รัก...รสมะระ(หวาน)
เขียนโดย chadaapp
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.19 น.
แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.26 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) ภูมิหลัง (เจษ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ…..18 ปีที่แล้ว…..
“เก่ง...เจษอยากมีเด็กไว้เลี้ยงสักคน สองคน...เจษว่าดีไหม” ผมตัดสินใจถามเก่งเรื่องนี้ เพราะผมเริ่มอยากให้คำว่าครอบครัวของผมสมบูรณ์...ด้วยการมีลูกหรือมีเด็ก ชายตัวน้อย ๆ สักคน...
“เก่งก็กำลังจะคิดอยู่นะว่าเราจะสามารถเอาเด็กที่ไหนมาเลี้ยงได้....อีกอย่างเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงมันเสี่ยงพอตัวนะเจษ”เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วครับที่ผมกับเจษมักจะมีเรื่องในใจเรื่องเดียวกันและมักจะเป็นเจษทุกครั้งที่เอ่ยปากเอาความคิดของผมมาพูดก่อนผมเสมอ
“เจษรู้...แต่มันก็อาจจะช่วยให้เด็กตาดำ ๆ คนหนึ่งมีชีวิต มีความเป็นอยู่...มีการศึกษา...มีอนาคตที่ดี....เจษเชื่อว่า...เด็กจะดีได้ อยู่ที่การเลี้ยงดู....สายเลือดที่มีแค่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงในร่างกายเค้า...แต่การอบรมเลี้ยงดูเค้าต่างหากที่จะเป็นตัวตัดสินว่าเค้าจะเป็นเด็กดีแบบที่ดาดหวังได้มากแค่ไหน....”
“งั้นเอางี้....วันนี้เราไปหาไอ้หมอที่ โรงพยาบาลก่อน....เผื่อมันมีคำแนะนำอะไรดี ๆ ...เผลอๆ.... เราอาจได้เด็กชายตัวน้อย ๆ กลับมาด้วยนะ....”
“หมับ…ขอบคุณนะเก่ง....ขอบคุณที่เข้าใจและพยายามสร้างครอบครัวของเราด้วยกัน....ขอบคุณ... ”
“ไม่เอานะครับ...จะเป็นคุณพ่อมือใหม่แล้ว....ต้องเข้มแข็ง...มากกว่านี้นะครับ....” ผมพูดพลางปาดน้ำตาข้างๆ แก้มให้....แววตาท่าทางที่แสดงออกถึงความดีใจแบบนั้น...ผมดรใจที่ผมเป็นคนสร้างมันขึ้นมา....ดีใจที่เจษยิ้มได้เพราะผม....
“เจษสัญญานะ....ว่าเจษจะเลี้ยงเด็กตัวน้อยของเราให้ดีที่สุด....สัญญาว่าจะทำหน้าที่พ่อและสามีของเก่งให้สมบรูณ์ที่สุด.....”
“เก่งก็จะคอยดูแล....คอยช่วยเจษเลี้ยงดูเด็กน้อยให้ดีและมีความสุขที่สุด...ดีไหมครับ”
วินาทีที่เก่งตอบตกลง...วินาทีที่ผมรับรุ้ว่าผมจะมีเด็กชายตัวน้อย...ผมสัญญากับตัวเองว่า...ไม่ว่าต่อไปผมจะเจอเรื่องอะไรร้ายแรงแค่ไหน....ผมจะไม่ยอมเสียเด็กน้อยและเก่งไปเด็ดขาด...ไม่มีวัน!!!
…………..โรงพยาบาล...ศรีนริทร์................
“คุณหมอค่ะ....เด็กรอดแต่....แต่....คุณผู้หญิงไม่รอด....คะค่ะ” เสียงพยาบาลสาวหน้าตาหมองลงเมื่อรายงานความคืบหน้าของการผ่าตัดคลอดหญิงสาวคนหนึ่ง....เด็กน้อยในอ้อมกอด...สมบรูณ์...แข็งแรงและน่าเอ็นดู...
“อืม...ช่วยโทรแจ้งญาติและดูแลเด็กน้อยให้ดีก่อนละกันเรื่องอื่น....ค่อยคุยกันอีกที....”
เป็นเรื่องน่าหดหู่พอสมควรสำหรับเด็กที่กำพร้ามารดาตั้งแต่เกิดแบบนี้....แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาคร่ำครวญกับสิ่งที่เสียไป เพราะสิ่งที่ยังคงอยู่เป็นเพียงแต่เด็กทารกที่...ต้องเติบโตและมีอนาคตที่ดีต่อไป....แต่ใครจะช่วยให้เด็กน้อยพบเจอกับอนาคตที่ดีแบบนั้น...ผมยังนึกไม่ออก...ยิ่งจากประวัติของมารดาเด็กน้อย...นางเป็นเพียงแค่ผู้หญิงรับจ้างทั่วไป...และที่ที่สำคัญนางอยู่ตัวคนเดียว...สามีเสียชีวิต....ญาติที่มีอยุ่ก็ไม่สนใจเท่าที่ควร....ดังนั้นผมจึงจำเป็นต้องให้เด็กน้อยอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลก่อน....
“ไอ้หมอ....ว่างไหมว่ะ....มีเรื่องจะปรึกษา” เสียงเก่งเพื่อนรักของผมเอ่ยทักทันที่ที่เข้ามาในห้องพักส่วนตัว....
“ว่างว่ะ...อ่อ....เราออกไปคุยข้างนอกกันดีกว่า...เห็นทีมีเรื่องคุยกันยาวนะเพื่อนรัก....” ใบหน้าของไอ้หมอมันดูเครียด ๆ เหมือนมีอะไรในใจ....
“เก่ง...ดูเด็กน้อยสิ...หน้าตาน่าชัง....” เจษกระชับมือผมให้ดูเด็กน้อยที่หลับใหลในห้องตรงข้าม....ไม่รุ้อะไรดลใจให้ผมขยับไปจนชิดกับกระจกใส มองเห็นหน้าเด็กน้อยได้ชัดเจน....สิ่งหนึ่งที่สะดุดตาผมเป็นที่สุดคือ...ไม่มีชื่อมารดาติดอยู่ในเปลของเด็กน้อย...ไม่มีแม้กระทั่งป้ายชื่อของเด็ก....ดูจากวันเดือนปีเกิด วันที่ 10/02/58 ซึ่งมันคือวันนี้!!!
“เก่ง....เป็นอะไรรึเปล่า....เงียบชะเจษใจไม่ดีเลย....” ผมเอ่ยถามคนตรงหน้าที่นิ่งเงียบเอาแต่จ้องเด็กน้อยไม่ว่างตา....
“ไม่มีไรหรอก....เก่งแค่สงสัยว่าทำไมเด็กน้อย ไม่มีป้ายชื่อ..ทั้งของมารดาและของเด็กน้อยเอง....ซึ่งปกติ ทางโรงพยาบาลจะต้องติดป้ายชื่อไว้...เพื่อป้องกันการสับสนของพยาบาลและครอบครัวเด็กน้อย....หากทางโรงพยาบาลไม่ได้ติดป้ายชื่อ...มีอยู่ในกรณีเดียวคือ...เด็กถูกทิ้ง...หรือมารดาเสียชีวิต...” เจษอธิบายเรื่องราวของเด็กน้อยราวกับต้องการสื่อให้ผมรุ้ว่าเจษต้องการอะไร...จะเป็นการบังเอิญไปไหม ถ้าผมจะบอกว่า...ผมเผลอคิดไปว่าเด้กน้อยนั้นคือหนึ่งในครอบครัวของผม....ตั้งแต่วินาทีที่ผมเห็น....มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม.....แต่เสียงในหัวใจของผมถามกลับมาว่า...มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญมันคือจิตสัมผัส...ของความรัก....
“เจษ...รู้ใช่ไหมว่าเก่งหมายถึงอะไร....”
“ระรู้...”
“แต่เจษอย่าเพิ่งปักใจกับเรื่องที่เก่งบอกเลย บางทีมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ....รอเก่งถามไอ้หมอให้ชัดเจนก่อน...นะครับ”
“แต่ถ้ามันใช่แบบที่เราคิด...เก่งต้องให้เด็กน้อยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานะ....”
“ครับ....เจษเชื่อใจเก่งนะ...ขอแค่เชื่อใจ”
ผมได้แต่พยักหน้าและส่งรอยยิ้มให้เก่ง....ผมเชื่อว่าเก่งทำได้....ผมเชื่อ.....
มาแล้วค่ะ...........ห่างหายไปนานเลย....มาสานต่อแล้ววว... ใครมีความคิดเห็นยังไง คอมเม้นกันได้เลยน้าาาาา...รอติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะค่ะ....รักคนอ่านทุกคน^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ