉันพูดอย่างประชด
“แหม ฉันก็เช็คอินเลือกที่นะยะไอ้แก้วบ้า” ฟางพูดก่อนที่จะย่นจมูกใส่ฉันอย่างหมั่นไส้ แหม ใครจะไปรู้ล่ะ วันดีคืนดียัยนี่อาจจะโรคจิต เช็คอินไปหมดซะทุกที่ก็ได้ คนซวยคือฉันเนี่ยแหละที่อยู่กับมัน จะว่าไปแล้วช่วงนี้ฉันก็พูดคำว่า ซวย บ่อยเหมือนกันนะ ก็มันเป็นจริงๆ นี่หว่า TTvTT
“อย่าเรียกฉันว่าไอ้ แก้ว บ้า ได้มั๊ยอะ =0=”
“แหมๆๆ…เออนี่พี่หนมเข่ง แฟนโทโมะน่ะนิสัยดีอย่างที่ไอ้แก้วบอกจริงเหรอ”
“ไม่รู้ดิ พี่ก็ไม่ค่อยสนิทอะ แต่เท่าที่รู้ก็โอเคมั้ง ไอ้โมะมันชอบ…ผู้หญิง น่ารัก เรียบร้อย” พี่ขนมเข่งตอบคำถามฟางแต่ประโยคสุดท้ายกลับเหลือบตามามองฉันเหมือนบอกเป็นนัยๆ ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่โทโมะชอบ
“ไม่ต้องมามองเลย นายนั่นจะชอบแบบไหนก็เรื่องของเขาเถอะ ยังไงฉันก็ไม่สนใจอยู่แล้ว บอกเลยนะว่าฉันจะวางมือ”
“แกไม่เชื่อแม่หมอเหรอ TOT” ฟางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทันที
“เชื่อแล้วไม่เห็นว่าชีวิตฉันมันจะเจริญขึ้นตรงไหนเลยเนี่ย บ้าหรือเปล่าที่จะให้ตัวเองหายซวยด้วยการไปแย่งแฟนชาวบ้าน แล้วชาวบ้านก็ซวยแทนฉันน่ะ มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยนะ”
“บางทีชาวบ้านอาจจะสมควรรับกรรมนั้นก็ได้นะ” พี่ชายฉันพูดขึ้นมาลอยๆ ด้วยท่าทางเหม่อๆ
ชาวบ้านรับกรรม?
“พี่เข่งพูดเหมือนรู้อะไรมา ยัยพม่านั่นไปทำกรรมอะไรมาเหรอ”
“ฉันจะไปรู้มั๊ยเล่า ไม่ได้ตรัสรู้เว้ยเฮ้ย =*=”
“อ้าว”
“แก้ว~ ฉันว่าแกเชื่อแม่หมอเถอะนะ เพื่อตัวแกเอง” ฟางพูดพลางเอื้อมมือมาเขย่าแขนฉันที่เอาขึ้นมาวางบนโต๊ะ
“ไม่รู้ดิ อย่าเขย่าได้มั๊ยมันสั่น =*=” ฉันพูดพร้อมกับแกะมือเพื่อนตัวเองออกไป
“เชื่อๆ ไปเหอะ แกมาขอให้ฉันรับปากแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ช่วยแกน่ะ” พี่ขนมเข่งก็ช่วยฟางเกลี้ยกล่อมฉันอีกแรง
“เอางั้นเหรอ แต่ยัยพม่า…”
“แกเพิ่งเจอครั้งสองครั้งเอง ยังไม่รู้จักยัยนั่นดีสักหน่อย” จะว่าไปก็จริงอย่างที่ยัยฟางพูดนะ ฉันจะสรุปว่ายัยนั่นนิสัยดีเลยก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะร้ายตรงไหนเลยนี่ -_-^
“นั่นสิ ฉันเจอตั้งหลายรอบยังไม่รู้เลยว่าดีหรือไม่ดี” พี่ชายตัวดีของฉันพูดบ้างก่อนที่จะหยิบแก้วของฉันไปดูดกาแฟหน้าตาเฉย
“พี่ไม่สนใจคนอื่นมากกว่า”
“เหอะน่า…วันนี้ ไปริกกี้มั๊ย ได้ข่าวว่าพิมไปนะ เมื่อกี้ไอ้โมะโทรมาบอกว่าวันนี้จะไปเลทหน่อยเพราะไปรับแฟนสุดที่รักก่อน เห็นว่าไปซื้อของกับเพื่อน” พี่ชายฉันนี่รู้เรื่องคนอื่นดีจังเลยแฮะ =.,=
“คงไม่ไปนะ ไม่ชินกับที่เสียงดังแบบนั้นจริงๆ (_ _|||)” ฟางชูมือขึ้นเป็นเชิงว่างานนี้ขอลา
“แกไปสู้รบกับไอ้ปีเตอร์ที่บ้านแกเถอะ ฉันไม่ว่าอะไรหรอก”
“เอาไว้วันหลังจะพาไปเล่นบ้านแกนะ ชิ!”
บรึ้นนน!~ บรึ้นนน!~ บรึ้นนน!~ เอี๊ยด!
“กรี๊ดดด~ พี่โมะเท่สุดๆ ไปเลย >O<”
“กรี๊ดดด~” เสียงสาวน้อยสาวใหญ่ รวมทั้งกระเทยเด็กยันรุ่นแก่คราวป้าพากันกรี๊ดกร๊าดทันทีที่โทโมะลงมาจากรถ แน่ล่ะ ทั้งหล่อ แถมเมื่อกี้เขายังชนะอีกต่างหาก
“กรี๊ดดด~ เขื่อน >O<”
“ครับๆๆ ^O^…โถ่ ไอ้โมะ อ่อนให้หน่อยก็ไม่ได้” เขื่อนซึ่งเป็นคู่แข่งของโทโมะเมื่อกี้ลงจากรถอีกคันมาก่อนที่จะหันไปส่ง ยิ้มพร้อมกับโบกไม้โบกมือให้คนที่กรี๊ดกร๊าด จากนั้นก็เดินตามโทโมะมาอย่างเซ็งๆ ทั้งสองคนเดินมายังกลุ่มฉันที่ยืนดูอยู่ ไม่ใช่กลุ่มฉันสิ กลุ่มพี่ขนมเข่งมากกว่า ฉันก็แค่มามีส่วนร่วมด้วยก็เท่านั้น
“เป็นไงบ้างพี่ ^O^” โทโมะถามพี่ชายฉันพร้อมกับยิ้มกว้างก่อนที่จะหุบยิ้มทันทีที่หันมาเจอหน้า ฉัน เขายิ้มแบบนั้นก็ดูดีนะ หุบยิ้มทำไมก็ไม่รู้ หน้าฉันเป็นอะไรเหรอ?
“ดีขึ้นๆ ฉันว่าแข่งรอบใหญ่ประจำเดือนครั้งหน้าแกได้ที่หนึ่งอีกชัวร์” พี่ขนมเข่งพูดพลางเอื้อมมือไปตบไหล่โทโมะสองสามที
“ถ้าศิษย์พี่ไม่ลงแข่ง ก็อาจจะได้อยู่ครับ”
“เฮ้ย~ ชักสงสัยแล้วสิ ที่ผ่านมาแกอ่อนให้ฉันหรือว่าฉันเก่งกันแน่วะ ฮ่าๆๆๆๆ” พี่ชายฉันพูดขำๆ ก่อนที่จะหัวเราะร่วน
“โมะ~ พิม ไปซื้อน้ำมาให้ค่ะ ดื่มหน่อยนะจะได้หายเหนื่อย” พิมที่ไม่รู้วิ่งมาจากทางไหน เดินแทรกเข้ามาในกลุ่มทันที พร้อมกับยื่นขวดน้ำเปล่าเย็นๆ ส่งให้โทโมะ
“เห็นหน้าพิมก็หายเหนื่อยแล้วนะครับ”
“ฮิ้ววว~”
โทโมะ รับขวดน้ำนั้นมาก่อนที่โอบไหล่แฟนตัวเองแล้วทำสิ่งที่ทำให้ทุกคนบริเวณนี้พา กันโห่ฮิ้วทันทีนั่นก็คือก้มลงไปหอมแก้มยัยพม่าหน้าตุ๊กตานั่น!
“แหวะ! โอ๊ยคลื่นไส้ จะอ้วก!!!” ฉันพูดขึ้นเสียงดังทำให้ทุกคนพากันเงียบแล้วหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียวด้วย สีหน้าเอือมๆ จะมีคนเดียวก็คือโทโมะที่ส่งสายตาเย็นชามาให้ฉัน เย็นมากจนฉันรู้สึกหนาวเลยแหละ (<เว่อร์ไปป้ะ)
( -_)-_)-_)-_)-_)-_)-_) ---> =[]=
“มองทำไมกัน” ฉันถามหน้าตาเฉยอย่างไม่สนใจก่อนที่จะกลอกตาไปมา
“น้องใครวะเนี่ย ไปๆ ไปนั่งคุยกันทางโน้นดีกว่าเว้ยพวกเรา” พี่ขนมเข่งพูดพลางเกาหัวแกร๊กๆ ก่อนที่จะโบกไม้โบกมือไล่ทุกคนให้เดินตามเขาไป แล้วก็เหลือแค่สามคนสุดท้ายเท่านั้นที่ยังคงเล่นสงครามสายตากันอยู่ฉัน โทโมะ แล้วก็ยัยพิม
“มองแบบนี้ชอบฉันขึ้นมาแล้วล่ะสิ J” ฉันถามโทโมะโดยไม่สนใจผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาถึงแม้ในใจจะรู้สึกผิดอยู่ก็ตามเถอะ ผิดที่ไปแทรกแซงความรักของคนอื่นน่ะ…แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้ว่าฉันจะโดนรถชนจนพิการหรือเปล่าน่ะสิ T^T
“…” โทโมะไม่ตอบอะไร แต่กลับมองฉันด้วยสายตาที่นิ่งกว่าเดิมจนฉันเองยังแอบกลัวๆ เขาขึ้นมาเลยล่ะ
“เอ่อ พิมว่าโมะตามพี่หนมเข่งไปดีกว่านะ พิมขอคุยธุระกับแก้วใจสักครู่นะคะแล้วจะตามไป” เมื่อได้ยินเสียงหวานของคนที่ยืนข้างๆ บอกแบบนั้นสีหน้าของโทโมะก็เปลี่ยนเป็นกังวลขึ้นมาทันทีก่อนที่จะหันไปมอง แฟนสาวของตัวเองด้วยความเป็นห่วง ฉันรับรู้ได้เลยล่ะ…รับ รู้ได้ว่าเขารักยัยนี่มากขนาดไหน และคงไม่มีทางที่เขาจะรู้สึกแบบนั้นกับฉันแน่ๆ นี่ฉันต้องดวงตกไปอีกยี่สิบปีจริงๆ ใช่มั๊ยเนี่ย เฮ้อ! คิดแล้วก็ท้อ
“จะดีเหรอครับ ผมไม่อยากให้พิมอยู่คนผู้หญิงคนนี้ตามลำพัง”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะค่ะ แก้วใจไม่ทำอะไรพิมหรอก” โอ๊ย ยัยนี่ก็คนดีซะเหลือเกิน นี่ขนาดฉันบอกไปแล้วนะว่าจะแย่งแฟนตัวเองมา ยังจะอุตส่าห์ดีกับฉันอีก ให้ตายเหอะ ฉันกลายเป็นคนชั่วไปเลยล่ะสิทีนี้ (เพิ่งรู้ตัวเหรอยะ)
“ถึงยัยนี่จะเป็นน้องพี่หนมเข่ง แต่…”
“นะคะ ให้พิมคุยเถอะนะ เผื่ออะไรมันจะดีขึ้นกว่าตอนนี้” เมื่อเห็นว่าพิมยืนยันแบบนั้นโทโมะจึงตวัดสายตาคมกริบของเขาที่เชือดคอคนให้ตายได้มาที่ฉันโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะยอมเดินตามพวกพี่ขนมเข่งไปในที่สุด
“มีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ” ฉันยกมือขึ้นมากอดอกแล้วถามผู้หญิงที่พอมองดีๆ แล้วยัยนี่เตี้ยกว่าฉันมาก
“เรื่องโทโมะ…” พอเธอเอ่ยชื่อนั้นขึ้นมาฉันก็เลยทำหน้าเซ็งๆ แล้วหันหลังเดินหนีมาทันที ฉันคิดไว้อยู่แล้วแหละว่าคงไม่พ้นเรื่องนี้ แต่ถ้าฉันบอกไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วฉันจำเป็นที่ต้องทำแบบนี้จริงๆ ใครจะมาเชื่อฉันล่ะ ฉันเองยังแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยเรื่องนี้”
“แต่ฉันมีนะแก้วใจ” พิมยังคงเดินตามฉันมาติดๆ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“ฉันว่าวันนั้นฉันพูดไปชัดเจนแล้วนะ…ขอโทษเธอด้วยล่ะกันที่ต้องทำแบบนี้” ฉันพูดในขณะที่ขาก็ยังก้าวพาตัวเองเดินหนีไม่หยุด
“ทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้ด้วย”
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้”
“เธอจะให้ฉันรับรู้แค่ว่าเธอจะมาแย่งโทโมะไปจากฉัน แล้วบอกขอโทษฉันแบบนี้น่ะเหรอ” คำถามยัยนี่ตอบลำบากชะมัดเลย!
“ฉันให้เธอรู้แค่ไหน เธอก็รู้แค่นั้นแหละน่า” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“แก้วใจ นี่เธอหยุดเดินแล้วหันมาคุยกันดีๆ ได้มั๊ย ขอร้องล่ะ”
“จะร้องก็ร้องไป ไม่ต้องมาขอฉัน -0-”
“ฉันไม่ตลกกับเธอด้วยนะ อย่ายุ่งกับเราสองคนเลย ขอร้องล่ะ”
“…” ฉันไม่ตอบ แต่ยังคงเดินหนีอยู่เหมือนเดิม ยัยนี่ก็ตามติดจังเลยแฮะ
“นี่! ฉันบอกให้หยุด หูหนวกหรือไงยัยบ้า!?” จู่ๆ เสียงเล็กหวานก็เปลี่ยนเป็นเล็กแหลมแสบหูขึ้นมาทันที พร้อมกับเจ้าตัวที่วิ่งขึ้นมาขวางหน้าฉันพร้อมกับจ้องมาด้วยแววตาแข็งกร้าว จนฉันแทบช็อคหัวใจจะวายขึ้นมาซะให้ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงยัยนี่บาดแก้วหูกว่าเสียงเบรครถดังเอี๊ยดอีกนะเนี่ย…
“O_O” ฉันหยุดชะงักทันทีกับสิ่งที่เกิดขึ้น เจอของเด็ดเข้าให้แล้วไง แท้ที่จริงแล้วยัยนี่ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นตอนแรก!
“ในเมื่อฉันขอร้องเธอดีๆ เธอไม่ให้ ถ้างั้นก็ลองแข่งกันดูสักตั้งมั๊ยล่ะว่าเธอ…จะ แย่งผู้ชายคนนั้นไปจากฉันได้หรือเปล่า” พิมเหลือบสายตาไปทางด้านหลังฉัน ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบาราวกับกระซิบ แต่ฉันได้ยินมันชัดเจนที่สุดเลยล่ะ แล้วก็รู้ทันทีว่าโทโมะกำลังเดินตามเราสองคนมา!
“เธอ…”
“โอ๊ย! พิมเจ็บนะคะ ปล่อยพิมเถอะแก้วใจ TT.TT” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดตอบโต้อะไร ผู้หญิงตรงหน้าก็คว้ามือฉันบังคับให้ไปจับแขนเธอพลางเจ้าตัวก็ทำเหมือน พยายามจะแกะมือฉันออก แต่ความจริงแล้วมันเป็นการกดมือฉันแน่นกว่าเดิมให้จับข้อมือยัยนี่ไว้น่ะสิ!
ฉันขอถอนคำพูดที่บอกว่ายัยนี่ดูไม่ได้เลวร้ายตรงไหน…ฉันว่าเลวร้ายก็ตรงนี้แหละ!
“เหอะ! อยากให้ฉันบีบนักใช่มั๊ย ได้~” ฉันยิ้มให้กับคนตรงหน้าก่อนจะออกแรงบีบข้อมือนั้นเต็มที่โดยไม่สนใจว่าจะมีเสียงวิ่งพร้อมกับตะโกนดังมาจากข้างหลัง
“หยุด! แก้วใจ! นี่ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย!!!” โทโมะวิ่งเข้ามาแยกฉันออกจากพิม เขากระชากมือฉันออกจากข้อมือยัยนั่นก่อนที่จะสะบัดแขนฉันทิ้งอย่างแรง โดยไม่สนใจว่าฉันจะเจ็บจากการกระทำของเขาหรือเปล่า
“ผมไม่น่าให้พิมอยู่กับผู้หญิงคนนี้ตามลำพังเลย เจ็บหรือเปล่าครับ” โทโมะถามพิมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คนถูกถามก็แกล้งบีบน้ำตาเรียกความสงสาร แล้วส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมก็แค่ขอร้องแก้วใจดีๆ ว่าให้เลิกยุ่งกับเราสองคน แต่ทำไมเขาต้องทำร้ายพิมด้วยก็ไม่รู้”
ยะ…ยัยนี่ ร้ายมาก! O_O
“ถ้าเธอทำอะไรพิมอีกล่ะก็…ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่! อ่อ…แล้วถ้าเธอจะไปฟ้องพี่หนมเข่งก็เชิญตามสบาย เพราะฉันจะได้บอกเหมือนกันว่าน้องสาวเขาร้ายกาจขนาดไหน!” โทโมะหันมาพูดเสียงรอดไรฟันกับฉัน ตอนนี้หน้าเขาแดงจัดเพราะความโกรธ…นี่ไม่คิดจะถามฉันบ้างเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น ฟังความข้างเดียวชัดๆ เลย
“ฉัน…”
“เธออย่าคิดนะว่าการที่ฉันนับถือพี่หนมเข่ง แล้วมันจะเป็นข้ออ้างให้เธอทำอะไรก็ได้นะ เพราะรู้ไว้เลยว่าฉันไม่มีวันยอมเด็ดขาด”
“นี่! ใจคอจะไม่ฟังฉันพูดบ้างหรือไงห๊ะ! มาถึงก็ฟังแต่แฟนตัวเองแล้วก็ว่าๆๆๆ ฉัน คิดว่าฉันผิดอยู่คนเดียวหรือไง!?” ฉันพูดอย่างฉุนเฉียว
“แค่เห็นก็รู้แล้ว….พิมสู้คนอย่างเธอไม่ได้หรอก” นายมันโง่ชะมัดเลยโทโมะ!
“ใช่! ยัยนี่สู้ฉันไม่ได้หรอก…ระวังตัวเอาไว้ดีๆ ก็แล้วกัน” ฉันพูดพลางถลึงตาจ้องยัยพม่าหน้าตุ๊กตาราวกับจะกลืนกิน
“…ผู้หญิงอัธพาล” โทโมะเอื้อมมือมาบีบไหล่ฉันทันทีด้วยความโมโห
“อยากจะว่าอะไรก็ว่าให้พอใจเลย! แต่รู้ไว้ด้วยว่าถึงฉันนิสัยไม่ดีหรืออัธพาลยังไง ฉันก็ไม่เสแสร้งเหมือนใครบางคน!” คนโดนพูดกระทบถลึงตากลับใส่ฉันทันที แต่เนื่องจากโทโมะกำลังเผชิญหน้ากับฉันอยู่เขาจึงไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคน ที่เขารักและกำลังปกป้องมีสีหน้ายังไง
“เลิกทำแบบนี้ซะ…ฉันเตือนเธอแล้วนะ…” โทโมะสะบัดไหล่ฉันอย่างไม่ยั้งมือ ก่อนจะเดินไปพยุงยัยพม่าที่แกล้งทำเป็นสำออยแล้วเดินกลับไปตามทางเดิมที่พวกเราเดินจากมาทันที
นี่เตือนเหรอ? ไหล่กับไหปลาร้าฉันจะหลุดออกมามั๊ยเนี่ย ไอ้บ้าเอ๊ย!
“โอโห! ละครรักเรื่องนี้น่าลุ้นตอนต่อไปจริงๆ ฮ่าๆๆๆ”
“ฌอน…” ฉันหรี่ตาลงมองคนที่เดินเข้ามาใหม่จากมุมมืดอย่างไม่ไว้ใจทันที ผู้ชายผมสีบานเย็นนั่นกำลังยืนในท่าสบายๆ เอามือล้วงกระเป๋าแล้วส่งยิ้มให้ฉัน จะว่าไปเขาเองก็หน้าตาดีไม่แพ้โทโมะเลยนะเนี่ย
“บังเอิญฉันเดินผ่านมาน่ะ…สงสัยเรื่องที่เขาบอกว่าน้องสาวคนสวยของพี่ขนมเข่งมาชอบไอ้โมะจะเป็นเรื่องจริง ฮะๆๆ” เขาพูดกลั้วหัวเราะ
“ใครบอกว่าฉันชอบหมอนั่น” ฉันถามอย่างไม่สบอารมณ์ หมอนี่เข้ามาหาฉันต้องการอะไรกันแน่นะ ดูไม่น่าไว้ใจเลยแฮะ
“ถ้าไม่ชอบ แล้วเธอจะอยากได้มันเป็นแฟนทำไม สติยังดีอยู่หรือเปล่า” เขาถามแล้วเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
“จะทำไมก็ไม่เกี่ยวกับนาย”
หมับ~
ฉันพูดอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับไปหาพี่ขนมเข่ง แต่ก็ต้องชะงักด้วยความตกใจอีกครั้งเมื่อจู่ๆ ฌอนก็คว้าแขนฉันเอาไว้แน่น!
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อไอ้โมะมันเป็นศัตรูฉัน…”
------------------------------------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป------------------------------------------------------
1 ตอน 1 คอมเม้นท์ = 1 กำลังใจดีๆ ที่ส่งให้กันนะคะ :)
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ