Welcome to dark side

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“จริงๆนะคะคุณตำรวจ เพื่อนของชั้นถูกล่อลวงให้ไปปาร์ตี้ประหลาดก่อนที่จะถูกทำร้าย คุณตำรวจ
ต้องตามหาเพื่อนให้ชั้นนะคะ”ฟางโวยวายที่สถานีตำรวจท้องถิ่นหลังจากที่ตั้งสติได้ก็รีบมาแจ้งความ
ทันทีด้วยความร้อนรน
 
 
 
 
 
 
“ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณ กรณีที่เพื่อนคุณหายตัวไปแบบนี้ เราต้องทราบให้แน่ใจก่อนว่ามันไม่ใช่
การล่อลวงแต่เป็นความเต็มใจของเจ้าตัว เราต้องรอให้ครบ24ชั่วโมงก่อนนะครับเราถึงจะรับแจ้ง
ความได้”เจ้าหน้าที่ที่รับบันทึกประจำวันแจ้งกับฟาง
 
 
 
 
 
 
 
“ได้ไงกันคุณตำรวจก็ชั้นเห็นกับตาว่ามีเรื่องกับเจสสิก้าเพื่อนชั้นแบบนั้นจะให้ชั้นอยู่เฉยนิ่งนอนใจได้
ยังไงล่ะ”ฟางโวยวายไม่หยุดพลางตบโต๊ะดังปัง
 
 
 
 
 
 
 
“ฟางใจเย็นๆก่อนนะ เอ่อ ขอโทษแทนแฟนผมด้วยนะครับ”เจมส์ตกใจรีบดึงฟางออกมาจากโรงพัก
ทันทีเพราะกลัวว่าเรื่องราวจะไปกันใหญ่กว่านี้
 
 
 
 
 
 
 
 
“เจมส์ปล่อยฟางนะ”ฟางดิ้นไปมาเมื่อถูกแฟนหนุ่มหิ้วปีกออกมาจากโรงพักท่ามกลางคนที่อยู่แถว
นั้นมองฟางด้วยความประหลาดใจทำให้เจมส์รู้สึกอายแทบแทรกผ่านดินหนีกับท่าทางโวยวายไม่
ยอมคนของฟาง ที่บทจะดื้อก็ดื้อมาจนน่ารำคาญ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“พอกันทีฟาง เจสสิก้าอายุเท่าไหร่แล้วเค้าดูแลตัวเองได้น่า และอีกอย่างฟางเองก็ไม่ใช่แม่เจสด้วย
ที่จะต้องมาดูแลสารทุกข์สุขดิบให้ซะขนาดนี้ เลิกงอแงเราจะกลับกรุงเทพกันคืนนี้”เจมส์ตัดบทออก
มาแล้วว่าฟาง
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่ เจมส์ ฟางรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับไอ้ที่ๆเจสไปเลยจริงๆนะไหนจะไอ้ข้อความสุดท้ายที่เจสโทร
หาฟางเองมันทำให้ฟางแน่ใจว่าที่Dsอะไรนั่นมันต้องมีอันตราย ถ้าเจมส์อยากจจะกลับกรุงเทพ
เจมส์ก็กลับไปเลยนะ ส่วนฟางะอยู่ที่นี่จะถามหาเจส ถ้าตำรวจไม่ช่วยฟางก็จะไปเอง”ฟางรีบพูดแล้ว
ขืนตัวเองออกจากการเกาะกุมของแฟนหนุ่มแล้วเดินไปที่รถ2แถวหมายจะไปถามแต่ก็มีชายคนหนึ่ง
เดินมาขวางฟาง
 
 
 
 
 
 
 
 
“ถ้าอยากจะไปที่Dsอะไรนั่เดี๋ยวผมจะพาคุณไปเอง”ชายคนเดิมที่ฟางเอที่ร้ายอาหารพูดขึ้น
 
 
 
 
 
 
 
“อะไรกันนี่แกยังจะถามพวกเรามาอีกหรอ ฟาง กลับกันเถอะหมอนี่ไม่น่าไว้วางใจ”เจมส์รีบพูด
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่เจมส์ เค้ามาหาเราแล้วพูดเรื่องDsอะไรนี่ถึง2ครั้งฟางว่าเค้าต้องรู้อะไรแน่ๆคุณคะ งั้นคุณช่วย
บอกชั้นทีว่าถ้าชั้นจะไปตามหาเพื่อนชั้นจะต้องไปตามได้จากที่ไหน”ฟางไม่สนใจเจมส์แล้วพูดก่อน
ที่ชายแปลกหน้าคนดังกล่าวจะพาเจมส์และฟางมาที่บ้านของเขาที่อยู่ไกลออกจากตัวเมือง โดยที่
เจมส์ยังมองชายคนนั้นด้วยความไม่ไว้วางใจ
 
 
 
 
 
 
 
 
"ผมรู้ว่าท่าทางของผมมันไม่น่าไว้วางใจ เพราะพวกคุณเองก็ไม่รู้จักว่าผมคือใคร แถมยังทำท่าลับๆ
ล่อๆมีพิรุธขนาดนั้น ผมชื่อทีเจเป็นนักโบราณคดีมาจากอังกฤษ มาอยู่ที่นี่เกือบ3ปีได้แล้ว"ทีเจรู้จาก
ท่าทีของเจมส์ว่าไม่ไว้ใจตนก็แนะนำตัวเอง
 
 
 
 
 
 
 
 
“สวัสดีค่คุณทีเจ ชั้นชื่อฟางส่วนนี่เจมส์แฟนของชั้น คือชั้นอยากจะทราบว่าDsคืออะไร แล้วทำไม
ถึงมีคนท่าทางลับๆล่อๆมาพาตัวเจสสิก้าเพื่อนของชั้นไปด้วย แถมก่นท่ะเกิดเรื่องเจสสิก้ากับชั้นได้วี
ดีโอคอลหากันแล้วชั้นก็เห็นเจสเพื่อนชั้นเค้ากรีดร้องแล้วถูกลากก่อนที่สัญญาณจะขาดหายไป คุณ
คุณต้องช่วยชั้นให้ไปตามหาเพื่อนชั้นที่นั่นทีนะ”ฟางรีบขอร้องทีเจ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“หึ ไอ้พวกสวะ มันทำแบบนี้กับเหยื่ออีกแล้วนะ ไม่แปลกที่พวกมันจะทำกับครีมมี่น้องผม”ทีเจกำ
มือแน่นด้วยความคับแค้นใจแล้วมองขึ้นไปที่พระจันทร์ที่เป็นสีเลือด
 
 
 
 
 
 
 
“นี่มันเรื่องอะไรกัน คุณเล่าเรื่องทุกอย่างให้ชั้นเถอะนะ”ฟางดูสีหน้าของทีเจแล้วยิ่งเกิดความสงสัย
ก่อนที่จะรีบถามชายหนุ่ม
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“วิทยาลัยDS เป็นวิทยาลัยที่รวมการเรียนการสอนทางด้านศิลปะหลายศาสตร์หลายแขนงที่นี่อยู่
ท่ามกลางหุบเขาของเมืองเชียงใหม่นี้ได้ถูกก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีใจบุญชาวอังกฤษชื่อมิสเตอร์ฟ
อร์ต คอลลินที่ได้แต่งงานกับสาวเหนือที่ชื่อมัลลิกาและเกิดความรักในเมืองไทยจึงต้องการสร้าง
สถานที่ให้ความรู้แก่คนไทย โดยเลือกมาสร้างที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของมัลลิกา วิทยาลัยนี้ก่อ
ตั้งมาเกือบร้อยปี แต่เป็นที่น่าแปลกคือที่วิทยาลัยนี้ไม่ใช่สถานที่ที่คณะเข้ามาสมัครที่นี่ง่ายๆ
นักเรียนที่เข้ามาเรียนที่นี่ได้ล้วนถูกจดหมายเชิญให้เข้ามาเรียนเท่านั้นซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจกับหลัก
การเปิดรับสมัครเรียนบ้าๆของที่นี่เท่าไหร่หรอก แต่ที่แน่ๆไอ้วิทยาลัยDsอะไรเนี่ย ถือว่ามีอิทธิพล
มากทำให้ทางตำรวจ หรือผู้มีอิทธิพลไม่สามารถเข้ามาแทรกซงหรือตั้งตัวเนศัตรูได้เลย”ทีเจเล่าราย
ละเอียดของวิทยาลัยDsที่เค้าทำการสืบค้นข้อมูลมาตลอดที่มาอยู่ที่นี่พลางเปิดสไลด์ฉายรูปภาพ
ของวิทยาลัย ที่ตั้งและบุคลากรคนสำคัญต่างๆให้กับฟาง
 
 
 
 
 
 
 
 
”แล้วที่คุณบอกเกี่ยวกับคืนBlood moonตอนแรกมันคืออะไรกันแน่”ฟางถามต่อ
 
 
 
 
 
 
 
 
”คืนประหลาดที่เกี่ยวข้องกับพระจันทร์น่หรอ หึ พวกDsอะไรนั่นเคยถูกชาวบ้านในแทบนั้นเค้าเล่า
กันมาว่าเป็นบูชาพระจันทร์ เป็นผู้มีอำนาจเหนือกว่ามนุษย์ผมก็ไม่รู้ว่ามันจริงรึเปล่า แต่ที่ผมได้ข้อมูล
จากหญิงชราคนหนึ่งในแถบนั้นเลยรู้มาว่าที่วิทยาลัยDsนั้นจะมีคืนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระจันทร์
อยู่3อย่างคือ Full moon=ค่ำคืนที่มิทยาลัยDSมักจัดงานเฉลิมฉลอง Blood moon=คืนที่มีค่ำ
สั่งนักเรียนในDSทุกคนห้ามออกนอกหอนอนในยามวิกาลเพราะมีอันตรายถึงชีวิต Moonless
night, dark night=คืนเดือนดับค่ำคืนแห่งการกลับคืนสู่สามัญ ผมก็ไม่รู้ชัดหรอกนะว่าไอ้กลับคืน
สู่สามัญน่ะมันคืออะไรแต่ผมคิดว่าคืนที่อันตรายที่สุดคงเป็น Blood moon คืนพระจันทร์สีเลือดที่
ครีมมี่น้องสาวผมถูกเชิญไปปาร์ตี้จากชายคนหนึ่งและก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเป็นเวลามาแล้ว3ปี
เหมือนกับเพื่อนของคุณไงล่ะ”ทีเจพูดทำให้ฟางกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากก่อนที่จะลุก
ขึ้น
 
 
 
 
 
 
 
“ถ้ามันเป็นคืนอันตรายงั้นคุณก็พาชั้นไปสิ ไปที่นั่นไปพาเพื่อนชั้นกับน้องคุณกลับมา”ฟางพูด
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่ได้หรอก เพราะวิทยาลัยDsไม่ใช่ที่ๆคนปกติจะเดินเข้าไปง่ายๆเหมือนกับวิทยาลัยที่อื่นบอก
แล้วไงว่าต้องถูกจดหมายเชิญให้ไปเรียนเท่านั้นถึงจะมีคนมาพาตัวไปและที่สำคัญใครที่หลบหนี
ออกก่อนที่จะเรียนจบหลักสูตรมักจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย” ทีเจพูด
 
 
 
 
 
 
“แต่เจสสิก้ากำลังตกอยู่ในอันตราย ไม่รู้ล่ะถ้าไม่อยากช่วยชั้นไปเองก็ได้”ฟางที่ยังดื้อรั้นดันทุรังรีบ
ออกไปจากบ้านทีเจโดยหมายจะไปที่ร้านเดิมที่พวกของDsมาพาตัวเพื่อนรักของเธอไป
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ขอบคุณค่ะ”เมื่อฟางมาถึงร้านดังกล่าวก็พบว่ามันปิดจึงรีบถามแม่ค้าที่ขายผลไม้แถวนั้นก็เดินกลับ
มาด้วยความเศร้าเพราะจากคำบอกเล่าของแม่ค้านั้น เจ้าของร้านขายเครื่องประดับนั้นเปิดปิดร้านไม่
เป็นเวลาและไม่ค่อยสุงสิงกับใครแถวนี้เลยไม่ค่อยมีใครรู้ประวัติ”แสงไฟนี่ คุณอยู่ในนั้นใช่มั้ยคะ
เปิดประตูให้ชั้นทีชั้นมีเรื่องอยากจะถาม คุณคะๆ”ฟางหันไปเห็นแสงตะเกียงที่ส่องมาจากในร้านตรง
หน้าต่างก็รู้ทันทีว่ามีคนอยู่ในร้านก็รีบวิ่งไปทุบประตูแต่แล้วกลับไม่มีเสียงตอบกลับมา ฟางนิ่งและ
ตัดสินใจคว้าก้อนหินแถวนั้นหมายจะปาเข้าไปในร้าน เพราะเธอมั่นใจว่าต้องมีคนอยู่ในนั้น
 
 
 
 
 
 
 
 
หมับ มือหนาของใครคนหนึ่งมาคว้าข้อมือฟางไว้
 
 
 
 
 
 
 
 
“นี่ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ”หนุ่มลูกครึ่งคนหนึ่งที่สวมแผ่นตากันแดดรีบพูด
 
 
 
 
 
 
 
 
“ปล่อยชั้นนะ ไอ้บ้า”ฟางโวยวายไม่หยุด
 
 
 
 
 
 
"ทอมปล่อยมือยัยนั่นออกซะเถอะ พวกชั้นต่ำแบบนั้นมันไม่สมควรที่เราจะมายุ่งด้วยนะ“แต่ก่อนที่
จะมีเรื่องชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมยาวสีดำสนิทมีฮู้ตคลุมทำให้ฟางมองเห็นไม่ชัดว่าเค้าคือใครพูด
สั่งคนสนิทให้ปล่อยตัวฟาง
 
 
 
 
 
 
 
“นี่นายจจะมากไปแล้วนะมาว่าชั้นเป็นพวกชั้นต่ำงั้นหรอ คิดว่าเป็นใครกันถึงได้ทำตัวสูงส่งแบบ
นั้น”ฟางที่ถูกปล่อยตัวก็ตรงเข้าไปโวยวายใส่ชายคนดังกล่าวก่อนจะง้างก้อนหินปาใส่แต่แล้วทันใด
นั้นเองชายคนนั้นก็คว้าก้อนหินได้โดยที่ไม่มองกลับมาทางฟางแล้วบีบมันจนแหลกเป็น2ท่อนแล้ว
หันขวับมามองหน้าฟางอย่างเอาเรื่องทำให้ฟางที่ตกตะลึงอยู่นั้นขนลุกซู่เมื่อสบตากับดวงตาสีแดง
เลือดที่ลุกวาวมองเธออย่างเอาเรื่อง
 
 
 
 
 
 
 
 
“ฟางจะทำอะไรฟางน่ะ อย่าทำอะไรแฟนชั้นนะ”เจมส์และทีเจที่ตามฟางมารีบคว้าไม้แถวนั้นหมาย
จะไปเอาเรื่องทอมกับชายลึกลับคนนั้น แต่จู่ๆทีเจที่เห็นรถยนต์คันหูคันนั้นก็รีบดึงเจมส์ไว้ไม่ให้ไป
หาพวกนั้น เช่นเดียวกับชายลึกลับที่สวมโค้ทมีฮู้ตปิด เขาชะงักแล้วหันไปมองฟาง ชื่อฟางงั้นหรอ
 
 
 
 
 
 
“อย่าทำอะไรนายน้อยนะ”ทอมรีบเดินเข้ามาขวางเจมส์ก่อนที่จะชักปืนขึ้นมาขู่
 
 
 
 
 
 
 
“หึ พวกLow classดีแต่ใช้กำลังไม่จำเป็นที่ชั้นจะต้องมายุ่งกับพวกแกไอ้พวกชั้นต่ำโสโครก ไปกัน
เถอะทอม เดี๋ยวเราะกลับDsไม่ทันแล้วป๋าจะบ่นเอาอีก”ชายคนนั้นพูดสั่งลูกน้องแล้วเดินไปขึ้น
รถยนต์สีดำที่มีตราของวิทยาลัยDs
 
 
 
 
 
 
 
 
”ครับนายน้อยป๊อปปี้”ทอมโงคำนับก่อนที่ทอมจะหยิบจดหมายสีแดงฉบับหนึ่งที่ปิดผนึกด้วยตรา
วิทยาลัยDsโยนให้สายลมที่พัดมาในตอนนั้นพัดจดหมายประหลาดฉบับนั้นปลิวไปตามลม
 
 
 
 
 
 
 
 
“ป๊อปปี้งั้นหรอ”เมื่อรถของป๊อปปี้ขับออกไป ฟางที่ยืนอึ้งกับทุกอย่างนิ่งเงียบคิดถึงชื่อที่พวกโทโมะ
พูดกันตอนเช้าถึงผู้ชายที่นัดเพื่อนเธอก็ชื่อป๊อปปี้เหมือนกัน!
 
 
 
 
 
 
 
gตอนนี้เบาะเเสเริ่มทยอยมาแล้ว แล้วฟางจะเข้าไปที่วิทยาลัยDsวิธีไหนต้องติดตามนะ
 
 
ขอโทษทีที่ไม่ได้อัพนานมาก ไรเตอร์แทบไม่ว่างเลย ทำให้ไม่ได้อัพลงบ่อยแบบเดิมแล้ว
 
 
 
ยังไงอย่าพึ่งหายไปนะๆ